หลังจากที่เผลอใจไปกับบอสที่ห้องประชุม เราก็แยกย้ายกันไปทำงานของตัวเองโดยที่คุณโย่งยิ้มอย่างอารมณ์ดีตั้งแต่ที่ได้ครอบครองร่างกายของฉัน
“บอสดูอารมณ์ดีนะ”
“ค่ะพี่บี คุยงานลงตัวค่ะ” ฉันบอกพี่บีแล้วหันกลับไปทำสรุปรายงานการประชุมเตรียมส่งให้เขา
“เย็นนี้ไปกินข้าวกับพี่นะ ตั้งแต่หยีมาทำงานที่ชั้นนี้พี่ยังไม่ได้ฉลองให้หยีเลย” ผู้จัดการหนุ่มชักชวนเธอ แต่ฟังดูแล้วมันเหมือนจะเป็นการมัดมือชกมากกว่า
“เย็นนี้หยีไม่ว่างค่ะ” ฉันตอบเขาแล้วก้มหน้าก้มตาทำงานตรงหน้าต่อ
“งั้นพรุ่งนี้พี่จองตัวนะ” เขายังไม่ละความพยายาม แสดงออกชัดเจนว่าชอบฉันจนรู้สึกอึดอัดมากกว่าจะภูมิใจที่มีผู้ชายมาชอบพร้อมกันทั้งผู้จัดการทั้งบอส
อย่างไรฉันก็เอนเอียงไปทางบอสอยู่แล้ว แต่ว่าไม่รู้ว่าเขาจะเก็บฉันเป็นเมียลับๆ หรือว่าจะเปิดเผย ฉันเลยไม่อยากตัดพี่เชนออกจากตัวเลือกแม้จะตกเป็นของบอสไปแล้วก็ตาม
“ขอดูก่อนนะคะ” ฉันยังไม่กล้ารับปากเขาเพราะไม่รู้ว่าพรุ่งนี้บอสจะเรียกหาไหม
และเหมือนประตูมีหู อยู่ๆ บอสก็โทรอินเตอร์คอมออกมาจากในห้องทำงานแล้วเรียกฉันให้เข้าไปพบ
“ค่ะบอส” ฉันนั่งเก้าอี้ที่อยู่ตรงข้ามกับเขาแล้วมองใบหน้าที่ตอนนี้ดูเคร่งเครียดใส่ฉันอีกแล้ว
“ผมได้ยินนะ ที่คุณเชนเขาชวนคุณไปกินข้าวน่ะ” เขาชี้ไปที่หน้าจอมอนิเตอร์จากกล้องวงจรปิดที่ติดเอาไว้หน้าห้อง แล้วหันมามองด้วยสายตาที่ดุดัน
“ค่ะ” ฉันนึกอยู่แล้วว่าเขาต้องเรียกฉันเพราะเรื่องนี้
“ทำไมคุณไม่ปฏิเสธ”
“แล้วทำไมหยีต้องปฏิเสธล่ะคะ”
“คุณเป็นของผม”
“แบบลับๆ นะเหรอคะ ตราบใดที่หยีไม่ใช่ตัวจริงของบอส หยีก็มีสิทธิ์เลือกไม่ใช่เหรอคะ” ฉันพูดออกไปตรงๆ
“อยากเปิดตัวว่าเป็นเมียผมเหรอ” เขาแค่นยิ้มออกมา หัวใจฉันเต้นแรงวัดใจตอนนี้แหละว่าจะเป็นคนลับๆ กับผู้ชายรูปหล่อร่ำรวยในฝัน หรือว่าจะเป็นตัวจริงกับผู้ชายที่รักเราแต่เราไม่ได้รักเขา
“เอาสิ พรุ่งนี้ผมจะประกาศให้ทุกคนรู้เลย ดีเหมือนกันคุณเชนจะได้ไม่มายุ่งกันคุณอีก” คำตอบของเขาทำให้ฉันดีใจจนเนื้อเต้นแต่ก็ต้องเก็บอาการเอาไว้
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันยังไม่พร้อมให้ใครรู้เรื่องความสัมพันธ์ของเรา” ฉันรีบบอกออกไป เพราะยังไม่พร้อมให้เพื่อนร่วมงานวิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม
“จะให้ผมเป็นตัวเลือกแข่งกับไอ้ผู้จัดการนั่นเหรอ” เขาถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“เปล่าค่ะ แต่ว่าหยีไม่อยากถูกมองว่ามีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่น” ฉันพูดเสียงอ่อนลงเพราะดูท่าทางเขาจริงจังกันฉันมาก
ความจริงจังของเขา ทำให้ฉันดีใจมากแต่ว่าเล่นของสูงใช่ว่าจะดีนัก
“คืนนี้อยู่กับผมนะ”
“ก็ได้ค่ะ” ฉันตอบรับด้วยความเต็มใจเพื่อเอาใจให้เขายิ้มออก
“รวมถึงพรุ่งนี้และคืนต่อๆ ไปด้วย”
“ให้หยีย้ายมาอยู่ด้วยเลยไหมคะ” ฉันพูดประชดเขาเล็กน้อย
“เป็นความคิดที่ดี งั้นเย็นนี้ผมพาคุณไปเก็บของมาอยู่กับผมถาวรเลยก็แล้วกัน”
ฉันอ้าปากค้างกับท่าทีจริงจังและคลั่งรักเกินเบอร์ของเขา
---------------------
ฉันอาบน้ำในห้องน้ำของคุณโย่งหลังจากที่เขาพาไปเก็บของใช้บางส่วนออกมาจากห้องเช่าเพื่อมาอยู่กับเขา
บอสหนุ่มตามเข้ามาอาบน้ำพร้อมกับฉันแล้วแนบร่างเปลือยเปล่าเข้ามากอดจากด้านหลังด้วยความปรารถนาที่อัดแน่นหลังจากที่เขาปลดปล่อยไปแล้วรอบหนึ่ง
“ใจเย็นๆ สิคะ นี่ห้องน้ำนะคะเดี๋ยวก็ลื่นล้มกันพอดี”
“รู้ไหมว่าผมชอบคุณตั้งแต่แรกเลยนะ เวลาเดินแล้วสะโพกใหญ่ๆ ของคุณมันน่ากระแทกมากเลย”
“ชอบแค่บั้นท้ายเหรอคะ” ฉันถามด้วยน้ำเสียงที่เจือด้วยการยั่วยวนเบาๆ
“ตอนบ่ายผมเห็นไม่ชัด ต้องขอสำรวจก่อนนะว่าชอบส่วนไหนอีก”
ฉันหันไปยืนเผชิญหน้ากับบอสหนุ่ม มือน้อยลูบแผงอกกว้างอย่างยั่วยวน แล้วช้อนดวงตาขึ้นเรียกร้องจูบจากเขา
บอสหนุ่มโน้มใบหน้าลงมาประกบจูบบดกลีบปากอย่างเร่าร้อน ปลายลิ้นแทรกเข้ามาดูดเกี่ยวลิ้นด้วยความกระหาย กอดรัดร่างฉันประคองในอ้อมแขนทำแล้วใช้มืออีกข้างลูบไล้ที่สะโพกด้วยความกระสัน
จากนั้นมือนิ้วแกร่งก็ลูบวนลงไปที่เบื้องล่าง สอดแทรกเข้าสู่กลีบเนื้อที่ฉ่ำแฉะแล้วหมุนวนนิ้วขยับเข้าออกในซอกรักรัวๆ
“อื้อ บอสขา” ฉันครางเรียกเขาในขณะที่เลื่อนริมฝีปากหนาลงไปจูบไซ้ที่คอ
“แยกขาออกกว้างๆ สิคนดี” เขากระซิบเสียงแหบพร่า ขยับนิ้วเร่งรัวในซอกลับอย่างชอบใจรุกเร้าให้ยิ่งกระสันเสียว
“อื้อ หยีอยากทำแล้ว” ฉันเรียกร้องหาสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าปลายนิ้วของเขา ลมหายใจหอบถี่เมื่อนิ้วหนาถอนออกไป
เขาดันร่างฉันเข้ากับผนังห้องน้ำ ยกขาขึ้นหนึ่งข้างแล้วย่อกายกดส่วนแข็งแกร่งเข้ามาอย่างเต็มแรง
ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงมาจูบที่ซอกคอ แล้วไล้เลียตรงจุดนั้นจนฉันขนลุกด้วยความสยิวซ่านจนขนลุกซู่
สะโพกแกร่งเริ่มขยับเข้าหา โดยที่มือเขาข้างหนึ่งยกขาฉันพาดแขนเอาไว้ การเคลื่อนไหวเริ่มจากการกระแทกอย่างเนิบนาบรัญจวนใจ ก่อนจะทวีความเร็วเข้าใส่อย่างไม่ปรานีจนเกิดเสียงเนื้อกระทบกันอย่างต่อเนื่อง
“อื้อ เสียว บอสขาหยีเสียว” ฉันครางเสียงหวาน แอ่นสะโพกรับทุกจังหวะที่กระแทกลงมาด้วยความชอบใจ
จากนั้นฉันก็ถึงจุดหมายแล้วสะโพกกระตุกเบาๆ ส่งสัญญาณให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าตนเองถึงจุดหมายไปก่อนแล้ว
“ไปต่อที่เตียงนะหยี”
“ค่ะ” ฉันรับปากเสียงหอบถี่ เดินตามเขาไปที่เตียงแล้วถูกจับให้นอนหงายลง
มือใหญ่แยกเข่าทั้งสองออกกว้าง คุกเข่าประชิดแล้วชำแรกท่อนเนื้อเข้ามามิดลำ ขยับควงสะโพกกดลงมาที่จุดกระสันแล้วขยี้สวาทจนฉันเกิดความปรารถนาไม่รู้จบ
“รอบนี้พร้อมกันนะคนดี” เขาพูดเสียงหวานข้างใบหูเมื่อปลุกเร้าให้ฉันเกิดอารมณ์ร่วมได้สำเร็จอีกรอบ
จากนั้นสะโพกสอบก็เร่งเร้ากระแทกลงมาอย่างดุดัน พร้อมๆ กับใช้ปลายนิ้วช่วยละเลงที่เม็ดเกสรเร้นลับเพื่อเร่งขั้นตอน
“อื้อ หยีไม่ไหวแล้ว” ฉันบิดสะโพกไปมาด้วยความเสียวซ่านที่ทรมานเจียนจะขาดใจ
คุณโย่งกระแทกลงมารัวๆ กดนิ้วขยี้ลงมาเน้นๆ จนในที่สุดก็พาเราทั้งคู่ไปสู่ประตูสวรรค์พร้อมกัน
“หยีเป็นของผมแล้ว ห้ามมีตัวเลือกไม่ว่าใครทั้งนั้น”
“เข้าใจแล้วค่ะ” ฉันตอบรับเขา แล้วยิ้มให้กันขณะที่ต่างคนต่างหายใจหอบเหนื่อยจากบทรักที่แสนหฤหรรษ์ที่พึ่งผ่านพ้นไป
---------------------
ในตอนเช้าฉันตื่นก่อนคุณโย่งแล้วยิ้มมองเขาที่ยังนอนหลับอยู่และกรนเบาๆ ด้วยใบหน้าที่ดูไร้พิษสงเมื่อคืนนี้เขาเพิ่มลายนิ้วมือฉันเข้าไปในระบบเปิดประตูพร้อมกับรหัสผ่านกรณีสแกนไม่สำเร็จทำให้ฉันมั่นใจในตัวเขามากขึ้นตอนแรกยอมรับว่ากลัวจะเป็นของเล่นบอส แม้จะเต็มใจเป็นของเล่นแต่ลึกๆ ก็หวังครอบครองหัวใจ และตอนนี้ฉันก็มั่นใจว่าครองหัวใจบอสเอาไว้ได้แล้ว ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ลงทุนให้ฉันมาอยู่ที่นี่ด้วยหรอกฉันรีบอาบน้ำแต่งตัวออกไปนั่งประจำที่โต๊ะทำงาน พี่บีและพี่เก่งมาทำงานตั้งแต่เช้าแล้วมองฉันที่มาถึงก่อนด้วยความแปลกใจเพราะปกติถึงจะมาเช้าแต่ก็เป็นคนสุดท้ายของคนในห้องนี้ตลอด“มาเช้าเชียวนะคุณเลขาหยี”“พอดีตื่นไวค่ะพี่บี แล้วก็ต้องมาเตรียมเอกสารให้บอสด้วย”“มาเช้าแบบนี้ไม่ใช่ว่านัดมากินข้าวเช้ากับใครหรอกนะ” พี่เก่งยิ้มแซวแล้วหันไปทางพี่เชนที่เดินมาพอดี พร้อมกับขนมและเครื่องดื่มที่ซื้อมาเผื่อฉัน“พี่ซื้อมาฝาก”“ขอบคุณมากเลยนะคะ แต่ว่าพี่เชนไม่ต้องซื้อมาให้หยีแล้วนะคะ หยีเกรงใจมากๆ เลย” ฉันบอกเขาแล้วไม่รับถุงที่เขายื่นมาให้“รับไว้เถอะพี่เต็มใจซื้อมาให้”“หยีรับไว้ไม่ได้จริงๆ ค่ะ ขอโทษนะคะ” ฉันปฏิเสธอ
คืนวันเสาร์ที่เป็นวันสุดท้ายในการทำงานของสัปดาห์ และเป็นวันที่ฉันหายจากประจำเดือนพอดี คุณโย่งก็เตรียมพร้อมจะตะปบฉันด้วยลีลาของเสือที่กระหายเหยื่อตั้งแต่ตอนหัวค่ำแล้วแต่ฉันห้ามเอาไว้ก่อน“อย่าพึ่งใจร้อนสิคะ” ฉันห้ามเขาเอาไว้กับบอสหนุ่มที่แสนเอาแต่ใจและขี้เอาคนนี้“กินยาคุมไม่กี่วันอึ๋มขึ้นเยอะเลยนะเนี่ย”“มันอึ๋มแต่แรกแล้วล่ะคะ ไม่เกี่ยวกับยาคุม” ฉันพูดพลางส่ายหน้าอกยั่วยวน“ห้ามผมไม่ให้ทำแต่ส่ายนมยั่วแบบนี้ใจร้ายนะ” เขาตัดพ้อเสียงเล็กเสียงน้อย เป็นแมวน้อยสำหรับฉันทำให้ยิ้มได้ทุกวันกับความน่ารักที่เขามีให้กับฉันคนเดียวเขาคร่อมทับร่างฉันเอาไว้แล้วรวบมือทั้งสองกดลงที่เตียง แสดงบทบาทซาตานล่าสวาทออกมาทางสีหน้าและแววตาที่หื่นกระหายนั้น“บอสหื่นจังเลยค่ะ แต่หยีชอบนะ”เขายิ้มรับแล้วกดจูบลงมาแล้วตวัดลิ้นเกี่ยวจูบอย่างดูดดื่ม จนรู้สึกได้ถึงห้วงลมหายใจที่ติดขัดราวกับจะจมดิ่งในน้ำลึกเมื่อจุมพิตกลีบปากหวานฉ่ำจนพอใจเขาจึงถอดถอนริมฝีปากออกแล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์แล้วมุดหน้าไซ้ซอกคอตั้งใจจะฝังรอยจุมพิตเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของจนฉันต้องโวยวายออกมา“ถ้าคอหยีเป็นรอย หยีจะขนของหนีเลย” ฉันร้องขู่เขาไม่ยอมใ
ชายหนุ่มอายุประมาณสี่สิบต้นๆ หน้าตาดูหล่อเหลาคมคายและคุ้นหน้าค่าตาเสียเหลือเกิน แต่ฉันนึกไม่ออกว่าเคยเห็นเขาที่ไหนมาก่อน เขากำลังลากกระเป๋าใบใหญ่จะเข้ามาในลิฟต์ที่ฉันยืนอยู่“รอด้วยครับ!” น้ำเสียงที่รีบร้อนนั้นทำให้ฉันต้องกดประตูลิฟต์ค้างเอาไว้เพื่อรอเขาทันทีที่เข้าลากกระเป๋าก้าวเข้ามาก็ยิ้มให้อย่างสุภาพ เสื้อผ้าที่ดูสวมใส่ก็ไม่ใช่ของแบรนด์เนมแต่โดยรวมแล้วกลับแต่งตัวดูดีสมวัยและมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก‘ตัวก็หอมด้วย ...ว่าแต่เขาเป็นใครกันนะ’ ฉันได้แต่แอบคิดในใจ“ไปชั้นไหนคะ” ฉันถามอย่างสุภาพ“ชั้นห้าครับ” เขายิ้มอย่างสุภาพ และจะไปชั้นเดียวกับฉันจึงไม่ต้องกดหมายเลขชั้นซ้ำสองแล้วเราต่างก็ยิ้มให้แก่กันแก่เก้อ“พึ่งย้ายมาอยู่ใหม่เหรอคะ ไม่คุ้นหน้าเลย” ฉันทักทายเขาก่อนแล้วพยายามนึกว่าเคยเห็นเขาที่ไหน“ครับ” เขายังคงยิ้มอย่างสุภาพ แต่เพราะกลัวเขารำคาญฉันเลยไม่ได้ถามอะไรต่อแล้วเราก็ยืนรอในลิฟต์อย่างเงียบๆเมื่อประตูลิฟต์เปิดออก ฉันก็เดินไปที่ห้องของตัวเองในขณะที่ผู้อาศัยรายใหม่ก็ลากกระเป๋าตามมาติดๆ แล้วหยุดอยู่ที่ห้องข้างๆ ฉัน เราจึงมองหน้าแล้วยิ้มให้กันอีกรอบ“คุณอาอยู่ห้องข้างๆ นี่เอง หนูชื่อ
พอรู้ว่าเพื่อนบ้านคนใหม่เป็นผู้กำกับหนังเรตอาร์ พอกลับมาถึงห้องสิ่งแรกที่ทำคือการเปิดเข้าไปดูงานของเขาเพื่อศึกษาให้รู้ว่าเขาทำงานแบบไหนหนังทุกเรื่องที่เขากำกับมีการเขียนบทที่ไม่ต่างจากละครรักทั่วไป เน้นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสังคมชนชั้นกลางและมีความสมจริงในบทบาทนั้นๆฉากเลิฟซีนจะมีการกอดจูบลูบไล้กันอย่างเร่าร้อน เสื้อผ้าค่อยๆ ถูกปลดเปลื้องออกไปแล้วไซ้จูบกันอย่างถึงเนื้อถึงตัวพอถึงฉากที่ต้องสอดใส่นักแสดงจะเผยให้เห็นแค่หน้าอกและสะโพกเท่านั้น เน้นการออกท่าทางและสีหน้า พร้อมทั้งมีเสียงครางกระเส่าอย่างธรรมชาติไม่ได้ครางอย่างเอาเป็นเอาตายเหมือนหนังต่างประเทศบางเรื่อง“แบบนี้เกิดอารมณ์เคลิบเคลิ้มตามกว่าหนังเอ็กซ์ที่เปิดฉากมาก็แก้ผ้าเอากันเลย อาเน็ทกำกับออกมาดีจริงๆ” ฉันพูดชื่นชมเขาออกมาแล้วปิดหน้าจอลงแค่จะดูเพื่อศึกษางานของเขาแต่รู้สึกมวนท้องน้อยแปลกๆ และรู้สึกได้ถึงความฉ่ำแฉะที่กางเกงชั้นในบ่งบอกถึงคุณภาพงานของเขาฉันถือโอกาสนี้อาบน้ำ ค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าออกแล้วจินตนาการถึงหนังอาร์ที่ได้ดูเมื่อครู่นี้แล้วเดินไปนั่งที่ชักโครก ใช้นิ้วและสายยางฉีดน้ำสร้างความสุขให้กับตัวเองในนาทีที่กำลังจะถึงจ
หลังจากมื้ออาหารค่ำจบลง เราก็ดื่มกันต่อพร้อมกับอาเน็ทที่เปิดงานของเขาที่ยังไม่ตัดต่อให้ฉันดูภาพจากต้นฉบับกลิ่นฉุนของเครื่องดื่มในมือนั้นทำให้ฉันนิ่วหน้าเล็กน้อย ค่อยๆ จิบมันไปขณะที่เขาเปิดงานให้ดู แทบจะไม่เกิดอารมณ์เลยสักนิดเพราะหนังที่เราเห็นฉากเลิฟซีนต่อเนื่องนั้น จริงๆ แล้วถ่ายทำในมุมต่างๆ อยู่หลายครั้ง แต่ละครั้งโยกอยู่ไม่กี่นาทีก็เปลี่ยนมุมกล้องเพื่อถ่ายทำในมุมอื่นอีก“ที่เขาบอกว่าใส่ถุงเท้าตอนที่ถูกกันเรื่องจริงเหรอคะ นึกว่าเป็นมุกพูดเล่นเสียอีก”“ใช่แล้ว แต่ฝ่ายหญิงน่ะไม่มีอะไรปิดนะค่อนข้างเสียเปรียบหน่อย การเซฟผู้ชายจึงเป็นการเพิ่มความมั่นใจว่าจะไม่มีอะไรเกินเลย”“แล้วแบบนี้มีเขินกันไหมคะ แบบถูๆ กันแล้วเกิดอารมณ์ น้ำแฉะอะไรแบบนี้” ฉันถามตามตรงด้วยความอยากรู้“ก็อย่างที่เห็นนั่นแหละถูๆ ฉากนี้ก็สั่งคัท ถูๆ ฉากนั้นก็สั่งคัท นักแสดงเหนื่อยจนไม่มีอารมณ์ บางทีพระเอกไม่แข็งด้วยซ้ำ”“แล้วเคยมีฉากที่เกิดอารมณ์จริงไหมคะ แล้วนักแสดงชายเผลอสอดใส่เข้าไป”“ก็อาจจะมีนะ แต่กองถ่ายของอาไม่มี ถามมากแบบนี้ลองดูไหมจะได้เห็นภาพ” เขาหันหน้ามาถาม กลิ่นลมหายใจที่เจอแอลกอฮอล์ของเราทำให้ฉันขนลุกซู่ เ
ใบหน้าที่ดูจริงจังของผู้กำกับวัยสี่สิบกว่าทำให้ฉันมองอย่างหลงใหล ไม่ใช่แค่ลีลาบนเตียงและรูปลักษณ์ที่ดูอบอุ่นของเขาที่ทำให้ฉันรู้สึกลุ่มหลงแต่เป็นเพราะนิสัยใจคอจริงๆ ของเขาด้วย“งานยังไม่เสร็จเหรอคะ อาหารมาแล้วนะ” ฉันเดินเข้าไปกอดเขาจากด้านหลังเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังยกแขนขึ้นบิดขี้เกียจ แล้วหอมแก้มสากนั้นพร้อมกับคลอเคลียที่ข้างใบหูของเขา“อีกนิดหนึ่งน่ะ กินข้าวก่อนก็ได้นะ”“อาเน็ทตัดต่อเองทำเองทั้งหมดแบบนี้ไม่มีทีมงานช่วยเหรอคะ” ฉันมองหน้าจอตรงหน้าที่เขาตัดงานค้างเอาไว้“พึ่งลาออกไปคนหนึ่งน่ะตอนนี้เลยไม่มี กองถ่ายเล็กๆ โปรดักชั่นธรรมดาน่ะมีตัดต่อคนเดียว พอลาออกไปอาเลยต้องทำหน้าที่นี้ไปก่อนจนกว่าจะหาคนใหม่ได้”“ให้หวานช่วยไหมคะ หวานได้เกรดเอวิชาตัดต่อและกราฟฟิก เคยตัดต่อหนังสั้นส่งประกวดมาแล้วด้วย” ฉันรีบเสนอตัวช่วยงานเขา จะได้ยิ่งทำให้เราใกล้ชิดกันมากขึ้น“งั้นกินข้าวแล้วอาจะสอนงานนะ”“ขอบคุณนะคะที่ให้หวานมีส่วนช่วยในงานของอาเน็ท”“อาต่างหากที่ขอบคุณหวาน ที่มาช่วยงานของอา” เขาลุกขึ้นแล้วหันมากอดฉัน โยกตัวไปมาเบาๆ อย่างเอ็นดูฉันเสียจนฉันอยากดูเอ็นเขากลับแต่เสียดายที่จราจรติดขัดเพราะติ
พอกลับจากมหาวิทยาลัยฉันก็อาบน้ำเปลี่ยนเครื่องแต่งกายในชุดลำลองไปที่ห้องของอาเน็ทเพื่อเก็บรายละเอียดงานตัดต่อส่วนที่เหลือให้เรียบร้อยฉันเปิดดูภาพเคลื่อนไหวตรงหน้าที่พอตัดฉากยิบย่อยมารวมกันเป็นฉากที่ต่อเนื่องก็ภูมิใจมากรอบแรกรอบสองเป็นการดูเพื่อเก็บรายละเอียดงานไม่ได้เกิดอารมณ์ร่วมตามเลยเพราะความเครียดที่อยากให้งานออกมาสมบูรณ์แบบเข้าใจแล้วว่าทำงานพวกนี้ไม่มีอารมณ์หรอกเพราะหน้างานจริงน่ะเครียดมากแต่ว่าหลังจากที่คิดว่างานผ่านและไม่มีรายละเอียดให้เก็บแล้วก็ดูแบบเรื่อยๆ คราวนี้จึงเกิดอารมณ์เล็กน้อยและแทบจะรอให้อาเน็ทกลับมาแทบไม่ไหวคืนวันศุกร์แบบนี้ฉันสามารถรอเขาได้ยาวๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการไปเรียนมหาวิทยาลัยเหลืออีกเทอมเดียวฉันก็จะเรียนจบแล้ว จากนั้นการฝึกงานก็อยากจะขอฝึกกับอาเน็ทไปเลย แต่ต้องปรึกษาอาจารย์ที่ปรึกษาก่อนว่าสามารถฝึกงานในกองถ่ายหนังอีโรติกได้หรือไม่ ถ้าได้ก็คงจะดีไม่น้อยเสียงเปิดประตูห้องทำให้ฉันรีบหันไปดูแล้วยิ้มให้กับเขาอาเน็ทอ้าแขนออกแล้วฉันก็วิ่งเข้าไปหากระโดดขึ้นไปคาบอยู่บนตัวเขาแล้วกอดคอเอาไว้“ดีนะที่มีเมียตัวเล็กไม่งั้นหลังอาหักแน่” เขาพูดแล้วอุ้มพาฉันเดินไป
หนังเรื่องใหม่ที่จะต้องถ่ายทำฉากบางส่วนที่ต่างจังหวัด อาเน็ทชวนฉันให้ตามไปด้วยในช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์และตรงกับช่วงที่อาจารย์จัดให้นักศึกษาปีสี่ออกไปลงพื้นที่หาข้อมูลทำวิจัยในวันจันทร์และอังคาร ฉันจึงมีเวลาหยุดยาวรวมสี่วันไปดูงานในกองถ่ายกับเขาอากาศในช่วงต้นปีค่อนข้างเย็นสบาย การถ่ายทำที่รีสอร์ตท่ามกลางหุบเขาจึงเป็นอะไรที่ฉันรู้สึกมีความสุขมาก“พระเอกเดินตามนางเอกไป พอถึงตรงต้นไม้ใหญ่ตรงนั้นก็ดึงนางเอกให้หลบ แล้วล้มไปตรงที่ทำเครื่องหมายเอาไว้” อาเน็ทกำกับให้พระนางทำตามบทผ่านโทรโข่ง แล้วนั่งดูจอมอนิเตอร์ตรงหน้าฉันมองดูสีหน้าที่จริงจังนั้นแล้วยิ้มอย่างภูมิใจ ก่อนจะดูพี่วินกับพี่เมย์ที่เป็นพระนางในเรื่องใหม่นี้กำลังแสดงเป็นเทคที่สามของซีนนี้พี่วินเดินตามง้อพี่เมย์ในฉาก พอถึงต้นไม้ใหญ่ก็ดึงพี่เมย์ให้ล้มลงไปที่ข้างทางที่มีเบาะเตรียมเอาไว้แล้วอาเน็ทก็สั่งคัท“คัท! ซีนต่อไปกล้องแพลนไปที่กิ่งไม้”ทีมงานปีนขึ้นไปต้นไม้พร้อมกับแกะเชือกมักท่อนไม้ขนาดกลางที่เตรียมเอาไว้ให้ตกลงมาให้กล้องจับภาพตอนกิ่งไม้ตกเพื่อนำไปตัดต่อให้ดูเหมือนว่ามันหล่นลงมาจากนั้นอาเน็ทก็ให้ถ่ายฉากที่พระนางล้มลงแล้วกลิ้ง
เมื่ออรรณพต้องไปทำงานต่างจังหวัดสองวัน จึงเป็นช่วงเวลาทองของทั้งคู่ที่จะพลอดรักกันทั้งสองช่วยกันถอดเสื้อผ้าออกช่วยกันขณะที่จูบเล้าโลมกันตั้งแต่หน้าประตูห้องของกพล จนไปถึงเตียงเสื้อผ้าก็ถูกถอดออกตามทางจนไม่เหลือเขาเริ่มเล้าโลมแฟนสาวอย่างหื่นกระหาย ปากพร่ำชมเรือนร่างที่สวยสมส่วนในวัยยี่สิบสองด้วยความหลงใหล ล้วงควักบดขยี้จุดซ่อนเร้นนั้นอย่างไม่หยุดมือ“อันสวยมากเลยรู้ไหม พี่ทั้งรักทั้งหลงอันจนไม่อยากห่างแม้แต่วินาทีเดียว” เขาพูดไปก้มลงสำรวจหน้าอกไป ก่อนจะดูดเลียที่ยอดอกด้วยความหื่นกระหาย“อันเองก็ไม่อยากห่างจากพี่กพลเลย เมื่อคืนนี้คอลเสียวกันใช้นิ้วติ้วแต่ก็ไม่เหมือนพี่กพลมาทำให้” เธอครางเสียงหวานออดอ้อนเขา“งั้นคืนนี้พี่จะทำให้อันมีความสุขจนที่สุดดีไหมครับ” เขาเงยหน้าขึ้นมาถามแล้วก้มลงเลียที่รอบสะดือ ก่อนจะลากลิ้นไปที่เนินอวบอูม“อื้อ อันอยากมีความสุข อยากโดนพี่กพลเอาทั้งคืนเลยค่ะ ซี๊ด” หญิงสาวบอกเขาแล้วแอ่นสะโพกรับปลายลิ้นที่กำลังแยงดูดเม็ดเต่งตึงสีหวานในขณะเดียวกันปลายนิ้วหนาก็งอข้อนิ้วแยงเข้าออกเกาะเกี่ยวโดนจุดเสียวด้านใน มันเป็นความเสียวที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก“พี่กพ
ผ่านไปหนึ่งเดือนแล้วที่ทั้งสองคบหากัน ในที่สุดก็เปิดเผยกับอรรณพว่ากำลังคบหาดูใจกันอยู่ และบอกให้เขารู้ว่าพวกตนเพิ่งเริ่มคบกันเท่านั้นเพราะไม่อยากให้พี่ชายไม่สบายถ้ารู้ว่าแอบคบกันก่อนหน้านี้ในเช้าวันหยุดที่ปกติสองพี่น้องจะตื่นสาย แต่เพราะวันนี้กพลจะมาที่บ้านอันธิกาจึงต้องตื่นแต่เช้าเธออาบน้ำแต่งตัวออกไปเพื่อเตรียมอาหารเช้าให้ทั้งสองหนุ่ม แล้วยิ้มให้กับกพลที่มาถึงตั้งแต่เช้าตรู่ในขณะที่อรรณพยังไม่ตื่นนอนพออาหารเช้าเสร็จเธอก็ให้กพลปลุกพี่ชาย อรรณพลุกมาเข้าห้องน้ำแล้วอาเจียนไม่หยุดและมีท้องเสียร่วมด้วย“ไหวไหมพี่ณพ” เธอถามพี่ชายที่พาร่างมานั่งที่โต๊ะอาหารด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว“ไหว” เขาบอกแล้วมองข้าวต้มตรงหน้า คิดว่ากินอะไรร้อนๆ แล้วน่าจะดีขึ้น“มาแต่เช้าขนาดนี้ เมื่อคืนไม่ค้างซะเลยล่ะ” คนป่วยหันไปประชดเพื่อนรัก“ได้เหรอ” กพลถามกวนบาทากลับไป“ไม่โว้ย เมื่อก่อนตอนจีบน้องฉันยังไม่เป็นแฟนฉันให้นอนได้ แต่ตอนนี้พวกแกสองคนเป็นแฟนกันแล้ว อย่าหวังเลยว่าจะมาค้างที่บ้านฉันได้อีก” พี่ชายทำหน้าที่หวงน้องสาวคู่รักข้าวใหม่ปลามันอมยิ้ม เพราะพวกตนมีวิธีรับมือเรื่องนี้อยู่แล้วพี่ชายขี้หวงตักข้าวต้มกิน
ทั้งสองคบหากันอย่างลับๆ มาเกือบสองสัปดาห์แล้วโดยไม่ให้อรรณพรู้ แต่ท่าทีของอันธิกาก็ไม่ได้ต่อต้านกพลเหมือนแต่ก่อนทำให้อรรณพรู้สึกยินดีกับว่าที่น้องเขย“จะมากินข้าวเช้าด้วยทำไมบ่อยๆ เปลืองฉิบ”“อ้าวไอ้ณพ นี่แกรังเกียจเพื่อนเหรอ กับข้าวฉันก็ซื้อมานะโว้ย เปลืองตรงไหน” เขาหันไปพูดหยอกเพื่อนสนิทที่พูดหยอกแรง“ใช่ หมูในตู้เย็นกับผักก็พี่กพลซื้อ กับข้าววันนี้พี่กพลก็ซื้อ แล้วพี่จะบ่นทำไม” อันธิกาออกรับช่วย“เดี๋ยวนี้เข้าข้างมันเหรอ” อรรณพหรี่ตามองน้องสาวอย่างจับผิด“นี่หลงคำหวานมันจนใจอ่อนแล้วใช่ไหม” เขาพูดล้อเลียนน้องสาวอันธิกาไม่ได้ปฏิเสธเพราะว่าเธอต้องการให้พี่ชายรับรู้ว่าทุกอย่างมันค่อยเป็นค่อยไป“ก็ดีแล้วล่ะ เพื่อนพี่ถึงมันจะดูเหมือนคนหื่นๆ แต่มันไม่เจ้าชู้นะ ดีกว่าไอ้หน้าปลากระโห้ที่มาส่งแกเมื่อวาน ทำตัวเรียบร้อยเป็นสุภาพบุรุษแต่ผู้ชายด้วยกันมันดูออกว่าจ้องจะฟันแก” เขาบอกน้องสาวประโยคนั้นทำให้กพลมองแฟนลับๆ ของตนตาขวาง เพิ่งรู้ว่ามีคนมาส่งเธอ“ใครมาส่ง ทำไมต้องมาส่ง”“เมื่อวานเพื่อนมารับไปกินข้าวขากลับเพื่อนอีกคนเลยมาส่งค่ะ” เธออธิบาย แต่ดูเหมือนว่าเขาจะยังคงไม่ยอมสงบลง แสดงความหึงหวงจ
ร่างเปลือยเปล่าของหญิงสาวที่ตนแอบรักนอนรออยู่ตรงหน้า กพลเกิดอารมณ์เป็นอย่างมากในใจเอาแต่ขอโทษเพื่อนรักอย่างอรรณพที่ตนทำเกิดกว่าเหตุเพราะทุกอย่างมันเกินห้ามใจ“เร็วๆ สิคะเดี๋ยวพี่ณพก็กลับมาก่อนหรอก”เธอเร่งเร้าเขาด้วยน้ำเสียงที่แสร้งไม่พอใจ แต่ในใจนั้นทั้งลุ้นทั้งตื่นเต้นอยากโดนกระบองนั้นฟาดที่เนินสวาทใจจะขาดแล้ว“บอกว่าเร็วๆ” เธอเร่งเขาไม่หยุด“บ่นเก่งจัง” เขาคร่อมร่างหลวมๆ ทับเธอเอาไว้ จากนั้นก็โน้มใบหน้าที่ดูมีเสน่ห์นั้นลงไปจุมพิตที่ริมฝีปากที่บ่นไม่หยุดปลายลิ้นชื้นสอดแทรกเข้าไปเกี่ยวปลายลิ้นเรียวเล็กนั้นแล้วดูดปลายลิ้นนั้นจูบอย่างดูดดื่มจนเธอครางอื้ออึงเพราะหายใจไม่ถนัดมือของหญิงสาวไขว่คว้าที่หัวไหล่กว้างแล้วแอ่นสะโพกเรียกร้องหาท่อนเนื้อที่พาดอยู่ต้นขาของตนให้เขารีบลงมือเสียทีกพลรู้ว่าเธอนั้นอ่อนประสบการณ์ถูกเล้าโลมเล็กน้อยก็เกิดอารมณ์และคงต้องการสิ่งนั้นจนทรมานด้วยความเสียวจนต้องแสดงออกมาด้วยภาษากายเขาไม่รอช้าที่จะดับความร้อนรุ่มในร่างกายของเธอด้วยแก่นกายที่แข็งแกร่งของเขาเขาหยัดตัวนั่งคุกเข่า มือหนากำท่อนเนื้อถูไถที่รอยแยกฉ่ำน้ำบริเวณช่อกลีบบัวที่แย้มให้เห็นเกสรเต่งตึงตรงหน้
สายตาที่กำลังมองอย่างโลมเลียและจาบจ้วงของชายที่นั่งข้างๆ พี่ชายทำให้อันธิการู้สึกไม่ค่อยชอบใจสายตาของเขานักกพลคือเพื่อนสนิทของพี่ชายที่ไปมาหาสู่กันตั้งแต่ที่เข้าเรียนมหาวิทยาลัย จนกระทั่งตอนนี้ล่วงเลยเข้าสู่วัยทำงานแล้วทั้งสองก็ยังคบหาสนิทสนมกันอยู่สายตาที่เขามองเธอแต่ก่อนไม่ใช่แบบนี้ มันเต็มไปด้วยความเอ็นดูมากกว่ามองเหมือนอยากจับเธอแก้ผ้าแล้วสำรวจเรือนร่างที่เป็นสาวเต็มตัวอย่างในตอนนี้“อันอิ่มแล้ว ไปเรียนก่อนนะ” หญิงสาวบอกพี่ชายขณะที่กินมื้อเช้าด้วยกันโดยมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญเสนอหน้ามานั่งโต๊ะด้วย“ให้ไอ้กพลไปส่งนะ วันนี้พี่จะใช้รถ”“อ้าว พี่ณพก็ไปกับพี่กพลสิ รถตัวเองเสียก็ให้เพื่อนมารับแล้ว” เธอโวยวายเมื่อพี่ชายจะให้คนหื่นกามอย่างเพื่อนสนิทเขาไปส่งเธอ“พี่ให้กพลมันมาแต่เช้าเพื่อไปส่งอันนั่นแหละ ไม่ใช่มารับพี่” อรรณพบอกแล้วยึดกุญแจรถที่วางบนโต๊ะมาถือไว้“อ้าว ตัวเองทำงานด้วยกันก็ไปด้วยกันสิ” เธอรู้ว่าพี่ชายคิดจะทำอะไรจะจับคู่เธอให้กพลนะหรือ ฝันไปเถอะ!“เอากุญแจรถอันมานะ ไม่งั้นอันจะโทรไปฟ้องแม่” เธออ้างแม่ขึ้นมา ทำให้อรรณพต้องคืนกุญแจรถให้น้องสาวแต่โดยดี“ก็แค่เนี้ยะ” หญิงสาวย่นจ
สายน้ำที่เย็นฉ่ำราดรดกายของเราทั้งสองคน ผู้กำกับหนุ่มใหญ่กำลังถูสบู่ให้ฉันโดยการกอดเข้ามาจากด้านหลังแล้วลูบไล้ถูฟองไปที่สองเต้าท่อนเนื้อแกร่งถูไถที่สะโพกจากด้านหลังทำให้ฉันรู้สึกเกิดอารมณ์ใคร่และต้องการเขามากขึ้นหลังจากที่น้ำชำระคราบฟองสบู่ไปจนหมดเราก็ปิดน้ำแล้วหันมาสบตากันด้วยความปรารถนา แล้วอาเน็ทก็โน้มหน้าลงมาจูบที่หน้าผากแล้วไล่มาจูบที่แก้ม“ซีนแรกเราจะเอากันในห้องน้ำก่อน”“แน่ะ เลิกกองแล้วนะคะ”“อย่าดื้อสิครับ เล่นตามบทจนกว่าอาจะสั่งคัท” เขาพูดจบก็ดันฉันไปจนหลังชิดผนังห้องน้ำยกขาฉันขึ้นหนึ่งข้างแล้วย่อกายกดท่อนเนื้อหัวบานนั้นชำแหละเข้ามาในรูสวาทแล้วเคลื่อนสะโพกเข้ามาอย่างนุ่มนวล“อื้ม อาเน็ทขา....”“วันนี้อาจะทำเบาๆ เดี๋ยวข้างห้องจะได้ยิน” เขากระซิบเสียงพร่าข้างหู ฉันแอบลอบยิ้มไม่เชื่อว่าคนอย่างเขาจะเบาแรงได้นาน ในเมื่อที่ผ่านมาคุณอาไม่เคยอ่อนโยนกับเมียเด็กคนนี้อาเน็ทซอยฉันอัดเข้ากับผนังห้องน้ำ ฉันยืนขาเดียวกอดคล้องคอเขาเอาไว้รับจูบจากกลีบปากที่ร้อนผ่าวแล้วจูบแลกเกี่ยวปลายลิ้น ดื่มด่ำกับรสหวานในโพรงปากอย่างกระหายสะโพกสอบเคลื่อนเข้ามาอย่างดุดันไม่ยอมหยุดจากนั้นก็อัดสะโพกฉันเข
หนังเรื่องใหม่ที่จะต้องถ่ายทำฉากบางส่วนที่ต่างจังหวัด อาเน็ทชวนฉันให้ตามไปด้วยในช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์และตรงกับช่วงที่อาจารย์จัดให้นักศึกษาปีสี่ออกไปลงพื้นที่หาข้อมูลทำวิจัยในวันจันทร์และอังคาร ฉันจึงมีเวลาหยุดยาวรวมสี่วันไปดูงานในกองถ่ายกับเขาอากาศในช่วงต้นปีค่อนข้างเย็นสบาย การถ่ายทำที่รีสอร์ตท่ามกลางหุบเขาจึงเป็นอะไรที่ฉันรู้สึกมีความสุขมาก“พระเอกเดินตามนางเอกไป พอถึงตรงต้นไม้ใหญ่ตรงนั้นก็ดึงนางเอกให้หลบ แล้วล้มไปตรงที่ทำเครื่องหมายเอาไว้” อาเน็ทกำกับให้พระนางทำตามบทผ่านโทรโข่ง แล้วนั่งดูจอมอนิเตอร์ตรงหน้าฉันมองดูสีหน้าที่จริงจังนั้นแล้วยิ้มอย่างภูมิใจ ก่อนจะดูพี่วินกับพี่เมย์ที่เป็นพระนางในเรื่องใหม่นี้กำลังแสดงเป็นเทคที่สามของซีนนี้พี่วินเดินตามง้อพี่เมย์ในฉาก พอถึงต้นไม้ใหญ่ก็ดึงพี่เมย์ให้ล้มลงไปที่ข้างทางที่มีเบาะเตรียมเอาไว้แล้วอาเน็ทก็สั่งคัท“คัท! ซีนต่อไปกล้องแพลนไปที่กิ่งไม้”ทีมงานปีนขึ้นไปต้นไม้พร้อมกับแกะเชือกมักท่อนไม้ขนาดกลางที่เตรียมเอาไว้ให้ตกลงมาให้กล้องจับภาพตอนกิ่งไม้ตกเพื่อนำไปตัดต่อให้ดูเหมือนว่ามันหล่นลงมาจากนั้นอาเน็ทก็ให้ถ่ายฉากที่พระนางล้มลงแล้วกลิ้ง
พอกลับจากมหาวิทยาลัยฉันก็อาบน้ำเปลี่ยนเครื่องแต่งกายในชุดลำลองไปที่ห้องของอาเน็ทเพื่อเก็บรายละเอียดงานตัดต่อส่วนที่เหลือให้เรียบร้อยฉันเปิดดูภาพเคลื่อนไหวตรงหน้าที่พอตัดฉากยิบย่อยมารวมกันเป็นฉากที่ต่อเนื่องก็ภูมิใจมากรอบแรกรอบสองเป็นการดูเพื่อเก็บรายละเอียดงานไม่ได้เกิดอารมณ์ร่วมตามเลยเพราะความเครียดที่อยากให้งานออกมาสมบูรณ์แบบเข้าใจแล้วว่าทำงานพวกนี้ไม่มีอารมณ์หรอกเพราะหน้างานจริงน่ะเครียดมากแต่ว่าหลังจากที่คิดว่างานผ่านและไม่มีรายละเอียดให้เก็บแล้วก็ดูแบบเรื่อยๆ คราวนี้จึงเกิดอารมณ์เล็กน้อยและแทบจะรอให้อาเน็ทกลับมาแทบไม่ไหวคืนวันศุกร์แบบนี้ฉันสามารถรอเขาได้ยาวๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการไปเรียนมหาวิทยาลัยเหลืออีกเทอมเดียวฉันก็จะเรียนจบแล้ว จากนั้นการฝึกงานก็อยากจะขอฝึกกับอาเน็ทไปเลย แต่ต้องปรึกษาอาจารย์ที่ปรึกษาก่อนว่าสามารถฝึกงานในกองถ่ายหนังอีโรติกได้หรือไม่ ถ้าได้ก็คงจะดีไม่น้อยเสียงเปิดประตูห้องทำให้ฉันรีบหันไปดูแล้วยิ้มให้กับเขาอาเน็ทอ้าแขนออกแล้วฉันก็วิ่งเข้าไปหากระโดดขึ้นไปคาบอยู่บนตัวเขาแล้วกอดคอเอาไว้“ดีนะที่มีเมียตัวเล็กไม่งั้นหลังอาหักแน่” เขาพูดแล้วอุ้มพาฉันเดินไป
ใบหน้าที่ดูจริงจังของผู้กำกับวัยสี่สิบกว่าทำให้ฉันมองอย่างหลงใหล ไม่ใช่แค่ลีลาบนเตียงและรูปลักษณ์ที่ดูอบอุ่นของเขาที่ทำให้ฉันรู้สึกลุ่มหลงแต่เป็นเพราะนิสัยใจคอจริงๆ ของเขาด้วย“งานยังไม่เสร็จเหรอคะ อาหารมาแล้วนะ” ฉันเดินเข้าไปกอดเขาจากด้านหลังเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังยกแขนขึ้นบิดขี้เกียจ แล้วหอมแก้มสากนั้นพร้อมกับคลอเคลียที่ข้างใบหูของเขา“อีกนิดหนึ่งน่ะ กินข้าวก่อนก็ได้นะ”“อาเน็ทตัดต่อเองทำเองทั้งหมดแบบนี้ไม่มีทีมงานช่วยเหรอคะ” ฉันมองหน้าจอตรงหน้าที่เขาตัดงานค้างเอาไว้“พึ่งลาออกไปคนหนึ่งน่ะตอนนี้เลยไม่มี กองถ่ายเล็กๆ โปรดักชั่นธรรมดาน่ะมีตัดต่อคนเดียว พอลาออกไปอาเลยต้องทำหน้าที่นี้ไปก่อนจนกว่าจะหาคนใหม่ได้”“ให้หวานช่วยไหมคะ หวานได้เกรดเอวิชาตัดต่อและกราฟฟิก เคยตัดต่อหนังสั้นส่งประกวดมาแล้วด้วย” ฉันรีบเสนอตัวช่วยงานเขา จะได้ยิ่งทำให้เราใกล้ชิดกันมากขึ้น“งั้นกินข้าวแล้วอาจะสอนงานนะ”“ขอบคุณนะคะที่ให้หวานมีส่วนช่วยในงานของอาเน็ท”“อาต่างหากที่ขอบคุณหวาน ที่มาช่วยงานของอา” เขาลุกขึ้นแล้วหันมากอดฉัน โยกตัวไปมาเบาๆ อย่างเอ็นดูฉันเสียจนฉันอยากดูเอ็นเขากลับแต่เสียดายที่จราจรติดขัดเพราะติ