สองเดือนแล้วกับหน้าที่เมียบำเรอที่แต่งงานแก้เคล็ดให้กับกีรติ ณรารู้สึกว่าเป็นช่วงเวลาที่เธอมีความสุขและสุขสบายมากจนอยากให้เวลาผ่านไปช้าๆ
จากที่ต้องช่วยพี่สาวขายข้าวราดแกง ตื่นแต่เช้ามืดไปตลาดเข้าครัวร้อนๆ แล้วยืนขายอาหารล้างจานจนมือเปื่อยแล้วรับเงินเดือนไม่กี่พัน
ตอนนี้เธอจะตื่นสายแค่ไหนก็ไม่มีใครว่า อาหารมีแม่ครัวทำให้กินอยากกินอะไรก็แค่สั่ง งานบ้านไม่ต้องทำวันๆ มีแต่แต่งตัวสวยๆ รอเอาใจสามีที่ออกไปทำงานให้กลับมาเห็นเธอแล้วชื่นใจ
“เป็นไงบ้างนัทสบายดีไหม” เสียงจากปลายสายที่โทรเข้ามาถามข่าวคราวของน้องสาวนั้นดูห่วงใยปนอยากรู้
“ก็สบายดีนะพี่แนน คุณหลัวเขาดูแลนัทดีมาก ก็เหมือนที่เคยเล่าให้ฟังนั่นแหละ”
“แบบนั้นก็ดีแล้ว ตอนนี้พี่ก็จ้างคนมาช่วยที่ร้าน เอาเงินไปใช้หนี้แล้วเงินก็เหลือเก็บ กำไรก็เหลือเยอะไม่ต้องเป็นห่วงนะ” ฝ่ายพี่สาวบอกให้น้องสบายใจ
“ดีแล้วล่ะ ทางนี้ก็ไม่ต้องห่วงเหมือนกัน นัทสบายดี”
“ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว แกทำไมไม่ทำให้คุณหลัวของแกรักแกหลงแกแล้วแต่งงานกันไปเลยจะได้อยู่สุขสบายที่นั่นนานๆ” คำพูดชี้ทางของพี่สาวทำให้เธอคิดว่าน่าสนใจไม่น้อย แต่เธอไม่สวยพอที่จะมัดใจเขานี่สิ ทุกวันนี้ถ้าไม่ใช่เพราะเขาถือคำทำนายของซินแสเธอก็คงไม่ได้มาอยู่ที่นี่
“อย่าลืมสิที่เขาเลือกฉันเพราะอะไร”
“เพราะไม่อยากรักแกน่ะเหรอ ถ้าไม่รักก็ทำให้หลงสินัท หน้าตาแกก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่ขนาดที่จะทำให้เขาไม่สนใจ อีกอย่างมารยาหญิงน่ะรู้จักใช้ เรื่องบนเตียงแกดีเขาก็จะหลงจนโงหัวไม่ขึ้นเอง เชื่อสิ พี่เขยแกก็แพ้ลีลาร่อนเอวของฉันนี่แหละ ไม่งั้นหน้าตาบ้านๆ อย่างฉันจะได้เดือนวิทยาลัยเทคนิคมาเป็นผัวเหรอ”
“พอเลยไม่ต้องมายุ” ณราบอกพี่สาวเหมือนว่าไม่เห็นด้วย แต่ในใจคิดว่าก็ไม่ได้เสียหายอะไรเพราะอย่างไรเสียเธอก็ทำหน้าที่บำเรอสวาทให้เขาไม่เคยว่างเว้นอยู่แล้ว
---------------------
กีรติกลับมาถึงก็เห็นว่าเธอนั่งรอเขาที่ห้องนั่งเล่นตามปกติ ปกติเขาจะถอดเสื้อสูทให้ลูกน้องคนสนิทนำไปเก็บที่ห้องทำงานแต่เธอเดินเข้ามาช่วยถือไว้อย่างเอาใจ ความผิดปกติครั้งนี้ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจแล้วมองอย่างสงสัย
“มีอะไรรึเปล่า ทำไมไม่ให้คนเอาเสื้อไปเก็บ”
“นัทเก็บให้เองค่ะ” เธอพูดแล้วก็เดินเอาไปเก็บที่ห้องทำงานของเขา กีรติจึงโบกมือให้ลูกน้องกลับไปพักผ่อนแล้วเดินตามภรรยาไปยังห้องทำงานของตน
“จะรับของว่างไหมคะ”
“ไม่ล่ะ อีกหน่อยก็ถึงเวลามื้อค่ำแล้ว” เขาพูดแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน ผายมือให้เธอนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม
“อยู่ๆ มาเอาใจ มีอะไรรึเปล่า”
“เปล่านี่คะ แค่อยากเอาใจทำไมต้องถามหาเหตุผลด้วย” เธอตอบเขาแล้วยิ้มกว้าง ก่อนจะตัดสินใจลุกเดินไปหาที่หลังโต๊ะทำงานแล้วคุกเข่าลง
“จะทำอะไรน่ะ” เขาถามด้วยความตกใจ แล้วก็ต้องเผยยิ้มออกมาเมื่ออีกฝ่ายลูบไล้เป้ากางเกงของตน
“วันนี้อยู่ๆ ก็คิดถึงคุณหลัว อยากทำอะไรที่น่าตื่นเต้นกับคุณหลัวค่ะ” พูดจบหญิงสาวก็ปลดเข็มขัดเขาออกแล้วถอดกางเกงเขาลงมากองที่เข่า
กีรติยิ้มกว้างมองดูเธอคว้าท่อนลำของตนมาดูดเลียอย่างชำนาญแล้วครางเบาๆ ด้วยความชอบใจ
ปลายลิ้นเรียวเล็กตวัดเลียไปทั่วส่วนปลายหัวแล้วใช้มือรูดรั้งไปด้วยอย่างลงตัว โพรงปากนุ่มชื้นอมส่วนปลายหัวเข้าไปแล้วโยกคอขึ้นลงเอาใจเขา
เมื่อฟังเสียงครางของกีรติที่พอใจและคงเกิดอารมณ์มากแล้ว ณราก็ลุกขึ้นยืนถอดแพนตี้ลูกไม้ออกมาควงนิ้วยั่วยวนเขา จากนั้นก็ถอดชุดกระโปรงออกไปทางศีรษะส่ายสะโพกยั่วยวนเบาๆ ก่อนจะปลดบราลูกไม้โยนไปกองกับพื้นแล้วหันหลังส่ายสะโพกยั่วยวนเขาอีกครั้ง
สามีหนุ่มไม่รอช้าจับคนขี้ยั่วมานั่งครอบครองท่อนอุ่นของตนแล้วจับสะโพกเธอให้ขย่มลงมาหาเขา
ณราขย่มลงไปอย่างเร่าร้อนในท่านั่งหันหลัง มือสองข้างของกีรติเอื้อมมาบีบเคล้นที่สองเต้า จูบที่แผ่นหลังของเธอแล้วครางเสียวไม่หยุด
สวบ สวบ สวบ! กลีบสวาทเสียดสีกับท่อนลำอวบในขณะที่ขย่มขึ้นลงกระตุ้นความกำหนัดให้แก่ทั้งคู่ แล้วเธอก็ยิ่งขย่มลงไปให้เขายิ่งหลงใหล
“ซี๊ด ไม่ไหวแล้วนัท พอก่อน อ๊าส์ ผมจะแตกแล้ว ซี๊ด” เขาบอกเธอที่ขย่มอย่างรุนแรงจนแทบทนไม่ไหว แต่เธอก็ยังคงขย่มต่อไปจนเขาต้องเป็นฝ่ายดันเธอออกเอง
ณราถูกเขาอุ้มวางที่โต๊ะทำงานแยกขาเธอออกกว้างแล้วยืนกระแทกคาโต๊ะจนหญิงสาวร้องลั่น
“อื้อ คุณหลัว อ๊าส์ หลัวขา ซี๊ด หลัวขา” เสียงครางกระเส่าด้วยความเสียวร้องไม่หยุดปาก มองใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาแสดงความหื่นกระหายแล้วยิ่งมีอารมณ์มากขึ้น
“คุณหลัวหล่อจัง อ๊าส์ เอาก็เก่ง นัทเสียวไปหมดแล้ว” ไม่มีอะไรทำให้ผู้ชายยิ้มได้ไปมากกว่าคำชมว่าเขาเอาเก่ง
กีรติยิ่งถูกเธอชื่นชมก็ยิ่งโถมแรงกระแทกเข้าไปเน้นๆ จนณราครางเสียงหลงแล้วสูดปากดังซี๊ดซ๊าดไม่หยุดด้วยความเสียวที่ถึงใจ
“วันนี้ดูมีอารมณ์มากเลยนะ แต่ผมชอบ”
“ถ้าชอบนัทจะมารอเอากับคุณหลัวทุกวันเลย”
“อื้ม เอาใจเก่งแบบนี้ อยากได้อะไรก็บอกนะ..อ๊าส์ เสียวดีจริงๆ”
“อยากให้คุณหลัว..อ๊าส์ อุ้มนัทกระแทกเหมือนวันแรกที่เราเอากันค่ะ ซี๊ด เสียวจัง..” เธอบอกเขาเสียงสั่น พูดไปครางไปเมื่อถูกปลายหัวหยักสวบเข้ามาอย่างไม่ออมแรง
กีรติยิ้มพอใจ เขาอุ้มช้อนก้นเธอขึ้นมา หญิงสาวเกี่ยวขาไว้ที่เอวและกอดคอเขารับแรงกระแทกอย่างสุขสม อย่างที่เขาบอกสักวันเธอจะชอบความดุดันแบบที่เขามอบให้แล้วมันก็เกิดขึ้นจริง ยิ่งนานวันเธอยิ่งต้องการให้เขากระทำอย่างดุดัน
ตับ ตับ ตับ! เสียงเนื้อตีกันดังเป็นระยะในขณะที่กระแทกจนเธอสะโพกลอย ณราซุกหน้าไว้ที่คอแล้วจูบที่ซอกคอเขาไปด้วย
“เสียวมากเลยนัท คุณตอดผมแน่นมาก”
“ของคุณใหญ่คับของนัทต่างหากล่ะคะ อ๊าส์...กระแทกมาแต่ละทีนัทแทบจะเสร็จ” เธอพูดเอาใจเขาไม่หยุด
กีรติวางเธอลงแล้วให้เธอยืนหันหลังเกาะขอบโต๊ะเอาไว้แล้วยืนประกบจากด้านหลัง กดท่อนลำอวบใหญ่เข้าไปแล้วซอยยิกๆ จนเธอหน้าบิดเบ้
“จะแตกแล้ว คุณหลัวขา เมียจะแตกแล้ว” เธอเรียกชื่อเขาครางเสียวอย่างต่อเนื่อง
“ใกล้แล้ว ฮึ่ม ฟิตดีจริงๆ อ๊าส์” เขากัดฟันกระแทกเธออัดคาโต๊ะ ไม่คิดเลยว่าจะถูกเธอพาเล่นเสียวในห้องทำงานทำให้เขาตื่นเต้นจนไม่สามารถควบคุมความปรารถนาได้แล้วปิ่มว่าจะเสร็จอยู่ตลอดเวลา
“อีกนิดค่ะ อย่าหยุดนะ” เธอร้องบอกเขาแล้วกัดริมฝีปากล่าง ความเสียวแล่นวนในท้องน้อยจวนจะถึงจุดหมายในอีกไม่ช้า
“พร้อมกันนะนัท ผมตื่นเต้นจะแตกแล้ว” เขาพูดแล้วออกแรงกระแทกเข้าหารัวๆ ครางสูดปากเร่าๆ ณราเองก็ไม่ต่างกันครางถี่ขึ้นเรื่องๆ เพราะใกล้ถึงจุดสุดยอด
“แตกแล้ว ซี๊ด” เขาพาเธอไปถึงจุดหมาย แล้วดึงกางเกงขึ้นมาสวมใส่พร้อมกับรอยยิ้มที่เปื้อนใบหน้ามองเธอแต่งตัวแล้วเดินไปบีบก้นด้วยความมันเขี้ยว
“วันนี้คุณทำให้ผมพอใจมาก”
“นัทจะทำให้คุณพอใจทุกๆ วันเลยค่ะ” เธอยิ้มอย่างมีความหมายแล้วมองด้วยสายตาที่เจ้าเล่ห์
---------------------
“เบาๆ สิอย่างส่งเสียง” กีรติดุเธอเสียงเบาในขณะที่ถูกอีกฝ่ายชวนมาเล่นรักกันที่ระเบียงที่ด้านล่างอาจจะมีลูกน้องของเขาอยู่“เข้านอนกันหมดแล้วล่ะคะ ซี๊ด” เธอพูดเสียงเบา เกาะขอบระเบียงแอ่นสะโพกให้เขากระแทกเขามาเน้นๆ แล้วครางไม่หยุด“คุณหลัวขา เมียเสียว ซี๊ด”“อ๊าส์ เบาๆ สินัท”“ก็คุณหลัวเอาเสียวนี่คะ อ๊าส์ นักเสียวจนใจจะขาดอยู่แล้ว” เธอบอกเขาเสียงกระเส่า แอ่นสะโพกยื่นให้เขากระแทกต่อแล้วครางต่อด้วยน้ำเสียงที่กระเส่าเสียวตับ ตับ ตับ! เข้ากระแทกเข้าไปถี่รัว“เสียวจนกลั้นเสียงครางไม่ได้เลยเหรอนัท” เขาถามอย่างภูมิใจ เป็นอย่างที่ซินแสบอกในช่วงที่เขาล้มป่วย ให้เขาแต่งงานแก้เคล็ดแล้วชีวิตเขาจะมีความสุข มันก็เป็นอย่างคำทำนายกลับมาจากทำงานเหนื่อยๆ ปวดหัวจากเรื่องงาน พอมาเจอลีลาอ้อนสวาทของณราทำให้เขามีความสุขและผ่อนคลายได้มากจริงๆ“กลับไปที่เตียงเถอะค่ะ นัทอยากถูกคุณหลัวเอาบนเตียงท่าอื่นแล้ว” เธออ้อนเขา ชักชวนเปลี่ยนท่าเสียวให้เขาวาดลีลาเสพสุขกับร่างกายของตนภรรยารับจ้างนอนอ้าขารอเข้าอยู่บนเตียง กีรติคุกเข่าต่อหน้าเธอ จับขาทั้งสองพาดที่ไหล่ให้สะโพกยกสูงแล้วเอาหมอนรองเอาไว้ กระแทกเข้าไปในท่านั้นแล้ว
ณ หมู่บ้านชนบทแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากชานเมืองนัก เสียงร้องไห้ของหญิงสาวหน้าตาสะสวยที่อยู่ต่อหน้ากองเพลิงที่กำลังเผาร่างของพี่ชายทำให้ทุกคนต่างสงสารเป็นอย่างมากพวงแสดเป็นน้องสาวของนายสดที่เพิ่งเสียชีวิตไป ครอบครัวเธอไม่เหลือใครนอกจากพี่ชาย เมื่อเขาได้เสียชีวิตไปเธอเองก็หมดที่พึ่ง “ไม่เป็นไรนะพวงแสด เอ็งไปอยู่กับพวกข้าก็ได้” ตรีวางมือที่ไหล่เพื่อปลอบใจเธอ เพราะตอนนี้แพงแสดไม่เหลือใครแล้ว และเขาก็เคยเปรยกับนายสดเอาไว้ว่าอยากให้เธอไปเป็นน้องสะใภ้‘ตรี’ เป็นผู้มีพระคุณของนายสดที่สนิทสนมกัน แล้วยังเป็นเจ้าหนี้ที่พี่ชายกู้เงินมารักษาตัวอีกด้วยโชคดีที่ครอบครัวของเขาเห็นใจไม่อย่างนั้นเธอก็ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งพาใครหลังเสร็จสิ้นงานศพวันสุดท้าย ช่วงบ่ายแก่ๆ ค่อนเย็นพวงแสดก็ได้ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านของตรีตามที่เขาเสนอความช่วยเหลือ เพราะผู้หญิงตัวคนเดียวจะอยู่บ้านเก่าๆ ท้ายหมู่บ้านก็ดูไม่น่าปลอดภัยในบ้านหลังนี้นอกจากตรีที่เป็นพ่อหม้าย ก็ยังมี ‘ทศ’ น้องเมียของตรีที่เขาอยากให้แต่งงานกับเธอ และมี ‘ขนุน’ ลูกสาวของตรีที่พักอาศัยอยู่ด้วยกัน“ตอนนี้เอ็งนอนห้องนังขนุนไปก่อนนะ เดี๋ยวให้ทิ้งช่วงงานศพพี
เมื่อความสุขสมจากปลายลิ้นได้ทำให้พวงแสดลืมความเศร้าไปแล้วชั่วขณะ ต่อไปทศก็อยากให้เธอสามารถยิ้มได้เพื่อต่อสู่กับความสูญเสียในครั้งนี้“ตรงนั้นมันรอให้พวงแสดสัมผัสมันอยู่” เขานั่งลงที่ขอบเตียง ดึงเธอให้มานั่งคุกเข่าต่อหน้าแล้วจับมือหญิงสาวไปสัมผัสที่เป้ากางเกงของตนให้มันผงกหัวทักทายเธอ“พวงแสดต้องทำอย่างไรบ้างจ๊ะ”“อมมัน เลียมัน ทำยังไงก็ได้ให้มันสงบลงไป” เขาบอกวิธีที่แสนหฤหรรษ์นั้น“นี่เรียกการปลอบใจเหรอจ๊ะ” เธอถามขณะที่ถอดกางเกงของเขาออกไปอย่างเบามือ“เราก็รู้ๆ กันอยู่ แค่เห็นสายตาพวงแสดเวลามองพี่ก็รู้แล้วว่าจริงๆ วันนี้พวงแสดอยากนอนห้องพี่มากกว่าห้องนังขนุนมัน” เขาพูดเสียงพร่า แลบลิ้นรอบริมฝีปากด้วยความกระหายพวงแสดยิ้มเอียงอาย แต่เมื่อเห็นดุ้นอวบก็ตาลุกวาวด้วยความตื่นเต้น ใช้มือจับมันรูดเบาๆ ก้มหน้าลงไปสูดดมกลิ่นหอมหวนที่ปลายหยักแล้วเลียไปรอบๆปลายลิ้นของหญิงสาวและมือที่รูดขึ้นลงนั้นทำเอาทศสุดปากครางออกมาด้วยความพอใจ แล้วกระซิบสอนขั้นตอนแก่หญิงสาวข้างใบหูเพื่อให้เธอปรนนิบัติเขาให้ถูกวิธี“อมแล้วดูดเน้นๆ อย่าให้โดนฟันนะพวงแสด”เธอพยักหน้าอย่างเข้าใจ ห่อปากเป็นวงกลมแล้วอมดุ้นอวบเข้าไป
ในหัวค่ำตรีกับขนุนก็กลับมาถึงพร้อมกับกับข้าวถุงและของสดจากตลาดพวงแสดรีบเข้าไปช่วยถือของแล้วนำกับข้าวถุงไปจัดใส่จานเตรียมที่โต๊ะอาหารอย่างกระตือรือร้นมื้ออาหารค่ำในวันแรกที่ย้ายมาอยู่ที่นี่เต็มไปด้วยความอบอุ่น โดยเฉพาะขนุนที่ดีใจเมื่อบ้านหลังนี้จะมีสมาชิกใหม่เป็นผู้หญิงเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน“กินเสร็จแล้วช่วยพี่เขาล้างถ้วยจานนะ ไม่ใช่ให้พี่เขาทำคนเดียว” ตรีรีบบอกลูกสาวที่กินเสร็จแล้วและกำลังจะลุกหนี“จ้ะพ่อ ฉันแค่จะไปนั่งดูทีวีรอย่อยค่อยไปอาบน้ำก็เท่านั้นแหละ” ขนุนรีบแก้ตัว“ไม่เป็นไรจ้า ขนุนไปอาบน้ำเตรียมตัวเข้านอนเลยก็ได้ พี่บอกแล้วไงว่าเรื่องงานบ้านขอให้เป็นหน้าที่ของพี่เอง” พวงแสดบอกเขาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวาน“งั้นขนุนไม่เกรงใจแล้วนะจ๊ะ เอาไว้หน้าที่กวาดบ้านถูบ้านล้างจาน วันเสาร์อาทิตย์ขนุนจะช่วยพี่พวงแสดทำ” เธอบอกด้วยน้ำเสียงที่สดใสตรีส่ายหน้าที่ลูกสาวนั้นตอนแรกก็เสนอตัวจะช่วยงาน ไปๆ มาๆ กินอิ่มแล้วก็ขี้เกียจเสียอย่างนั้น“ขี้เกียจตัวเป็นขนเชียว ระวังเถอะจะอ้วนเอา”“อย่าไปว่าหลานเลยค่ะพี่ทศ ขนุนเขาอยู่ในวัยเรียนควรจะตั้งใจเรียนมากกว่า งานบ้านปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวงแสดดีแล้ว” เ
สามเดือนผ่านไป พวงแสดก็เข้ากับครอบครัวใหม่ได้เป็นอย่างดีและเตรียมตัวจะผูกข้อไม่ข้อมือแต่งงานกันหลังจากทำบุญร้อยวันให้พี่ชายเธอแล้ว“อีกสองวันก็ทำบุญร้อยวันให้พี่สด จากนั้นวันศุกร์หน้าก็แต่งเลยเหรอจ๊ะ” พวงแสดถามเมื่อตรีบอกกำหนดการแก่เธอ“เร็วไปเหรอ” ตรีถามเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายมีท่าทีลังเลเล็กน้อย“เปล่าจ้ะ ฉันแค่ไม่อยากจัดงานให้วุ่นวาย ผูกข้อไม้ข้อมือแล้วก็จดทะเบียนที่อำเภอก็น่าจะพอแล้ว สินสอดอะไรก็ไม่ต้องหรอกจ้ะ” พวงแสดบอกด้วยความเกรงใจ“เงินสินสอดแค่ห้าหมื่นมันยังน้อยไปด้วยซ้ำ เอ็งยังจะมาเกรงใจข้าอีก ข้าสิต้องเกรงใจที่เอ็งยอมแต่งด้วยสินสอดเท่านี้” ตรีพูดด้วยน้ำเสียงที่ดุเล็กน้อยเมื่ออีกฝ่ายนั้นดูเกรงใจจนจะถูกเอารัดเอาเปรียบ“เอาเถอะพวงแสด ผูกข้อต่อแขนเสร็จก็ทำอาหารเลี้ยงชาวบ้าน หักค่าเงินผูกแขนใส่ซองเราหมดไม่กี่พันหรอก” ทศบอกให้ว่าที่ภรรยาสบายใจ“ถ้าอย่างนั้นก็แล้วแต่ลุงตรีเลยจ้ะ พวงแสดแล้วแต่ลุงตรีจะเมตตาเลย” เธอยอมรับแล้วยกมือไหว้เขาเพื่อขอบคุณที่เอ็นดูตนมาตลอดตรียื่นมือไปลูบศีรษะว่าที่น้องสะใภ้ด้วยความเอ็นดู ตั้งแต่เธอมาพักที่นี่ก็ทำงานบ้านทุกอย่าง ตื่นขึ้นมาหุงหาอาหารตั้งแต่เช้ามื
ในที่สุดพิธีแต่งงานเล็กๆ ก็ผ่านพ้นไปด้วยดี เจ้าบ่าวเจ้าสาวทำพิธีผู้ข้อไม้ข้อมือเสร็จและส่งเข้าหอหลอกตามฤกษ์เสร็จตั้งแต่ช่วงเช้าแล้วตอนกลางวันทั้งสองก็เปลี่ยนเป็นชุดลำลองที่ใส่สบายออกมาต้อนรับแขกเหรื่อในงานฉลองเล็กๆ ที่บางคนก็ร่วมรับประทานอาหารบางคนก็ห่อกลับ บางคนก็ทั้งกินทั้งห่อเป็นเรื่องปกติที่ชินตาส่วนตอนเย็นนั้นไม่มีแขกแล้วแต่จะเป็นเพื่อนของตรีและทศในวงเหล้าเสียมากกว่าพี่เขยกับน้องเมียที่เป็นเจ้าบ่าวในวันนี้ ดื่มฉลองกันอย่างมีความสุข ในขณะที่ขนุนและพวงแสดล้างถ้วยจานเก็บ และนั่งรอเก็บถ้วยจานของวงเหล้าที่หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่กำลังดื่มกินอยู่“จะมืดแล้ว พวกเอ็งกลับขึ้นบ้านเถอะพรุ่งนี้ค่อยมาเก็บ” ตรีหันไปบอกลูกสาว และภรรยาของน้องเมีย“พวงแสดขึ้นไปอาบน้ำรอพี่ที่ห้องเลยนะ วันนี้ผัวขอเมาสักคืนเดี๋ยวขึ้นไปหา” ทศพูดเสียงอ้อแอ้ถูกเพื่อนๆ มอมจนเมาแอ๋พวงแสดและขนุนจึงมองหน้ากันแล้วตัดสินใจอาบน้ำเข้านอนเพราะเหนื่อยมาทั้งวันแล้วเจ้าสาวผล็อยหลับไปจนกระทั่งได้ยินเสียงประตูเปิดเข้ามาตอนกลางดึกทศที่เมามายเข้ามานอนแผ่หลาบนเตียงอย่างหมดสภาพเธอจึงเช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เขาทำหน้าที่ภรรยาที่ดีแต่
สภาพของยุทธนาที่นอนอยู่บนเตียงเพราะเป็นร่างกายช่วงล่างได้รับบาดเจ็บและขยับไม่ได้ทำให้ภรรยาอย่างศิวาพรรู้สึกเบื่อหน่ายกับการที่ต้องมาดูแลเขาแบบนี้หลังจากเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ยุทธนาก็ต้องนอนติดเตียงแบบนี้ แรกๆ เธอก็ดูแลเขาเป็นอย่างดี คิดว่าความรักที่มีและฐานะที่ร่ำรวยของเขานั้นจะทำให้เธอสามารถดูแลเขาต่อไปได้แต่ยิ่งเวลาผ่านไปแม้เงินทองเขาจะมากมาย มีพยาบาลมาช่วยดูแลในช่วงกลางวันไม่ได้ลำบาก เธอแค่ทำหน้าที่เอาใจเขาและดูแลเรื่องในบ้าน แต่เรื่องบนเตียงที่ขาดหายไปทำให้ศิวาพรไม่สามารถหลับตาลงได้ในแต่ละวัน“คุณจะเป็นแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน เมื่อไหร่ระบบประสาทการเดินของคุณจะหายดี”“พยาบาลบอกว่าถ้าปลุกให้ตื่นได้ก็สามารถขึ้นทำได้แต่ต้องรีบทำ ลองดูสิที่รัก” ยุทธนาบอกภรรยาที่นอนกระสับกระส่ายอย่างรู้ทันก่อนหน้านี้เธอขาดเรื่องอย่างนี้ได้เสียเมื่อไหร่ ขึ้นคร่อมตัวเขาทุกเช้าเย็น ที่เกิดอุบัติเหตุก็เพราะภรรยาขย่มขาอ่อนขับรถไม่ไหว“นี่ก็สองสัปดาห์แล้วนะคะ รถแต่ตกข้างทางทำไมเป็นหนักขนาดเดินไม่ไหวแบบนี้” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่เสียดายสามีนอนตรวจร่างกายในโรงพยาบาลแค่ไม่กี่วันก็ออกมานอนพักที่บ้านแล้ว กลางวันม
วีรวัฒน์วัยสี่สิบเอ็ดพี่ชายของยุทธนา เขาเป็นชายเจ้าชู้รักอิสระที่ไม่ยอมแต่งงานเพราะไม่การผูกมัดกับใครเขากลับบ้านมาในยามเช้าหลังจากไปนอนค้างกับสาวสวยคู่ควงคนใหม่มา ทันมื้อเช้าของที่บ้านจึงนั่งร่วมโต๊ะด้วยยุทธนาที่นั่งรถเข็นรับประทานอาหารกับภรรยาพอเห็นพี่ชายก็ยิ้มให้แล้วมองเขาที่เป็นชายรักอิสระด้วยสายตาที่ชื่นชม“วันนี้มีประชุมผู้บริหาร พี่วัฒน์ต้องเข้าร่วมนะครับ” เขาเตือนพี่ชาย แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายนั้นแม้เที่ยวก็จะไม่ทิ้งงาน แต่ก็เป็นการหาเรื่องชวนคุยเสยมากกว่า“เออ รู้แล้วน่า แล้วแกอย่าลืมทำกายภาพล่ะ”คำพูดที่ฟังดูห่วงใยของพี่ชายทำให้ยุทธนาและศิวาพรมองหน้ากันแล้วนิ่งเงียบ เพราะตอนนี้ยุทธนารู้ดีว่าภรรยาอยากให้เขาหายมากแค่ไหน“ไม่ต้องห่วงค่ะหากเข้ารับการบำบัดอย่างถูกวิธี ทำกายภาพสม่ำเสมอ ต้องกลับมาเดินได้แน่นอนค่ะ เพราะเทคโนโลยีสมัยนี้ก้าวหน้ากว่าแต่ก่อนมาก” พยาบาลสาวที่ยืนอยู่รีบอธิบายให้ครอบครัวคนไข้ฟังเมื่อเห็นสีหน้าของยุทธนานั้นนิ่งไปเมื่อพี่ชายพูดถึงเรื่องกายภาพ“อืม งั้นผมก็ฝากด้วยนะครับ” วีรวัฒน์พูดแล้วมองพยาบาลสาวตาเป็นมันหากไม่ใช่ว่าเธอเป็นคนดูแลน้องชายเขาคงจะจัดสักดอกให้เธอรู
“เบาๆ สิอย่างส่งเสียง” กีรติดุเธอเสียงเบาในขณะที่ถูกอีกฝ่ายชวนมาเล่นรักกันที่ระเบียงที่ด้านล่างอาจจะมีลูกน้องของเขาอยู่“เข้านอนกันหมดแล้วล่ะคะ ซี๊ด” เธอพูดเสียงเบา เกาะขอบระเบียงแอ่นสะโพกให้เขากระแทกเขามาเน้นๆ แล้วครางไม่หยุด“คุณหลัวขา เมียเสียว ซี๊ด”“อ๊าส์ เบาๆ สินัท”“ก็คุณหลัวเอาเสียวนี่คะ อ๊าส์ นักเสียวจนใจจะขาดอยู่แล้ว” เธอบอกเขาเสียงกระเส่า แอ่นสะโพกยื่นให้เขากระแทกต่อแล้วครางต่อด้วยน้ำเสียงที่กระเส่าเสียวตับ ตับ ตับ! เข้ากระแทกเข้าไปถี่รัว“เสียวจนกลั้นเสียงครางไม่ได้เลยเหรอนัท” เขาถามอย่างภูมิใจ เป็นอย่างที่ซินแสบอกในช่วงที่เขาล้มป่วย ให้เขาแต่งงานแก้เคล็ดแล้วชีวิตเขาจะมีความสุข มันก็เป็นอย่างคำทำนายกลับมาจากทำงานเหนื่อยๆ ปวดหัวจากเรื่องงาน พอมาเจอลีลาอ้อนสวาทของณราทำให้เขามีความสุขและผ่อนคลายได้มากจริงๆ“กลับไปที่เตียงเถอะค่ะ นัทอยากถูกคุณหลัวเอาบนเตียงท่าอื่นแล้ว” เธออ้อนเขา ชักชวนเปลี่ยนท่าเสียวให้เขาวาดลีลาเสพสุขกับร่างกายของตนภรรยารับจ้างนอนอ้าขารอเข้าอยู่บนเตียง กีรติคุกเข่าต่อหน้าเธอ จับขาทั้งสองพาดที่ไหล่ให้สะโพกยกสูงแล้วเอาหมอนรองเอาไว้ กระแทกเข้าไปในท่านั้นแล้ว
สองเดือนแล้วกับหน้าที่เมียบำเรอที่แต่งงานแก้เคล็ดให้กับกีรติ ณรารู้สึกว่าเป็นช่วงเวลาที่เธอมีความสุขและสุขสบายมากจนอยากให้เวลาผ่านไปช้าๆจากที่ต้องช่วยพี่สาวขายข้าวราดแกง ตื่นแต่เช้ามืดไปตลาดเข้าครัวร้อนๆ แล้วยืนขายอาหารล้างจานจนมือเปื่อยแล้วรับเงินเดือนไม่กี่พันตอนนี้เธอจะตื่นสายแค่ไหนก็ไม่มีใครว่า อาหารมีแม่ครัวทำให้กินอยากกินอะไรก็แค่สั่ง งานบ้านไม่ต้องทำวันๆ มีแต่แต่งตัวสวยๆ รอเอาใจสามีที่ออกไปทำงานให้กลับมาเห็นเธอแล้วชื่นใจ“เป็นไงบ้างนัทสบายดีไหม” เสียงจากปลายสายที่โทรเข้ามาถามข่าวคราวของน้องสาวนั้นดูห่วงใยปนอยากรู้“ก็สบายดีนะพี่แนน คุณหลัวเขาดูแลนัทดีมาก ก็เหมือนที่เคยเล่าให้ฟังนั่นแหละ”“แบบนั้นก็ดีแล้ว ตอนนี้พี่ก็จ้างคนมาช่วยที่ร้าน เอาเงินไปใช้หนี้แล้วเงินก็เหลือเก็บ กำไรก็เหลือเยอะไม่ต้องเป็นห่วงนะ” ฝ่ายพี่สาวบอกให้น้องสบายใจ“ดีแล้วล่ะ ทางนี้ก็ไม่ต้องห่วงเหมือนกัน นัทสบายดี”“ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว แกทำไมไม่ทำให้คุณหลัวของแกรักแกหลงแกแล้วแต่งงานกันไปเลยจะได้อยู่สุขสบายที่นั่นนานๆ” คำพูดชี้ทางของพี่สาวทำให้เธอคิดว่าน่าสนใจไม่น้อย แต่เธอไม่สวยพอที่จะมัดใจเขานี่สิ ทุกวันนี้ถ้าไม่
เมื่อณราเต็มใจที่จะมอบความสาวของตนให้แก่เขา กีรติจึงไม่รอช้าแล้วโน้มหน้าลงไปจูบเจ้าสาวของตนแต่ถูกเธอดันอกเอาไว้ก่อน“ชุดนี้ร้อนและหนักมากเลยค่ะ ให้นัทไปอาบน้ำก่อนนะคะตัวจะได้หอมๆ ให้คุณหลัวได้ชื่นใจ” เธอบอกเขาอย่างเอาใจ“งั้นเราอาบน้ำด้วยกันเลยสิ จะได้ไม่เสียเวลา” เขาบอกด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น ตอนแรกคิดว่าเลือกแต่งงานกับคนที่ดูธรรมดาที่สุดแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกตื่นเต้นไปกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของเธอไม่ได้ณราค่อยๆ ถอดชุดเจ้าสาวแบบจีนออกไปด้วยความกระดากอายเล็กน้อย แต่ว่าก็ต้องทำให้ชินเพราะเธอต้องอยู่เอาใจเขาไปอีกหนึ่งปีในห้องน้ำที่กว้างเกือบเท่าห้องนอนของเธอ ณราถูกเจ้าบ่าวพาไปที่ห้องกระจกใสที่กั้นไว้สำหรับอาบน้ำด้วยฝักบัวใบหน้าของเธอแดงเรื่อเมื่อถูกอีกฝ่ายลูบไล้ถูสบู่ปลุกเร้าอารมณ์จนเกิดความปรารถนา ยอดอกชูชันสู้มือของเขาที่ลูบไล้ เธอเองจึงถูสบู่ให้เขาบ้างเริ่มลูบที่หน้าอกไปถึงหน้าท้องที่มีพุงหมาน้อยหน่อยๆแม้ไม่ได้มีลอนกล้ามซิกแพ็กเหมือนพระเอกในนิยายแต่อาวุธเขาก็มีขนาดใหญ่ราวแปดนิ้วแถมยังอวบเต็มมือจนเธอต้องลอบกลืนน้ำลายด้วยความกระหายที่อยากจะลิ้มลอง“อมสิ” ยังไม่ทันสิ้นความคิดว่าหากมันเข้า
การแต่งงานคือความใฝ่ฝันของใครหลายๆ คน แต่ไม่ใช่กับ ‘ณรา’ เพราะการแต่งงานกับคนที่ไม่รู้จักนั้นไม่ใช่ความปรารถนาของเธอเลยสักนิด“ทำไมต้องเป็นฉันคะ” เธอถามชายตรงหน้าด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจเพราะอีกฝ่ายเป็นถึงผู้ทรงอิทธิพลในย่านนี้ที่ผู้หญิงทุกคนต่างต้องการอยากก้าวไปอยู่เคียงข้างเขา‘กีรติ’ ในชุดสูทสีน้ำเงินเข้ม เสื้อเชิ้ตสีขาวด้านในปลดกระดุมสามเม็ดโชว์แผงอกกว้างสวมแว่นกันแดดแบรนด์หรู กำลังมองเธอด้วยความรู้สึกหมั่นไส้มากกว่าจะหลงใหล“เพราะฉันต้องการเธอ” เขาพูดเสียงเรียบสายตาคมกริบภายใต้แว่นดำมองใบหน้าที่แสนธรรมดาของเธอด้วยแววตาที่เรียบนิ่ง อีกฝ่ายดูไม่ตื่นเต้นหรือดีใจสักนิดที่เป็นฝ่ายถูกเลือก“ฉันไม่ได้เป็นหนี้คุณ ไม่ได้รู้จักคุณ แล้วทำไมฉันต้องแต่งงานกับคุณคะ ผู้หญิงคนอื่นมีเยอะแยะที่อยากเป็นเจ้าสาวของคุณ ฉันไม่รับคำขอค่ะ”“ผมไม่ได้ขอคุณแต่งงาน ผมสั่งให้คุณแต่งงานกับผม” เขาเสียงเข้มขึ้นกว่าเดิม ลูกน้องที่ยืนอยู่ด้านหลังเขาเริ่มมองหน้ากันเหมือนรู้ว่าเจ้านายของตนกำลังจะมีน้ำโหให้เตรียมตัวรับมือพี่สาวกับพี่เขยของณรารีบมองหน้ากันแล้วฝ่ายพี่สาวก็แตะไหล่น้องสาวให้ทำตัวเรียบร้อยต
หลังจากพักจนหายเหนื่อยแล้ว ทั้งสามคนก็เริ่มบรรเลงเพลงรักขึ้นอีกครั้ง พวกเขาพาเธอมายืนที่ข้างเตียงประกบศิวาพรอยู่ที่คนละข้าง แล้วแอ่นสะโพกเบียดถูสะโพกของเธอคนละฝั่งเธอยิ้มอย่างรู้ทันแล้วนั่งคุกเข่าลงจับท่อนลำของพวกเขารูดรั้งด้วยมือทั้งสองข้างแล้วสลับเลียที่ปลายหัวแล้วรูดมือให้แก่ท่อนลำทั้งสองอย่างรู้ใจปลายลิ้นนุ่มเลียไปตามรอบหยักของส่วนปลายหัว ดูดเลียเส้นเลือดที่ขดตัวอยู่แล้วส่วนปลายหัวดูดเลียเหมือนไอศกรีมสลับให้ทั้งคู่อย่างเท่าเทียมกันเสียงครางกระเส่าอย่างพอใจของสองพี่น้องทำให้เธอยิ่งเอาใจให้พวกเขาครางออกมาซ้ำแล้วซ้ำอีก ยิ่งร้องก็ยิ่งแสดงถึงความชำนาญในการใช้ปากให้พวกเขายุทธนาดึงเธอให้ยืนขึ้น เขายืนประกบจากด้านหลังจูบที่ซอกคอก่อนจะช่วยวีรวัฒน์ยกเธอขึ้นไปอุ้ม ทำให้ศิวาพรรีบกอดคอคนพี่เอาไว้แล้วเอาขาเกี่ยวที่เอวรับแรงกระแทกที่ดุดันของเขาสะโพกของเธอถูกเขากระแทกจนลอยขึ้นลงจากนั้นสามีหนุ่มก็หยิบเจลมาป้ายที่รูจีบเตรียมตัวเข้ามาแซนด์วิชในท่ายืน แล้วใช้ปลายนิ้วแยงเข้ามาในจังหวะที่ภรรยาถูกกระแทกลอยขึ้นลง“เบาๆ นะคะที่รัก” เธอบอกสามีแล้วกอดคอซบวีรวัฒน์เอาไว้ด้วยความตื่นเต้นท่อนลำอันที่สองถู
นับตั้งแต่ที่เกิดอุบัติเหตุตอนนี้ก็ผ่านมาห้าเดือนแล้ว ในที่สุดยุทธนาก็สามารถเดินได้เป็นปกติโดยไม่ต้องใช้วอร์กเกอร์หรือไม้เท้าช่วยในการเดินอีกต่อไปอีกทั้งร่างกายเขาก็แข็งแรงจนสามารถให้ความสุขกับภรรยาได้ดังเดิมแล้ววันนี้ยุทธนาจึงนัดคุยกับพี่ชายและภรรยาตามลำพังสามคน เพื่อที่จะตกลงเรื่องการปรนเปรอสวาทให้แก่เธอ“ถึงผมหายแล้วผมก็อยากให้พี่วัฒน์ช่วยต่อ เพราะผมคนเดียวคงให้ความสุขกับศิไม่ไหว” ยุทธนาเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อนวีรวัฒน์พยักหน้ารับรู้ หลังจากที่เป็นชู้รักแบบสมยอมมาหลายเดือนก็พอเข้าใจหัวอกของน้องชายว่าเหตุใดจึงยอมให้ภรรยาของตนเองนอนกับผู้ชายคนอื่น นั่นก็เพราะศิวาพรชื่นชอบในเรื่องนี้ และสงสัยว่าอาจจะเป็นโรคที่ขาดเซ็กส์ไม่ได้“พี่ยินดีช่วย แต่เราจะอยู่ในสถานะชู้รักแบบนี้แน่ใจนะว่านายรับได้” วีรวัฒน์ถามน้องชายแล้วมองด้วยแววตาที่จริงจัง ศิวาพรเองก็มองหน้าสามีว่าเขาอาจจะหึงเธอบ้างหรือไม่“ผมยอมรับนะว่าไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้ แต่พอเห็นศิมีความสุขผมก็รู้สึกมีความสุข แล้วอีกอย่างผมเองก็ไม่มีพละกำลังมากพอที่จะปรนเปรอความสุขให้เมียตัวเองได้ ผลไม่ไว้ใจใครเลยนะนอกจากพี่” เขาบอกเหตุผลของตัวเองแล้ว
ศิวาพรรอให้สามีหลับแล้วเธอก็ลุกขึ้นอาบน้ำอีกรอบเพื่อเตรียมตัวรอให้วีรวัฒน์มาถึงเมื่อได้ยินเสียงรถของเขาแล้วเธอก็รอเวลาสักพักให้เขาจัดการตัวเองให้เรียบร้อยแล้วจึงไปหาเขาที่ห้อง“วันนี้ศิรบกวนได้รึเปล่าคะ” เธอถามเขาตามมารยาทเพราะวันนี้เขากลับดึกมากแล้วอาจเหนื่อยที่จะต้องมาปรนเปรอสวาทให้แก่เธอ“พี่รบกวนให้ศินวดให้พี่ก่อนค่อยนาบได้หรือเปล่า” เขาถามกลับด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยล้า เพราะต้องโหมงานหนักแทนน้องชายในส่วนที่ไม่สามารถจัดการเองที่บ้านได้ จึงทำงานหนักเป็นสองเท่า“ยินดีมากๆ ค่ะ” เธอบอกแล้วไปช่วยนวดให้เขาโดยใช้ทักษะที่เคยนวดให้สามีทำให้วีรวัฒน์ผ่อนคลายแล้วครางในลำคอด้วยความพอใจกับแรงมือของเธอและท่านวดที่เป็นงานนั้น“รู้สึกดีจัง” เขาพูดขึ้นมาอย่างชื่นชม แล้วหลับตารับการนวดจากเธออย่างผ่อนคลาย“แบบนี้ถ้าศินวดจนพี่วัฒน์หลับคงไม่ได้นาบแล้วมั้งคะ” เธอพูดแล้วอมยิ้มเล็กน้อย หากไม่ได้คืนนี้เธอก็เข้าใจ เพราะถึงจะชื่นชอบเซ็กส์มากแต่ว่าเริ่มปลงได้มากแล้ว และยุทธนาก็พึ่งจัดให้เธอไปเมื่อตอนหัวค่ำ“ถ้าพี่หลับศิก็แค่ปลุกมันให้ตื่นแล้วลักหลับพี่สิครับ” เขาพูดแล้วอมยิ้ม เปลือกตายังคงไม่ขยับและเริ่มจะง่ว
เกือบสองเดือนแล้วกับการทำกายภาพบำบัดผสานกับกำลังใจจากคนรอบตัว ยุทธนาเริ่มเคลื่อนไหวได้และกำลังฝึกเดินด้วยตนเองแต่ยังต้องใช้วอร์กเกอร์สี่ขาช่วยพยุงในการเดิน“แบบนี้อีกไม่กี่เดือนผมก็จะเดินได้เป็นปกติแล้วนะที่รักดีใจไหม” เขาถามภรรยาสาวด้วยน้ำเสียงที่ดีใจ หลังจากที่วันนี้ลองอาบน้ำด้วยตนเองถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว“ดีใจสิคะ” เธอตอบอย่างตื่นเต้นก่อนจะสลดลงไปเมื่อนึกได้ว่าเวลาของตนกับพี่ชายของสามีก็คงกำลังจะจบลงเช่นกัน“ผมรู้นะว่าคุณคิดอะไรอยู่ อันที่จริงแล้วถึงผมหายดีก็ต้องให้พี่วัฒน์ช่วยอยู่ดี เพราะขืนโดยภรรยาขย่มทุกวันขนาดนั้นผมคงขาอ่อนอีกรอบแน่” เขาพูดอย่างรู้ใจภรรยา แล้วขยับไปนอนบนเตียงข้างๆ เธอ ดึงภรรยามากอดด้วยความรักใคร่“จริงๆ เหรอคะ จะให้พี่วัฒน์ช่วยต่อจริงๆ เหรอคะ” เธอถามด้วยความดีใจแล้วขยับกอดซบอกสามีด้วยความดีใจ“ใช่สิ ผมอยากคุยกับพี่วัฒน์ให้รู้เรื่อง ความลับของเราสามคนผัวเมียจะเป็นความลับกันสามคนตลอดไป ผมเองจะได้มีคนช่วยแบ่งเบาความเหน็ดเหนื่อย พี่วัฒน์ก็จะมีเมียโดยไม่ต้องแต่งงาน ที่รักเองก็จะได้มีคนช่วยบำเรอสวาทให้มีความสุข แบบนี้พอใจไหม” เขาบอกความคิดของเขาให้แก่ภรรยาฟัง“ดี
เมื่อคืนนี้ตอนที่เข้าห้องมายุทธนาก็หลับสนิทแล้ว ในตอนเช้าพอตื่นมาเจอหน้ากันเธอก็ขยับเข้าไปนอนกอดในอ้อมแขนของเขา ตื่นเต้นและรู้สึกผิดระคนกันไปหมด“เป็นยังไงบ้างพี่วัฒน์ทำดีไหม”“ก็ดีนะคะ” เธอตอบด้วยความเอียงอายปนรู้สึกผิดที่นอกใจสามี แม้จะเป็นข้อเสนอของเขาเอง“ศิมีความสุขผมก็มีความสุข” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความยินดี แล้วโอบกอดภรรยาเอาไว้ด้วยความรักใคร่“อาบน้ำกันเถอะค่ะ” เธอบอกสามีแล้วค่อยๆ พาเขาขึ้นรถเข็น โชคดีที่ยุทธนาแข็งแรงจึงยกตัวเองขึ้นรถเข็นได้ง่ายเธอพาเขาไปที่ห้องน้ำแล้วย้ายเขาไปนั่งที่เก้าอี้อาบน้ำที่เตรียมไว้ จากนั้นก็เริ่มอาบน้ำไปพร้อมกับเขาอย่างเช่นเคยเพราะไหนๆ ก็ต้องเปียกด้วยกันอยู่แล้วยุทธนาดึงภรรยามานั่งที่ตักแล้วจูบริมฝีปากของเธอด้วยความรักใคร่ หอมกลิ่นกายที่คุ้นเคยอยากรีบหายแล้วชดเชยให้เธอสักครั้งเหลือเกิน แต่ว่าก็ให้พี่ชายรับช่วงดูแลภรรยาไปก่อน“เช้าๆ แบบนี้ให้ผมใช้นิ้วให้ไหม” เขาถามเธออย่างเอาใจและรู้ใจภรรยา“คุณยังป่วยอยู่เลยค่ะ ไม่เป็นไรหรอก ศิเองก็รู้สึกผิดที่ทำทุกเช้าเย็นจนคุณขาอ่อนแรงแล้วเกิดอุบัติเหตุแบบนี้ ศิเลยพยายามที่จะลดเรื่องนั้นลงไปบ้าง” เธอต