ตอนที่[47]เอาชนะ “อย่าให้ข้าต้องพูดซ้ำเลย พวกเจ้ากลับไปซะ แล้วอย่ามาที่หมู่บ้านของพวกเรา อย่ามารังแกครอบครัวตระกูลฉินอีก มิเช่นนั้นหัวหงอกหัวดำก็อย่าหาว่าพวกเราไม่เตือน!!” “ใช่ ๆ” ไม่นานในมือของทุกคนก็ไปถือถังน้ำที่เต็มไปด้วยเศษอาหารออกมา ผู้เฒ่าจูเห็นท่าไม่ดีจึงรีบดึงภรรยาของตนออกไป ชาวบ้านเถียนเกาก็เช่นกัน ในขณะที่สองแม่ลูก สวีต้าต่านและสวีอ้ายเหมย นั้นยืนอยู่ไกล ทำราวกับว่านี่ไม่เกี่ยวกับตน จนกระทั่งเมื่อไปถึงหมู่บ้านนางจึงถือโอกาสขณะที่ชาวบ้านคนอื่น ๆ ยังไม่แยกย้ายออกไปแล้วเอ่ยขึ้น “พวกมันไม่ให้เกียรติพวกเราสักนิด เด็กสองคนนั้นก็กระไร ท่านปู่ท่านย่าอุตส่าห์เดินทางไปหา แม้แต่ออกมาต้อนรับก็ไม่ยอมมา คงคิดว่าตนเองกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่แล้วกระมัง” “ยิ่งใหญ่อันใด ก็แค่เด็กไร้ค่าสองคน” นางจงซื่อกัดฟันกรอด “แต่ข้าว่าคงเป็นที่มารดาด้วยที่สั่งสอนบุตรไม่ดี” “ฉินกุ้ยหลินสตรีชั้นต่ำผู้นั้นหรือ จะสั่งสอนอันใดได้ ทำไมพวกมันไม่ตาย ๆ ไปเสีย” นางจงซื่อทำท่าว่าจะพูดต่อ แต่เมื่อเห็นสามีสะกิดอยู่ด้านข้างจึงได้พยายามสงบสติอารมณ์ของตนลง “ไม่ให้เกียรติพวกเราตระกูลจูแล้ว ยังไม่เห็นหัวหมู่บ้า
ตอนที่[48]ราบเป็นหน้ากลอง “พวกข้าไม่ได้หลอกลวงนะเจ้าคะ พวกข้าบอกที่ใดกันว่านี่เป็นหมูดำเฮยจูโหยว” “เจ้าบอกว่านี่เป็นหมูกระทะมิใช่หรือ หากหมูกระทะตระกูลฉินต้องเป็นเนื้อหมูดำเฮยจูโหยวเท่านั้นสิ!!” “พวกข้าก็ไม่ได้บอกว่านี่เป็นหมูกระทะของตระกูลฉินเสียหน่อย ตระกูลฉินทำได้คนเดียวหรือ พวกเราก็ทำได้ไม่แพ้กัน” “นะ นี่พวกเจ้านักต้มตุ๋น!! หลอกลวงพวกข้าให้คิดว่าเป็นหมูกระทะตระกูลฉิน หากมิใช่เช่นนั้นคิดว่าพวกข้าจะแวะมาหรือ ไม่กิน ไม่กินแล้ว ข้าไม่กินของพวกนักต้มตุ๋น รสชาติหรือก็ไม่ได้ดีอันใด น้ำซุปก็จืดชืดยิ่งกว่าอะไร!!” เสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นทันที “ข้าเคยได้ยินว่าหมูกระทะตระกูลฉินอร่อยจนแทบจะเคี้ยวลิ้น นี่อะไร จนแทบอยากจะตัดลิ้นทิ้ง” ชาวบ้านเถียนเกาได้ยินเช่นนั้นต่างก็พากันหน้าดำหน้าแดงอย่างไม่พอใจ หลิวหลี่จิ้งที่ผ่านทางมากำลังจะมุ่งหน้าไปหมู่บ้านหวงหลิงเมื่อเจอเหตุการณ์วุ่นวายตรงหน้าจึงหยุดรถดู อีกทั้งเขาพบคนที่เขารู้จัก “นายท่านเกา เกิดปัญหาอันใดขึ้นหรือ” “นายท่านหลิว!!” เกาห่าวอู๋เอ่ยขึ้นเสียงดังเมื่อได้เห็นผู้ทรงอิทธิพลผู้หนึ่งของอำเภอเสิ่งซี “นายท่านหลิว พวกเราโดนหลอก เด
ตอนที่[48]ราบเป็นหน้ากลอง “สวีต้าต่านเจ้าเอาที่ดินผืนนั้นไปจำนองหรือ!” “ท่านแม่ เงินที่รวบรวมจากทุกคนมันไม่พอ ข้าก็ต้องเอาที่ดินไปจำนองสิ”“นี่เจ้า! โถ ที่ดินของข้า เจ้าไปไถ่คืนมาเลยนะ!” “ข้าไม่มีเงินแล้ว”“เจ้าต้องมี ไปไถ่คืนมาเลยนะ” นางจงซื่อคิดว่าแม้จะยกให้บ้านสามไป แต่ตนก็จะหาทางนำกลับคืนมาได้ แต่เมื่อสวีต้าต่านเอาไปจำนองเช่นนั้น หากไม่มีเงินไปไถ่คืนมา กลัวว่านางจะต้องเสียที่ดินผืนนั้นไปตลอดกาล นั่นจึงทำให้นางไม่ยินยอม “ท่านผู้นำ ในเมื่อบุตรสาวท่านเป็นตัวต้นเหตุเช่นนี้ ท่านก็ต้องรับผิดชอบ” “บุตรสาวข้ามิใช่ว่าแต่งไปเป็นคนตระกูลจูของพวกเจ้าแล้วอีก มิใช่ว่านั่นต้องรับผิดชอบร่วมกันทั้งหมดหรือ” “ไม่! นั่นไม่เกี่ยวกับพวกเรา สองคนไม่ได้แต่งงานกัน ข้ายังไม่ได้รับผู้ใดเข้าทะเบียนเสียหน่อย ฉะนั้น สวีต้าต่านเจ้าคืนเงินทุกคนมา!” บ้านใหญ่ตระกูลจูนั้นต่างก็ลงทุนไปไม่น้อย ด้วยหวังจะได้เงินตำลึงทองกลับมา แม้กระทั่งเงินที่ได้จากฉินกุ้ยหยวนวันนั้นก็ยังนำไปลงทุนด้วย จนยามนี้ตนเหลือเงินที่ใช้ในครอบครัวเพียงน้อยนิด ฉะนั้นจึงต้องถามเอากับตัวต้นเหตุ “เจ้ามีเงินจากเมืองอันหนิงมาไม่น้อยไม่ใช่หรือ
ตอนที่[49]ทำอันใดไม่ได้หลังจากที่เหตุการณ์เมื่อคืนผ่านพ้นไป เสี่ยวหลงก็ได้วางกองกำลังป้องกันเอาไว้จนทั่วพื้นที่ทั้งยี่สิบหมู่ของนาง และกล่าวให้ทุกคนสบายใจว่าไม่ว่าผู้ใดก็เข้ามาทำลายอาณาจักรตระกูลฉินไม่ได้ หากเขาไม่ยินยอม “เสี่ยวหลงเมื่อคืนนี้ช่างเก่งกาจและน่าเกรงขามมากจริง ๆ” “โถ ฮูหยินท่านแม่ก็พูดเกินไป เสี่ยวหลงยังเป็นเด็กที่น่ารักของฮูหยินท่านแม่อยู่นะขอรับ” ว่าแล้วก็เข้าไปออดอ้อนอีกคนทันที ช่างไม่ดูขนาดตัวของตัวเองเหลือเกินจากแตกต่างจากผู้อื่นมากเพียงใด นางก็เพิ่งรู้ว่าก่อนหน้านี้ไม่นานว่าพลังเสี่ยวหลงถึงขั้นสามารถแปลงกายเป็นมังกรได้แล้วเนื่องจากเมื่อคืนต้องเฝ้าระวังเหตุการณ์ซึ่งมาจากการบอกกล่าวจากเสี่ยวหลง พวกเขาจึงได้กลับมานอนในมิติอีกครั้ง เนื่องจากที่ผ่านมาหลายคนได้นอนในบ้านหลังใหม่ที่ถูกสร้างแล้วนั่นเอง มีเพียงฉินกุ้ยหยวนที่นางจะชื่นชอบที่จะนอนในมิติเช่นเดิม“นั่น มิใช่ว่าท่านชายยืนอยู่หน้าบ้านหรือ” ฉิยกุ้ยหยางชี้ไปที่หน้าจอเมื่อเห็นว่าผู้ใดกำลังยืนอยู่หน้าบ้าน “เช่นนั้นพวกเรารีบออกไปกันเถิด เดี๋ยวคนจะสงสัยเอา” ผู้เฒ่าฉินเอ่ยขึ้น จากนั้นทั้งหมดจึงออกมาจากในมิติ เป็นฉิน
ตอนที่[49]ทำอันใดไม่ได้“คุณชายฉิน ได้ข่าวว่าเจ้าจะไปเรียนที่สำนักศึกษาที่ในอำเภอหลังเหมันต์หรือ” หานจื่อหลัน “เป็นความคิดของหยวนเออร์ขอรับ ส่วนข้า หากเป็นไปได้ก็อยากช่วยเหลือกิจการของครอบครัวที่นี่” “แต่เจ้าก็ชื่นชอบตำราใช่หรือไม่” “ก็ใช่ขอรับ…...” ฉินกุ้ยหยางตอบด้วยใบหน้าแดงก่ำ เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะคิดว่าเขาไม่เหมาะสมที่จะเรียนหรือไม่ “หากเจ้าชื่นชอบการเรียนและอยากหาความรู้เพิ่มเติม ระหว่างที่ข้าอยู่ที่นี่ข้าจะสอนเจ้าเองดีหรือไม่ ทั้งหากเจ้ามีความก้าวหน้าที่ดี ข้าก็จะเขียนหนังสือฝากเจ้าเข้าสำนักศึกษาดี ๆ ให้ด้วย” “นะ…นี่” หากเป็นก่อนหน้านี้ฉินกุ้ยหยางอาจจะไม่รู้อันใด แต่ยามนี้ข้อมูลที่ได้รับรู้จากเสี่ยวหลงนั้นทำให้เขาตกตะลึงไม่น้อย ท่านชายหานผู้นี้คือผู้เป็นกุนซือคนสำคัญของฮ่องเต้ ซึ่งหมายความว่าเขามีความสำคัญต่อแว่นแคว้น แต่ยามนี้คนผู้นี้กล่าวว่าจะสอนตำราให้กับเขา โอกาสเช่นนี้ชาตินี้เขาก็ไม่คิดว่าจะได้รับมัน “หากเจ้าไม่ปฏิเสธข้าก็จะถือว่าเจ้าตกลงแล้วนะ” “เอ่อ ข้า ขอบคุณคุณชายขอรับ!” ฉินกุ้ยหยางคิดไปคิดมา ไม่มีเหตุผลอันใดที่เขาจะปฏิเสธ จึงตกลงรับคำทันที ด้านหานจื่อหลั
ตอนที่[50]ของข้าผู้เดียว ไม่น่าเชื่อว่าเวลาจะผ่านไปรวดเร็วเช่นนี้ เพียงไม่นานกิจการอาณาจักรตระกูลฉินของนางก็เปิดทำการได้กว่าสามเดือนแล้ว ทุกอย่างเคลื่อนผ่านด้วยความก้าวหน้า ทุกคนต่างทำงานกันจนตัวเป็นเกลียว แม้แต่องค์หญิงหยางจื่อยังชงเครื่องดื่มจนมือแทบเป็นระวิง แต่ถึงกระนั้นพระองค์ก็ยังไม่บ่นแต่อย่างใด และคล้ายจะกลมกลืนกับคนที่นี่ไปโดยสิ้นเชิง บางวันก็ไปทำผักดองกับชาวบ้าน บางวันก็ไปช่วยพนักงานจัดห้องพักก็มี เพราะอยู่ที่นี่มีกิจกรรมให้ทำมากมาย เซี่ยหยางจื่อจึงไม่รู้สึกเบื่ออันใดแม้แต่น้อย ทั้งไม่ต้องทนกับอากาศที่หนาวเย็น หากอยู่ในอาณาจักรตระกูลฉินไม่ว่าไปที่ได้ก็ล้วนแต่อุ่นสบาย คิดแล้วก็นึกถึงสามีที่อยู่ในเมืองหลวง คนผู้นั้นเป็นคนขี้หนาว มักบ่นอยู่ประจำ แม้ที่จวนจึงไม่ขาดถ่านชั้นดี เพื่อใช้ในการให้ความอบอุ่น แต่ถึงจะชั้นดีเพียงใดก็ไม่สู้ที่นี่สักนิด ไม่รู้เช่นกันว่าฉินกุ้ยหยวนทำได้อย่างไร นอกจากเรื่องกิจการที่ก้าวหน้า อายุของนางก็ก้าวหน้าเช่นเดียวกัน ภายในครอบครัวตกลงกันว่าอีกสองวันจะจัดพิธีปักปิ่นให้นาง เพราะถึงวันเกิดและอายุครบรอบสิบห้าปีแล้ว ซึ่งเมื่อองค์หญิงหยางจื่อรู้ข่าวก็รี
ตอนที่[50]ของข้าผู้เดียว “คุณชายฉิน มีความก้าวหน้าด้านการเรียนเป็นอย่างมาก เห็นทีตระกูลฉินจะมีขุนนางในตระกูลแล้ว” “จริงหรือเจ้าคะ” ฉินกุ้ยหยวนเอ่ยขึ้นอย่างตื่นเต้น นางคิดอยู่ว่าพี่ใหญ่ชื่นชอบการเรียน แต่เมื่อได้มาได้ยินจากผู้เป็นที่เป็นอัจฉริยะผู้หนึ่งของแคว้นเซี่ยกล่าวเช่นนี้ก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ “อืม หากได้เข้าร่วมเรียนสำนักศึกษาดี ๆ อีกนิด ยามถึงเวลาสอบคงไม่มีปัญหาอันใด” ที่จริงแล้ว ฉินกุ้ยหยางออกจะเกินความคาดหมายของหานจื่อหลันไปมาก ตามที่เขารู้มาอีกฝ่ายไม่เคยได้เข้าเรียนที่ไหนมีเพียงกล่าวว่าอ่านตามตำราที่มีเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วยอายุสิบห้าปีแล้วเพิ่งมาเรียน เขายังคิดว่าคงต้องใช้เวลาและความพยายามอีกมาก แต่ไม่คิดว่าฉินกุ้ยหยางกลับมีองค์ความรู้เดิมมากมาย ในหัวของเขาปรากฏความคิดบางอย่าง แต่ก็ยังไม่ได้กล่าวออกไป “ขอบคุณคุณชายอีกครั้งนะเจ้าคะ พี่ใหญ่ท่านตั้งใจเล่า” ประโยคแรกกล่าวกับหานจื่อหลัน ส่วนถัดมากล่าวกับพี่ชายของตนเอง “แล้ว…...” หานจื่อหลันทำท่าจะกล่าวบางอย่างแต่ก็เงียบไป หานจื่ออี้ที่เห็นเช่นนั้นจึงได้กล่าวขึ้นแทน “พี่ชายฉิน ข้าได้วิธีชงชามาใหม่ ท่านไปดูกับข้าเถิดว่าดีหร
ตอนที่[51]ภัยคุกคามเมื่อได้ยินว่ามีอันใดเกี่ยวข้องกับหมู่บ้านหวงหลิง ซึ่งนั่นก็เกี่ยวข้องกับนางโดยตรง ฉินกุ้ยหยวนไม่อาจอยู่นิ่งได้ หานจื่อหลันก็คิดว่ามาถึงขั้นนี้ก็ไม่ควรมีอะไรต้องปิดบังอีกทั้งจะได้หาทางป้องกันไว้“หยวนหยวนนั่งก่อน หากจะให้เล่าคงต้องเล่าตั้งแต่ต้นเหตุ ในยามที่อดีตองค์ฮ่องเต้ยังไม่ได้แต่งตั้งองค์รัชทายาท…...”ในยามนั้นล้วนแต่มีพยายามที่จะแย่งชิงตำแหน่งกันทุกวิถีทาง แต่ทว่าฮ่องเต้องค์ปัจจุบันหรือองค์ชายใหญ่ที่เกิดจากอดีตฮองเฮามีพระขนิษฐาร่วมอุทรคือองค์หญิงหยางจื่อ มีผลงานโดดเด่นและได้ใจประชาเป็นอย่างมาก แต่เพราะเนื่องจากยังไม่มีราชโองการแต่งตั้งทุกอย่างก็ยังคงดำเนินต่อไป องค์ชายรองในยามนั้นคือคู่แข่งคนสำคัญขององค์ชายใหญ่ องค์ชายรองเกิดจากกัวกุ้ยเฟย มีพระขนิษฐาร่วมอุทรคือองค์หญิงเซี่ยหยางหง ที่มีอุปนิสัยเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาและจิตใจโหดเหี้ยมที่สำคัญมักจะคิดแข่งขันกับพี่สาวต่างมารดาอย่างองค์หญิงหยางจื่ออยู่เสมอ วันหนึ่งยามที่แต่งงานออกไปกับเสนาบดีฝ่ายขวาของแคว้น ไม่นานก็ให้กำเนิดบุตรชายหนึ่งคน เดิมคิดว่าตนนั้นเหนือกว่าองค์หญิงหยางจื่อแล้ว แต่ทว่าต่อมาองค์หญิงหยางจ
ตอนพิเศษ[2]เสี่ยวหลงขอร้องเทพชะตา “หมั้นหมาย ๆ เสด็จพ่อกล่าวคำอื่นไม่เป็นแล้วหรือ!” เสี่ยวหลงได้แต่ฟึดฟัดไปมาในใจหงุดหงิดอยู่เพียงผู้เดียว เขายังเป็นเด็กน้อยของนายหญิงจะรีบให้หมั้นหมายไปอันใด ได้ข่าวว่าสตรีผู้นั้นอายุมากกว่าเขาเป็นหมื่นปี นี่ไม่เท่ากับว่าเขากำลังถูกล่อลวงหรือ ไม่ได้! จะให้ร่างกายบริสุทธิ์ของเขาถูกฉกชิงไปไม่ได้! ยามนี้เขานอนอยู่ในสวนท้อบนแดนสวรรค์ เห็นว่าปีนี้มันมีรสชาติที่อร่อยขึ้น จึงอยากมาลองชิมดูว่าจะอร่อยกว่าในมิติหรือไม่ ปรากฏว่าสู้ในมิติไม่ได้สักนิด จึงเตรียมที่จะกลับไปในมิติ ซึ่งก่อนจะไปหางตาของเขาก็เห็นหลังไว ๆ ของใครบางคน นั่นมันตาเฒ่านี่ ใช่แล้ว! เรื่องที่เขากลุ้มใจตาเฒ่าอาจจะช่วยได้ “นี่ ท่านเทพชะตา” “เว้ยยยยย” เทพชะตาตกใจทันทีเมื่อจู่ ๆ ก็มีคนโผล่มาด้านหน้าของตนเอง “องค์ชายห้า ข้าตกใจหมด” “ข้าต้องขอโทษท่านด้วย ข้าไม่ได้ตั้งใจ”เมื่อเทพชราได้ยินอีกฝ่ายกล่าวขอโทษก็เกิดความระแวดระวังโดยทันที เหตุใดองค์ชายห้าดูเป็นมิตรขึ้น “ไม่ต้องระวังข้าถึงเพียงนั้น วันนี้ข้าเพียงอารมณ์ดีเท่านั้น” “อะ…อ้อ แล้วองค์ชายมีอันใดให้ข้ารับใช้หรือ” “รับใช้อันใด
ตอนพิเศษ[1]หานฉิน (เซี่ย?) ร่วมใจหมู่บ้านหวงหลิงนั้นยามนี้เปลี่ยนไปมากจากหมู่บ้านห่างไกลกลายเป็นศูนย์กลางการค้าที่ยิ่งใหญ่ พื้นที่ของหมู่บ้านขยายของไปอย่างมากแต่หากเป็นการขยายไปทางอำเภอจางเย่ หมู่บ้านเฮยจูโหยว มิใช่ทางหมู่บ้านเถียนเกา คิดแล้วก็ขำขันยิ่ง บริเวณแถบนี้ล้วนแต่ร่ำรวยและเจริญขึ้น มีเพียงหมู่บ้านเถียนเกาที่ดิ่งลง เปลี่ยนผู้นำหมู่บ้านมาหลายคน สุดท้ายก็ไม่รอด จนนางได้ข่าวว่าพวกเขาเริ่มขายบ้านแล้วย้ายไปอยู่ที่อื่น แน่นอนผู้ที่รอจังหวะนั้นอยู่คือท่านน้าเจิงซื่อและเสี่ยวจวน ทั้งคู่เริ่มกว้านซื้อที่ดินได้มากมาย อดีตเคยถูกขับไล่ ปัจจุบันกว้านซื้อมาให้หมด!หากได้มาแล้วค่อยขยายพื้นที่มาทางนี้ก็ยังไม่สาย เมื่อถึงยามนั้นจะเปลี่ยนชื่อหมู่บ้านด้วยผ่านไปสองวันเหล่าขบวนผู้สูงศักดิ์ก็เคลื่อนมาถึงอาณาจักรตระกูลฉินกันครบทุกคน “หลินเออร์” เมื่อมาถึงก็พากันวิ่งเข้าหาหลานสาวตัวกลมทันที จากนั้นจึงพากันงัดของขวัญออกมามากมาย มีทั้งอาภรณ์และเครื่องประดับที่งดงามออกมามากมาย เท่านั้นยังไม่พอยังพากันสวมใส่ให้หานหยวนหลินทันที ยามนี้เด็กน้อยราวกับตุ๊กตาล้มลุกก็ไม่ปาน แต่ดูท่าเจ้าตัวจะไม่ปลื้มเท่าใดน
ตอนพิเศษ[1]หานฉิน (เซี่ย?) ร่วมใจหานหยวนเหมินในวัยแปดหนาวกำลังนั่งกอดอกมองน้องสาววัยห้าหนาวอย่างหานหยวนหลินด้วยความไม่สบอารมณ์ “หลินเออร์ พี่บอกให้เจ้าไปขัดขวางท่านพ่อ เหตุใดพอแค่ได้ขนมที่ท่านพ่อไปเอาจากท่านแม่มามอบให้ก็ล้มเลิกแผนการเดิมของเราแล้วเล่า”“พี่ใหญ่ หลินเออร์ว่าท่านปล่อยท่านพ่อท่านแม่ไปเถิด ของอร่อยจะเยียวยาทุกสิ่งนะเจ้าคะ” “ปล่อยอันใดกัน นี่เจ้าลืมแล้วหรือว่าเราไม่เห็นหน้าท่านแม่มากี่วันแล้ว เพราะท่านพ่อมัวแต่กักขังท่านแม่เอาไว้คนเดียวในมิติ เจ้าไม่คิดถึงท่านแม่หรือ” “คิดถึง…...” ใบหน้ากลมของหานหยวนหลินเศร้าลงเมื่อนึกได้ว่าตนคิดถึงท่านแม่ไม่น้อย ท่านแม่มักถูกท่านพ่อนำตัวไปใช้เวลากันสองคนในมิติ ยามออกมาท่านพ่อก็จะใบหน้าสดใส ในขณะที่ท่านแม่ราวกับคนป่วยอ่อนแรง หรือว่าท่านแม่จะโดนบังคับนะ หานหยวนเหมินเมื่อรู้ตัวว่าสามารถกล่อมน้องสาวได้สำเร็จแล้ว จึงได้กล่าวต่อ“หลินเออร์ พวกเราต้องทวงท่านแม่คืนมานะ”ด้านในมิติ“ท่านพี่ พอได้แล้ว ข้าช้ำหมดแล้ว”“หยวนหยวนเจ้าไม่คิดถึงพี่หรือ พี่ทำงานติดกันเป็นเดือนกว่าจะเวลาว่างได้ หรือเจ้าไม่รักพี่แล้ว….” “ท่านไม่ต้องมากล่าวเช่นนี้ หากข
ตอนที่[61]วันขึ้นปีใหม่ “ท่านตา ท่านยาย พี่ใหญ่ หยวนหยวนตอนนี้นางตั้งครรภ์ได้สามเดือนแล้วขอรับ พวกเรากำลังจะมีสมาชิกใหม่แล้วขอรับ” !!!ทุกคนที่ได้ยินต่างก็ตกตะลึง แต่ไม่นานก็แปรเปลี่ยนเป็นความยินดี “ข้ากำลังจะมีเหลนแล้วหรือ หยวนเออร์ดีนัก” นางเฉาซื่อเอ่ยขึ้นก่อนใคร ก่อนจะตามด้วยผู้เฒ่าฉิน ผู้เฒ่าเจียวก็รีบเข้ามาแสดงความยินดีกับสหาย “ข้าดีใจกับเจ้าด้วยนะตาเฒ่า เจ้าจะได้มีเหลนแล้ว ปีใหม่ปีนี้ช่างดีนัก มีข่าวดีให้ชื่นใจด้วย” จากนั้นผู้คนจึงสลับกันมาอวยพรสองสามีภรรยาอย่างคับคั่ง ฉินกุ้ยหยวนเลิกร้องไห้แล้ว นางขำขันตนเองไม่น้อย ร้องไห้ราวกับเด็ก ๆ เจ้าก้อนแป้งที่อยู่ในท้องคงแสบไม่น้อยสินะ ถึงทำให้มารดาเปลี่ยนไปได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ “พี่สะใภ้ข้าอยากเห็นหน้าหลานแล้ว ต้องน่ารักมากแน่ ข้าจะเลี้ยงลูกของพวกท่านจนเติบใหญ่เลย” หานจื่ออี้พูดขึ้นด้วยความตื่นเต้น “แล้วเจ้าไม่เลี้ยงบุตรของเจ้าหรืออย่างไร” “จะยากอันใดก็เอามาเลี้ยงด้วยกันอย่างไรเล่า” หานจื่ออี้กล่าวอย่างไหลลื่น แต่เมื่อคิดว่าตนเพิ่งกล่าวอันใดไปก็มีใบหน้าขึ้นสีพลางมองไปที่คู่หมายแวบหนึ่งนางกล่าวว่าจะมีลูกกับเขาหรือฉินกุ้ยหย
ตอนที่[61]วันขึ้นปีใหม่ “พี่ไม่ อุ๊บ” หานจื่อหลันยังกล่าวไม่จบ เขาก็มีอาการพะอืดพะอมเอามือปิดปากแล้วรีบวิ่งเข้าบ้านไปทันที ฉินกุ้ยหยวนเห็นเช่นนั้นจึงตื่นตระหนกยิ่ง รีบหันมาบอกทุกคน ที่ยามนี้ล้วนแต่หยุดปฏิกิริยาของตนแล้วส่งสายตากังวลไปที่หานจื่อหลัน “เดี๋ยวจะจะจัดการเอง พวกท่านไม่ต้องเป็นห่วงนะเจ้าคะ” ฉินกุ้ยหยวนหันมากล่าวกับทุกคนก่อนที่รีบวิ่งเข้าบ้านไป นางเดินไปด้วยความเร่งร้อน เมื่อไปถึงก็พบว่าหานจื่อหลันอาเจียนออกมาและนั่งล้มพักอยู่ข้างอ่างน้ำในห้องครัวอย่างหมดสภาพ “พี่จื่อหลัน พี่เป็นอันใดกัน ท่านป่วยหรือเจ้าคะ เป็นข้าที่ดูแลท่านไม่ดี” “หยวนหยวน พี่รู้สึก…พะอืดพะอม อยากจะอาเจียนตลอดเวลา พี่…อุ๊บ” เขาลุกขึ้นไปเกาะที่อ่างน้ำนั่นอีกครั้งก่อนจะอาเจียนออกมา “รีบไปที่เครื่องรักษาตนเถิดเจ้าค่ะ” นางไม่อยากรั้งรออันใด รีบคว้าแขนเขาแล้วพาเข้ามิติทันที เมื่อถึงเครื่องรักษาก็รีบประคองเข้าไปนั่งแล้วเริ่มทำการรักษาอย่างด่วนที่สุด หานจื่อหลันที่ได้เข้าเครื่องรักษาไม่นานอาการพะอืดพะอมก็หายดีเป็นปลิดทิ้ง แต่ฉินกุ้ยหยวนนั้นสงสัยนัก ที่หน้าจอแสดงผลของเครื่องรักษาตนที่อัปเกรดใหม่นั้น บ
ตอนที่[61]วันขึ้นปีใหม่ กลับมาที่เหตุการณ์ปัจจุบันนางมองอาณาจักรตระกูลฉินของนางยามนี้ที่คึกคักไม่น้อย ทั้งร้านหมูกระทะและเรือนรับรอง ผู้คนต่างหลั่งไหลกันมาที่นี่อย่างอุ่นหนาฝาคั่ง และที่นี่เหมือนว่าเป็นที่ที่หลายคนตั้งเป้าว่าจะมาฉลองปีใหม่ด้วยกัน ‘สถานที่ที่แสนอบอุ่น’ ทำให้หลายคนกล้าฉีกกรอบวัฒนธรรมเดิม ๆ ที่ปีใหม่ต้องฉลองกันที่บ้านของตนเอง ท่านลุงโหว ท่านลุงหลิว แม้กระทั่งนายช่างฉือยังพาครอบครัวมาฉลองปีใหม่ที่นี่ ก่อนวันขึ้นปีใหม่หนึ่งวันในที่สุดมิติของนางก็มีสัญญาณบางอย่างเกิดขึ้น นางจึงรีบวิ่งเข้าไปในบ้านท่ามกลางการห้ามปรามของสามีที่กลับว่านางจะล้มเอาได้ “ท่านพี่เดี๋ยวข้ามาเจ้าค่ะ” เมื่อเข้าไปในห้องของตนเองนางก็รีบเข้าไปในมิติ “เสี่ยวหลง” “นายหญิง” “เสี่ยวหลงเจ้า….” “นายหญิงเสี่ยวหลงกลับมาแล้ว” หนึ่งคนหนึ่งหมีต่างก็สบตากันกก่อนจะโผกอดกันด้วยความคิดถึง “ข้ารอเจ้าอยู่กลัวว่าเจ้าจะไม่กลับมา” “เสี่ยวหลงจะไม่มาได้อย่างไร ในเมื่อนายหญิงอยู่ที่นี่ ท่านตาผู้เฒ่า ท่านยายผู้เฒ่า ฮูหยินท่านแม่ ไหนจะคนอื่น ๆ อีก เสี่ยวหลงต้องกลับมาอยู่แล้ว” ที่จริงแล้วหน้าที่บนโลกมนุษย์ของ
ตอนที่[61]วันขึ้นปีใหม่เสี่ยวหลงกลับไปแดนสวรรค์นานแล้ว เขาส่งข่าวคราวมาแค่ช่วงแรกแล้วหลังจากนั้นบอกว่าต้องเข้าถ้ำเพื่อไปบำเพ็ญตบะคงไม่ได้ติดต่อกลับมาอีกจนกว่าการบำเพ็ญตบะจะเสร็จสิ้น เวลาผันไปกว่าแปดเดือนแล้ว อีกไม่กี่วันก็เข้าถึงการเฉลิมฉลองปีใหม่ ไม่รู้ว่าเขาจะกลับมาทันได้ฉลองร่วมกันหรือไม่ “คิดถึงเสี่ยวหลงอยู่หรือ” เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นพร้อมอ้อมกอดที่อบอุ่นที่กอดกระชับมาจากด้านหลัง เมื่อเห็นว่าเป็นสามีสุดที่รักของนางรอยยิ้มก็เปิดกว้างขึ้น“เจ้าค่ะ เขาหายไปนานแล้ว คิดถึงเขาไม่รู้ว่าจะกลับมาทันปีใหม่หรือไม่” ยามนี้นางอยู่ที่อาณาจักรตระกูลฉิน อย่างไรนางก็อยากกลับมาเฉลิมฉลองปีใหม่อยู่ที่นี่ พี่ใหญ่ก็กลับมาด้วยเนื่องจากข้าราชการก็มีวันหยุดเพื่อจะได้กลับบ้านมาฉลองปีใหม่เช่นกัน แต่ทว่าเขาเกือบจะไม่ได้กลับมาพร้อมนางแล้ว เพราะเมื่อไม่กี่วันก่อน เขาพาครอบครัวมาที่จวนตระกูลหานพร้อมกล่าวบางอย่างที่ชวนหยุดหายใจ “องค์หญิง ท่านเสนา ท่านชาย ข้าฉินกุ้ยหยางอยากจะมาสู่ขอท่านหญิงหานจื่ออี้มาเป็นฮูหยินของข้าขอรับ” “……”อย่าว่าแต่ครอบครัวหานตกใจเลย ครอบครัวของนางก็เช่นกัน เพราะพี่ใหญ่ไม่มีสัญญาณว่า
ตอนที่[60]ความจริงของเสี่ยวหลงในช่วงก่อนที่เขาจะจัดการกับคนที่สวีหุ่ยส่งมา นั่นคือเป็นช่วงที่พลังของเขากลับมาเรื่อย ๆ จนสามารถกลายเป็นร่างมังกรดำได้ และในที่สุดสามปีผ่านไปในตอนที่นายหญิงมั่งคั่งและมีความสุขมากที่สุดเขาก็ได้ร่างเดิมกลับ ไม่สิ ร่างใหม่เพราะยามนี้เขาได้ผ่านเคราะห์และเลื่อนระดับพลังเป็นที่เรียบร้อยฉินกุ้ยหยวนเป็นห่วงเสี่ยวหลงมากเพราะยามนี้เขาหายไปเหลือแต่เจ้ามังกรยักษ์ที่น่าเกรงขามแทน แต่ทว่าเมื่อมองสบตาของเจ้ามังกรตัวนั้นมันช่างคุ้นเคยเหลือ จนกระทั่งที่เขาได้ยินเสียงของมัน “นายหญิง” “เสี่ยวหลง!!”เหตุใดเสี่ยวหลงของนางจึงกลายเป็นมังกรทองไปได้ หรือว่าเป็นดังเช่นคราวก่อนที่เขาแกล้งแปลงร่างเป็นมังกรดำเพื่อไปจัดการกับคนของสวีหุ่ยหานจื่อหลันนั่นพบว่าแม้ว่าจะผ่านไปสามปีแต่ก็มีเรื่องมาให้เขาแปลกใจอยู่ตลอด ในมิติแห่งนี้เขาได้เข้ามาบ่อยครั้ง จนรู้สึกสนิทใจกับเจ้าหมีขาวตัวยักษ์นี่แล้ว แต่วันนี้กลับพบเขาในรูปลักษณ์ที่แปลกตาออกไป ยิ่งยามนี้ที่เขากล่าวเพื่อยืนยันบางอย่างกับพวกเขา“นายหญิง นายท่านสามี เสี่ยวหลงเดิมที่มิใช่หมีขาวแต่เป็นมังกรทองขอรับ” “…..”จากนั้นเจ้ามังกรทอง ก
ตอนที่[60]ความจริงของเสี่ยวหลง ร่างของมังกรทองตัวเขื่องนอนหายใจรวยรินหลังจากผ่านการระเบิดเลื่อนขั้นพลังขั้นใหญ่มาย้อนไปก่อนที่หยกจะมาเป็นฉินกุ้ยหยวน ดินแดนสวรรค์ เกิดเรื่องใหญ่เกิดขึ้นกับเทพชราผู้หนึ่ง ‘เทพชะตา’ เขาเดินงุ่นง่าน สีหน้าไม่สู้ดีนัก คิดอย่างปลงไม่ตกว่าจะทำอย่างไรดี เขาทำพลาดครั้งยิ่งใหญ่ “ท่านเทพชะตาหาอันใดอยู่หรือ” จ้าวหนิงหลงหรือเสี่ยวหลง มังกรทองตัวน้อยบุตรชายคนเล็กของราชามังกรเอ่ยถามขึ้น เมื่อเห็นว่าเทพชราของดินแดนสวรรค์เอาแต่เดินก้มหน้าก้มตาวนรอบบริเวณเดิมคล้ายกับหาของบางอย่าง ในขณะนั้นเองที่ดวงตาของเทพชะตาก็เปล่งประกาย เขารอดแล้ว! ที่จริงแล้วเทพชะตานั้นทำผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงคือการไปดึงดวงวิญญาณที่อนาคตต่อไปจะรุ่งเรืองและเติบโตอย่างมากในภายภาคหน้า แต่เขากลับไปทำให้นางต้องจบชีวิตลงจากการทำงานผิดพลาด หากเป็นคนทั่วไปก็ว่าไปเถิด แต่นี่เป็นคนที่แต้มบุญกำลังจะทำงาน แต่เขาดันไปขัดขวางทำให้นางหมดโอกาสที่จะใช้ชีวิตในชาตินั้น จะแก้ไขอันใดก็ไม่ได้ เพราะเขาไม่มีพลังมากพอ สิ่งที่พอจะทำได้คือการดึงวิญญาณของนางส่งไปใช้ชีวิตที่โลกอื่นแต่อย่างที่บอกหลังจากใช้พลังในการ