ในราชวงศ์ ความสัมพันธ์ทางสายเลือดมักจืดจาง ในสายตาของเย่เสวียนถิง ไม่มีใครสำคัญเท่ากับซูชิงอู่อีกแล้วกลยุทธ์นี้ช่างยอดเยี่ยม จนทุกคนที่ยังคงให้ความสนใจกับเรื่องก่อนหน้าของภาพวาดจริงหรือปลอม หันเหความสนใจไปที่เย่เสวียนถิงทันทีแม้มีคนจำนวนมากจับตามอง แต่การแสดงออกของเย่เสวียนถิงยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ในวันนี้เขาไม่ได้นำของขวัญวันประสูติมาเลยสักชิ้นแม้แต่การมาที่นี่ ก็เพียงเพราะเห็นแก่หน้าของซูเฟยไทเฮาทรงยิ้ม ดูไม่พอใจเล็กน้อยนางกล่าวว่า “ข้าเพียงต้องการรับรู้ถึงความตั้งใจ สำหรับความมีค่าของของขวัญ ข้าไม่ใส่ใจอะไรนักหรอก”ซูชิงอู่ลุกขึ้นยืนทันทีนางมองไปที่ไทเฮาด้วยรอยยิ้มทันใดนั้นเอง หลายคนจับจ้องไปที่ท้องของนางด้วยส่วนนูนที่เห็นได้ชัด ทุกคนจึงรู้ว่าพระชายาตั้งครรภ์แล้วเพียงไม่กี่เดือนหลังจากแต่งงาน นางก็ตั้งครรภ์เสียแล้ว นั่นแสดงให้เห็นว่าข่าวลือเกี่ยวกับความรักระหว่างท่านอ๋องและพระชายาเป็นเรื่องจริงนางยิ้มและพูดว่า “แน่นอนว่าหม่อมฉันย่อมต้องนำของขวัญมาด้วย และมันก็เป็นของขวัญที่พิเศษมากทีเดียว”ไทเฮาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย มองไปที่ซูชิงอู่“เช่นนั้นข้าอยากรู้จริง ๆ ว่าม
พระเนตรของไทเฮากะพริบ “เจ้าตั้งใจจะใช้เข็มเงินเหล่านั้นแทงที่ตัวข้าเช่นนั้นหรือ?”ซูชิงอู่พยักหน้า “มันเป็นเพียงวิธีการ หม่อมฉันรับประกันว่าผลลัพธ์ที่ได้จะทำให้ไทเฮาพอใจแน่นอนเพคะ”ไทเฮาหัวเราะเยาะ “หากข้าเป็นอะไรไป เจ้ารับผิดชอบได้หรือ?”ซูชิงอู่แตะท้องของนาง "หม่อมฉันรับผิดชอบไม่ได้ แต่เขารับผิดชอบได้แน่เพคะ”ความหมายชัดเจนในตัวเองซูชิงอู่พูดเช่นนี้เพื่อให้ไทเฮาทรงมั่นใจ ว่าตอนนี้นางมีเรื่องต้องห่วง ไม่กล้าลงมือกับไทเฮาแน่ยิ่งไปกว่านั้นรอบข้างมีคนมากมาย หากนางทำให้ไทเฮาเป็นอะไรไป นางคงไม่สามารถหนีออกจากพระราชวังได้อย่างปลอดภัยซูชิงอู่แสดงท่าทีจริงใจอย่างยิ่งไทเฮาไม่ไว้วางใจซูชิงอู่เลย ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่นางจะเห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าวนางยิ้มมุมปาก "ช่างเถอะ ข้าไม่สนใจของแบบนี้”เมื่อซูชิงอู่ได้ยินสิ่งนี้ นางก็แสดงสีหน้าผิดหวัง“นี่เป็นของขวัญวันประสูติที่ท่านอ๋องและหม่อมฉันเตรียมไว้ให้ไทเฮา หากพระนางปฏิเสธ ก็เท่ากับทำลายความตั้งใจของท่านอ๋องและหม่อมฉันสิเพคะ”มุมปากของไทเฮากระตุก นางคงต้องโง่ถึงจะยอมรับข้อเสนอที่ไม่สมเหตุสมผลของซูชิงอู่“ข้ารับรู้ถึงความตั้
เพื่องานนี้นางเตรียมการมาอย่างยาวนานภายในห้องโถงใหญ่ ทันใดนั้นพระพุทธรูปทองคำที่เป็นของขวัญวันประสูติก็ถูกทำลายจากภายใน เงาดำพุ่งตรงเข้าหาฮ่องเต้เพราะระยะห่างใกล้กันมาก ฮ่องเต้จึงไม่มีทางหนีพ้น!ฮ่องเต้เฒ่าตกตะลึง ในเวลานั้นดาบสีเงินพุ่งตรงมาหาเขา ทำให้เขาไม่ทีทางต้านทานได้แต่โชคดี…เย่ชิวหมิงที่กำลังจะเข้ามาดื่มอวยพรตอบสนองอย่างรวดเร็ว และผลักฮ่องเต้ออกไปได้!อาหารและสุรากระจัดกระจายไปทั่ว มือสังหารที่เห็นว่าการโจมตีไม่สำเร็จจึงพุ่งเข้าหาฮ่องเต้เฒ่าที่ล้มลงกับพื้นอีกครั้งเย่ชิวหมิงหยิบเก้าอี้ขึ้นมาบังดาบของอีกฝ่าย ใบหน้าเคร่งเครียด ตะโกนบอกคนที่อยู่ข้างหลังอย่างดุเดือดว่า “คุ้มกันฮ่องเต้ คุ้มกันฮ่องเต้เร็วเข้า!”บรรดาขุนนางต่างวิ่งหนีกันไป ไม่มีใครอยากมาส่งตัวเองไปตายเย่เสวียนถิงสีหน้าเรียบเฉย องครักษ์ที่เตรียมพร้อมอยู่ข้างนอกก็รีบรุดไปข้างหน้าช่วยพยุงฮ่องเต้ให้ลุกขึ้นและปกป้องเขาไว้ข้างหลังเขาทุกคนเห็นเย่ชิวหมิงต่อสู้กับนักฆ่าทั้งสองคนสู้กัน ทั้งคู่มีทักษะศิลปะการต่อสู้ที่คล้ายคลึงกันมากเมื่อเวลาผ่านไป เย่ชิวหมิงก็ชิงความได้เปรียบมาได้ทันใดนั้นเขาก็เตะขาของฝ่ายตรง
เย่ชิวหมิงลดสายตาลงและพูดว่า “ฝ่าบาท พระพุทธรูปทองคำนี้ลูกกับพระมารดาถวายเป็นของขวัญวันเกิดแด่ไทเฮาจริง แต่เรื่องที่มีมือสังหารอยู่ข้างใน ลูกไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องนี้!”ฮ่องเต้หรี่ตาลง “ไม่รู้เรื่องหรือ คำพูดนี้เจ้าพูดออกมาแล้ว เป็นเจ้าจะเชื่อหรือเปล่า?”ฮ่องเต้เฒ่าเกือบถูกลอบสังหาร และตอนนี้เขายังคงอยู่ในอาการอกสั่นขวัญแขวนไม่หาย จึงระบายความโกรธทั้งหมดไปที่เย่ชิวหมิงหากเรื่องนี้ไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม ทั้งเย่ชิวหมิงและตระกูลเจียวจะได้รับผลกระทบร้ายแรงซูชิงอู่มองดูเหตุการณ์ที่คุ้นเคยนี้อย่างใกล้ชิด ในชาติก่อนนางเห็นตระกูลเจียวล่มสลายลงกับตา และเย่ชิวหมิงก็ถูกขังอยู่ในพระราชวังชีวิตก่อน นางไม่รู้ว่าใครเป็นคนจัดฉากการลอบสังหารนี้ แต่ตอนนี้นางรู้ความจริงแล้วฮองเฮาเพียงคนเดียวไม่อาจมีความสามารถที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ได้ คนที่อยู่เบื้องหลังต้องเป็นไทเฮา!ในฐานะมารดาแท้ ๆ ของฮ่องเต้ ไทเฮาย่อมมีอำนาจสูงมากในชาติก่อนมือสังหารไม่ถูกขัดขวางเช่นนี้ แต่ได้แทงฮ่องเต้จนบาดเจ็บ แต่ไม่โดนจุดตายนั่นแปลว่าประสงค์ของไทเฮาไม่ใช่การฆ่าฮ่องเต้ แต่เพียงเพื่อทำให้พระองค์ไร้ความสามารถ
เมื่อเห็นว่าเขาเตรียมพร้อมและมั่นใจมากเพียงใด ฮ่องเต้เฒ่าจึงละความสงสัยของเขาลงเขาขมวดคิ้ว “ดี ข้าจะรอข่าวดีของเจ้าพรุ่งนี้เช้ามารายงานข้า"“ไม่จำเป็นต้องรอถึงเช้า แค่ให้เวลาลูกสองชั่วยามก็พอพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้เฒ่าพอใจมาก เมื่อได้ยินสิ่งนี้ "ไปเถิด"เจียวกุ้ยเฟยไม่รู้ความจริงเลยนางไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเมื่อไรที่ลูกชายของนางแข็งแกร่งขนาดนี้เรียกได้ว่าล่วงรู้อนาคตเลยทีเดียวนางก็ยืนขึ้นและเดินเข้ามาหาเย่ชิวหมิง ถามด้วยเสียงแผ่วเบา “ชิวหมิง เจ้าแน่ใจเรื่องเกี่ยวกับพระพุทธรูปจริงหรือ?”เย่ชิวหมิงเหลือบมองมารดาเมื่อก่อนเขาชื่นชมมารดามาก คิดว่านางฉลาด สามารถปกป้องเขาได้ ดังนั้นหลายเรื่องจึงฟังนางแต่ตอนนี้เขารู้สึกว่ามารดาของเขาค่อนข้างหยิ่ง และหลงตัวเองหากนางไม่ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลเจียว นางคงไม่สามารถมีชีวิตที่เจริญรุ่งเรืองในวังแห่งนี้ได้ เกรงว่าไม่มีทางอยู่รอดในวังนี้ได้ หากตระกูลเจียวล่มสลาย เขาและมารดาคงต้องพบจุดจบเลวร้ายอย่างแน่นอนครั้งนี้ไทเฮาใช้พระพุทธรูปทองคำเพื่อนำมือสังหารเข้าวัง การกระทำตั้งแต่ต้นจนจบไม่มีหลักฐานใด ๆ ไม่ว่าจะเตรียมการล่วงหน้าหรือโยนความผิดให้ตระ
เย่เสวียนถิงไม่ต้องการเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องเยี่ยงนี้จริง ๆเวลานี้สู้เขาเอาไว้ดูอาอู่ของเขากินอาหารเสียยังดีกว่าแต่ฮ่องเต้ทรงถามเรื่องนี้แล้ว เขาก็ไม่สามารถเพิกเฉยได้“ทูลเสด็จพ่อ ลูกว่าก่อนตัดสินใจ รอให้องค์ชายใหญ่นำหลักฐานมาแสดงก่อนจะดีกว่า”แน่นอนว่าคำตอบของเขาทำให้ฮ่องเต้เฒ่าพอใจ“ความเห็นของอ๋องเสวียนค่อนข้างตรงประเด็น ขุนนางทั้งหลายได้ยินกันหรือไม่?”คนที่ยังคงโต้เถียงกันด้านล่างต่างเงียบไปทันทีโชคดีที่เย่ชิวหมิงดำเนินการอย่างรวดเร็ว และในไม่ช้าก็มีคนกลับมารายงานว่า “ทูลฝ่าบาทพบพระพุทธรูปทองคำแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”เมื่อซูชิงอู่ได้ยินสิ่งนี้ นางก็เลิกคิ้วโดยไม่แปลกใจท้ายที่สุดแล้วนางได้ให้ยาที่ใช้กับพระพุทธรูปทองคำไป ทำให้มันทิ้งร่องรอยไว้ได้ หากเย่ชิวหมิงไม่อาจหาพบ ก็คงจะโง่เกินเยียวยาแล้วฮ่องเต้เฒ่ายืนขึ้นทันทีหลังจากได้ยินสิ่งนี้ “ข้าจะไปดูเอง”ขุนนางคนอื่น ๆ ก็ลุกขึ้นตามฮ่องเต้ไป ในไม่ช้าทุกคนก็มาถึงสถานที่ที่เย่ชิวหมิงพบพระพุทธรูปทองคำสถานที่ที่ซ่อนพระพุทธทองคำนั้นกลับกลายเป็นในหอสักการะในตำหนักของไทเฮาฮ่องเต้เฒ่ามีสีหน้าตกตะลึง เขาเร่งฝีเท้าเข้าไปทันทีและเห็
“เอาล่ะ ลองสืบค้นดู”ฮ่องเต้เฒ่ากล่าวเช่นนี้ ผู้คนรอบข้างไทเฮาย่อมไม่มีทางหยุดเขาได้คนของเย่ชิวหมิงกรูเข้ามาสุนัขป่าหลายตัววิ่งไปรอบ ๆ ในห้องและบังเอิญชนเข้ากับกระถางธูปบางชิ้นใบหน้าของไทเฮาก็มืดมนอย่างยิ่ง“เจ้าไม่เคารพพระพุทธเจ้า หากหาพระพุทธรูปทองคำไม่เจอ ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ อย่างแน่นอน!”เมื่อได้ยินน้ำเสียงโกรธของไทเฮา ผู้ที่ค้นหาข้างในก็เริ่มระมัดระวังทันทีบรรดาขุนนางต่างรออยู่ข้างนอก เพื่อดูผลลัพธ์ซูชิงอู่และเย่เสวียนถิงอยู่ท่ามกลางฝูงชน นางมองไปรอบ ๆ หอสักการะพระของไทเฮา สายตาแฝงความเย้ยหยันเย่เสวียนถิงจับมือนางแน่นขึ้นเล็กน้อย กระซิบถาม “เจ้าต้องการให้ข้าเข้าไปช่วยไหม?”ซูชิงอู่ส่ายหน้า "ยังก่อน รอจนถึงที่สุด แล้วท่านอ๋องค่อยเข้าไปช่วย ความกรุณาประเภทนี้มีค่าที่สุด”นางรู้วิธีเพิ่มผลกำไรสูงสุดเย่ชิวหมิงร้อนใจเป็นอย่างมากเพราะกลิ่นของไม้จันทน์ในหอสักการะแรงเกินไป จึงส่งผลต่อการรับรู้กลิ่นของสุนัขทั้งสองโดยสิ้นเชิงหอสักการะพระมีขนาดเพียงสามห้อง และการตกแต่งภายในก็เรียบง่ายมากสิ่งเดียวที่สะดุดตาคือพระพุทธรูปที่อยู่ตรงกลางองค์พระพุทธรูปองค์สูงใหญ่ ปิ
เย่เสวียนถิงเงยหน้าขึ้นมองไปที่ไทเฮา “นี่เกี่ยวข้องกับชีวิตและทรัพย์สินขององค์ชายคนหนึ่ง จะเรียกว่ายุ่งเกี่ยวได้อย่างไร? กระหม่อมเพียงช่วยแบ่งเบาภาระของเสด็จพ่อก็เท่านั้น”ไทเฮาหรี่ตาลงในใจนางโกรธ แต่ใบหน้าของนางสงบนิ่ง“เป็นเรื่องดีที่จะแบ่งปันความกังวลของฮ่องเต้”เย่เสวียนถิงมองไปที่ฮ่องเต้เฒ่า “ไม่กำจัดมือสังหารไปหนึ่งวัน ฮ่องเต้ย่อมไม่สบายใจไปอีกวันหนึ่ง"คำพูดเหล่านี้ตรงใจฮ่องเต้เขาพยักหน้า “เจ้าไปช่วยหาด้วยเถอะ เวลาไม่มาก ต้องรีบหาให้เจอ”เย่เสวียนถิงรับคำสั่งแล้วเดินเข้าไปในห้องดวงตาของไทเฮาจับจ้องไปที่เขา เล็บของนางก็เกือบจะแทงเข้าไปในฝ่ามือของนางเองเย่เสวียนถิงมองไปรอบ ๆ สักพัก แล้วจู่ ๆ ก็หยุดสายตาที่โต๊ะบูชาหัวใจของไทเฮาเต้นแรง ดวงตาของนางก็เบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยและอารมณ์ของนางก็ตระหนกยิ่งขึ้นด้วยเย่เสวียนถิงเดินไปที่โต๊ะบูชาแล้วพูดว่า “เอาโต๊ะนี้ออกไป”ไทเฮาร้องเสียงดัง “เจ้ากล้าดียังไง?!”องครักษ์ที่กำลังจะเดินผ่านต่างตกใจและไม่รู้ว่าจะฟังใครดีอยู่ครู่หนึ่งแต่ฮ่องเต้ก็พูดขึ้น เขาหรี่ตา “ยกไป”องครักษ์สองสามคนใช้แรงยกขาโต๊ะไม้ขึ้น ยกโต๊ะออกไปเย่เสวียน