ฉินอันอันใช้นิ้วถูขมับ เธอคิดว่าหลังจากหย่าแล้วเธอจะไม่สนใจเรื่องของเขาอีก ‘แต่ทำไมกลับรู้สึกไม่สบายใจล่ะ?’ ‘เขาใส่ใจอิ๋นอิ๋นมาก ทำไมเขาถึงอยู่กับเธอตลอดไปไม่ได้?’ จู่ ๆ เธอก็เข้าใจทันที เธอไม่สนใจว่าเขาจะอยู่กับผู้หญิงคนไหน แต่เธอรับไม่ได้ที่เขาเป็นคนเลวทราม เป็นเรื่องน่าอึดอัดมากที่จะยอมรับว่าผู้ชายที่เธอหลงรักนั้นเป็นคนเลว เพราะเธอปฏิเสธหัวใจตัวเอง “อันอัน เธอโอเคไหม?” หลีเสี่ยวเถียนถามอย่างกังวล “ถ้ารู้แบบนี้ฉันคงไม่บอกเธอหรอก...แต่ถ้าฉันไม่บอก เธอก็รู้อยู่ดี” “ฉันไม่เป็นไร” ฉินอันอันหยิบแก้วน้ำขึ้นมาแล้วจิบน้ำ “เขาเลือกเอง ถ้าเขามีความสุขก็ดีแล้ว” “เฮ่อจุ่นจือบอกว่านี่เป็นคำขอของเสิ่นอวี๋ เธอช่วยรักษาอิ๋นอิ๋น และผลลัพธ์ก็ค่อนข้างดี ฟู่สือถิงต้องการจ่ายเงินให้เธอ แต่เธอกลับไม่อยากได้เงิน” “ไม่ต้องพูดแล้ว” ฉินอันอันรู้สึกคลื่นไส้ “ถ้าเขาไม่ต้องการก็ไม่มีใครบังคับเขาได้” “ฉันได้ยินมาว่าอิ๋นอิ๋นต้องเข้ารับการรักษาอีก...ฟู่สือถิงต้องการให้เสิ่นอวี๋รักษาอิ๋นอิ๋นต่อ ดังนั้นเขาจึงตกลงทำตามคำขอของเสิ่นอวี๋” เดิมทีเสี่ยวเถียนแค่บอกคร่าว ๆ แต่สุดท้าย เธอก็รู้สึกว่าตัวเอ
“ถึงเวลามื้อเย็นพร้อมแล้ว ไปล้างมือแล้วมากินข้าวกันเถอะ! “จางหยุนเดินออกจากครัวแล้วพูดกับพวกเขา ฉินอันนันพาเด็กสองคนไปล้างมือทันที เวลาสามทุ่ม ห้องเด็ก เสี่ยวหานลืมตาขึ้น เขานึกถึงสิ่งที่แม่พูดในตอนเย็น “รุ่ยลา” “พี่ นอนไม่หลับเหมือนกันเหรอ? หนูกลัว! ฟู่สือถิงหล่อมาก แต่เขาเป็นคนเลว ฮือ ฮือ ฮือ...ทำไมเขาถึงอยากบีบคอเราทั้งคู่ให้ตายล่ะคะ?” รุ่ยลาเหยียดแขนไปกอดพี่ชายเพื่อความปลอดภัย เสี่ยวหานคาดเดาว่ “บางทีเขาอาจจะเป็นพ่อของเราก็ได้” “เอ๋?!” รุ่ยล่าอุทานด้วยความประหลาดใจ “รุ่ยลา เราต้องค้นหาความจริง” เสี่ยวหานมีแผนในใจ “พี่ เราจะทำยังไงกันดี!” รุ่ยลามองเสี่ยวหานด้วยดวงตาเบิกกว้าง “นอนเถอะ” ...... วันต่อมา เอสทีกรุ๊ป เครือข่ายล่ม! เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยเครือข่ายเริ่มตรวจสอบสาเหตุอย่างใกล้ชิด! หลังจากที่ฟู่สือถิงรู้เรื่องนี้ เขาก็รีบไปที่บริษัททันที เครือข่ายกลุ่มใหญ่ขนาดนี้ล่มได้ยังไง? นี่เป็นครั้งแรกที่เกิดความผิดพลาดด้านความปลอดภัยครั้งใหญ่เช่นนี้นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา! เมื่อฟู่สือถิงมาถึงบริษัท อันดับแรกเขาไปตรวจสอบที่ฝ่ายเทคน
โรงเรียนนานาชาติแองเจลา ฟู่สือถิงมาที่แผนกธุรการและหาข้อมูลของเสี่ยวหาน ชื่อ ฉินเสี่ยวหาน! แม่ ฉินอันอัน! อายุ สี่ปีสามเดือน! ดวงตาของฟู่สือถิงเพ่งเล็งไปที่คำว่า ฉินอันอัน เขาตกใจอย่างหนัก! ไอ้สารเลวที่เหยียบย่ำเขากลายเป็นลูกชายของฉินอันอัน! ยิ่งกว่านั้นเด็กคนนี้อายุสี่ขวบแล้ว! พวกเขาทั้งสองแยกทางกันมานานกว่าสี่ปีแล้ว! ถ้าเด็กคนนี้เป็นลูกทางสายเลือดของเธอ แสดงว่าเธอท้องตั้งแต่ตอนที่เธอจากไป! ฟู่สือถิงเก็บข้อมูลของฉินจือหานไว้ด้วยร่างสั่นเทา ผู้อำนวยการฝ่ายธุรการไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจึงถามอย่างระมัดระวัง “คุณฟู่ เด็กคนเป็นอะไร? มีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ?” ลูกกระเดือกของฟู่สือถิงกลิ้งขึ้นลง เสียงของเขาแหบห้าว “พาผมไปหาเด็กคนนี้หน่อย!” ผู้อำนวยการพูดช้า ๆ “วันนี้เด็กคนนี้ไม่ได้มาโรงเรียนค่ะ คุณมีธุระอะไรกับเขาเหรอคะ? ฉันโทรหาแม่ของเขาได้ค่ะ” ฟู่สือถิง “ไม่จำเป็น!” เขาเดินออกจากแผนกธุรการพร้อมข้อมูลของฉินจือหาน เขาจะไปหาฉินอันอันด้วยตัวเอง! ถามให้แน่ชัดว่าจริง ๆ แล้วเรื่องเด็กคนนี้มันเป็นยังไงกันแน่! ขณะเดียวกัน สวนด้านนอกคฤหาสน์ตระกูลฟู่ ร่างของถังเชี่ยน
ตอนนี้เธอต้องหาวิธีรักษาอิ๋นอิ๋น มีเพียงวิธีนี้เท่านั้น ถึงสามารถจะอยู่เคียงข้างฟู่สือถิงไปได้นาน ๆ ถังเชี่ยนดวงตาแดงก่ำด้วยความโกรธ โดยเฉพาะตอนที่เธอพูดคำว่า ‘แฟนหนุ่ม’ แต่ก็ทำอะไรเธอไม่ได้อยู่ดี! ถังเชี่ยนเดินย่ำรองเท้าส้นสูง ก้าวเท้ายาว ๆ เดินจากไป เสิ่นอวี๋มองดูด้านหลังของเธอแล้วหัวเราะเยาะ “แม่ทัพยอมแพ้ไปเสียแล้ว! อ่อนแอจริงเชียว!” …… ฉินกรุ๊ป ฉินอันอันกำลังยุ่งอยู่กับการสรรหาบุคลากรในแผนกต่าง ๆ ถึงแม้ว่าพนักงานเก่าหลายคนจะกลับมา แต่เพราะธุรกิจแตกต่างไปจากเดิม จึงต้องรับพนักงานที่มีประสบการณ์เพิ่มบางส่วน ไมค์บอกว่าวันนี้จะบินมาช่วย หลังจากเขามาถึง เธออาจจะผ่อนคลายลงได้บ้างเล็กน้อย “ประธานฉิน พวกเราต้องเชิญดารามาเป็นพรีเซ็นเตอร์หรือเปล่า?” เวลาต่อมาผู้อำนวยการแผนกวางแผนปรึกษาฉินอันอันเกี่ยวกับการตลาดและการประชาสัมพันธ์ ฉินอันอันส่ายหน้า “ไม่ต้องหรอกค่ะ” “ตอนนี้การเชิญอินฟลูเอ็นเซอร์เป็นที่นิยมอย่างมาก หรือไม่ก็ร่วมกันโปรโมทกับคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง…” ฉินอันอัน “ไม่จำเป็น ตัวผลิตภัณฑ์ของพวกเราจะพูดเอง”ผู้อำนวยการมึนงงเล็กน้อย “แล้ว
เสียงดังสนั่นทำให้ทั้งสองคนในห้องทำงานหันไปมองที่ประตูทันที ครั้นเห็นฟู่สือถิงสีหน้าทั้งมืดมนทั้งบูดบึ้ง ราวกับมีใครไปหาเรื่องเขา “ไฮ! อดีตสามี!” ไมค์กระโดดลงจากโต๊ะ ก้าวเท้าไปอยู่ตรงหน้าฟู่สือถิง ทักทายเขาอย่างมีความสุข ขมับของฉินอันอันกระตุกทันที เขาไม่รู้ว่าฟู่สือถิงเป็นคนที่น่ากลัวขนาดไหน! เธอต้องหยุดไม่ให้เขารนหาที่ตาย เธอรีบเดินไปอยู่ข้าง ๆ ไมค์ แล้วดึงด้านหลังเขากลับมา การกระทำนี้ทำให้ฟู่สือถิงหึงหวงจนหน้ามืด !‘พวกเขาสองคนมีความสัมพันธ์ต่อกันยังไง? ‘‘ไม่คิดเลยว่าเธอจะปกป้องผู้ชายป่าเถื่อนที่เป็นอันธพาลขนาดนี้! ‘“คุณมาทำอะไรที่นี่?” ฉินอันอันยืนอยู่ตรงหน้าฟู่สือถิง เงยหน้ามองเขา “ระหว่างพวกเรายังมีความจำเป็นต้องเจอกันอีกเหรอ?” ฟู่สือถิงกำนิ้วของเขาไว้แน่น จนกระดาษในมือแทบแหลก เขาเดินเข้าไปใกล้ฉินอันอันอีกก้าว ตัวของคนทั้งคู่เกือบจะแนบชิดกัน! ฉินอันอันถูกพลังงานความโกรธที่รุนแรงของเขาโถมส่ สถานการณ์อันตรายชนิดที่พร้อมระเบิดออกได้ทุกเมื่อ เธอรีบดึงตัวไมค์แล้วส่งเขาออกไปนอกประตูทันที “นายไปรอฉันข้างนอกก่อนนะ!” หลังจากผลักไมค์ออกไปแล้ว เธอก็ปิดประตูห้องท
หลังจากที่เขาไปแล้ว ไมค์กลับมาที่ห้องทำงานทันที “สามีเก่าของเธอมาหาเธอทำไม? เขาดูโหดร้ายดุดันมากเลย ไม่ได้รังแกเธอใช่ไหม?” ไมค์เดินมาหาฉินอันอัน ประคองเธอนั่งลงบนเก้าอี้ จากนั้นก็ยื่นแก้วน้ำให้เธอ ตอนแรกเธอค่อนข้างโมโห แต่เมื่อเห็นท่าทางที่เอาใจใส่ของไมค์ ฉินอันอันก็พูดอย่างประหม่าว่า “เขาเข้าใจผิดคิดว่านายเป็นแฟนใหม่ของฉัน ฉันไม่ได้ปฏิเสธไป จะมีผลกระทบต่อนายหรือเปล่า?” ดวงตาสีเขียวอมฟ้าอ่อน ๆ ของไมค์กระพริบปริบ “แฟนอะไรกันล่ะ? ถ้าเธอยอมให้ฉันเป็นสามีของเธอ พวกเราแต่งงานกันตอนนี้เลยก็ยังได้” ฉินอันอัน “ฉันไม่คิดจะแต่งงานอีกแล้ว ฝากสถานะคู่สมรสไว้กับรักแท้ในอนาคตของนายเถอะ” ใบหน้าไมค์เศร้าโศก “ฉันเองก็ไม่คิดที่จะแต่งงานแล้ว แฟนเก่าของฉันทำให้เจ็บลึกเกินไป ไม่มีรักแท้บนโลกใบนี้หรอก” ไม่กี่ปีก่อนมีเนื้องอกที่อันตรายอย่างมากเติบโตขึ้นในสมองของไมค์ ท้ายที่สุดฉินอันอันทำการผ่าตัดออกให้เขา การผ่าตัดประสบความสำเร็จ ทว่าแฟนหนุ่มที่คบกันมาห้าปีก็ทิ้งเขาไป ในช่วงระยะเวลาก่อนเข้ารับการผ่าตัดหลังจากการผ่าตัดผ่านพ้นไป ไมค์และฉินอันอันได้เปิดบริษัทเทคโนโลยีเอเอ็นร่วมกัน“อย่าไปคิดเ
“คุณลุง! อย่าขยับนะคะ!” รุ่ยลาส่งเสียงกรีดร้อง เดิมทีฟู่เย่เฉินคิดว่าจะกระโดดลุกขึ้นตะโกนถามว่าเธอทำบ้าอะไร! ผลคือเสียงกรีดร้องของรุ่ยลาทำให้เขาหวาดกลัว “คุณลุง! ผมขาวบนหัวคุณเยอะมากเลย! หนูช่วยเอาออกให้นะคะ! ไม่อย่างนั้นคนอื่นจะคิดว่าคุณเป็นคุณปู่นะคะ!” ขณะที่รุ่ยลาพูดก็รีบใส่เส้นผมที่ถอนออกมาลงในกระเป๋า จากนั้นก็ยัดลงไปในกระเป๋านักเรียนของเธอ หลังจากทำทั้งหมดนี้แล้ว เธอก็ตบไหล่ของฟู่เย่เฉิน “คุณลุงหนูดึงออกให้แล้วนะคะ” ฟู่เย่เฉินอดกลั้นความแจ็บปวดแล้วลุกขึ้น “ให้ฉันดูหน่อยสิ! ฉันจำได้ว่าฉันไม่มีผมหงอก!” รุ่ยลาชี้ไปในอากาศด้วยใบหน้าไร้เดียงสา “หนูโยนทิ้งไปแล้วค่ะ! ผมขาวมีอะไรน่าดูล่ะคะ มันก็แค่เส้นผมสีขาวเท่านั้นเองนี่นา!” ฟู่เย่เฉิน “…” รุ่ยลา “คุณลุงคะ ผมของคุณมันแผล็บเลย! หนูต้องกลับไปล้างมือแล้ว ไม่อย่างนั้นมือหนูจะเหม็น” เด็กน้อยพูดด้วยสีหน้ารังเกียจ สะพายกระเป่านักเรียนแล้วเดินจากไปเลย! ฟู่เย่เฉินมองดูด้านหลังที่เดินจากไปของเธอ ภายในใจ “???” เขายกมือขึ้นลูบผม มันแห้งและนุ่มมาก! ทำไมถึงพูดว่าผมของเขามัน? นอกจากนี้เขาจำได้ว่าตัวเองไม่มีผมหงอก! ‘ทำไมเด็
ป้าจางรู้สึกลำบากใจมาก “อิ๋นอิ๋น หมอบอกว่าคุณควรนอนบนเตียงอย่างน้อยครึ่งเดือน แต่ตอนนี้คุณยังอยู่ได้ไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์เลยนะคะ ถ้าดิฉันพาคุณออกไป คุณผู้ชายจะว่าเอาได้” ฟู่สืออิ๋นเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยแล้วถามว่า “คุณผู้ชายคือใครเหรอคะ?” ป้าจางตอบ “ฟู่สือถิง” แล้วชะงักไปชั่วขณะ ก่อนถามว่า “คุณเรียกเขาว่าอะไร?” ฟู่สืออิ๋นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ชี้ไปทางนอกหน้าต่าง “ออกไปเดินเล่นกันค่ะ” ป้าจาง “…” ป้าจางไม่กล้าทำอะไรโดยไม่ขออนุญาต ดังนั้นจึงโทรหาเสิ่นอวี๋ จากนั้นไม่นาน เสิ่นอวี๋รีบมาทันที “อิ๋นอิ๋น หนูอยากออกไปเที่ยวข้างนอกงั้นเหรอ?” เสิ่นอวี๋ยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน “ฉันพาหนูออกไปได้ แต่ว่าหนูต้องนั่งรถเข็นนะ ไม่อย่างนั้นฉันกลัวว่าตอนที่เดินหนูจะเวียนหัว” ฟู่สืออิ๋นเพียงแค่อยากออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์เท่านั้น การนั่งรถเข็นจึงไม่ใช่ปัญหา หลังจากที่เธอพยักหน้า ป้าจางก็เข็นรถเข็นที่ฟู่สือถิงเคยใช้มาก่อนออกมา “ป้าจาง ฉันเข็นเธอออกไปเองค่ะ!” หลังจากที่เสิ่นอวี๋พูดกับป้าจาง เธอก็เข็นอิ๋นอิ๋นออกไปที่ลานหน้าบ้าน หากเสิ่นอวี๋ต้องการอยู่ในตำแหน่งคนข้างกายของฟู่สือถิงอย่างมั่นคง ก่