นิโคไลหลับตาครุ่นคิดว่าจะไม่ปล่อยให้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนี้เป็นทางผ่าน หรือเพียงเพราะอุบัติเหตุทางอารมณ์ แต่อยากจะใช้เวลาศึกษาไอลดาเพื่อว่าเขาจะได้เลิกใช้ชีวิตแบดบอย พร้อมกับลงหลักปักฐานที่ใครสักคน และอยากให้เธอเป็นคนพิเศษ บอกไม่ถูกว่ารู้สึกเช่นไรแต่ไม่อยากเสียเธอไป อีกทั้งอยากจะจริงจังขึ้นมา ถามใจตัวเองว่าแท้ที่จริงแล้วที่วางแผนพาเธอมาที่นี่ เพราะว่าแอบชอบเธอตั้งแต่วินาทีแรกแล้วระหว่างที่นิโคไลกำลังใคร่ครวญเรื่องที่เกิดขึ้น ไอลดาก็ยังคงเงียบกริบ แสร้งหลับตาประหนึ่งว่าอ่อนเพลียไม่อยากจะคุยด้วย เขาจึงเงยหน้าขึ้นแล้วยื่นหน้าไปจูบตรงปลายคางเบา ๆ ทว่าเธอยังนอนนิ่ง จึงเปลี่ยนเป็นก้มจูบตรงเนินอก พลางลูบไล้ฝ่ามือไปตามเรือนร่างเปลือยเปล่า“อืม” ไอลดาครางงึมงำเหมือนถูกรบกวน เขาจึงใช้ไม้ตายด้วยการถูไถกายแกร่งกับร่องรักอันอ่อนนุ่มอีกครั้ง“อื้อ ยังเจ็บอยู่เลยค่ะ พักก่อนนะคะ” เธอตอบเสียงหวานแผ่วเบา ทว่ายังไม่ได้ลืมตา“เหนื่อยเหรอครับ หืม” เขาถามเสียงนุ่ม เธอจึงพยักหน้าเท่านั้น
“ผมต้องการคำนั้นจากปากคุณไม่ใช่เขียนใส่กระดาษ แต่ช่างเถอะ... ช่างเถอะ ลาก่อนไอซ์” เป็นการหักห้ามใจไม่ให้เจ็บปวดเป็นครั้งแรก และมันช่างยากเย็นเหลือเกินบัดนี้ชีวิตของเขาจะดำเนินไปอย่างปกติที่สุด ไอลดาจะไม่มีอิทธิพลอะไรต่อหัวใจของเขาเป็นอันขาด เซ็กส์คืนเดียวมันจบแล้วและมันเป็นสิ่งที่เขาปรารถนาคือ ไม่ผูกมัดไม่ผูกพัน นี่แหละชีวิตของนิโคไล แอนตัน และเขาต้องอยู่กับความเป็นอิสระไร้บ่วงตราบเท่าที่เขาต้องการช่วงเวลาของความสุข มันเกิดขึ้นเร็วและมันจบลงเร็วเหลือเกิน พร้อมกับสิ่งที่หวงแหนมาตลอดตั้งแต่เติบโตเป็นสาว ต้องสูญเสียไปอย่างง่ายดาย ให้กับผู้ชายแปลกหน้าที่รู้จักเพียงหนึ่งวันกับอีกสองคืน เพราะฤทธิ์แอลกอฮอลโดยแท้ที่ทำให้สติสัมปชัญญะทั้งหมดดับวูบ และนำพาไปสู่ความอยากลอง อยากรู้ จนทำให้หวั่นไหวไปกับสิ่งแปลกใหม่ ซึ่งในชีวิตวัยสาวไม่เคยได้พบ ไอลดาเรียกมันว่าอุบัติเหตุทางอารมณ์ และเรื่องนี้มันจะไม่เกิดขึ้นอีก เธอสัญญากับตัวเอง ว่าเซ็กส์สำหรับเธอจะยอมให้มันเกิดขึ้นกับนิโคไลเพียงคนเดียวด้วยความเต็มใจ
“แต่พี่กันยิ้มแปลกๆ” เกลียดจริงๆ เลยคนรู้ทัน เขาคิด“ฮ่าๆ ยิ้มก็ไม่ได้เลยเหรอ พี่ไม่ใช่คนหน้าเคร่งซะหน่อย” เขาแก้ตัวพร้อมกับเสียงหัวเราะชอบใจ ทว่าสายตาของเขานี่แหละที่ปิดไม่มิด แต่เธอจะไม่ถามอีกและปล่อยให้เขาขับรถพาไปจนถึงร้านอาหารแห่งหนึ่ง โดยที่โต๊ะถูกจองเอาไว้เรียบร้อยแล้ว กระทั่งเขาพาเธอเดินไปนั่งแต่กลับมีผู้ชายอีกคนรออยู่ ซึ่งไม่คุ้นหน้าเอาเสียเลยแถมยังเป็นฝรั่งอีกต่างหาก“สวัสดีครับ รอนานหรือเปล่า” กันตพงษ์ทักทายและถามชายแปลกหน้าอย่างสุภาพ เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มที่นั่งอยู่มาก่อนเวลาเสียอีก และเมื่อได้ยินเสียงกันตพงษ์ ชายหนุ่มคนนั้นก็หันมามองทันที“อ้าว สวัสดีครับคุณกัน อย่าห่วงผมเพิ่งมานั่งได้ห้านาที” ชายหนุ่มซึ่งเป็นแขกกล่าวพร้อมกับลุกขึ้นยืน แล้วยื่นมือไปจับทักทายกับกันตพงษ์“เชิญนั่งครับ แล้วสุภาพสตรีท่านนี้คือ” ชายหนุ่มถามกันตพงษ์อีกครั้งและยิ้มอย่างสุภาพ“อ๋อนี่ ไอลดาคู่หมั้นผมครับ ไอซ์จ้ะนี่คุณเจอร์รี่” กันตพงษ์แนะนำโดยที่ย
เวลาต่อมา ห้าโมงเย็นได้เวลาที่ไอลดาต้องกลับบ้าน โดยมีกันตพงษ์มารับ เรียกได้ว่าทำหน้าที่คู่หมั้นได้อย่างสมบูรณ์เลยทีเดียว ปิ๊น! ปิ๊น! ปิ๊น! คนขับรถบีบแตรเมื่อมาถึงหน้าประตูทางเข้า ประตูบานคู่จึงถูกเปิดออกอัตโนมัติขณะที่รถแล่นเข้าบ้านอยู่นั้น เด็กน้อยวัยสองขวบรูปร่างหน้าตาราวกับตุ๊กตาฝรั่งวิ่งออกมายืนอยู่ตรงบันได โดยมีหญิงวัยล่วงเลยกว่าหกสิบปีเดินตามออกมา พร้อมกับจับมือของเด็กน้อยเอาไว้ ท่าทางของเด็กน้อยดีอกดีใจแต่พูดออกมาไม่เป็นความ ได้แต่กระโดดโลดเต้นตามประสา ก่อนจะเอ่ยออกมาเพียงคำเดียว“มะ มะ” คำว่าแม่ถูกเปล่งออกมาจากปากเด็กน้อยแบบไม่ชัดเจนนัก แต่ก็รู้ได้ว่ากำลังเรียกผู้ที่กำลังมาเยือน เมื่อรถจอดสนิทประตูเปิดออก ไอลดาก็รีบลงจากรถทันที เด็กน้อยแสนน่ารักก็วิ่งเข้าไปกระโดดกอด“มะ มะ จ๋าๆๆ” ภาษาดอกไม้ของเด็กๆ ที่ไอลดาฟังแทบจะไม่รู้เรื่องแต่รู้ว่าเด็กน้อยเรียกแม่“คิดถึงจังเลย หนูดื้อไหมคะ หืม ทำให้คุณยายเหนื่อยหรือเปล่า” ไอลดาเอ่ยกับเด็กน้อยราวกับฟังรู้เรื่อง แต่เด็กน้อยก็ย
ทำไมเขาต้องเกิดมาเป็นผู้ให้ด้วยวะ เขาคิดแต่ยังคงมีความสุขดี แม้จะเป็นเพียงฉากหน้าที่ฉาบเอาไว้ให้คนภายนอกเห็น และมองว่าเขากับไอลดาเป็นคู่หมั้นที่เหมาะสมสำหรับการแต่งงานมากที่สุดก็ตาม แต่เบื้องหลังนี่สิที่ภายในครอบครัวเท่านั้นที่รู้สามปีมาแล้วที่กันตพงษ์กับไอลดาอยู่ในฐานะคู่หมั้น ภายใต้สัญญาที่ว่ากันด้วยเรื่องธุรกิจ เธอกลับมาเมืองไทยได้ถูกเวลาเป็นอย่างยิ่ง เมื่อทางครอบครัวประสบปัญหาเรื่องการบริหารโรงแรม จนขาดสภาพคล่องทางการเงิน จึงต้องขอความช่วยเหลือให้ฝ่ายของกันตพงษ์ซึ่งเป็นเครือญาติเข้ามาช่วยอีกแรง โดยการให้กันตพงษ์เข้ามาถือหุ้นในโรงแรมเกินกว่าครึ่งหนึ่ง พร้อมทั้งเม็ดเงินมหาศาลที่โอบอุ้มต่อลมหายใจของโรงแรมต่อไปแต่กันตพงษ์ไม่อยากขึ้นชื่อว่าฮุบโรงแรมที่สร้างจากครอบครัวไอลดามาเป็นของตัวเอง และไม่ได้ต้องการให้ใช้หนี้คืนแต่อย่างใด เขาจึงยื่นข้อเสนอเนียนๆ ให้ไอลดาแต่งงานด้วย หรือเรียกว่าเอาตัวมาแลกกับเงินก็ยังได้ และเพื่อเขาจะได้เข้ามาช่วยบริหารงานแบบไม่ต้องรู้สึกผิดนักครั้งแรกไอลดาไม่ยอมเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะรักและเคารพกัน
ช่วงเวลาเดียวกันนี้ ภายในห้องพักระดับวีไอพีสนนราคาอยู่ที่คืนละหนึ่งแสนบาทบนชั้นสูงสุดที่ชั้น 22 ถูกเปิดออกเพื่อต้อนรับบอสรูปหล่อของเจอร์รี่ ซึ่งเจอร์รี่ได้ขึ้นมาต้อนรับที่บนห้อง พร้อมกับให้กุญแจห้องเอาไว้กับเจ้านายเรียบร้อย กระเป๋าถูกนำมาเก็บในตู้เสื้อผ้า แต่เจ้าของห้องกลับเดินไปยังระเบียง ซึ่งมีกระจกใสบานสไลด์ขนาดใหญ่ เขาเปิดผ้าม่านออก แล้วแสร้งมองวิวเมืองกรุงเทพ ฯ อย่างไร้จุดหมาย“เจ้านายครับ ผมนัดคุณกันตพงษ์และเจ้าของโรงแรมมาดินเนอร์กับเราคืนนี้นะครับ” เจอร์รี่เอ่ยพลางสังเกตอาการของเจ้านายหนุ่มจากทางด้านหลัง“คุณกันตพงษ์กับเจ้าของโรงแรมอย่างนั้นเหรอ” นิโคไลถามกลับ ทว่าไม่ได้หันหน้ามาแต่อย่างใด“ครับผม อยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมครับ” เจอร์รี่ตอบและถามด้วยความเป็นห่วง“ไม่ แล้วเจ้าของโรงแรมเป็นใคร” นิโคไลถามด้วยความอยากรู้“จริงสิเจ้านายยังไม่ทราบ เดี๋ยวคงจะได้เจอเธอในตอนเย็นนี้ล่ะครับ เธอชื่อ... คุณไอลดาเป็น...”ก
“เปล่าครับ ผมแค่รู้สึกว่าเคยเจอคนหน้าคล้ายคุณไอลดามาก่อน แต่ก็แค่หน้าคล้ายน่ะครับ คงไม่ใช่คนเดียวกัน”“ผมก็ว่าอย่างนั้นแหละครับ หรือถ้าจะเคยเจอก็อาจจะเป็นที่อเมริกา ไอซ์เคยเรียนอยู่ที่นั่น”“ที่วอร์ชิงตัน” นิโคไลเสริมขึ้นพร้อมกับปรับสีหน้าให้เรียบตึง และสติเขากลับเข้าที่เรียบร้อย“เอ่อ ใช่... คุณทราบได้ยังไงครับ” กันตพงษ์ถามด้วยความสงสัย“ผมเดาน่ะ เพราะผมอยู่วอร์ชิงตัน เคยเจอคนหน้าคล้ายคุณไอลดาและเธอก็อยู่ที่นั่นมาก่อนเหมือนกัน ผมคิดว่าคนเอเชียหน้าคล้ายๆ กัน” นิโคไลบอกเสียงเรียบพลางมองหน้าไอลดาอย่างมีเลศนัย“ฉันว่า คุณคุ้นหน้าฉันตอนอยู่ในลิฟต์มากกว่ามั้งคะ” ไอลดาแทรกขึ้นเสียงเรียบ“ก็อาจเป็นได้ครับ ตอนอยู่ในลิฟต์ เอ่อขอโทษทีที่ไม่ได้ทักทายครับ ไม่คิดว่าจะเป็นคุณสองคนที่ผมต้องมาทำธุรกิจด้วย ผมนึกว่าเป็นแขกของโรงแรมด้วยซ้ำ” นิโคไลแสร้งเออออกับเธอ ทั้งที่ไม่ใช่อย่างนั้น&
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! ระหว่างที่นิโคไลกำลังขบคิดเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น เขาจึงเดินไปเปิดให้“อยากได้อะไรเพิ่มเติมไหมครับ” เจอร์รี่ถามทันทีที่เห็นหน้า ก่อนจะเดินเข้ามาในห้องและปิดประตูให้เรียบร้อย“หมายถึงอะไร ไม่อยากได้อะไรหรอก” นิโคไลตอบเสียงเครียด ทำให้เจอร์รี่อดเป็นห่วงไม่ได้“เป็นอะไรไปครับเจ้านาย” เจอร์รี่เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง ขณะที่นิโคไลเดินกลับไปที่ระเบียงห้องอีกครั้ง“เหนื่อย เจทแล็ค” นิโคไลตอบสั้นๆ น้ำเสียงทุ้มต่ำ“อ้าว! ไม่เห็นบอกว่าเจทแล็คนี่ครับ งั้นพักผ่อนเถอะครับ ส่วนเรื่องงานผมดูแลต่อก็ได้ครับ”“จัดการด้วยก็แล้วกัน ยังไงซะเราก็ได้คุณกันตพงษ์เป็นลูกค้าแล้วล่ะ” นิโคไลค่อนข้างมั่นใจในการทำงาน ที่สำคัญคือมีเวลาคุยกันเป็นเดือนๆ“เอ่อ ผมมีอีกเรื่องอยากจะถาม”“เจ้านายจะอยู่ที่นี่เป็นเดือนๆ เลยจริงเหรอครับ ผมยังไม่ได้บอกทางโน้นเอาไว้เลย คิดว่
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! ระหว่างที่นิโคไลกำลังขบคิดเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น เขาจึงเดินไปเปิดให้“อยากได้อะไรเพิ่มเติมไหมครับ” เจอร์รี่ถามทันทีที่เห็นหน้า ก่อนจะเดินเข้ามาในห้องและปิดประตูให้เรียบร้อย“หมายถึงอะไร ไม่อยากได้อะไรหรอก” นิโคไลตอบเสียงเครียด ทำให้เจอร์รี่อดเป็นห่วงไม่ได้“เป็นอะไรไปครับเจ้านาย” เจอร์รี่เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง ขณะที่นิโคไลเดินกลับไปที่ระเบียงห้องอีกครั้ง“เหนื่อย เจทแล็ค” นิโคไลตอบสั้นๆ น้ำเสียงทุ้มต่ำ“อ้าว! ไม่เห็นบอกว่าเจทแล็คนี่ครับ งั้นพักผ่อนเถอะครับ ส่วนเรื่องงานผมดูแลต่อก็ได้ครับ”“จัดการด้วยก็แล้วกัน ยังไงซะเราก็ได้คุณกันตพงษ์เป็นลูกค้าแล้วล่ะ” นิโคไลค่อนข้างมั่นใจในการทำงาน ที่สำคัญคือมีเวลาคุยกันเป็นเดือนๆ“เอ่อ ผมมีอีกเรื่องอยากจะถาม”“เจ้านายจะอยู่ที่นี่เป็นเดือนๆ เลยจริงเหรอครับ ผมยังไม่ได้บอกทางโน้นเอาไว้เลย คิดว่
“เปล่าครับ ผมแค่รู้สึกว่าเคยเจอคนหน้าคล้ายคุณไอลดามาก่อน แต่ก็แค่หน้าคล้ายน่ะครับ คงไม่ใช่คนเดียวกัน”“ผมก็ว่าอย่างนั้นแหละครับ หรือถ้าจะเคยเจอก็อาจจะเป็นที่อเมริกา ไอซ์เคยเรียนอยู่ที่นั่น”“ที่วอร์ชิงตัน” นิโคไลเสริมขึ้นพร้อมกับปรับสีหน้าให้เรียบตึง และสติเขากลับเข้าที่เรียบร้อย“เอ่อ ใช่... คุณทราบได้ยังไงครับ” กันตพงษ์ถามด้วยความสงสัย“ผมเดาน่ะ เพราะผมอยู่วอร์ชิงตัน เคยเจอคนหน้าคล้ายคุณไอลดาและเธอก็อยู่ที่นั่นมาก่อนเหมือนกัน ผมคิดว่าคนเอเชียหน้าคล้ายๆ กัน” นิโคไลบอกเสียงเรียบพลางมองหน้าไอลดาอย่างมีเลศนัย“ฉันว่า คุณคุ้นหน้าฉันตอนอยู่ในลิฟต์มากกว่ามั้งคะ” ไอลดาแทรกขึ้นเสียงเรียบ“ก็อาจเป็นได้ครับ ตอนอยู่ในลิฟต์ เอ่อขอโทษทีที่ไม่ได้ทักทายครับ ไม่คิดว่าจะเป็นคุณสองคนที่ผมต้องมาทำธุรกิจด้วย ผมนึกว่าเป็นแขกของโรงแรมด้วยซ้ำ” นิโคไลแสร้งเออออกับเธอ ทั้งที่ไม่ใช่อย่างนั้น&
ช่วงเวลาเดียวกันนี้ ภายในห้องพักระดับวีไอพีสนนราคาอยู่ที่คืนละหนึ่งแสนบาทบนชั้นสูงสุดที่ชั้น 22 ถูกเปิดออกเพื่อต้อนรับบอสรูปหล่อของเจอร์รี่ ซึ่งเจอร์รี่ได้ขึ้นมาต้อนรับที่บนห้อง พร้อมกับให้กุญแจห้องเอาไว้กับเจ้านายเรียบร้อย กระเป๋าถูกนำมาเก็บในตู้เสื้อผ้า แต่เจ้าของห้องกลับเดินไปยังระเบียง ซึ่งมีกระจกใสบานสไลด์ขนาดใหญ่ เขาเปิดผ้าม่านออก แล้วแสร้งมองวิวเมืองกรุงเทพ ฯ อย่างไร้จุดหมาย“เจ้านายครับ ผมนัดคุณกันตพงษ์และเจ้าของโรงแรมมาดินเนอร์กับเราคืนนี้นะครับ” เจอร์รี่เอ่ยพลางสังเกตอาการของเจ้านายหนุ่มจากทางด้านหลัง“คุณกันตพงษ์กับเจ้าของโรงแรมอย่างนั้นเหรอ” นิโคไลถามกลับ ทว่าไม่ได้หันหน้ามาแต่อย่างใด“ครับผม อยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมครับ” เจอร์รี่ตอบและถามด้วยความเป็นห่วง“ไม่ แล้วเจ้าของโรงแรมเป็นใคร” นิโคไลถามด้วยความอยากรู้“จริงสิเจ้านายยังไม่ทราบ เดี๋ยวคงจะได้เจอเธอในตอนเย็นนี้ล่ะครับ เธอชื่อ... คุณไอลดาเป็น...”ก
ทำไมเขาต้องเกิดมาเป็นผู้ให้ด้วยวะ เขาคิดแต่ยังคงมีความสุขดี แม้จะเป็นเพียงฉากหน้าที่ฉาบเอาไว้ให้คนภายนอกเห็น และมองว่าเขากับไอลดาเป็นคู่หมั้นที่เหมาะสมสำหรับการแต่งงานมากที่สุดก็ตาม แต่เบื้องหลังนี่สิที่ภายในครอบครัวเท่านั้นที่รู้สามปีมาแล้วที่กันตพงษ์กับไอลดาอยู่ในฐานะคู่หมั้น ภายใต้สัญญาที่ว่ากันด้วยเรื่องธุรกิจ เธอกลับมาเมืองไทยได้ถูกเวลาเป็นอย่างยิ่ง เมื่อทางครอบครัวประสบปัญหาเรื่องการบริหารโรงแรม จนขาดสภาพคล่องทางการเงิน จึงต้องขอความช่วยเหลือให้ฝ่ายของกันตพงษ์ซึ่งเป็นเครือญาติเข้ามาช่วยอีกแรง โดยการให้กันตพงษ์เข้ามาถือหุ้นในโรงแรมเกินกว่าครึ่งหนึ่ง พร้อมทั้งเม็ดเงินมหาศาลที่โอบอุ้มต่อลมหายใจของโรงแรมต่อไปแต่กันตพงษ์ไม่อยากขึ้นชื่อว่าฮุบโรงแรมที่สร้างจากครอบครัวไอลดามาเป็นของตัวเอง และไม่ได้ต้องการให้ใช้หนี้คืนแต่อย่างใด เขาจึงยื่นข้อเสนอเนียนๆ ให้ไอลดาแต่งงานด้วย หรือเรียกว่าเอาตัวมาแลกกับเงินก็ยังได้ และเพื่อเขาจะได้เข้ามาช่วยบริหารงานแบบไม่ต้องรู้สึกผิดนักครั้งแรกไอลดาไม่ยอมเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะรักและเคารพกัน
เวลาต่อมา ห้าโมงเย็นได้เวลาที่ไอลดาต้องกลับบ้าน โดยมีกันตพงษ์มารับ เรียกได้ว่าทำหน้าที่คู่หมั้นได้อย่างสมบูรณ์เลยทีเดียว ปิ๊น! ปิ๊น! ปิ๊น! คนขับรถบีบแตรเมื่อมาถึงหน้าประตูทางเข้า ประตูบานคู่จึงถูกเปิดออกอัตโนมัติขณะที่รถแล่นเข้าบ้านอยู่นั้น เด็กน้อยวัยสองขวบรูปร่างหน้าตาราวกับตุ๊กตาฝรั่งวิ่งออกมายืนอยู่ตรงบันได โดยมีหญิงวัยล่วงเลยกว่าหกสิบปีเดินตามออกมา พร้อมกับจับมือของเด็กน้อยเอาไว้ ท่าทางของเด็กน้อยดีอกดีใจแต่พูดออกมาไม่เป็นความ ได้แต่กระโดดโลดเต้นตามประสา ก่อนจะเอ่ยออกมาเพียงคำเดียว“มะ มะ” คำว่าแม่ถูกเปล่งออกมาจากปากเด็กน้อยแบบไม่ชัดเจนนัก แต่ก็รู้ได้ว่ากำลังเรียกผู้ที่กำลังมาเยือน เมื่อรถจอดสนิทประตูเปิดออก ไอลดาก็รีบลงจากรถทันที เด็กน้อยแสนน่ารักก็วิ่งเข้าไปกระโดดกอด“มะ มะ จ๋าๆๆ” ภาษาดอกไม้ของเด็กๆ ที่ไอลดาฟังแทบจะไม่รู้เรื่องแต่รู้ว่าเด็กน้อยเรียกแม่“คิดถึงจังเลย หนูดื้อไหมคะ หืม ทำให้คุณยายเหนื่อยหรือเปล่า” ไอลดาเอ่ยกับเด็กน้อยราวกับฟังรู้เรื่อง แต่เด็กน้อยก็ย
“แต่พี่กันยิ้มแปลกๆ” เกลียดจริงๆ เลยคนรู้ทัน เขาคิด“ฮ่าๆ ยิ้มก็ไม่ได้เลยเหรอ พี่ไม่ใช่คนหน้าเคร่งซะหน่อย” เขาแก้ตัวพร้อมกับเสียงหัวเราะชอบใจ ทว่าสายตาของเขานี่แหละที่ปิดไม่มิด แต่เธอจะไม่ถามอีกและปล่อยให้เขาขับรถพาไปจนถึงร้านอาหารแห่งหนึ่ง โดยที่โต๊ะถูกจองเอาไว้เรียบร้อยแล้ว กระทั่งเขาพาเธอเดินไปนั่งแต่กลับมีผู้ชายอีกคนรออยู่ ซึ่งไม่คุ้นหน้าเอาเสียเลยแถมยังเป็นฝรั่งอีกต่างหาก“สวัสดีครับ รอนานหรือเปล่า” กันตพงษ์ทักทายและถามชายแปลกหน้าอย่างสุภาพ เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มที่นั่งอยู่มาก่อนเวลาเสียอีก และเมื่อได้ยินเสียงกันตพงษ์ ชายหนุ่มคนนั้นก็หันมามองทันที“อ้าว สวัสดีครับคุณกัน อย่าห่วงผมเพิ่งมานั่งได้ห้านาที” ชายหนุ่มซึ่งเป็นแขกกล่าวพร้อมกับลุกขึ้นยืน แล้วยื่นมือไปจับทักทายกับกันตพงษ์“เชิญนั่งครับ แล้วสุภาพสตรีท่านนี้คือ” ชายหนุ่มถามกันตพงษ์อีกครั้งและยิ้มอย่างสุภาพ“อ๋อนี่ ไอลดาคู่หมั้นผมครับ ไอซ์จ้ะนี่คุณเจอร์รี่” กันตพงษ์แนะนำโดยที่ย
“ผมต้องการคำนั้นจากปากคุณไม่ใช่เขียนใส่กระดาษ แต่ช่างเถอะ... ช่างเถอะ ลาก่อนไอซ์” เป็นการหักห้ามใจไม่ให้เจ็บปวดเป็นครั้งแรก และมันช่างยากเย็นเหลือเกินบัดนี้ชีวิตของเขาจะดำเนินไปอย่างปกติที่สุด ไอลดาจะไม่มีอิทธิพลอะไรต่อหัวใจของเขาเป็นอันขาด เซ็กส์คืนเดียวมันจบแล้วและมันเป็นสิ่งที่เขาปรารถนาคือ ไม่ผูกมัดไม่ผูกพัน นี่แหละชีวิตของนิโคไล แอนตัน และเขาต้องอยู่กับความเป็นอิสระไร้บ่วงตราบเท่าที่เขาต้องการช่วงเวลาของความสุข มันเกิดขึ้นเร็วและมันจบลงเร็วเหลือเกิน พร้อมกับสิ่งที่หวงแหนมาตลอดตั้งแต่เติบโตเป็นสาว ต้องสูญเสียไปอย่างง่ายดาย ให้กับผู้ชายแปลกหน้าที่รู้จักเพียงหนึ่งวันกับอีกสองคืน เพราะฤทธิ์แอลกอฮอลโดยแท้ที่ทำให้สติสัมปชัญญะทั้งหมดดับวูบ และนำพาไปสู่ความอยากลอง อยากรู้ จนทำให้หวั่นไหวไปกับสิ่งแปลกใหม่ ซึ่งในชีวิตวัยสาวไม่เคยได้พบ ไอลดาเรียกมันว่าอุบัติเหตุทางอารมณ์ และเรื่องนี้มันจะไม่เกิดขึ้นอีก เธอสัญญากับตัวเอง ว่าเซ็กส์สำหรับเธอจะยอมให้มันเกิดขึ้นกับนิโคไลเพียงคนเดียวด้วยความเต็มใจ
นิโคไลหลับตาครุ่นคิดว่าจะไม่ปล่อยให้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนี้เป็นทางผ่าน หรือเพียงเพราะอุบัติเหตุทางอารมณ์ แต่อยากจะใช้เวลาศึกษาไอลดาเพื่อว่าเขาจะได้เลิกใช้ชีวิตแบดบอย พร้อมกับลงหลักปักฐานที่ใครสักคน และอยากให้เธอเป็นคนพิเศษ บอกไม่ถูกว่ารู้สึกเช่นไรแต่ไม่อยากเสียเธอไป อีกทั้งอยากจะจริงจังขึ้นมา ถามใจตัวเองว่าแท้ที่จริงแล้วที่วางแผนพาเธอมาที่นี่ เพราะว่าแอบชอบเธอตั้งแต่วินาทีแรกแล้วระหว่างที่นิโคไลกำลังใคร่ครวญเรื่องที่เกิดขึ้น ไอลดาก็ยังคงเงียบกริบ แสร้งหลับตาประหนึ่งว่าอ่อนเพลียไม่อยากจะคุยด้วย เขาจึงเงยหน้าขึ้นแล้วยื่นหน้าไปจูบตรงปลายคางเบา ๆ ทว่าเธอยังนอนนิ่ง จึงเปลี่ยนเป็นก้มจูบตรงเนินอก พลางลูบไล้ฝ่ามือไปตามเรือนร่างเปลือยเปล่า“อืม” ไอลดาครางงึมงำเหมือนถูกรบกวน เขาจึงใช้ไม้ตายด้วยการถูไถกายแกร่งกับร่องรักอันอ่อนนุ่มอีกครั้ง“อื้อ ยังเจ็บอยู่เลยค่ะ พักก่อนนะคะ” เธอตอบเสียงหวานแผ่วเบา ทว่ายังไม่ได้ลืมตา“เหนื่อยเหรอครับ หืม” เขาถามเสียงนุ่ม เธอจึงพยักหน้าเท่านั้น
“ฮ่าๆ คุณเป็นเลขาส่วนตัวของเขา หรือว่าเป็นที่ปรึกษาปัญหาหัวใจของเขากันแน่” ไอลดาหัวเราะร่าอย่างชอบใจ ทำให้เจอร์รี่นึกแปลกใจมากเลยทีเดียว เพราะปกติแล้วเธอมักวางตัวเคร่งขรึมไม่ยิ้มแย้ม“ก็ทำทุกอย่างครับ รวมถึงเก็บขยะบนเตียงด้วยในบางครั้ง” คำว่าขยะคงไม่ได้ประชดเธอหรอกมั้ง“ไม่ได้หมายถึงฉันใช่ไหมคะ” เธอถามตรงๆ เสียเลย“ผมบอกแล้วคุณสำคัญ เอาจริงนะจะเป็นไปได้ไหมครับ ถ้าคุณสองคนจะ...”“เจอร์รี่คะ มัน... ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ความรู้สึกของฉันบอกว่าเขาอยากเอาชนะฉันเท่านั้น เขาอยากให้ฉันขอโทษเพราะคิดว่าฉันผิด” “ผมก็คิดว่าคุณผิดที่หนีเขามา น่าจะบอกเขาสักนิด ว่าจะเอายังไงกับชีวิตดี ทำแบบนี้เหมือนทิ้งให้เขาสับสนอยู่คนเดียว” ให้ตายสิ ยิ่งฟังก็ยิ่งตอกย้ำให้รู้ว่าเธอผิดหนักหนา เหมือนหักอกผู้ชายดีๆ สักคนหนึ่งอย่างนั้นแหละ นี่หมายความว่าเธอคิดเองเออเอง ว่าเรื่องคืนนั้นมันเป็นความสนุกของเขาสินะ ซึ่งนิโคไลมองว่ามันสำคัญอย่างนั้นหรือ