“เรามีนัดกัน แล้วฉันจะชวนเขามาทำไมล่ะ” หลีเสี่ยวเถียนเทไวน์ในแก้วแล้วยื่นให้เธอ “เมื่อคืนเธอไปทำอะไรมา? หมีแพนด้าใต้ตาของเธอแทบจะกลายเป็นสมบัติของชาติแล้ว” ฉินอันอันยกแก้วไวน์ขึ้นแล้วจิบ “เมื่อคืนฉันดูละครจนดึก!” “ฉันเชื่อก็บ้าแล้ว บนหน้าเธอเต็มไปด้วยสี่คำ ฝืนทำหน้ายิ้ม” หลีเสี่ยวเถียนถาม “เธอยังไม่ลืมฟู่สือถิงใช่ไหม?” ฉินอันอันแทบจะพ่นเครื่องดื่มออกมา “หลีเสี่ยวเถียน ฉันดูติ๊งต๊องขนาดนั้นเลยเหรอ?” หลีเสี่ยวเถียนพยักหน้าอย่างแรง “ถึงเธอจะรวย แต่เธอก็เหมือนยัยบ๊องจริง ๆ” อีกมุมหนึ่งของร้านอาหาร เซิ่งเป่ยหยิบขวดไวน์และรินไวน์ให้ฟู่สือถิง ร้านอาหารแห่งนี้เป็นร้านอาหารหรูที่ใกล้โรงพยาบาลที่สุด “สือถิง ฉันจะไม่ถามเรื่องอิ๋นอิ๋น ที่ฉันนัดมาเพราะฉันอยากดื่มกับนาย” เซิ่งเป่ยกล่าว “จริงสิ หมอเสิ่นที่นายหามาเก่งขนาดนั้นจริง ๆ เลยเหรอ?” ฟู่สือถิงหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาจิบ “เธอผ่าตัดให้อิ๋นอิ๋น ตอนนี้อิ๋นอิ๋นยังไม่ฟื้น” “โอ้...ถ้ามันได้ผล นายคิดว่าจะจ่ายเธอเท่าไหร่?” เซิ่งเป่ยเลิกคิ้วหนา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอยากรู้ “แล้วแต่ว่าเธอต้องการเท่าไหร่” “แล้วถ้าเธอไม่อยากได้เงิน แต
แก้วของเธอยังมีไวน์ ในจานยังมีอาหารเหลืออยู่อีกเยอะ ถ้าเขาไม่มา แน่นอนว่าเธอจะไม่อ้างเหตุผลที่จะไป “พวกคุณกินกันตามสบายเลย! ผมจะไปเอง” หลังจากพูดจบเขาก็ก้าวขายาวเหยียดแล้วเดินจากไป เซิ่งเป่ยถือแก้วไวน์แล้วเดินตามไปทันที “สือถิง! รอฉันด้วย!” หลีเสี่ยวเถียนยกนิ้วให้ฉินอันอัน “อันอัน เธอสุดยอดเลย” ฉินอันอันหน้าไร้เดียงสา “เขาอยากไปเองนะ” “ฮ่าฮ่าฮ่า! ฉันว่าเขายังมีความรู้สึกต่อเธออยู่” หลีเสี่ยวเถียนหยิบแก้วไวน์ขึ้นมา “สายตาที่เขามองแสดงให้เห็นว่าเขายังรักเธออยู่” ฉินอันอัน “หลีเสี่ยวเถียน เธอดูละครให้น้อยลงหน่อย เสี่ยงทำให้เพ้อเจ้อได้ง่ายนะ” “เธอบอกว่าเมื่อคืนนอนดึกก็เพราะดูละครไม่ใช่เหรอ?” “ฉันไม่ได้บอกสักหน่อยว่าดูละคร” ฉินอันอันจิบไวน์แล้วพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ใช้ชีวิตของตัวเองให้ดี ผู้ชายและความรักจะไม่มีวันสำคัญเท่ากับตัวฉันเองหรอก” หลีเสี่ยวเถียนเห็นด้วยอย่างยิ่ง “อันอัน เธอพูดถูก! เธอเห็นไหม ฟู่สือถิงก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเธอเป็นอันดับแรก” “อย่าไปพูดถึงเขาเลย กินข้าวกันเถอะ” ฉินอันอันพึมพำ “ฉันขับรถมาเอง เดี๋ยวฉันค่อยเรียกบริการขับกลับทีหลังก็ได้” “ข้างน
“ฉันไม่รู้จักเธอ” ฟู่สืออิ๋นต่อต้าน “ฉันไม่เคยเห็นเธอ...ไม่รู้จักเธอ...” “อ๋อ เธอเป็นลมและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เธอจึงไม่เห็นเธอไง” ฟู่สือถิงอธิบายให้เธอฟัง เป็นลม? ฟู่สืออิ๋น “ไม่! ไม่ใช่!” ความทรงจำสุดท้ายของเธอคือใบหน้าของฉินอันอัน เธอมีไข้และนอนอยู่บนเตียง ฉินอันอันคุยกับเธออยู่ตลอด แต่จำไม่ได้ว่าคุยอะไรกันบ้าง แต่เธอคับคล้ายคับคลาว่าแววตาที่อ่อนโยนและเสียงที่อ่อนนุ่มของฉินอันอันทำให้เธอสบายใจขึ้นมาก เมื่อเธอตื่นเต้น อาการบาดเจ็บที่ศีรษะของเธอรู้สึกเหมือนถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ ความเจ็บปวดนั้นทำให้เธอหลั่งน้ำตา “อิ๋นอิ๋น เจ็บเหรอ? หลับตาแล้วไม่ต้องคิดอะไร พอตื่นมาจะได้ไม่เจ็บแบบนี้” ฟู่สือถิงเช็ดน้ำตาบนใบหน้าด้วยกระดาษทิชชู่แล้วตบเบา ๆ เธอ จากนั้นก็โอบเธอเข้ามาในอ้อมแขนแล้วกล่อมเธอให้หลับ เธอได้รับการผ่าตัดสมองและจำเป็นต้องพักผ่อนเยอะ ๆ หลังจากที่เธอหลับไปแล้ว ฟ่สือถิงก็ออกมาจากห้องผู้ป่วย เสิ่นอวี๋ก้าวไปข้างหน้าทันทีและถามว่า “เธอเป็นยังไงบ้างคะ?” มุมปากของฟู่สือถิงยกขึ้น เขาพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “เธอพูดเยอะขึ้นกว่าเดิม แววตาของเธอจดจ่อมากขึ้นกว่าเดิม...การผ
เซิ่งเป่ยคว้าแขนของเขาแล้วเดินไปที่ทางออก “สือถิง เห็น ๆ อยู่ว่านายยังคงสนใจฉินอันอัน ทำไมนายต้องทำเรื่องที่เราไม่เข้าใจกันด้วย? อิ๋นอิ๋นคนนี้ ไม่ว่าเธอจะสวยแค่ไหน นายแน่ใจเหรอว่าเธอเทียบกับฉินอันอันได้” เซิ่งเป่ยต้องการเรียกสติของฟู่สือถิง! “ไม่มีใครสำคัญไปกว่าอิ๋นอิ๋น!” ฟู่สือถิงตะโกนเสียงแหลม “ฉินอันอันหย่ากับนายเพราะเรื่องนี้ใช่ไหม?” เซิ่งเป่ยถามเขา “ใช่!” “ถ้าเป็นออย่างนั้น แล้วฉินอันอันผิดอะไร? นายมีอะไรให้ต้องเสียใจ? นายเองนั่นแหละที่ทำให้เธอผิดหวัง!” เซิ่งเป่ยไม่เคยพูดกับเขารุนแรงขนาดนี้ “ในฐานะเพื่อน ฉันจะไม่โกรธนายเพียงเพราะปัญหาเรื่องความรู้สึกของนาย ฉันแค่ไม่อยาก...” “นายจะทิ้งฉันเหมือนที่ฉินอันอันทิ้งก็ได้!” ฟู่สือถิงพูดแทรกเขา “เรื่องส่วนตัวของฉันไม่จำเป็นต้องให้คนนอกมายุ่ง!” ‘เขาใช้คำว่า คนนอก’ ‘ตามใจ!’ ‘ถ้าเขายังดึงดัน ก็ปล่อยให้เขาเสียใจทีหลังไปก็แล้วกัน!’ ‘ตอนนี้ฉินอันอันยังโสด ไม่ได้หมายความว่าเธอจะโสดตลอดไป’ ‘ถ้าฉินอันอันแต่งงานกับผู้ชายคนอื่น หวังว่าเขาจะรู้สึกเป็นอิสระจากความรู้สึกผิดแบบนี้เสียที!’ ...... เมื่อฉินอันอันกลับถึงบ้านก็เป็นเว
อย่างไรก็ตาม เธอกำลังอุ้มเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งไว้ในอ้อมแขนและมืออีกข้างยังจูงมือเด็กอีกคนด้วย! เขาเริ่มสับสนในตัวเอง จากกล้องวงจรปิดเห็นหน้าของฉินอันอันไม่ชัด เขาสงสัยว่าผู้หญิงคนนี้แค่หน้าคล้ายฉินอันอัน ไม่ใช่ฉินอันอันจริง ๆ! ‘ทำไมเธอถึงมีเด็กสองคนข้าง ๆ?’ ‘ฉินอันอันไม่มีลูกนี่!’ เขาดูวิดีโอวงจรปิดหลายรอบ ยิ่งดูก็ยิ่งสงสัย! ยิ่งดูก็ยิ่งงง! เขาคัดลอกวิดีโอสั้น ๆ นี้แล้วปิดโน้ตบุ๊ก ตอนนี้มันดึกเกินไปแล้วที่เขาที่จะพิสูจน์ว่าผู้หญิงและเด็กคนนั้นที่อยู่ในวิดีโอเป็นใคร ไว้ตอนเช้า เขาจะไปถามฉินอันอันให้รู้เรื่อง! เวลาหกโมงเช้าอิ๋นอิ๋นตื่น หลังจากที่เธอตื่น เธอก็ลุกจากเตียงผู้ป่วย เธอเดินไปข้างเตียงญาติแล้วเอื้อมมือไปคว้าฝ่ามือใหญ่ของฟู่สือถิง “พี่...พี่...” จู่ ๆ ฟู่สือถิงก็ลืมตาขึ้นด้วยดวงตาสีแดง “พี่เราไปกันเถอะ” อิ๋นอิ๋นไม่อยากอยู่ในโรงพยาบาล เธอต้องการออกจากที่นี่ ฟู่สือถิงลุกขึ้นทันที เขาหลับไปประมาณหนึ่งชั่วโมง เวียนหัวมาก แต่ถ้าอิ๋นอิ๋นออกจากโรงพยาบาล เขาต้องพาเธอออกไปก่อน ไม่อย่างนั้นเธอจะตื่นตระหนก เมื่อพิจารณาถึงสติปัญญาที่เพิ่มขึ
ฉินอันอันแทบจะหยุดหายใจ เหมือนมีคนบีบคอเธอไว้! ลูกทั้งสองคนไปหาเธอที่โรงพยาบาลโดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว ยิ่งกว่านั้น เธอไม่คิดด้วยซ้ำว่าโรงพยาบาลตี้ซานที่รับปากกับเธอแล้วว่าจะไม่ให้ใครดูกล้อมวงจรปิด ทำไมถึงได้ยอมให้เขาดู?! ฟู่สือถิงเป็นคนที่ช่างสงสัยมาโดยตลอด เธอจึงเดาว่าเขาอาจจะสืบว่าใครพาอิ๋นอิ๋นไปโรงพยาบาล แต่เขาคงไม่คิดว่าเธอคงจะพาอิ๋นอิ๋นไปโรงพยาบาลเมื่อวันก่อน ไม่ใช่เมื่อวาน แม้ว่าเขาจะดูกล้องวงจรปิดแล้วเมื่อวานนี้ แต่เขาก็ยังมองไม่เห็นว่าเธอเป็นคนพาอิ๋นอิ๋นมาโรงพยาบาล “ฟู่สือถิง เราหย่ากันแล้ว ไม่ว่าเมื่อวานฉันจะไปโรงพยาบาลตี้ซานหรือไม่ ไม่ว่าฉันจะอุ้มลูกกี่คนจูงมือกี่คน มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ!” ฉินอันอันสงบลงและพูดอย่างแข็งขันว่า “นั่นไม่ใช่ลูกของคุณหรอก! ฉันไม่มีทางคลอดลูกของคุณ! ตอนนั้นคุณเป็นคนฆ่าลูกของเราเอง!” ฉินอันอันพูดโมโหและวางสายโทรศัพท์ เธอไม่ต้องการได้ยินปฏิกิริยาใด ๆ จากเขา ‘ขอให้เขากับอิ๋นอิ๋นมีชีวิตคู่และมีความสุขชั่วนิรันดร์!’ ‘หยุดทำร้ายคนอื่นสักที!’ ริมฝีปากของฟู่สือถิงขยับ ยังมีบางคำที่เขาไม่มีโอกาสได้พูด เพราะเธอวางสายไปซะก่อน เ
และเขาไม่อยากให้เสิ่นอวี๋ร้องขอเรื่องอื่นอีก ดังนั้นการให้เงินจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด เสิ่นอวี๋ตกใจ “คุณฟู่ อย่าทำแบบนี้เลยค่ะ ฉันเกรงว่าอาการป่วยของอิ๋นอิ๋นจะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยการผ่าตัดเพียงครั้งเดียว คุณอาจจะคิดว่าพัฒนาการทางสมองของเธอจะดีขึ้น แต่ก็ดีขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น รอดูหลังจากอาการผ่าตัดหายดีแล้ว หากยังต้องการรักษาเธออาจมีการผ่าตัดครั้งที่สองหรือครั้งที่สาม…” คำพูดของเสิ่นอวี๋ทำให้ฟู่สือถิงตกอยู่ในความเงียบ เสิ่นอวี๋มาที่นี่ในช่วงพักร้อน ต่อไปเธออาจจะไม่มีเวลา “หมอเสิ่น หลังจากนี้คุณวางแผนอาชีพของคุณไว้ยังไงครับ?” ฟู่สือถิงถาม แน่นอนว่าเขาต้องการรักษาสืออิ๋นต่อไป ถ้าพัฒนาการสมองสามารถถึงระดับการดูแลตนเองได้ นั่นคงจะดีที่สุด! เสิ่นอวี๋เข้าใจความหมายของคำพูดของเขา “คุณฟู่ จริง ๆ แล้วตอนนี้ฉันอยู่ในช่วงที่อึดอัดใจและสับสนมาก ฉันอายุสามสิบสี่ปีแล้ว แต่ฉันยังไม่มีแฟน และครอบครัวของฉันก็กังวลมาก ดังนั้นตอนนี้อาชีพของฉันจึงไม่ใช่เรื่องสำคัญสูงสุดในตอนนี้” ‘เธอเกือบจะพูดตรง ๆ แล้ว ถ้าคุณต้องการตอบแทนฉัน หรือให้ฉันรักษาอิ๋นอิ๋นต่อไป งั้นก็แต่งงานกั
ฉินอันอันใช้นิ้วถูขมับ เธอคิดว่าหลังจากหย่าแล้วเธอจะไม่สนใจเรื่องของเขาอีก ‘แต่ทำไมกลับรู้สึกไม่สบายใจล่ะ?’ ‘เขาใส่ใจอิ๋นอิ๋นมาก ทำไมเขาถึงอยู่กับเธอตลอดไปไม่ได้?’ จู่ ๆ เธอก็เข้าใจทันที เธอไม่สนใจว่าเขาจะอยู่กับผู้หญิงคนไหน แต่เธอรับไม่ได้ที่เขาเป็นคนเลวทราม เป็นเรื่องน่าอึดอัดมากที่จะยอมรับว่าผู้ชายที่เธอหลงรักนั้นเป็นคนเลว เพราะเธอปฏิเสธหัวใจตัวเอง “อันอัน เธอโอเคไหม?” หลีเสี่ยวเถียนถามอย่างกังวล “ถ้ารู้แบบนี้ฉันคงไม่บอกเธอหรอก...แต่ถ้าฉันไม่บอก เธอก็รู้อยู่ดี” “ฉันไม่เป็นไร” ฉินอันอันหยิบแก้วน้ำขึ้นมาแล้วจิบน้ำ “เขาเลือกเอง ถ้าเขามีความสุขก็ดีแล้ว” “เฮ่อจุ่นจือบอกว่านี่เป็นคำขอของเสิ่นอวี๋ เธอช่วยรักษาอิ๋นอิ๋น และผลลัพธ์ก็ค่อนข้างดี ฟู่สือถิงต้องการจ่ายเงินให้เธอ แต่เธอกลับไม่อยากได้เงิน” “ไม่ต้องพูดแล้ว” ฉินอันอันรู้สึกคลื่นไส้ “ถ้าเขาไม่ต้องการก็ไม่มีใครบังคับเขาได้” “ฉันได้ยินมาว่าอิ๋นอิ๋นต้องเข้ารับการรักษาอีก...ฟู่สือถิงต้องการให้เสิ่นอวี๋รักษาอิ๋นอิ๋นต่อ ดังนั้นเขาจึงตกลงทำตามคำขอของเสิ่นอวี๋” เดิมทีเสี่ยวเถียนแค่บอกคร่าว ๆ แต่สุดท้าย เธอก็รู้สึกว่าตัวเอ