หลังจากพยาบาลกลับไปในตอนเย็น ยุทธนาก็อยู่ในความดูแลของศิวาพร หลังจากที่รับประทานอาหารเย็นแล้วเธอก็พาเขาอาบน้ำและเข้านอนอย่างเช่นทุกวัน
“วันนี้พี่วัฒน์มีประชุมผู้บริหารน่าจะกลับค่ำหน่อย” เขาบอกภรรยาที่ดูตื่นเต้นกับคืนแรกที่จะให้พี่ชายเขามามีส่วนร่วมในการให้ความสุขแทนตนเองที่ทำไม่ได้
“ค่ะ ยังไงก็ต้องรอให้คนในบ้านเข้านอนก่อนอยู่ดี” ศิวาพรหมายถึงแม่บ้านและคนรับใช้ที่อยู่บ้านหลังนี้ เพราะครอบครัวเขามีกันอยู่แค่สองพี่น้องเท่านั้น
“ตื่นเต้นเหรอ” เขาถามภรรยายิ้มๆ ถามว่าหึงไหมเขาไม่หึงหวงเธอเลย ยุทธนารักเธอและอยากให้เธอมีความสุขมากกว่า อีกทั้งเขาเองก็ถูกเธอร่วมรักแทบทุกวัน การที่เขาป่วยเดินไม่ได้ชั่วคราวแบบนี้เป็นการได้พักจากการถูกภรรยาร่วมหอ
และเมื่อเขาหายดีก็อยากให้พี่ชายช่วยให้ความสุขกับเธอต่อ เพราะเขาคนเดียวคงรับมือกับแรงปรารถนาของเธอไม่ไหว
‘คนเดียวที่ผมจะยอมคือพี่ชายผมคนเดียวเท่านั้น’ เขาคิดในใจ มองดูภรรยาที่อยู่ไม่สุขเพราะความตื่นเต้นในค่ำคืนแรกที่จะเปลี่ยนรสชาติสวาทจากคนน้องไปเป็นคนพี่ด้วยความเต็มใจตามข้อเสนอของเขาเอง
“ฉันเปลี่ยนใจตอนนี้ทันไหมคะ” เธอถามเขาเมื่อใกล้เวลาแล้ว
“ศิครับ ผมเต็มใจอยากให้คุณมีความสุข”
เธอสบตาสามีแล้วพยักหน้ารับ เข้าไปสวมกอดเขาด้วยความรัก ไม่คิดเลยว่าสามีจะลงทุนทำเพื่อเธอถึงขนาดนี้
---------------------
วีรวัฒน์ที่กลับมาถึงเขาดูเวลาผ่านไปสักพักคิดว่าน้องชายคงเปลี่ยนใจแล้วจึงอาบน้ำเตรียมตัวจะเข้านอนตามปกติ
สักพักเขาก็รู้สึกถึงลูกบิดประตูที่เปิดออกตามด้วยเงาของน้องสะใภ้ที่เข้ามาในห้องนอนของเขา วีรวัฒน์จึงเปิดโคมไฟข้างเตียงแล้วมองดูเธอที่เดินเข้ามาหาด้วยท่าทีขัดเขิน
“มานั่งที่เตียงก่อนสิ” เขาตบที่เตียงให้เธอมานั่งข้างเขาแล้วสำรวจชุดนอนที่เธอสวมใส่ จุกที่ดันเสื้อผ้าซาตินนุ่มลื่นออกมาแสดงให้เห็นว่าเธอไม่ได้ใส่ชุดชั้นในภายใต้ชุดนอน นั่นแสดงว่าเธอคงเตรียมพร้อมมาเป็นอย่างดีแล้ว
“ศิต้องการแบบไหน สด ใส่ถุง หรือว่า...”
“ครั้งนี้ใส่ถุงก่อนค่ะ หากรอบเดือนมาเดี๋ยวศิจะเป็นฝ่ายกินยาคุม” เธอพูดอย่างเอียงอายปนตื่นเต้น
วีรวัฒน์ยิ้มอย่างพอใจ เธอพูดถึงครั้งหน้าแบบนี้คงอยากจะผูกปิ่นโตกับเขาไปนานๆ ตั้งแต่ยังไม่ได้ลิ้มรสสวาทจากเขา
หนุ่มใหญ่วัยสี่สิบเอ็ดถอดเสื้อของตนออก ตามด้วยกางเกงชุดนอน เมื่อศิวาพรเห็นอย่างนั้นก็ถอดชุดนอนของตัวเองตามออกไป มองท่อนลำที่ผงาดของเขาแล้วด้วยความตื่นเต้น
“อมสิ” เขาบอกเธอแล้วนั่งพิงกับหัวเตียง มองดูเจ้าของเรือนร่างที่งดงามค่อยๆ คลานมาหาตน
ศิวาพรจับท่อนลำของพี่ชายสามีแล้วรูดรั้งขึ้นลงด้วยความตื่นเต้น ปลายลิ้นเรียวเล็กตวัดเลียไปที่ส่วนหัวแล้วไล้เลียไปทั่วแท่งลำด้วยความกำหนัด
วีรวัฒน์สูดปากครางออกมาเสียงหลงด้วยความพอใจ ไม่คิดเลยว่าน้องสะใภ้จะใช้ปากได้เก่งขนาดนี้ เขาเอื้อมมือไปขยำที่สองเต้า เขี่ยจนยอดอกชูชันแล้วบีบเคล้นอย่างสนุกมือ
“อยากเอาแล้ว” เขาพูดเสียงพร่าแล้วดันตัวเธอออกไป บอกให้น้องสะใภ้สาวหยิบเครื่องป้องกันที่ลิ้นชักข้างเตียงออกมาสวมใส่ให้กับเขา
“ใช้ขนาด 56 เลยเหรอคะ” เธอถามด้วยความตื่นเต้น จากนั้นก็ฉีกถุงออกแล้วสวมใส่ให้เขาด้วยปากของเธอ ทำให้วีรวัฒน์พอใจเป็นอย่างมาก
“พี่จะเอาแล้วนะ” เขาบอกเสียงพร่ากระเส่า
ศิวาพรพยักหน้ารับแล้วขยับมานอนที่กลางเตียง อ้าขาออกกว้างรอการเข้ามาของเขา
วีรวัฒน์กดท่อนเนื้อเข้าไปจนมิดด้าม มองดูใบหน้าที่บิดเบ้ด้วยความสุขของน้องสะใภ้แล้วยิ้มด้วยความพอใจ ก่อนจะโน้มตัวลงไปจูบที่ริมฝีปากอ่อนนุ่มแล้วเกี่ยวลิ้นจูบกันอย่างดูดดื่ม
สวบ สวบ สวบ! เสียงท่อนเนื้อแหวกกลีบสวาทเข้าไปอย่างเป็นจังหวะ ในขณะที่ริมฝีปากของทั้งคู่ยังคงบดจูบกันอย่างเร่าร้อน
หนุ่มใหญ่เลื่อนริมฝีปากไปที่ซอกคอแล้วจูบปลุกเร้าอารมณ์ให้ยิ่งโหมหนัก
“อ๊าส์ พี่วัฒน์ ศิเสียว ซี๊ด” น้องสะใภ้สาวร้องลั่นด้วยความสุขสม มือเรียวเล็กกอดจิกแผ่นหลังของพี่สามีทั้งจิกและข่วนเพื่อระบายความเสียวซ่าน
“อื้ม คับแน่นมากเลยศิ อ๊าส์” วีรวัฒน์ครางบอกเธอข้างใบหูแล้วโถมแรงกระแทกเข้าไปอย่างถี่รัว
“ไม่ไหวแล้ว อื้อ..” ศิวาพรที่ไม่ได้ร่วมสวาทกับสามีมานาน พอโดนท่อนลำขนาดอวบใหญ่ของพี่ชายสามีเข้า ประกอบกับลีลากระแทกที่ดุดันถึงใจก็ทำให้เธอปิ่มจะถึงจุดหมายอยู่เร่าๆ
ตับ ตับ ตับ! เขาตอกกระแทกเข้าหาเธออย่างเต็มน้ำหนักสะโพก จนในที่สุดน้องสะใภ้สาวก็ทนต่อความเสียวไม่ไหว
“อ๊าส์ แตกแล้ว อ๊าส์....” หญิงสาวร้องลั่นด้วยความสุขสม ภายในตอดรัดท่อนลำตุบๆ เป็นจังหวะ จากนั้นก็ตัวอ่อนลงไป
วีรวัฒน์ยิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นว่าเธอพึ่งถึงจุดสุดยอดไปก่อนเขา ชายหนุ่มยกยิ้มที่มุมปาก จากนั้นก็จับน้องสะใภ้ให้อยู่ในท่าที่ผู้ชายทุกคนชื่นชอบ ให้เธอคลานคุกเข่าแล้วโก่งสะโพกขึ้นสูงให้เขาประกบจากด้านหลัง
“พี่ขอแตกท่านี้นะ” เขาบอกเธอแล้วกดท่อนลำอวบอ้วนเข้าไปอย่างเต็มแรง
“อ๊ะ อ๊ะ จุก” เธอครางบอกเขาแล้วสูดปากไปด้วยอย่างพอใจ รสสวาทจากพี่ชายของสามีช่างดุดันถึงใจดีกว่าที่เธอคาดเอาไว้
“ศิมีอารมณ์อีกแล้ว พี่วัฒน์ขา อย่าหยุด อ๊าส์” เธอร้องขอจากเขาเสียงกระเส่า หน้าอกสั่นไหวตามแรงที่เขากระแทกเข้ามาอย่างดุดัน
ตับ ตับ ตับ! วีรวัฒน์กระแทกเข้าใส่อย่างไม่ออมแรง ยิ่งเธอครางเสียงดังเท่าไรเขาก็ยิ่งมีอารมณ์ที่รุนแรงขึ้นมากเท่านั้น
“ใกล้เสร็จแล้วบอกนะ พี่จะได้เร่งออกพร้อมกัน” เขาบอกเธอเสียงทุ้มต่ำแล้วกระแทกลงไปถี่ๆ
ศิวาพรไม่อยากเชื่อเลยว่าพี่สามีจะร่วมสวาทกับเธอได้อย่างถึงพริกถึงขิงขนาดนี้ สมกับที่สามีบอกเอาไว้ว่าเขาเอาเก่ง แบบนี้น่าเสียดายแย่หากเธอปฏิเสธไป
“แรงอีกค่ะ อย่าหยุด อื้อ..อย่าหยุด” เธอร้องบอกเขาแล้วกัดริมฝีปากล่างด้วยความสุขที่สมใจอยาก
ตับ ตับ ตับ! เขากระแทกหนักๆ อย่างต่อเนื่องตามที่เธอร้องขอ ภายในบีบรัดท่อนสวาทของเขาจนแทบทนไม่ไหว
“ใกล้แล้ว อื้ม ทั้งจุกทั้งเสียว พี่วัฒน์ขา เร่งแรงอีกหน่อย อ๊าส์” เธอบอกเขาตามตรงอย่างไม่อ้อมค้อม โก่งสะโพกให้สูงขึ้นรับแรงกระทำของเขา
วีรวัฒน์จับสะโพกเธอยึดเอาไว้ให้มั่น จากนั้นก็โถมแรงตอกอัดลงไปอย่างหนักหน่วงจนในที่สุดหญิงสาวก็ร้องครางออกมาด้วยความสุข
“แตกแล้ว อ๊าส์...”
“ซี๊ด เสร็จแล้ว” วีรวัฒน์เองก็ทนไม่ไหว ปล่อยพ่นน้ำรักออกมาเต็มเครื่องป้องกัน มองดูน้องสะใภ้ที่หอบกระเส่าด้วยแรงสวาทที่เขาปรนเปรอให้
“คืนนี้พอให้หายอยากก่อน กลับห้องไปดูแลยุทธได้แล้ว” เขาบอกเธอเสียงนุ่ม
“พรุ่งนี้ศิจะมาขย่มให้พี่วัฒน์นะคะ” เธอบอกเขาเสียงหวานอย่างเอาใจ ก่อนจะใส่เสื้อผ้ากลับคืนเตรียมตัวกลับไปที่ห้องของสามี แล้วยิ้มสบตากับเขาอย่างมีความหมาย
---------------------
เมื่อคืนนี้ตอนที่เข้าห้องมายุทธนาก็หลับสนิทแล้ว ในตอนเช้าพอตื่นมาเจอหน้ากันเธอก็ขยับเข้าไปนอนกอดในอ้อมแขนของเขา ตื่นเต้นและรู้สึกผิดระคนกันไปหมด“เป็นยังไงบ้างพี่วัฒน์ทำดีไหม”“ก็ดีนะคะ” เธอตอบด้วยความเอียงอายปนรู้สึกผิดที่นอกใจสามี แม้จะเป็นข้อเสนอของเขาเอง“ศิมีความสุขผมก็มีความสุข” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความยินดี แล้วโอบกอดภรรยาเอาไว้ด้วยความรักใคร่“อาบน้ำกันเถอะค่ะ” เธอบอกสามีแล้วค่อยๆ พาเขาขึ้นรถเข็น โชคดีที่ยุทธนาแข็งแรงจึงยกตัวเองขึ้นรถเข็นได้ง่ายเธอพาเขาไปที่ห้องน้ำแล้วย้ายเขาไปนั่งที่เก้าอี้อาบน้ำที่เตรียมไว้ จากนั้นก็เริ่มอาบน้ำไปพร้อมกับเขาอย่างเช่นเคยเพราะไหนๆ ก็ต้องเปียกด้วยกันอยู่แล้วยุทธนาดึงภรรยามานั่งที่ตักแล้วจูบริมฝีปากของเธอด้วยความรักใคร่ หอมกลิ่นกายที่คุ้นเคยอยากรีบหายแล้วชดเชยให้เธอสักครั้งเหลือเกิน แต่ว่าก็ให้พี่ชายรับช่วงดูแลภรรยาไปก่อน“เช้าๆ แบบนี้ให้ผมใช้นิ้วให้ไหม” เขาถามเธออย่างเอาใจและรู้ใจภรรยา“คุณยังป่วยอยู่เลยค่ะ ไม่เป็นไรหรอก ศิเองก็รู้สึกผิดที่ทำทุกเช้าเย็นจนคุณขาอ่อนแรงแล้วเกิดอุบัติเหตุแบบนี้ ศิเลยพยายามที่จะลดเรื่องนั้นลงไปบ้าง” เธอต
เกือบสองเดือนแล้วกับการทำกายภาพบำบัดผสานกับกำลังใจจากคนรอบตัว ยุทธนาเริ่มเคลื่อนไหวได้และกำลังฝึกเดินด้วยตนเองแต่ยังต้องใช้วอร์กเกอร์สี่ขาช่วยพยุงในการเดิน“แบบนี้อีกไม่กี่เดือนผมก็จะเดินได้เป็นปกติแล้วนะที่รักดีใจไหม” เขาถามภรรยาสาวด้วยน้ำเสียงที่ดีใจ หลังจากที่วันนี้ลองอาบน้ำด้วยตนเองถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว“ดีใจสิคะ” เธอตอบอย่างตื่นเต้นก่อนจะสลดลงไปเมื่อนึกได้ว่าเวลาของตนกับพี่ชายของสามีก็คงกำลังจะจบลงเช่นกัน“ผมรู้นะว่าคุณคิดอะไรอยู่ อันที่จริงแล้วถึงผมหายดีก็ต้องให้พี่วัฒน์ช่วยอยู่ดี เพราะขืนโดยภรรยาขย่มทุกวันขนาดนั้นผมคงขาอ่อนอีกรอบแน่” เขาพูดอย่างรู้ใจภรรยา แล้วขยับไปนอนบนเตียงข้างๆ เธอ ดึงภรรยามากอดด้วยความรักใคร่“จริงๆ เหรอคะ จะให้พี่วัฒน์ช่วยต่อจริงๆ เหรอคะ” เธอถามด้วยความดีใจแล้วขยับกอดซบอกสามีด้วยความดีใจ“ใช่สิ ผมอยากคุยกับพี่วัฒน์ให้รู้เรื่อง ความลับของเราสามคนผัวเมียจะเป็นความลับกันสามคนตลอดไป ผมเองจะได้มีคนช่วยแบ่งเบาความเหน็ดเหนื่อย พี่วัฒน์ก็จะมีเมียโดยไม่ต้องแต่งงาน ที่รักเองก็จะได้มีคนช่วยบำเรอสวาทให้มีความสุข แบบนี้พอใจไหม” เขาบอกความคิดของเขาให้แก่ภรรยาฟัง“ดี
ศิวาพรรอให้สามีหลับแล้วเธอก็ลุกขึ้นอาบน้ำอีกรอบเพื่อเตรียมตัวรอให้วีรวัฒน์มาถึงเมื่อได้ยินเสียงรถของเขาแล้วเธอก็รอเวลาสักพักให้เขาจัดการตัวเองให้เรียบร้อยแล้วจึงไปหาเขาที่ห้อง“วันนี้ศิรบกวนได้รึเปล่าคะ” เธอถามเขาตามมารยาทเพราะวันนี้เขากลับดึกมากแล้วอาจเหนื่อยที่จะต้องมาปรนเปรอสวาทให้แก่เธอ“พี่รบกวนให้ศินวดให้พี่ก่อนค่อยนาบได้หรือเปล่า” เขาถามกลับด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยล้า เพราะต้องโหมงานหนักแทนน้องชายในส่วนที่ไม่สามารถจัดการเองที่บ้านได้ จึงทำงานหนักเป็นสองเท่า“ยินดีมากๆ ค่ะ” เธอบอกแล้วไปช่วยนวดให้เขาโดยใช้ทักษะที่เคยนวดให้สามีทำให้วีรวัฒน์ผ่อนคลายแล้วครางในลำคอด้วยความพอใจกับแรงมือของเธอและท่านวดที่เป็นงานนั้น“รู้สึกดีจัง” เขาพูดขึ้นมาอย่างชื่นชม แล้วหลับตารับการนวดจากเธออย่างผ่อนคลาย“แบบนี้ถ้าศินวดจนพี่วัฒน์หลับคงไม่ได้นาบแล้วมั้งคะ” เธอพูดแล้วอมยิ้มเล็กน้อย หากไม่ได้คืนนี้เธอก็เข้าใจ เพราะถึงจะชื่นชอบเซ็กส์มากแต่ว่าเริ่มปลงได้มากแล้ว และยุทธนาก็พึ่งจัดให้เธอไปเมื่อตอนหัวค่ำ“ถ้าพี่หลับศิก็แค่ปลุกมันให้ตื่นแล้วลักหลับพี่สิครับ” เขาพูดแล้วอมยิ้ม เปลือกตายังคงไม่ขยับและเริ่มจะง่ว
นับตั้งแต่ที่เกิดอุบัติเหตุตอนนี้ก็ผ่านมาห้าเดือนแล้ว ในที่สุดยุทธนาก็สามารถเดินได้เป็นปกติโดยไม่ต้องใช้วอร์กเกอร์หรือไม้เท้าช่วยในการเดินอีกต่อไปอีกทั้งร่างกายเขาก็แข็งแรงจนสามารถให้ความสุขกับภรรยาได้ดังเดิมแล้ววันนี้ยุทธนาจึงนัดคุยกับพี่ชายและภรรยาตามลำพังสามคน เพื่อที่จะตกลงเรื่องการปรนเปรอสวาทให้แก่เธอ“ถึงผมหายแล้วผมก็อยากให้พี่วัฒน์ช่วยต่อ เพราะผมคนเดียวคงให้ความสุขกับศิไม่ไหว” ยุทธนาเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อนวีรวัฒน์พยักหน้ารับรู้ หลังจากที่เป็นชู้รักแบบสมยอมมาหลายเดือนก็พอเข้าใจหัวอกของน้องชายว่าเหตุใดจึงยอมให้ภรรยาของตนเองนอนกับผู้ชายคนอื่น นั่นก็เพราะศิวาพรชื่นชอบในเรื่องนี้ และสงสัยว่าอาจจะเป็นโรคที่ขาดเซ็กส์ไม่ได้“พี่ยินดีช่วย แต่เราจะอยู่ในสถานะชู้รักแบบนี้แน่ใจนะว่านายรับได้” วีรวัฒน์ถามน้องชายแล้วมองด้วยแววตาที่จริงจัง ศิวาพรเองก็มองหน้าสามีว่าเขาอาจจะหึงเธอบ้างหรือไม่“ผมยอมรับนะว่าไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้ แต่พอเห็นศิมีความสุขผมก็รู้สึกมีความสุข แล้วอีกอย่างผมเองก็ไม่มีพละกำลังมากพอที่จะปรนเปรอความสุขให้เมียตัวเองได้ ผลไม่ไว้ใจใครเลยนะนอกจากพี่” เขาบอกเหตุผลของตัวเองแล้ว
หลังจากพักจนหายเหนื่อยแล้ว ทั้งสามคนก็เริ่มบรรเลงเพลงรักขึ้นอีกครั้ง พวกเขาพาเธอมายืนที่ข้างเตียงประกบศิวาพรอยู่ที่คนละข้าง แล้วแอ่นสะโพกเบียดถูสะโพกของเธอคนละฝั่งเธอยิ้มอย่างรู้ทันแล้วนั่งคุกเข่าลงจับท่อนลำของพวกเขารูดรั้งด้วยมือทั้งสองข้างแล้วสลับเลียที่ปลายหัวแล้วรูดมือให้แก่ท่อนลำทั้งสองอย่างรู้ใจปลายลิ้นนุ่มเลียไปตามรอบหยักของส่วนปลายหัว ดูดเลียเส้นเลือดที่ขดตัวอยู่แล้วส่วนปลายหัวดูดเลียเหมือนไอศกรีมสลับให้ทั้งคู่อย่างเท่าเทียมกันเสียงครางกระเส่าอย่างพอใจของสองพี่น้องทำให้เธอยิ่งเอาใจให้พวกเขาครางออกมาซ้ำแล้วซ้ำอีก ยิ่งร้องก็ยิ่งแสดงถึงความชำนาญในการใช้ปากให้พวกเขายุทธนาดึงเธอให้ยืนขึ้น เขายืนประกบจากด้านหลังจูบที่ซอกคอก่อนจะช่วยวีรวัฒน์ยกเธอขึ้นไปอุ้ม ทำให้ศิวาพรรีบกอดคอคนพี่เอาไว้แล้วเอาขาเกี่ยวที่เอวรับแรงกระแทกที่ดุดันของเขาสะโพกของเธอถูกเขากระแทกจนลอยขึ้นลงจากนั้นสามีหนุ่มก็หยิบเจลมาป้ายที่รูจีบเตรียมตัวเข้ามาแซนด์วิชในท่ายืน แล้วใช้ปลายนิ้วแยงเข้ามาในจังหวะที่ภรรยาถูกกระแทกลอยขึ้นลง“เบาๆ นะคะที่รัก” เธอบอกสามีแล้วกอดคอซบวีรวัฒน์เอาไว้ด้วยความตื่นเต้นท่อนลำอันที่สองถู
การแต่งงานคือความใฝ่ฝันของใครหลายๆ คน แต่ไม่ใช่กับ ‘ณรา’ เพราะการแต่งงานกับคนที่ไม่รู้จักนั้นไม่ใช่ความปรารถนาของเธอเลยสักนิด“ทำไมต้องเป็นฉันคะ” เธอถามชายตรงหน้าด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจเพราะอีกฝ่ายเป็นถึงผู้ทรงอิทธิพลในย่านนี้ที่ผู้หญิงทุกคนต่างต้องการอยากก้าวไปอยู่เคียงข้างเขา‘กีรติ’ ในชุดสูทสีน้ำเงินเข้ม เสื้อเชิ้ตสีขาวด้านในปลดกระดุมสามเม็ดโชว์แผงอกกว้างสวมแว่นกันแดดแบรนด์หรู กำลังมองเธอด้วยความรู้สึกหมั่นไส้มากกว่าจะหลงใหล“เพราะฉันต้องการเธอ” เขาพูดเสียงเรียบสายตาคมกริบภายใต้แว่นดำมองใบหน้าที่แสนธรรมดาของเธอด้วยแววตาที่เรียบนิ่ง อีกฝ่ายดูไม่ตื่นเต้นหรือดีใจสักนิดที่เป็นฝ่ายถูกเลือก“ฉันไม่ได้เป็นหนี้คุณ ไม่ได้รู้จักคุณ แล้วทำไมฉันต้องแต่งงานกับคุณคะ ผู้หญิงคนอื่นมีเยอะแยะที่อยากเป็นเจ้าสาวของคุณ ฉันไม่รับคำขอค่ะ”“ผมไม่ได้ขอคุณแต่งงาน ผมสั่งให้คุณแต่งงานกับผม” เขาเสียงเข้มขึ้นกว่าเดิม ลูกน้องที่ยืนอยู่ด้านหลังเขาเริ่มมองหน้ากันเหมือนรู้ว่าเจ้านายของตนกำลังจะมีน้ำโหให้เตรียมตัวรับมือพี่สาวกับพี่เขยของณรารีบมองหน้ากันแล้วฝ่ายพี่สาวก็แตะไหล่น้องสาวให้ทำตัวเรียบร้อยต
เมื่อณราเต็มใจที่จะมอบความสาวของตนให้แก่เขา กีรติจึงไม่รอช้าแล้วโน้มหน้าลงไปจูบเจ้าสาวของตนแต่ถูกเธอดันอกเอาไว้ก่อน“ชุดนี้ร้อนและหนักมากเลยค่ะ ให้นัทไปอาบน้ำก่อนนะคะตัวจะได้หอมๆ ให้คุณหลัวได้ชื่นใจ” เธอบอกเขาอย่างเอาใจ“งั้นเราอาบน้ำด้วยกันเลยสิ จะได้ไม่เสียเวลา” เขาบอกด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น ตอนแรกคิดว่าเลือกแต่งงานกับคนที่ดูธรรมดาที่สุดแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกตื่นเต้นไปกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของเธอไม่ได้ณราค่อยๆ ถอดชุดเจ้าสาวแบบจีนออกไปด้วยความกระดากอายเล็กน้อย แต่ว่าก็ต้องทำให้ชินเพราะเธอต้องอยู่เอาใจเขาไปอีกหนึ่งปีในห้องน้ำที่กว้างเกือบเท่าห้องนอนของเธอ ณราถูกเจ้าบ่าวพาไปที่ห้องกระจกใสที่กั้นไว้สำหรับอาบน้ำด้วยฝักบัวใบหน้าของเธอแดงเรื่อเมื่อถูกอีกฝ่ายลูบไล้ถูสบู่ปลุกเร้าอารมณ์จนเกิดความปรารถนา ยอดอกชูชันสู้มือของเขาที่ลูบไล้ เธอเองจึงถูสบู่ให้เขาบ้างเริ่มลูบที่หน้าอกไปถึงหน้าท้องที่มีพุงหมาน้อยหน่อยๆแม้ไม่ได้มีลอนกล้ามซิกแพ็กเหมือนพระเอกในนิยายแต่อาวุธเขาก็มีขนาดใหญ่ราวแปดนิ้วแถมยังอวบเต็มมือจนเธอต้องลอบกลืนน้ำลายด้วยความกระหายที่อยากจะลิ้มลอง“อมสิ” ยังไม่ทันสิ้นความคิดว่าหากมันเข้า
สองเดือนแล้วกับหน้าที่เมียบำเรอที่แต่งงานแก้เคล็ดให้กับกีรติ ณรารู้สึกว่าเป็นช่วงเวลาที่เธอมีความสุขและสุขสบายมากจนอยากให้เวลาผ่านไปช้าๆจากที่ต้องช่วยพี่สาวขายข้าวราดแกง ตื่นแต่เช้ามืดไปตลาดเข้าครัวร้อนๆ แล้วยืนขายอาหารล้างจานจนมือเปื่อยแล้วรับเงินเดือนไม่กี่พันตอนนี้เธอจะตื่นสายแค่ไหนก็ไม่มีใครว่า อาหารมีแม่ครัวทำให้กินอยากกินอะไรก็แค่สั่ง งานบ้านไม่ต้องทำวันๆ มีแต่แต่งตัวสวยๆ รอเอาใจสามีที่ออกไปทำงานให้กลับมาเห็นเธอแล้วชื่นใจ“เป็นไงบ้างนัทสบายดีไหม” เสียงจากปลายสายที่โทรเข้ามาถามข่าวคราวของน้องสาวนั้นดูห่วงใยปนอยากรู้“ก็สบายดีนะพี่แนน คุณหลัวเขาดูแลนัทดีมาก ก็เหมือนที่เคยเล่าให้ฟังนั่นแหละ”“แบบนั้นก็ดีแล้ว ตอนนี้พี่ก็จ้างคนมาช่วยที่ร้าน เอาเงินไปใช้หนี้แล้วเงินก็เหลือเก็บ กำไรก็เหลือเยอะไม่ต้องเป็นห่วงนะ” ฝ่ายพี่สาวบอกให้น้องสบายใจ“ดีแล้วล่ะ ทางนี้ก็ไม่ต้องห่วงเหมือนกัน นัทสบายดี”“ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว แกทำไมไม่ทำให้คุณหลัวของแกรักแกหลงแกแล้วแต่งงานกันไปเลยจะได้อยู่สุขสบายที่นั่นนานๆ” คำพูดชี้ทางของพี่สาวทำให้เธอคิดว่าน่าสนใจไม่น้อย แต่เธอไม่สวยพอที่จะมัดใจเขานี่สิ ทุกวันนี้ถ้าไม่
“เบาๆ สิอย่างส่งเสียง” กีรติดุเธอเสียงเบาในขณะที่ถูกอีกฝ่ายชวนมาเล่นรักกันที่ระเบียงที่ด้านล่างอาจจะมีลูกน้องของเขาอยู่“เข้านอนกันหมดแล้วล่ะคะ ซี๊ด” เธอพูดเสียงเบา เกาะขอบระเบียงแอ่นสะโพกให้เขากระแทกเขามาเน้นๆ แล้วครางไม่หยุด“คุณหลัวขา เมียเสียว ซี๊ด”“อ๊าส์ เบาๆ สินัท”“ก็คุณหลัวเอาเสียวนี่คะ อ๊าส์ นักเสียวจนใจจะขาดอยู่แล้ว” เธอบอกเขาเสียงกระเส่า แอ่นสะโพกยื่นให้เขากระแทกต่อแล้วครางต่อด้วยน้ำเสียงที่กระเส่าเสียวตับ ตับ ตับ! เข้ากระแทกเข้าไปถี่รัว“เสียวจนกลั้นเสียงครางไม่ได้เลยเหรอนัท” เขาถามอย่างภูมิใจ เป็นอย่างที่ซินแสบอกในช่วงที่เขาล้มป่วย ให้เขาแต่งงานแก้เคล็ดแล้วชีวิตเขาจะมีความสุข มันก็เป็นอย่างคำทำนายกลับมาจากทำงานเหนื่อยๆ ปวดหัวจากเรื่องงาน พอมาเจอลีลาอ้อนสวาทของณราทำให้เขามีความสุขและผ่อนคลายได้มากจริงๆ“กลับไปที่เตียงเถอะค่ะ นัทอยากถูกคุณหลัวเอาบนเตียงท่าอื่นแล้ว” เธออ้อนเขา ชักชวนเปลี่ยนท่าเสียวให้เขาวาดลีลาเสพสุขกับร่างกายของตนภรรยารับจ้างนอนอ้าขารอเข้าอยู่บนเตียง กีรติคุกเข่าต่อหน้าเธอ จับขาทั้งสองพาดที่ไหล่ให้สะโพกยกสูงแล้วเอาหมอนรองเอาไว้ กระแทกเข้าไปในท่านั้นแล้ว
สองเดือนแล้วกับหน้าที่เมียบำเรอที่แต่งงานแก้เคล็ดให้กับกีรติ ณรารู้สึกว่าเป็นช่วงเวลาที่เธอมีความสุขและสุขสบายมากจนอยากให้เวลาผ่านไปช้าๆจากที่ต้องช่วยพี่สาวขายข้าวราดแกง ตื่นแต่เช้ามืดไปตลาดเข้าครัวร้อนๆ แล้วยืนขายอาหารล้างจานจนมือเปื่อยแล้วรับเงินเดือนไม่กี่พันตอนนี้เธอจะตื่นสายแค่ไหนก็ไม่มีใครว่า อาหารมีแม่ครัวทำให้กินอยากกินอะไรก็แค่สั่ง งานบ้านไม่ต้องทำวันๆ มีแต่แต่งตัวสวยๆ รอเอาใจสามีที่ออกไปทำงานให้กลับมาเห็นเธอแล้วชื่นใจ“เป็นไงบ้างนัทสบายดีไหม” เสียงจากปลายสายที่โทรเข้ามาถามข่าวคราวของน้องสาวนั้นดูห่วงใยปนอยากรู้“ก็สบายดีนะพี่แนน คุณหลัวเขาดูแลนัทดีมาก ก็เหมือนที่เคยเล่าให้ฟังนั่นแหละ”“แบบนั้นก็ดีแล้ว ตอนนี้พี่ก็จ้างคนมาช่วยที่ร้าน เอาเงินไปใช้หนี้แล้วเงินก็เหลือเก็บ กำไรก็เหลือเยอะไม่ต้องเป็นห่วงนะ” ฝ่ายพี่สาวบอกให้น้องสบายใจ“ดีแล้วล่ะ ทางนี้ก็ไม่ต้องห่วงเหมือนกัน นัทสบายดี”“ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว แกทำไมไม่ทำให้คุณหลัวของแกรักแกหลงแกแล้วแต่งงานกันไปเลยจะได้อยู่สุขสบายที่นั่นนานๆ” คำพูดชี้ทางของพี่สาวทำให้เธอคิดว่าน่าสนใจไม่น้อย แต่เธอไม่สวยพอที่จะมัดใจเขานี่สิ ทุกวันนี้ถ้าไม่
เมื่อณราเต็มใจที่จะมอบความสาวของตนให้แก่เขา กีรติจึงไม่รอช้าแล้วโน้มหน้าลงไปจูบเจ้าสาวของตนแต่ถูกเธอดันอกเอาไว้ก่อน“ชุดนี้ร้อนและหนักมากเลยค่ะ ให้นัทไปอาบน้ำก่อนนะคะตัวจะได้หอมๆ ให้คุณหลัวได้ชื่นใจ” เธอบอกเขาอย่างเอาใจ“งั้นเราอาบน้ำด้วยกันเลยสิ จะได้ไม่เสียเวลา” เขาบอกด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น ตอนแรกคิดว่าเลือกแต่งงานกับคนที่ดูธรรมดาที่สุดแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกตื่นเต้นไปกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของเธอไม่ได้ณราค่อยๆ ถอดชุดเจ้าสาวแบบจีนออกไปด้วยความกระดากอายเล็กน้อย แต่ว่าก็ต้องทำให้ชินเพราะเธอต้องอยู่เอาใจเขาไปอีกหนึ่งปีในห้องน้ำที่กว้างเกือบเท่าห้องนอนของเธอ ณราถูกเจ้าบ่าวพาไปที่ห้องกระจกใสที่กั้นไว้สำหรับอาบน้ำด้วยฝักบัวใบหน้าของเธอแดงเรื่อเมื่อถูกอีกฝ่ายลูบไล้ถูสบู่ปลุกเร้าอารมณ์จนเกิดความปรารถนา ยอดอกชูชันสู้มือของเขาที่ลูบไล้ เธอเองจึงถูสบู่ให้เขาบ้างเริ่มลูบที่หน้าอกไปถึงหน้าท้องที่มีพุงหมาน้อยหน่อยๆแม้ไม่ได้มีลอนกล้ามซิกแพ็กเหมือนพระเอกในนิยายแต่อาวุธเขาก็มีขนาดใหญ่ราวแปดนิ้วแถมยังอวบเต็มมือจนเธอต้องลอบกลืนน้ำลายด้วยความกระหายที่อยากจะลิ้มลอง“อมสิ” ยังไม่ทันสิ้นความคิดว่าหากมันเข้า
การแต่งงานคือความใฝ่ฝันของใครหลายๆ คน แต่ไม่ใช่กับ ‘ณรา’ เพราะการแต่งงานกับคนที่ไม่รู้จักนั้นไม่ใช่ความปรารถนาของเธอเลยสักนิด“ทำไมต้องเป็นฉันคะ” เธอถามชายตรงหน้าด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจเพราะอีกฝ่ายเป็นถึงผู้ทรงอิทธิพลในย่านนี้ที่ผู้หญิงทุกคนต่างต้องการอยากก้าวไปอยู่เคียงข้างเขา‘กีรติ’ ในชุดสูทสีน้ำเงินเข้ม เสื้อเชิ้ตสีขาวด้านในปลดกระดุมสามเม็ดโชว์แผงอกกว้างสวมแว่นกันแดดแบรนด์หรู กำลังมองเธอด้วยความรู้สึกหมั่นไส้มากกว่าจะหลงใหล“เพราะฉันต้องการเธอ” เขาพูดเสียงเรียบสายตาคมกริบภายใต้แว่นดำมองใบหน้าที่แสนธรรมดาของเธอด้วยแววตาที่เรียบนิ่ง อีกฝ่ายดูไม่ตื่นเต้นหรือดีใจสักนิดที่เป็นฝ่ายถูกเลือก“ฉันไม่ได้เป็นหนี้คุณ ไม่ได้รู้จักคุณ แล้วทำไมฉันต้องแต่งงานกับคุณคะ ผู้หญิงคนอื่นมีเยอะแยะที่อยากเป็นเจ้าสาวของคุณ ฉันไม่รับคำขอค่ะ”“ผมไม่ได้ขอคุณแต่งงาน ผมสั่งให้คุณแต่งงานกับผม” เขาเสียงเข้มขึ้นกว่าเดิม ลูกน้องที่ยืนอยู่ด้านหลังเขาเริ่มมองหน้ากันเหมือนรู้ว่าเจ้านายของตนกำลังจะมีน้ำโหให้เตรียมตัวรับมือพี่สาวกับพี่เขยของณรารีบมองหน้ากันแล้วฝ่ายพี่สาวก็แตะไหล่น้องสาวให้ทำตัวเรียบร้อยต
หลังจากพักจนหายเหนื่อยแล้ว ทั้งสามคนก็เริ่มบรรเลงเพลงรักขึ้นอีกครั้ง พวกเขาพาเธอมายืนที่ข้างเตียงประกบศิวาพรอยู่ที่คนละข้าง แล้วแอ่นสะโพกเบียดถูสะโพกของเธอคนละฝั่งเธอยิ้มอย่างรู้ทันแล้วนั่งคุกเข่าลงจับท่อนลำของพวกเขารูดรั้งด้วยมือทั้งสองข้างแล้วสลับเลียที่ปลายหัวแล้วรูดมือให้แก่ท่อนลำทั้งสองอย่างรู้ใจปลายลิ้นนุ่มเลียไปตามรอบหยักของส่วนปลายหัว ดูดเลียเส้นเลือดที่ขดตัวอยู่แล้วส่วนปลายหัวดูดเลียเหมือนไอศกรีมสลับให้ทั้งคู่อย่างเท่าเทียมกันเสียงครางกระเส่าอย่างพอใจของสองพี่น้องทำให้เธอยิ่งเอาใจให้พวกเขาครางออกมาซ้ำแล้วซ้ำอีก ยิ่งร้องก็ยิ่งแสดงถึงความชำนาญในการใช้ปากให้พวกเขายุทธนาดึงเธอให้ยืนขึ้น เขายืนประกบจากด้านหลังจูบที่ซอกคอก่อนจะช่วยวีรวัฒน์ยกเธอขึ้นไปอุ้ม ทำให้ศิวาพรรีบกอดคอคนพี่เอาไว้แล้วเอาขาเกี่ยวที่เอวรับแรงกระแทกที่ดุดันของเขาสะโพกของเธอถูกเขากระแทกจนลอยขึ้นลงจากนั้นสามีหนุ่มก็หยิบเจลมาป้ายที่รูจีบเตรียมตัวเข้ามาแซนด์วิชในท่ายืน แล้วใช้ปลายนิ้วแยงเข้ามาในจังหวะที่ภรรยาถูกกระแทกลอยขึ้นลง“เบาๆ นะคะที่รัก” เธอบอกสามีแล้วกอดคอซบวีรวัฒน์เอาไว้ด้วยความตื่นเต้นท่อนลำอันที่สองถู
นับตั้งแต่ที่เกิดอุบัติเหตุตอนนี้ก็ผ่านมาห้าเดือนแล้ว ในที่สุดยุทธนาก็สามารถเดินได้เป็นปกติโดยไม่ต้องใช้วอร์กเกอร์หรือไม้เท้าช่วยในการเดินอีกต่อไปอีกทั้งร่างกายเขาก็แข็งแรงจนสามารถให้ความสุขกับภรรยาได้ดังเดิมแล้ววันนี้ยุทธนาจึงนัดคุยกับพี่ชายและภรรยาตามลำพังสามคน เพื่อที่จะตกลงเรื่องการปรนเปรอสวาทให้แก่เธอ“ถึงผมหายแล้วผมก็อยากให้พี่วัฒน์ช่วยต่อ เพราะผมคนเดียวคงให้ความสุขกับศิไม่ไหว” ยุทธนาเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อนวีรวัฒน์พยักหน้ารับรู้ หลังจากที่เป็นชู้รักแบบสมยอมมาหลายเดือนก็พอเข้าใจหัวอกของน้องชายว่าเหตุใดจึงยอมให้ภรรยาของตนเองนอนกับผู้ชายคนอื่น นั่นก็เพราะศิวาพรชื่นชอบในเรื่องนี้ และสงสัยว่าอาจจะเป็นโรคที่ขาดเซ็กส์ไม่ได้“พี่ยินดีช่วย แต่เราจะอยู่ในสถานะชู้รักแบบนี้แน่ใจนะว่านายรับได้” วีรวัฒน์ถามน้องชายแล้วมองด้วยแววตาที่จริงจัง ศิวาพรเองก็มองหน้าสามีว่าเขาอาจจะหึงเธอบ้างหรือไม่“ผมยอมรับนะว่าไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้ แต่พอเห็นศิมีความสุขผมก็รู้สึกมีความสุข แล้วอีกอย่างผมเองก็ไม่มีพละกำลังมากพอที่จะปรนเปรอความสุขให้เมียตัวเองได้ ผลไม่ไว้ใจใครเลยนะนอกจากพี่” เขาบอกเหตุผลของตัวเองแล้ว
ศิวาพรรอให้สามีหลับแล้วเธอก็ลุกขึ้นอาบน้ำอีกรอบเพื่อเตรียมตัวรอให้วีรวัฒน์มาถึงเมื่อได้ยินเสียงรถของเขาแล้วเธอก็รอเวลาสักพักให้เขาจัดการตัวเองให้เรียบร้อยแล้วจึงไปหาเขาที่ห้อง“วันนี้ศิรบกวนได้รึเปล่าคะ” เธอถามเขาตามมารยาทเพราะวันนี้เขากลับดึกมากแล้วอาจเหนื่อยที่จะต้องมาปรนเปรอสวาทให้แก่เธอ“พี่รบกวนให้ศินวดให้พี่ก่อนค่อยนาบได้หรือเปล่า” เขาถามกลับด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยล้า เพราะต้องโหมงานหนักแทนน้องชายในส่วนที่ไม่สามารถจัดการเองที่บ้านได้ จึงทำงานหนักเป็นสองเท่า“ยินดีมากๆ ค่ะ” เธอบอกแล้วไปช่วยนวดให้เขาโดยใช้ทักษะที่เคยนวดให้สามีทำให้วีรวัฒน์ผ่อนคลายแล้วครางในลำคอด้วยความพอใจกับแรงมือของเธอและท่านวดที่เป็นงานนั้น“รู้สึกดีจัง” เขาพูดขึ้นมาอย่างชื่นชม แล้วหลับตารับการนวดจากเธออย่างผ่อนคลาย“แบบนี้ถ้าศินวดจนพี่วัฒน์หลับคงไม่ได้นาบแล้วมั้งคะ” เธอพูดแล้วอมยิ้มเล็กน้อย หากไม่ได้คืนนี้เธอก็เข้าใจ เพราะถึงจะชื่นชอบเซ็กส์มากแต่ว่าเริ่มปลงได้มากแล้ว และยุทธนาก็พึ่งจัดให้เธอไปเมื่อตอนหัวค่ำ“ถ้าพี่หลับศิก็แค่ปลุกมันให้ตื่นแล้วลักหลับพี่สิครับ” เขาพูดแล้วอมยิ้ม เปลือกตายังคงไม่ขยับและเริ่มจะง่ว
เกือบสองเดือนแล้วกับการทำกายภาพบำบัดผสานกับกำลังใจจากคนรอบตัว ยุทธนาเริ่มเคลื่อนไหวได้และกำลังฝึกเดินด้วยตนเองแต่ยังต้องใช้วอร์กเกอร์สี่ขาช่วยพยุงในการเดิน“แบบนี้อีกไม่กี่เดือนผมก็จะเดินได้เป็นปกติแล้วนะที่รักดีใจไหม” เขาถามภรรยาสาวด้วยน้ำเสียงที่ดีใจ หลังจากที่วันนี้ลองอาบน้ำด้วยตนเองถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว“ดีใจสิคะ” เธอตอบอย่างตื่นเต้นก่อนจะสลดลงไปเมื่อนึกได้ว่าเวลาของตนกับพี่ชายของสามีก็คงกำลังจะจบลงเช่นกัน“ผมรู้นะว่าคุณคิดอะไรอยู่ อันที่จริงแล้วถึงผมหายดีก็ต้องให้พี่วัฒน์ช่วยอยู่ดี เพราะขืนโดยภรรยาขย่มทุกวันขนาดนั้นผมคงขาอ่อนอีกรอบแน่” เขาพูดอย่างรู้ใจภรรยา แล้วขยับไปนอนบนเตียงข้างๆ เธอ ดึงภรรยามากอดด้วยความรักใคร่“จริงๆ เหรอคะ จะให้พี่วัฒน์ช่วยต่อจริงๆ เหรอคะ” เธอถามด้วยความดีใจแล้วขยับกอดซบอกสามีด้วยความดีใจ“ใช่สิ ผมอยากคุยกับพี่วัฒน์ให้รู้เรื่อง ความลับของเราสามคนผัวเมียจะเป็นความลับกันสามคนตลอดไป ผมเองจะได้มีคนช่วยแบ่งเบาความเหน็ดเหนื่อย พี่วัฒน์ก็จะมีเมียโดยไม่ต้องแต่งงาน ที่รักเองก็จะได้มีคนช่วยบำเรอสวาทให้มีความสุข แบบนี้พอใจไหม” เขาบอกความคิดของเขาให้แก่ภรรยาฟัง“ดี
เมื่อคืนนี้ตอนที่เข้าห้องมายุทธนาก็หลับสนิทแล้ว ในตอนเช้าพอตื่นมาเจอหน้ากันเธอก็ขยับเข้าไปนอนกอดในอ้อมแขนของเขา ตื่นเต้นและรู้สึกผิดระคนกันไปหมด“เป็นยังไงบ้างพี่วัฒน์ทำดีไหม”“ก็ดีนะคะ” เธอตอบด้วยความเอียงอายปนรู้สึกผิดที่นอกใจสามี แม้จะเป็นข้อเสนอของเขาเอง“ศิมีความสุขผมก็มีความสุข” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความยินดี แล้วโอบกอดภรรยาเอาไว้ด้วยความรักใคร่“อาบน้ำกันเถอะค่ะ” เธอบอกสามีแล้วค่อยๆ พาเขาขึ้นรถเข็น โชคดีที่ยุทธนาแข็งแรงจึงยกตัวเองขึ้นรถเข็นได้ง่ายเธอพาเขาไปที่ห้องน้ำแล้วย้ายเขาไปนั่งที่เก้าอี้อาบน้ำที่เตรียมไว้ จากนั้นก็เริ่มอาบน้ำไปพร้อมกับเขาอย่างเช่นเคยเพราะไหนๆ ก็ต้องเปียกด้วยกันอยู่แล้วยุทธนาดึงภรรยามานั่งที่ตักแล้วจูบริมฝีปากของเธอด้วยความรักใคร่ หอมกลิ่นกายที่คุ้นเคยอยากรีบหายแล้วชดเชยให้เธอสักครั้งเหลือเกิน แต่ว่าก็ให้พี่ชายรับช่วงดูแลภรรยาไปก่อน“เช้าๆ แบบนี้ให้ผมใช้นิ้วให้ไหม” เขาถามเธออย่างเอาใจและรู้ใจภรรยา“คุณยังป่วยอยู่เลยค่ะ ไม่เป็นไรหรอก ศิเองก็รู้สึกผิดที่ทำทุกเช้าเย็นจนคุณขาอ่อนแรงแล้วเกิดอุบัติเหตุแบบนี้ ศิเลยพยายามที่จะลดเรื่องนั้นลงไปบ้าง” เธอต