Share

บทที่ 446

Author: วิ๋นเจิง
ซูชิงอู่ปิดปากยิ้มเบา ๆ “ท่านพูดได้อย่างไรว่าข้าตัวคนเดียว มีซูเฟยกับเต๋อเฟยและคนอื่น ๆ อยู่ด้วย ย่อมไม่มีใครรังแกข้าได้”

นางไม่รู้ตัวว่าตนได้เผลอตั้งกลุ่มในวังหลังขึ้นมา

ยิ่งไปกว่านั้น หากไม่มีอะไรผิดพลาด เจียวกุ้ยเฟยก็คงไม่สามารถได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับพันธมิตรของนาง

อีกทั้งองค์ชายใหญ่คงบอกเรื่องที่ซูชิงอู่ช่วยเขาได้ในช่วงนี้ ขอเพียงนางต้องการ เจียวกุ้ยเฟยต้องยื่นมือมาช่วยอย่างแน่นอน

เย่เสวียนถิงรู้ว่าซูชิงอู่มีเป้าหมาย ดังนั้นเขาจึงไม่รบเร้านางอีก

ตอนนี้ท้องช่วงล่างของนางนูนออกมาค่อนข้างชัดเจน และเมื่อเย่เสวียนถิงวางมือลงบนจุดนั้น เขาก็สัมผัสได้ถึงความโค้งมน

ความรู้สึกของการเป็นพ่อครั้งแรกนี้ค่อนข้างแปลกใหม่

เย่เสวียนถิงอดไม่ได้ที่จะพึมพำกับตัวเอง “ต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหน?”

ซูชิงอู่อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเมื่อนางได้ยินเขาถาม “รีบอะไรปานนั้น ใช่ว่าลูกจะวิ่งออกจากท้องข้าได้เลยสักหน่อย?”

เย่เสวียนถิงจูบหน้าผากของนาง “ต้องวิ่งวุ่นไปทั่วทั้งที่ต้องอุ้มท้องเขาไปด้วย เจ้าคงจะลำบากแย่”

“ไม่เป็นไรหรอก ใส่เสื้อผ้าหลวมกว่านี้หน่อยก็ดูไม่ออกแล้ว คงจะปิดบังไปได้อีกสักเดือนหนึ่ง”

ในอีกห
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 447

    ซูชิงอู่พูดสิ่งนี้ต่อหน้าเขา ซึ่งเป็นสิ่งที่อาจหาญอย่างยิ่งเขามองไปรอบ ๆ โดยไม่รู้ตัวเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ใกล้ ๆ จากนั้นก็ลดเสียงลงแล้วพูดกับซูชิงอู่ “พระชายาอย่าได้พูดเรื่องไร้สาระเช่นนั้นเชียว”ซูชิงอู่เลิกคิ้ว คิ้วเรียวสวยของนางกระตุกขึ้น“ท่านเห็นว่าหม่อมฉันเป็นคนชอบพูดเรื่องไร้สาระหรือเพคะ?”ในเมื่อไม่ได้พูดเรื่องไร้สาระ แสดงว่านี่กำลังจริงจังรึฉีเทียนหยวนถอนหายใจพลางส่งสายตาแปลก ๆ “หากองค์ชายใหญ่ได้ขึ้นเป็นองค์รัชทายาทจริง ๆ น้องสาวของข้าก็สามารถเติมเต็มความปรารถนาของนางได้เช่นกัน ถึงอย่างนั้น…”เขาหยุดชะงักพลางเลิกคิ้วแล้วยิ้ม “เรื่องบางเรื่องไม่ใช่พูดแล้วจะทำให้สำเร็จได้เลย”ซูชิงอู่ถามว่า​ “ครั้งนี้องค์ชายสามจะทรงอยู่ที่นี่นานเท่าไรเพคะ?”ฉีเทียนหยวนคิดอย่างรอบคอบ “อย่างน้อยหนึ่งเดือน”“เช่นนั้นก็ดีเพคะ หม่อมฉันอยากจะขอให้องค์ชายทรงช่วยเลื่อนเวลาออกไปอีกหน่อย หลังจากหนึ่งเดือน หม่อมฉันจะทำให้องค์ชายใหญ่เป็นองค์รัชทายาทแห่งแคว้นหนานเย่ให้ได้เพคะ!”นี่คือข้อตกลงระหว่างนางกับตระกูลเจียวซึ่งได้มีการเตรียมการเรื่องนี้ไว้ล่วงหน้าแล้วองค์ชายใหญ่ต้องการชิงบัลลั

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 448

    ซูชิงอู่ยิ้มให้ฉีหว่านเอ๋อร์อย่างใจดี“องค์หญิงอย่าได้ทรงกังวลไปเลยเพคะ”ฉีหว่านเอ๋อร์เม้มริมฝีปาก นางรู้ว่าซูชิงอู่คือใคร เมื่อครู่ตอนที่เป็นลมอยู่ในห้อง นางได้ถูกลักพาตัวมา...“เจ้าคิดจะทำอะไร?”นางถามอย่างระมัดระวัง ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและหวาดกลัวจู่ ๆ ซูชิงอู่ก็พูดว่า “องค์หญิงทรงอยากพบองค์ชายใหญ่หรือไม่เพคะ?”เมื่อฉีหว่านเอ๋อร์ได้ยินคำพูดของซูชิงอู่ ดวงตาของนางก็เป็นประกายนางกัดริมฝีปากเล็กน้อยแล้วพยักหน้าแต่นางกลับพูดว่า “เสด็จพี่ไม่ให้ข้าไปพบองค์ชายใหญ่อีก ทั้งยังบอกว่าจะให้ข้าอภิเษกกับองค์ชายสาม…”ฉีหว่านเอ๋อร์เป็นคนที่อ่อนโยนมาก นางพูดแต่ละคำอย่างเชื่องช้าและนุ่มนวลให้ความรู้สึกสง่างามและเงียบสงบเป็นพิเศษซูชิงอู่มองนางราวกับกำลังมองลูกสะใภ้ของตัวเองซูชิงอู่หัวเราะเบา ๆ “แล้วท่านคิดเห็นอย่างไรล่ะเพคะ?”ฉีหว่านเอ๋อร์ก้มหน้า “ขะ...ข้าไม่อยากทำ ข้าฝันอยากแต่งงานกับบุรุษเช่นองค์ชายใหญ่ตั้งแต่ยังเป็นเด็กแล้ว”ซูชิงอู่คาดไม่ถึงว่าเย่ชิวหมิงที่ดูซื่อบื้อจะมัดใจองค์หญิงได้อย่างอยู่หมัดทว่านั่นไม่ใช่ความสามารถที่แท้จริงของเขา เขาสามารถเสแสร้งได้ชั่วค

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 449

    “ไม่นะ…”“อย่าไป!”ทั้งสองคนพูดขึ้นเกือบจะพร้อมกันเมื่อเห็นคนทั้งคู่ใจตรงกันเช่นนี้ ซูชิงอู่ก็กระตุกมุมปากแล้วพูดว่า “เอาล่ะ พวกท่านสองคนค่อย ๆ พูดคุยกันไปนะเพคะ ภารกิจของหม่อมฉันเสร็จสิ้นแล้ว อวิ๋นจื่ออวิ๋นชิง ส่วนเกินอย่างพวกเราคงต้องรีบออกไปแล้วล่ะ อย่าอยู่เป็นก้างขวางคอเลย”“เพคะพระชายา!”สาวน้อยทั้งสองตอบพร้อมกัน จากนั้นจึงรีบเดินตามพระชายาออกไปที่สวนหลังเรือนทันทีซูชิงอู่ไม่รู้สึกผิดหรือสำนึกผิดแต่อย่างใดในการลักพาตัวองค์หญิงไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เย่อวิ๋นถูก็ไม่มีสิทธิได้รับโอกาสนี้และทำให้ผู้หญิงบริสุทธิ์อีกคนต้องเสียใจถึงอย่างไรฉีหว่านเอ๋อร์ก็ต้องแต่งงาน และหลังจากที่นางสังเกตมาเป็นเวลานาน เย่ชิวหมิงก็เป็นคนที่เหมาะสมที่สุดจริง ๆขอเพียงทั้งสองมีใจให้กัน นางก็ยินดีที่จะเป็นแม่สื่อให้อวิ๋นจื่อที่อยู่ข้างกายซูชิงอู่มาตลอดย่อมได้ยินบทสนทนาระหว่างนางกับฉีเทียนหยวนสาวใช้ผู้น้อยอยากรู้อยากเห็นมาก จึงถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ที่พระชายาพูดว่าอยากให้องค์ชายใหญ่เป็นองค์รัชทายาท นั่นเป็นเรื่องจริงหรือเพคะ...”ซูชิงอู่เลิกคิ้ว “พระชายาของเจ้าเคยพูดโกหกด้วยหรือ?”นางเงยหน้า

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 450

    แม้ซูชิงอู่จะไม่แปลกใจ แต่นางก็ถอนหายใจเล็กน้อยอยู่ในใจนางคิดว่างานเลี้ยงวันเกิดครั้งนี้คงจะมีอะไรที่ไม่เหมือนเดิม แต่นางคาดไม่ถึงว่าแม้จะผ่านมาสองชาติแล้ว บางสิ่งที่ควรจะเกิดขึ้นก็ยังเกิดขึ้นตามเดิมด้วยเหตุนี้นางจึงได้ทำการเปลี่ยนแปลงหลายสิ่งหากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นจะเป็นเหมือนกับชาติก่อนอย่างแน่นอน...ซูชิงอู่ไม่ยอมจากไปแต่กลับพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาแทน “ให้ข้าเข้าไปเถอะ หากเกิดอะไรขึ้น ข้าจะรับผิดชอบเองและจะไม่ให้เดือดร้อนไปถึงเจ้า”เมื่อนางกำนัลผู้นั้นเห็นว่าซูชิงอู่ตั้งใจแน่วแน่ที่จะเข้าไป นางจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหลีกทางให้เมื่อซูชิงอู่เปิดประตู นางก็ได้ยินเสียงไอซูเฟยร่างกายอ่อนแออยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงที่ฤดูกาลจะผันเปลี่ยนไปเป็นฤดูใบไม้ผลิ ก็มีแนวโน้มที่จะกระตุ้นให้ลมหนาวพัดมาได้ง่ายดังนั้นจึงไม่มีใครสงสัยสาเหตุอาการป่วยของซูเฟยเย่เสวียนถิงที่เดินตามหลังซูชิงอู่ หลังจากผ่านประตูเข้ามาแล้ว เขาก็ปิดประตูด้วยตัวเองเข้ารับรู้การเคลื่อนไหวของซูชิงอู่ในครั้งนี้มาล่วงหน้าแล้ว ดังนั้นเย่เสวียนถิงจึงรู้จุดประสงค์ของนางในการมาท

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 451

    การที่จะหานางกำนัลที่ลงมือทำมันง่าย แต่เรื่องราวสกปรกในวังหลังมันมีมากมาย แม้จะจับตัวมาได้ก็ยากที่จะถามหาความจริงแทนที่จะทำให้ศัตรูรู้ตัว ไม่สู้รอดูสถานการณ์อย่างเงียบ ๆ จับตามองหมากตัวนั้นและป้องกันไม่ให้ผู้อื่นรู้ว่าพวกเขาค้นพบมันแล้ว จึงจะสามารถได้รับประโยชน์สูงสุดได้ซูชิงอู่รู้ดีว่าจุดประสงค์ของฮองเฮาคืออะไร นางกล่าวเสียงเบา “ซูเฟย ท่านป่วยแล้ว ไทเฮาก็จะมอบหมายทุกอย่างในงานเลี้ยงฉลองวันเกิดนี้ให้ฮองเฮาจัดการ”“แล้วหลังจากนั้นล่ะ?”เมื่อได้ยินคำถามของซูเฟย ซูชิงอู่ก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ “นั่นหม่อมฉันพูดไม่ได้ หม่อมฉันให้คนต้มยามาให้ท่านแล้ว สำหรับอาการไข้หวัดแบบนี้ได้ผลดีมาก กินสักประมาณสองวันพระนางก็จะทรงดีขึ้น พระนางทรงไม่สบายอยู่ ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องอื่นใดอีก”ซูเฟยดูตะลึง "เจ้าเด็กคนนี้นี่!"นางเงยหน้าขึ้นมาและรอฟังสิ่งที่ซูชิงอู่จะพูด แต่เจ้าเด็กคนนี้กลับทำให้ต้องรอคอยอีกแล้ว!ซูชิงอู่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าทำแบบนี้มันผิดแต่อย่างไร หลังจากทิ้งความสงสัยไว้ให้ซูเฟยแล้ว นางก็ออกไปพร้อมกับเย่เสวียนถิงใกล้ถึงเวลางานเลี้ยงวันประสูติแล้วขุนนางทั้งฝ่ายบุ๋นและทหารของราชวงศ์ก็มารวมตัวกันใน

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 452

    ในขณะที่เขากำลังพูด ก็มีคนเข้ามาจากด้านหลังและคลี่ม้วนภาพให้ทุกคนดูอย่างระมัดระวังซูชิงอู่และเย่เสวียนถิงก็เดินเข้ามาพอดี เมื่อมองภาพนั้น สีหน้าพวกเขาก็แปลกไปเล็กน้อยนางกระซิบข้างหูเย่เสวียนถิงว่า “ภาพวาดนั้น...ดูเหมือนจะเป็นของปลอมนะ”เย่เสวียนถิงเลิกคิ้ว เขายังจำได้ว่าภาพวาดของจริงซูชิงอู่มอบให้ซูหัวจิ่น และซูหัวจิ่นก็ถวายแก่ฮ่องเต้ไปแล้ว...ดังนั้น...เขาไม่พูดอะไร และพาซูชิงอู่ไปหาที่นั่งคนที่อยู่ด้านข้างเกิดความอยากรู้อยากเห็นเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าทั้งสองคนมามือเปล่า อีกทั้งคนรับใช้ที่อยู่รอบตัวก็ไม่ได้เอาอะไรมาเลยทุกปีในงานเลี้ยงวันประสูติของฮ่องเต้และไทเฮา สิ่งของต่าง ๆ ที่เหล่าองค์ชายและองค์หญิงมอบให้จะกลายเป็นจุดสำคัญของการแข่งขันใครก็ตามที่ได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้และไทเฮา ก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้วไม่ต้องพูดถึงว่านี่เป็นวันเกิดไทเฮาในโอกาสสำคัญเช่นนี้ ทุกคนต่างอยากหยิบสิ่งของล้ำค่าที่สุดออกมา เพื่อให้ไทเฮาสนใจแต่เพราะภาพที่เย่อวิ๋นถูนำออกมา ข้าราชการทั้งฝ่ายบู๊และบุ๋นต่างก็ตื่นเต้นกันยกใหญ่เพราะมีสมบัติมากมายที่ไม่สามารถประเมินค่าด้วยเงินได้แม้แต่พระพุทธ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 453

    เมื่อเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของเขา ไทเฮาก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “เกิดอะไรขึ้นหรือฝ่าบาท?”ฮ่องเต้แตะมัน แววตาของเขาดูโกรธจัดเขาจำได้ว่าภาพวาดนี้เป็นของขวัญที่บุตรชายคนโตของตระกูลซูถวายมาให้ตอนแรกเขามัวแต่ดีใจจนไม่ได้ตรวจสอบอย่างละเอียด ตอนนี้มาเห็นอีกภาพที่เหมือนกันทุกประการ จะไม่ให้เขาคิดมากได้อย่างไรแม้ว่าวันนี้จะเป็นงานเลี้ยงวันประสูติไทเฮา และไม่ควรที่จะพูดถึงเรื่องดังกล่าวในที่สาธารณะ แต่ฮ่องเต้ก็ไม่สามารถกลืนความโกรธนี้ลงไปได้หากภาพนั้นเป็นของปลอมจริง ๆ ซูหัวจิ่นก็เท่ากับทำความผิดฐานหลอกลวงฮ่องเต้!เนื่องจากมีอคติมาก่อน ฮ่องเต้จึงไม่เคยคิดว่าคนที่ส่งของปลอมมาคือเย่อวิ๋นถู...ซูหัวจิ่นไม่มีเส้นสาย และไม่มีเงิน เขาจะโชคดีเพียงใดที่ได้ภาพวาดนั้นมา?ดวงตาของฮ่องเต้หนักอึ้ง ทันใดนั้นเขาก็พูดกับขันทีที่อยู่ข้างหลังเขาว่า “ไปเอาภาพวาดจากคลังสมบัติของข้ามา”ขันทีตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วรีบตอบ “พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท”เขาดุขันทีตัวเล็กที่อยู่รอบตัวเขาอย่างรวดเร็ว ขอให้พวกเขาเคลื่อนไหวให้เร็วขึ้นหลังจากนั้นไม่นานภาพวาดที่ถูกเก็บไว้ในคลังของฮ่องเต้ก็ถูกนำมาวางต่อหน้าผู้คนฮ่องเต้หยิบมั

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 454

    แนวทางเกือบจะเหมือนกันทุกประการนางลดสายตาลง จับมือของเย่เสวียนถิงเบา ๆ รอผลการถกเถียงเกี่ยวกับภาพวาดทั้งสองนางอยากเห็นเย่อวิ๋นถูอับอายต่อหน้าสาธารณชน!แน่นอนว่าเมื่อฮ่องเต้เฒ่าได้ยินสิ่งที่คนเหล่านั้นพูด เขาก็ยิ่งโกรธมากขึ้นดวงตาของเขาเต็มไปด้วยโทสะ“ซูหัวจิ่น น่าชื่นชมนัก!”ตอนนี้ไม่มีพี่น้องซูคนใดอยู่ในวัง ดังนั้นจึงไม่มีใครสามารถพูดแทนพวกเขาได้เลยแต่ในเวลานี้จู่ ๆ ก็มีคนในหมู่ขุนนางกล่าวขึ้น“เหตุใดฝ่าบาทจึงคิดว่าภาพวาดของใต้เท้าซูเป็นของปลอมหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เมื่อได้ยินเสียงพูดขึ้นอย่างฉับพลันเช่นนี้ ทุกคนก็หันไปมองทันทีก็เห็นข้าราชการหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาสง่างามคนหนึ่งเดินออกมา มองภาพวาดทั้งสองอย่างใจเย็นฮ่องเต้ตกใจเล็กน้อย “อวิ๋นเซียงหรูเจ้าหมายความว่าอย่างไร?” ใบหน้าของอวิ๋นเซียงหรูสงบและน้ำเสียงของเขาก็สงบ “เพราะในความคิดของกระหม่อม ภาพวาดที่องค์ชายสามมอบให้ไทเฮาต่างหากที่เป็นของปลอม”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เย่อวิ๋นถูก็มองเขาอย่างเย็นชาทันที “เจ้าพูดจาเหลวไหล ใส่ร้ายข้า!”สวีชิงโม่ก็แทรกออกมาจากฝูงชน ยืนอยู่ข้างอวิ๋นเซียงหรูและเอ่ยด้วยความเคารพ “ฝ่าบาท กระหม่อมพอ

Latest chapter

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 930

    คนขายเนื้อทำสีหน้าหวาดกลัว “คนผู้นี้เลวทรามถึงเพียงนี้เลยรึ?”“เจ้าคอยระวังตัวเอาไว้ก็ไม่เป็นไรแล้ว ทางนั้นตรวจดูเสร็จรึยัง? ไปกันต่อเถิด!”เมื่อกองกำลังทำการค้นหาเสร็จเรียบร้อย คนขายเนื้อก็ยิ้มมุมปากเบา ๆเขาคิดไม่ถึงเลยว่าคนเหล่านี้จะพบเบาะแสทางตะวันตกของเมืองเร็วถึงเพียงนี้หากเขาไม่ได้เตรียมพร้อมมาก่อนหน้านี้และรีบปลอมตัวโดยไว เขาก็คงจะถูกจับได้ไปแล้วคนขายเนื้อรีบเข้าไปยังพื้นที่ด้านในสุดของร้านเขาเหลือบมองหนอนกู่ที่ซ่อนเอาไว้ในตู้ในหนึ่ง และเมื่อเปิดตู้ใบนั้น ดวงตาของเขาก็ฉายแววน่ากลัวออกมาผ่านมาหลายปี ดูเหมือนโลกภายนอกจะลืมความน่ากลัวของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว เริ่มแรกนั้นพวกเขาได้ครอบครองตำแหน่งระดับสูงของราชวงศ์ในแคว้นต่าง ๆ ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงตำแหน่งในนามแต่มันสามารถแทรกแซงแคว้นนั้น ๆ และพลิกสถานการณ์ได้ตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดคือการแอบเข้าไปในพระราชวังเพื่อช่วยเหลือเจียงเฟยเอ๋อร์หากต้องการเข้าไปในพระราชวังมีการคุ้มกันอย่างแน่นหนาได้ก็ต้องใช้วิธีที่ต่างออกไปบุรุษผู้นั้นออกจากร้านขายเนื้อหมูที่ถูกตรวจค้นเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับปิดประตูร้านแสร้งทำเป็นออกไปทำธุร

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 929

    หลังจากซูชิงอู่ส่งชิงอวี่ออกไปก็ยังคงตื่นเต้นอยู่เล็กน้อยซูชิงอู่หาคนมาวาดภาพเหมือนเจ้าอาวาสในปีที่แล้วและส่งต่อให้คนอื่น ๆ เพื่อช่วยกันค้นหา ซึ่งมันก็ผ่านมานานมากแล้ว และมีเพียงชิงอวี่เท่านั้นที่นำข่าวที่ได้รับการยืนยันกลับมาแจ้งนางแม้จะยังไม่ได้เจอคนผู้นั้น แต่ก็หมายความว่านางจะได้รู้ความจริงของการตายของท่านแม่เสียทีหลังจากสงบสติอารมณ์ได้ ซูชิงอู่ก็ตัดสินใจเดินทางไปทันทีนางอยากไปเจอจิ้งซินผู้นั้นด้วยตนเองและถามเขาว่าเหตุใดตอนนั้นเขาถึงฆ่าท่านแม่ของนาง!คืนเดียวกันนั้นซูชิงอู่ได้พูดคุยเรื่องนี้กับเย่เสวียนถิงเมื่อเย่เสวียนถิงได้รับรู้เรื่องราวก็พยักหน้าเบา ๆ และตัดสินใจอย่างทันทีว่า “ข้าจะส่งคนไปจับเขามาให้เจ้า”ซูชิงอู่ได้ยินอีกฝ่ายตอบง่าย ๆ และห้วนก็อดไม่ได้ที่จะตะลึงและหัวเราะ“ได้”ตอนนี้มีศิษย์พี่ของเจียงเฟยเอ๋อร์คอยจับตาดูอยู่ในเมืองหลวง ซูชิงอู่จึงไม่สามารถไปหาคนผู้นั้นพร้อมกับชิงอวี่ได้บรรยากาศในเมืองหลวงเริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆแม้แต่ฮ่องเต้เช่นเย่ชิวหมิงก็สังเกตเห็นสัญญาณของเหตุการณ์ร้ายแรงบางอย่างที่กำลังจะตามมาเขาเคยได้ยินซูชิงอู่พูดว่าศัตรูที่ซ่อนตัวอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 928

    ไป๋เฟิงก้มหัวลงอย่างเชื่อฟัง ราวกับมันได้กลายเป็นแมวตัวใหญ่ไปแล้วซูชิงอู่อดหัวเราะไม่ได้ “เจ้าคงเหนื่อยแย่ วันนี้ทำได้ดีมาก”ในที่สุดก็ได้ใช้ประโยชน์จากไป๋เฟิง สมกับที่เลี้ยงมันมานานไป๋เฟิงยืนขึ้นและอ้าปากหาว ส่วนสิงโตขนทองคำที่อยู่ข้าง ๆ ย่องเข้ามาทางด้านหลังซูชิงอู่ และใช้หัวถูเอวของนางดูเหมือนว่ามันต้องการให้ซูชิงอู่ลูบมันด้วยคนอื่น ๆ มองไปยังซูชิงอู่ที่มีร่างกายบอบบางยืนอยู่ตรงหน้าสัตว์ดุร้ายทั้งสอง พวกเขาทั้งหมดก็พูดไม่ออกอยู่นานนี่มัน...ร้ายกาจเกินไปแล้ว!แม้แต่กลุ่มบุรุษร่างใหญ่เช่นพวกเขาก็ยังไม่กล้าเข้าใกล้สัตว์ดุร้ายทั้งสองแม้แต่ครึ่งก้าว ทว่าซูชิงอู่กลับสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับพวกมันได้อย่างกลมกลืนเหมือนพวกมันเป็นสัตว์เลี้ยงของนางเมื่อไม่ถูกยุงกัดและกินยาสมุนไพรที่ผสมไว้แล้ว ม้าทุกตัวในสนามฝึกก็สงบลงและกลับสู่ภาวะปกติทันทีที่ซูชิงอู่กลับมาถึงตำหนัก ก็เห็นหรงหย่าวิ่งเข้ามา“พระชายา เมื่อครู่มีคนมาพบท่านและบอกว่ามีเรื่องด่วนต้องรายงาน”“มีเรื่องด่วนอะไรรึ?”หรงหย่าส่ายหัว “ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน ท่านไปดูก่อนเถิด”ซูชิงอู่สั่งให้คนพาผู้ส่งข่าวเข้ามาทันทีนางจ้อง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 927

    เลือดของแมลงวันติดอยู่ที่มือของซูชิงอู่ส่งกลิ่นแปลก ๆ ออกมาเมื่อซูชิงอู่มองชัด ๆ นางก็ได้รู้ว่ามันไม่ใช่แมลงวันแต่เป็น…แมลงมีปีกชนิดหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายแมลงวันปากของแมลงมีความคมมาก สามารถเจาะทะลุขนของสัตว์บางชนิดได้ง่าย ทว่าแมลงมีปีกชนิดนี้ไม่สนใจมนุษย์และจะกัดเฉพาะสัตว์เท่านั้นที่แท้นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้สัตว์ในเมืองหลวงบ้าคลั่งในช่วงหลายวันนี้!ซูชิงอู่ยังสังเกตเห็นว่ายุงเหล่านี้ถูกพิษและเมื่อพวกมันแพร่พันธุ์ ในไข่ก็มีสารพิษดังกล่าวติดไปด้วยขอเพียงแมลงเหล่านี้ยังกัดสัตว์ต่อไป สารพิษก็จะค่อย ๆ สะสมทีละน้อยสุดท้ายก็ถึงขั้นทำให้เสียสติ!คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้มีเจตนาชั่วร้ายหากนางไม่ค้นพบสิ่งนี้ก่อน เกรงว่าม้าศึกทั้งหมดจะต้องตายไปด้วยความบ้าคลั่งอีกทั้งยังไม่อาจทราบสาเหตุได้แน่นอนว่าม้าศึกเป็นส่วนสำคัญในกองทัพ หากทหารม้าเสียม้าไป ก็คงไม่ต่างไปจากคนอ่อนแอไร้ค่า...ซูชิงอู่ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว“นำม้าทุกตัวไปไว้ในที่ปิดและหาทางฆ่าแมลงมีปีกเหล่านี้ให้สิ้นเสีย”รองแม่ทัพที่ติดตามนางมารีบจำคำสั่งนี้เอาไว้ทันที“รับทราบพ่ะย่ะค่ะพระชายา!”เขาก็รีบกระจายคำสั่งออก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 926

    เมื่อเย่เสวียนถิงได้ยินสิ่งที่ซูชิงอู่พูด สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเยือกเย็น “ข้าจะส่งคนไปตรวจสอบ”ซูชิงอู่ส่ายหัวทันที “ยาพิษนี้คงไม่ได้อยู่ในอาหารสัตว์ อีกทั้งเมื่อมาลองคิดดู สัตว์ป่าจำนวนมากที่อยู่ใกล้เมืองหลวง รวมไปถึงม้าศึกล้วนติดพิษกันหมด มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่ไม่เป็นอะไร นี่เป็นเรื่องที่แปลกมาก และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือไม่มีใครสามารถวางยาพิษม้าศึกในเมืองหลวงได้อย่างเงียบ ๆ ”การวิเคราะห์ของซูชิงอู่นั้นสมเหตุสมผลมาก แม้แต่เย่เสวียนถิงเองก็ขมวดคิ้วขึ้นมาหากหาสาเหตุไม่พบก็แก้ปัญหาไม่ได้แม้จะรักษาม้าหนึ่งในนั้นจนหายขาด แต่ก็จะกลับมามีอาการเดิมในอีกไม่ช้าไม่ไกลกันนักก็มีนายทหารระดับสูงนายหนึ่งวิ่งเข้ามาเขาหอบหายใจและกล่าวว่า “ท่านอ๋อง ทำการตรวจสอบเสบียงอาหารแล้วไม่พบสิ่งผิดปกติพ่ะย่ะค่ะ”“น้ำล่ะ?”“ตรวจสอบน้ำแล้วเช่นกัน ไม่มีร่องรอยของการวางยาพิษเลยพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อได้ยินรายงาน เย่เสวียนถิงก็ขมวดคิ้วหนักกว่าเก่าคราวนี้แย่แล้วสิซูชิงอู่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ช่วยทำให้ม้าทุกตัวสงบลงก่อนได้หรือไม่ เดี๋ยวข้าจะเข้าไปดูรางอาหารม้าเอง”“ได้พ่ะย่ะค่ะพระชายา กรุณารอสักครู่ ก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 925

    เริ่มแรก เขาสงสัยในเรื่องที่ซูชิงอู่เคยพูดจนเกิดความคิดจินตนาการบางส่วนขึ้นมา เรียกได้ว่าตอนกลางวันก็เอาแต่นึกถึง ตกกลางคืนก็เก็บมาฝันอีกแต่เขาไม่เคยได้ยินซูชิงอู่พูดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลยจริง ๆเนื่องจากความฝันนั้นมันดูเพ้อเจ้อเกินไป เย่เสวียนถิงจึงไม่พูดออกมา เพราะกลัวว่ามันจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับซูชิงอู่อย่างไม่มีเหตุผลหลายวันมานี้ซูชิงอู่อาศัยอยู่กับลูกน้อยทั้งสามของนางเพื่อชดเชยช่วงเวลาที่นางห่างพวกเขาไปนานเด็ก ๆ ที่เพิ่งจะอายุได้ไม่กี่เดือนแต่กลับต้องห่างจากอ้อมอกของพ่อแม่ นั่นทำให้ซูชิงอู่รู้สึกผิดขึ้นมาดังนั้นนางจึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องภายนอกมากนักทันใดนั้นนางก็นึกอะไรออกและถามว่า “เสวียนถิง ช่วงนี้หมาป่าเหล่านั้นที่อยู่ข้างนอกเป็นอย่างไรบ้าง?”เย่เสวียนถิงเงยหน้าขึ้นและพูดว่า “ไม่ได้มีเพียงสัตว์ร้าย แต่ยังกระทบไปถึงม้าศึกด้วย ไม่รู้ว่าเหตุใดถึงเริ่มไม่เชื่อฟังคำสั่งกัน”“เดี๋ยวข้าจะไปตรวจสอบเรื่องนี้เสียหน่อย”ซูชิงอู่รู้สึกได้โดยไม่รู้ตัวว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้แม้เรื่องจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยและไม่มีผลกระทบกับมนุษย์มากนัก แต่นางก็รู้สึกอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 924

    ทันใดนั้นหมอหลวงซุนก็เหมือนจะคิดอะไรออก “เหมือนกับตอนที่พระชายาใช้ดอกไม้ชนิดหนึ่งเพื่อทำให้ม้าพยศคลั่งใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”“อืม ทำนองนั้นแหละ”สิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่นางพบในเภสัชตำรับ และหากใช้มัน ผลลัพธ์ที่ได้จะน่าทึ่งมากแม้ลงมือไปอย่างกะทันหัน แต่ก็ไม่มีใครจับได้ปรมาจารย์มือวางพิษที่แท้จริงคือผู้ที่วางยาพิษโดยไม่ทิ้งหลักฐานใด ๆ เอาไว้“ขอบพระทัยพระชายาสำหรับคำชี้แนะ หลังจากที่ได้พูดคุยกับท่าน กระหม่อมก็เข้าใจอย่างกระจ่างแจ้งแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ซูชิงอู่ปิดเภสัชตำรับ “ข้าท่องเภสัชตำรับนี้จนจำขึ้นใจ และเข้าใจเนื้อหาด้านในได้คร่าว ๆ เพียงแต่ยังไม่พบวิธีที่จะไขความลับที่อยู่ในนั้น หวังว่าท่านจะช่วยเรื่องนี้ได้”คราวนี้ ทุกคนเชื่อมั่นในคำพูดของซูชิงอู่สิ่งที่พวกเขาไม่ได้สนใจ แต่พระชายากลับนำมาใช้งานได้ถึงขั้นนี้ ยังมีอะไรที่ต้องพูดกันอีกหรือ?ตาแก่เช่นพวกเขาที่อาศัยว่าตนอายุมากทำตัวอาวุโสดูถูกผู้อื่นนั้นเทียบเทียมพระชายาไม่ได้เลย!หลังจากที่ซูชิงอู่อธิบายเรื่องนี้จบ นางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและแอบหลบออกมาทางประตูใหญ่นางกลัวว่าคนเหล่านั้นจะถามนางว่านางศึกษาเรียนรู้ทักษะทางการ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 923

    หมอหลวงซุนขมวดคิ้วเล็กน้อย“อย่าพูดไร้สาระ นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร? พระชายาไม่จำเป็นต้องโกหกพวกเราเลย โกหกพวกเราไปแล้วนางจะได้ประโยชน์อะไร?”คำพูดนี้ก็ถือว่ามีเหตุผลทุกคนต่างพูดไม่ออกทำได้แค่นั่งเงียบ ๆ แล้วพลิกหน้าอ่านต่อไปพลิกหน้ากระดาษตั้งแต่เช้าจรดค่ำ และอ่านจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้นตำราทั้งเล่มถูกอ่านจนจบอย่างรวดเร็ว ทุกคนในสำนักหมอหลวงไม่ได้นอนมาสองวันสองคืน และตอนนี้ทุกคนดูเหนื่อยและมีสีหน้าทรุดโทรมเมื่ออ่านหน้าจนถึงสุดท้าย แม้แต่หมอหลวงซุนก็ตกอยู่ในความเงียบเพราะเภสัชตำรับเล่มนี้บันทึกเฉพาะโรคและวัตถุดิบยาที่ธรรดาทั่วไปมาก ๆ บางส่วนเท่านั้นข้อแตกต่างเพียงหนึ่งเดียวคือผู้อาวุโสเช่นพวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบยาหลายประเภทและพัฒนาแนวคิดใหม่ ๆแม้จะไม่ไร้ประโยชน์ แต่ความคาดหวังกับผลลัพธ์ก็แตกต่างกันมากเลยทีเดียวถึงขั้นทำให้พวกเขาขาดความมั่นใจและอดไม่ได้ที่จะคิดว่านี่น่ะหรือคือเภสัชตำรับที่ตระกูลฟางเฝ้าหวงแหนมานานหลายปี?ดวงตาของหมอหลวงซุนเต็มไปด้วยสีแดงก่ำที่เกิดจากการอดนอน“ในเมื่อเภสัชตำรับของตระกูลฟางไร้ประโยชน์ เช่นนั้นพระชายาไปเรียนรู้ทักษะด้านการแพทย์มา

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 922

    “นี่คือวัตถุดิบยาและปริมาณที่คนผู้นั้นทำการวางยา ที่สำนักหมอหลวงของพวกท่านมีสิ่งนี้อยู่แล้ว หากจะทำยาถอนพิษก็คงไม่ใช่เรื่องยากกระมัง”“ไม่ยากพ่ะย่ะค่ะ ไม่ยาก!”หมอหลวงซุนยิ้มร่าราวกับได้รับสมบัติเขามองซูชิงอู่ที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว แต่กลับเก่งกาจกว่าเหล่าคนชราเช่นพวกเขาเมื่อรวมกับเภสัชตำรับของตระกูลฟางที่ซูชิงอู่พูดถึง หมอหลวงเฒ่าก็ดีใจจนเนื้อเต้นหากได้เรียนรู้และกลายเป็นคนที่เก่งกาจเหมือนพระชายา ระดับความรู้ของเขาก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วยหรือไม่?แต่หมอหลวงซุนไม่เคยรู้เลยว่าทุกสิ่งที่ซูชิงอู่เรียนรู้ไม่ได้มาจากเภสัชตำรับของตระกูลฟางในเภสัชตำรับเล่มนั้นมีความแตกต่างตรงจุดไหน ตัวซูชิงอู่ในตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำแม้ตอนตายไปในชาติก่อน เภสัชตำรับก็ถูกทำลายและไม่มีใครเห็นความลับที่ซ่อนอยู่ในนั้นจุดเด่นเพียงหนึ่งเดียวของเภสัชตำรับเล่มนั้นคือบันทึกข้อมูลวัตถุดิบยาจำนวนมากที่คนทั่วไปไม่ทราบและสรรพคุณลับบางส่วนบรรดาผู้อาวุโสของสำนักหมอหลวงพากันมาช่วยคิดค้นยาถอนพิษเพื่อที่จะได้อ่านเภสัชตำรับนั้นเร็ว ๆในที่สุดเช้าวันรุ่งขึ้นยาที่สามารถฟื้นฟูสติของสัตว์ร้ายได้ก็ถูกส่งมาให้ฮ่องเต้

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status