ทันใดนั้นนางก็เข้าใจแล้วว่าเหตุใดราชครูเฒ่าถึงดีใจขนาดนั้นหลังจากที่เขาจับนางได้ในชาติก่อน ที่แท้ก็เป็นเพราะเขาจะได้เรียนรู้ทักษะการใช้กู่ระดับสูงจากนางและกลายเป็นคนระดับสูงในภูเขาศักดิ์สิทธิ์!วิธีการทั้งหมดที่เขาใช้ล้วนมาจากการสั่งสอนของสตรีที่สวมผ้าคลุมหน้า“ทักษะการใช้กู่มีอะไรยาก? ข้าเรียนรู้ด้วยตัวเอง เจ้าจะลองดูก็ได้ว่าทักษะการใช้กู่ของข้าเป็นของจริงหรือไม่...”หนอนกู่เจาะเข้าไปในผิวหนังของราชครูเฒ่าจากนั้นเขาก็ส่งเสียงกรีดร้องราวกับไม่ใช่มนุษย์ออกมาซูชิงอู่กลัวว่าเขาจะเผลอกัดลิ้นตัวเอง นางจึงรีบยัดผ้าเข้าไปในปากของอีกฝ่ายคราวนี้นางรู้สึกสบายหูขึ้นมาก นางนั่งบนเก้าอี้อีกครั้งพลางมองเขาอย่างเงียบ ๆ ด้วยดวงตาราบเรียบชาติก่อนนางถูกหนอนและสัตว์มีพิษเหล่านี้ทรมานมาสามปีเต็ม และมักจะได้เห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มของราชครูเฒ่าในชาตินี้ สิ่งต่าง ๆ กำลังเปลี่ยนแปลงไป ถึงคราวของนางที่จะได้ไล่ชำระแค้นทุกวันนี้เมื่อได้เห็นศัตรูพ่ายแพ้ไปทีละคน ซูชิงอู่ก็รู้สึกใจสงบเป็นอย่างมากไม่มีความสุขหลังจากการแก้แค้นหรือความยินดีปรีดาหลังจากได้ระบาย มีแต่ความผ่อนคลายเท่านั้นใช่แล้ว...เป็นคว
ซูชิงอู่ชะงักไปครู่หนึ่ง นางเดินออกจากห้องและกอดเอวของเย่เสวียนถิงทันที“ข้าไม่ควรขัดคำสั่งท่าน แอบเอาแมลงกู่ออกมา”เย่เสวียนถิงก็ไม่โกรธ เขารู้ว่าซูชิงอู่เป็นคนมีเหตุผล แต่นางได้สัญญากับเขาอย่างชัดเจนในครั้งที่แล้ว แต่คราวนี้นางยังคงใช้กู่เหล่านั้นกับราชครูเฒ่าเขารู้ว่าแมลงเหล่านั้นอันตรายมาก แม้แต่ผู้ใช้กู่ก็เสี่ยงที่จะถูกย้อนพิษซูชิงอู่กะพริบตารีบเปลี่ยนเรื่อง "ท่านอ๋อง ข้าหิวแล้ว"เย่เสวียนถิงขมวดคิ้วครู่หนึ่งแล้วพูดด้วยเสียงต่ำ "เจ้าไปรอในห้อง"เมื่อเห็นท่านอ๋องหันหลังและเดินจากไป องครักษ์เงาสิบเจ็ดก็ไล่ตามเขาไปโดยไม่รู้ตัว“ท่านอ๋อง ยังมีเรื่องอื่นที่ต้องการให้กระหม่อมทำอีกหรือไม่?”เย่เสวียนถิงส่ายหัว เดินต่อไปโดยไม่หยุด "ไม่มี"องครักษ์เงาสิบเจ็ดสับสนเล็กน้อย "ต้องการให้ข้าไปเรียกพ่อครัวเข้ามาหรือไม่?"เพราะตอนนี้ข้างนอกมืดมากแล้วคนรับใช้ทุกคนในคฤหาสน์เข้านอนแล้วหากต้องการทำขนม คงต้องใช้เวลาสักพักในการเรียกพ่อครัวมาเย่เสวียนถิงเหลือบมองไปด้านข้างเขา "เอาเป็นว่าเจ้าตามมาช่วยข้าหน่อย"องครักษ์เงาสิบเจ็ดตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็มีความกระตือรือร้นขึ้นมาทันท
นางจ้องมองที่รูปลักษณ์ของเย่เสวียนถิง รู้สึกว่าไม่ว่าจะมองนานแค่ไหนก็ไม่พอหลังจากผ่านความลำบากในชีวิตครั้งก่อนมา นางก็ตระหนักได้ว่าชีวิตอันสงบสุขในตอนนี้มีค่าเพียงใดซูชิงอู่กัดขนมแป้งข้าวเหนียวไปคำหนึ่ง รสหวานทำให้นางหลับตาพริ้มทันทีทันทีที่นางเงยหน้าขึ้นนางก็เห็นดวงตาของเย่เสวียนถิงตั้งตารอที่จะได้รับคำชม มุมปากของนางยกยิ้มเล็กน้อย และทันใดนั้นนางก็ลุกขึ้นและโน้มตัวไปจูบที่มุมปากของเขา“เป็นยังไงบ้าง หวานไหม?”เย่เสวียนถิงหลุบตาลงเล็กน้อย พลางแตะริมฝีปากของเขาที่ยังมีรสหวานของซูชิงอู่อยู่ พยักหน้าและตอบค่อนข้างจริงจัง"อืม หวานมาก..."ซูชิงอู่แย้มริมฝีปากของนางและลุกขึ้นโดยไม่ลังเลใจ"ยังมีหวานกว่านี้อีก..."…… ราชครูเฒ่าที่เป็นที่ต้องการตัวมาเป็นเวลานานถูกจับกุมและมหาราชครูมู่หรงที่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ถูกจับในข้อหาให้ที่พักพิงผู้ต้องโทษทั้งราชสำนักเห็นชัดว่านี่คือการเล่นงานตระกูลมู่หรงท่าทีขององค์รัชทายาทค่อนข้างชัดเจน บรรดาลูกสมุนของตระกูลมู่หรงเริ่มไม่อาจนั่งนิ่งได้อีกต่อไปขณะที่เย่ชิวหมิงแอบไปหาพวกเขาทีละคนและดึงคนที่สามารถดึงเข้ามาได้ทั้งหมดมาที่ฝั่งตน ส่วนที่เห
เย่เสวียนถิงพยักหน้าและพูดว่า "หากพบแล้ว ให้พานางมาพบข้าทันที"หมอหลวงหิ้วกล่องยาออกไป ซูชิงอู่เอนกายบนตั่งนุ่มและกินของว่างพร้อมพูดว่า "เวลานี้หาคนที่ไม่รู้จักมาอาจเสี่ยงได้ อย่าหาดีกว่า"พูดอย่างนี้ก็มีเหตุผลแต่เย่เสวียนถิงยังคงอยากดูว่า หมอตำแยมือหนึ่งคนนั้นมีฝีมือจริงหรือไม่เป็นการดีที่สุดหากไม่จำเป็นไม่ต้องใช้นาง แต่ต้องเก็บนางเผื่อไว้เย่เสวียนถิงนั่งข้างนาง ลูบศีรษะซูชิงอู่แล้วพูด "ไม่เป็นไร ข้าจะอยู่ข้างเจ้าและก็อาจไม่ต้องใช้นาง ข้าแค่อยากเพิ่มความมั่นใจอีกชั้นหนึ่ง"ซูชิงอู่ถูกเย่เสวียนถิงเกลี้ยกล่อมจนได้นางเข้าใจว่าเย่เสวียนถิงไม่ต้องการให้นางตกอยู่ในอันตรายแม้แต่น้อยเจ้าตัวน้อยในท้องกำลังจะเกิด ซูชิงอู่เต็มไปด้วยความคาดหวัง ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นหรือกังวลเกี่ยวกับการคลอดนางเคยพบเจอสิ่งต่าง ๆ มากมายในชีวิตครั้งก่อน เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้นางไม่สนใจเลยแต่ตอนนี้ไม่มีประโยชน์ที่จะพูดคำดังกล่าวและไม่สามารถบรรเทาความตึงเครียดในใจของเย่เสวียนถิงได้นางทำได้เพียงปลอบใจเขา "ข้าไม่กลัวหรอก ท่านอ๋อง"หมอหลวงหาข้อมูลได้เร็วทีเดียวเขาพบหมอตำแยในตำนานในวันรุ่งขึ้นเย่เ
“เพคะ ขอบคุณท่านอ๋อง ขอบคุณท่านอ๋อง!”หญิงชรารีบขอบคุณเขาทันใดนั้นสีหน้าของนางก็แสดงอาการลังเลเล็กน้อยและพูดว่า "ท่านอ๋อง ข้าน้อยยังมีของบางอย่างอยู่ที่บ้าน ไม่ทราบว่าจะกลับไปเอาได้หรือไม่?"เย่เสวียนถิงถามว่า "มีของอะไรหรือที่ในจวนอ๋องไม่มี?"“ไม่...ไม่ใช่เจ้าค่ะ เพียงแต่มีของบางอย่างที่ข้าน้อยใช้มาหลายสิบปี มันถนัดมือมากกว่า”เย่เสวียนถิงหรี่ตา "เจ้าสิบเจ็ดไปกับนางด้วย เมื่อได้ของมาแล้วต้องตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนเมื่อยืนยันว่าไม่มีอันตรายใดๆ แล้วค่อยนำเข้าจวน!"“พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องวางใจได้!”สำหรับเรื่องใหญ่เช่นนี้ องครักษ์เงาสิบเจ็ดไม่กล้าที่จะละเลยต้องแน่ใจว่าทุกอย่างปลอดภัยมิฉะนั้นหากมีอะไรเกิดขึ้นกับเขา แม้ว่าเขาจะยอมตายเพื่อไถ่โทษก็ยังไม่พอที่จะชดเชยเพราะนี่คือบุตรของท่านอ๋อง!และนั่นคือพระชายา!หากมีปัญหาใดเกิดขึ้น ครั้งนี้อาจมีหลายชีวิตสูญเสียซึ่งเขารับผิดชอบไม่ไหวเจ้าสิบเจ็ดพาหญิงชราออกไป เย่เสวียนถิงเอนกายลงบนเก้าอี้แล้วเคาะนิ้วบนโต๊ะเหตุผลที่ระมัดระวังเช่นนี้เพราะใจของเขากำลังว้าวุ่นเย่เสวียนถิงยกมือขึ้นเพื่อสัมผัสหัวใจของตนเพื่อระงับความรู้สึกไม่สบายใจ
เสียงกลองดังสนั่น มีพรมแดงปูพื้น ขบวนแห่เจ้าสาวและเจ้าบ่าวสวมชุดสีแดงมงคล มีเกี้ยวหลังหนึ่งผ่านหน้าประตูจวนของท่านอ๋องเสวียนพอดีดวงตาของซูชิงอู่เป็นประกาย นางก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงวันที่นางกับเย่เสวียนถิงแต่งงานกันเนื่องจากนางไม่ต้องการแต่งงานกับเย่เสวียนถิง นางจึงทำให้งานแต่งงานยุ่งเหยิงยิ่งนัก ท้ายสุดต้องยุติลงก่อนเวลา จากนั้นเมื่อกลับเข้าห้องแล้วก็โดนวางยา แถมยังเข้าใจเขาผิดอีก...นางถอนหายใจเย่เสวียนถิงยืนอยู่ข้างนาง เมื่อได้ยินนางถอนหายใจก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า "เป็นอะไรไป?"ซูชิงอู่เอ่ยปากพูด "ข้าเสียใจนิดหน่อย"เย่เสวียนถิงเลิกคิ้ว “เจ้าเสียใจเรื่องอะไร”“เสียใจที่ตอนแต่งงานไม่ได้เก็บเกี่ยวโอกาสให้ดี ตอนนี้นึกย้อนกลับไปก็มีแต่ความเสียดาย”เย่เสวียนถิงหัวเราะเบา ๆ "เรื่องนั้นง่ายมาก ข้าให้คนตัดชุดแต่งงานใหม่สองชุด เรามาแต่งงานกันใหม่อีกครั้งดีไหม?"ดวงตาของซูชิงอู่สว่างขึ้นเล็กน้อย "ก็ดี แต่ข้าไม่อยากทำให้คนอื่นวุ่นวายเพราะข้าทำเหมือนเป็นคนทึ่ม"เย่เสวียนถิงลูบหัวของนางด้วยความรัก "ไม่หรอก"ซูชิงอู่หัวเราะออกมาดัง ๆ "คำขอเอาแต่ใจเช่นนี้ท่านก็เห็นด้วยหรือ? มันไม่สมเหตุส
ข้างนอกหมอตำแยและกลุ่มสาวใช้รีบวิ่งเข้ามาข้างใน อวิ๋นจื่อ อวิ๋นชิงนำทุกคนให้ประจำตำแหน่งอย่างเชี่ยวชาญทันทีหญิงสาวตัวเล็ก ๆ ทั้งสองมาหาเย่เสวียนถิงและพูดเบา ๆ "ท่านอ๋อง ท่านต้องออกไปแล้วเพคะ"เย่เสวียนถิงรู้ว่าเขาไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้อีกต่อไป เขาจึงบีบมือของซูชิงอู่แล้วพูดว่า "ข้าอยู่นอกประตูนี่เอง"ซูชิงอู่พยักหน้านางยิ้มให้เขาแล้วพูดว่า "ข้าและลูกจะไม่เป็นอะไร"เย่เสวียนถิงเดินออกไปด้วยฝีเท้าที่หนักอึ้ง เขาเดินวนไปวนมาในลาน ไม่สามารถทำใจให้สงบได้ภายในไม่มีเสียงมากนัก ซูชิงอู่สามารถทนต่อความเจ็บปวดได้ค่อนข้างดี เพื่อไม่ให้เย่เสวียนถิงอยู่ข้างนอกต้องกังวล นางจึงสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อรักษาแรงไว้เวลาแต่ละวินาทีผ่านไปอย่างช้า ๆเย่เสวียนถิงอยู่ในอารมณ์หงุดหงิด รู้สึกเหมือนทุกวินาทียาวนานราวกับหลายปีหมอหลวงซุนหายใจหอบและรีบวิ่งมาพร้อมกับกล่องยา เมื่อเห็นท่านอ๋องที่ยืนอยู่หน้าประตูด้วยบรรยากาศที่เคร่งขรึม ก็รีบพูดว่า "ท่านอ๋องเหตุใดจึงกะทันหันเช่นนี้"ตอนนี้ฟ้ายังไม่มืดวันนี้ยังเป็นงานเลี้ยงอภิเษกสมรสของรัชทายาทที่กำลังดำเนินอยู่หมอหลวงซุนถูกนำตัวมาจากงานเลี้ยงเป็นเจ้
หมอตำแยรู้สึกประหม่าเล็กน้อย นางหายใจเข้าลึก ๆ และช่วยคลอดลูกคนที่สองต่อไป…เสียงร้องไห้ดังยังคงก้องอยู่ในหู อวิ๋นชิงอุ้มทารกเอ่ยข้างหูของซูชิงอู่ "พระชายา เป็นเด็กผู้ชายเพคะ!"ซูชิงอู่ไม่สนใจว่าจะเป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิงตราบใดที่เป็นลูกของนางกับเย่เสวียนถิง ไม่ว่าอย่างไรก็ดีทั้งนั้นอวิ๋นชิงพาเด็กออกจากห้องไป ใบหน้าเต็มไปด้วยความสุข“ท่านอ๋อง พระชายาได้คลอดบุตรชายแล้วเพคะ!”เย่เสวียนถิงเพียงแค่เหลือบมองเด็กแล้วถามทันที "พระชายาเป็นอย่างไรบ้าง?"อวิ๋นชิงพูดอย่างรวดเร็ว "ท่านวางใจได้ ขณะนี้ปลอดภัยทุกอย่าง!"ในที่สุดเย่เสวียนถิงก็สงบลง แต่เขาไม่กล้าแตะต้องเด็กที่เปราะบางและตัวเล็กขนาดนั้น กลัวว่าตัวเองจะไม่ใจเย็นพอและทำให้เด็กบาดเจ็บ“พาเด็กไปก่อน ข้าจะรอพระชายาที่นี่”อวิ๋นชิงรู้ดีว่าท่านอ๋องให้ความสำคัญกับพระชายามากเพียงใดนางไม่แปลกใจกับปฏิกิริยาของท่านอ๋องเลย และอุ้มทารกน้อยไปที่ห้องถัดไปทันทีขณะนั้นข้างนอกมีคนมารอมากมายหลังจากได้รับข่าวที่เกี่ยวข้องกับซูชิงอู่และท่านอ๋องเสวียนต่างรีบเร่งมาที่นี่“ซูเฟยมาแล้ว!”เสียงประกาศจากนอกประตู ซูเฟยนำข้าราชบริพารกลุ่มให