ราชครูเฒ่าไม่รู้ว่าต่อไปตัวเองจะเจอกับอะไร ดังนั้นเมื่อเขาได้ยินเย่เสวียนถิงตอบตกลง เขาก็โล่งใจอย่างเงียบ ๆเพราะเขารู้ว่าอ๋องเสวียนรักษาคำพูดเสมอ และเมื่อใดที่เขาสัญญาก็จะทำตามนั้นอย่างแน่นอนราชครูเฒ่ายืนอยู่ในคุกใต้ดินที่มืดมน ถูกคนนำมามัดไว้กับชั้นวางด้านข้าง เขาเสียมือไปทั้งสองแล้ว บาดแผลนั่นทำให้เขาเจ็บปวดจนตัวสั่นไปหมด แต่เขาก็ยังบังคับตัวเองให้พูด“หากมีคำถามท่านก็ถามได้เลย กระหม่อมจะตอบเท่าที่รู้”เย่เสวียนถิงนั่งบนเก้าอี้ที่องครักษ์ลำดับที่สิบเจ็ดนำมาวางให้เขาพูดเนิบ ๆ “ภูเขาศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่ไหน?”ราชครูเฒ่าตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วส่ายหัว “กระหม่อมเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ จะรู้ความลับเช่นนี้ได้อย่างไร ท่านไม่ลองไปสอบถามคนในวังที่รู้เรื่องอื้อฉาวดูล่ะพ่ะย่ะค่ะ ไม่แน่ว่าสิ่งที่กระหม่อมรู้อาจจะน้อยกว่าด้วยซ้ำ…”เย่เสวียนถิงหลุบตาลง เขาไม่สงสัยในสิ่งที่ราชครูเฒ่าพูดภูเขาศักดิ์สิทธิ์นั้นมีความลึกลับมาโดยตลอด และราชวงศ์เกือบทุกแคว้นบริเวณรอบ ๆ ต่างก็มีส่วนเกี่ยวข้องแม้ดูเหมือนว่าภูเขาศักดิ์สิทธิ์จะไม่สนใจเรื่องของแคว้นต่าง ๆ และหมากที่คอยเป็นหูตาเหล่
“หึ”เย่เสวียนถิงอดไม่ได้ที่จะแค่นเสียงอย่างเย็นชาเขาไม่เชื่อวาจาไร้สาระของราชครูเฒ่าหลายปีมานี้ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้ทำการฟื้นตัว ไม่มีเหตุผลที่จะต้องยื่นมือไปช่วยใคร ไม่มีทางที่จะทำเพื่อประโยชน์สุขและสันติของราษฎรอย่างแน่นอนการแทรกแซงเพื่อสับเปลี่ยนอำนาจราชวงศ์นั้นเป็นเพียงความปรารถนาที่เห็นแก่ตัวก็เท่านั้นราชครูเฒ่ามองเย่เสวียนถิงแล้วหัวเราะออกมา รอยยิ้มนั้นดูประจบประแจงเล็กน้อย “หากท่านอ๋องเสวียนเองก็ต้องการนั่งบนบัลลังก์ ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ขอเพียงในภายภาคหน้าท่านอ๋องทรงเชื่อฟังแผนการของทางภูเขาศักดิ์สิทธิ์…”ราชครูเฒ่าถูกเตะอย่างแรงองครักษ์เงาลำดับที่สิบเจ็ดพูดด้วยความโกรธ “พูดไร้สาระอะไร?”“แค่ก แค่ก แค่ก…”ราชครูเฒ่าอ้าปากค้าง แก้มของเขาแดงก่ำจากการระงับความเจ็บปวด เขากล่าวว่า “ตอนนั้นท่านอ๋องเสวียนยังเล็ก คงไม่ทราบถึงความร้ายกาจที่แท้จริงของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ ในเวลานั้นฮ่องเต้เฒ่าเองก็ต้องต่อสู้ดิ้นรนเพื่อปลดพันธการจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์ ท่านรู้หรือไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น?”เย่เสวียนถิงหรี่ตาลงไม่พูดอะไร เพียงแค่ฟังเงียบ ๆราชครูเฒ่าหัวเราะเยาะ “ศพกองพะเนินอยู่ในเมือง
เย่เสวียนถิงเข้าใจแล้วว่าเหล่าคนที่อยู่ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์ล้วนเป็นหนูที่ซ่อนตัวอยู่ใต้พื้นดินและกลัวการเจอผู้คนดูเผิน ๆ เหมือนคนที่อยู่ระดับสูง แต่ในความเป็นจริงแล้วก็ทำได้แค่ซ่อนตัวอยู่ในรางน้ำ ทำเรื่องสกปรก และไม่เคยโผล่หน้าออกมาในอดีต ผู้คนหวาดกลัวภูเขาศักดิ์สิทธิ์ เพราะพวกเขาเชี่ยวชาญการใช้กู่ประเภทต่าง ๆ ที่ยากสำหรับผู้อื่นที่จะทำความเข้าใจ ทำให้ผู้คนป้องกันได้ยากแต่เมื่อกลายเป็นคนที่ใคร ๆ ต่างก็เกลียดชัง อีกทั้งผู้คนก็มีวิธีจัดการกับพิษของพวกเขาแล้ว เช่นนั้น...พวกเขาไม่เหลืออะไรแล้วแสงสีเข้มส่องผ่านดวงตาของเย่เสวียนถิง เขามองไปที่ราชครูเฒ่าแล้วยิ้ม “เจ้าวางใจได้ ข้าไล่จะจับหนูพวกนั้นและบดขยี้พวกมันทีละตัวให้ตายจนกว่าจะถึงตัวสุดท้าย…”เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น ราชครูเฒ่าก็ขนหัวลุกขณะที่เย่เสวียนถิงหันหลังกำลังจะออกจากคุกใต้ดิน องครักษ์เงาลำดับที่สิบเจ็ดก็รีบถามขึ้น “ท่านอ๋องจะทรงปล่อยเขาไปหรือพ่ะย่ะค่ะ? ไม่ทรมานเขาต่อหรือ?”ราชครูเฒ่ารู้สึกมีความหวังเล็กน้อยทันใดนั้นเขาก็ได้ยินว่า “ข้าบอกว่าจะปล่อยเขา แต่พระชายาไม่ได้บอกเช่นนั้น ส่งตัวเขาไป…”“พ่ะย่ะค่ะ!”องครัก
ทันใดนั้นนางก็เข้าใจแล้วว่าเหตุใดราชครูเฒ่าถึงดีใจขนาดนั้นหลังจากที่เขาจับนางได้ในชาติก่อน ที่แท้ก็เป็นเพราะเขาจะได้เรียนรู้ทักษะการใช้กู่ระดับสูงจากนางและกลายเป็นคนระดับสูงในภูเขาศักดิ์สิทธิ์!วิธีการทั้งหมดที่เขาใช้ล้วนมาจากการสั่งสอนของสตรีที่สวมผ้าคลุมหน้า“ทักษะการใช้กู่มีอะไรยาก? ข้าเรียนรู้ด้วยตัวเอง เจ้าจะลองดูก็ได้ว่าทักษะการใช้กู่ของข้าเป็นของจริงหรือไม่...”หนอนกู่เจาะเข้าไปในผิวหนังของราชครูเฒ่าจากนั้นเขาก็ส่งเสียงกรีดร้องราวกับไม่ใช่มนุษย์ออกมาซูชิงอู่กลัวว่าเขาจะเผลอกัดลิ้นตัวเอง นางจึงรีบยัดผ้าเข้าไปในปากของอีกฝ่ายคราวนี้นางรู้สึกสบายหูขึ้นมาก นางนั่งบนเก้าอี้อีกครั้งพลางมองเขาอย่างเงียบ ๆ ด้วยดวงตาราบเรียบชาติก่อนนางถูกหนอนและสัตว์มีพิษเหล่านี้ทรมานมาสามปีเต็ม และมักจะได้เห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มของราชครูเฒ่าในชาตินี้ สิ่งต่าง ๆ กำลังเปลี่ยนแปลงไป ถึงคราวของนางที่จะได้ไล่ชำระแค้นทุกวันนี้เมื่อได้เห็นศัตรูพ่ายแพ้ไปทีละคน ซูชิงอู่ก็รู้สึกใจสงบเป็นอย่างมากไม่มีความสุขหลังจากการแก้แค้นหรือความยินดีปรีดาหลังจากได้ระบาย มีแต่ความผ่อนคลายเท่านั้นใช่แล้ว...เป็นคว
ซูชิงอู่ชะงักไปครู่หนึ่ง นางเดินออกจากห้องและกอดเอวของเย่เสวียนถิงทันที“ข้าไม่ควรขัดคำสั่งท่าน แอบเอาแมลงกู่ออกมา”เย่เสวียนถิงก็ไม่โกรธ เขารู้ว่าซูชิงอู่เป็นคนมีเหตุผล แต่นางได้สัญญากับเขาอย่างชัดเจนในครั้งที่แล้ว แต่คราวนี้นางยังคงใช้กู่เหล่านั้นกับราชครูเฒ่าเขารู้ว่าแมลงเหล่านั้นอันตรายมาก แม้แต่ผู้ใช้กู่ก็เสี่ยงที่จะถูกย้อนพิษซูชิงอู่กะพริบตารีบเปลี่ยนเรื่อง "ท่านอ๋อง ข้าหิวแล้ว"เย่เสวียนถิงขมวดคิ้วครู่หนึ่งแล้วพูดด้วยเสียงต่ำ "เจ้าไปรอในห้อง"เมื่อเห็นท่านอ๋องหันหลังและเดินจากไป องครักษ์เงาสิบเจ็ดก็ไล่ตามเขาไปโดยไม่รู้ตัว“ท่านอ๋อง ยังมีเรื่องอื่นที่ต้องการให้กระหม่อมทำอีกหรือไม่?”เย่เสวียนถิงส่ายหัว เดินต่อไปโดยไม่หยุด "ไม่มี"องครักษ์เงาสิบเจ็ดสับสนเล็กน้อย "ต้องการให้ข้าไปเรียกพ่อครัวเข้ามาหรือไม่?"เพราะตอนนี้ข้างนอกมืดมากแล้วคนรับใช้ทุกคนในคฤหาสน์เข้านอนแล้วหากต้องการทำขนม คงต้องใช้เวลาสักพักในการเรียกพ่อครัวมาเย่เสวียนถิงเหลือบมองไปด้านข้างเขา "เอาเป็นว่าเจ้าตามมาช่วยข้าหน่อย"องครักษ์เงาสิบเจ็ดตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็มีความกระตือรือร้นขึ้นมาทันท
นางจ้องมองที่รูปลักษณ์ของเย่เสวียนถิง รู้สึกว่าไม่ว่าจะมองนานแค่ไหนก็ไม่พอหลังจากผ่านความลำบากในชีวิตครั้งก่อนมา นางก็ตระหนักได้ว่าชีวิตอันสงบสุขในตอนนี้มีค่าเพียงใดซูชิงอู่กัดขนมแป้งข้าวเหนียวไปคำหนึ่ง รสหวานทำให้นางหลับตาพริ้มทันทีทันทีที่นางเงยหน้าขึ้นนางก็เห็นดวงตาของเย่เสวียนถิงตั้งตารอที่จะได้รับคำชม มุมปากของนางยกยิ้มเล็กน้อย และทันใดนั้นนางก็ลุกขึ้นและโน้มตัวไปจูบที่มุมปากของเขา“เป็นยังไงบ้าง หวานไหม?”เย่เสวียนถิงหลุบตาลงเล็กน้อย พลางแตะริมฝีปากของเขาที่ยังมีรสหวานของซูชิงอู่อยู่ พยักหน้าและตอบค่อนข้างจริงจัง"อืม หวานมาก..."ซูชิงอู่แย้มริมฝีปากของนางและลุกขึ้นโดยไม่ลังเลใจ"ยังมีหวานกว่านี้อีก..."…… ราชครูเฒ่าที่เป็นที่ต้องการตัวมาเป็นเวลานานถูกจับกุมและมหาราชครูมู่หรงที่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ถูกจับในข้อหาให้ที่พักพิงผู้ต้องโทษทั้งราชสำนักเห็นชัดว่านี่คือการเล่นงานตระกูลมู่หรงท่าทีขององค์รัชทายาทค่อนข้างชัดเจน บรรดาลูกสมุนของตระกูลมู่หรงเริ่มไม่อาจนั่งนิ่งได้อีกต่อไปขณะที่เย่ชิวหมิงแอบไปหาพวกเขาทีละคนและดึงคนที่สามารถดึงเข้ามาได้ทั้งหมดมาที่ฝั่งตน ส่วนที่เห
เย่เสวียนถิงพยักหน้าและพูดว่า "หากพบแล้ว ให้พานางมาพบข้าทันที"หมอหลวงหิ้วกล่องยาออกไป ซูชิงอู่เอนกายบนตั่งนุ่มและกินของว่างพร้อมพูดว่า "เวลานี้หาคนที่ไม่รู้จักมาอาจเสี่ยงได้ อย่าหาดีกว่า"พูดอย่างนี้ก็มีเหตุผลแต่เย่เสวียนถิงยังคงอยากดูว่า หมอตำแยมือหนึ่งคนนั้นมีฝีมือจริงหรือไม่เป็นการดีที่สุดหากไม่จำเป็นไม่ต้องใช้นาง แต่ต้องเก็บนางเผื่อไว้เย่เสวียนถิงนั่งข้างนาง ลูบศีรษะซูชิงอู่แล้วพูด "ไม่เป็นไร ข้าจะอยู่ข้างเจ้าและก็อาจไม่ต้องใช้นาง ข้าแค่อยากเพิ่มความมั่นใจอีกชั้นหนึ่ง"ซูชิงอู่ถูกเย่เสวียนถิงเกลี้ยกล่อมจนได้นางเข้าใจว่าเย่เสวียนถิงไม่ต้องการให้นางตกอยู่ในอันตรายแม้แต่น้อยเจ้าตัวน้อยในท้องกำลังจะเกิด ซูชิงอู่เต็มไปด้วยความคาดหวัง ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นหรือกังวลเกี่ยวกับการคลอดนางเคยพบเจอสิ่งต่าง ๆ มากมายในชีวิตครั้งก่อน เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้นางไม่สนใจเลยแต่ตอนนี้ไม่มีประโยชน์ที่จะพูดคำดังกล่าวและไม่สามารถบรรเทาความตึงเครียดในใจของเย่เสวียนถิงได้นางทำได้เพียงปลอบใจเขา "ข้าไม่กลัวหรอก ท่านอ๋อง"หมอหลวงหาข้อมูลได้เร็วทีเดียวเขาพบหมอตำแยในตำนานในวันรุ่งขึ้นเย่เ
“เพคะ ขอบคุณท่านอ๋อง ขอบคุณท่านอ๋อง!”หญิงชรารีบขอบคุณเขาทันใดนั้นสีหน้าของนางก็แสดงอาการลังเลเล็กน้อยและพูดว่า "ท่านอ๋อง ข้าน้อยยังมีของบางอย่างอยู่ที่บ้าน ไม่ทราบว่าจะกลับไปเอาได้หรือไม่?"เย่เสวียนถิงถามว่า "มีของอะไรหรือที่ในจวนอ๋องไม่มี?"“ไม่...ไม่ใช่เจ้าค่ะ เพียงแต่มีของบางอย่างที่ข้าน้อยใช้มาหลายสิบปี มันถนัดมือมากกว่า”เย่เสวียนถิงหรี่ตา "เจ้าสิบเจ็ดไปกับนางด้วย เมื่อได้ของมาแล้วต้องตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนเมื่อยืนยันว่าไม่มีอันตรายใดๆ แล้วค่อยนำเข้าจวน!"“พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องวางใจได้!”สำหรับเรื่องใหญ่เช่นนี้ องครักษ์เงาสิบเจ็ดไม่กล้าที่จะละเลยต้องแน่ใจว่าทุกอย่างปลอดภัยมิฉะนั้นหากมีอะไรเกิดขึ้นกับเขา แม้ว่าเขาจะยอมตายเพื่อไถ่โทษก็ยังไม่พอที่จะชดเชยเพราะนี่คือบุตรของท่านอ๋อง!และนั่นคือพระชายา!หากมีปัญหาใดเกิดขึ้น ครั้งนี้อาจมีหลายชีวิตสูญเสียซึ่งเขารับผิดชอบไม่ไหวเจ้าสิบเจ็ดพาหญิงชราออกไป เย่เสวียนถิงเอนกายลงบนเก้าอี้แล้วเคาะนิ้วบนโต๊ะเหตุผลที่ระมัดระวังเช่นนี้เพราะใจของเขากำลังว้าวุ่นเย่เสวียนถิงยกมือขึ้นเพื่อสัมผัสหัวใจของตนเพื่อระงับความรู้สึกไม่สบายใจ