Home / โรแมนติก / รวิกาญจน์เภตรา / EP.01 ของเก่ามีเจ้าของ

Share

รวิกาญจน์เภตรา
รวิกาญจน์เภตรา
Author: ชนิตร์นันท์

EP.01 ของเก่ามีเจ้าของ

last update Last Updated: 2024-12-05 03:44:36

ท่ามกลางความมืดมิดและเย็นเยียบอย่างที่สุดแห่งท้องทะเล มีเพียงสปอร์ตไลท์กันน้ำได้เท่านั้นที่ส่องนำทางลงสู่ด้านล่าง “ยิ่งลึกยิ่งมืด” นั่นคือสิ่งที่มองเห็น ทว่าที่รู้สึกมากไปกว่านั้นก็คือ ยิ่งใกล้ถึงจุดหมายความหนาวที่รับรู้ได้แถวสันหลังช่างสามารถแยกแยะได้แตกต่างไปจากความเย็นที่ลอดผ่านชุดประดาน้ำ อันจะรับรู้ได้เมื่อร่างกายค่อยๆ เคลื่อนที่จากผิวน้ำที่ซึมซับความอุ่นของแสงอาทิตย์มาตลอดทั้งวัน ลงสู่จุดหมายเบื้องล่างที่แสงอาทิตย์สาดส่องไปไม่ถึง

          “ดำน้ำลึกตอนเที่ยงคืน”

ช่างเป็นเรื่องที่น่าโง่เขลาเบาปัญญาอย่างยิ่งสำหรับคนที่กล้าเสี่ยงจะทำเช่นนี้ แต่ว่าความโลภไม่เข้าใครออกใคร ยิ่งต้องทนอยู่ท่ามกลางสิ่งของที่จะสามารถบันดาลให้เขาเป็นเศรษฐีได้เพียงชั่วข้ามคืนแต่กลับไม่สามารถหยิบฉวยออกไปได้สักชิ้นนั้น เขายิ่งทรมานเสียยิ่งกว่าไม่ได้พบได้เห็นเสียอีก

          ตลอด 3 วันที่ผ่านมาที่ต้องทนเก็บความโลภไว้และทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยนักโบราณคดีใต้น้ำจากกรมศิลปฯ กำหนดพื้นที่ของแหล่งขุดค้นที่ชัดเจน อาณาเขตที่กรมศิลปฯ ประกาศเป็นเขตหวงห้ามไม่ให้ชาวบ้านลงงมโบราณวัตถุนั้นมีระยะทางเป็นรัศมีกว้างกว่า 2 ไมล์ แค่ 3 วันที่ผ่านมายังสำรวจได้ไม่ถึงเสี้ยว แต่แค่ดำสำรวจโดยรอบๆ ก็พบว่ามีซากวัตถุโบราณกระจายอยู่จนทั่ว

สิ่งของที่เหมือนวางล่อตาล่อใจโดยไม่มีใครเคลื่อนย้ายนอกจากทำบันทึกสำรวจ ถ้วยโถโอชามที่มีมากเป็นพันๆ ชิ้นนี้ หากขาดหายไปเพียงชิ้นสองชิ้นหรือว่าสิบชิ้นก็คงจะไม่มีใครสงสัยหรือติดใจแน่แล้วเขา.. จะช้าอยู่ไย หากโชคดีเขาอาจได้สิ่งของที่มีค่ามากกว่าที่เห็นก็ได้ ของโบราณที่ได้ยินพวกนักสำรวจพูดคุยกันว่าคงมีอายุประมาณสัก 700 ปี ในสมัยนั้น...

สมัยสุโขทัย”

เวลาเดินทางจะมีอะไรใช้แลกเปลี่ยนสินค้าได้ดีไปกว่า “ทองคำ” เข้มเหมือนจะแสยะยิ้มทั้งที่ปากนั้นอมท่ออากาศไว้แน่น เขารู้ว่าตัวเองยิ้มเพราะอะไร เพราะวิมานในฝันขณะนี้สิ่งที่เขาเห็นก็คือตัวเองนั่งอยู่บนกองเงินกองทองที่มากมายเสียจน ตั้งแต่เกิดมาจนบัดนี้ยังไม่เคยเห็นของจริงสักครั้ง แต่หลังจากวันนี้ไปเขาคงต้องปรับชีวิตของตัวเองให้ชินกับการเป็นเศรษฐีใหม่เสียที ดีกว่าต้องคอยแต่เป็นลูกมือนักสำรวจใต้น้ำเช่นนี้ หรือหากจะดียิ่งกว่าก็คือทำงานต่อไปเพราะว่าแหล่งสำรวจที่ลงบันทึกทั่วทั้งทะเลอ่าวไทยนั้นที่ยังตกสำรวจอยู่มากกว่า 100 จุด ถึงตอนนั้นเขาคงจะรวยไม่รู้เรื่องไปเสียแล้ว

          ทว่า.. ความคิดของเข้มต้องหยุดลงเพราะเสียงบางอย่างที่แล่นเข้ามากระทบโสตประสาท เสียงร่ำไห้ คร่ำครวญของอะไรหรือใครบางคน เสียงที่ไม่มีทางจะสื่อผ่านเข้ามาได้ในสถานที่เย็นเยียบใต้น้ำลึกอย่างนี้ เสียงที่บ่งชี้ไม่ได้ว่าเป็นสัตว์ มนุษย์หรือว่าอมนุษย์ ขนกายทั่วตัวเหมือนจะลุกชันโดยพร้อมเพรียง แต่ก็เพียบแวบเดียวที่รู้สึก.. คนอย่างเจ้าเข้มเสียอย่างจะกลัวอะไรเล่า ถ้ากลัวคงไม่มา

          ของเก่ามี “เจ้าของ” เรื่องนี้เขารู้ดีเพราะลูกน้ำเค็มอย่างเขาออกเรือไดหมึกเรือหาปลามาก็มาก เรื่องลี้ลับผิดธรรมชาติเขาเคยชินและรู้ดีว่ามีอยู่จริง และสิ่งที่มักจะติดตามกันมาก็คือ ของชิ้นไหนอาถรรพ์แรงเจ้าของหวง ของชิ้นนั้นยิ่งมีราคาอันประเมินค่าไม่ได้ ประสบการณ์นักโจรกรรมที่สั่งสมบ่งบอกมาอย่างนั้น

          ร่างแกร่งกำยำสะบัดตีนเป็ดพาว่ายตรงไปยังจุดหมายไม่สนใจกับเสียงคร่ำครวญส่อให้ขนกายลุกชันที่ก็เพียงข่มขู่ให้กลัวเหมือนเช่นเหตุการณ์หลายๆ ครั้งที่เคยพานพบมา ทว่าพอเอาเข้าจริงก็ไม่เคยมีอมนุษย์ตนไหนทำอะไรเขาได้เพราะทุกครั้งที่ทำมาหากินแบบนี้ ก็ไม่เห็นจะมีวิญญาณหรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “ผี” นั้นจะทำอะไรเขาได้สักตัว ว่ากันว่า “คนชั่วแม้แต่ผียังกลัว” สงสัยว่าเขาจะจัดอยู่ในคนประเภทนั้นและของดีที่บรรพบุรุษมอบให้ “ตะกรุดภูติ” กันภูติผีและคุณไสยร้ายไม่ให้กล้ำกรายก็เป็นสิ่งที่เขาพกติดตัวอยู่เสมอ

          เข้มดำดิ่งสู่จุดหมายพร้อมกับความกระหยิ่มในใจที่ทั้งท้องฟ้าและใต้ท้องทะเลนี้ดูเหมือนจะเป็นใจไปกับเขา สถานที่ที่แม้แต่ตอนกลางวันแสงอาทิตย์ยังสาดส่องลงไปได้ยาก ทว่าสิ่งที่เห็นตรงหน้าในคืนนี้กลับกลายเป็นลำแสงของจันทร์เดือนเพ็ญที่ลอดผ่านลงมาเป็นสายและไปหยุดอยู่ ณ บริเวณปีกซ้ายของลำเรือ

          ลำแสงสิ้นสุดที่เห็นเหมือนมีอะไรบอกกับเขาว่า สิ่งที่รอคอยอยู่สุดปลายแสงนั้นต้องเป็นสิ่งที่คุ้มค่ากับการเสี่ยงในวันนี้อย่างแน่นอน ไม่รอช้าเข้มเบนร่างไป ณ จุดนั้นทันที ทว่าสายเชือกที่ผูกโยงร่างกับลำเรือที่รอคอยอยู่เบื้องบนกลับเป็นอุปสรรคที่ทำให้เขาไปไม่ถึง แค่อึดใจเท่านั้นที่เขาคิด สิ่งเร้าตรงหน้ามีค่ามากกว่าที่จะทิ้งไป หากพลาดครั้งนี้เขาคงต้องรอคอยอีกนานจึงจะได้ลงมาอีกหน

          เข้มไม่รอช้าค่อยๆ กระถดตัวจนฝ่าเท้าสัมผัสผืนทรายก่อนจะวางสปอร์ตไลท์ไว้แทบเท้าอย่างเบาที่สุด เพราะไม่ต้องการให้ฝุ่นทรายใต้น้ำมาบดบังสิ่งตรงหน้าไปมากกว่านี้ กระแสน้ำด้านใต้ที่พัดเอื่อยไม่รุนแรงทำให้ตัดสินใจเด็ดขาด มือค่อยๆ แกะเชือกบริเวณเอวและผูกไว้กับซากเรือที่พอจะจับยึดได้ แค่นี้ก็หมดปัญหาการจับทิศของเรือที่รอคอยเขาอยู่บนผืนน้ำและไม่ต้องกลัวว่ากระแสน้ำจะพัดพาร่างให้ลอยคว้างออกไปไกล

Related chapters

  • รวิกาญจน์เภตรา   EP.02 ชายซิ่น

    วาบบบบ.. ใบหน้าหันขวับตามสัญชาตญาณ ต้นคอเย็นวาบมาพร้อมกับอาการเสียวสันหลังโดยไม่รู้สาเหตุ อะไรบางอย่างทำให้ยิ่งต้องระวังตัวเองมากขึ้น มือกำตะกรุดที่เอวแน่นพร้อมกับท่องมนต์คาถาในใจ ดวงตากวาดมองไปโดยรอบแม้จะไม่เห็นอะไรผิดสังเกต ทว่าสิ่งที่สัมผัสก็ทำให้แน่ใจว่าสิ่งไม่ธรรมดานั้นใกล้ตัวเขาเสียมากมายและเหมือนว่าสิ่งนั้นกำลังยิ้มเยาะเย้ยกับความโลภที่ปะปนมาพร้อมกับความโง่เขลาของเขาขณะที่ดวงตากวาดมองระวังภัยที่มองไม่เห็น เข้มย่อกายลงหยิบสปอร์ตไลท์ที่วางไว้แทบเท้า ทว่ากลับพบกับความว่างเปล่า หัวใจเต้นแรงไปกับสิ่งเหนือธรรมชาติที่เริ่มคิดได้ว่ามีพลังมากพอที่จะเคลื่อนย้ายข้าวของ เพราะผืนทรายราบเรียบที่เห็นเมื่อช่วงกลางวันกับกระแสน้ำพัดเอื่อย คงไม่สามารถพัดพาสปอร์ตไลท์ที่มีน้ำหนักให้ปลิวหายไปได้ แต่บางทีมันก็อาจจะเป็นไปได้เพราะแสงไฟที่เห็นอยู่ไม่ไกลว่า 2 เมตรข้างหน้าก็ทำให้รู้ว่าเขาควรจะตรงไปทางไหน เข้มกระหยิ่มย่องในใจเพราะดีที่ว่าเป็นทิศทางเดียวกันกับเส้นแสงของจุดหมายพอดี“เฮ้ย!..”ร่างในชุดประดาน้ำทะลึ่งตัวขึ้นโดยเร็ว เพราะบางอย่างที่มองเห็นขณะย่อตัวลงหาดวงไฟที่วางทาบอยู่แทบเท้า ลำแสงที่ส

    Last Updated : 2024-12-05
  • รวิกาญจน์เภตรา   EP.03 เจ้านางครวญ

    เจ้าของเสียงทุ้มที่เหมือนจะเพิ่งเดินออกมาจากเรือนรับรองตามเสียงแผ่นไม้กระดานลั่นเอี๊ยดอ๊าดที่ได้ยิน ทำให้พ่อใหญ่จงหันกลับมาพร้อมกับยิ้มรับชายหนุ่มจากเมืองกรุง ชายหนุ่มที่จะมารับหน้าที่นักสำรวจวัตถุโบราณใต้น้ำในวันรุ่งขึ้น“เสียงครวญจากเจ้านาง”“เจ้านาง..”“ใช่.. เจ้านาง”“เจ้านางอะไรครับพ่อใหญ่”ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มนั้นมีแววสงสัยปนไม่ยี่หระกับเสียงที่ได้ยินเท่าไร เพราะพอจะเดาได้ว่า “เจ้านาง” ที่พ่อใหญ่จงเอ่ยถึงคงหมายถึงสิ่งเหนือธรรมชาติที่คนเลมักจะเชื่อถือตามนั้น แต่ที่ถามก็เพียงแค่สงสัยไม่ได้เชื่อว่าจะมีอยู่จริง“ไม่รู้ รู้แต่ว่าตั้งแต่พ่อใหญ่แม่ใหญ่ของผมก็เรียกกันมาอย่างนี้ จนมาถึงรุ่นผมก็ยังคงเรียกอยู่เหมือนเดิม และเด็กรุ่นต่อๆ ไปก็คงจะไม่ได้ผิดเพี้ยนไปจากนี้”เสียงแหบห้าวของผู้เฒ่าวัยชราแฝงไปด้วยความยึดมั่นและยอมรับว่าสิ่งนั้นมีตัวตนอยู่จริงขณะที่ดวงตาแกร่งผ่านพ้นวันเวลาไม่ได้ละไปจากผืนน้ำด้านหน้าเลยสักนิด“โห.. ถ้าตั้งแต่รุ่นพ่อใหญ่แม่ใหญ่ของพ่อใหญ่อีกที เจ้านางท่านนี้ก็คงอยู่ที่นี่มากว่า 200 ปีแล้วน่ะสิครับ”“คนเฒ่าคนแก่เล่าต่อๆ กันมา ผมก็ไม่รู้ว่าจะยาวนานแค่ไหนอาจจะ 200 ปี 300

    Last Updated : 2024-12-05
  • รวิกาญจน์เภตรา   EP.04 มิว่าภพใด ข้าจักเฝ้าติดตามถามหา

    ในขณะที่สามเพื่อนเกลอเดินผ่านอยู่บนไหล่เขา แสงจันทร์ที่ส่องกระทบลงเป็นสายพร้อมกับเสียงครวญคร่ำของอะไรบางอย่างมันทำให้พวกเขาที่กำลังกรึ่มๆ น้ำเมากันได้ที่แทบจะสร่างเมาเป็นปลิดทิ้ง ทว่าไม่ใช่เพราะความกลัวแต่เป็นเพราะความห่ามที่อยากรู้ว่า สุดสายปลายทางที่แสงจันทร์ส่องลงไปใต้ท้องทะเลนั้นจะไปสิ้นสุดลงที่ใดหรืออาจตกกระทบกับทรัพย์สมบัติอันมีค่าใด ที่เทวดาบันดาลมาให้เขาทั้งสามคนแล้วในวันนี้ความรู้สึกของเขาในวันนั้นคือแค่อยากรู้แต่ไม่ได้อยากได้ในสิ่งที่เจ้าของไม่อนุญาตเพราะนั่นคือการผิดศีล 5 ที่เขาได้รับไว้ เพราะวันนี้ก็เท่ากับผิดศีลข้อ 5 ไปเสียแล้ว เขาจึงไม่อยากผิดอีก 4 ข้อที่เหลือ แต่ความห่ามบวกกับเพื่อนเฮไหนเฮกันทำให้เขาขัดไม่ได้ และสิ่งที่ค้นพบก็คือ “แจกันโบราณ” ที่มีเจ้าของเฝ้าอยู่ความเย็นของสายน้ำด้านใต้แม้ผ่านมากว่า 50 ปีแต่เขายังเหมือนรู้สึกได้ในทุกขณะที่มองเห็นแสงจันทร์สาดส่อง ในคืนเพ็ญ “เจ้านาง” ผู้มีอยู่จริงนั้น เขาคงไม่สามารถบรรยายให้ใครฟังได้ถึงความน่าสะพรึงกลัวนั้น เรือนร่างและใบหน้าที่เหมือนถูกไฟเผาไหม้เป็นบางส่วนจนเนื้อกายหลุดล่อน และเสื้อผ้าโบราณที่เขาก็เดาไม่ถูกว่าจะเป็นในส

    Last Updated : 2024-12-05
  • รวิกาญจน์เภตรา   EP.05 ปสานสุโขทัย

    ใบหน้าขาวซีดไร้สีเลือดของผู้ที่อยู่ด้านล่างกำลังแหงนมองร่างที่ค่อยๆ ลอยขึ้นสู่ด้านบนผิวน้ำอย่างช้าๆ ดวงตาสีขุ่นเป็นฝ้าขาวแฝงแววความเศร้า.. กี่บาปกรรมที่ต้องก่อ กี่ชีวิตที่ต้องสังเวยให้กับความโลภอันไม่มีที่สิ้นสุดของมนุษย์ และกี่วันเวลากันที่เธอต้องรอคอยนิ้วมือซีดเซียวกำแน่นเข้าหากันจนเส้นเลือดบริเวณข้อนิ้วเป่งออกจนแทบจะทะลุออกมานอกผิวหนัง ก่อนที่ดวงตาขุ่นฝ้าจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำแลปูนโปนด้วยความแค้น ผิวหนังซีดเซียวแปรเปลี่ยนเป็นปริแตกไหม้เกรียม“เราผิดอันใด เราผิดอันใด.. ไยต้องทำร้าย ไยต้อง.. ฆ่า.. ไยต้อง.. จองจำ..”เสียงเข่นเขี้ยวขมขื่นรอดออกมาจากริมฝีปากแตกปริเกรอะกรังไปด้วยรอยเลือดสีคล้ำ หยาดน้ำตาสีแดงดั่งโลหิตไหลอาบสองแก้ม ก่อนใบหน้าจะแหงนขึ้นกรีดร้องคร่ำครวญกับโชคชะตาที่ต้องเผชิญ“กรี๊ดดดดดด...”..บ้านเรือนที่มองเห็นตรงหน้าปลูกสร้างตั้งอยู่เรียงรายสองฝั่งข้างทางเดินเกวียน อาณาเขตของครัวเรือนแบ่งแยกได้ตามขอบเขตรั้ว เล้า หรือคอกสัตว์ที่เจ้าบ้านนิยมเลี้ยงดู บ้างก็เป็นวัว บ้างก็เป็นควาย หรือไม่ก็มี หมู ม้า แพะ เป็ด ไก่ และห่าน ด้านหลังครัวเรือนนั้นเป็นทิวทุ่งนาเขียวขจีกว้างไ

    Last Updated : 2024-12-05

Latest chapter

  • รวิกาญจน์เภตรา   EP.05 ปสานสุโขทัย

    ใบหน้าขาวซีดไร้สีเลือดของผู้ที่อยู่ด้านล่างกำลังแหงนมองร่างที่ค่อยๆ ลอยขึ้นสู่ด้านบนผิวน้ำอย่างช้าๆ ดวงตาสีขุ่นเป็นฝ้าขาวแฝงแววความเศร้า.. กี่บาปกรรมที่ต้องก่อ กี่ชีวิตที่ต้องสังเวยให้กับความโลภอันไม่มีที่สิ้นสุดของมนุษย์ และกี่วันเวลากันที่เธอต้องรอคอยนิ้วมือซีดเซียวกำแน่นเข้าหากันจนเส้นเลือดบริเวณข้อนิ้วเป่งออกจนแทบจะทะลุออกมานอกผิวหนัง ก่อนที่ดวงตาขุ่นฝ้าจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำแลปูนโปนด้วยความแค้น ผิวหนังซีดเซียวแปรเปลี่ยนเป็นปริแตกไหม้เกรียม“เราผิดอันใด เราผิดอันใด.. ไยต้องทำร้าย ไยต้อง.. ฆ่า.. ไยต้อง.. จองจำ..”เสียงเข่นเขี้ยวขมขื่นรอดออกมาจากริมฝีปากแตกปริเกรอะกรังไปด้วยรอยเลือดสีคล้ำ หยาดน้ำตาสีแดงดั่งโลหิตไหลอาบสองแก้ม ก่อนใบหน้าจะแหงนขึ้นกรีดร้องคร่ำครวญกับโชคชะตาที่ต้องเผชิญ“กรี๊ดดดดดด...”..บ้านเรือนที่มองเห็นตรงหน้าปลูกสร้างตั้งอยู่เรียงรายสองฝั่งข้างทางเดินเกวียน อาณาเขตของครัวเรือนแบ่งแยกได้ตามขอบเขตรั้ว เล้า หรือคอกสัตว์ที่เจ้าบ้านนิยมเลี้ยงดู บ้างก็เป็นวัว บ้างก็เป็นควาย หรือไม่ก็มี หมู ม้า แพะ เป็ด ไก่ และห่าน ด้านหลังครัวเรือนนั้นเป็นทิวทุ่งนาเขียวขจีกว้างไ

  • รวิกาญจน์เภตรา   EP.04 มิว่าภพใด ข้าจักเฝ้าติดตามถามหา

    ในขณะที่สามเพื่อนเกลอเดินผ่านอยู่บนไหล่เขา แสงจันทร์ที่ส่องกระทบลงเป็นสายพร้อมกับเสียงครวญคร่ำของอะไรบางอย่างมันทำให้พวกเขาที่กำลังกรึ่มๆ น้ำเมากันได้ที่แทบจะสร่างเมาเป็นปลิดทิ้ง ทว่าไม่ใช่เพราะความกลัวแต่เป็นเพราะความห่ามที่อยากรู้ว่า สุดสายปลายทางที่แสงจันทร์ส่องลงไปใต้ท้องทะเลนั้นจะไปสิ้นสุดลงที่ใดหรืออาจตกกระทบกับทรัพย์สมบัติอันมีค่าใด ที่เทวดาบันดาลมาให้เขาทั้งสามคนแล้วในวันนี้ความรู้สึกของเขาในวันนั้นคือแค่อยากรู้แต่ไม่ได้อยากได้ในสิ่งที่เจ้าของไม่อนุญาตเพราะนั่นคือการผิดศีล 5 ที่เขาได้รับไว้ เพราะวันนี้ก็เท่ากับผิดศีลข้อ 5 ไปเสียแล้ว เขาจึงไม่อยากผิดอีก 4 ข้อที่เหลือ แต่ความห่ามบวกกับเพื่อนเฮไหนเฮกันทำให้เขาขัดไม่ได้ และสิ่งที่ค้นพบก็คือ “แจกันโบราณ” ที่มีเจ้าของเฝ้าอยู่ความเย็นของสายน้ำด้านใต้แม้ผ่านมากว่า 50 ปีแต่เขายังเหมือนรู้สึกได้ในทุกขณะที่มองเห็นแสงจันทร์สาดส่อง ในคืนเพ็ญ “เจ้านาง” ผู้มีอยู่จริงนั้น เขาคงไม่สามารถบรรยายให้ใครฟังได้ถึงความน่าสะพรึงกลัวนั้น เรือนร่างและใบหน้าที่เหมือนถูกไฟเผาไหม้เป็นบางส่วนจนเนื้อกายหลุดล่อน และเสื้อผ้าโบราณที่เขาก็เดาไม่ถูกว่าจะเป็นในส

  • รวิกาญจน์เภตรา   EP.03 เจ้านางครวญ

    เจ้าของเสียงทุ้มที่เหมือนจะเพิ่งเดินออกมาจากเรือนรับรองตามเสียงแผ่นไม้กระดานลั่นเอี๊ยดอ๊าดที่ได้ยิน ทำให้พ่อใหญ่จงหันกลับมาพร้อมกับยิ้มรับชายหนุ่มจากเมืองกรุง ชายหนุ่มที่จะมารับหน้าที่นักสำรวจวัตถุโบราณใต้น้ำในวันรุ่งขึ้น“เสียงครวญจากเจ้านาง”“เจ้านาง..”“ใช่.. เจ้านาง”“เจ้านางอะไรครับพ่อใหญ่”ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มนั้นมีแววสงสัยปนไม่ยี่หระกับเสียงที่ได้ยินเท่าไร เพราะพอจะเดาได้ว่า “เจ้านาง” ที่พ่อใหญ่จงเอ่ยถึงคงหมายถึงสิ่งเหนือธรรมชาติที่คนเลมักจะเชื่อถือตามนั้น แต่ที่ถามก็เพียงแค่สงสัยไม่ได้เชื่อว่าจะมีอยู่จริง“ไม่รู้ รู้แต่ว่าตั้งแต่พ่อใหญ่แม่ใหญ่ของผมก็เรียกกันมาอย่างนี้ จนมาถึงรุ่นผมก็ยังคงเรียกอยู่เหมือนเดิม และเด็กรุ่นต่อๆ ไปก็คงจะไม่ได้ผิดเพี้ยนไปจากนี้”เสียงแหบห้าวของผู้เฒ่าวัยชราแฝงไปด้วยความยึดมั่นและยอมรับว่าสิ่งนั้นมีตัวตนอยู่จริงขณะที่ดวงตาแกร่งผ่านพ้นวันเวลาไม่ได้ละไปจากผืนน้ำด้านหน้าเลยสักนิด“โห.. ถ้าตั้งแต่รุ่นพ่อใหญ่แม่ใหญ่ของพ่อใหญ่อีกที เจ้านางท่านนี้ก็คงอยู่ที่นี่มากว่า 200 ปีแล้วน่ะสิครับ”“คนเฒ่าคนแก่เล่าต่อๆ กันมา ผมก็ไม่รู้ว่าจะยาวนานแค่ไหนอาจจะ 200 ปี 300

  • รวิกาญจน์เภตรา   EP.02 ชายซิ่น

    วาบบบบ.. ใบหน้าหันขวับตามสัญชาตญาณ ต้นคอเย็นวาบมาพร้อมกับอาการเสียวสันหลังโดยไม่รู้สาเหตุ อะไรบางอย่างทำให้ยิ่งต้องระวังตัวเองมากขึ้น มือกำตะกรุดที่เอวแน่นพร้อมกับท่องมนต์คาถาในใจ ดวงตากวาดมองไปโดยรอบแม้จะไม่เห็นอะไรผิดสังเกต ทว่าสิ่งที่สัมผัสก็ทำให้แน่ใจว่าสิ่งไม่ธรรมดานั้นใกล้ตัวเขาเสียมากมายและเหมือนว่าสิ่งนั้นกำลังยิ้มเยาะเย้ยกับความโลภที่ปะปนมาพร้อมกับความโง่เขลาของเขาขณะที่ดวงตากวาดมองระวังภัยที่มองไม่เห็น เข้มย่อกายลงหยิบสปอร์ตไลท์ที่วางไว้แทบเท้า ทว่ากลับพบกับความว่างเปล่า หัวใจเต้นแรงไปกับสิ่งเหนือธรรมชาติที่เริ่มคิดได้ว่ามีพลังมากพอที่จะเคลื่อนย้ายข้าวของ เพราะผืนทรายราบเรียบที่เห็นเมื่อช่วงกลางวันกับกระแสน้ำพัดเอื่อย คงไม่สามารถพัดพาสปอร์ตไลท์ที่มีน้ำหนักให้ปลิวหายไปได้ แต่บางทีมันก็อาจจะเป็นไปได้เพราะแสงไฟที่เห็นอยู่ไม่ไกลว่า 2 เมตรข้างหน้าก็ทำให้รู้ว่าเขาควรจะตรงไปทางไหน เข้มกระหยิ่มย่องในใจเพราะดีที่ว่าเป็นทิศทางเดียวกันกับเส้นแสงของจุดหมายพอดี“เฮ้ย!..”ร่างในชุดประดาน้ำทะลึ่งตัวขึ้นโดยเร็ว เพราะบางอย่างที่มองเห็นขณะย่อตัวลงหาดวงไฟที่วางทาบอยู่แทบเท้า ลำแสงที่ส

  • รวิกาญจน์เภตรา   EP.01 ของเก่ามีเจ้าของ

    ท่ามกลางความมืดมิดและเย็นเยียบอย่างที่สุดแห่งท้องทะเล มีเพียงสปอร์ตไลท์กันน้ำได้เท่านั้นที่ส่องนำทางลงสู่ด้านล่าง “ยิ่งลึกยิ่งมืด” นั่นคือสิ่งที่มองเห็น ทว่าที่รู้สึกมากไปกว่านั้นก็คือ ยิ่งใกล้ถึงจุดหมายความหนาวที่รับรู้ได้แถวสันหลังช่างสามารถแยกแยะได้แตกต่างไปจากความเย็นที่ลอดผ่านชุดประดาน้ำ อันจะรับรู้ได้เมื่อร่างกายค่อยๆ เคลื่อนที่จากผิวน้ำที่ซึมซับความอุ่นของแสงอาทิตย์มาตลอดทั้งวัน ลงสู่จุดหมายเบื้องล่างที่แสงอาทิตย์สาดส่องไปไม่ถึง “ดำน้ำลึกตอนเที่ยงคืน”ช่างเป็นเรื่องที่น่าโง่เขลาเบาปัญญาอย่างยิ่งสำหรับคนที่กล้าเสี่ยงจะทำเช่นนี้ แต่ว่าความโลภไม่เข้าใครออกใคร ยิ่งต้องทนอยู่ท่ามกลางสิ่งของที่จะสามารถบันดาลให้เขาเป็นเศรษฐีได้เพียงชั่วข้ามคืนแต่กลับไม่สามารถหยิบฉวยออกไปได้สักชิ้นนั้น เขายิ่งทรมานเสียยิ่งกว่าไม่ได้พบได้เห็นเสียอีก ตลอด 3 วันที่ผ่านมาที่ต้องทนเก็บความโลภไว้และทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยนักโบราณคดีใต้น้ำจากกรมศิลปฯ กำหนดพื้นที่ของแหล่งขุดค้นที่ชัดเจน อาณาเขตที่กรมศิลปฯ ประกาศเป็นเขตหวงห้ามไม่ให้ชาวบ้านลงงมโบราณวัตถุนั้นมีระยะทางเป็นรัศมีกว้างกว่า 2 ไมล์ แค่

DMCA.com Protection Status