ในตอนเย็นหลังจากที่กีรติกลับมา เชงที่เป็นพ่อบ้านก็รีบเข้าไปรายงานเรื่องความเรื่องมากในวันนี้ของณราให้เขาฟังแต่กีรติรู้ว่าเธอไม่ใช่คนที่จะเรื่องมากขนาดนั้นจึงเรียกเข้ามาถามความทั้งแก้วนรีและภรรยาของตนณราเดินเข้ามาก่อนตามแก้วนรี เขาผายมือให้ทั้งสองนั่งลงต่อหน้าที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามที่มีโต๊ะทำงานกั้นอยู่ แล้วมองหน้าทั้งสองอย่างวิเคราะห์“ว่าไงล่ะแก้วบอกคุณหลัวไปสิว่าเกิดอะไรขึ้น”“ค่ะลุงเชง” แก้วนรีรับคำเสียงเบาแล้วก้มหน้าก้มตาพูดออกมา“คุณนัทแกล้งแก้วค่ะ เธออยากกินของที่ในครัวไม่มี ตั้งใจจะแกล้งให้พวกเราวุ่นวาย”ณราหันไปมองไม่อยากเชื่อเลยว่าที่ถูกเรียกมาจะเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยนี้“อาจฟังดูเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ นะคะ แต่ทำแบบนี้ทุกวันพวกเราอึดอัดใจมากเลยค่ะ วันนี้ก็อยากกินกุ้งล็อบเตอร์อบซอสมะขามบอกต้องได้กินภายในสิบนาทีพวกเราจะไปหาได้จากที่ไหนล่ะคะ”เหมือนจะรู้ทันความคิดเธอ แก้วนรีเธออธิบายต่อแล้วบีบน้ำตาออกมาทำตัวน่าสงสาร ให้รู้ว่าปัญหาเล็กน้อยแต่เป็นปัญหาซ้ำซากที่ต้องเจอบ่อยๆ ก็รู้สึกว่าตนเองไม่ไหว“ว่าไงนัท เป็นอย่างที่แก้วพูดไหม” เขาถามเธอแล้วมองด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยคำถาม“ไม่จริงค
เหลืออีกสามเดือนแล้วสำหรับการแต่งงานแก้เคล็ดของตน หากต้องต่อเวลาจะให้ต้องจ่ายเท่าไรเขาก็ยอมขอแค่ให้เธออยู่ต่อกับเขาแบบนี้ตลอดไปแต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าเธอจะเปลี่ยนใจเลยทั้งๆ ที่เขาก็จัดการปัญหาเรื่องคนในบ้านให้แล้ว“เหลืออีกสามเดือนแล้ว คุณไม่อยากอยู่ต่อจริงเหรอ ผมรวยนะซื้อความสุขให้คุณได้ทุกอย่างเลย”“ฉันรู้ค่ะ ฉันก็เคยมีความคิดว่าอยากอยู่ต่อ แต่คิดไปคิดมาก็ไม่อยากเป็นของเล่นคนรวย ขอกลับไปขายข้าวแกงอย่างเดิมจะดีกว่า” ณราบอกความตั้งใจของตนเพราะเธอไม่รู้ว่าเขาจะหมดความหลงใหลเธอไปในตอนไหน การแต่งงานที่รับรู้แค่ไม่กี่คนไม่นับว่าเป็นการแต่งงาน เพราะคนภายนอกที่มองเธอมาไม่ต่างอะไรจากเด็กเสี่ย คู่ควง หรือนางบำเรอ“จะทำยังไงคุณถึงจะยอมอยู่ที่นี่ต่อกับผม” เขาถามแล้วลูบไล้สะโพกของเธอชวนให้เคลิบเคลิ้ม“เป็นสิ่งที่คุณให้ฉันไม่ได้หรอกค่ะ” เธอไม่บอกเขา เพราะพูดไปก็ไม่มีวันที่จะได้รับ นั่นคือ ความรักและการให้เกียรติเธอเป็นภรรยาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ลบคำดูถูกที่คนอื่นพูดถึงเธอคนที่ร่ำรวยและมีอำนาจอย่างเขานะเหรอจะให้ค่ากับแม่ค้าขายข้าวราดแกงหน้าตาธรรมดาที่เป็นได้แค่ตัวประกอบในนิยาย แค่เธอได้มาเป็นเมีย
กีรติใช้เวลาทบทวนหัวใจตัวเองอยู่นาน สัปดาห์หน้าก็จะครบกำหนดหนึ่งปีตามที่ตกลงกันเอาไว้แล้ว ทั้งสองดูเหมือนจะรีบเก็บเกี่ยวเอาเวลาที่ได้อยู่ด้วยกันเอาไว้ให้มากที่สุด“ไปเที่ยวยุโรปกันไหม” เขาถามเธอเสียงนุ่มในขณะที่กำลังแต่งตัวเตรียมไปทำงานอยู่“ไม่ดีกว่าค่ะ เอาเวลาที่เราเดินทางข้ามวันข้ามคืนมานอนกอดกันยังจะดีกว่า” เธอพูดเอาใจเขาแล้วช่วยขยับเสื้อสูทให้เข้าที่ มองดูแผ่นอกแกร่งที่ตนเหลือเวลาให้ซุกกอดอีกเพียงไม่กี่วันด้วยความใจหายกีรติดูเหมือนมีอะไรจะพูดมากกว่านั้น แต่เขากลับมองเธออย่างพิจารณาแล้วจุมพิตที่หน้าผากก่อนจะออกไปจัดการปัญหาที่รบกวนจิตใจ“ตอนเย็นเจอกันนะ” เขาบอกเธอก่อนออกไปจากห้อง ณรามองตามด้วยความใจหาย เริ่มนับถอยหลังอีกไม่กี่วันก็ต้องไปจากที่นี่และไม่ได้เจอเขาอีกแล้วกีรติขึ้นไปนั่งบนรถ ลูกน้องเขาปิดประตูให้แล้วนั่งประจำที่คนขับแล้วขับรถออกไปจากบ้าน“ไปที่ตำหนักซินแสซ้ง” เขาพูดเสียงเรียบ ตั้งใจจะเอาดวงของตนกับณราไปถามว่าจะสามารถไปด้วยกันได้หรือไม่ ก่อนจะพูดความในใจกับเธอในคืนนี้เมื่อไปถึงที่ตำหนักเขาก็พบว่ามีรถของที่บ้านจอดอยู่ก่อนหน้าแล้วจึงสั่งให้ลูกน้องทั้งสองรออยู่ที่รถแล้ว
หลังจากที่เลิกรากันไปเพียงเพราะความไม่เข้าใจกัน ในที่สุดวันนี้เราสองคนก็ได้กลับมาเจอกันอีกครั้งต่างคนต่างก็ทำตัวไม่ถูก เพราะหลังจากวันนั้นเราก็ขาดการติดต่อไปเลย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะฉันเองที่เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์และที่อยู่ไม่ให้เขาตามพบ“คุณดูดีขึ้นนะ” เขาเป็นคนทักทายฉันขึ้นมาก่อนพร้อมกับรอยยิ้มที่ยังคงเต็มไปด้วยเสน่ห์ของเขา“คุณสบายดีนะ” ฉันทักทายกลับไปบ้าง แล้วยิ้มให้เขาน้อยๆ ยังรู้สึกว่าวางตัวไม่ค่อยถูกนักเมื่อเจอกับอดีตคนรักในสถานการณ์ที่น่าอับอายแบบนี้“คุณลูกค้าจะชำระเงินได้หรือยังคะ” พนักงานขายถามฉันด้วยน้ำเสียงที่สุภาพ แต่ก็รับรู้ได้ว่ากำลังเร่งรัดให้ฉันรีบชำระค่าสินค้าตรงหน้าอยู่ โดยที่อดีตคนรักก็ต่อคิวอยู่ด้านหลัง“ลืมเอากระเป๋าเงินมาอีกแล้วใช่ไหม” เขาพูดอย่างรู้ทัน แล้วหยิบกระเป๋าเงินออกมาจ่ายเงินให้กับฉันเรียบร้อย“แบตฉันหมดน่ะ เดี๋ยวโอนคืนให้นะ” ฉันพูดเสียงสั่นเล็กน้อยพยายามข่มความตื่นเต้นเอาไว้แล้วรับถุงสินค้าจากพนักงานเตรียมตัวจะรีบกลับแต่โดนเขาคว้ามือเอาไว้ก่อน“ของมันเยอะเดี๋ยวผมถือช่วย” พูดจบเขาก็แย่งถือถุงเหล่านั้นเอาไว้ในมือ ก่อนที่จะวางสินค้าที่เขาซื้อเพียงชิ้นเดียว
วินยังคงเต็มไปด้วยเสน่ห์น่าหลงใหลในสายตาของฉัน รูปร่างของเขาถูกดูแลเป็นอย่างดีไม่เคยเปลี่ยนเขาดันตัวฉันไปที่เตียง หลังจากนั้นเราทั้งสองก็เริ่มกอดจูบกันอย่างดูดดื่ม รื้อฟื้นความหลังของเราในฐานะแฟนเก่าที่มาขอจีบใหม่ในคืนแรกที่เจอกันอีกครั้ง“ผมรู้ว่าคุณชอบ” เขาพูดจบก็แทรกปลายลิ้นเข้าไปเกี่ยวจูบลิ้นเรียวเล็กของฉันอย่างดูดดื่ม แล้วช่วยกันถอดเสื้อผ้าออกไปอย่างชำนาญเรากอดจูบกันอยู่บนเตียงด้วยลีลารักที่ฉันคุ้นเคย เขาเลื่อนริมฝีปากจูบที่ซอกคอซุกไซ้ด้วยตอหนวดที่ปลายคางด้วยความหื่นกระหายมือหนาขยำหน้าอกแล้วบีบขึ้นมา เลื่อนใบหน้าลงไปมุดที่สองเต้าแล้วดูดเม้มยอดอกอย่างดูดดื่ม ฉันชอบให้เขาเล้าโลมนานๆ แบบนี้ นอนนิ่งแล้วครางอื้ออึงในลำคอ มือกำซองถุงยางเตรียมความพร้อมเอาไว้“วิน ลงลิ้นให้ฉันที” ฉันขอร้องอดีตคนรักด้วยน้ำเสียงที่สั่นกระเส่า แยกขาทั้งสองออกเตรียมรับการกระทำที่สุขสมนั้นเขาดูดที่เนินอกและปลายยอดอก ทั้งบีบเคล้นทั้งดูดขบด้วยความหื่นกระหาย จากนั้นก็ค่อยๆ พรมจูบลงมาที่หน้าท้อง ใช้ลิ้นเลียวนรอบสะดือแล้วลากปลายลิ้นลงมาที่เนินอูบนิ้วของเขาที่เขี่ยเล่นที่เม็ดเสียว แล้วบดคลึงเบาๆ เลื่อนลงไปแยงท
ฉันที่โหยหาในตัวของวินกำลังเกิดความลังเลว่าอยากจะคืนดีกับเขาเร็วๆ แต่อีกใจก็ยังหวงความโสด เพราะช่วงที่อยู่คนเดียวมันมีอิสระและมีความสุขกับช่วงเวลานั้นแม้จะคิดถึงเขาอยู่ตลอด“เลิกงานแล้วไปหานะ ผมจะซื้อกับข้าวเข้าไปหุงข้าวรอเลย” เสียงสดใสจากปลายสายรีบพูดขึ้นมาหลังจากที่ฉันกดรับโทรศัพท์“ใครให้มา” ฉันถามเขาเสียงเรียบ เมื่อวานนี้เขามาหาฉันอย่างที่เคยพูดว่าจะมาหาทุกวันแม้จะรู้ว่าคำว่าทุกวันไม่ได้หมายความว่าทุกวันจริงๆ แต่ก็อยากหาเรื่องแง่งอนเขา“วันก่อนยังบอกอยู่เลยว่าอยากให้ไปหาทุกวัน” เขาถามกลับเสียงอ้อน“ก็เมื่อวานไม่มานี่ ก็คิดว่าคงไม่อยากมาแล้ว” เธอแกล้งพูดงอนเขา“วันนี้มีกุยช่ายขาวหมูกรอบ กับแกงจืดเต้าหู้สาหร่าย แล้วก็แหนมหมูทอด ของหวานก็เป็นทับทิมกรอบใส่ขนุนฉีกเจ้าดัง ถ้าไม่ได้ไปผมคงต้องกินคนเดียว” เขาเอาของโปรดฉันมาล่อฉันถึงกับอมยิ้มที่เขายังจำได้“ของหวานเก็บไว้กินวันอื่นนะ วันนี้ต้องทำโอทีต่ออีกชั่วโมง ฉันอยากดื่ม” ฉันบอกเขาเป็นนัยว่าอยากดื่มเครื่องดื่มมึนเมาและให้เขาซื้อมาให้“ได้เลยบุ๋ม งั้นซื้อของเสร็จผมจะไปรอที่ลานจอดรถนะเวลาเราน่าจะถึงพอดีกัน”“อืม แล้วเจอกันนะ” ฉันกดวางสา
ฉันย้ายกลับมาอยู่ด้วยกันในห้องเดิมของเราตามที่เขาร้องขอ เราสองคนตกลงจะให้อิสระแก่กันแต่อยู่ในขอบเขตที่เหมาะสมเขาดูแลฉันดีกว่าแต่ก่อนจนฉันกลัวว่าจะหมดโปรโมชั่น แต่เขาก็ยังยืนยันที่จะอยากมีโปรฯเอาใจในช่วงนี้“ถ้าหมดโปรฉันต้องเสียดายแย่เลย”“อย่าคิดอย่างนั้นสิ คนเป็นแฟนกันต้องสร้างโปรโมชั่นให้กันบ้าง ของในห้างยังมีโปรฯทุกเดือนเลย ผมก็จะมีโปรฯให้คุณทุกเดือน”“จริงเหรอคะ หมดโปรฯนี้ก็มีโปรฯเดือนหน้าอีก” ฉันถามด้วยความดีใจ“จริงสิ” เขาพูดแล้วช่วยฉันทำงานบ้าน แย่งไม้กวาดจากมือแล้วหอมแก้มฟอดใหญ่วันหยุดแบบนี้เราได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันทั้งวันไม่ได้ออกไปเที่ยวไหนเพราะฉันไม่ชอบความวุ่นวายเขาจึงตามใจฉัน การกลับมาอยู่ด้วยกันในครั้งนี้ทำให้เรารู้ใจกันมากขึ้น“วันนี้ผมตามใจคุณแล้ว คืนนี้คุณต้องตามใจผมนะ” เขาพูดขอดักเอาไว้“ได้สิคะ ฉันจะตามใจคุณทุกอย่าง”ฉันยิ้มยั่วเขาแล้วเลียริมฝีปากแกล้งทำตัวหื่นใส่จนวินอดใจไม่ไหวต้องเดินมาหอมแก้มฉันอีกฟอดเรายิ้มให้กันอย่างรู้ใจ การกลับมาอยู่ด้วยกันครั้งนี้เราต่างคนต่างเป็นผู้ใหญ่ขึ้นและความรักที่มีให้กันก็มากขึ้นกว่าเดิม---------------------เสียงฝักบัวสงบลง ฉันรู
ในค่ำคืนที่เร่าร้อน เราทั้งสองจูบเล้าโลมกันบนเตียงในสภาพที่เปลือยเปล่าทั้งคู่ปลายลิ้นของเราเกี่ยวกระหวัดแลกจูบกันอย่างดูดดื่มโดยที่ฉันเป็นฝ่ายขึ้นไปอยู่บนตัวเขาฉันเบียดชิดสะโพกถูไถกับท่อนเนื้อของเขาไปมาในขณะที่จูบเล้าโลมกันอย่างดูดดื่มก่อนจะเลื่อนตัวลงไปจูบที่ซอกคอของเขาฉันลากปลายลิ้นเลื่อนลงไปที่หน้าอกตวัดเลียเม็ดตุ่มที่แข็งเป็นไต ละเลงลิ้นเลียจนมันฉ่ำไปด้วยน้ำลายแล้วเลื่อนลงไปที่ท่อนเนื้อของเขาแล้วเลียไปรอบๆ ปลายหัวหยักอย่างเอาใจ“บุ๋ม พอแล้ว ขย่มเถอะ” เขาขอร้องฉันแต่ฉันก็แกล้งไม่สนใจ ห่อปากอมท่อนเนื้อนั้นแล้วโยกคอขึ้นลงให้เขาทรมานจากความเสียววินอดใจไม่ไหว เขาดันตัวฉันนอนลงไปแล้วแยกขาออกกว้าง กดท่อนเอ็นเข้ามาอย่างรีบร้อยจนมิดด้ามแล้วขยับซอยถี่ๆ อย่างดุดัน“นี่แน่ะแกล้งผมดีนัก” เขากัดฟันพูดกระเส่า ลงโทษฉันด้วยลีลาสวาทที่แสนหฤหรรษ์ที่ฉันไม่เกรงกลัว“อื้อ อ๊าส์ ลงโทษเมียแรงๆ เลยผัวขา” ฉันครางออกมาเสียงกระเส่าอย่างท้าทาย เรียกสรรพนามที่กระตุ้นความกำหนัดตับ ตับ ตับ! เขากระแทกเข้าไปถี่รัวจนร่างฉันโยกคลอนไปตามแรงกระทำนั้น สักพักก็ชะลอความเร็วลงในขณะที่ฉันอารมณ์พุ่งถึงจุดสูงสุด“อ๊าส์
ในค่ำคืนที่เร่าร้อน เราทั้งสองจูบเล้าโลมกันบนเตียงในสภาพที่เปลือยเปล่าทั้งคู่ปลายลิ้นของเราเกี่ยวกระหวัดแลกจูบกันอย่างดูดดื่มโดยที่ฉันเป็นฝ่ายขึ้นไปอยู่บนตัวเขาฉันเบียดชิดสะโพกถูไถกับท่อนเนื้อของเขาไปมาในขณะที่จูบเล้าโลมกันอย่างดูดดื่มก่อนจะเลื่อนตัวลงไปจูบที่ซอกคอของเขาฉันลากปลายลิ้นเลื่อนลงไปที่หน้าอกตวัดเลียเม็ดตุ่มที่แข็งเป็นไต ละเลงลิ้นเลียจนมันฉ่ำไปด้วยน้ำลายแล้วเลื่อนลงไปที่ท่อนเนื้อของเขาแล้วเลียไปรอบๆ ปลายหัวหยักอย่างเอาใจ“บุ๋ม พอแล้ว ขย่มเถอะ” เขาขอร้องฉันแต่ฉันก็แกล้งไม่สนใจ ห่อปากอมท่อนเนื้อนั้นแล้วโยกคอขึ้นลงให้เขาทรมานจากความเสียววินอดใจไม่ไหว เขาดันตัวฉันนอนลงไปแล้วแยกขาออกกว้าง กดท่อนเอ็นเข้ามาอย่างรีบร้อยจนมิดด้ามแล้วขยับซอยถี่ๆ อย่างดุดัน“นี่แน่ะแกล้งผมดีนัก” เขากัดฟันพูดกระเส่า ลงโทษฉันด้วยลีลาสวาทที่แสนหฤหรรษ์ที่ฉันไม่เกรงกลัว“อื้อ อ๊าส์ ลงโทษเมียแรงๆ เลยผัวขา” ฉันครางออกมาเสียงกระเส่าอย่างท้าทาย เรียกสรรพนามที่กระตุ้นความกำหนัดตับ ตับ ตับ! เขากระแทกเข้าไปถี่รัวจนร่างฉันโยกคลอนไปตามแรงกระทำนั้น สักพักก็ชะลอความเร็วลงในขณะที่ฉันอารมณ์พุ่งถึงจุดสูงสุด“อ๊าส์
ฉันย้ายกลับมาอยู่ด้วยกันในห้องเดิมของเราตามที่เขาร้องขอ เราสองคนตกลงจะให้อิสระแก่กันแต่อยู่ในขอบเขตที่เหมาะสมเขาดูแลฉันดีกว่าแต่ก่อนจนฉันกลัวว่าจะหมดโปรโมชั่น แต่เขาก็ยังยืนยันที่จะอยากมีโปรฯเอาใจในช่วงนี้“ถ้าหมดโปรฉันต้องเสียดายแย่เลย”“อย่าคิดอย่างนั้นสิ คนเป็นแฟนกันต้องสร้างโปรโมชั่นให้กันบ้าง ของในห้างยังมีโปรฯทุกเดือนเลย ผมก็จะมีโปรฯให้คุณทุกเดือน”“จริงเหรอคะ หมดโปรฯนี้ก็มีโปรฯเดือนหน้าอีก” ฉันถามด้วยความดีใจ“จริงสิ” เขาพูดแล้วช่วยฉันทำงานบ้าน แย่งไม้กวาดจากมือแล้วหอมแก้มฟอดใหญ่วันหยุดแบบนี้เราได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันทั้งวันไม่ได้ออกไปเที่ยวไหนเพราะฉันไม่ชอบความวุ่นวายเขาจึงตามใจฉัน การกลับมาอยู่ด้วยกันในครั้งนี้ทำให้เรารู้ใจกันมากขึ้น“วันนี้ผมตามใจคุณแล้ว คืนนี้คุณต้องตามใจผมนะ” เขาพูดขอดักเอาไว้“ได้สิคะ ฉันจะตามใจคุณทุกอย่าง”ฉันยิ้มยั่วเขาแล้วเลียริมฝีปากแกล้งทำตัวหื่นใส่จนวินอดใจไม่ไหวต้องเดินมาหอมแก้มฉันอีกฟอดเรายิ้มให้กันอย่างรู้ใจ การกลับมาอยู่ด้วยกันครั้งนี้เราต่างคนต่างเป็นผู้ใหญ่ขึ้นและความรักที่มีให้กันก็มากขึ้นกว่าเดิม---------------------เสียงฝักบัวสงบลง ฉันรู
ฉันที่โหยหาในตัวของวินกำลังเกิดความลังเลว่าอยากจะคืนดีกับเขาเร็วๆ แต่อีกใจก็ยังหวงความโสด เพราะช่วงที่อยู่คนเดียวมันมีอิสระและมีความสุขกับช่วงเวลานั้นแม้จะคิดถึงเขาอยู่ตลอด“เลิกงานแล้วไปหานะ ผมจะซื้อกับข้าวเข้าไปหุงข้าวรอเลย” เสียงสดใสจากปลายสายรีบพูดขึ้นมาหลังจากที่ฉันกดรับโทรศัพท์“ใครให้มา” ฉันถามเขาเสียงเรียบ เมื่อวานนี้เขามาหาฉันอย่างที่เคยพูดว่าจะมาหาทุกวันแม้จะรู้ว่าคำว่าทุกวันไม่ได้หมายความว่าทุกวันจริงๆ แต่ก็อยากหาเรื่องแง่งอนเขา“วันก่อนยังบอกอยู่เลยว่าอยากให้ไปหาทุกวัน” เขาถามกลับเสียงอ้อน“ก็เมื่อวานไม่มานี่ ก็คิดว่าคงไม่อยากมาแล้ว” เธอแกล้งพูดงอนเขา“วันนี้มีกุยช่ายขาวหมูกรอบ กับแกงจืดเต้าหู้สาหร่าย แล้วก็แหนมหมูทอด ของหวานก็เป็นทับทิมกรอบใส่ขนุนฉีกเจ้าดัง ถ้าไม่ได้ไปผมคงต้องกินคนเดียว” เขาเอาของโปรดฉันมาล่อฉันถึงกับอมยิ้มที่เขายังจำได้“ของหวานเก็บไว้กินวันอื่นนะ วันนี้ต้องทำโอทีต่ออีกชั่วโมง ฉันอยากดื่ม” ฉันบอกเขาเป็นนัยว่าอยากดื่มเครื่องดื่มมึนเมาและให้เขาซื้อมาให้“ได้เลยบุ๋ม งั้นซื้อของเสร็จผมจะไปรอที่ลานจอดรถนะเวลาเราน่าจะถึงพอดีกัน”“อืม แล้วเจอกันนะ” ฉันกดวางสา
วินยังคงเต็มไปด้วยเสน่ห์น่าหลงใหลในสายตาของฉัน รูปร่างของเขาถูกดูแลเป็นอย่างดีไม่เคยเปลี่ยนเขาดันตัวฉันไปที่เตียง หลังจากนั้นเราทั้งสองก็เริ่มกอดจูบกันอย่างดูดดื่ม รื้อฟื้นความหลังของเราในฐานะแฟนเก่าที่มาขอจีบใหม่ในคืนแรกที่เจอกันอีกครั้ง“ผมรู้ว่าคุณชอบ” เขาพูดจบก็แทรกปลายลิ้นเข้าไปเกี่ยวจูบลิ้นเรียวเล็กของฉันอย่างดูดดื่ม แล้วช่วยกันถอดเสื้อผ้าออกไปอย่างชำนาญเรากอดจูบกันอยู่บนเตียงด้วยลีลารักที่ฉันคุ้นเคย เขาเลื่อนริมฝีปากจูบที่ซอกคอซุกไซ้ด้วยตอหนวดที่ปลายคางด้วยความหื่นกระหายมือหนาขยำหน้าอกแล้วบีบขึ้นมา เลื่อนใบหน้าลงไปมุดที่สองเต้าแล้วดูดเม้มยอดอกอย่างดูดดื่ม ฉันชอบให้เขาเล้าโลมนานๆ แบบนี้ นอนนิ่งแล้วครางอื้ออึงในลำคอ มือกำซองถุงยางเตรียมความพร้อมเอาไว้“วิน ลงลิ้นให้ฉันที” ฉันขอร้องอดีตคนรักด้วยน้ำเสียงที่สั่นกระเส่า แยกขาทั้งสองออกเตรียมรับการกระทำที่สุขสมนั้นเขาดูดที่เนินอกและปลายยอดอก ทั้งบีบเคล้นทั้งดูดขบด้วยความหื่นกระหาย จากนั้นก็ค่อยๆ พรมจูบลงมาที่หน้าท้อง ใช้ลิ้นเลียวนรอบสะดือแล้วลากปลายลิ้นลงมาที่เนินอูบนิ้วของเขาที่เขี่ยเล่นที่เม็ดเสียว แล้วบดคลึงเบาๆ เลื่อนลงไปแยงท
หลังจากที่เลิกรากันไปเพียงเพราะความไม่เข้าใจกัน ในที่สุดวันนี้เราสองคนก็ได้กลับมาเจอกันอีกครั้งต่างคนต่างก็ทำตัวไม่ถูก เพราะหลังจากวันนั้นเราก็ขาดการติดต่อไปเลย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะฉันเองที่เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์และที่อยู่ไม่ให้เขาตามพบ“คุณดูดีขึ้นนะ” เขาเป็นคนทักทายฉันขึ้นมาก่อนพร้อมกับรอยยิ้มที่ยังคงเต็มไปด้วยเสน่ห์ของเขา“คุณสบายดีนะ” ฉันทักทายกลับไปบ้าง แล้วยิ้มให้เขาน้อยๆ ยังรู้สึกว่าวางตัวไม่ค่อยถูกนักเมื่อเจอกับอดีตคนรักในสถานการณ์ที่น่าอับอายแบบนี้“คุณลูกค้าจะชำระเงินได้หรือยังคะ” พนักงานขายถามฉันด้วยน้ำเสียงที่สุภาพ แต่ก็รับรู้ได้ว่ากำลังเร่งรัดให้ฉันรีบชำระค่าสินค้าตรงหน้าอยู่ โดยที่อดีตคนรักก็ต่อคิวอยู่ด้านหลัง“ลืมเอากระเป๋าเงินมาอีกแล้วใช่ไหม” เขาพูดอย่างรู้ทัน แล้วหยิบกระเป๋าเงินออกมาจ่ายเงินให้กับฉันเรียบร้อย“แบตฉันหมดน่ะ เดี๋ยวโอนคืนให้นะ” ฉันพูดเสียงสั่นเล็กน้อยพยายามข่มความตื่นเต้นเอาไว้แล้วรับถุงสินค้าจากพนักงานเตรียมตัวจะรีบกลับแต่โดนเขาคว้ามือเอาไว้ก่อน“ของมันเยอะเดี๋ยวผมถือช่วย” พูดจบเขาก็แย่งถือถุงเหล่านั้นเอาไว้ในมือ ก่อนที่จะวางสินค้าที่เขาซื้อเพียงชิ้นเดียว
กีรติใช้เวลาทบทวนหัวใจตัวเองอยู่นาน สัปดาห์หน้าก็จะครบกำหนดหนึ่งปีตามที่ตกลงกันเอาไว้แล้ว ทั้งสองดูเหมือนจะรีบเก็บเกี่ยวเอาเวลาที่ได้อยู่ด้วยกันเอาไว้ให้มากที่สุด“ไปเที่ยวยุโรปกันไหม” เขาถามเธอเสียงนุ่มในขณะที่กำลังแต่งตัวเตรียมไปทำงานอยู่“ไม่ดีกว่าค่ะ เอาเวลาที่เราเดินทางข้ามวันข้ามคืนมานอนกอดกันยังจะดีกว่า” เธอพูดเอาใจเขาแล้วช่วยขยับเสื้อสูทให้เข้าที่ มองดูแผ่นอกแกร่งที่ตนเหลือเวลาให้ซุกกอดอีกเพียงไม่กี่วันด้วยความใจหายกีรติดูเหมือนมีอะไรจะพูดมากกว่านั้น แต่เขากลับมองเธออย่างพิจารณาแล้วจุมพิตที่หน้าผากก่อนจะออกไปจัดการปัญหาที่รบกวนจิตใจ“ตอนเย็นเจอกันนะ” เขาบอกเธอก่อนออกไปจากห้อง ณรามองตามด้วยความใจหาย เริ่มนับถอยหลังอีกไม่กี่วันก็ต้องไปจากที่นี่และไม่ได้เจอเขาอีกแล้วกีรติขึ้นไปนั่งบนรถ ลูกน้องเขาปิดประตูให้แล้วนั่งประจำที่คนขับแล้วขับรถออกไปจากบ้าน“ไปที่ตำหนักซินแสซ้ง” เขาพูดเสียงเรียบ ตั้งใจจะเอาดวงของตนกับณราไปถามว่าจะสามารถไปด้วยกันได้หรือไม่ ก่อนจะพูดความในใจกับเธอในคืนนี้เมื่อไปถึงที่ตำหนักเขาก็พบว่ามีรถของที่บ้านจอดอยู่ก่อนหน้าแล้วจึงสั่งให้ลูกน้องทั้งสองรออยู่ที่รถแล้ว
เหลืออีกสามเดือนแล้วสำหรับการแต่งงานแก้เคล็ดของตน หากต้องต่อเวลาจะให้ต้องจ่ายเท่าไรเขาก็ยอมขอแค่ให้เธออยู่ต่อกับเขาแบบนี้ตลอดไปแต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าเธอจะเปลี่ยนใจเลยทั้งๆ ที่เขาก็จัดการปัญหาเรื่องคนในบ้านให้แล้ว“เหลืออีกสามเดือนแล้ว คุณไม่อยากอยู่ต่อจริงเหรอ ผมรวยนะซื้อความสุขให้คุณได้ทุกอย่างเลย”“ฉันรู้ค่ะ ฉันก็เคยมีความคิดว่าอยากอยู่ต่อ แต่คิดไปคิดมาก็ไม่อยากเป็นของเล่นคนรวย ขอกลับไปขายข้าวแกงอย่างเดิมจะดีกว่า” ณราบอกความตั้งใจของตนเพราะเธอไม่รู้ว่าเขาจะหมดความหลงใหลเธอไปในตอนไหน การแต่งงานที่รับรู้แค่ไม่กี่คนไม่นับว่าเป็นการแต่งงาน เพราะคนภายนอกที่มองเธอมาไม่ต่างอะไรจากเด็กเสี่ย คู่ควง หรือนางบำเรอ“จะทำยังไงคุณถึงจะยอมอยู่ที่นี่ต่อกับผม” เขาถามแล้วลูบไล้สะโพกของเธอชวนให้เคลิบเคลิ้ม“เป็นสิ่งที่คุณให้ฉันไม่ได้หรอกค่ะ” เธอไม่บอกเขา เพราะพูดไปก็ไม่มีวันที่จะได้รับ นั่นคือ ความรักและการให้เกียรติเธอเป็นภรรยาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ลบคำดูถูกที่คนอื่นพูดถึงเธอคนที่ร่ำรวยและมีอำนาจอย่างเขานะเหรอจะให้ค่ากับแม่ค้าขายข้าวราดแกงหน้าตาธรรมดาที่เป็นได้แค่ตัวประกอบในนิยาย แค่เธอได้มาเป็นเมีย
ในตอนเย็นหลังจากที่กีรติกลับมา เชงที่เป็นพ่อบ้านก็รีบเข้าไปรายงานเรื่องความเรื่องมากในวันนี้ของณราให้เขาฟังแต่กีรติรู้ว่าเธอไม่ใช่คนที่จะเรื่องมากขนาดนั้นจึงเรียกเข้ามาถามความทั้งแก้วนรีและภรรยาของตนณราเดินเข้ามาก่อนตามแก้วนรี เขาผายมือให้ทั้งสองนั่งลงต่อหน้าที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามที่มีโต๊ะทำงานกั้นอยู่ แล้วมองหน้าทั้งสองอย่างวิเคราะห์“ว่าไงล่ะแก้วบอกคุณหลัวไปสิว่าเกิดอะไรขึ้น”“ค่ะลุงเชง” แก้วนรีรับคำเสียงเบาแล้วก้มหน้าก้มตาพูดออกมา“คุณนัทแกล้งแก้วค่ะ เธออยากกินของที่ในครัวไม่มี ตั้งใจจะแกล้งให้พวกเราวุ่นวาย”ณราหันไปมองไม่อยากเชื่อเลยว่าที่ถูกเรียกมาจะเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยนี้“อาจฟังดูเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ นะคะ แต่ทำแบบนี้ทุกวันพวกเราอึดอัดใจมากเลยค่ะ วันนี้ก็อยากกินกุ้งล็อบเตอร์อบซอสมะขามบอกต้องได้กินภายในสิบนาทีพวกเราจะไปหาได้จากที่ไหนล่ะคะ”เหมือนจะรู้ทันความคิดเธอ แก้วนรีเธออธิบายต่อแล้วบีบน้ำตาออกมาทำตัวน่าสงสาร ให้รู้ว่าปัญหาเล็กน้อยแต่เป็นปัญหาซ้ำซากที่ต้องเจอบ่อยๆ ก็รู้สึกว่าตนเองไม่ไหว“ว่าไงนัท เป็นอย่างที่แก้วพูดไหม” เขาถามเธอแล้วมองด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยคำถาม“ไม่จริงค
บ้านหลังใหญ่ของกีรติที่มีพ่อบ้านดูแลให้ ณรารู้ว่าถูกชายวัยกลางคนจับตามองเธออยู่ แม้จะให้คนดูแลรับใช้เธอตามปกติไม่ต่างจากเจ้านายคนหนึ่งแต่แววตาที่มองนั้นดูเหมือนไม่พอใจอยู่ตลอดเวลา แน่ละก็สาวใช้วัยยี่สิบเอ็ดที่เป็นหลานสาวของเขาอีกฝ่ายหมายมั่นปั้นมือจะให้รับใช้กีรติแต่ว่าเขาไม่สนใจพอมีเรื่องคำทำนายของซินแสที่แนะนำให้แก้เคล็ดก็ตั้งใจจะให้หลานสาวของตัวเองแต่งงานกับเจ้าของบ้านแต่กีรติรู้ทันและกลัวจะสลัดไม่หลุดในภายหลังจึงทำพ่อบ้านเก่าแก่ที่รับใช้มาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ของเขารู้สึกไม่พอใจแล้วพาลเกลียดเธอไปด้วย“นั่นถุงอะไรเยอะแยะเชียว”“ข้าวของของคุณนัทครับคุณเชง” มือขวาของกีรติตอบแล้วนำถุงข้าวของเหล่านั้นไปวางที่โต๊ะกระจกทรงเตี้ยในห้องนั่งเล่นกีรติและณราเดินตามเข้ามาในภายหลังตามด้วยมือซ้ายของเขาที่หอบถุงของตามเข้ามาอีกเต็มมือเชงมองณราด้วยสายตาที่ไม่พอใจที่อีกฝ่ายซื้อของมากมายขนาดนี้ ในขณะที่หญิงสาวรู้ว่าถูกมองด้วยสายตาที่เกลียดชังแต่เธอเองก็ไม่ได้จะอยากโดนเกลียดแบบนี้ และเธอก็ปฏิเสธกีรติไปแล้วแต่ไม่สำเร็จ“นัทบอกแล้วไงคะว่าเอาแค่ต่างหู คุณหลัวไม่น่าซื้อเครื่องประดับครบเซ็ตให้นัทขนาดนี้เลย”