ตอนที่[51]ภัยคุกคามเมื่อได้ยินว่ามีอันใดเกี่ยวข้องกับหมู่บ้านหวงหลิง ซึ่งนั่นก็เกี่ยวข้องกับนางโดยตรง ฉินกุ้ยหยวนไม่อาจอยู่นิ่งได้ หานจื่อหลันก็คิดว่ามาถึงขั้นนี้ก็ไม่ควรมีอะไรต้องปิดบังอีกทั้งจะได้หาทางป้องกันไว้“หยวนหยวนนั่งก่อน หากจะให้เล่าคงต้องเล่าตั้งแต่ต้นเหตุ ในยามที่อดีตองค์ฮ่องเต้ยังไม่ได้แต่งตั้งองค์รัชทายาท…...”ในยามนั้นล้วนแต่มีพยายามที่จะแย่งชิงตำแหน่งกันทุกวิถีทาง แต่ทว่าฮ่องเต้องค์ปัจจุบันหรือองค์ชายใหญ่ที่เกิดจากอดีตฮองเฮามีพระขนิษฐาร่วมอุทรคือองค์หญิงหยางจื่อ มีผลงานโดดเด่นและได้ใจประชาเป็นอย่างมาก แต่เพราะเนื่องจากยังไม่มีราชโองการแต่งตั้งทุกอย่างก็ยังคงดำเนินต่อไป องค์ชายรองในยามนั้นคือคู่แข่งคนสำคัญขององค์ชายใหญ่ องค์ชายรองเกิดจากกัวกุ้ยเฟย มีพระขนิษฐาร่วมอุทรคือองค์หญิงเซี่ยหยางหง ที่มีอุปนิสัยเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาและจิตใจโหดเหี้ยมที่สำคัญมักจะคิดแข่งขันกับพี่สาวต่างมารดาอย่างองค์หญิงหยางจื่ออยู่เสมอ วันหนึ่งยามที่แต่งงานออกไปกับเสนาบดีฝ่ายขวาของแคว้น ไม่นานก็ให้กำเนิดบุตรชายหนึ่งคน เดิมคิดว่าตนนั้นเหนือกว่าองค์หญิงหยางจื่อแล้ว แต่ทว่าต่อมาองค์หญิงหยางจ
ตอนที่[51]ภัยคุกคาม แต่ผู้ใดจะคาดคิดว่าพวกเขากำลังมีความสุข กินอาหารอร่อยอยู่ที่นี่ หานจื่ออี้คิดพร้อมทั้งเผยสายตายิ้มเยาะ “พี่คิดว่าพวกเขาจะเริ่มโจมตีเมืองหลวงหลังเหมันต์นี้หรือก็คืออีกหนึ่งเดือนข้างหน้า เพราะกองกำลังที่พวกมันฝึกล้วนแต่ป่าเถื่อนและแข็งแกร่งเพื่อการนี้” จากที่เขาให้คนไปซุ่มดู มีทหารหลายหมื่นนายพละกำลังล้วนแต่ไม่ธรรมดา “จึงได้เขียนจดหมายปรึกษากับองค์ฮ่องเต้ว่าจะตัดกำลังพวกเขาโดยการปล้นเสบียงของของเขามา ยิ่งสภาพอากาศเช่นนี้หากไม่มีอาหารยิ่งอยู่ลำบาก และพวกเราก็ทำได้สำเร็จ แต่ว่าคงเป็นการบีบคั้นพวกมันมากเกินไปทำให้กองกำลังที่ปิดเร้นซ่อนตัวมาโดยตลอด คิดอยากจะหาเสบียงโดยไม่สนวิธีการ” “ท่านหมายถึง….” “พวกมันคิดจะปล้นชาวบ้าน และหมู่บ้านที่โด่งดังและมีชื่อเสียงขึ้นในช่วงนี้นั่นก็คือ” “หมู่บ้านหวงหลิงแห่งนี้!” ก่อกบฏทั้งยังจะมารังแกชาวบ้านอีก ช่างกล้านัก! ฉินกุ้ยหยางที่ฟังอยู่อย่างเงียบ ๆ เมื่อฟังจบก็เผยสีหน้าเคร่งเครียดทันที ไม่ว่าอย่างไร เขาจะต้องปกป้องครอบครัวให้ได้! “เอ่อ ข้าขอถามบางอย่างได้หรือไม่เจ้าคะ” “มีอันใดหรือ” หานจื่อหลันสงสัยในท่าทางของอีกฝ่าย “
ตอนที่[52]ขอร้องหลังจากที่ฟังคนในกระโจมพูดคุยกันจนแล้วเสร็จเรียบร้อย จึงได้พากันถอยออกจากจากค่ายนั้นพอสมควรเพื่อปรึกษาบางอย่างกันเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ แน่นอนว่าหานจื่อหลันได้รายงานสถานการณ์โดยนกพิราบสื่อสารให้องค์ฮ่องเต้ไปแล้ว ในยามฉินกุ้ยหยวนยามนี้กำลังคิดหนัก เพราะหากว่าปล่อยให้ฮ่องเต้ส่งกองทัพทหารเพื่อมาที่นี่เพื่อจัดการกบฏยิ่งในช่วงสภาพอากาศเช่นนี้คงเต็มไปด้วยความยากลำบากและจากนั้นคงจะเกิดการสูญเสียไม่น้อย และหากว่ามีการปะทะกันจริง ๆ ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงจะต้องได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน ซึ่งนางไม่ต้องการเช่นนั้น ที่จริงแล้วด้วยพลังของเสี่ยวหลงในยามนี้หากต้องมาผนวกกำลังกับนาง กองทัพของกัวเฉิงจะนับว่าเป็นอันใด แต่หากทำเช่นนั้นองค์ฮ่องเต้จะมองว่านางแปลกจนคิดระแวงกันในภายภาคหน้าหรือไม่ แล้วหานจื่อหลัน เขาจะคิดอย่างไรกับนาง ยามนี้นางกล่าวได้ว่ามีความไว้ใจและรู้สึกดีกับเขาไม่น้อย แต่อย่างไรเสียหายเพียงแค่ตนเองย่อมดีกว่าปล่อยให้ผลกระทบต้องไปตกที่ชาวบ้านที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไร หากว่าต่อไปพวกเขาคิดว่านางเป็นภัยอยากจะกำจัด นางก็แค่พาครอบครัวหนีไปอยู่ที่อื่นและอาศัยอยู่ในมิติเป็นหลั
ตอนที่[52]ขอร้อง “เราจะนำไม้เหล่านี้ไปปักให้ทั่วค่ายแห่งนี้ กล่าวคือคล้ายเป็นการล้อมรอบค่ายเอาไว้ ปักให้แน่นเลยนะเจ้าคะ เสร็จแล้วค่อยกลับมาพบกันที่นี่” แม้จะสงสัยแต่ทุกคนก็พยักหน้ารับ “เดี๋ยวพี่ไปกับเจ้า คอยดูแลความปลอดภัยให้เจ้า” หานจื่อหลันว่าแล้วก็รีบดึงมืออีกฝ่ายออกไป ทิ้งให้ฉินกุ้ยหยางและว่านเสิ่นมองหน้ากัน ก่อนจะพยักหน้าให้กันอย่างทำอันใดมิได้ แม้อากาศภายนอกจะหนาวเย็นแต่มือของนางที่ถูกเขากุมอยู่กลับให้รู้สึกอบอุ่นไม่น้อย อบอุ่นไปถึงหัวใจ…. “พวกเราเริ่มปักไว้กันเถิดเจ้าค่ะ” “อืม เริ่มกันเลย” “แต่….” “มีอันใดหรือ” นางไม่ได้ตอบที่เลือกที่จะมองไปทางมือที่เขากำลังกุมนางไว้อยู่ หากกุมมือไว้เช่นนี้เห็นทีจะทำอันใดไม่ได้แน่ “อ่า พี่ลืมไป” หานจื่อหลันเก้อเขินไม่น้อย นี่เป็นครั้งแรกที่เขากุมมือของนาง เขาไม่อยากปล่อยเลยสักนิด แต่ก็ต้องปล่อยอย่างเสียดาย เพราะคืนนี้มีภารกิจสำคัญที่ต้องทำ พวกเขาพยายามกระทำการอย่างเงียบเชียบ จวบจนกระทั่งผ่านไปราวครึ่งชั่วยามทุกอย่างก็เสร็จสิ้น “หนาวมาก พวกเรารีบเข้าไปในรถเหล็กกันเถิด จะได้กลับกันเสียที นี่ก็ดึกแล้วเป็นเวลาที่จะต้องพักผ่อนพรุ่งนี
ตอนที่[52]ขอร้อง “เอาชุดใหญ่มาเลย” อันไฉ่หัวหน้ากลุ่มเอ่ยสั่งอาหารทันที ใบหน้าของทั้งห้าคนมีเหมือนกันนั่นก็คือความดุดัน แต่ทว่าเมื่ออาหารเข้าปากคำแรกสีหน้าของคนทั้งหมดก็เปลี่ยนไปโดยทันที “นะ…นี่ มันเนื้อหมูสวรรค์อันใด!” “น้ำจิ้มนี้ก็รสดีนัก!” ความดุดันหายไปโดยทันที เหลือเพียงผู้ที่ตกอยู่ในห้วงรักแห่งอาหารเท่านั้น รู้ตัวอีกทีก็กินหมดชุดแรกไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงได้สั่งชุดที่สองต่อทันที จังหวะที่รออาหารนี้เองพวกเขาจึงได้สอดส่องสายตามองไปโดยรอบ ร้านอาหารนี่คนเยอะจริง ๆ และดูเหมือนว่าจะมีกระโจมสำหรับให้คนเข้าพักมากมาย เงินที่ได้แต่ละวันคงไม่น้อย เขาคงต้องมีเรื่องรายงานเพิ่ม นอกจากมาปล้นเสบียงที่นี่แล้ว ควรจับตัวพ่อครัวแม่ครัวที่นี่กลับค่ายไปด้วย หากพวกเขาได้กินอาหารที่เลิศรสเช่นนี้ทุกวัน นั่นจะมีความสุขและมีพละกำลังมากเพียงใด พวกเขาไปแล้ว “หยวนเออร์ แผนการคืนนี้คืออย่างไร” องค์หญิงหยางจื่อร้อนใจไม่น้อย หากมีอันใดผิดพลาดมาชีวิตของทุกคนจะเป็นเช่นไร โดยเฉพาะชาวบ้านเหล่านั้น ยอมรับว่าเมื่อมาอยู่ที่นี่เป็นเวลากว่าสามเดือน นางย่อมผูกพันกับคนที่นี่ไม่น้อย ชาวบ้านใสซื่อและมีน้ำใจ
ตอนที่[53]เก็บกวาด หานจื่อหลันแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาว่าทหารรูปร่างสูงใหญ่หน้าตาดุดันของกัวเฉิงนับหมื่นนายยามนี้จะตกอยู่ในสภาพไร้เรี่ยวแรง นอนหมดสภาพตามมุมต่าง ๆ มุมปากมีน้ำลายไหลย้อยออกมาอย่างควบคุมตนเองไม่ได้ ทุกคนตกอยู่ในสภาพเช่นนี้กันหมดแม้แต่กัวเฉิงผู้เป็นผู้นำเอง “พี่จื่อหลันบอกว่าเขารังแกท่านใช่หรือไม่เจ้าคะ เขาทำให้ท่านเดินไม่ได้ วันนี้ข้าเอาคืนให้ท่านแล้ว แต่อาจจะมากกว่าสักหน่อย” ประโยคท้ายนางกล่าวอย่างทะเล้น “หยวนหยวน” แต่ทว่าหานจื่อหลันกลับเต็มไปด้วยสีหน้าจริงจังและซาบซึ้งใจ นี่นางแก้แค้นให้เขาหรือ หมับ! “…..” “พี่รู้แล้ว ว่าสตรีผู้นั้นของพี่ต้องเป็นเจ้า รู้ตั้งแต่แรกเห็น” “…..” เขาหาพบแล้ว สตรีที่ทำเพื่อเขาจากใจจริง และเป็นสตรีที่เขาอยากมอบแต่สิ่งดี ๆ ให้ ฉินกุ้ยหยวนพยายามดึงกายออกจากการเกาะกุมของอีกคน นางจะไม่เป็นอันใดมาก หากมิใช่ว่ายามนี้กำลังมีสายตาของผู้อื่นมองมามากมาย ทั้งครอบครัวนาง องค์หญิงหยางจื่อและคณะ ท่านลุงหลิว กลุ่มทหารลับของหานจื่อหลัน โดยเฉพาะว่านเสิ่นที่เอาแต่ทำใบหน้ากรุ้มกริ่มอีก ด้านหานจื่อหลันก็เริ่มรู้ตนเองแล้วว่าทำอันใดลงไปก็ได้แต่ขอโทษน
ตอนที่[53]เก็บกวาด ผ่านไปสองวันกองทัพทหารที่เดินทางด้วยรถเหล็กอันแปลกตาสำหรับพวกเขาก็เดินทางมาถึงหมู่บ้านหวงหลิง ชาวบ้านหวงหลิงเมื่อได้รับบรู้ข่าวว่าเมื่อสองวันที่แล้วเกิดอันใดขึ้นก็ได้แต่ขอบคุณฉินกุ้ยหยวนและคุณชายเซี่ยผู้นั้น ที่ร่วมมือกันจัดการพวกคนไม่ดีเหล่านั้นจนสิ้นซากไป “ท่านชายขอรับ” แม่ทัพว่าน ผู้เป็นบิดาของว่านเสิ่นทำความเคารพหานจื่อหลันด้วยความนอบน้อม “แม่ทัพว่านอย่าได้มากพิธี เราคนกันเอง” ว่านเสียนมองผู้สูงศักดิ์ในตาของเขามีน้ำตาคลออยู่ไม่น้อย “ท่านหายแล้ว ข้าน้อยดีใจอย่างยิ่งขอรับ” “ข้าเจอคนดีและมีความสามารถน่ะ” ว่านเสียนขมวดคิ้วแปลกใจ นี่ท่านชายดูแปลกไปหรือไม่ สังเกตได้ว่าถ้อยคำเมื่อครู่มีความอ่อนโยนอยู่ในที ก่อนจะหันไปมองใบหน้าของบุตรชายที่ยืนอยู่ไม่ไกล ว่านเสิ่นทำท่าราวกับมีความอัดอั้น แต่ก็ส่งสัญญาณให้บิดาว่าค่อยคุยกัน “ท่านชายพอจะบอกข้าน้อยได้หรือไม่ขอรับว่าเกิดอันใดขึ้น เหตุใดจึงต้องลดกำลังทหารลง ไม่ใช่ว่าพวกมันแข็งแกร่งนักหรือ” ตลอดการเดินทางว่านเสียนกังวลไม่น้อย ทหารที่เดินทางมาด้วยกันไม่นับว่ามาก หากต้องต่อสู้อาจจะพบปัญหาไม่น้อย “อ้อ แล้วอยากจะถามเรื
ตอนที่[53]เก็บกวาด “คือว่าข้าน้อยสนใจเจ้ารถเหล็กนั่นมากเหลือเกิน มันวิเศษเกินกว่ายานพาหนะที่แคว้นเรามี ไม่สิ แคว้นอื่นก็น่าจะไม่มี หากว่าได้มันมาใช้ในกองทัพ….” “เรื่องนั้นท่านไม่ต้องห่วง เดี๋ยวข้าจะจัดการเอง ข้าเคยพูดกับนางไว้แล้ว ไม่แน่ว่าขากลับท่านอาจจะได้เจ้ารถเหล็กหลายคันกลับไปด้วยก็ได้” “จริงหรือขอรับ!” ว่านเสียนได้ยินเช่นนั้นก็ให้ดีใจ ก่อนจะลงมือกินอาหารเลิศรสอย่างหมูกระทะโดยที่ไม่ได้สนใจอันใดมากอีก หมูย่างกินกับผักดองตระกูลฉินอร่อยมาก กินกับน้ำจิ้มก็ดี กินกับผักสดกรอบ ๆ ยิ่งดี เขาไม่รู้เลยว่าในสภาวะอากาศเช่นนี้ ผู้เป็นเจ้าของไปเอาผักสด ๆ เช่นนี้มาจากที่ใด ด้านทหารที่เดิมทีคิดว่าตนจะต้องมาออกรบ และมีโอกาสสูงจะต้องสิ้นชีพในสนามรบเพราะศัตรูนั้นแข็งแกร่งมาก ยามนี้กำลังคีบหมูเข้าปากอย่างเอาเป็นเอาตาย หมูหมักรสเด็ดที่ชวนละลายในปากเช่นนี้พวกเขาไม่เคยกินมาก่อน แม้บางคนจะเป็นตำแหน่งสูง แต่ก็ไม่เคยได้ลิ้มรสรสชาติเช่นนี้ ทั้งยังกินไปก็ไม่ต้องทรมานกับอากาศหนาวเย็น เป็นการกินที่มีความสุขมาก ยิ่งยามที่วางชิ้นเนื้อหมูลงบนกระทะแล้วเกิดเสียงซู่ซ่า ในใจยิ่งรู้สึกราวกับถูกกระตุ้น น้ำหมักข
ตอนพิเศษ[2]เสี่ยวหลงขอร้องเทพชะตา “หมั้นหมาย ๆ เสด็จพ่อกล่าวคำอื่นไม่เป็นแล้วหรือ!” เสี่ยวหลงได้แต่ฟึดฟัดไปมาในใจหงุดหงิดอยู่เพียงผู้เดียว เขายังเป็นเด็กน้อยของนายหญิงจะรีบให้หมั้นหมายไปอันใด ได้ข่าวว่าสตรีผู้นั้นอายุมากกว่าเขาเป็นหมื่นปี นี่ไม่เท่ากับว่าเขากำลังถูกล่อลวงหรือ ไม่ได้! จะให้ร่างกายบริสุทธิ์ของเขาถูกฉกชิงไปไม่ได้! ยามนี้เขานอนอยู่ในสวนท้อบนแดนสวรรค์ เห็นว่าปีนี้มันมีรสชาติที่อร่อยขึ้น จึงอยากมาลองชิมดูว่าจะอร่อยกว่าในมิติหรือไม่ ปรากฏว่าสู้ในมิติไม่ได้สักนิด จึงเตรียมที่จะกลับไปในมิติ ซึ่งก่อนจะไปหางตาของเขาก็เห็นหลังไว ๆ ของใครบางคน นั่นมันตาเฒ่านี่ ใช่แล้ว! เรื่องที่เขากลุ้มใจตาเฒ่าอาจจะช่วยได้ “นี่ ท่านเทพชะตา” “เว้ยยยยย” เทพชะตาตกใจทันทีเมื่อจู่ ๆ ก็มีคนโผล่มาด้านหน้าของตนเอง “องค์ชายห้า ข้าตกใจหมด” “ข้าต้องขอโทษท่านด้วย ข้าไม่ได้ตั้งใจ”เมื่อเทพชราได้ยินอีกฝ่ายกล่าวขอโทษก็เกิดความระแวดระวังโดยทันที เหตุใดองค์ชายห้าดูเป็นมิตรขึ้น “ไม่ต้องระวังข้าถึงเพียงนั้น วันนี้ข้าเพียงอารมณ์ดีเท่านั้น” “อะ…อ้อ แล้วองค์ชายมีอันใดให้ข้ารับใช้หรือ” “รับใช้อันใด
ตอนพิเศษ[1]หานฉิน (เซี่ย?) ร่วมใจหมู่บ้านหวงหลิงนั้นยามนี้เปลี่ยนไปมากจากหมู่บ้านห่างไกลกลายเป็นศูนย์กลางการค้าที่ยิ่งใหญ่ พื้นที่ของหมู่บ้านขยายของไปอย่างมากแต่หากเป็นการขยายไปทางอำเภอจางเย่ หมู่บ้านเฮยจูโหยว มิใช่ทางหมู่บ้านเถียนเกา คิดแล้วก็ขำขันยิ่ง บริเวณแถบนี้ล้วนแต่ร่ำรวยและเจริญขึ้น มีเพียงหมู่บ้านเถียนเกาที่ดิ่งลง เปลี่ยนผู้นำหมู่บ้านมาหลายคน สุดท้ายก็ไม่รอด จนนางได้ข่าวว่าพวกเขาเริ่มขายบ้านแล้วย้ายไปอยู่ที่อื่น แน่นอนผู้ที่รอจังหวะนั้นอยู่คือท่านน้าเจิงซื่อและเสี่ยวจวน ทั้งคู่เริ่มกว้านซื้อที่ดินได้มากมาย อดีตเคยถูกขับไล่ ปัจจุบันกว้านซื้อมาให้หมด!หากได้มาแล้วค่อยขยายพื้นที่มาทางนี้ก็ยังไม่สาย เมื่อถึงยามนั้นจะเปลี่ยนชื่อหมู่บ้านด้วยผ่านไปสองวันเหล่าขบวนผู้สูงศักดิ์ก็เคลื่อนมาถึงอาณาจักรตระกูลฉินกันครบทุกคน “หลินเออร์” เมื่อมาถึงก็พากันวิ่งเข้าหาหลานสาวตัวกลมทันที จากนั้นจึงพากันงัดของขวัญออกมามากมาย มีทั้งอาภรณ์และเครื่องประดับที่งดงามออกมามากมาย เท่านั้นยังไม่พอยังพากันสวมใส่ให้หานหยวนหลินทันที ยามนี้เด็กน้อยราวกับตุ๊กตาล้มลุกก็ไม่ปาน แต่ดูท่าเจ้าตัวจะไม่ปลื้มเท่าใดน
ตอนพิเศษ[1]หานฉิน (เซี่ย?) ร่วมใจหานหยวนเหมินในวัยแปดหนาวกำลังนั่งกอดอกมองน้องสาววัยห้าหนาวอย่างหานหยวนหลินด้วยความไม่สบอารมณ์ “หลินเออร์ พี่บอกให้เจ้าไปขัดขวางท่านพ่อ เหตุใดพอแค่ได้ขนมที่ท่านพ่อไปเอาจากท่านแม่มามอบให้ก็ล้มเลิกแผนการเดิมของเราแล้วเล่า”“พี่ใหญ่ หลินเออร์ว่าท่านปล่อยท่านพ่อท่านแม่ไปเถิด ของอร่อยจะเยียวยาทุกสิ่งนะเจ้าคะ” “ปล่อยอันใดกัน นี่เจ้าลืมแล้วหรือว่าเราไม่เห็นหน้าท่านแม่มากี่วันแล้ว เพราะท่านพ่อมัวแต่กักขังท่านแม่เอาไว้คนเดียวในมิติ เจ้าไม่คิดถึงท่านแม่หรือ” “คิดถึง…...” ใบหน้ากลมของหานหยวนหลินเศร้าลงเมื่อนึกได้ว่าตนคิดถึงท่านแม่ไม่น้อย ท่านแม่มักถูกท่านพ่อนำตัวไปใช้เวลากันสองคนในมิติ ยามออกมาท่านพ่อก็จะใบหน้าสดใส ในขณะที่ท่านแม่ราวกับคนป่วยอ่อนแรง หรือว่าท่านแม่จะโดนบังคับนะ หานหยวนเหมินเมื่อรู้ตัวว่าสามารถกล่อมน้องสาวได้สำเร็จแล้ว จึงได้กล่าวต่อ“หลินเออร์ พวกเราต้องทวงท่านแม่คืนมานะ”ด้านในมิติ“ท่านพี่ พอได้แล้ว ข้าช้ำหมดแล้ว”“หยวนหยวนเจ้าไม่คิดถึงพี่หรือ พี่ทำงานติดกันเป็นเดือนกว่าจะเวลาว่างได้ หรือเจ้าไม่รักพี่แล้ว….” “ท่านไม่ต้องมากล่าวเช่นนี้ หากข
ตอนที่[61]วันขึ้นปีใหม่ “ท่านตา ท่านยาย พี่ใหญ่ หยวนหยวนตอนนี้นางตั้งครรภ์ได้สามเดือนแล้วขอรับ พวกเรากำลังจะมีสมาชิกใหม่แล้วขอรับ” !!!ทุกคนที่ได้ยินต่างก็ตกตะลึง แต่ไม่นานก็แปรเปลี่ยนเป็นความยินดี “ข้ากำลังจะมีเหลนแล้วหรือ หยวนเออร์ดีนัก” นางเฉาซื่อเอ่ยขึ้นก่อนใคร ก่อนจะตามด้วยผู้เฒ่าฉิน ผู้เฒ่าเจียวก็รีบเข้ามาแสดงความยินดีกับสหาย “ข้าดีใจกับเจ้าด้วยนะตาเฒ่า เจ้าจะได้มีเหลนแล้ว ปีใหม่ปีนี้ช่างดีนัก มีข่าวดีให้ชื่นใจด้วย” จากนั้นผู้คนจึงสลับกันมาอวยพรสองสามีภรรยาอย่างคับคั่ง ฉินกุ้ยหยวนเลิกร้องไห้แล้ว นางขำขันตนเองไม่น้อย ร้องไห้ราวกับเด็ก ๆ เจ้าก้อนแป้งที่อยู่ในท้องคงแสบไม่น้อยสินะ ถึงทำให้มารดาเปลี่ยนไปได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ “พี่สะใภ้ข้าอยากเห็นหน้าหลานแล้ว ต้องน่ารักมากแน่ ข้าจะเลี้ยงลูกของพวกท่านจนเติบใหญ่เลย” หานจื่ออี้พูดขึ้นด้วยความตื่นเต้น “แล้วเจ้าไม่เลี้ยงบุตรของเจ้าหรืออย่างไร” “จะยากอันใดก็เอามาเลี้ยงด้วยกันอย่างไรเล่า” หานจื่ออี้กล่าวอย่างไหลลื่น แต่เมื่อคิดว่าตนเพิ่งกล่าวอันใดไปก็มีใบหน้าขึ้นสีพลางมองไปที่คู่หมายแวบหนึ่งนางกล่าวว่าจะมีลูกกับเขาหรือฉินกุ้ยหย
ตอนที่[61]วันขึ้นปีใหม่ “พี่ไม่ อุ๊บ” หานจื่อหลันยังกล่าวไม่จบ เขาก็มีอาการพะอืดพะอมเอามือปิดปากแล้วรีบวิ่งเข้าบ้านไปทันที ฉินกุ้ยหยวนเห็นเช่นนั้นจึงตื่นตระหนกยิ่ง รีบหันมาบอกทุกคน ที่ยามนี้ล้วนแต่หยุดปฏิกิริยาของตนแล้วส่งสายตากังวลไปที่หานจื่อหลัน “เดี๋ยวจะจะจัดการเอง พวกท่านไม่ต้องเป็นห่วงนะเจ้าคะ” ฉินกุ้ยหยวนหันมากล่าวกับทุกคนก่อนที่รีบวิ่งเข้าบ้านไป นางเดินไปด้วยความเร่งร้อน เมื่อไปถึงก็พบว่าหานจื่อหลันอาเจียนออกมาและนั่งล้มพักอยู่ข้างอ่างน้ำในห้องครัวอย่างหมดสภาพ “พี่จื่อหลัน พี่เป็นอันใดกัน ท่านป่วยหรือเจ้าคะ เป็นข้าที่ดูแลท่านไม่ดี” “หยวนหยวน พี่รู้สึก…พะอืดพะอม อยากจะอาเจียนตลอดเวลา พี่…อุ๊บ” เขาลุกขึ้นไปเกาะที่อ่างน้ำนั่นอีกครั้งก่อนจะอาเจียนออกมา “รีบไปที่เครื่องรักษาตนเถิดเจ้าค่ะ” นางไม่อยากรั้งรออันใด รีบคว้าแขนเขาแล้วพาเข้ามิติทันที เมื่อถึงเครื่องรักษาก็รีบประคองเข้าไปนั่งแล้วเริ่มทำการรักษาอย่างด่วนที่สุด หานจื่อหลันที่ได้เข้าเครื่องรักษาไม่นานอาการพะอืดพะอมก็หายดีเป็นปลิดทิ้ง แต่ฉินกุ้ยหยวนนั้นสงสัยนัก ที่หน้าจอแสดงผลของเครื่องรักษาตนที่อัปเกรดใหม่นั้น บ
ตอนที่[61]วันขึ้นปีใหม่ กลับมาที่เหตุการณ์ปัจจุบันนางมองอาณาจักรตระกูลฉินของนางยามนี้ที่คึกคักไม่น้อย ทั้งร้านหมูกระทะและเรือนรับรอง ผู้คนต่างหลั่งไหลกันมาที่นี่อย่างอุ่นหนาฝาคั่ง และที่นี่เหมือนว่าเป็นที่ที่หลายคนตั้งเป้าว่าจะมาฉลองปีใหม่ด้วยกัน ‘สถานที่ที่แสนอบอุ่น’ ทำให้หลายคนกล้าฉีกกรอบวัฒนธรรมเดิม ๆ ที่ปีใหม่ต้องฉลองกันที่บ้านของตนเอง ท่านลุงโหว ท่านลุงหลิว แม้กระทั่งนายช่างฉือยังพาครอบครัวมาฉลองปีใหม่ที่นี่ ก่อนวันขึ้นปีใหม่หนึ่งวันในที่สุดมิติของนางก็มีสัญญาณบางอย่างเกิดขึ้น นางจึงรีบวิ่งเข้าไปในบ้านท่ามกลางการห้ามปรามของสามีที่กลับว่านางจะล้มเอาได้ “ท่านพี่เดี๋ยวข้ามาเจ้าค่ะ” เมื่อเข้าไปในห้องของตนเองนางก็รีบเข้าไปในมิติ “เสี่ยวหลง” “นายหญิง” “เสี่ยวหลงเจ้า….” “นายหญิงเสี่ยวหลงกลับมาแล้ว” หนึ่งคนหนึ่งหมีต่างก็สบตากันกก่อนจะโผกอดกันด้วยความคิดถึง “ข้ารอเจ้าอยู่กลัวว่าเจ้าจะไม่กลับมา” “เสี่ยวหลงจะไม่มาได้อย่างไร ในเมื่อนายหญิงอยู่ที่นี่ ท่านตาผู้เฒ่า ท่านยายผู้เฒ่า ฮูหยินท่านแม่ ไหนจะคนอื่น ๆ อีก เสี่ยวหลงต้องกลับมาอยู่แล้ว” ที่จริงแล้วหน้าที่บนโลกมนุษย์ของ
ตอนที่[61]วันขึ้นปีใหม่เสี่ยวหลงกลับไปแดนสวรรค์นานแล้ว เขาส่งข่าวคราวมาแค่ช่วงแรกแล้วหลังจากนั้นบอกว่าต้องเข้าถ้ำเพื่อไปบำเพ็ญตบะคงไม่ได้ติดต่อกลับมาอีกจนกว่าการบำเพ็ญตบะจะเสร็จสิ้น เวลาผันไปกว่าแปดเดือนแล้ว อีกไม่กี่วันก็เข้าถึงการเฉลิมฉลองปีใหม่ ไม่รู้ว่าเขาจะกลับมาทันได้ฉลองร่วมกันหรือไม่ “คิดถึงเสี่ยวหลงอยู่หรือ” เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นพร้อมอ้อมกอดที่อบอุ่นที่กอดกระชับมาจากด้านหลัง เมื่อเห็นว่าเป็นสามีสุดที่รักของนางรอยยิ้มก็เปิดกว้างขึ้น“เจ้าค่ะ เขาหายไปนานแล้ว คิดถึงเขาไม่รู้ว่าจะกลับมาทันปีใหม่หรือไม่” ยามนี้นางอยู่ที่อาณาจักรตระกูลฉิน อย่างไรนางก็อยากกลับมาเฉลิมฉลองปีใหม่อยู่ที่นี่ พี่ใหญ่ก็กลับมาด้วยเนื่องจากข้าราชการก็มีวันหยุดเพื่อจะได้กลับบ้านมาฉลองปีใหม่เช่นกัน แต่ทว่าเขาเกือบจะไม่ได้กลับมาพร้อมนางแล้ว เพราะเมื่อไม่กี่วันก่อน เขาพาครอบครัวมาที่จวนตระกูลหานพร้อมกล่าวบางอย่างที่ชวนหยุดหายใจ “องค์หญิง ท่านเสนา ท่านชาย ข้าฉินกุ้ยหยางอยากจะมาสู่ขอท่านหญิงหานจื่ออี้มาเป็นฮูหยินของข้าขอรับ” “……”อย่าว่าแต่ครอบครัวหานตกใจเลย ครอบครัวของนางก็เช่นกัน เพราะพี่ใหญ่ไม่มีสัญญาณว่า
ตอนที่[60]ความจริงของเสี่ยวหลงในช่วงก่อนที่เขาจะจัดการกับคนที่สวีหุ่ยส่งมา นั่นคือเป็นช่วงที่พลังของเขากลับมาเรื่อย ๆ จนสามารถกลายเป็นร่างมังกรดำได้ และในที่สุดสามปีผ่านไปในตอนที่นายหญิงมั่งคั่งและมีความสุขมากที่สุดเขาก็ได้ร่างเดิมกลับ ไม่สิ ร่างใหม่เพราะยามนี้เขาได้ผ่านเคราะห์และเลื่อนระดับพลังเป็นที่เรียบร้อยฉินกุ้ยหยวนเป็นห่วงเสี่ยวหลงมากเพราะยามนี้เขาหายไปเหลือแต่เจ้ามังกรยักษ์ที่น่าเกรงขามแทน แต่ทว่าเมื่อมองสบตาของเจ้ามังกรตัวนั้นมันช่างคุ้นเคยเหลือ จนกระทั่งที่เขาได้ยินเสียงของมัน “นายหญิง” “เสี่ยวหลง!!”เหตุใดเสี่ยวหลงของนางจึงกลายเป็นมังกรทองไปได้ หรือว่าเป็นดังเช่นคราวก่อนที่เขาแกล้งแปลงร่างเป็นมังกรดำเพื่อไปจัดการกับคนของสวีหุ่ยหานจื่อหลันนั่นพบว่าแม้ว่าจะผ่านไปสามปีแต่ก็มีเรื่องมาให้เขาแปลกใจอยู่ตลอด ในมิติแห่งนี้เขาได้เข้ามาบ่อยครั้ง จนรู้สึกสนิทใจกับเจ้าหมีขาวตัวยักษ์นี่แล้ว แต่วันนี้กลับพบเขาในรูปลักษณ์ที่แปลกตาออกไป ยิ่งยามนี้ที่เขากล่าวเพื่อยืนยันบางอย่างกับพวกเขา“นายหญิง นายท่านสามี เสี่ยวหลงเดิมที่มิใช่หมีขาวแต่เป็นมังกรทองขอรับ” “…..”จากนั้นเจ้ามังกรทอง ก
ตอนที่[60]ความจริงของเสี่ยวหลง ร่างของมังกรทองตัวเขื่องนอนหายใจรวยรินหลังจากผ่านการระเบิดเลื่อนขั้นพลังขั้นใหญ่มาย้อนไปก่อนที่หยกจะมาเป็นฉินกุ้ยหยวน ดินแดนสวรรค์ เกิดเรื่องใหญ่เกิดขึ้นกับเทพชราผู้หนึ่ง ‘เทพชะตา’ เขาเดินงุ่นง่าน สีหน้าไม่สู้ดีนัก คิดอย่างปลงไม่ตกว่าจะทำอย่างไรดี เขาทำพลาดครั้งยิ่งใหญ่ “ท่านเทพชะตาหาอันใดอยู่หรือ” จ้าวหนิงหลงหรือเสี่ยวหลง มังกรทองตัวน้อยบุตรชายคนเล็กของราชามังกรเอ่ยถามขึ้น เมื่อเห็นว่าเทพชราของดินแดนสวรรค์เอาแต่เดินก้มหน้าก้มตาวนรอบบริเวณเดิมคล้ายกับหาของบางอย่าง ในขณะนั้นเองที่ดวงตาของเทพชะตาก็เปล่งประกาย เขารอดแล้ว! ที่จริงแล้วเทพชะตานั้นทำผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงคือการไปดึงดวงวิญญาณที่อนาคตต่อไปจะรุ่งเรืองและเติบโตอย่างมากในภายภาคหน้า แต่เขากลับไปทำให้นางต้องจบชีวิตลงจากการทำงานผิดพลาด หากเป็นคนทั่วไปก็ว่าไปเถิด แต่นี่เป็นคนที่แต้มบุญกำลังจะทำงาน แต่เขาดันไปขัดขวางทำให้นางหมดโอกาสที่จะใช้ชีวิตในชาตินั้น จะแก้ไขอันใดก็ไม่ได้ เพราะเขาไม่มีพลังมากพอ สิ่งที่พอจะทำได้คือการดึงวิญญาณของนางส่งไปใช้ชีวิตที่โลกอื่นแต่อย่างที่บอกหลังจากใช้พลังในการ