Share

บันทึกในอดีต

Author: zuey
last update Huling Na-update: 2024-12-25 06:27:37

พระอาทิตย์ลับเหลี่ยมเขาไปนานแล้วเฉียวลู่และเด็กๆ ก็กลับเข้าไปในกระท่อมน้อยของตนอีกครั้ง เตียงเล็กๆ ที่ทำจากไม้ไผ่ปูด้วยฟูกเก่าๆ พอให้สามคนได้อาศัยนอน อากาศตอนกลางวันแม้จะเย็นสบายแต่เพราะหมู่บ้านอยู่ในหุบเขาทำให้ตอนกลางคืนนั้นหนาวมาก

 

เฉียวลู่ตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะรู้สึกหนาว นางดึงเด็กทั้งสองคนเข้ามาในอ้อมแขนเพื่อให้ไออุ่นแก่พวกเขา เฉียวลู่สัมผัสได้ถึงร่างเล็กที่เย็นเฉียบในอ้อมแขน นางได้แต่นึกสงสารพวกเขาจับใจถ้าอยู่ในยุคปัจจุบันนางจะไม่มีวันปล่อยให้เด็กสองคนนี้ต้องลำบากเช่นนี้แน่

เฉียวลู่นอนไม่หลับเพราะคิดถึงเรื่องมากมายที่ตนจะต้องทำในวันพรุ่งนี้ แต่แล้วนางก็รู้สึกได้ถึงแสงสว่างบางอย่างที่วาบขึ้นมาในห้อง เฉียวลู่มองไปที่มุมห้องที่มีกล่องไม้เก่าๆ ไม่ใหญ่มากวางอยู่ ถึงแม้กล่องไม้ใบนั้นจะยังปิดเอาไว้แต่แสงสว่างก็ยังสามารถลอดผ่านออกมาด้านนอกได้

เฉียวลู่มองกล่องใบนั้นอย่างระมัดระวัง จะมีอะไรที่น่าระทึกขวัญมากไปกว่าการที่ต้องตื่นมาแล้วมาอยู่ในยุคโบราณอีก เฉียวลู่ตัดสินใจลุกขึ้นไปเปิดกล่องใบนั้นดู เมื่อนางเปิดกล่องไม้เก่าใบนั้นออกด้านในกล่องใบนั้นที่มีแสงสว่างลอดออกมาคือหนังสือเก่าหนึ่งเล่มปกสีฟ้าที่เฉียวลู่รู้สึกคุ้นตาเป็นอย่างมาก

เมื่อเปิดหนังสือเล่มนั้นออกดู มีตัวอักษรเฉียวลู่เขียนเอาไว้ นางแน่ใจแล้วว่าตนเองคิดไม่ผิดมันคือหนังสือเล่มนั้นนั่นเองที่นางซื้อมาจากคุณยายที่ตลาดขายของเก่า แสงสว่างยังคงกระจายออกมาจากหนังสือเล่มนั้น เฉียวลู่เปิดกระดาษหน้าถัดไปมีตัวหนังสือเขียนเอาไว้ด้วยลายมือที่สวยงามคล้ายกับว่าเป็นบันทึกของใครคนหนึ่งหรือบางที นี่อาจเป็นบันทึกของผู้หญิงคนนี้ก็เป็นได้

เฉียวลู่ถือหนังสือเล่มนั้นเดินออกมาจากห้องนอนเพราะกลัวว่าเด็กๆ จะตื่นขึ้นมาเห็นแล้วตกใจ ก่อนออกจากห้องนางได้เดินไปห่มผ้าให้เด็กทั้งสองคนอีกครั้งอย่างเบามือ เมื่อเฉียวลู่นั่งลงที่ห้องครัวก็ได้เริ่มอ่านบันทึกเล่มนั้นทันที

ผ่านไปนานเท่าใดไม่สามารถรู้ได้แต่นางยังคงอึ้งกับเรื่องที่ตนได้รับรู้ผ่านทางบันทึกในหนังสือเล่มนั้น เฉียวลู่สามารถสรุปเรื่องราวในบันทึกได้ว่า

เฉียวลู่บุตรสาวเพียงคนเดียวของเฉียวซาน บัณฑิตซิ่วไฉแห่งเมืองโยวโจวที่ตั้งอยู่ชายแดนแคว้นเซียว มารดาของเฉียวลู่ตายจากไปเพราะคลอดยากตั้งแต่ที่เฉียวลู่อายุเพียวสามขวบ จากนั้นสองพ่อลูกก็ใช้ชีวิตกันสองคนตลอดมา เฉียวซิ่วไฉรักบุตรสาวของเขามากถึงแม้จะยากจนแต่เขาก็ไม่เคยให้บุตรสาวต้องทำงานลำบากอะไรเลย

สิ่งที่เฉียวลู่ทำได้มีเพียงร่ำเรียนเขียนอ่านอยู่ที่เรือนเท่านั้น เฉียวซานใช้ชีวิตโดยการสอนหนังสือในสำนักศึกษาเล็กๆ ต่อมาสองพ่อลูกได้ช่วยเหลือชายร่างใหญ่ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสผู้หนึ่งเอาไว้ แต่แล้วเมื่อเขาฟื้นขึ้นมากลับไม่สามารถจำเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ได้ แม้กระทั่งชื่อของตนเองหรือเขาเป็นใครมาจากไหนเขาก็จำไม่ได้เลย

บุรุษผู้นั้นหลังจากที่รักษาอาการบาดเจ็บของตนเองจนหายดีแต่กลับไม่รู้ว่าตนเองจะต้องไปที่ไหน อีกอย่างเพราะเรื่องที่เขาบาดเจ็บอาจเป็นเพราะกำลังถูกคนอื่นปองร้ายอยู่ ถ้าหากออกไปเดินข้างนอกโดยที่ไร้ความทรงจำเช่นนี้อาจถูกทำร้ายอีกครั้งก็ได้

เฉียวซานจึงอนุญาตให้เขาได้อาศัยอยู่ที่นั่นต่อและได้ตั้งชื่อให้บุรุษผู้นั้นว่าเยี่ยน เพียงคำเดียวแต่เฉียวลู่เป็นคนเติมคำว่าหมิงที่แปลว่าสดใสด้านหน้าชื่อเยี่ยนของเขาเพราะเขาดูพูดน้อยเย็นชาและทึมทื่อทำให้นางนึกอยากกลั่นแกล้งขึ้นมา เฉียวลู่นึกไม่ถึงว่าชื่อที่นางตั้งขึ้นมาล้อเลียนเขาจะกลายเป็นชื่อจริงๆ ของตัวเขาเอง

ทั้งสามคนอาศัยอยู่ด้วยกันจนกระทั่งผ่านไปหนึ่งปีหมิงเยี่ยนก็ยังไม่สามารถฟื้นความทรงจำที่หายไปของตนเองกลับมาได้ และตอนนั้นเฉียวลู่ก็อายุสิบเจ็ดปีแล้วเฉียวซานเห็นว่าหมิงเยี่ยนถึงแม้จะเป็นคนพูดน้อยแต่ก็เอาการเอางานไม่เคยเกียจคร้านและยังดูเป็นสุภาพบุรุษ

ถึงจะไม่รู้ที่มาที่ไปของเขาแต่เฉียวซานกลับรู้สึกไว้วางใจที่จะฝากบุตรสาวเพียงคนเดียวของเขาเอาไว้กับบุรุษลึกลับผู้นี้ เขาจึงได้ถามความสมัครใจของทั้งสองคน เฉียวลู่นั้นรู้สึกชอบพอหมิงเยี่ยนตั้งแต่ที่ได้พบเขาครั้งแรกแล้ว ถึงแม้ตอนนั้นเขาจะบาดเจ็บสาหัสแต่บุรุษร่างใหญ่ผู้นี้กลับมีใบหน้าที่หล่อเหล่าโดดเด่นแบบที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน พูดได้ว่าทั้งโยวโจวไม่มีใครหน้าตาดีเท่าเขาอีกแล้ว

ด้านหมิงเยี่ยนที่ได้สองพ่อลูกช่วยเหลือเอาไว้นั้นตอนนี้เขาก็ยังคงไร้ความทรงจำจึงไม่มีที่ไป ถึงแม้เขาจะไม่ได้รู้สึกรักใคร่ชอบพอต่อบุตรสาวของเฉียวซานแต่เพราะเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตตนเองจึงมิได้ปฏิเสธ และคิดว่าแค่ดูแลสตรีเพียงคนเดียวไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเขานักถือว่าเขาได้ตอบแทนที่สองพ่อลูกช่วยชีวิตเขาเอาไว้

หลังจากที่เฉียวลู่และหมิงเยี่ยนแต่งงานกันไม่นานที่ชายแดนเมืองโยวโจวก็ได้เกิดสงครามขึ้น ชาวเมืองบางส่วนอพยพออกจากโยวโจวเพื่อหนีภัยสงครามครอบครัวเฉียวลู่ก็เช่นกัน ระหว่างทางได้เกิดการจลาจลขึ้นทำให้พวกเขาพลัดหลงกัน

ผ่านไปสองเดือนสงครามระหว่างแคว้นเซียวและแคว้นฉียังคงระอุ สงครามที่โหมกระหน่ำระหว่างสองแคว้นสร้างความทุกข์ทรมานอย่างหนักให้กับประชาชนผู้บริสุทธิ์ ผู้คนมากมายต้องพลัดถิ่นฐานกลายเป็นผู้ลี้ภัย สภาพความเป็นอยู่ย่ำแย่ขาดแคลนทั้งอาหาร ยารักษาโรคและที่พักพิง ผู้คนจำนวนมากต้องอพยพหนีภัยสงคราม ไปยังพื้นที่ปลอดภัย

เฉียวลู่และบิดาก็ได้เดินทางมาถึงหมู่บ้านมู่โฉว อำเภอเป่ยจิงอยู่ห่างจากเมืองหลวงแคว้นเซียวประมาณหนึ่งร้อยลี้ ที่นี่ดูสงบสุขต่างจากโยวโจวที่มีสงครามบ่อยครั้งเหมือนอยู่คนละแคว้น หลังจากนั้นเฉียวซานและเฉียวลู่ได้ตัดสินใจลงหลักปักฐานสร้างกระท่อมเล็กๆ ที่เชิงเขาห่างจากหมู่บ้านไม่ไกลและตอนนั้นเองเฉียวลู่ก็ได้พบว่าตนเองกำลังตั้งครรภ์

เพราะลำบากจากการเดินทางรอนแรมมานานทำให้เฉียวซานล้มป่วยลงจากนั้นไม่นานเฉียวซานก็ตายจากไปเฉียวลู่จึงต้องใช้ชีวิตอยู่คนเดียวที่กระท่อมน้อยหลังนี้ โชคดีที่ชาวบ้านหมู่บ้านมู่โฉวมีแต่คนดีพวกเขารู้สึกเวทนาในความอาภัพของเฉียวลู่ที่ต้องพลัดพรากจากสามีทั้งบิดายังพึ่งมาตายจากไปจึงช่วยเหลือนางในบางครั้งเท่าที่พวกเขาพอจะช่วยได้

เฉียวลู่ไม่เคยทำงานหนักไม่เคยทำไร่ทำนามีเพียงเขียนหนังสือเท่านั้นที่นางพอจะทำได้นางจึงหาเลี้ยงชีพโดยการคัดหนังสือไปส่งที่ร้านขายตำราในอำเภอเป่ยจิง จนกระทั่งเฉียวลู่ได้คลอดเด็กชายฝาแฝดออกมา และเรื่องราวในบันทึกยังเล่าอีกว่าเฉียวลู่ได้พบกับสามีของนางอีกครั้งโดยบังเอิญหลังจากที่สงครามสงบ แต่หมิงเยี่ยนกลับจำนางไม่ได้แต่หลังจากที่เขาเห็นเด็กชายฝาแฝดทั้งสองคนที่มีใบหน้าเหมือนกับเขาเมื่อตอนเด็ก เขาก็ได้ยอมรับและพาเฉียวลู่แม่ลูกกลับไปแคว้นฉีกับเขาด้วย

เฉียวลู่ได้รู้หลังจากนั้นคือหมิงเยี่ยนคือชินอ๋องฉีหมิงเยี่ยนน้องชายคนเล็กของฮ่องเต้แห่งของแคว้นฉีที่ทำสงครามกับแคว้นเซียวก่อนหน้านี้

เฉียวลู่ได้เข้าไปอยู่ที่ตำหนักชินอ๋องอย่างไม่มีสถานะแต่บุตรชายทั้งสองของนางนั้นถูกมามาพาตัวไป โดยพวกเขาให้เหตุผลว่าเด็กชายทั้งสองเป็นทายาทของชินอ๋องจะต้องถูกเลี้ยงดูสั่งสอนโดยอาจารย์ที่เก่งกาจและมามาผู้รู้ขนบธรรมเนียมของราชวงศ์ ตั้งแต่นั้นมาเฉียวลู่ก็ไม่ได้พบบุตรชายของตนอีกเลย นางไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากเรือนหรือเดินไปที่ไหนนอกจากเรือนของนาง ถึงแม้ว่าเขาจะยังจำเรื่องราวทั้งหมดไม่ได้ก็ตาม แต่ฉีหมิงเยี่ยนได้ให้สาวใช้คอยดูแลนางหนึ่งคนเขาคิดว่านั่นถือเป็นความเมตตาจากเขาที่สุดแล้วเพราะนางได้คลอดบุตรชายให้เขาถึงสองคน

บันทึกได้ถูกเขียนทุกวันสามีของนางได้แต่งพระชายาเอกเข้ามาและรับบุตรชายทั้งสองของนางเป็นบุตรของตน เฉียวลู่เมื่อได้ทราบเรื่องนางไม่ยินยอมจึงไปอาละวาดที่ตำหนักของฉีหมิงเยี่ยนและจากนั้นนางจึงถูกเขาขังเอาไว้ในห้องจนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิตนาง

“หากว่าข้าสามารถกลับมามีชีวิตได้อีกครั้งข้าจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับท่านอีกฉีหมิงเยี่ยน ข้าจะไม่ยอมให้ท่านพรากบุตรชายทั้งสองของข้าไป ข้าขอสาบาน”

เฉียวลู่อ่านมาถึงหน้าสุดท้ายที่น่าจะเป็นบันทึกครั้งสุดท้ายของผู้หญิงคนนี้ที่มีชื่อเหมือนกับตน นางตรอมใจตายเพราะสิ่งที่สามีของนางกระทำกับนาง ถึงเขาจะจำนางไม่ได้แต่เขาทำอย่างนี้ได้ยังไงถ้าไม่ได้เฉียวลู่และบิดาของนางช่วยชีวิตเขาเอาไว้มีหรือเขาจะยังมีชีวิตรอดกลับมาเป็นชินอ๋องผู้ยิ่งใหญ่ได้อย่างตอนนี้ น่าสงสารจริงๆ ไม่คิดว่าจะต้องมาอายุสั้นและทิ้งเด็กชายสองคนเอาไว้แบบนี้ เฉียวลู่ยกมือขึ้นพนมและอธิษฐานขึ้นว่า

“ขอให้ดวงวิญญาณของเจ้าไปสู่สุคติบุตรชายทั้งสองคนของเจ้าข้าจะดูแลให้เองเจ้าไม่ต้องเป็นห่วง ขอให้เจ้าได้อยู่กับท่านพ่อของเจ้าบนสวรรค์อย่างมีความสุข ส่วนเรื่องสามีของเจ้าข้าจะไม่ยินยอมให้เขามาพรากเด็กทั้งสองไปอย่างแน่นอนคนอย่างบุรุษเช่นเขาสมควรโดนทิ้งให้อยู่คนเดียวโดดเดี่ยวไร้ผู้สืบสกุล ถ้าเขาอยากมีลูกก็ให้เขาไปมีกับพระชายาของเขาเอาเองเถอะ เมื่อเจ้าได้อยู่กับบิดาของเจ้าแล้วดังนั้นข้าก็อยากให้เจ้าลืมเขาเช่นกันไม่ต้องไปคิดถึงบุรุษผู้นั้นอีก”

เฉียวลู่พูดอย่างใส่อารมณ์เมื่อนึกถึงเรื่องของบุรุษที่ทำให้เจ้าของบันทึกต้องช้ำใจ และนางก็รู้สึกมีอารมณ์ร่วมคล้ายกับว่ามันเป็นเรื่องราวของนางเองเป็นนางเองที่สาบานเอาไว้ก่อนที่จะตาย

หลังจากเฉียวลู่พูดจบกระดาษหน้าถัดไปที่ตอนแรกไม่มีอะไรเขียนอยู่ก็ถูกเปิดออกและบนนั้นได้มีข้อความเขียนเอาไว้ว่า คำแนะนำการสั่งซื้อสินค้า เฉียวลู่ถึงกับตกใจนี่คงไม่ใช่ที่นางคิดใช่หรือไม่ไอเท็มช่วยชีวิต

“ขอบคุณสวรรค์”

เฉียวลู่พึมพำเบาๆ นางแทบอยากจะกรีดร้องและกระโดดตัวลอยแต่ติดตรงที่ว่าตอนนี้ดึกมากแล้วถ้าหากนางตะโกนออกมา เด็กสองคนตกใจตื่นจะแย่เอาได้ เฉียวลู่ยกมือปิดปากแล้วกรี๊ดในใจดังๆ

รอดแล้วเราจะไม่อดตายแล้ว!!!!! นางก้มลงอ่านข้อความบนกระดาษอีกครั้งดูเหมือนว่าจะมีเงื่อนไขบางอย่างที่ทำให้สามารถสั่งของจากในนี้ได้ แต่ว่านะนางไม่มีปากกาหรือพู่กันแล้วจะเขียนลงไปได้ยังไง เฉียวลู่กลับไปที่กล่องไม้ใบนั้นอีกครั้งด้านในมีแทนฝนหมึกและพู่กันอยู่ เฉียวลู่รู้สึกตื่นเต้นมากแต่ก็ยั้งใจเอาไว้รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้าค่อยทดลองดูว่าจะสั่งของได้จริงหรือไม่

เฉียวลู่วางหนังสือเล่มนั้นกลับลงไปในกล่องไม้อีกครั้งอย่างทะนุถนอม นางกลับขึ้นไปนอนบนเตียงกอดเด็กชายทั้งสองเอาไว้ในอ้อมแขนและหลับไปด้วยใจที่เป็นสุข

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Kaugnay na kabanata

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   เงื่อนไขสามข้อ

    เช้าอันแสนสดใสได้มาเยือนอีกครั้งเฉียวลู่ภาวนาเมื่อยามลืมตาตื่นให้เรื่องเมื่อวานที่ตนเองประสบเป็นเพียงความฝัน แต่มันก็ไม่ได้เป็นดั่งใจที่คิดเฉียวลู่ได้แต่ถอนหายใจให้กับโชคชะตาของตนถึงแม้เมื่อวานเฉียวลู่จะได้รับบาดเจ็บที่ขาแต่วันนี้นางกลับไม่รู้สึกเจ็บที่ขาเลยมันหายดีอย่างไร้ร่องรอยไม่มีแม้แต่รอยแผลเป็นเฉียวลู่มองท่อนขาเล็กที่เรียบเนียนของตนนี่มันเป็นไปได้ยังไงมันเหมือนกับว่าเมื่อวานนางไม่ได้รับบาดเจ็บเลยร่างกายที่ไร้เรี่ยวแรงกลับมาเป็นเหมือนเช่นยามปกติและดูเหมือนว่านางจะมีกำลังมากยิ่งกว่าเดิมซะอีก น่าแปลกใจยิ่งนักหรือว่านี่จะเป็นสิ่งที่ได้มาหลังจากที่นางมาอยู่ที่นี่อวี้หลงกับอวี้ชิงยังไม่ตื่นเฉียวลู่ย่องออกจากห้องไปและปิดประตูอย่างเบามือ สิ่งแรกที่เฉียวลู่ทำคือต้องทดลองสั่งของในหนังสือเล่มนั้นดูก่อน สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเฉียวลู่ในตอนนี้คืออาหารและที่ขาดไม่ได้เลยคือไฟแช็ก นางไม่มีทางใช้หินจุดไฟได้เหมือนอย่างเช่นคนโบราณแน่นอนเฉียวลู่ฝนหมึกและค่อยๆ ใช้พู่กันบรรจงเขียนตัวอักษรลงไปบนหน้ากระดาษ โชคดีที่การเป็นนักแสดงของนางทำให้ต้องเรียนรู้เรื่องต่างๆ มากมายเพื่อให้สมกับบทบาทที่ได้รับ นี่

    Huling Na-update : 2024-12-25
  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   หมูป่า

    เฉียวลู่พาเด็กๆ เดินแยกออกมาอีกทางที่ไม่มีร่องรอยของชาวบ้านผ่านเข้ามา นางตัดกิ่งไม้และเหลาปลายให้แหลมให้อวี้หลงกับอวี้ชิงถือเอาไว้ และสั่งให้เด็กทั้งสองเดินอยู่ข้างหลังนางห้ามห่างเกินสองก้าวอวี้หลงกับอวี้ชิงพยักหน้าทำตามแต่โดยดี“เอาล่ะเด็กๆ จากนี้ไปจะเป็นป่าทึบห้ามห่างจากแม่เป็นอันขาดเข้าใจหรือไม่”อวี้หลงและอวี้ชิงพยักหน้าขึ้นลงพร้อมกัน เฉียวลู่เดินนำหน้าสายตาสอดส่ายมองหาอะไรบางอย่างที่สามารถกินได้และไม่เป็นพิษต่อร่างกายน้อยๆ ของพวกเขาทั้งสาม เดินหาอยู่นานเฉียวลู่เก็บได้เพียงเห็ดหอมกับเห็ดหูหนูมาเล็กน้อยเท่านั้น มีเห็ดเพียงไม่กี่ชนิดที่นางรู้จักและพวกมันล้วนเป็นเห็ดที่นางเคยกินที่ร้านอาหารทั้งนั้น ต้องขอบคุณความช่างสังเกตของนางที่ไม่ก้มหน้าก้มตากินเข้าไปอย่างเดียว และยังมีบางชนิดที่นางจำมาจากหนังสือที่ที่นางเคยอ่านมานิดหน่อย โชคดีที่ความจำของนางยังดีอยู่ไม่อย่างนั้นได้พาเด็กๆ กินเห็ดพิษเข้าไป คงได้เดือดร้อนกันทั้งหมดแน่ผ่านไปนานพวกเขายังเดินวนอยู่ใกล้ๆ ที่เดิมเฉียวลู่ไม่กล้าพาเด็กทั้งสองเดินเข้าไปในป่าที่ลึกเกินไปยังคงเดินวนเวียนอยู่บริเวณตีนเขา เพราะนางกลัวว่าหากเจอกับสัตว์ป่าทั้ง

    Huling Na-update : 2024-12-25
  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   ครอบครัวสกุลจาง

    ในระหว่างที่รอจางหย่งชำแหละเจ้าหมูป่าเฉียวลู่กับหญิงชราและลูกสะใภ้ของนาง ก็นั่งคุยกันและเตรียมน้ำเอาไว้เพื่อทำความสะอาด เฉียวลู่ยังได้เล่าให้สตรีทั้งสองฟังเรื่องที่นางความจำเสื่อมเพราะอุบัติเหตุที่ผ่านมา หญิงชราถึงกับหลังน้ำตาให้กับเฉียวลู่ด้วยความสงสารในชีวิตที่อาภัพของนางเฉียวลู่ที่เห็นหญิงชราร้องไห้นางก็ไม่รู้ว่าจะปลอบใจอย่างไร เด็กเล็กร้องไห้ยังพอหลอกล่อได้ แต่ให้ปลอบใจผู้ใหญ่นางจะพูดอย่างไรดี เฉียวลู่รู้สึกปวดหัวกับความเจ้าน้ำตาของหญิงชรา แต่นางก็รู้สึกอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูกนางมาต่างโลกที่ไม่คุ้นเคยแต่ยังคงมีคนห่วงใยนางเช่นเดิมเหมือนกับตอนที่นางอยู่กับพ่อแม่ที่บ้าน“ท่านยายท่านอย่าได้ร้องไห้ไปเลยเจ้าค่ะ ถึงข้าจะจำสิ่งใดไม่ได้เลยในอดีต แต่ข้าก็สามารถรับรู้ได้ว่ายังมีพวกท่านนั้นคอยเป็นห่วงเราแม่ลูกแค่ไหน ข้าไม่ได้รู้สึกกลัวอันใดเลยอาจจะดีกับข้าเสียด้วยซ้ำที่ต้องลืมเรื่องราวในอดีต”เฉียวลู่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดนางถึงได้พูดเช่นนั้นออกมา มันเหมือนกับว่าจิตใต้สำนึกของนางสั่งให้นางพูดแบบนั้นออกไป“ท่านเล่าเรื่องที่หมู่บ้านนี้ให้ข้าฟังได้หรือไม่เจ้าคะ เผื่อว่าข้าจะจำอะไรได้บ้าง”จากนั้นห

    Huling Na-update : 2024-12-25
  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   ฉินจื่อเฉิน

    บุตรชายทั้งสองของเฉียวลู่นั้นตามติดนางเป็นเงา ถึงแม้เฉียวลู่จะบอกเด็กชายทั้งสองให้ออกไปวิ่งเล่นกับเด็กๆ ในหมู่บ้านแต่พวกเขาก็เอาแต่ส่ายหน้า ท่าทางที่ดื้อรั้นของเด็กทั้งสองนั้นไม่ต่างจากเฉียวลู่เลย“ลูกสองคนไม่อยากออกไปวิ่งเล่นกับเพื่อนๆ จริงๆ หรือจ๊ะดูพวกเขาสิท่าทางสนุกเชียว”เฉียวลู่ยังคงพยายามคะยั้นคะยอให้อวี้หลงกับอวี้ชิงออกไปเล่นด้านนนอกกับเด็กคนอื่นๆ เด็กสองคนยังคงส่ายหน้าอยู่อย่างนั้นและเอาแต่ตามติดเฉียวลู่เหมือนกับกลัวว่านางจะหายไป“พี่สาวท่านพอจะแบ่งกระดูกหมูป่าให้ข้าสักหน่อยได้หรือไม่ขอรับ”เฉียวลู่และเด็กชายทั้งสองหันไปตามเสียงเรียกที่อยู่ด้านหลัง เฉียวลู่จำไม่ได้ว่าเด็กชายที่ใบหน้าซีดเซียวและร่างกายผอมแห้งคนนี้เป็นใคร“เจ้า...คือ”เฉียวลู่ถามเด็กชายและยิ้มให้เขาอย่างใจดี เด็กชายคนนั้นเมื่อเห็นรอยยิ้มที่งดงามของเฉียวลู่ถึงกับทำให้เขาอายจนแทบม้วนตัวเองเป็นก้อนกลม“ข้า...ชื่อฉินจื่อเฉินบ้านของข้าอยู่ใกล้กับบ้านของท่านลุงจางข้าไม่มีเงินมาซื้อเนื้อหมูป่าแต่ข้ามีมันเทศท่านจะสามารถแลกกระดูกกับมันเทศของข้าได้หรือไม่”เด็กชายที่อายุราวเจ็ดแปดขวบมองเฉียวลู่ด้วยท่าทางอึดอัดเขากลัวว่าจ

    Huling Na-update : 2024-12-25
  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   สูตรทำอาหาร

    เฉียวลู่หันไปมองต้นไม่ต้นนั้นที่ล้มนอนอยู่ ในหัวของนางวางแผนบางอย่างเอาไว้เรียบร้อยแล้ว คล้อยหลังเฉียวลู่อวี้หลงกับอวี้ชิงหันกลับมามองตากันแต่ไม่ได้พูดสิ่งใดออกมาเหมือนกับว่าเพียงพวกเขามองหน้ากันก็สามารถสื่อความนึกคิดถึงกันและกันได้แล้วเฉียวลู่ให้อวี้ชิงจุดไฟให้นางจากนั้นก็ทำอาหารง่ายๆ ที่เฉียวลู่พอจะทำได้กินกัน หลังจากนั้นนางก็อาบน้ำให้เด็กชายทั้งสองและตัวเองแล้วจึงพาเด็กชายนอนกลางวัน ในความคิดของเฉียวลู่คือเป็นเด็กก็ต้องนอนให้มากๆ จะได้โตเร็วๆ ตอนเย็นเฉียวลู่ยังคงทำอาหารแบบง่ายๆ อีกครั้งในหัวของนางตอนนี้คือจะต้องสั่งหนังสือทำอาหารสักเล่ม ไม่อย่างนั้นหากต้องกินอาหารที่นางทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ เด็กๆ อาจจะเบื่อเอาได้รุ่งเช้าสิ่งแรกที่เฉียวลู่นึกถึงคือหนังสือเล่มนั้น นางต้องสั่งของที่จำเป็นที่ต้องได้ใช้ในวันนี้ก่อนเป็นอันดับแรก เฉียวลู่เขียนไฟแช็กลงไปในกระดาษ รอหลังจากหมึกซึมลงไปไฟแช็กเหล็กสี่เหลี่ยมเล็กๆ ก็โผล่มาแทนที่จากนั้นสิ่งของอย่างที่สองที่เฉียวลู่นึกถึงคือเงิน บางทีนางอาจจะสั่งอะไรที่เป็นสิ่งของมีค่าที่สามารถขายหรือแลกเปลี่ยนเป็นเงินของที่นี่ได้ และไม่ว่าจะยุคสมัยไหนสิ่งของที่มีค

    Huling Na-update : 2024-12-25
  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   จับกุ้ง

    ผ่านไปหลายวันเฉียวลู่ยังคงขึ้นเขาทุกวันและตัดต้นไม้ซ่อนเอาไว้เพื่อรอเวลาในการสร้างกระท่อมของนางใหม่ มีอีกสิ่งหนึ่งที่เฉียวลู่รู้สึกตื่นเต้นกับมันคือสมุดบันทึกเล่มนั้นของนาง มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เฉียวลู่ทำงานจนลืมไปว่านางต้องสั่งของทุกวันแต่นางกลับลืมไปเสียสนิท ทำให้วันต่อมาเมื่อเฉียวลู่เปิดสมุดบันทึกเล่มนั้นอีกครั้งข้อความที่ปรากฏบนหน้ากระดาษคือ สามารถสั่งได้สี่ครั้งนั่นหมายความว่าต่อให้เฉียวลู่ไม่ได้สั่งอะไรในสมุดเล่มนั้นมันก็จะสามารถทบมาอีกวันได้ นั่นเป็นเรื่องที่ดีเพราะจะทำให้นางไม่เสียสิทธิ์ของตน ถึงจะไม่ได้สั่งของอะไรมาก็ตามช่วงนี้สิ่งที่เฉียวลู่สั่งมาทุกๆ วันคือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายที่อ่อนโยนสำหรับเด็กทุกอย่างที่เฉียวลู่สั่งมาล้วนคำนึงถึงเด็กทั้งสองเป็นอันดับแรก ตอนนี้นางพอจะเข้าใจเจ้าสมุดบันทึกเล่มนั้นแล้วว่ามันต้องการอะไรดูเหมือนเจ้าสมุดเล่มนี้ต้องการให้เฉียวลู่อาศัยอยู่ที่นี่โดยที่พึ่งพาตนเองหมายถึงไม่สามารถสั่งอะไรก็ตามที่ทำให้นางรวยทางลัดโดยที่ไม่ต้องทำงานเหมือนกับว่ามันรู้ทุกอย่างที่เฉียวลู่คิด ตอนแรกที่เฉียวลู่เข้าใจในเจตนารมณ์ของมันทำเอานางหัวเสียไปหลายวัน ให้ของวิ

    Huling Na-update : 2024-12-25
  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   จับกุ้ง2

    วันต่อมาแม่เฒ่าหลี่และหลิวหงลูกสะใภ้ของนางมาหาเฉียวลู่ที่กระท่อมน้อยแต่เช้าเพราะเรื่องที่พวกเขาคุยกันเอาไว้เมื่อวานตอนเย็น“อวี้หลงอวี้ชิงจ๊ะลูกทั้งสองช่วยอะไรแม่บางอย่างได้หรือไม่”เด็กชายพยักหน้าพร้อมกันอย่างกระตือรือร้นแสดงท่าทางอยากช่วยเฉียวลู่อย่างเต็มที่“ไปบ้านสกุลฉินที่แม่พาลูกทั้งสองไปเมื่อวานจำได้หรือไม่ เรียกพี่ชายจื่อเฉินมาที่นี่แม่มีเรื่องคุยกับเขาลูกสองคนทำได้ไหม”เฉียวลู่พูดกับเด็กชายทั้งสองด้วยความอ่อนโยน อวี้หลงกับอวี้ชิงพยักหน้าให้นางอีกครั้งจากนั้นจึงวิ่งหายไปทางหมู่บ้าน เฉียวลู่หันมาสนใจแม่สามีลูกสะใภ้ทั้งสอง“ท่านยายท่านน้าหลิวท่านทานกุ้งไปเมื่อวานนี้รู้สึกเป็นอย่างไรบ้างท่านคิดว่ามันอร่อยหรือไม่”แม่สามีลูกสะใภ้ที่นั่งข้างกันพยักหน้ารัวๆ จะไม่อร่อยได้อย่างไร ตอนแรกพวกเขายังเกรงใจกันและกันที่จะกินอาหารที่เฉียวลู่นำมาส่งหลังจากที่กินคำแรกไปแล้วต่างคนต่างแย่งชิงไม่สนความเป็นผู้อาวุโสและผู้น้อยแล้ว เฉียวลู่พยักหน้าและยิ้มให้ทั้งสองคนอย่างพอใจ“เช่นนั้นพวกท่านคิดว่ามันจะสามารถนำไปขายได้หรือไม่ เท่าที่ข้าดูเหมือนว่าคนที่นี่ไม่นิยมกินพวกกุ้งเท่าไหร่นะเจ้าคะ มันถึงได้มีเ

    Huling Na-update : 2024-12-25
  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   อำเภอเป่ยจิง

    กุ้งคำแรกที่เข้าไปในปากทำเอาทุกคนเกือบร้องไห้เพราะความอร่อยและเผ็ดร้อนของน้ำจิ้ม พวกเขาไม่เคยลิ้มรสชาติอาหารเช่นนี้มาก่อน มันทั้งเผ็ดเข้มข้นและชาไปทั้งปากแต่ก็อร่อยจนหยุดกินไม่ได้ เด็กๆ ที่กินเผ็ดไม่ได้เฉียวลู่ก็ทำน้ำจิ้มหวานเบาๆ ให้พวกเขา แต่ก็อร่อยมากฉินจื่อเฉินทานอาหารไปเงียบๆ แต่เขาก็ซึมซาบรสชาติอาหารที่ไม่เคยได้กินมาก่อน เฉียวลู่กลัวว่าเขาจะไม่กล้าหยิบกุ้งมากินเพราะเกรงใจ นางใช้มือหยิบมากองในจานของเขาสามสี่ตัว ระหว่างกินนางก็ยังสอนให้ลูกๆ ของนางแกะเปลือกกุ้งไปด้วย“ข้าไม่เคยกินอะไรแบบนี้มาก่อนเลย”จางหย่งพูดไปกินไปน้ำตาไหลพรากเพราะความเผ็ดชา แม่เฒ่าหลี่และหลิวหงก็ไม่ต่างกันเท่าใดนักทำเอาเฉียวลู่หัวเราะออกมาด้วยความขบขัน“พวกท่านคิดว่านี่จะสามารถทำเงินให้พวกเราได้หรือไม่เจ้าคะ”เฉียวลู่ถามหยั่งเชิงพวกเขาทั้งสามที่ลดระดับความเร็วในการกินให้ช้าลงเพราะเริ่มอิ่ม“อืมข้าเห็นด้วยว่าเจ้ากุ้งนี่จะต้องขายดีอย่างแน่นอน”แม่เฒ่าหลี่และสะใภ้พยักหน้าเห็นด้วย ปากทุกคนแดงเห่อเพราะความเผ็ดร้อนของน้ำจิ้มที่เฉียวลู่ทำ“เช่นนั้นเริ่มขายพรุ่งนี้ได้หรือไม่เจ้าคะ ท่านอาหย่งกับท่านน้าหลิวพวกท่านรับหน้าท

    Huling Na-update : 2024-12-25

Pinakabagong kabanata

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   กลั่นแกล้ง

    หลังจากที่บ่าวคนสนิทของเว่ยซื่อจื่ออกจากโรงครัวไป เฉียวลู่ก็ยังคงทำงานของตนเองต่อ แต่เสียงที่ดังจอแจอยู่ด้านหลังทำให้นางหันไปมอง คนกลุ่มหนึ่งที่มีสตรีท่าทางเข้มงวดคล้ายกับฝูมามาหัวหน้าของสาวใช้จวนเว่ยอ๋องที่นางได้พบเมื่อเช้านี้กำลังเดินตรงมาที่นาง“เจ้าคือซูเม่ยหรือ ตามข้ามา”นางไม่รอฟังคำตอบของเฉียวลู่ว่านางคือซูเม่ยหรือไม่ แต่นางก็เรียกให้หญิงสาวที่กำลังล้างชามตามไป มามานางนั้นได้ฟังลักษณะของหญิงสาวตามคำบอกเล่ามาแล้ว เมื่อแรกที่เห็นนางหันมามอง หวงมามาเองก็รู้สึกตกใจเช่นกัน คิ้วนั่นไม่รู้ว่าอยู่มาถึงทุกวันนี้ได้อย่างไรช่างเป็นสตรีที่อัปลักษณ์นักเฉียวลู่เช็ดน้ำออกจากมืออย่างอ้อยอิ่ง ไม่สนใจท่าทีรีบร้อนของนางสักนิด นางจึงเดินตามมามานางนั้นไปท่าทางของเฉียวลู่ไม่รู้สึกรู้สาต่อการเรียกพบครั้งนี้เลย นางเดินทอดน่องอย่างเชื่องช้าโดยไม่สนใจสิ่งรอบกาย เหมือนคนที่กำลังออกมาเดินเล่นที่สวนหน้าเรือนเมื่อไปถึงลานเรือนขนาดใหญ่กลิ่นดอกไม้ที่หอมอบอวลไปทั่ว สวนดอกไม้หลากชนิดที่แสนงดงามถูกดูแลเป็นอย่างดี แต่เฉียวลู่กลับรู้สึกว่ามันดูจะมากเกินสำหรับนาง เพราะกลิ่นหอมมากมายปะปนกันยิ่งทำให้รู้สึกเวียนหัวม

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   ข้าวผัดกระทะใหญ่

    เฉียวลู่เปิดประตูออกไปเห็นบ่าวชายที่นางคุ้นตากำลังยืนรออยู่หน้าห้องของพวกนาง“มีอะไรอีกหรือ นี่ไม่ใช้เวลาพักทานข้าวหรือไง”เฉียวลู่ถามออกไปอย่างนึกรำคาญ บ่าวชายผู้นั้นยกมือขึ้นเกาหัวท่าทางจนใจ เขาเองก็ไม่ได้อยากมารบกวนนางหรอกแต่ให้ทำอย่างไรได้ตัวเขาก็โดนใช้มาเช่นกัน เฉียวลู่กอดอกยืนรอให้เขาตอบคำถามนางอย่างอดทน“หัวหน้าพ่อครัวถังให้ข้ามาตามเจ้าไปทำข้าวผัดแบบนั้นอีกครั้ง”เฉียวลู่เลิกคิ้วอย่างสงสัย แต่นางก็เดินตามบ่าวชายผู้นั้นไปแต่โดยดี เมื่อมาถึงโรงครัวบ่าวในจวนเว่ยอ๋องบางส่วนได้เวลาพักทานอาหารเช่นกัน แต่วันนี้มู่อาเสิ่นท่าทางจะทำอาหารไม่ได้แล้วเพราะได้ข่าวว่าเขาพึ่งถูกเฉียวลู่หักข้อมือไป“มาแล้วหรือซูเม่ย เจ้านี่น้าดันไปทำให้มู่อาเสิ่นแขนหัก เขาจึงไปฟ้องหัวหน้าพ่อบ้านแล้วเจ้ารู้หรือไม่ คนพวกนั้นจะต้องกลับมาเอาเรื่องเจ้าแน่”เฉียวลู่ไม่สนใจคนโง่พวกนั้น ต่อให้พวกเขามาก็ทำอะไรนางไม่ได้ เพียงแต่ตอนนี้นางอยากรู้ว่าเหตุใดหัวหน้าพ่อครัวจึงต้องให้นางทำข้าวผัดแปดเซียนอีกรอบ“ท่านไม่ได้ให้เขาไปตามข้ามาทำข้าวผัดหรือ”นางถามหัวหน้าพ่อครัวถังทั้งยังชี้มือไปที่บ่าวชายที่นางเดินตามมา เขาถึงนึกขึ้นไ

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   หน้าที่ใหม่ในครัว

    เมื่อได้ชุดใหม่แล้วเฉียวลู่จึงนำมันไปซักตากเอาไว้ใกล้กับห้องที่นางพักกับซูหลี นางเดินกลับไปที่โรงครัวอีกครั้งเพื่อไปตามหาหัวหน้าผู้ดูแล ชายร่างอ้วนกำลังผัดอะไรบางอย่างกลิ่นหอมกระจายไปทั่วทั้งโรงครัว เมื่อเดินไปใกล้จึงรู้ว่าเขากำลังทำอาหาร เฉียวลู่มองอย่างสนใจ หลังจากที่ชายร่างอ้วนวางมือจากกระทะ เขาก็เงยหน้าขึ้นเห็นเฉียวลู่ยืนมองด้วยสายตาเปล่งประกาย“แม่นางน้อยเจ้าคงจะเป็นสาวใช้มาใหม่ที่กำลังเป็นที่กล่าวถึงอยู่ตอนนี้ใช่หรือไม่”เฉียวลู่มองเขาด้วยสายตามึนงง นางไม่เข้าใจในสิ่งที่ชายร่างอ้วนพูด“ท่านหมายความว่าอย่างไร”ชายร่างอ้วนโบกมือให้นางเข้าไปใกล้ๆ“ไม่มีอะไรๆ เจ้าได้รับหน้าที่ทำงานทั่วไปในครัวสินะ สาวใช้ของฝูมามาเดินมาบอกข้าแล้ว”เฉียวลู่พยักหน้า ช่ายร่างอ้วยยื่นกระทะที่เขาใช้ผัดอาหารเมื่อครู่ให้นาง“ถ้าอย่างนั้นก็เริ่มงานเลย วันนี้มีงานเยอะสักหน่อย ถึงจะเป็นการทำงานวันแรกของเจ้าก็อย่าพึ่งถอดใจเล่า”“ออข้าลืมบอกเจ้าไปข้าชื่อตงไห่แซ่ถัง เจ้าเรียกข้าว่าพ่อครัวถังก็ได้”เฉียวลู่พยักหน้าอีกครั้ง จากนั้นจึงรับกระทะจากเขามาถือเอาไว้“ข้าชื่อซูเม่ยเจ้าค่ะ แล้วท่านต้องการให้ข้าทำอะไรบ้าง”ห

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   ที่นี่คือที่ไหน

    ความรู้สึกปวดแปลบที่เกิดขึ้นทำให้ร่างบางลุกขึ้นนั่งกุมศีรษะด้วยความเจ็บปวด ดวงตากลมโตมองไปรอบๆ อย่างไม่รู้สึกคุ้นเคย เมื่อเสียงเปิดประตูดังขึ้นนางจึงหันไปมองผู้ที่กำลังเดินเข้ามา หญิงสาวอายุราวสิบเจ็ดสิบแปดปีใบหน้างดงามเดินตรงมาที่นาง“ฟื้นแล้วหรือ เจ้ารู้สึกอย่างไรบ้าง ไม่สบายที่ใดจงบอกข้า ข้าจะได้ไปตามท่านหมอมาดูอาการของเจ้า รู้ตัวหรือไม่ว่าเจ้าหลับไปถึงสิบวันเชียว”เฉียวลู่จ้องใบหน้างามของนางด้วยสีหน้างงงัน หญิงสาวนางนั้นเองก็มองกลับมาที่เฉียวลู่เช่นกัน นางยังคงซักถามเฉียวลู่อยู่อย่างนั้น แต่ท่าทางเป็นห่วงที่นางแสดงออกมาเหมือนมิได้เสแสร้ง“เจ้ามีชื่อว่าอะไร เป็นคนที่ไหนเหตุใดร่างของเจ้าจึงถูกพัดลอยตามแม่น้ำมา เจ้าโชคดีมากรู้หรือไม่หากตอนนั้นไม่ได้ขบวนเรือของเว่ยอ๋องผ่านมาพบเข้าพอดี เจ้าคงไม่อาจมีชีวิตรอดมาได้”เฉียวลู่ยังคงเงียบอยู่เช่นเดิมดวงตากลมโตของนางเหม่อลอยเหมือนกำลังพยายามครุ่นคิดบางอย่าง หญิงสาวนางนั้นค่อยๆ แสดงสีหน้าตกใจออกมา“เหตุใดเจ้าถึงไม่ตอบคำถามข้า หรือว่าเจ้า....พูดไม่ได้”เสียงอุทานของนางทำให้เฉียวลู่หันกลับมามอง“ข้าสามารถพูดได้ แต่ข้ากำลังคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   ร่างของนางหายไปกับสายน้ำที่เชี่ยวกราก

    น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ คนของฉีหมิงเยี่ยนไหนเลยจะสามารถรับมือกับกลุ่มโจรสลัดนับร้อยได้อย่างง่ายดาย พวกเขาค่อยๆ บาดเจ็บไปทีละคน ฉีหมิงเยี่ยนเองก็ไม่ต่างกันเขาถูกฟันที่แขนบาดแผลฉกรรจ์จากนั้นไม่นานประตูห้องของเฉียวลู่ก็ถูกเปิดออกโดยโจรสลัดและพวก มันเดินเข้ามาในห้องมองเห็นร่างใหญ่ของพี่น้องที่มีมีดสั้นปักอยู่ที่ลำคอจนมิดด้าม ดวงตาของเขาเบิกโพลงอย่างตายตาไม่หลับเมื่อเห็นเช่นนั้นพวกมันก็รู้สึกโกรธแค้นยิ่งนักโจรสลัดทั้งสามสอดส่ายสายตามองหาตัวการที่สังหารพี่น้องของตน เมื่อเห็นเฉียวลู่และเด็กสองคนที่กำลังยืนอยู่ด้านในสุดของห้อง มันจึงมองพวกนางด้วยสายตาแปลกใจ“ใครคือผู้ที่สังหารพี่น้องของข้า”เสียงแหบห้าวดังออกมาจากลำคอหนา เฉียวลู่ถือดาบที่โจรสลัดคนที่สองที่นางพุ่งชนจนตกจากหน้าต่างเอาไว้ นางมองพวกมันอย่างหวาดระแวง คนเดียวนางอาจสู้ได้แต่มาที่เดียวสามคนนางเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน เมื่อเจ้าโจรสลัดเห็นว่านางยังคงเงียบไม่ยอมตอบมันก็ย่างสามขุมเข้าหานางเฉียวลู่รอให้เจ้าโจรสลัดเดินเข้ามาในระยะการฟัน จากนั้นนางจึงตวัดดาบอย่างรวดเร็วจนทุกคนมองตามไม่ทัน ร่างที่เคยยืนอยู่ต่อหน้านางถูกฟันขาดเป็นสองท่อน โจรสลัดที่ตา

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   โจรสลัด

    การเดินทางสู่แคว้นฉีหากต้องการความสะดวกสบายต้องไปทางเรือเท่านั้น แต่มีเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้คนเดินทางหรือพ่อค้าต้องหนักใจคือโจรสลัด ที่ไม่ว่าจะส่งทางการมาปราบปรามเท่าใดก็ไม่เคยสำเร็จ เนื่องจากมีโจรสลัดหลายกลุ่มที่หากินที่ลุ่มแม่น้ำนี้ก่อนออกเดินทางเฉียวลู่ได้ส่งจดหมายไปหาฉินอี้เหยาที่กลายเป็นฮองเฮาแล้ว ว่านางกำลังจะเดินทางไปที่แคว้นฉีพร้อมกับฉีหมิงเยี่ยน จากนั้นอีกสองวันพระราชโองการแต่งตั้งให้นางเป็นเสี้ยนจู่ เชื้อพระวงศ์หญิงลำดับที่สี่ของแคว้นเซียวก็ถูกส่งมาที่หมู่บ้านมู่โฉว ทำเอาเฉียวลู่ตกใจจนมึนงงไปหมด นางไม่คิดว่าพี่อี้เหยาจะเล่นใหญ่ถึงเพียงนี้ฉีหมิงเยี่ยนเหมือนจะเข้าใจในพระประสงค์ของฉินฮองเฮา นางต้องการจะบอกเขาว่าห้ามเขาทำไม่ดีกับเฉียวลู่เด็ดขาดเพราะตอนนี้นางมีแคว้นเซียวคอยหนุนหลังแล้ว หากคนแคว้นฉีกล้ารังแกนางก็ต้องดูด้วยว่าแคว้นเซียวยินยอมหรือไม่ตอนนี้เวลาเฉียวลู่เดินผ่านเขานางมันจะเชิดหน้าจากนั้นทำท่าทางเหมือนนกยูงกำลังรำแพน เพื่อบอกให้เขารู้ว่าตอนนี้นางเป็นเสี้ยนจู่แล้ว ฉีหมิงเยี่ยนได้แต่ส่ายหน้าอย่างจนใจ แต่เมื่อได้มองนางมีความสุขเขาเองก็รู้สึกดีไปด้วยเช่นกัน เด็กสองคนเองก

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   กลับแคว้นฉี

    หลังจากที่ทุกอย่างถูกเปิดเผยฉินเจี่ยซินและองค์ชายสามถูกลงโทษประหารชีวิต ฉินอี้เหยาได้ขึ้นนั่งตำแหน่งเดิมของตนส่วนฉิน จื่อเฉินหลังจากที่พิสูจน์ว่าเป็นพระโอรสของเซียวฮ่องเต้แล้วเขาก็ถูกแต่งตั้งให้เป็นองค์รัชทายาทเซียวฮ่องเต้ได้ตกรางวัลมากมายให้เฉียวลู่นางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ตลอดทั้งวันเพราะตอนนี้นางเป็นเศรษฐีแล้ว ฉีหมิงเยี่ยนมองท่าทางเหมือนคนเสียสติของนางแล้วได้แต่ส่ายหน้าอย่างจนใจ สตรีผู้นี้ไม่สนใจตำแหน่งท่านหญิงแต่กลับขอเปลี่ยนเป็นเงินแทนทำเอาขุนนางทั้งหลายถึงกับอึ้ง เขาไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรกับนางดีเฉียวลู่พาบุตรชายทั้งสองของนางเที่ยวเล่นที่เมืองหลวงถึงสองเดือนตอนนี้ถึงเวลาที่นางต้องกลับไปที่เรือนน้อยเชิงเขาของนางแล้ว“พี่อาลู่ท่านจะไปแล้วจริงหรือ”องค์หญิงเซียวหมิ่นงอแงไม่อยากให้นางกลับไปวันทั้งวันเอาแต่ตามติดนางไม่ห่าง ทำเอาฉีหมิงเยี่ยนหงุดหงิดจนอยากจะจับนางยัดใส่ถังไม้ถ่วงน้ำทะเล แต่วันนี้เป็นวันที่ฉีหมิงเยี่ยนอารมณ์ดีที่สุดเพราะพวกเขากำลังจะกลับไปที่อำเภอเป่ยจิง“ข้ามีเรื่องต้องทำมากมายอยู่เที่ยวเล่นเป็นเพื่อนท่านไม่ได้เอาอย่างนี้ ไว้คราวหน้าถ้ามีโอกาสข้าจะพาท่านเที่ยวอำเภอเป่ยจิงดี

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   ข้าต้องการแก้แค้น

    เฉียวลู่ถูกเรียกตัวเข้าพบฮ่องเต้นางเล่าเรื่องทุกอย่างให้เขาฟังทั้งยังบอกเล่าจุดที่น่าสงสัยที่ควรตามสืบ ผ่านไปอีกหลายวันเรื่องของนักฆ่าที่ตามสังหารองค์หญิงเซียวหมิ่นยังคงเงียบ นางรู้สึกว่ามันค่อนข้างแปลก เขาเป็นถึงฮ่องเต้ที่มีอำนาจสูงสุดในแผ่นดินนี้แค่ตามสืบว่าใครว่าจ้างมือสังหารยังทำไม่ได้เชียวหรือ ทำไม่ได้หรือไม่ทำกันแน่กลางดึกในวังหลวงชายชุดดำปีนเข้าไปด้านในตำหนักชางอี้ ฝีเท้าของเขาแผ่วเบาและรวดเร็วเหมือนถูกฝึกมาเป็นอย่างดี ห้องนอนที่อยู่ด้านข้างของห้องนอนองค์หญิงเซียวหมิ่น ฉินอี้เหยาที่กำลังหลับลึกถูกฝ่ามือของใครบางคนปิดปากเอาไว้ นางรู้สึกตัวแต่ไม่สามารถขยับตัวได้“เหยาเอ๋อ”เสียงเรียกชื่อเบาๆ ของนางทำให้ฉินอี้เหยาหยุดดิ้น เมื่อสายตาชินกับความมืดนางจึงได้รู้ว่าใครกันที่เข้ามาในห้องนอนของนาง“ท่านพ่อ”ฉินอี้เหยากอดชายชุดดำที่อุกอาจบุกเข้ามาในวังหลวงอย่างไม่กลัวตาย ที่เขาทำเช่นนี้เพราะต้องการยืนยันให้แน่ใจว่านางกำนัลที่เขาเห็นในท้องพระโรงใช่นางหรือไม่ ฉินอี้เหยากลั้นเสียงร้องไห้จนสั่นไปทั้งร่าง นางรู้สึกอุ่นใจที่ครอบครัวของนางยังไม่ทอดทิ้ง“พ่อมาที่นี่เพื่อยืนยันว่าเป็นเจ้าตัวจริง เ

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   พบกันอีกครั้ง

    วันรุ่งขึ้นหลังจากที่หวงมามาได้รับข้อความจากคนของฉีหมิงเยี่ยนที่เป็นสายลับอยู่ในวังหลวง นางก็ใช้ตราของตำหนักองค์หญิงพานางกำนัลออกมาด้วยสองคน หวงมาๆ ให้รถม้าวิ่งวนไปรอบๆ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครตามมา จากนั้นจึงให้คนขับรถม้ามาที่เรือนหลังเล็กที่อยู่ใกล้สำนักศึกษา“หวงมามา”องค์หญิงเซียวหมิ่นเรียกนางด้วยความดีใจเหมือนได้พบญาติผู้ใหญ่อีกครั้ง หวงมามากอดนางร้องไห้“องค์หญิงเหตุใดหนีออกจากวังเช่นนี้ ท่านไม่กลัวว่าบ่าวแก่ๆ คนนี้จะหัวใจวายตายหรือเพคะ”องค์หญิงเซียวหมิ่นหลังจากที่โดนนักฆ่าตามสังหารตอนนี้นางก็ได้รู้แล้วว่าตนเองนั้นทำผิดมหันต์แค่ไหน ไม่คิดดื้อดึงถกเถียงกับหวงมามาอีกแล้ว“ข้าผิดไปแล้วต่อไปจะทำอะไรข้าจะคิดให้มากกว่านี้”หวงมามาเมื่อตั้งสติได้ก็หันไปมองเฉียวลู่และบุรุษที่มีใบหน้าธรรมดา ด้านหลังของพวกเขามีสตรีที่งดงามนางหนึ่งยืนอยู่นางไม่มีวันลืมใบหน้านั้นได้เด็ดขาด“ฮองเฮาเป็นไปได้อย่างไร”หวงมามารีบเข้าไปคุกเข่าให้นางทันที ฉินอี้เหยารีบเข้าไปประคองหวงมามาให้ลุกขึ้น“ข้าหาใช่ฮองเฮาอีกแล้ว หวงมามาท่านอย่าได้คุกเข่าให้ข้าเลย”หวงมามายังไม่ได้สติกลับมา แปดปีกว่าที่ฝ่าบาทตามหานางแต่คนท

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status