ตอนที่[52]ขอร้อง “เอาชุดใหญ่มาเลย” อันไฉ่หัวหน้ากลุ่มเอ่ยสั่งอาหารทันที ใบหน้าของทั้งห้าคนมีเหมือนกันนั่นก็คือความดุดัน แต่ทว่าเมื่ออาหารเข้าปากคำแรกสีหน้าของคนทั้งหมดก็เปลี่ยนไปโดยทันที “นะ…นี่ มันเนื้อหมูสวรรค์อันใด!” “น้ำจิ้มนี้ก็รสดีนัก!” ความดุดันหายไปโดยทันที เหลือเพียงผู้ที่ตกอยู่ในห้วงรักแห่งอาหารเท่านั้น รู้ตัวอีกทีก็กินหมดชุดแรกไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงได้สั่งชุดที่สองต่อทันที จังหวะที่รออาหารนี้เองพวกเขาจึงได้สอดส่องสายตามองไปโดยรอบ ร้านอาหารนี่คนเยอะจริง ๆ และดูเหมือนว่าจะมีกระโจมสำหรับให้คนเข้าพักมากมาย เงินที่ได้แต่ละวันคงไม่น้อย เขาคงต้องมีเรื่องรายงานเพิ่ม นอกจากมาปล้นเสบียงที่นี่แล้ว ควรจับตัวพ่อครัวแม่ครัวที่นี่กลับค่ายไปด้วย หากพวกเขาได้กินอาหารที่เลิศรสเช่นนี้ทุกวัน นั่นจะมีความสุขและมีพละกำลังมากเพียงใด พวกเขาไปแล้ว “หยวนเออร์ แผนการคืนนี้คืออย่างไร” องค์หญิงหยางจื่อร้อนใจไม่น้อย หากมีอันใดผิดพลาดมาชีวิตของทุกคนจะเป็นเช่นไร โดยเฉพาะชาวบ้านเหล่านั้น ยอมรับว่าเมื่อมาอยู่ที่นี่เป็นเวลากว่าสามเดือน นางย่อมผูกพันกับคนที่นี่ไม่น้อย ชาวบ้านใสซื่อและมีน้ำใจ
ตอนที่[53]เก็บกวาด หานจื่อหลันแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาว่าทหารรูปร่างสูงใหญ่หน้าตาดุดันของกัวเฉิงนับหมื่นนายยามนี้จะตกอยู่ในสภาพไร้เรี่ยวแรง นอนหมดสภาพตามมุมต่าง ๆ มุมปากมีน้ำลายไหลย้อยออกมาอย่างควบคุมตนเองไม่ได้ ทุกคนตกอยู่ในสภาพเช่นนี้กันหมดแม้แต่กัวเฉิงผู้เป็นผู้นำเอง “พี่จื่อหลันบอกว่าเขารังแกท่านใช่หรือไม่เจ้าคะ เขาทำให้ท่านเดินไม่ได้ วันนี้ข้าเอาคืนให้ท่านแล้ว แต่อาจจะมากกว่าสักหน่อย” ประโยคท้ายนางกล่าวอย่างทะเล้น “หยวนหยวน” แต่ทว่าหานจื่อหลันกลับเต็มไปด้วยสีหน้าจริงจังและซาบซึ้งใจ นี่นางแก้แค้นให้เขาหรือ หมับ! “…..” “พี่รู้แล้ว ว่าสตรีผู้นั้นของพี่ต้องเป็นเจ้า รู้ตั้งแต่แรกเห็น” “…..” เขาหาพบแล้ว สตรีที่ทำเพื่อเขาจากใจจริง และเป็นสตรีที่เขาอยากมอบแต่สิ่งดี ๆ ให้ ฉินกุ้ยหยวนพยายามดึงกายออกจากการเกาะกุมของอีกคน นางจะไม่เป็นอันใดมาก หากมิใช่ว่ายามนี้กำลังมีสายตาของผู้อื่นมองมามากมาย ทั้งครอบครัวนาง องค์หญิงหยางจื่อและคณะ ท่านลุงหลิว กลุ่มทหารลับของหานจื่อหลัน โดยเฉพาะว่านเสิ่นที่เอาแต่ทำใบหน้ากรุ้มกริ่มอีก ด้านหานจื่อหลันก็เริ่มรู้ตนเองแล้วว่าทำอันใดลงไปก็ได้แต่ขอโทษน
ตอนที่[53]เก็บกวาด ผ่านไปสองวันกองทัพทหารที่เดินทางด้วยรถเหล็กอันแปลกตาสำหรับพวกเขาก็เดินทางมาถึงหมู่บ้านหวงหลิง ชาวบ้านหวงหลิงเมื่อได้รับบรู้ข่าวว่าเมื่อสองวันที่แล้วเกิดอันใดขึ้นก็ได้แต่ขอบคุณฉินกุ้ยหยวนและคุณชายเซี่ยผู้นั้น ที่ร่วมมือกันจัดการพวกคนไม่ดีเหล่านั้นจนสิ้นซากไป “ท่านชายขอรับ” แม่ทัพว่าน ผู้เป็นบิดาของว่านเสิ่นทำความเคารพหานจื่อหลันด้วยความนอบน้อม “แม่ทัพว่านอย่าได้มากพิธี เราคนกันเอง” ว่านเสียนมองผู้สูงศักดิ์ในตาของเขามีน้ำตาคลออยู่ไม่น้อย “ท่านหายแล้ว ข้าน้อยดีใจอย่างยิ่งขอรับ” “ข้าเจอคนดีและมีความสามารถน่ะ” ว่านเสียนขมวดคิ้วแปลกใจ นี่ท่านชายดูแปลกไปหรือไม่ สังเกตได้ว่าถ้อยคำเมื่อครู่มีความอ่อนโยนอยู่ในที ก่อนจะหันไปมองใบหน้าของบุตรชายที่ยืนอยู่ไม่ไกล ว่านเสิ่นทำท่าราวกับมีความอัดอั้น แต่ก็ส่งสัญญาณให้บิดาว่าค่อยคุยกัน “ท่านชายพอจะบอกข้าน้อยได้หรือไม่ขอรับว่าเกิดอันใดขึ้น เหตุใดจึงต้องลดกำลังทหารลง ไม่ใช่ว่าพวกมันแข็งแกร่งนักหรือ” ตลอดการเดินทางว่านเสียนกังวลไม่น้อย ทหารที่เดินทางมาด้วยกันไม่นับว่ามาก หากต้องต่อสู้อาจจะพบปัญหาไม่น้อย “อ้อ แล้วอยากจะถามเรื
ตอนที่[53]เก็บกวาด “คือว่าข้าน้อยสนใจเจ้ารถเหล็กนั่นมากเหลือเกิน มันวิเศษเกินกว่ายานพาหนะที่แคว้นเรามี ไม่สิ แคว้นอื่นก็น่าจะไม่มี หากว่าได้มันมาใช้ในกองทัพ….” “เรื่องนั้นท่านไม่ต้องห่วง เดี๋ยวข้าจะจัดการเอง ข้าเคยพูดกับนางไว้แล้ว ไม่แน่ว่าขากลับท่านอาจจะได้เจ้ารถเหล็กหลายคันกลับไปด้วยก็ได้” “จริงหรือขอรับ!” ว่านเสียนได้ยินเช่นนั้นก็ให้ดีใจ ก่อนจะลงมือกินอาหารเลิศรสอย่างหมูกระทะโดยที่ไม่ได้สนใจอันใดมากอีก หมูย่างกินกับผักดองตระกูลฉินอร่อยมาก กินกับน้ำจิ้มก็ดี กินกับผักสดกรอบ ๆ ยิ่งดี เขาไม่รู้เลยว่าในสภาวะอากาศเช่นนี้ ผู้เป็นเจ้าของไปเอาผักสด ๆ เช่นนี้มาจากที่ใด ด้านทหารที่เดิมทีคิดว่าตนจะต้องมาออกรบ และมีโอกาสสูงจะต้องสิ้นชีพในสนามรบเพราะศัตรูนั้นแข็งแกร่งมาก ยามนี้กำลังคีบหมูเข้าปากอย่างเอาเป็นเอาตาย หมูหมักรสเด็ดที่ชวนละลายในปากเช่นนี้พวกเขาไม่เคยกินมาก่อน แม้บางคนจะเป็นตำแหน่งสูง แต่ก็ไม่เคยได้ลิ้มรสรสชาติเช่นนี้ ทั้งยังกินไปก็ไม่ต้องทรมานกับอากาศหนาวเย็น เป็นการกินที่มีความสุขมาก ยิ่งยามที่วางชิ้นเนื้อหมูลงบนกระทะแล้วเกิดเสียงซู่ซ่า ในใจยิ่งรู้สึกราวกับถูกกระตุ้น น้ำหมักข
ตอนที่[54]ฮ่องเต้เสด็จ “หลันเออร์ ของเช่นนี้มีอยู่บนโลกด้วยหรือ” เมื่อเริ่มการสนทนาผู้ที่อยู่ปลายทางก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นไม่น้อย “นั่นย่อมเป็นเพราะหยวนหยวนของกระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ” ไม่ว่าจะมีผู้ใดถามเขาก็จะตอบเช่นนี้ เพราะว่าเป็นเพราะหยวนหยวนของเขาจริง ๆ “หืม ดูท่าว่าที่แม่ทัพว่านกล่าวจะเป็นความจริงสินะ” “แม่ทัพว่านกล่าวว่าเช่นใดพ่ะย่ะค่ะ” “ก็กล่าวว่ายามนี้เจ้ามีสตรีในดวงใจแล้วน่ะสิ” “นั่นก็ใช่” “เพราะเหตุนี้เมื่อหายดีจึงรีบไปหานางสินะ อีกทั้งเมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็ไม่รีบมาหาข้า เพราะยังทำใจแยกจากจากนางยังไม่ได้” เซี่ยหยางซวนฮ่องเต้เอ่ยราวกับน้อยใจเป็นหนักหนา “นั่นก็ถูกพ่ะย่ะค่ะ” แต่หานจื่อหลันกลับเอ่ยอย่างไม่สะทกสะท้าน “ข้าล่ะอยากจะไปพบหน้าเจ้าและแม่นางน้อยผู้นั้นเสียวันนี้ แต่เพราะยังมีเรื่องให้ต้องจัดการอีกมาก” เขาได้ยินมาแล้วถึงความเก่งกาจของแม่นางน้อยนามฉินกุ้ยหยวนผู้นั้น และยิ่งรู้ว่านางเป็นผู้ที่ทำผักกาดดองตระกูลฉินที่เขาและฮองเฮาโปรดปรานมากในช่วงนี้ก็ยิ่งอยากไปพบหน้า “เช่นนั้นอีกหนึ่งเดือนข้างหน้าหลังเหมันต์จบลง ข้าจะรีบไปหาเจ้า รอลุงด้วยนะหลานรัก”
ตอนที่[54]ฮ่องเต้เสด็จเวลาหนึ่งเดือนนั้นผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่คนที่นี่กลับรู้สึกใจตรงกันเป็นครั้งแรก คืออยากให้เหมันต์อยู่นาน ๆ พวกเขารักและคุ้นชินกับที่นี่ไปเสียแล้ว กล่าวได้ว่าที่นี่คือบ้านหลังที่สองก็ย่อมได้ หิมะเริ่มละลายแล้ว เหล่าพนักงานจึงช่วยกันเก็บกวาดและจัดการพื้นที่ให้กลับมาสวยงามอีกครั้ง ยามนี้คนตระกูลฉินรู้แล้วว่าฝ่าบาทจะเสด็จมาที่นี่ และเป็นดังคาดเหล่าผู้เฒ่าทั้งสองตกใจจนแทบเป็นลม องค์หญิงหยางจื่อ ท่านชายท่านหญิงทั้งสองคิดว่าสูงศักดิ์มากสำหรับพวกเขาแล้ว แต่ทว่าองค์ฮ่องเต้ หรือโอรสสวรรค์ ผู้ปกครองแคว้นเซี่ยกำลังจะมาที่นี่เช่นกัน จะไม่ให้พวกเขาตกใจได้อย่างไร “พวกท่านไม่ต้องคิดอันใดมาก คิดเสียว่าเป็นแขกผู้หนึ่งที่อยากมากินอาหารกับมาพักเรือนรับรองของพวกท่านก็เท่านั้น” องค์หญิงหยางจื่อกล่าวขึ้นเพื่อปลอบใจพวกเขา แต่นั่นไม่ได้ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นเลย หลายวันผ่านไปเหล่าแขกเริ่มพากันเก็บของและทำการคืนห้องพักกันแล้ว ในระหว่างที่ทุกคนกำลังยุ่ง ๆ อยู่นั้นจู่ ๆ ก็มีรถม้าขบวนใหญ่ที่มิได้ใช้ม้าเป็นผู้ขับเคลื่อนแต่เป็นเจ้ารถเหล็กที่พวกเขาคุ้นเคย ยามนี้มันกำลังเคลื่อนเข้ามาที่อาณาจ
ตอนที่[54]ฮ่องเต้เสด็จ “นอกจากมารับพวกเจ้าแล้ว เจิ้นยังมาขอบคุณผู้มีพระคุณที่รักษาหลานชายของเจิ้นให้หายดีด้วย ยังช่วยเหลือแว่นแคว้นจัดการกับปัญหาใหญ่ คุณหนูฉินมาให้เจิ้นดูหน้าใกล้ ๆ หน่อยเถิด” แม้แต่ชาวบ้านหวงหลิงก็ไม่คิดไม่ฝัน เดิมที่คิดว่าเถ้าแก่เนี้ยเป็นคนมีความสามารถทางด้านการค้า แต่ไม่คาดคิดว่าจะมีความสามารถทางการแพทย์จนถึงขั้นรักษาท่านชายหานได้ด้วย ไหนจะเรื่องช่วยแว่นแคว้นที่ฝ่าบาทว่าอีกเวลาผ่านไปยังไม่ถึงหนึ่งก้านธูปพวกเขากลับพบเรื่องที่น่าตกใจหลายเรื่องทีเดียว หยางซวนฮ่องเต้พินิศใบหน้าของสตรีอายุน้อยไม่นานก็ตรัสออกมาว่า “งดงามและดูฉลาดเฉลียว ฮองเฮาเจ้าว่าเช่นนั้นหรือไม่” “หม่อมฉันเห็นด้วยเพคะ” เหยาฮองเฮาที่มีใบหน้าอ่อนโยนท่าทางใจดีตรัสแล้วก็มองไปที่ฉินกุ้ยหยวนอย่างเอ็นดู “ยามนี้เจิ้นหิวแล้วเดินทางมาไกล อยากกินหมูกระทะรสเด็ดที่แม่ทัพว่านคุยนักคุยหนาว่าอร่อยจนแทบลืมเมืองหลวงเลยทีเดียวว่าจะเป็นอย่างไรแล้ว” “กระหม่อมจะนำทางไปเองพ่ะย่ะค่ะ” หานจื่อหลันเอ่ยขึ้น “หลานชายจะพาไปหรือ เช่นนั้น หลาน เอ่อ คุณหนูฉินก็ไปด้วยกันเถิด ไม่สิ ทั้งตระกูลฉินไปด้วยกัน เจิ้นอยากร่วมโต๊ะกินอ
ตอนที่[55]มีการเปลี่ยนแปลง “ยามนี้มีเจ้ารถเหล็กแล้ว หากฝ่าบาทอยากกินหมูกระทะก็ทรงมาได้ง่าย ๆ เลยนะเพคะ ยิ่งหากไม่มีหิมะแล้วคงใช้เวลาไม่นาน” “ไม่ได้สิ อย่างไรก็ยังไกลอยู่ หากว่ามีร้านในเมืองหลวง เจิ้นอยากกินเมื่อใด ก็สามารถกินได้ทันที เจ้าอยากได้ร้านใหญ่เพียงใด ทำเลที่ดีที่สุดเจิ้นจะหามาให้ ฉะนั้นแล้ว คุณหนูฉินเห็นใจเจิ้นกับฮองเฮาเถิด” กล่าวแล้วก็ทำตาปริบ ๆ จนทำให้บรรยากาศหยุดนิ่งไปทันที ในที่สุดหานจื่อหลันก็ทนไม่ไหวเขาจึงกระแอมขึ้น “หยวนหยวน แม้จะดูกะทันหันไปบ้าง แต่การไปเปิดที่เมืองหลวงนั้นก็เป็นการขยายกิจการได้ดีเลยนะ คนที่เมืองหลวงมีกำลังการซื้อสูง และอาหารเจ้าที่อร่อยเช่นนี้ แน่นอนว่าคนต้องหลั่งไหลมากินเยอะแน่ อีกทั้งหากเจ้าไปเปิดที่เมืองหลวงนั่นจะเป็นการดีต่อคุณชายฉินเป็นอย่างมาก” “ดีอย่างไรหรือเจ้าคะ” การเปิดร้านหมูกระทะที่เมืองหลวงจะดีอย่างไรกับพี่ใหญ่ของนาง “อะแฮ่ม” เขากระแอมออกมาอีกครั้งและส่งสายตาไปยังทิศทางหนึ่ง หยางซวนฮ่องเต้เมื่อได้รับสายตานั้นก็รีบกล่าวทันที “อ้อ เช่นนี้คุณหนูฉิน…. คือว่าเจิ้นได้ยินว่าคุณชายฉินนั้นชอบร่ำเรียนเขียนอ่านไม่น้อย หลันเออร์ เอ่อ จื
ตอนพิเศษ[2]เสี่ยวหลงขอร้องเทพชะตา “หมั้นหมาย ๆ เสด็จพ่อกล่าวคำอื่นไม่เป็นแล้วหรือ!” เสี่ยวหลงได้แต่ฟึดฟัดไปมาในใจหงุดหงิดอยู่เพียงผู้เดียว เขายังเป็นเด็กน้อยของนายหญิงจะรีบให้หมั้นหมายไปอันใด ได้ข่าวว่าสตรีผู้นั้นอายุมากกว่าเขาเป็นหมื่นปี นี่ไม่เท่ากับว่าเขากำลังถูกล่อลวงหรือ ไม่ได้! จะให้ร่างกายบริสุทธิ์ของเขาถูกฉกชิงไปไม่ได้! ยามนี้เขานอนอยู่ในสวนท้อบนแดนสวรรค์ เห็นว่าปีนี้มันมีรสชาติที่อร่อยขึ้น จึงอยากมาลองชิมดูว่าจะอร่อยกว่าในมิติหรือไม่ ปรากฏว่าสู้ในมิติไม่ได้สักนิด จึงเตรียมที่จะกลับไปในมิติ ซึ่งก่อนจะไปหางตาของเขาก็เห็นหลังไว ๆ ของใครบางคน นั่นมันตาเฒ่านี่ ใช่แล้ว! เรื่องที่เขากลุ้มใจตาเฒ่าอาจจะช่วยได้ “นี่ ท่านเทพชะตา” “เว้ยยยยย” เทพชะตาตกใจทันทีเมื่อจู่ ๆ ก็มีคนโผล่มาด้านหน้าของตนเอง “องค์ชายห้า ข้าตกใจหมด” “ข้าต้องขอโทษท่านด้วย ข้าไม่ได้ตั้งใจ”เมื่อเทพชราได้ยินอีกฝ่ายกล่าวขอโทษก็เกิดความระแวดระวังโดยทันที เหตุใดองค์ชายห้าดูเป็นมิตรขึ้น “ไม่ต้องระวังข้าถึงเพียงนั้น วันนี้ข้าเพียงอารมณ์ดีเท่านั้น” “อะ…อ้อ แล้วองค์ชายมีอันใดให้ข้ารับใช้หรือ” “รับใช้อันใด
ตอนพิเศษ[1]หานฉิน (เซี่ย?) ร่วมใจหมู่บ้านหวงหลิงนั้นยามนี้เปลี่ยนไปมากจากหมู่บ้านห่างไกลกลายเป็นศูนย์กลางการค้าที่ยิ่งใหญ่ พื้นที่ของหมู่บ้านขยายของไปอย่างมากแต่หากเป็นการขยายไปทางอำเภอจางเย่ หมู่บ้านเฮยจูโหยว มิใช่ทางหมู่บ้านเถียนเกา คิดแล้วก็ขำขันยิ่ง บริเวณแถบนี้ล้วนแต่ร่ำรวยและเจริญขึ้น มีเพียงหมู่บ้านเถียนเกาที่ดิ่งลง เปลี่ยนผู้นำหมู่บ้านมาหลายคน สุดท้ายก็ไม่รอด จนนางได้ข่าวว่าพวกเขาเริ่มขายบ้านแล้วย้ายไปอยู่ที่อื่น แน่นอนผู้ที่รอจังหวะนั้นอยู่คือท่านน้าเจิงซื่อและเสี่ยวจวน ทั้งคู่เริ่มกว้านซื้อที่ดินได้มากมาย อดีตเคยถูกขับไล่ ปัจจุบันกว้านซื้อมาให้หมด!หากได้มาแล้วค่อยขยายพื้นที่มาทางนี้ก็ยังไม่สาย เมื่อถึงยามนั้นจะเปลี่ยนชื่อหมู่บ้านด้วยผ่านไปสองวันเหล่าขบวนผู้สูงศักดิ์ก็เคลื่อนมาถึงอาณาจักรตระกูลฉินกันครบทุกคน “หลินเออร์” เมื่อมาถึงก็พากันวิ่งเข้าหาหลานสาวตัวกลมทันที จากนั้นจึงพากันงัดของขวัญออกมามากมาย มีทั้งอาภรณ์และเครื่องประดับที่งดงามออกมามากมาย เท่านั้นยังไม่พอยังพากันสวมใส่ให้หานหยวนหลินทันที ยามนี้เด็กน้อยราวกับตุ๊กตาล้มลุกก็ไม่ปาน แต่ดูท่าเจ้าตัวจะไม่ปลื้มเท่าใดน
ตอนพิเศษ[1]หานฉิน (เซี่ย?) ร่วมใจหานหยวนเหมินในวัยแปดหนาวกำลังนั่งกอดอกมองน้องสาววัยห้าหนาวอย่างหานหยวนหลินด้วยความไม่สบอารมณ์ “หลินเออร์ พี่บอกให้เจ้าไปขัดขวางท่านพ่อ เหตุใดพอแค่ได้ขนมที่ท่านพ่อไปเอาจากท่านแม่มามอบให้ก็ล้มเลิกแผนการเดิมของเราแล้วเล่า”“พี่ใหญ่ หลินเออร์ว่าท่านปล่อยท่านพ่อท่านแม่ไปเถิด ของอร่อยจะเยียวยาทุกสิ่งนะเจ้าคะ” “ปล่อยอันใดกัน นี่เจ้าลืมแล้วหรือว่าเราไม่เห็นหน้าท่านแม่มากี่วันแล้ว เพราะท่านพ่อมัวแต่กักขังท่านแม่เอาไว้คนเดียวในมิติ เจ้าไม่คิดถึงท่านแม่หรือ” “คิดถึง…...” ใบหน้ากลมของหานหยวนหลินเศร้าลงเมื่อนึกได้ว่าตนคิดถึงท่านแม่ไม่น้อย ท่านแม่มักถูกท่านพ่อนำตัวไปใช้เวลากันสองคนในมิติ ยามออกมาท่านพ่อก็จะใบหน้าสดใส ในขณะที่ท่านแม่ราวกับคนป่วยอ่อนแรง หรือว่าท่านแม่จะโดนบังคับนะ หานหยวนเหมินเมื่อรู้ตัวว่าสามารถกล่อมน้องสาวได้สำเร็จแล้ว จึงได้กล่าวต่อ“หลินเออร์ พวกเราต้องทวงท่านแม่คืนมานะ”ด้านในมิติ“ท่านพี่ พอได้แล้ว ข้าช้ำหมดแล้ว”“หยวนหยวนเจ้าไม่คิดถึงพี่หรือ พี่ทำงานติดกันเป็นเดือนกว่าจะเวลาว่างได้ หรือเจ้าไม่รักพี่แล้ว….” “ท่านไม่ต้องมากล่าวเช่นนี้ หากข
ตอนที่[61]วันขึ้นปีใหม่ “ท่านตา ท่านยาย พี่ใหญ่ หยวนหยวนตอนนี้นางตั้งครรภ์ได้สามเดือนแล้วขอรับ พวกเรากำลังจะมีสมาชิกใหม่แล้วขอรับ” !!!ทุกคนที่ได้ยินต่างก็ตกตะลึง แต่ไม่นานก็แปรเปลี่ยนเป็นความยินดี “ข้ากำลังจะมีเหลนแล้วหรือ หยวนเออร์ดีนัก” นางเฉาซื่อเอ่ยขึ้นก่อนใคร ก่อนจะตามด้วยผู้เฒ่าฉิน ผู้เฒ่าเจียวก็รีบเข้ามาแสดงความยินดีกับสหาย “ข้าดีใจกับเจ้าด้วยนะตาเฒ่า เจ้าจะได้มีเหลนแล้ว ปีใหม่ปีนี้ช่างดีนัก มีข่าวดีให้ชื่นใจด้วย” จากนั้นผู้คนจึงสลับกันมาอวยพรสองสามีภรรยาอย่างคับคั่ง ฉินกุ้ยหยวนเลิกร้องไห้แล้ว นางขำขันตนเองไม่น้อย ร้องไห้ราวกับเด็ก ๆ เจ้าก้อนแป้งที่อยู่ในท้องคงแสบไม่น้อยสินะ ถึงทำให้มารดาเปลี่ยนไปได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ “พี่สะใภ้ข้าอยากเห็นหน้าหลานแล้ว ต้องน่ารักมากแน่ ข้าจะเลี้ยงลูกของพวกท่านจนเติบใหญ่เลย” หานจื่ออี้พูดขึ้นด้วยความตื่นเต้น “แล้วเจ้าไม่เลี้ยงบุตรของเจ้าหรืออย่างไร” “จะยากอันใดก็เอามาเลี้ยงด้วยกันอย่างไรเล่า” หานจื่ออี้กล่าวอย่างไหลลื่น แต่เมื่อคิดว่าตนเพิ่งกล่าวอันใดไปก็มีใบหน้าขึ้นสีพลางมองไปที่คู่หมายแวบหนึ่งนางกล่าวว่าจะมีลูกกับเขาหรือฉินกุ้ยหย
ตอนที่[61]วันขึ้นปีใหม่ “พี่ไม่ อุ๊บ” หานจื่อหลันยังกล่าวไม่จบ เขาก็มีอาการพะอืดพะอมเอามือปิดปากแล้วรีบวิ่งเข้าบ้านไปทันที ฉินกุ้ยหยวนเห็นเช่นนั้นจึงตื่นตระหนกยิ่ง รีบหันมาบอกทุกคน ที่ยามนี้ล้วนแต่หยุดปฏิกิริยาของตนแล้วส่งสายตากังวลไปที่หานจื่อหลัน “เดี๋ยวจะจะจัดการเอง พวกท่านไม่ต้องเป็นห่วงนะเจ้าคะ” ฉินกุ้ยหยวนหันมากล่าวกับทุกคนก่อนที่รีบวิ่งเข้าบ้านไป นางเดินไปด้วยความเร่งร้อน เมื่อไปถึงก็พบว่าหานจื่อหลันอาเจียนออกมาและนั่งล้มพักอยู่ข้างอ่างน้ำในห้องครัวอย่างหมดสภาพ “พี่จื่อหลัน พี่เป็นอันใดกัน ท่านป่วยหรือเจ้าคะ เป็นข้าที่ดูแลท่านไม่ดี” “หยวนหยวน พี่รู้สึก…พะอืดพะอม อยากจะอาเจียนตลอดเวลา พี่…อุ๊บ” เขาลุกขึ้นไปเกาะที่อ่างน้ำนั่นอีกครั้งก่อนจะอาเจียนออกมา “รีบไปที่เครื่องรักษาตนเถิดเจ้าค่ะ” นางไม่อยากรั้งรออันใด รีบคว้าแขนเขาแล้วพาเข้ามิติทันที เมื่อถึงเครื่องรักษาก็รีบประคองเข้าไปนั่งแล้วเริ่มทำการรักษาอย่างด่วนที่สุด หานจื่อหลันที่ได้เข้าเครื่องรักษาไม่นานอาการพะอืดพะอมก็หายดีเป็นปลิดทิ้ง แต่ฉินกุ้ยหยวนนั้นสงสัยนัก ที่หน้าจอแสดงผลของเครื่องรักษาตนที่อัปเกรดใหม่นั้น บ
ตอนที่[61]วันขึ้นปีใหม่ กลับมาที่เหตุการณ์ปัจจุบันนางมองอาณาจักรตระกูลฉินของนางยามนี้ที่คึกคักไม่น้อย ทั้งร้านหมูกระทะและเรือนรับรอง ผู้คนต่างหลั่งไหลกันมาที่นี่อย่างอุ่นหนาฝาคั่ง และที่นี่เหมือนว่าเป็นที่ที่หลายคนตั้งเป้าว่าจะมาฉลองปีใหม่ด้วยกัน ‘สถานที่ที่แสนอบอุ่น’ ทำให้หลายคนกล้าฉีกกรอบวัฒนธรรมเดิม ๆ ที่ปีใหม่ต้องฉลองกันที่บ้านของตนเอง ท่านลุงโหว ท่านลุงหลิว แม้กระทั่งนายช่างฉือยังพาครอบครัวมาฉลองปีใหม่ที่นี่ ก่อนวันขึ้นปีใหม่หนึ่งวันในที่สุดมิติของนางก็มีสัญญาณบางอย่างเกิดขึ้น นางจึงรีบวิ่งเข้าไปในบ้านท่ามกลางการห้ามปรามของสามีที่กลับว่านางจะล้มเอาได้ “ท่านพี่เดี๋ยวข้ามาเจ้าค่ะ” เมื่อเข้าไปในห้องของตนเองนางก็รีบเข้าไปในมิติ “เสี่ยวหลง” “นายหญิง” “เสี่ยวหลงเจ้า….” “นายหญิงเสี่ยวหลงกลับมาแล้ว” หนึ่งคนหนึ่งหมีต่างก็สบตากันกก่อนจะโผกอดกันด้วยความคิดถึง “ข้ารอเจ้าอยู่กลัวว่าเจ้าจะไม่กลับมา” “เสี่ยวหลงจะไม่มาได้อย่างไร ในเมื่อนายหญิงอยู่ที่นี่ ท่านตาผู้เฒ่า ท่านยายผู้เฒ่า ฮูหยินท่านแม่ ไหนจะคนอื่น ๆ อีก เสี่ยวหลงต้องกลับมาอยู่แล้ว” ที่จริงแล้วหน้าที่บนโลกมนุษย์ของ
ตอนที่[61]วันขึ้นปีใหม่เสี่ยวหลงกลับไปแดนสวรรค์นานแล้ว เขาส่งข่าวคราวมาแค่ช่วงแรกแล้วหลังจากนั้นบอกว่าต้องเข้าถ้ำเพื่อไปบำเพ็ญตบะคงไม่ได้ติดต่อกลับมาอีกจนกว่าการบำเพ็ญตบะจะเสร็จสิ้น เวลาผันไปกว่าแปดเดือนแล้ว อีกไม่กี่วันก็เข้าถึงการเฉลิมฉลองปีใหม่ ไม่รู้ว่าเขาจะกลับมาทันได้ฉลองร่วมกันหรือไม่ “คิดถึงเสี่ยวหลงอยู่หรือ” เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นพร้อมอ้อมกอดที่อบอุ่นที่กอดกระชับมาจากด้านหลัง เมื่อเห็นว่าเป็นสามีสุดที่รักของนางรอยยิ้มก็เปิดกว้างขึ้น“เจ้าค่ะ เขาหายไปนานแล้ว คิดถึงเขาไม่รู้ว่าจะกลับมาทันปีใหม่หรือไม่” ยามนี้นางอยู่ที่อาณาจักรตระกูลฉิน อย่างไรนางก็อยากกลับมาเฉลิมฉลองปีใหม่อยู่ที่นี่ พี่ใหญ่ก็กลับมาด้วยเนื่องจากข้าราชการก็มีวันหยุดเพื่อจะได้กลับบ้านมาฉลองปีใหม่เช่นกัน แต่ทว่าเขาเกือบจะไม่ได้กลับมาพร้อมนางแล้ว เพราะเมื่อไม่กี่วันก่อน เขาพาครอบครัวมาที่จวนตระกูลหานพร้อมกล่าวบางอย่างที่ชวนหยุดหายใจ “องค์หญิง ท่านเสนา ท่านชาย ข้าฉินกุ้ยหยางอยากจะมาสู่ขอท่านหญิงหานจื่ออี้มาเป็นฮูหยินของข้าขอรับ” “……”อย่าว่าแต่ครอบครัวหานตกใจเลย ครอบครัวของนางก็เช่นกัน เพราะพี่ใหญ่ไม่มีสัญญาณว่า
ตอนที่[60]ความจริงของเสี่ยวหลงในช่วงก่อนที่เขาจะจัดการกับคนที่สวีหุ่ยส่งมา นั่นคือเป็นช่วงที่พลังของเขากลับมาเรื่อย ๆ จนสามารถกลายเป็นร่างมังกรดำได้ และในที่สุดสามปีผ่านไปในตอนที่นายหญิงมั่งคั่งและมีความสุขมากที่สุดเขาก็ได้ร่างเดิมกลับ ไม่สิ ร่างใหม่เพราะยามนี้เขาได้ผ่านเคราะห์และเลื่อนระดับพลังเป็นที่เรียบร้อยฉินกุ้ยหยวนเป็นห่วงเสี่ยวหลงมากเพราะยามนี้เขาหายไปเหลือแต่เจ้ามังกรยักษ์ที่น่าเกรงขามแทน แต่ทว่าเมื่อมองสบตาของเจ้ามังกรตัวนั้นมันช่างคุ้นเคยเหลือ จนกระทั่งที่เขาได้ยินเสียงของมัน “นายหญิง” “เสี่ยวหลง!!”เหตุใดเสี่ยวหลงของนางจึงกลายเป็นมังกรทองไปได้ หรือว่าเป็นดังเช่นคราวก่อนที่เขาแกล้งแปลงร่างเป็นมังกรดำเพื่อไปจัดการกับคนของสวีหุ่ยหานจื่อหลันนั่นพบว่าแม้ว่าจะผ่านไปสามปีแต่ก็มีเรื่องมาให้เขาแปลกใจอยู่ตลอด ในมิติแห่งนี้เขาได้เข้ามาบ่อยครั้ง จนรู้สึกสนิทใจกับเจ้าหมีขาวตัวยักษ์นี่แล้ว แต่วันนี้กลับพบเขาในรูปลักษณ์ที่แปลกตาออกไป ยิ่งยามนี้ที่เขากล่าวเพื่อยืนยันบางอย่างกับพวกเขา“นายหญิง นายท่านสามี เสี่ยวหลงเดิมที่มิใช่หมีขาวแต่เป็นมังกรทองขอรับ” “…..”จากนั้นเจ้ามังกรทอง ก
ตอนที่[60]ความจริงของเสี่ยวหลง ร่างของมังกรทองตัวเขื่องนอนหายใจรวยรินหลังจากผ่านการระเบิดเลื่อนขั้นพลังขั้นใหญ่มาย้อนไปก่อนที่หยกจะมาเป็นฉินกุ้ยหยวน ดินแดนสวรรค์ เกิดเรื่องใหญ่เกิดขึ้นกับเทพชราผู้หนึ่ง ‘เทพชะตา’ เขาเดินงุ่นง่าน สีหน้าไม่สู้ดีนัก คิดอย่างปลงไม่ตกว่าจะทำอย่างไรดี เขาทำพลาดครั้งยิ่งใหญ่ “ท่านเทพชะตาหาอันใดอยู่หรือ” จ้าวหนิงหลงหรือเสี่ยวหลง มังกรทองตัวน้อยบุตรชายคนเล็กของราชามังกรเอ่ยถามขึ้น เมื่อเห็นว่าเทพชราของดินแดนสวรรค์เอาแต่เดินก้มหน้าก้มตาวนรอบบริเวณเดิมคล้ายกับหาของบางอย่าง ในขณะนั้นเองที่ดวงตาของเทพชะตาก็เปล่งประกาย เขารอดแล้ว! ที่จริงแล้วเทพชะตานั้นทำผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงคือการไปดึงดวงวิญญาณที่อนาคตต่อไปจะรุ่งเรืองและเติบโตอย่างมากในภายภาคหน้า แต่เขากลับไปทำให้นางต้องจบชีวิตลงจากการทำงานผิดพลาด หากเป็นคนทั่วไปก็ว่าไปเถิด แต่นี่เป็นคนที่แต้มบุญกำลังจะทำงาน แต่เขาดันไปขัดขวางทำให้นางหมดโอกาสที่จะใช้ชีวิตในชาตินั้น จะแก้ไขอันใดก็ไม่ได้ เพราะเขาไม่มีพลังมากพอ สิ่งที่พอจะทำได้คือการดึงวิญญาณของนางส่งไปใช้ชีวิตที่โลกอื่นแต่อย่างที่บอกหลังจากใช้พลังในการ