เมื่อคนทั้งสองมาถึง ทหารที่อยู่ใกล้ ๆ ก็วางร่างลงบนพื้นแล้วถอยออกไปเซียวเฝิงที่ยืนเฝ้าพร้อมดาบยาวในอ้อมแขน เมื่อเขาเห็นคนทั้งสองคนเข้ามาใกล้ เขาก็หลีกทางให้พื้นที่เล็ก ๆ ทันที“ท่านอ๋อง คนผู้นี้กลายเป็นเช่นนี้ไปแล้ว ยังต้องสืบสวนอะไรเพิ่มอีกหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เขาได้นำคนไปตรวจค้นร่างกายของคนผู้นี้อย่างละเอียดแล้ว อาจกล่าวได้ว่านอกจากสิ่งของทั่วไปบางอย่างที่เขาพกติดตัวก็ไม่มีอะไรน่าสงสัยซูชิงอู่มองไปและเห็นว่าศพบนพื้นมีสีเขียวคล้ำและแขนขายังแข็งทื่ออีกด้วยผิวหนังเป็นสีเขียวคล้ำ มีบาดแผลลึกที่คอและเลือดแห้งไม่ว่าจะเป็นสาเหตุการตายหรืออาการอื่น ๆ ก็สามารถรู้ได้ทันทีโดยไม่ต้องตรวจสอบซูชิงอู่จ้องมองใบหน้าของคนผู้นั้นอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจู่ ๆ ก็หยิบขวดยาออกมาจากอ้อมแขนของตนนางเทยาลงบนใบหน้าของคนผู้นั้นต่อหน้าทุกคนจากนั้นดวงตาของเซียวเฝิงก็เบิกกว้างเพราะในไม่ช้าก็มีชั้นผิวหนังปรากฏขึ้นบนใบหน้าของผู้ตาย เหมือนกับงูลอกคราบ แลดูน่ากลัว“นะ…นี่มันเกิดอะไรขึ้น เหตุใดผิวหนังของคนผู้นี้ถึงได้หนาถึงเพียงนี้? ไม่จริง…”เซียวเฝิงพูดด้วยความประหลาดใจ ขณะนั้นเขาก็เดินไปและค่อย ๆ เขี่ยผิว
เหตุการณ์ทำนองนี้คิด ๆ ไปก็น่ากลัวมากและเกิดขึ้นบ่อยจนยากที่จะป้องกันใครจะคิดว่าคนที่ต่อสู้เคียงข้างกันเมื่อวานจะกลายเป็นศัตรูในวันต่อมา?ซูชิงอู่เงียบ จากนั้นก็พูดอย่างปลอบใจ "ข้ามีข่าวดี"เซียวเฝิงหันหน้าทันทีพลางมองมาที่พระชายาอย่างคาดหวังซูชิงอู่พูดว่า “นั่นก็คือหน้ากากหนังมนุษย์ชนิดนี้ถูกสร้างขึ้นมาอย่างละเอียดพิถีพิถันและทำจากวัสดุพิเศษ ซึ่งหายากมากและไม่สามารถใช้ในขนาดที่ใหญ่ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนที่จะปลอมตัวเป็นบุคคลอื่น จะต้องมีรายละเอียดของใบหน้าที่ชัดเจนของบุคคลนั้นด้วย”เซียวเฝิงเงียบไปครู่หนึ่ง “นี่ดูเหมือนจะไม่ใช่ข่าวดีนะพ่ะย่ะค่ะ"ซูชิงอู่เกาจมูกของนางแล้วพูดว่า "ข้าก็กำลังบอกเจ้าว่าบรรดาทหารทั่วไปเหล่านั้นจะไม่ถูกคนปลอมแปลงตัวมามากมายขนาดนั้น เพียงแค่เจ้าระวังคนที่อยู่ข้างกายก็พอ"เซียวเฝิง "..."หากแม้แต่ทหารทั่วไปก็ยังถูกแทนที่ เช่นนั้นก็ไม่ต้องรบกันแล้วล่ะ ยอมแพ้ไปเถิดเมื่อซูชิงอู่เห็นสีหน้าของอีกฝ่านก็อดที่จะหัวเราะเบา ๆ ไม่ได้ นางไม่กลัวเลยที่แคว้นอู๋ตะวันตกใช้อุบายนี้ขอเพียงพบเจอมันก่อนและเพิ่มความระมัดระวัง หากคนที่คุ้นเคยรอบตัวถูกแทนที่ ก็ใช่ว่าจ
ซูชิงอู่ส่ายหัว “แม้ข้าจะเชื่อในความแข็งแกร่งขององครักษ์เงาลำดับที่สิบเจ็ด แต่ยิ่งมีคนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้น้อยลงเท่าไรก็ยิ่งดี”แม้องครักษ์เงาลำดับที่สิบเจ็ดสามารถปลอมตัวและแอบเข้าไปได้ แต่สิ่งของที่เขาใช้ในการปลอมตัวนั้นนางก็ต้องจัดเตรียมเอาไว้ล่วงหน้าหากให้เขาทำเอง คงทำได้ไม่ดีแน่สิ่งนี้ต้องใช้ทักษะที่แม่นยำเป็นพิเศษ และต้องจำทุกรายละเอียดบนใบหน้าของอีกฝ่าย ไม่เช่นนั้นความลับจะถูกเปิดเผยแต่นางแตกต่างออกไปนางมีทักษะในการปลอมตัวเป็นอย่างมาก และสามารถใช้วัสดุเพื่อเปลี่ยนเป็นบุคคลอื่นได้ภายในเวลาเพียงนิดเดียวดังนั้น องครักษ์เงาลำดับที่สิบเจ็ดและคนอื่น ๆ จะสามารถเข้าถึงได้เฉพาะวงนอกเท่านั้น แต่นางสามารถเข้าถึงคนใหญ่คนโตไปอยู่ข้างหายพวกเขาได้รวดเร็วที่สุดในเมื่อจะแก้แค้น การฆ่าลิ่วล้อจะไปมีประโยชน์อะไร?หากจะจับ ก็ต้องจับองค์รัชทายาทแห่งแคว้นอู๋ตะวันตก หรือลงมือจัดการเหยียนจั๋วไปเลยเมื่อเห็นว่าซูชิงอู่ตัดสินใจแล้ว เย่เสวียนถิงก็หลุบตาลงเล็กน้อยแล้วพูดว่า "ได้ เช่นนั้นข้าจะไปกับเจ้าด้วย"เมื่อซูชิงอู่ได้ยินเช่นนั้น นางก็เงยหน้ามองเย่เสวียนถิง“ท่านอ๋อง!”นางไม่ต้องการให
ซูชิงอู่กำลังตั้งครรภ์ ทว่าอุ้มท้องมาสามปีกลับไม่เกิดอันใดขึ้นเลยนั่นเพราะทารกตายทั้งกลมไปนานแล้วซูชิงอู่สวมเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง ท้องน้อยนูนป่องมีเลือดปนหนองส่งกลิ่นเน่าเหม็นไหลมิหยุดราวกับสัตว์ประหลาดมีเพียงม่านตาดำขลับคู่นั้นที่ยังคงเด่นชัดสุกสกาว ราวกับน้ำค้างแข็งอันสว่างบริสุทธิ์สุดใต้นภานางเดินพลางใช้สองมือคลึงเคล้าหน้าท้องเบา ๆ พร้อมเสียงแหบฟังไม่รื่นหู“ลูกเอ๋ย แม่มาล้างแค้นให้เจ้าแล้ว”ซูชิงอู่ผู้ถูกจองจำอยู่คุกอันห่างไกลของวังหลวงและต้องกลายเป็นหนูทดลองมาตลอดสามปีเต็มเป็นอิสระแล้ว!ไฟโหมกระหน่ำเบื้องหลังกำลังแผดเผาพระราชวังอันเรืองรองอย่างไม่หยุดยั้ง แสงเพลิงส่องสว่างท่วมฟ้ายามค่ำคืนใบหน้าศพทรมานบิดเบี้ยวนอนราบภายในพระราชวังร่างแล้วร่างเล่า…“ซูชิงอู่ ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ ข้าจะให้เจ้าทุกอย่าง เจ้ามิใช่ว่าชอบพี่อวิ๋นถูหรือ? ข้าจะยกให้เจ้า ข้าจะยกให้เจ้าดีหรือไม่?!”ฮองเฮาซูเชียนหลิงผู้สูงศักดิ์สวมเสื้อคลุมลายหงส์ ศีระซึ่งประดับด้วยปิ่นหงส์โขกกับพื้นอย่างไม่หยุดหย่อน“บุรุษที่เจ้ากำลังพูดถึงน่ะหรือ?”น้ำเสียงซูชิงอู่แหบแห้งฟังไม่รื่นหู ราวกับเส้นเสียงฉีกขาดทั้ง
“พระชายา ยาขับเลือดต้มได้ที่แล้วเพคะ…”เสียงคุ้นเคยระลอกหนึ่งดังข้างหูซูชิงอู่นอนอยู่บนเตียงลืมตาด้วยความตกตะลึง เอียงศีรษะมองไปข้างเตียงอย่างเหลือเชื่อ แม่นมหลินที่ควรจะเสียชีวิตไปนานแล้วกำลังยกยาต้มมาให้นางยันกายลุกขึ้นพลางมองไปรอบตัว ทั่วห้องล้วนเป็นสีแดง บนหน้าต่างแปะอักษรมงคล 'มีสุข' แผ่นใหม่เอี่ยมชุดแต่งงานหลายตัวทิ้งอยู่บนพื้นกระจัดกระจาย ซูชิงอู่รู้กระจ่างได้ทันทีว่าที่นี่คือเรือนหอนางปวดเมื่อยทั้งตัวราวกับโดนหินทับก็มิปานครั้นหวนนึก ความทรงจำในสมองก็ยิ่งปรากฏชัดขึ้นนางย้อนกลับมายังเจ็ดปีก่อน จนวันนี้ที่เพิ่งตบแต่งกับเย่เสวียนถิงไม่นึกฝันว่า…นางจะได้เกิดใหม่!สายตาของซูชิงอู่ทำให้มือที่ยกชามยาของแม่นมหลินสั่นเทาอย่างอดไม่ได้เพราะดวงตาคู่นั้นของนางผิดแผกไปจากเดิม คล้ายสามารถมองทะลุหัวใจนางได้ในพริบตาเดียวแม่นมหลินผืนยิ้มพลางส่งชามยาไปให้ผู้เป็นเจ้านาย “คุณหนู หากยังมิรีบดื่ม ยาจักเย็นนะเจ้าคะ…”ซูชิงอู่มองอย่างไม่ละสายตา ก่อนเอื้อมมือรับชามยาไว้อย่างใจเย็นนางกำลังจะทำบางอย่าง แต่ขณะนั้นเอง ประตูหอนอนก็ถูกคนถีบให้เปิดออกกระทันหัน!ซูชิงอู่เงยหน้ามองก็เห็นช
วันนี้ที่นางได้แต่งงานกับเย่เสวียนถิงเป็นเพราะนางถูกโจรลักพาตัวเมื่อหนึ่งเดือนก่อนหลังถูกช่วยกลับมา จู่ ๆ แต้มพรหมจรรย์ก็หายไปเสียอย่างนั้นฮองเฮาทรงพิโรธหนัก มีพระราชเสาวนีย์ถอนหมั้นนางกับเย่อวิ๋นถูด้วยพระองค์เองทันใดนั้นนางที่เป็นบุตรีภรรยาเอกจากตระกูลผู้ลากมากดีอันเลื่องชื่อแห่งจวนอัครเสนาบดีก็ผันเปลี่ยนกลายเป็นขี้ปากทุกคน…อย่างไรเสียเมื่อนางตกอยู่ในคำครหาเหล่านั้น จู่ ๆ เย่เสวียนถิงก็ขอพระราชโองการอภิเษกสมรส มิรู้ว่าเขาใช้วิธีใดให้ฝ่าบาทผ่อนปรนตกปากรับคำอย่างเหนือความคาดหมายทุกคนในเมืองหลวงต่างทราบว่าองค์ชายใหญ่กับองค์ชายสามคือผู้มีโอกาสเป็นว่าที่ฮ่องเต้ที่สุดส่วนอ๋องเย่อวิ๋นถิง บัดนี้เป็นได้เพียงคนขาพิการ ทั้งยังเป็นคนไร้ค่าที่สูญเสียอำนาจทางการทหารไปอีกด้วยมารดาผู้ให้กำเนิดเขามีฐานะเพียงสนมผู้ต่ำต้อย หากไม่ถูกส่งต่อให้พระชายาตำแหน่งซูเฟยที่ไร้ทายาทตั้งแต่ครั้งวัยเยาว์ เกรงว่าคงไม่อาจเงยหน้าอ้าปากได้ชั่วชีวิต!ซูชิงอู่ยกมือขึ้นพลางไล้ปลายนิ้วไปที่คิ้วตาของเย่อวิ๋นถิงอย่างแผ่วเบา“คนเดียวไม่พอหรอก อนาคตพวกเราจะให้กำเนิดสักสองสามคน ไม่รู้ว่าท่านชอบลูกชายหรือลูกสาว...”
ซูชิงอู่อดรนทนเกี่ยวพันตัวเองกับเย่เสวียนถิงไม่ไหว แต่ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าแผ่มานอกประตูหญิงรับใช้คนหนึ่งรายงานอยู่นอกประตู“กราบทูลท่านอ๋องและพระชายา ภายในวังได้จัดเตรียมรถม้าให้แก่ท่านและพระชายาเพื่อเข้าวังร่วมคารวะบรรดาพระสนมยามเช้าเพคะ!”ในชาติก่อน เมื่อคืนในครานั้นนางถูกคนวางยานอนทรมานทั้งคืน ครั้นรุ่งเช้าเกือบดื่มยาหยุดครรภ์คร่าชีวิต เพิ่งแต่งงานวันแรกก็ไม่ได้ไปวังหลวงน้อมคารวะตามประเพณีตามธรรมเนียมในวัง เจ้าสาวของราชวงศ์ที่เพิ่งอภิเษกเข้า วันแรกต้องเยี่ยมเยียน คารวะพระสนมทุกตำหนัก นางไม่เพียงฝ่าฝืนประเพณียังทำให้เย่เสวียนถิงแบกรับแรงกดดันมากโขซูชิงอู่เพิ่งจะลุกขึ้นกลับได้ยินเย่เสวียนถิงเปิดปากตอบ“ประเดี๋ยวข้าจะไปคารวะท่านแม่เอง”นางรับใช้รายงานต่อเนื่อง เย่เสวียนถิงบ่ายหน้ามองยังซูชิงอู่ “อยู่จวนพักผ่อนให้ดี ข้าจะรีบไปรีบกลับ”ซูชิงอู่ฉงนพักหนึ่ง “สุขภาพข้าดีขึ้นแล้ว”เย่เสวียนถิงเงียบลง แต่ยังคงยืนกราน “ในวังมีแต่เรื่องหยุมหยิมยุ่งยาก ข้าไม่อยากให้เจ้ารู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ”ถึงอย่างไรชื่อเสียงของซูชิงอู่ก่อนตบแต่งกับเขาก็ถูกทำลายจนไม่เหลือชิ้นดี เข้าวังเที่ยว
ภายในตำหนักจิ้งอี๋ "ท่านอ๋องเสวียนและพระชายาเสวียนเสด็จแล้ว!" ซูเฟยหลินหรงเสวี่ยที่ประทับอยู่ตรงที่นั่งตำแหน่งประธานรอคอยมาได้สักพักแล้ว พยักหน้าเบา ๆ "เรียกให้เข้าเฝ้าได้" คนทั้งสองเดินเข้าประตูมาพร้อมกัน เย่เสวียนถิงได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ขาข้างซ้าย ดังนั้นเขาจึงเดินกะโผลกกะเผลกอย่างเห็นได้ชัด ถึงแม้ว่าจะมิได้ส่งผลต่อการเคลื่อนไหว แต่ก็ทำให้เขากลายเป็นคนร่างกายไม่สมประกอบไปเสียแล้ว ซูชิงอู่ที่แต่งกายด้วยชุดของราชสำนักอันงามวิจิตร ช่วยประคองแขนของเย่เสวียนถิงด้วยท่าทีใกล้ชิดสนิทสนม เมื่อมีนางคอยช่วยประคับประคอง ก็ทำให้เย่เสวียนถิงเดินเหินได้สะดวกขึ้นอย่างมาก ยามที่ผู้คนรอบตำหนักเห็นคนทั้งคู่รักใคร่ลึกซึ้งกันเพียงนั้น พวกเขาก็ตะลึงงันไปชั่วครู่ สตรีแต่งกายงดงามทั้งสองนางที่ยืนอยู่ข้างหลังซูเฟย ดวงตาเบิกกว้างด้วยความเหลือเชื่อ ขณะที่ซูชิงอู่เดินเข้ามาในตำหนัก นางก็มองประเมินคนทั้งสองคนที่อยู่ตรงหน้า สตรีวัยกลางคนท่าทางสูงศักดิ์สง่างาม สวมชุดกระโปรงดอกกุหลาบสีแดงพร้อมแถบคาดศีรษะสีทอง ผู้นั่งอยู่ตรงตำแหน่งประธานคือซูเฟย ซึ่งเป็นตำแหน่งพระชายาลำดับที่สอง โดยมีสตรีสองนาง
ซูชิงอู่ส่ายหัว “แม้ข้าจะเชื่อในความแข็งแกร่งขององครักษ์เงาลำดับที่สิบเจ็ด แต่ยิ่งมีคนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้น้อยลงเท่าไรก็ยิ่งดี”แม้องครักษ์เงาลำดับที่สิบเจ็ดสามารถปลอมตัวและแอบเข้าไปได้ แต่สิ่งของที่เขาใช้ในการปลอมตัวนั้นนางก็ต้องจัดเตรียมเอาไว้ล่วงหน้าหากให้เขาทำเอง คงทำได้ไม่ดีแน่สิ่งนี้ต้องใช้ทักษะที่แม่นยำเป็นพิเศษ และต้องจำทุกรายละเอียดบนใบหน้าของอีกฝ่าย ไม่เช่นนั้นความลับจะถูกเปิดเผยแต่นางแตกต่างออกไปนางมีทักษะในการปลอมตัวเป็นอย่างมาก และสามารถใช้วัสดุเพื่อเปลี่ยนเป็นบุคคลอื่นได้ภายในเวลาเพียงนิดเดียวดังนั้น องครักษ์เงาลำดับที่สิบเจ็ดและคนอื่น ๆ จะสามารถเข้าถึงได้เฉพาะวงนอกเท่านั้น แต่นางสามารถเข้าถึงคนใหญ่คนโตไปอยู่ข้างหายพวกเขาได้รวดเร็วที่สุดในเมื่อจะแก้แค้น การฆ่าลิ่วล้อจะไปมีประโยชน์อะไร?หากจะจับ ก็ต้องจับองค์รัชทายาทแห่งแคว้นอู๋ตะวันตก หรือลงมือจัดการเหยียนจั๋วไปเลยเมื่อเห็นว่าซูชิงอู่ตัดสินใจแล้ว เย่เสวียนถิงก็หลุบตาลงเล็กน้อยแล้วพูดว่า "ได้ เช่นนั้นข้าจะไปกับเจ้าด้วย"เมื่อซูชิงอู่ได้ยินเช่นนั้น นางก็เงยหน้ามองเย่เสวียนถิง“ท่านอ๋อง!”นางไม่ต้องการให
เหตุการณ์ทำนองนี้คิด ๆ ไปก็น่ากลัวมากและเกิดขึ้นบ่อยจนยากที่จะป้องกันใครจะคิดว่าคนที่ต่อสู้เคียงข้างกันเมื่อวานจะกลายเป็นศัตรูในวันต่อมา?ซูชิงอู่เงียบ จากนั้นก็พูดอย่างปลอบใจ "ข้ามีข่าวดี"เซียวเฝิงหันหน้าทันทีพลางมองมาที่พระชายาอย่างคาดหวังซูชิงอู่พูดว่า “นั่นก็คือหน้ากากหนังมนุษย์ชนิดนี้ถูกสร้างขึ้นมาอย่างละเอียดพิถีพิถันและทำจากวัสดุพิเศษ ซึ่งหายากมากและไม่สามารถใช้ในขนาดที่ใหญ่ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนที่จะปลอมตัวเป็นบุคคลอื่น จะต้องมีรายละเอียดของใบหน้าที่ชัดเจนของบุคคลนั้นด้วย”เซียวเฝิงเงียบไปครู่หนึ่ง “นี่ดูเหมือนจะไม่ใช่ข่าวดีนะพ่ะย่ะค่ะ"ซูชิงอู่เกาจมูกของนางแล้วพูดว่า "ข้าก็กำลังบอกเจ้าว่าบรรดาทหารทั่วไปเหล่านั้นจะไม่ถูกคนปลอมแปลงตัวมามากมายขนาดนั้น เพียงแค่เจ้าระวังคนที่อยู่ข้างกายก็พอ"เซียวเฝิง "..."หากแม้แต่ทหารทั่วไปก็ยังถูกแทนที่ เช่นนั้นก็ไม่ต้องรบกันแล้วล่ะ ยอมแพ้ไปเถิดเมื่อซูชิงอู่เห็นสีหน้าของอีกฝ่านก็อดที่จะหัวเราะเบา ๆ ไม่ได้ นางไม่กลัวเลยที่แคว้นอู๋ตะวันตกใช้อุบายนี้ขอเพียงพบเจอมันก่อนและเพิ่มความระมัดระวัง หากคนที่คุ้นเคยรอบตัวถูกแทนที่ ก็ใช่ว่าจ
เมื่อคนทั้งสองมาถึง ทหารที่อยู่ใกล้ ๆ ก็วางร่างลงบนพื้นแล้วถอยออกไปเซียวเฝิงที่ยืนเฝ้าพร้อมดาบยาวในอ้อมแขน เมื่อเขาเห็นคนทั้งสองคนเข้ามาใกล้ เขาก็หลีกทางให้พื้นที่เล็ก ๆ ทันที“ท่านอ๋อง คนผู้นี้กลายเป็นเช่นนี้ไปแล้ว ยังต้องสืบสวนอะไรเพิ่มอีกหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เขาได้นำคนไปตรวจค้นร่างกายของคนผู้นี้อย่างละเอียดแล้ว อาจกล่าวได้ว่านอกจากสิ่งของทั่วไปบางอย่างที่เขาพกติดตัวก็ไม่มีอะไรน่าสงสัยซูชิงอู่มองไปและเห็นว่าศพบนพื้นมีสีเขียวคล้ำและแขนขายังแข็งทื่ออีกด้วยผิวหนังเป็นสีเขียวคล้ำ มีบาดแผลลึกที่คอและเลือดแห้งไม่ว่าจะเป็นสาเหตุการตายหรืออาการอื่น ๆ ก็สามารถรู้ได้ทันทีโดยไม่ต้องตรวจสอบซูชิงอู่จ้องมองใบหน้าของคนผู้นั้นอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจู่ ๆ ก็หยิบขวดยาออกมาจากอ้อมแขนของตนนางเทยาลงบนใบหน้าของคนผู้นั้นต่อหน้าทุกคนจากนั้นดวงตาของเซียวเฝิงก็เบิกกว้างเพราะในไม่ช้าก็มีชั้นผิวหนังปรากฏขึ้นบนใบหน้าของผู้ตาย เหมือนกับงูลอกคราบ แลดูน่ากลัว“นะ…นี่มันเกิดอะไรขึ้น เหตุใดผิวหนังของคนผู้นี้ถึงได้หนาถึงเพียงนี้? ไม่จริง…”เซียวเฝิงพูดด้วยความประหลาดใจ ขณะนั้นเขาก็เดินไปและค่อย ๆ เขี่ยผิว
ซูชิงอู่ตกตะลึงไปชั่วขณะ จากนั้นจึงหลุบตาลงนางพอจะมีกลอุบายเล็ก ๆ อยู่บ้าง แต่ในฐานะที่นางเพิ่งกลับมาเกิดใหม่ นอกจากการใช้หนอนกู่และยาพิษบางชนิดได้ นางก็ไม่มีข้อได้เปรียบอื่นใดที่อยู่เหนือผู้อื่นการไม่มีเส้นสายถือเป็นข้อเสียเปรียบที่ใหญ่ที่สุดของนางนอกเหนือจากแหล่งข้อมูลแล้ว นางพึ่งพาเย่เสวียนถิงมากที่สุด ในแง่ของความแข็งแกร่ง นางไม่สามารถเปรียบเทียบกับตระกูลมู่หรงและตระกูลเจียวที่แอบฝึกฝนคนสนิทของพวกเขามาหลายปีการที่สามารถทำลายตระกูลมู่หรงได้นั้นถือเป็นโชคดีเพียงเล็กน้อยนางใช้พิษกับราชครู และสังหารเขาได้สำเร็จหลังจากชนะการต่อสู้ นางได้เปิดเผยความผิดพลาดในอดีตของฮองเฮาและไทเฮาจนสามารถโค่นล้มพวกเขาได้อย่างสมบูรณ์สุดท้าย พวกนางก็ไม่ได้ตายด้วยน้ำมือของตน แต่เป็นเพราะเรื่องสกปรกที่พวกนางเคยทำและทำให้ฝ่าบาททรงขุ่นเคืองส่วนฮ่องเต้เฒ่าก็ถูกลอบวางยาพิษและเสด็จสวรรคตไปอย่างรวดเร็วตั้งแต่ต้นจนจบ นางไม่เคยได้สัมผัสกับความแข็งแกร่งของตระกูลขุนนางด้วยตัวเอง นางเพียงปล่อยให้พวกเขาเข่นฆ่ากันเองจนนำมาสู่สถานการณ์ปัจจุบันเย่เสวียนถิงเฝ้ามองนางจมอยู่ในห้วงความคิดและหัวเราะเบา ๆ “อาอู่
เย่เสวียนถิงรู้ว่าซูชิงอู่กังวลเขาเดินไปข้างนางแล้วพูดเสียงทุ้ม “ข้าถูกลอบสังหารในกองทัพ"วันนี้กองกำลังคุ้มกันเสบียงของซูเชียนหมิงเดินทางมาถึงใกล้กับเมืองซีเป่ยแล้วส่วนเย่เสวียนถิงก็ได้นำกองทหารม้าของเขาไปสกัดกั้นคนของเหยียนจั๋วจากการลอบโจมตีระหว่างทาง อีกทั้งยังประสานงานกับซูเชียนหมิงและคนอื่น ๆซูชิงอู่พยักหน้าเบา ๆ พลางคิดแผนรักษาอาการป่วยของพี่รองของนางก่อนมีคนเรียกแพทย์ทหารทางนั้นมาแล้ว แต่คงต้องใช้เวลาสักระยะกว่าแพทย์จะมาถึงหลังจากที่ซูชิงอู่ตรวจชีพจรของซูเชียนหมิง นางก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย นางก็หยิบยาออกมาแล้วป้อนให้เขาทันทีจากนั้นนางก็เงยหน้ามองไปที่เย่เสวียนถิงพี่รองถูกวางยาพิษ และเลือดที่ไหลออกมาจากไหล่ของเขากลายเป็นสีม่วงดำเย่เสวียนถิงให้ยายืดอายุขัยกับซูเชียนหมิงพิษชนิดนี้จะทำให้คอแห้งและมีเลือดไหล แม้บนตัวของซูเชียนหมิงจะมียาแก้พิษ แต่ก็อาจชะลอการเกิดพิษแทบจะไม่ได้หากเย่เสวียนถิงไม่รีบจัดการให้ก่อน นางอาจจะไม่ได้พบกับพี่รองของนางอีกงานคุ้มกันเสบียงเป็นงานที่อันตรายที่สุด มีเพียงคนที่ไว้ใจได้มากที่สุดเท่านั้นที่ทำได้ ซูชิงอู่แอบกัดฟันเมื่อเห็นใบหน้าซีดเ
สิ่งเดียวที่นางทำได้ในตอนนี้คือลดจำนวนผู้บาดเจ็บให้มากที่สุดและทำให้พวกเขาฟื้นตัวโดยเร็วที่สุดเพื่อจะได้สบายใจกันขึ้นมาบ้างเซียวเฝิงทำงานเร็วมากและนำทุกสิ่งที่ซูชิงอู่ต้องการกลับมาในเช้าวันรุ่งขึ้นแม้ปริมาณของวัตถุดิบยาจะมีไม่มาก แต่ก็สามารถแก้ปัญหาความต้องการเร่งด่วนในปัจจุบันได้ในระยะสั้นซูชิงอู่ไม่เคยกลับไปที่กระโจมทหาร เมื่อนางเห็นเซียวเฝิงเข้ามาใกล้ นางก็ก้าวไปข้างหน้าทันทีเพื่อขอข่าวจากเย่เสวียนถิง“ตอนนี้ท่านอ๋องเป็นอย่างไรบ้าง?”เซียวเฝิงบอกกับซูชิงอู่ทันทีถึงข่าวที่เขาเพิ่งได้รับ “พระชายาโปรดวางใจ หากท่านอ๋องได้ออกโรงเอง เขาจะสังหารทหารศัตรูทุกคนอย่างแน่นอน ท่านอ๋องจะสังหารกลุ่มทหารที่ส่งมาโดยแคว้นอู่ตะวันตกซึ่ง ต้องการแย่งเสบียงให้สิ้นซากพ่ะย่ะค่ะ”ซูชิงอู่อดไม่ได้ที่จะยิ้มมุมปาก“แล้วเขาจะกลับมาเมื่อไร?”เซียวเฝิงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วส่ายหัว "แคว้นอู๋ตะวันตกจะไม่มีวันยอมแพ้หากไม่สามารถหาอาหารได้ สิ่งเดียวที่เราต้องทำตอนนี้คือต้านการโจมตีที่เป็นไปได้ที่อาจเกิดขึ้นต่อไป ขอเพียงกองทัพแคว้นอู๋ตะวันตกหมดแรง เมื่อถึงเวลาท่านอ๋องจะสามารถนำคนไปเอาชนะศัตรูได้อย่างสมบูรณ
เขาไม่กล้าที่จะรอช้าไปกว่านี้ ในใจก็คิดว่าแม่ทัพเซียวจะไม่มีวันสนใจเรื่องนี้ทว่าผลลัพธ์คือดวงตาของเซียวเฝิงเบิกกว้างเมื่อได้ยินข่าว“รีบนำทางไป คนผู้นั้นอยู่ไหน?”นอกจากการพบปะกับท่านอ๋องแล้ว ผู้บังคับบัญชาผู้น้อยก็ไม่เคยเห็นแม่ทัพเซียววิตกกังวลถึงเพียงนี้มาก่อน“ท่านแม่ทัพ คนผู้นั้นยังอยู่ที่ค่ายผู้บาดเจ็บ…”“ข้าจะไปดูเสียหน่อย!”เซียวเฝิงก้าวเข้ามาทันที เมื่อเขามาถึง เขาก็เห็นร่างผอมบางของซูชิงอู่กำลังยุ่งอยู่ในค่ายทหารเมื่อทหารในค่ายเห็นเซียวเฝิง พวกเขาต่างก็อยากจะยืนขึ้นทำความเคารพ แต่เซียวเฝิงก็รีบห้ามไว้“ไม่ต้องสนใจข้า ข้าแค่มาตามหาคน”ขณะที่พูด เขาก็ได้เดินมาอยู่ที่ด้านข้างของซูชิงอู่แล้วในเวลานี้ หมอผู้น้อยกำลังสั่งให้ซูชิงอู่ทำสิ่งต่าง ๆ“ตรงนั้นมีคนสองคนที่ยังไม่กินยา เจ้านำสิ่งนี้ไปส่งตรงนั้น…”เซียวเฝิงรู้สึกตกตะลึงเมื่อเห็นภาพนี้และแอบไพล่มือยกนิ้วโป้งให้หมอผู้น้อยหากเขารู้ความจริงว่าคนที่เขาเพิ่งออกคำสั่งไปคือพระชายา ไม่รู้ว่าเขาจะรู้สึกอย่างไรแต่นี่ก็เป็นเพียงความคิดที่แวบขึ้นมาในใจของเขาและผ่านไปก็เท่านั้นเซียวเฝิงมองซูชิงอู่ที่กำลังยุ่งอยู่กับกา
เวลาไม่คอยท่าวันนี้เย่เสวียนถิงจะหาทางสกัดกั้นและสังหารกองทัพแคว้นอู๋ตะวันตกให้ได้ซูชิงอู่ไม่ได้ตามเขาไป นางไม่ต้องการปรากฏตัวในสนามรบเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเย่เสวียนถิงจากการควบคุมการต่อสู้หลังจากมองเย่เสวียนถิงออกจากค่ายทหารพร้อมกับกองทัพ ซูชิงอู่ก็กลับไปแต่งหน้าที่กระโจมอีกครั้ง จากนั้นก็ปกปิดตัวตนของนางและเดินตรงเข้าไปในค่ายทหารที่นี่นางมีป้ายแขวนเอวที่เซียวเฝิงและเย่เสวียนถิงมอบให้ไว้ นางสามารถเดินไปมาที่นี่ได้ตามใจชอบ เนื่องจากสิ่งนี้เป็นหลักฐานพิสูจน์ตัวตน คนส่วนใหญ่จึงไม่กล้าห้ามนางดังนั้นซูชิงอู่จึงเดินมาทยังค่ายผู้บาดเจ็บที่อยู่ด้านหลังในการสู้รบเมื่อวานนี้ ทั้งสองฝ่ายประสบความสูญเสียอย่างหนัก ทหารที่บาดเจ็บมารวมตัวกันที่นี่ หลายคนนั่งอยู่บนพื้นอย่างระเกะระกะ และไม่มีแม้แต่เตียงแพทย์ที่มากับกองทัพหน้าซีดตาคล้ำ พวกเขามัวแต่สาละวนยุ่งกับการทำงานเมื่อเห็นสถานการณ์ที่น่าเศร้าเช่นนี้ ซูชิงอู่ก็รู้สึกสะเทือนใจ นางจึงเร่งฝีเท้าขึ้นและเดินไปหยิบยาจากมือของหมอทหาร"ข้าช่วย"หมอผู้น้อยอายุเพียงสิบห้าสิบหกปีตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นซูชิงอู่ แต่เขาไม่ได้ห้ามอีกฝ่าย "ท่านช่ว
ทันทีที่เซียวเฝิงพูดจบ ก็มีเสียงดังมาจากข้างหน้าซูชิงอู่ตามเซียวเฝิงไปยังพื้นที่ใกล้เคียงทันที และเห็นคนหลายสิบคนถูกพาออกไปหลังจากที่คนเหล่านั้นถูกจับกุม ใบหน้าของพวกเขากลับไร้ซึ่งความกลัว และดวงตาของพวกเขาก็ดุดันมากซูชิงอู่หรี่ตาลงเล็กน้อยและถามเซียวเฝิงต่อไป "จับสายลับมามากมายถึงเพียงนี้ได้อย่างไร?"เซียวเฝิงลดเสียงลงและตอบว่า "เราส่งสายลับเพิ่มเติมไปยังกองทัพของอีกฝ่ายพ่ะย่ะค่ะ"ซูชิงอู่ "..."“ดังคำที่ว่ารู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้งชะร้อยครั้ง ต้องระวังศัตรูทั้งสองฝ่ายมากน้อยเพียงใด มีบางครั้งแม้ท่านอ๋องจะค้นพบตัวตนของอีกฝ่ายเขาก็จะไม่เปิดเผยแล้วปล่อยให้หูตาเหล่านั้นกระจายข่าวเท็จ นี่เป็นกุญแจสู่ชัยชนะด้วยพ่ะย่ะค่ะ”หลังจากซูชิงอู่ฟังคำอธิบายของเซียวเฝิง ก็มีแสงสลัว ๆ แวบขึ้นมาในดวงตาของนาง การพลิกผันที่เกี่ยวข้องกับการนำกองทหารในการรบนั้นซับซ้อนมากและนี่ไม่ใช่พื้นที่ที่นางสามารถควบคุมได้เย่เสวียนถิงเดินออกจากกองทัพและยืนอยู่ต่อหน้าสายลับที่เผาคลังเสบียงดวงตาเหยี่ยวนั้นเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าอย่างลึกซึ้ง เสียงของเขาเย็นชาและทุ้มต่ำ“คาดไม่ถึงว่าจะเป็นพวกเจ้า”แม้เย่เสวียน