มีผิวหนังส่วนใบหน้าอยู่!เสียงกรีดร้องของสนมหลิวยังคงก้องอยู่ในหู และฮ่องเต้เฒ่าก็รู้สึกราวกับว่ามีบางอย่างระเบิดต่อหน้าต่อตาเขาวิสัยทัศน์ของเขาค่อย ๆ มืดลง เขาตกใจมากกับเหตุการณ์ตรงหน้าจนลุกขึ้นจากบัลลังก์“ซูชิงอู่ จะ...เจ้ากำลังทำอะไร!”ซูชิงอู่ยืนนิ่งนางเปิดเผยตัวตนของคนเหล่านี้ต่อหน้าฮ่องเต้โดยมีจุดประสงค์เพื่อจับพวกเขาทั้งหมดคนเหล่านี้คือศัตรูที่ซ่อนตัวอยู่ในวังเวลานี้ใบหน้าของสนมหลิวอาบไปด้วยเลือดแม้จะเป็นใบหน้าปลอม แต่มันก็ติดอยู่กับร่างกายของนางโดยใช้วิธีลับซึ่งแข็งแรงมากถึงจะมีส่วนที่เน่าเปื่อยไปบ้างแล้ว แต่ก็ยังใช้งานได้อยู่แต่ตอนนี้ที่ซูชิงอู่ได้ฉีกมันออกแล้ว ความเจ็บปวดที่ได้รับนั้นไม่ต่างจากการฉีกชั้นผิวหนังจริงของนางซูชิงอู่หันมาพร้อมกับโยนเศษชิ้นเนื้อที่เปื้อนเลือดลงบนโต๊ะตรงหน้าฮ่องเต้นางพูดต่อโดยไม่หันกลับมามอง “ฝ่าบาทอย่าได้ทรงเป็นกังวล โปรดทรงตรวจดูก่อนเพคะว่าชื้นเนื้อนี้ทำมาจากอะไร”เลือดและรอยเน่าเปื่อยบนหน้าปลอมทำเอาฮ่องเต้เฒ่าอาเจียนเป็นเวลานานแต่ก็ทรงหยิบพู่กันมาและใช้ปลายด้ามพู่กันจิ้มวัตถุนั้นเบา ๆ ทันใดนั้นรูม่านตาของเขาก็หดตัวลงทันที
ขณะที่ซูชิงอู่เผชิญหน้ากับคนสองคนที่วิ่งเข้ามาหานางพร้อมกับกรงเล็บในมือ สีหน้าของนางกลับไม่ไหวติง ดวงตาของฮ่องเต้เฒ่าเบิกกว้าง “หลีกไป!”ในสายตาของเขา ซูชิงอู่กำลังจะตายหลังจากนั้นเขาคงเป็นรายถัดไปใครจะคิดว่าฆาตกรจะอยู่ในหมู่นางสนมของเขา เมื่อฮ่องเต้เฒ่าคิดถึงเรื่องนี้เขาก็ตัวชาโชคดีที่นางสนมเหล่านี้ยากที่จะได้เข้าเฝ้าและรับความโปรดปรานจากเขาฮ่องเต้เฒ่าจ้องไปที่แผ่นหลังบาง ๆ ของซูชิงอู่ พร้อมกับครุ่นคิดหลายสิ่งในใจแต่ไม่ว่าจะคิดอย่างไร เขาก็ไม่อยากที่จะไปยืนบังซูชิงอู่ไว้เพราะในใจของเขาคิดว่าตนคือฮ่องเต้และเป็นเรื่องปกติที่ไม่ว่าใครก็จะต้องเสียสละเพื่อเขาแม้อีกฝ่ายจะอุ้มท้องหลานชายในอนาคตก็ตามแต่ชั่วครู่ต่อมา ฮ่องเต้เฒ่าก็ได้ยินเสียงกรีดร้องสองเสียงเสียงกรีดร้องไม่ได้มาจากซูชิงอู่ แต่มาจากนางสนมทั้งสองที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเมื่อฮ่องเต้เฒ่ากลับมามีสติและมองดู เขาก็เห็นศีรษะของคนทั้งสองที่อยู่ตรงหน้าซูชิงอู่ ถูกแทงด้วยดาบอันแหลมคม และเลือดนั้นก็กระเซ็นใส่ใบหน้าของซูชิงอู่ซูชิงอู่ที่เป็นคนลงมือหยิบมีดสั้นทั้งสองเล่มออกจากหัวของพวกนางอย่างใจเย็น แล้วตั้งท่าพร้อมมีดในมื
ซูชิงอู่กระซิบ “ข้าจัดการเองได้”เย่เสวียนถิงเม้มปาก “หากเกิดอะไรขึ้นจะเป็นอย่างไร? เจ้ากำลังตั้งครรภ์อยู่นะ...แม้เจ้าจะไม่ได้ตั้งครรภ์ แต่หากเจ้าได้รับบาดเจ็บจะทำอย่างไรเล่า?”ความกังวลในดวงตาของเขาดูเหมือนจะเอ่อล้นออกมา ซูชิงอู่ที่เห็นก็รู้สึกอบอุ่นในหัวใจ นางจึงหอมแก้มเขาอย่างอ่อนโยนคำพูดที่เหลือของเย่เสวียนถิงติดอยู่ในลำคอของเขาทันทีนางยิ้มแย้มพลางลดเสียงลงและพูดว่า “เหตุการณ์คลี่คลายแล้ว เอาไว้เราค่อยคุยกันหลังจากที่กลับไปก็ได้ ฮ่องเต้ยังทรงอยู่ตรงนี้นะ…”ยามนี้ใบหน้าของฮ่องเต้เฒ่าซีดเซียว“นี่พวกเจ้าสองคนทำบ้าอะไรกันแน่? คนพวกนี้มาจากไหน?”ซูชิงอู่เชิดหน้าขึ้นและพูดด้วยเสียงราบเรียบ “เรื่องนี้ฝ่าบาทคงต้องตรัสถามกับท่านราชครูแล้วล่ะเพคะ”“ราชครู? ท่านราชครูทำอะไร!”ซูชิงอู่เลิกคิ้วเล็กน้อย “เพราะคนเหล่านี้ใช้วิธีการปลอมตัวเช่นเดียวกับท่านราชครูเพคะ และแม้ว่าน้ำยาประทินผิวของหม่อมฉันจะไม่มีส่งผลอื่นใด แต่มันก็ได้รับการคิดค้นมาเป็นพิเศษสำหรับใบหน้าปลอมประเภทนี้ และหม่อมฉันก็ใช้มันได้อย่างถูกต้องเพคะ”ฮ่องเต้เฒ่าตกตะลึงและไม่อยากจะเชื่อสิ่งในที่นางพูด“เจ้าหมายความว่านั่
ทรงตรัสต่อ “หากท่านราชครูไม่มีความผิด พวกเขาทั้งสองจะถูกโบยคนละห้าสิบไม้ แต่เนื่องจากพระชายาเสวียนกำลังตั้งครรภ์ อ๋องเสวียนต้องเป็นคนรับโทษห้าสิบครั้งของนางแทน”เย่เสวียนถิงหรี่ตาลง แต่ไม่ได้พูดอะไรซูชิงอู่รู้สึกลางสังหรณ์ไม่ดี การที่อีกฝ่ายแน่ใจว่าน้ำยาประทินผิวของนางจะไม่เป็นผล นั่นหมายความว่าเขาต้องมีตัวช่วยขณะที่นางกำลังจะพูด นางก็ได้ยินเย่เสวียนถิงพูดว่า “ในทางตรงกันข้าม หากท่านราชครูมีความผิดจริง โปรดทรงประทานอนุญาตให้ลูกนำเขาไปประหารทันทีด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”“ย่อมได้”ฮ่องเต้เฒ่าพยักหน้ายอมรับคำขอของเย่เสวียนถิงตอนนี้ราชครูและเย่เสวียนถิงอยู่ตรงข้ามกัน การเดิมพันของพวกเขาเกี่ยวพันกับความเป็นและความตายหากโดนท่อนไม้ขนาดใหญ่ฟาดไปนับร้อยหน ไม่ว่าร่างกายจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ไม่สามารถทนได้ และมีโอกาสมากที่จะถูกทุบตีจนตายซูชิงอู่จึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวลนางเม้มปากพลางคว้าแขนของเย่เสวียนถิง แล้วส่ายหัวใส่เขาเบา ๆ“ข้าเกรงว่าท่านราชครูอาจมีวิธีบางอย่าง ถึงตอนนั้น…”เย่เสวียนถิงส่ายหัวให้นาง ยื่นมือไปลูบหัวนางอย่างปลอบโยน“ไม่ต้องกังวล ไม่มีเรื่องอะไรหรอก”ซูชิงอู่หลุบสายตา
ตอนนี้มีเพียงเหตุผลเดียวเท่านั้นที่ทำให้น้ำยาประทินผิวไม่สามารถเปิดโปงการปลอมตัวของเขาได้...ซึ่งก็คือ ราชครูตัวปลอมคนนี้รูปร่างหน้าตาเหมือนกับราชครูตัวจริงที่ก่อนหน้านี้เคยสูญเสียแขนข้างหนึ่งทุกประการ...ราชครูส่งเสียงหึอย่างเย็นชาและพูดอย่างเรียบเฉย “ตอนนี้พระชายากับท่านอ๋องมีสิ่งใดต้องการพูดอีกหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”“ข้า…”ขณะที่ซูชิงอู่กำลังจะพูดถึงสิ่งที่นางคาดเดา ทันใดนั้นนางก็เห็นแสงวาบส่องมาจากหางตาของนางเพราะเย่เสวียนถิงซึ่งยืนอยู่ข้างหลังนางได้ลงมือแล้วดาบของเขาพุ่งไปโจมตีอย่างรวดเร็วโดยที่คู่ต่อสู้ไม่ทันได้ตั้งตัว ดังนั้นดาบจึงแทงเข้าที่หัวใจของราชครูเฒ่าอย่างไม่ลังเลดวงตาของราชครูเฒ่าเบิกกว้างและเขาก็ส่งเสียงโอดครวญเขามองไปที่เย่เสวียนถิงด้วยความเหลือเชื่อ ไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะโจมตีเขาต่อหน้าฮ่องเต้เฒ่าแม้แต่ซูชิงอู่เองก็คาดไม่ถึงเช่นกันว่าเหตุการณ์จะเป็นเช่นนี้ฮ่องเต้เฒ่าทรงลุกขึ้นยืนทันทีและตะโกน “เย่เสวียนถิง นี่เจ้าคิดจะทำการกบฏรึ? ใครก็ได้รีบเข้ามาเร็ว!”องครักษ์จากด้านนอกรีบเข้ามาและล้อมรอบซูชิงอู่และเย่เสวียนถิงเอาไว้ราชครูเฒ่าตัวสั่นเทาจนทนไม่ไหวแล้ว
องครักษ์ต่างพากันมองไปยังที่ฮ่องเต้เฒ่าและไม่กล้าขยับตัวเหตุผลที่พวกเขาไม่ได้พุ่งไปหาเย่เสวียนถิงในตอนแรก ประการแรกคือพวกเขาไม่สามารถเอาชนะเย่เสวียนถิงได้ประการที่สองก็เป็นเพราะพวกเขาไม่สามารถเอาชนะเย่เสวียนถิงได้อีกนั่นแหละพวกเขาไม่ได้โง่ และพวกเขารู้ดีว่าหากใครพุ่งเข้าไปก่อนก็คงได้ตายเป็นคนแรกฮ่องเต้เฒ่าทอดพระเนตรเห็นความจริงตรงหน้า จึงทรงโบกมือเบา ๆ เพื่อสั่งให้เหล่าองครักษ์ล่าถอยทุกคนถอนหายใจด้วยความโล่งอกและวิ่งออกไปเร็วกว่าตอนที่รีบเข้ามา“เจ้ารู้มานานแล้วหรือ?”ฮ่องเต้เฒ่ารู้สึกถึงเพียงอารมณ์ที่โกรธเกรี้ยวของตน และรู้สึกว่าที่ผ่านมาตนได้ถูกขังไว้ในถ้ำอันมืดมิด ทว่าในขณะนี้มันได้กลายเป็นเรื่องขำขันไปแล้วเย่เสวียนถิงเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย เสียงของเขาเย็นชาและเรียบนิ่ง“พ่ะย่ะค่ะ”“เจ้าช่างเป็นลูกที่ดีของข้าจริง ๆ !”ฮ่องเต้เฒ่ากัดฟันในขณะที่พูดประโยคดังกล่าวอย่างไรก็ตามสิ่งที่เขารับปากไว้ก่อนหน้านี้ได้ถูกกล่าวออกไปแล้ว และตอนนี้ข้อเท็จจริงก็อยู่ตรงหน้า ไม่ว่าราชครูผู้นั้นจะเป็นตัวจริงหรือตัวปลอม เขาก็ตายไปแล้ว“เสด็จพ่อก็ทรงชมเกินไปพ่ะย่ะค่ะ”เย่เสวียนถิงตอบกลับ
แน่นอนว่าไม่ได้!เขาแม่มปากแน่นพลางอุ้มซูชิงอู่แน่นขึ้นโดยไม่พูดอะไร เขาก้าวออกจากวังไปขึ้นรถม้าด้วยความรวดเร็ว“กลับจวน!”ซูเฟยยังคงรอข่าวเกี่ยวกับซูชิงอู่และเย่เสวียนถิงอยู่ข้างนอก สุดท้ายนางก็ได้ทราบจากคนรับใช้ว่าทั้งสองมุ่งหน้ากลับจวนแล้วหลังจากได้ยินเช่นนั้น ซูเฟยก็แปลกใจเล็กน้อย“รีบถึงเพียงนั้นเลยหรือ?”นางกำนัลอาวุโสข้างกายรีบปลอบใจทันที “คงเป็นเพราะตอนนี้ดึกแล้วอีกทั้งพวกเขาก็อาจมีเรื่องด่วนเพคะ ในเมื่อตอนนี้ทุกคนปลอดภัยแล้ว พระสนมก็ไม่ต้องเป็นกังวลไปนะเพคะ”ซูเฟยนั่งบนเก้าอี้พลางเท้าคางถอนหายใจเบา ๆ“ข้าไม่ได้กังวลเรื่องความปลอดภัยของพวกเขามากนักหรอก พวกเขาสองคนหูตาว่องไวขนาดนั้นใครจะกล้าเล่นงานล่ะ? ก็แค่...”นางกำนัลอาวุโสถาม “อะไรหรือเพคะ?”“เด็กน้อยชิงอู่ยังมีลูกที่แสนล้ำค่าอยู่ในครรภ์ พวกเขานี่ก็ช่างทำเกินไปเสียจริง!”นางกำนัลอาวุโส “...”ฮ่องเต้ทรงมีรับสั่งให้ปิดข่าวเกี่ยวกับราชครู ทุกคนที่ไม่ได้แพร่ข่าวออกไปต่างก็รู้เรื่องนี้ส่วนศพของนักฆ่าที่บุกเข้ามาเมื่อคืนก็ถูกกำจัดเรียบร้อย ทุกอย่างดูเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นในชั่วพริบตา สภาพอากาศก็กลับมาอบอุ่น อาการ
เมื่อเห็นว่าซูชิงอู่ตอบตกลง ใบหน้าของฉีเทียนหยวนก็เต็มไปด้วยความดีใจเขาลุกขึ้นและกล่าวคำอำลา “เช่นนั้นข้าจะรอต้อนรับพระชายาและท่านอ๋องนะ”หลังจากคนกลับไปแล้ว เย่เสวียนถิงก็หันไปมองซูชิงอู่“เจ้าชอบสิงโตหรือ?”ดวงตาของเขาขรึมลงราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่างหากเป็นเช่นนั้นก็คงต้องเอาสิงโตมาแทนไป๋เฟิง บางทีอาอู่อาจจะชอบ...ไป๋เฟิงที่กำลังเดินอยู่ในสวนหลังเรือนตัวสั่นโดยไม่รู้ตัวราวกับรู้สึกว่ากำลังจะมีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้น“ไม่ใช่หรอก”ซูชิงอู่ยิ้มเจ้าเล่ห์ “พรุ่งนี้ องค์ชายสามของแคว้นฉีตะวันออกเชิญองค์ชายทุกคนไปชมสิงโต ณ ที่พำนักของเขา ข้าคิดว่าเขาคงจะไม่ได้เพียงนำสิงโตมาอวด แต่ยังคิดที่จะอวดแคว้นฉีตะวันออกของเขาต่อหน้าทุกคนว่าความแข็งแกร่งของพวกเขาเปรียบเหมือนสิงโต”ฉีเทียนหยวนจะเก็บสิงโตไว้แต่ที่เรือนและชื่นชมมันคนเดียวได้อย่างไร เขาต้องนำมันออกมาอวดอย่างแน่นอนนางไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังวางแผนอะไร แต่ซูชิงอู่สนใจที่จะทำลายแผนของคนอื่นเป็นอย่างมากเย่เสวียนถิงจ้องไปที่ท้องของนางแม้จะยังไม่เห็นเป็นรูปร่างอย่างชัดเจน แต่ก็สามารถเห็นส่วนนูนเล็กน้อยได้แล้วเขาเดินไปเอามือกุมท้องขอ