แชร์

บทที่ 85

ผู้แต่ง: วิ๋นเจิง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
เมื่อฮ่องเต้มองดูก็เห็นราชองครักษ์ผู้หนึ่งกำลังนำเป้าธนูเข้ามา

"ฝ่าบาท ลูกธนูดอกนี้คือลูกธนูที่ท่านอ๋องเสวียนยิงออกไปก่อนที่ม้าจะคลุ้มคลั่งพ่ะย่ะค่ะ!"

เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนี้เข้าก็รู้สึกตกตะลึง

เหตุการณ์ที่เพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้ ยังคงทำให้บรรดาผู้ที่กำลังชมดูอยู่โดยรอบรู้สึกหวาดกลัว

แต่พวกเขาไม่นึกว่าลูกธนูที่คิดว่าพลาดเป้าไปแล้วจะยิงเข้าเป้าจริง ๆ

นี่มันพลังอันใดกัน!

เมื่อฮ่องเต้ชรามองเห็นลูกธนูได้ชัดเจนก็อดมิได้ที่จะหัวเราะออกมา พระองค์เดินเข้ามาหาเย่เสวียนถิงแล้วยกพระหัตถ์ขึ้นมาตบไหล่ของอีกฝ่าย

"โอรสของข้าช่างน่าเกรงขามจริง ๆ คู่ควรให้ผู้คนขนานนามว่าเทพสงครามแล้ว ถ้าหากขาของเจ้ามิได้รับบาดเจ็บ...เฮ้อ!"

ฮ่องเต้ชราทอดถอนใจ ดวงตาเต็มไปด้วยความเสียดาย

ขันทีข้างพระวรกายรีบเอ่ยขึ้นมาทันทีว่า "ฝ่าบาท นี่ย่อมเป็นพรสวรรค์ที่เทพเซียนก็ต้องอิจฉาเป็นแน่

พ่ะย่ะค่ะ!"

เงามืดวูบผ่านดวงตาของเย่เสวียนถิงไป

เขาขยับขาซ้ายไปข้างหลังเล็กน้อยโดยไร้ซึ่งพิรุธใด ๆ

ซูชิงอู่ยังคงยืนฟังฮ่องเต้ชราเอ่ยปากชื่นชมเย่เสวียนถิงอยู่ข้างกายเขา

นี่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เย่เสวียนถิงได้รับ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 86

    เย่เสวียนถิงหรี่ตาเล็กน้อย คาดไม่ถึงเลยว่าจะได้อำนาจทางการทหารของหน่วยราชองครักษ์มาไว้ในมือด้วยเหตุนี้ เขาประสานมือคำนับพลางกล่าวว่า "ขอบพระทัยเสด็จพ่อที่ไว้วางพระทัย กระหม่อมจะมิทำให้ทรงผิดหวังเป็นอันขาดเลยพ่ะย่ะค่ะ!" ฮ่องเต้โบกมือ "หลังสิ้นสุดเทศกาลงานล่าสัตว์ช่วงสารทฤดู ข้าจะจัดการเรื่องนี้ให้ ยามนี้ก็สายไม่น้อยแล้ว เช่นนั้นก็อย่าทำให้ช่วงเวลาดี ๆ ในเทศกาลเทศกาลงานล่าสัตว์ต้องล่าช้าเลย" หลังจากเย่เสวียนถิงได้ยินเช่นนี้ เขาก็หลีกทางให้ ซูชิงอู่รู้สึกโล่งอกขึ้นมาบ้างเพราะนางรู้ว่าเย่เสวียนถิงต้องดิ้นรนกระเสือกกระสนอยู่ในเมืองหลวง อำนาจทางการทหารในมือของเขาถูกยึดกลับคืนไปนานแล้ว เขาได้แต่รับผิดชอบเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในกรมกลาโหม ในฐานที่เป็นท่านอ๋อง เขากลับหามีตำแหน่งที่แน่ชัด แต่ขอเพียงฮ่องเต้ตรัสมาเพียงคำเดียว เขาก็จะมีสิทธิ์ควบคุมทั้งหกกรมได้ ทว่ายามนี้จู่ ๆ เย่เสวียนถิงก็บัญชาการราชองครักษ์ในเมืองหลวงกว่าสองหมื่นนาย ทำให้เขาเป็นผู้ที่น่าสะพรึงกลัวและยากจะรับมือที่สุดในเมืองหลวง หลังจากเย่เสวียนถิงยิงธนูดอกแรก เทศกาลงานล่าสัตว์ก็เริ่มต้นขึ้น อีกด้านหนึ่ง เย่อวิ๋นถูท

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 87

    เจียวกุ้ยเฟยพินิจพิเคราะห์สีหน้าของซูชิงอู่โดยละเอียดถี่ถ้วน แต่พระนางกลับมิพบความผิดปกติใดบนใบหน้าของอีกฝ่าย หรือว่าตนจะคาดเดาผิดไป? เจียวกุ้ยเฟยที่รู้สึกคลางแคลงใจรีบปรับสีหน้าทันที "หามีอันใดไม่ ข้าแค่รู้สึกเบื่อนิดหน่อยก็เลยคิดจะเชิญพี่ ๆ น้อง ๆ สักสองสามคนมาสังสรรค์กัน" ทันใดนั้นพระนางก็โบกมือแล้วสั่งนางกำนัลข้างพระวรกายว่า "ไปเชิญพระชายาองค์ชายสามกับท่านหญิงเสวี่ยอิ๋งมาที" นับตั้งแต่ครั้งล่าสุดที่พบหลินเสวี่ยอิ๋งก็ไม่เจอกันมากว่าเดือนหนึ่งแล้ว ซูชิงอู่ก็เม้มปากเล็กน้อย เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายเจตนาทำเช่นนี้และมิใช่คนดิบดีอันใดเลย ทว่านางก็หาได้ใส่ใจขุนพลพ่ายศึกทั้งสองคนนี้ หลังจากนั้นไม่นาน หลินเสวี่ยอิ๋งกับโจวหรุ่ยพร้อมด้วยเหล่านางรับใช้และหมัวมัวก็เข้ามาแสดงคำนับกุ้ยเฟย "เสวี่ยอิ๋งขอถวายบังคมฮ่องเต้กับเจียวกุ้ยเฟย รวมทั้งเสด็จป้าและพระสนมทุกพระองค์เพคะ" เมื่อเจียวกุ้ยเฟยได้ยินเช่นนี้เข้า พระนางก็ยกยิ้มมุมปาก "นับวันท่านหญิงเสวี่ยอิ๋งก็ยิ่งรูปโฉมงดงามมากขึ้นเรื่อย ๆ ข้ารู้สึกเบิกบานใจที่ได้เจอเจ้านัก" "ขอบพระทัยเสด็จป้าที่ทรงชมเพคะ เสวี่ยอิ๋งมิบังอาจรับไว้" ขณะที

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 88

    สีหน้าเช่นนั้นพกพาอารมณ์แห่งชัยชนะมาด้วยอย่างเห็นได้ชัด ซูชิงอู่เหลือบมองกุ้ยเฟยที่นั่งอยู่ข้างบนแล้วค่อยหันมามองหลินเสวี่ยอิ๋งที่เบิกบานใจถึงเพียงนั้น นางก็พลันเข้าใจขึ้นมาทันที เสียงตีกลองและดอกไม้ที่โปรยไปทั่วเพื่อสร้างความขบขันให้ฮ่องเต้ ก็เพียงเพื่อจะได้เห็นนางกระทำตัวโง่งม นางทำให้หลินเสวี่ยอิ๋งเป็นตัวตลกมากว่าหนึ่งเดือนแล้ว สร้างความอับอายให้แก่นางและเสื่อมเสียชื่อเสียงครั้งใหญ่ ดังนั้นอีกฝ่ายจึงมาที่นี่เพื่อก่อเรื่อง! หลังจากเข้าใจเรื่องนี้แล้ว ซูชิงอู่ก็อดมิได้ที่จะค่อย ๆ ยกมือขึ้นปิดบังรอยยิ้มตรงมุมปาก เกรงว่าอีกฝ่ายจะยกหินทุ่มเท้าตนเองเสียแล้ว เมื่อเสียงกลองดังขึ้น เจียวกุ้ยเฟยก็โยนดอกไม้ผ้าไหมที่กำลังโบกสะบัดเข้ามาในมือของพระสนมคนแรก พระสนมผู้นั้นรีบส่งดอกไม้ผ้าไหมราวกับเป็นเผือกร้อนหัวหนึ่ง ตอนนี้บรรยากาศกลับตึงเครียดอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้ ทุกคนต่างจ้องมองดอกไม้ผ้าไหมที่กำลังจะมาหาพวกนาง เมื่อถึงทีของตนเอง พวกนางก็ส่งดอกไม้ผ้าไหมให้คนถัดไปอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นเสียงตีกลองก็หยุดลง ดอกไม้ผ้าไหมถูกนางกำนัลคว้าเอาไว้ ก่อนที่พระสนมผู้นั้นจะทันได้ส่งต่อไป

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 89

    แต่สิ่งที่ทำให้หลินเสวี่ยอิ๋งรู้สึกผิดหวังมากที่สุดก็คือ หามีแววอับอายหรือโทสะบนใบหน้าของซูชิงอู่แม้แต่น้อย นางเพียงแค่เลิกคิ้วด้วยท่าทีสงบนิ่ง "แค่นั้นเองหรือ?" หลินเสวี่ยอิ๋งตะลึงงันไปชั่วขณะ จากนั้นก็ยกยิ้มมุมปากพลางเอ่ยวาจายั่วยุขึ้นมาว่า "เกิดเรื่องอันใดขึ้นกันเล่า เจ้ากลัวว่าจะพ่ายแพ้หรือ?" ซูชิงอู่ลุกขึ้นพลางกล่าวว่า "เรื่องนี้มีอันใดให้กลัวด้วยหรือ?" ระหว่างที่พูดอยู่นั้น ซูชิงอู่ก็ถอดสายคาดเอวและชุดขี่ม้าออก จากนั้นทุกคนก็ต้องดวงตาเบิกค้าง เพราะทุกคนเห็นว่าซูชิงอู่สวมกระโปรงยาวพอดีตัวเอาไว้ในชุดขี่ม้าบางเฉียบ หามีผู้ใดบอกได้ว่านางสวมเอาไว้ในนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่! ซูชิงอู่ตบรอยยับย่นอันทบทวีบนกระโปรงยาวของนาง จากนั้นก็จัดกระโปรงให้เรียบร้อยแล้วนั่งลงบนเก้าอี้อีกครั้ง นางมองสีหน้าตะลึงงันของหลินเสวี่ยอิ๋งที่อยู่ตรงข้ามกับตนพลางยิ้มแล้วเอ่ยปากพูดขึ้นมาว่า "เล่นต่อสิ" หลินเสวี่ยอิ๋งตกตะลึงไปเสียแล้ว อีกฝ่ายชี้นิ้วใส่ซูชิงอู่พลางกล่าวว่า "ไยเจ้าถึงสวมอาภรณ์มากมายถึงเพียงนั้น?" ซูชิงอู่ทำสีหน้าฉงน "ยามออกไปข้างนอกจะสวมอาภรณ์ให้เยอะสักหน่อยก็ผิดกระนั้นหรือ?" ทว่า

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 90

    เนื่องจากอากาศร้อน นางจึงสวมเพียงกระโปรงตัวนอกโดยมีเอี๊ยมอยู่ข้างใต้เท่านั้น ขืนถอดออก ก็คง... "ไม่นะ! ข้ามิได้สวมอาภรณ์ไว้ข้างในมากมายเช่นเจ้า!" ซูชิงอู่ยิ้มเยาะ "ต่างอันใดกันด้วยหรือ? ตอนที่เจ้าเสนอข้อเรียกร้องเช่นนี้ มิใช่ว่าเจ้าเห็นข้าสวมอันใดอยู่หรอกหรือ?" "แต่……" "ถ้าหากท่านหญิงมิยอมลงมือ เช่นนั้นข้าจะช่วยเจ้าเองก็แล้วกัน!" ซูชิงอู่ลุกขึ้นราวกับว่านางพร้อมจะเดินเข้ามาหาได้ทุกเมื่อ หลินเสวี่ยอิ๋งรีบยกมือกุมหน้าอกแล้วถอยหลังไปสองสามก้าว "ช่วยด้วย ข้าไม่อยากเล่นแล้ว ข้าไม่อยากเล่นอีกต่อไปแล้ว" นางหันหลังเตรียมที่จะจากไปภายใต้การดูแลของหมัวมัวและนางรับใช้ ซูชิงอู่ยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยแล้วแววเยียบเย็นก็วูบผ่านดวงตาของนางไป นางมิได้ไล่ตามอีกฝ่ายไป แต่รอคอยอยู่เงียบ ๆ สักพัก ทันใดนั้นทุกคนก็เห็นหลินเสวี่ยอิ๋งที่กำลังจะออกไปจากที่นี่ จู่ ๆ ก็หยุดเดินแล้วเริ่มเกาเนื้อตัวพลางร้องอุทานด้วยความตื่นตกใจ "อ๊า คันเหลือเกิน มีบางอย่างไต่ไปทั่วตัวข้า รีบดูให้ทีว่าเกิดอันใดขึ้นกับร่างกายของข้ากันแน่!" เมื่อเห็นสีหน้าร้อนรนกังวลใจบนใบหน้าของท่านหญิง นางรับใช้คนอื่น ๆ ก็รี

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 91

    ความโกรธเกรี้ยวของนางแผ่ซ่านออกมาจากในใจทันทีเมื่อเห็นอีกฝ่ายเล่นละครตบตาหลินเสวี่ยอิ๋งไม่อาจทนความคับข้องใจได้อีกต่อไป "ท่านป้า ดูสิซูชิงอู่แอบหัวเราะเยาะข้าอยู่!"แต่ทว่ายามเมื่อนางชี้นิ้วไปยังซูชิงอู่ นางกลับเห็นว่าสีหน้าของซูชิงอู่เปลี่ยนไปแล้วสีหน้าของนางทั้งตกตะลึงและไร้เดียงสา ดวงตาคู่สวยต็มไปด้วยหยาดน้ำตา พร้อมทั้งความสับสนบนใบหน้าซูชิงอู่กัดริมฝีปากแล้วเอ่ยอย่างแผ่วเบาว่า "ท่านหญิง ข้าหัวเราะเยาะท่านเมื่อใดกัน?"“เจ้า… เจ้า…”หลินเสวี่ยอิ๋งจวนจะระเบิดด้วยความโกรธเต็มทน เมื่อนางเห็นซูชิงอู่เปลี่ยนสีหน้าอย่างรวดเร็วซูเฟยขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกว่าหลินเสวี่ยอิ๋งไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย“เสวี่ยอิ๋ง แม้ว่าชายาเสวียนจะทำให้เจ้าขุ่นเคืองในครั้งก่อน แต่นางก็เป็นพี่สะใภ้ของเจ้า เจ้าอย่าได้ทำเรื่องยุ่งยากให้นางต้องอับอายอีก!”“ท่านป้า...นางทำจริง ๆ ข้าเห็นอย่างชัดเจน เหตุใดท่านจึงไม่เชื่อข้าเล่า?”ซูเฟยถอนหายใจ ก่อนจะถอดสร้อยข้อมือดอกไม้ออกจากข้อมือและวางมันลงบนมือของหลินเสวี่ยอิ๋งเสียงของนางยังคงอบอุ่นและอ่อนโยน “นี่สำหรับเจ้า จะได้ไม่ต้องถูกแมลงกัดอีก แมลงที่เจ้าเห็นเมื่อค

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 92

    เย่ชิวหมิงลงจากหลังม้าทันทีจากนั้นเขาก็โค้งคำนับต่อฮ่องเต้ "ขอบพระทัยเสด็จพ่อ!"ฮ่องเต้ลูบคางของตน คิ้วและดวงตาแทบจะโค้งงอด้วยรอยยิ้มการล่าสัตว์ครั้งนี้ช่วยทำให้องค์ชายหลายพระองค์ได้เชิดหน้าชูตาต่อหน้าเหล่าขุนนางทั้งขุนนางและนายน้อยเหล่านั้น พวกเขาต่างยังตามหลังองค์ชายอยู่มากแต่ในขณะนั้นเอง กลับมีการเคลื่อนไหวในป่าด้านหลังอีกครั้งมีบางคนออกจากป่าด้วยสภาพที่ดูไม่จืด ขณะที่บางคนดูเหมือนจะได้รับบาดเจ็บซูชิงอู่เงยหน้าขึ้น นางเห็นว่าเย่เสวียนถิงอยู่ในหมู่คนเหล่านั้นด้วย ผมเผ้าของเขายุ่งเหยิงเล็กน้อย ผ้าคาดผมบนศีรษะก็หลุดออกจนหมดด้วยเช่นกันเขาดูค่อนข้างสมบุกสมบันมาก เมื่อเทียบกับเย่ชิวหมิงที่เรียบร้อยนางยกกระโปรงขึ้นแล้ววิ่งออกไปลมพัดผ่านชายกระโปรงของนาง ทำให้นางดูราวกับผีเสื้อเมื่อองครักษ์ของเย่เสวียนถิงเห็นชายาเสวียนวิ่งเข้ามา พวกเขาจึงรีบออกไปอีกทางทันทีบางคนยังคงมีคราบเลือดบนใบหน้า อาภรณ์ของพวกเขาถูกกรงเล็บอันแหลมคมเกี่ยวจนขาดวิ่น เศษชิ้นส่วนอาภรณ์ห้อยอยู่บนไหล่อย่างน่าขบขัน"พระชายาเสวียน!"เจ้าสิบเจ็ดเป็นคนแรกที่โต้ตอบ และพาคนอื่นให้โค้งคำนับต่อซูชิงอู่ซูชิงอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 93

    ซูชิงอู่ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งด้วยความรู้สึกว่างเปล่าในฝ่ามือของนางเย่เสวียนถิงไม่ได้มองหน้านาง ใบหน้าของเขาซีดเล็กน้อยเขาเดินกะเผลกลากขาที่เคยได้รับบาดเจ็บไปข้างหน้า แผ่นหลังของเขาดูอ้างว้างและโดดเดี่ยวเจ้าสิบเจ็ดเหลือบมองท่านอ๋องแล้วมองไปที่ซูชิงอู่เขาลดเสียงลงและพูดกับซูชิงอู่ว่า “ท่านอ๋องอาจเป็นเช่นนี้เพราะปัญหาของเขาเอง กระหม่อมอยู่กับท่านอ๋องมาหลายปีแล้ว เขาเป็นคนเฉยชา พระชายาได้โปรดอย่าเข้าใจท่านอ๋องผิดไป!”ดวงตาของซูชิงอู่จ้องมองไปยังใบหน้าของเจ้าสิบเจ็ดทันใดนั้น นางก็มีความชื่นชอบเล็กน้อยต่อองครักษ์เงาตัวน้อยผู้ภักดีที่อยู่ข้าง ๆ เย่เสวียนถิงนางยกยิ้มมุมปากเบา ๆ มองดูเจ้าสิบเจ็ดด้วยสายตามีความหมาย จากนั้นจึงเร่งฝีเท้าเพื่อไล่ตามเย่เสวียนถิง“ท่านอ๋อง รอข้าด้วย!”นางไล่ตามไปอย่างไม่ลดละ เนื่องจากอีกฝ่ายไม่ยอมเข้ามา นางจึงเป็นฝ่ายโน้มตัวเข้าใกล้มากยิ่งขึ้นแทนในชีวิตนี้ นางเป็นเพียงคนที่ไม่คู่ควรจะได้อยู่เคียงข้างเย่เสวียนถิงเมื่อเขาตกเป็นเป้าหมายของนางแล้ว นางก็ไม่อาจปล่อยให้เขาหลุดมือไปไหนได้นางคล้องแขนของเย่เสวียนถิงเอาไว้ เขาจึงยืนแข็งทื่ออยู่กับที่ทัน

บทล่าสุด

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 807

    ชายบนหลังม้าตัวสูงและผิวที่เปลือยเปล่าของเขามีสีเข้มเล็กน้อย ใบหน้าของเขาคมคายและดวงตาที่เฉียบแหลม“เคยบอกว่ามีคนในเมืองหลวงเห็นเย่เสวียนถิงด้วยตาของพวกเขาเองไม่ใช่หรือ?”เหยียนจั๋วพูดเสียงเย็นและหลุบตาลงเล็กน้อย“ข้าน้อยก็ไม่ทราบขอรับ...”“หากข่าวที่เจ้าพูดเป็นเรื่องจริง ตอนนี้ก็ว่าเป็นสถานการณ์จั๊กจั่นลอกคราบ ประการแรกคือเย่เสวียนถิงทั้งสองมีหนึ่งคนที่เป็นตัวปลอม ประการที่สองคือข่าวที่พวกเจ้าได้รับมาเป็นข่าวปลอม!”“เรียนท่านแม่ทัพ ข่าวนี้เป็นความจริงอย่างแน่นอนขอรับ!”เหยียนจั๋วพยักหน้าเบา ๆ เขาเข้าใจความจริงของเรื่องนี้แล้วเขาเงยหน้ามองไปยังประตูชายแดน ขณะที่นั่งอยู่ท่ามกลางกองทหารนับหมื่น ม่านตาของเขาหดตัวลงด้านหลังก็มีราชรถถูกลากออกมา และม่านก็ถูกเปิดออกเผยให้เห็นร่างของบุคคลที่อยู่ข้างในองค์รัชทายาทแห่งแคว้นอู๋ตะวันตก สวมเครื่องแบบราชสำนักสีเหลืองสว่างขององค์รัชทายาท ซึ่งแสดงให้เห็นถึงตัวตนของเขา เขามีใบหน้าที่หล่อเหลาอย่างมาก มีรูปร่างผอมเพรียวและผิวค่อนข้างซีดเหยียนจั๋วได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวที่อยู่ข้าง ๆ จึงหันกลับมาทันทีและทำความเคารพอย่างนอบน้อม “องค์รัชทายา

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 806

    คนผู้นั้นถูกทุบตีจนจมูกช้ำ ใบหน้าบวม เขารู้สึกเสียใจมากคนของเขาเห็นอย่างชัดเจนว่าท่านอ๋องอยู่ที่นี่...ขณะนั้นเอง ทหารผู้นั้นก็ได้ยินเสียงแตรดังมาจากด้านนอกนั่นคือการแจ้งเตือนในค่ายทหารว่ามีการบุกโจมตีจากศัตรู!บรรดารองแม่ทัพที่เพิ่งเดินออกไปไม่นานก็แสดงสีหน้าหวาดกลัว และรีบไปที่ค่ายด้วยความตื่นตระหนก พยายามเปลี่ยนเสื้อผ้าและหยิบอาวุธให้เร็วที่สุดเมื่อพวกเขาออกมา เซียวเฝิงได้รวบรวมทหารทั้งหมดรออยู่ก่อนแล้วพลางมองผู้มาทีหลังด้วยสายตาเย็นชาแต่เขาไม่ได้พูดอะไรมาก เพราะในการฝึกช่วงนี้ ผู้ใต้บังคับบัญชาของรองแม่ทัพเหล่านั้นคุ้นเคยกับการฟังคำสั่งของเขาแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงมารวมตัวกันที่นี่ตั้งแต่แรก“เมื่อครู่หน่วยสอดแนมเพิ่งมารายงานว่ากองทัพใหญ่แคว้นอู๋ตะวันตกกำลังใกล้เข้ามา ตอนนี้พวกเขายังอยู่ห่างออกไปหนึ่งร้อยลี้ ทุกคนจงตามข้ามาเพื่อเตรียมการป้องกัน!”ท่านอ๋องยังไม่กลับมา ดังนั้นจึงไม่ควรออกไปล้างบางตอนนี้ ปราการเจิ้นเป่ยเป็นสถานที่อันตรายที่ป้องกันได้ง่าย แต่โจมตีได้ยาก ท้ายที่สุดแล้ว การโจมตีนั้นยากกว่าการป้องกัน“ท่านแม่ทัพเซียว ทราบหรือไม่ว่าคนเหล่านั้นคือใคร?”เซียวเฝิง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 805

    เย่เสวียนถิงตัวแข็งทื่อทันทีม้าของเขาเดินหมุนเป็นวงกลม สีหน้าของเขาแสดงให้เห็นถึงความลังเลอย่างชัดเจนซูชิงอู่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่และพูดว่า "ข้าสัญญากับท่านว่าจะไม่ไปสถานที่อันตราย"เย่เสวียนถิงถอนหายใจ "ค่ายทหารไม่มีกฎให้สตรีเข้าร่วม"ซูชิงอู่ยิ้มเมื่อได้ยินเช่นนั้น "ถ้าอย่างนั้น ข้าจะปลอมตัวเป็นบุรุษ"เย่เสวียนถิง "..."เมื่อนึกถึงทักษะการปลอมตัวอันยอดเยี่ยมของซูชิงอู่ เย่เสวียนถิงก็ลังเลขึ้นมาอีกครั้งด้วยความสามารถของนาง คงไม่มีใครสามารถจับได้ว่านางปลอมตัวเป็นบุรุษ ไม่ว่าจะเป็นการปลอมตัวหรือเปลี่ยนเสียง นางก็ทำได้อย่างสมบูรณ์แบบเย่เสวียนถิงเห็นความกระตือรือร้นในดวงตาของซูชิงอู่ พลางถอนหายใจเล็กน้อย จากนั้นก็มองนางอย่างจนใจและพูดว่า "ก็ได้ แต่เจ้ารับปากข้ามาก่อนว่าจะไม่ปล่อยให้ตัวเองบาดเจ็บ"ทันใดนั้นดวงตาของซูชิงอู่ก็ส่องประกาย "ท่านอ๋อง ไปกันเถอะ"นี่เป็นครั้งแรกที่ซูชิงอู่ไปที่ชายแดนชาติก่อนนางวางตัวเป็นกุลสตรี จึงแทบไม่ได้ออกจากเมืองหลวงเลยผู้คนนับหมื่นในเมืองฉี ก่อนหน้านี้ถูกพวกเขาพาไปอยู่เมืองอื่น และเมื่อเย่เสวียนถิงจากมาก็พาพวกเขามาด้วยอย่างน้อยผู้คนมา

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 804

    นางออกมาจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์ พ่อแม่ของนางเสียชีวิตด้วยน้ำมือของคนเหล่านั้น และนางต้องการแก้แค้นเย่เสวียนถิงเหลือบมองนาง จากนั้นก็พยักหน้าเบา ๆ“อาอู่ อย่าเพิ่งเคลื่อนไหวคนเดียว ไว้รอข้ากลับมาก่อน”ตราบใดที่เขายังอยู่ใกล้ แคว้นอู๋ตะวันตกก็จะพ่ายแพ้อย่างแน่นอนเพียงแต่ยังไม่ทราบว่าสงครามนี้จะกินเวลานานเท่าใดเย่เสวียนถิงได้ปรากฏตัวต่อหน้าฝ่าบาท ข่าวการกลับมาของเขาต้องแพร่กระจายออกไปแน่ สิ่งที่เขาต้องทำคือเคลื่อนไหวให้เร็วกว่าคนส่งข่าวเหล่านั้นซูชิงอู่ที่เห็นว่าเขาเปิดเผยใบหน้า นางก็รู้ได้ว่าเขากำลังจะจากไปตอนนี้ปัญหาของตระกูลเจียวได้รับการแก้ไขแล้ว ไม่มีอุปสรรคในราชสำนัก และนางไม่ต้องกังวลกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับพี่ชายของนางและคนอื่น ๆ อีกต่อไปเย่ชิวหมิงจะนำกองทหารที่เหลืออยู่ในเมืองหลวงตามล่าตระกูลเจียวที่เหลือ และนางก็ไม่จำเป็นต้องเข้าไปแทรกแซงแล้ว“เสวียนถิง ท่านจะออกเดินทางวันนี้ใช่หรือไม่?”เย่เสวียนถิงพยักหน้าเขาเหลือบมองลูกชายอีกสองคนแล้วเดินไป แม้เขาจะไม่ได้กอดพวกเขา แต่อย่างน้อยก็ลูบหัวพวกเขาลูกชายคนโตเหมือนเขามากกว่าใบหน้าเล็ก ๆ ที่อ้วนท้วนเริ่มเป็นรูปเป็นร่างแ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 803

    เย่เสวียนถิงออกบ้านมานานถึงเพียงนี้ ทำได้แค่คอยไปแอบมองเด็ก ๆ ลับหลังเท่านั้น และไม่เคยแม้แต่จะเข้าไปอยู่ใกล้เด็ก ๆ เลยคราวนี้เขาถอดหน้ากากออกเพื่อเปิดเผยตัวตน ซึ่งทำให้หลายคนในห้องตกใจอวิ๋นจื่อและอวิ๋นชิงก้าวไปมองเย่เสวียนถิงด้วยสีหน้าตกใจซูชิงอู่เห็นเขายืนอยู่ข้างเตียงด้วยความระมัดระวัง และเห็นสายตาท่าทางของเขาที่กำลังจับจ้องไปเด็ก ๆ นางจึงยื่นตัวเจ้าหนูคนเล็กส่งให้อีกฝ่าย“มาสิ อุ้มลูกสาวท่านหน่อย”เด็กหญิงตัวเล็กผู้มีพี่ชายสองคนที่เกิดในเดือนเดียวกันหลังจากการเปลี่ยนแปลงภายในไม่กี่เดือน จากรูปร่างที่เล็กและบอบบางในตอนแรก นางก็กลายเป็นตุ๊กตากระเบื้องที่แกะสลักด้วยหยกสีชมพูลักษณะหน้าตาของนางเหมือนซูชิงอู่มากกว่าอย่างเห็นได้ชัดดวงตาที่คล้ายองุ่นสีดำคู่นั้นงดงามราวกับอัญมณีที่บริสุทธิ์ที่สุดในใต้หล้าเย่เสวียนถิงรู้ดีอยู่แล้วเกี่ยวกับสถานการณ์ของเจ้าหนูคนเล็ก และใจของเขาก็ห่อเหี่ยวทันทีเมื่อเขานึกถึงการที่ซูชิงอู่เกือบจะประสบเหตุตอนที่นางให้กำเนิดเด็กคนนี้เขาแตะปลายจมูกของเจ้าหนูคนเล็กอย่างระมัดระวังสัมผัสที่นุ่มนวลและละเอียดอ่อนทำให้หัวใจของเขารู้สึกอบอุ่น“ฮัดชิ่ว

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 802

    เย่เสวียนถิงไม่ได้อธิบายอะไรมาก แต่ยังไว้ซึ่งท่าทีเคารพนอบน้อม “เสด็จแม่ทรงไม่ต้องกังวลพ่ะย่ะค่ะ”“แม่จะไม่กังวลได้อย่างไร”ซูไทเฮาตอบกลับ แต่นางก็รู้เช่นกันว่านางทำอะไรไม่ได้ “ตอนนี้เจ้ากลับมาเช่นนี้ หลายคนก็น่าจะเห็นแล้ว เจ้าไม่กลัวว่าจะเกิดปัญหาอะไรขึ้นหากทางชายแดนได้รับข่าวหรือ?”เย่เสวียนถิงพยักหน้าเบา ๆ "กลับมาคราวนี้ ประการแรกก็เพื่อความปลอดภัยของอาอู่ และประการที่สอง เพื่อล่องูออกจากรูและจู่โจมโดยไม่ให้ตั้งตัว ไม่สำคัญว่ากระหม่อมจะอยู่ที่ชายแดนหรือไม่ ขอเพียงกระหม่อมปรากฏตัวในเวลาที่เหมาะสมก็พอพ่ะย่ะค่ะ”ซูไทเฮาตกตะลึง “ช่างเถอะ ข้าก็ค่อยไม่เข้าใจกลยุทธ์ในสนามรบของพวกเจ้านัก ขอเพียงพวกเจ้าทุกคนปลอดภัย ก็ดียิ่งกว่าสิ่งอื่นใดแล้ว"ซูไทเฮายังไม่รู้ว่าเจียวกุ้ยเฟยทำอะไรลงไป เมื่อซูชิงอู่ตามเข้าไปข้างใน นางก็เล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นก่อนและหลังให้ซูไทเฮาฟังเมื่อซูไทเฮาได้ยินว่าเจียวกุ้ยเฟยแอบพาสตรีนางหนึ่งที่กำลังตั้งครรภ์ออกจากพระราชวัง และซ่อนนางไว้ในสำนักสงฆ์ฮุ่ยชิง ดวงตาของนางก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด“หรือที่ตระกูลเจียวทำเช่นนี้เพราะต้องการก่อกบฏ?”ซู

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 801

    ทหารม้าของตระกูลหลิ่วและเมืองฉีต่างหิวโหย พวกเขาเร่งฝีเท้าตามมาทันที เพื่อเตรียมหาสถานที่พักฟื้นเมื่อเย่ชิวหมิงเห็นภาพนี้ นิ้วมือของเขาที่ปล่อยอยู่ข้างลำตัวก็กระชับขึ้นเล็กน้อยเขามองลงไปที่พื้น “ศพทั้งหมดในสำนักสงฆ์ฮุ่ยชิงถูกกำจัดไปแล้วหรือยัง?"“ทูลฝ่าบาท จัดการเรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะ ทุกศพถูกรวมไว้ด้วยกันและให้คนนำไปฝังแล้วพ่ะย่ะค่ะ”คนที่ส่งข่าวหยุดชะงักและถามว่า “มีอยู่หนึ่งศพที่กระหม่อมและคนอื่น ๆ ไม่สามารถตัดสินใจได้ ขอฝ่าบาทโปรดทรงช่วยตัดสินใจด้วยพ่ะย่ะค่ะ”ศพหนึ่งถูกลากมาศพมีเลือดออกจากทุกช่องทวาร และมีคราบเลือดทั่วร่างกายขุนนางชันสูตรศพผู้หนึ่งก้าวไปข้างหน้าเพื่อตรวจสอบศพแล้วจึงรายงานด้วยเสียงแผ่วเบา “ฝ่าบาท สตรีนางนี้ตั้งครรภ์ได้เกือบสามเดือนแล้ว และนางก็สวมหน้ากากหนังมนุษย์ด้วยพ่ะย่ะค่ะ”ขณะที่ขุนนางชันสูตรพูด เขาก็ถอดหน้ากากหนังมนุษย์บนใบหน้าของอีกฝ่ายออกอย่างระมัดระวัง และเผยให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของนางนางเป็นสตรีที่มีรูปร่างหน้าตาค่อนข้างงดงามเพียงแต่ว่าสภาพการตายของนางในเวลานี้ช่างน่าสังเวชอย่างยิ่ง สีหน้าของนางบิดเบี้ยว ริมฝีปากสีแดงของนางกลายเป็นสีดำ แ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 800

    ความรู้สึกนี้ว่างเปล่าเล็กน้อย และซูชิงอู่ก็รีบเดินออกจากประตูบ้านทันทีและมองออกไปข้างนอกเมื่อมองที่นี่ในเวลากลางวัน ทิวทัศน์ก็งดงามเป็นพิเศษไม่ง่ายเลยที่จะหาสถานที่เช่นนี้ในเขตชานเมืองซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวงได้นางรีบวิ่งออกไป ไม่ไกลนัก นางเห็นเย่เสวียนถิงนำม้ามาที่นี่ เขาเร่งฝีเท้าเข้ามาหานาง พลางยื่นมืออุ้มนางขึ้นหลังม้า“เสวียนถิง ไปเอาม้ามาจากไหน?”เย่เสวียนถิงพูดข้างหูของนาง “เย่ชิวหมิงให้คนส่งมาให้”เมื่อได้ยินชื่อนี้ ซูชิงอู่ก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “เขาน่าจะรู้เรื่องเกี่ยวกับสำนักชีฮุ่ยชิงอันแล้ว ไปหาเขากันเถอะ"เย่เสวียนถิงไม่ได้สวมหน้ากาก และใบหน้าที่หล่อเหลาอย่างยิ่งของเขาก็ถูกเปิดเผยต่อหน้าทุกคนอย่างน่าประทับใจกองทัพเมืองฉีรู้ตัวตนของท่านอ๋องมานานแล้ว ดังนั้นสีหน้าท่าทางของพวกเขาจึงเป็นธรรมชาติมาก ทว่าเหล่าแม่ทัพและรองแม่ทัพที่ยืนอยู่ด้านหลังเย่ชิวหมิงต่างก็เบิกตากว้าง“ทะ...ท่านอ๋องเสวียน!”“เหตุใดเขาถึงอยู่ที่นี่ล่ะ?”"หากอ๋องเสวียนอยู่ในเมืองหลวง แล้วที่ชาย..."ดวงตาของทุกคนเบิกกว้างด้วยความเหลือเชื่อมีเพียงเย่ชิวหมิงเท่านั้นที่พอจะคาดเดาความจริงได้แล้

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 799

    ซูชิงอู่คว้าเสื้อคลุมที่เขาสวมบนตัวนางแล้วถามอย่างไม่สบายใจว่า “แล้วท่านล่ะ?"เย่เสวียนถิงหลุบสายตาลงเล็กน้อย มีแสงจันทร์สะท้อนในดวงตาของเขา "บนภูเขาไม่ปลอดภัย ข้าจะเฝ้าอยู่ข้างนอก"ซูชิงอู่ไม่ถามอะไรอีก นางเดินไปที่บ่อน้ำและถอดเสื้อผ้าของนางออกหากเย่เสวียนถิงไม่อยู่ที่นี่ นางคงไม่สามารถอาบน้ำในป่าได้ง่าย ๆเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายอยู่ใกล้ ๆ ซูชิงอู่จึงรู้สึกค่อนข้างปลอดภัยหลังจากอาบน้ำเสร็จก็เห็นเสื้อผ้าวางอยู่บนฝั่งขนาดกำลังพอดีสำหรับนาง ราวกับมันถูกเตรียมไว้เพื่อนางโดยเฉพาะหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้ตั้งอยู่บนไหล่เขาขนาดไม่ใหญ่นัก นอกจากบ่อน้ำพุร้อนที่อยู่ในบริเวณบ้านพักแล้ว ก็มีบ้านเพียงห้าหลังเท่านั้นบ้านที่อยู่ตรงกลางคือหลังที่ใหญ่ที่สุด ซูชิงอู่เดินเข้ามาด้วยความอยากรู้อยากเห็นก็พบว่าข้างในบ้านตกแต่งเรียบง่ายและสะอาดสะอ้านเดินเข้าไปข้างในก็คือบ้านที่ใช้อยู่อาศัย มีเตียงขนาดใหญ่วางอยู่ตรงกลาง นอกจากตรงจุดนี้ที่ได้รับการทำความสะอาดแล้ว ส่วนอื่น ๆ ก็ถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่นหนาเป็นชั้น เห็นได้ชัดว่าเย่เสวียนถิงเข้ามาทำความสะอาดให้เมื่อครู่ซูชิงอู่รู้สึกอบอุ่นใจทว่านางไม่ได้ออกปาก

DMCA.com Protection Status