แชร์

บทที่ 125

ผู้เขียน: วิ๋นเจิง
เสียงตะโกนได้ทำลายความเงียบของตรอกลงทันที

ไม่นานหลังจากนั้น ร่าง ๆ หนึ่งก็หมดสติไปด้วยความตื่นตระหนก

ซูชิงอู่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ดูเหมือนว่าคืนนี้นางจะมาถูกเวลาพอดี

นางเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน สวีชิงโม่กับแม่และน้องสาวของเขาอาศัยอยู่ด้วยกัน แต่แม่ของเขาป่วยด้วยโรคปอดอย่างรุนแรง รวมถึงต้องการสมุนไพรราคาแพงเพื่อยืดอายุขัยของนาง

ในเวลานั้นเย่อวิ๋นถูบังเอิญเป็นผู้คุมสอบบุรุษผู้นี้ หลังจากได้รู้ว่าบุรุษผู้นี้มากไปด้วยความสามารถ เขาจึงสืบค้นข้อมูลรอบตัวของอีกฝ่ายทันที จนกระทั่งได้ช่วยชีวิตมารดาของเขาในช่วงเวลาวิกฤติ

ซูชิงอู่จดจำวันนั้นได้อย่างขึ้นใจ ช่วงเวลาสองคืนก่อนการสอบครั้งใหญ่

ช่างบังเอิญอย่างยิ่ง เหลือเวลาอีกเพียงสองวันก่อนถึงวันสอบใหญ่…

ทันใดนั้น เย่เสวียนถิงก็ดูคล้ายจะเห็นอะไรบางอย่างขณะที่มีคนมาลงจากกำแพง

ไม่นานนัก เขาก็แบกใครบางคนมา

ซูชิงอู่ตกตะลึงเล็กน้อย "ท่านอ๋อง คนผู้นี้คือ..."

เย่เสวียนถิงเอ่ยว่า "คนผู้นี้อยู่ข้างบ้านสวีชิงโม่ หลังจากที่สวีชิงโม่ออกจากที่นี่แล้ว เขาก็สังเกตสังกาอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงออกมา บางทีเขาอาจต้องการส่งสารแจ้งให้ใครบางคนรับรู้"

ซูชิงอู่ชะงั
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 126

    เขาหยุดอยู่หน้าประตูทางเข้าโรงยาอิ๋งชุนพร้อมหอบหายใจอย่างหนัก ด้านหน้าของโรงยาขนาดใหญ่ดูโอ่อ่ากว่าโรงยาขนาดเล็กย่อมหลายเท่า“มีใครอยู่หรือไม่? ข้าอยากพบท่านหมอ!”เสียงเอี๊ยดอ๊าดดังมาจากประตูบานนั้น…ประตูไม้ถูกผลักให้เปิดจากด้านในคนงานในโรงยาที่เดินออกมามองเขาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าเขาสวมอาภรณ์เก่าซอมซ่อ“ท่านป่วยด้วยโรคอะไรมา?”สวีชิงโม่รีบตอบ "ข้าอยากจะขอให้หมอไปรักษามารดาของข้าที่บ้าน ที่นี่มีหมอคนใดพอจะรักษานางได้หรือไม่?"ทันใดนั้น คนงานในโรงยาก็แบมือออกมา “กลางดึกเช่นนี้ ข้าจะต้องไปตามหมอก่อน อีกทั้งยังไม่รู้ว่าต้องประสบความยากลำบากเพียงใด การเดินทางไกลขนาดนี้จะทำให้หมอเหนื่อยไปอีกครึ่งวัน เช่นนั้นท่านต้องจ่ายเงินมาก่อน"สวีชิงโม่ตัวค้างแข็งเขาเอื้อมมือแตะกระเป๋าตนเองเพียงเพื่อจะพบว่าข้างในมีเงินอยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้นนี่คือเงินที่แม่ของเขาทิ้งไว้ให้เขาซื้อพู่กันและแท่งหมึกเพื่อการสอบขุนนางในปีนี้ เขาพาแม่และน้องสาวเดินทางไกลมายังเมืองหลวง เขาจำไม่ได้แล้วด้วยซ้ำว่าเดินมานานเพียงใด อีกทั้งต้องทนทรมานต่อความยากลำบากมากเพียงใด เพื่อจะได้เป

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 127

    ริมฝีปากสวีชิงโม่สั่นไหว มือของเขาที่ถือเศษเงินก็สั่นเทาด้วยเช่นกัน"แต่ว่าข้า..."ซูชิงอู่ดูคล้ายจะเข้าใจสถานการณ์ของเขา เช่นนั้นนางจึงพูดขึ้นว่า "พิจารณาจากการแต่งกายของท่านแล้ว ท่านคงจะเป็นบัณฑิตผู้เข้าสอบขุนนาง โรงยาตระกูลฟางในเวลานี้เป็นของจวนท่านอ๋องเสวียนแล้ว เพื่อไม่ให้มีปัญหาเกิดขึ้นกับผู้เข้าสอบ เช่นนั้นท่านอ๋องเสวียนจึงกำชับโรงยาไว้โดยเฉพาะว่าหากผู้เข้าร่วมการสอบมาที่นี่เพื่อทำการรักษา ก็ไม่อาจเก็บเงินจากพวกเขาแม้แต่แดงเดียวได้"“ไม่… ไม่เก็บเงินจริงหรือ?”สวีชิงโม่ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็รู้สึกราวกับโชคหล่นมาจากฟ้าเขาดูสงวนท่าทีเล็กน้อย "ข้าน้อยขาดเงินเพียงเล็กน้อยชั่วคราว หลังจากนี้ไม่นาน ไม่ว่าจะเป็นหนี้จำนวนเท่าใด ข้าน้อยก็จะจ่ายคืนเต็มจำนวนอย่างแน่นอน..."การแสดงของซูชิงอู่ยังคงนิ่งสงบ “นี่ไม่ใช่สิทธิพิเศษของท่านเพียงผู้เดียว ผู้เข้าสอบทุกคนล้วนได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมเช่นกัน จะเป็นการดี หากท่านพอมีเวลาปรึกษาเรื่องยาและอาการเจ็บป่วยที่ท่านต้องการได้”สวีชิงโม่ตอบสนองทันที “ท่านแม่ของข้า จู่ ๆ นางก็ไอเป็นเลือด ข้าอยากเชิญท่านหมอ… ไปตรวจดูนางที่จวน

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 128

    หลังจากพูดคำเหล่านี้แล้ว เขาก็มองดูซูชิงอู่อย่างเลื่อนลอย ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า "ท่านแม่ของข้าอยู่ข้างใน เชิญท่านทั้งสองเข้ามาเถอะ"ซูชิงอู่พยักหน้าและเดินเข้าไปในห้องสวีชิงโม่ไม่ได้คาดหวังในทักษะทางการแพทย์ของนางมากนัก สีหน้าของเขาจึงดูกระสับกระส่ายเล็กน้อยซูชิงอู่ไม่ได้ใส่ใจเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้ แต่นางกลับนั่งลงบนเตียงแล้วจับชีพจรของสตรีที่ดูชรามากนางนั้นหลังจากตรวจเพียงเล็กน้อย ซูชิงอู่ก็เข้าใจอย่างลึกซึ้งทันทีฮูหยินผู้เฒ่าไอเป็นเลือดเนื่องจากวัณโรค ซึ่งเป็นโรคที่ส่วนใหญ่เกิดจากการทำงานหนักในวัยเยาว์และดูเหมือนว่านางจะเลี้ยงดูสองพี่น้องเพียงลำพัง ฝ่ามือของนางจึงเต็มไปด้วยหนังด้านซูชิงอู่ถอนสายตาที่จ้องมองออกไปโรคนี้ไม่อาจรักษาหายได้ในสายตาของหมอธรรมดาทั่วไป ทำได้เพียงบำรุงร่างกายด้วยสมุนไพรราคาแพงบางชนิดเท่านั้น และในไม่ช้าจะค่อย ๆ ตายลงในเรื่องนี้ สวีชิงโม่ทำหน้าที่ได้ดีมากหากเขาสอบผ่านการคัดเลือกขุนนางในฐานะจอหงวนแล้ว เขาคงไม่มีชีวิตที่น่าสังเวชเช่นนี้บุรุษผู้นี้กตัญญู เพียงแต่ค่อนข้างโง่เขลาและซื่อสัตย์ อีกทั้งยังรู้คุณคนเป็นอย่างมาก ไม่เช่นนั้นแล้วเขาจะไม่ไปเป็

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 129

    สวีชิงโม่เดินเข้าไปในห้องทันที เขาเห็นมารดาซึ่งจวนจะตายเมื่อคืนนี้ บนแก้มกลับปรากฏเลือดฝาดขึ้นเล็กน้อย นางมองดูเขาด้วยความรัก"ท่านแม่!" หัวใจของสวีชิงโม่สั่นไหว เขาประคองมารดาไว้ในอ้อมแขนทันที ซูชิงอู่ไม่ได้รบกวนเวลาครอบครัวของทั้งสาม นางเก็บกล่องยาเตรียมพร้อมที่จะจากไป นางเดินมาถึงลานบ้านแล้ว ทว่าทันใดนั้น นางก็เห็นร่างหนึ่งวิ่งตามนางมา ใบหน้าของสวีชิงโม่เปลี่ยนเป็นสีแดง ท่าทีของเขาที่มีต่อนางเมื่อคืนนี้ทำให้เขารู้สึกละอายใจและโกรธตัวเองเป็นอย่างยิ่ง "ขอบคุณท่านหมอหญิงมากที่ช่วยชีวิตมารดาข้าไว้!" เขาโค้งคำนับ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความกตัญญู ซูชิงอู่เลิกคิ้ว "นี่เป็นเพียงความช่วยเหลือเล็กน้อย แม้ว่าอาการของฮูหยินผู้เฒ่าจะดีขึ้นแล้ว แต่ท่านยังต้องใส่ใจกับการพักฟื้นของนาง ข้าวางใบสั่งยาไว้บนโต๊ะแล้ว ท่านสามารถไปที่โรงยาเพื่อรับยาได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปได้” นางให้คำแนะนำอย่างละเอียด สวีชิงโม่รู้สึกซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง หลายครั้งที่เขาอยากจะมอบเงินที่ติวตัวอยู่ทั้งหมดให้แก่นางหรือให้คำมั่นสัญญาแต่หลังจากครุ่นคิดอย่างดีแล้ว เขาก็เลือกจะเก็

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 130

    เย่อวิ๋นถูเต็มไปด้วยความโกรธ เขาระงับโทสะเอาไว้และพูดว่า "มารดาของเขาป่วยหนักเจียนตายมิใช่หรือ? พวกเจ้าใช้วิธีการเช่นไร? เขาจึงได้ต่อต้านไม่ยอมเป็นคนของข้าเช่นนี้!” "เรื่องนั้น…" หน้าผากของบุรุษผู้นั้นเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ จะบอกท่านอ๋องได้เช่นไรว่าสวีชิงโม่ผู้นั้นมาขอความช่วยเหลือ แต่เขากลับถูกคนงานในโรงยาไล่กลับและสาปส่ง แผนเดิมคือการขอให้ชายแก่เพื่อนบ้านรายงานข่าวล่วงหน้าเพื่อจะทันได้เตรียมพร้อมเสนอน้ำใจเพื่อชนะใจคน แต่สุดท้ายไม่เพียงแต่ล้มเหลวที่ไม่อาจชนะใจคนได้ แต่ยังต้องลงเอยด้วยความอับอายอีกด้วย บุรุษผู้นั้นไม่กล้าพูด เขาทำได้เพียงอธิบายว่าสวีชิงโม่เป็นคนร้ายกาจหยิ่งผยอง ดวงตาของเย่อวิ๋นถูเต็มไปด้วยความเย็นชาอย่างมาก เดิมทีเขาไม่ใช่คนใจกว้างเป็นทุนเดิม เมื่อได้ยินผู้ใต้บังคับบัญชาพูดเช่นนี้ก็เห็นได้ชัดว่าความประทับใจของเขาที่มีต่อสวีชิงโม่ผู้นั้นลดลงไปเรื่อย ๆ “เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ข้าก็ไม่ต้องการคนอย่างเขา ทว่า...ในเมื่อข้าไม่ได้เขามา เช่นนั้นจึงไม่อาจปล่อยให้คนอื่นได้ไปเหมือนกัน!” “กระหม่อมเข้าใจแล้ว ท่านอ๋อง โปรดวางใจเถิด” ……

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 131

    ท้ายที่สุดแล้ว เย่เสวียนถิงก็มีภารกิจอยู่ในมือ การจับกุมกลุ่มกบฏเหล่านั้นเป็นงานที่อันตรายอย่างแน่นอน หากนางเสนอขอไปด้วย เขาย่อมไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอนนั่นจึงเป็นเหตุผลที่ซูชิงอู่แสร้งทำเป็นหลับและรอให้เย่เสวียนถิงออกไปก่อน จากนั้นจึงค่อยลงมือแผนการจับกุมถูกกำหนดไว้ในเวลากลางคืน และจะไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอกได้ซึ่งจะทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เรื่องเช่นนี้จะทำให้ผู้คนขุ่นเคืองไม่น้อย เย่เสวียนถิงแตกต่างจากเย่อวิ๋นถูในชีวิตครั้งก่อน เขาไม่ได้เป็นผู้คุมสอบครั้งใหญ่นี้ เหล่าบัณฑิตจะต้องไม่พอใจอีกฝ่ายอย่างแน่นอนหากมีอะไรเกิดขึ้นกับพวกเขาซูชิงอู่ลุกขึ้นจากเตียง นางนั่งอยู่หน้ากระจกทองเหลือง พร้อมหยิบอุปกรณ์ชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่สวยงามออกมาจากห่อเล็ก ๆ ที่นางถือติดตัวไปด้วยจากนั้นจึงเริ่มแต่งหน้าหอจวี๋เสียนตั้งอยู่บนถนนสายหลักทางตะวันออกของเมืองหลวง ซึ่งค่อนข้างเต็มไปด้วยผู้คนพลุกพล่านซูชิงอู่ส่ายพัดเบา ๆ นางรวบผมยาวนั้นขึ้นมัดไว้ แล้วเดินเข้าไปข้างในโดยสวมเสื้อคลุมลายพระจันทร์และเมฆขาวใบหน้าของนางถูกแต่งแต้มจนไม่อาจมองเห็นความนุ่มนวลของสตรีดั้งเ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 132

    นักเต้นถอยกลับไปราวกับกระแสน้ำ และผู้คนที่อยู่ด้านล่างที่กำลังดื่มและพูดคุยก็หยุดเคลื่อนไหว บุรุษวัยกลางคนที่มีหนวดเคราเดินออกมาจากเวที เขายิ้มให้ทุกคนที่อยู่ด้านล่าง“เจ้าของหอทราบว่าเหล่าผู้เข้าสอบทุกท่านจะต้องเข้าสอบในวันมะรืนนี้ เช่นนั้นเขาจึงเตรียมกิจกรรมชื่มชมบทกวีนี้ไว้เป็นพิเศษ ผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุดไม่เพียงแต่จะถูกเชื้อเชิญเป็นการส่วนตัวโดยเจ้าของหอ ยังได้รับการยกเว้นค่าใช้จ่ายทั้งหมดในวันนี้ด้วย แม้แต่เดือนหน้าก็สามารถกินดื่มอย่างสำราญใจที่หอจวี๋เสียนได้โดยไม่ต้องเสียเงินแม้แต่แดงเดียว!”เหล่าบัณฑิตหลายคนนั่งตัวตรงทันทีพวกเขารู้ดีว่าค่าใช้จ่ายในการพักในหอจวี๋เสียนนั้นแพงมาก และที่นั่นยังเป็นสถานที่ขึ้นชื่อในเมืองหลวงอีกด้วยแม้แต่สุราของที่นี่ก็ไม่อาจหาที่ไหนเทียมได้ ไม่ว่าจะเป็นบัณฑิตหรือผู้ใดที่มาเมืองหลวง หากไม่ได้มายังสถานที่แห่งนี้ก็ไม่อาจพูดได้อย่างเต็มปากว่าเคยมาเมืองหลวง! บรรยากาศเดือดพล่านทันที บุรุษผู้นั้นไม่มัวรีรอให้เสียเวลา ด้วยการส่งสัญญาณมือของเขา ป้ายกระดาษทั้งหมดก็ถูกม้วนขึ้นและหันหน้าไปทางฝูงชน “ต่อไปข้าจะขอให้ใครสักคนจัดเตรียมพู่กันและแท่นฝนหม

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 133

    บุรุษวัยกลางคนยังคงอ่านกลอนต่อไปในบรรยากาศที่เงียบสงบและน่าขนลุกนี้“เทียมเขาทับซ้อน ถนนคดเคี้ยว ทิวไม้สูงใหญ่ และน้ำพุไหลหลั่ง…”กลอนคำคู่หลายสิบคู่ติดต่อกัน แต่ละคู่มีฉันทลักษณ์เฉพาะตัวหลังจากที่บุรุษวัยกลางคนอ่านจบแล้ว แต่ผู้คนด้านล่างก็ยังคงสนใจที่จะฟังหลังจากนั้นเป็นเวลานาน เสียงปรบมือนับไม่ถ้วนก็ดังขึ้นบางคนมองไปที่ม่านของห้องที่ห้า โดยหวังว่าจะสามารถมองทะลุสิ่งกีดขวางและดูได้ว่าใครอยู่ข้างในนั้นซูชิงอู่มีท่าทีสงบ สีหน้าของนางยังคงเรียบเฉย นางฉลาดมาตั้งแต่เล็ก เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว และมีความสามารถโดดเด่น ทว่าในฐานะสตรีแล้ว ไม่ว่าจะมีความสามารถมากเพียงใดก็ไม่มีใครยอมรับในความสามารถของนางซูเชียนหลิงเป็นสตรีซึ่งมีความสามารถเป็นที่รู้จักกันดีในเมืองหลวง คนนอกต่างชื่มชมนางที่ทั้งมั่งคั่งร่ำรวยมากด้วยความรู้ความสามารถทั้งด้านดนตรี หมากรุก การประดิษฐ์ตัวอักษร และการวาดภาพ แต่นางกลับไม่ได้เข้าใจทุกเรื่องอย่างถ่องแท้ในชีวิตครั้งก่อนนั้น ซูเชียนหลิงไม่ได้เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของนาง เช่นนั้นจึงเกลี้ยกล่อมซูชิงอู่ไม่ให้เปิดเผยความฉลาดในสิ่งที่นางรู้นอกจากนี

บทล่าสุด

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 930

    คนขายเนื้อทำสีหน้าหวาดกลัว “คนผู้นี้เลวทรามถึงเพียงนี้เลยรึ?”“เจ้าคอยระวังตัวเอาไว้ก็ไม่เป็นไรแล้ว ทางนั้นตรวจดูเสร็จรึยัง? ไปกันต่อเถิด!”เมื่อกองกำลังทำการค้นหาเสร็จเรียบร้อย คนขายเนื้อก็ยิ้มมุมปากเบา ๆเขาคิดไม่ถึงเลยว่าคนเหล่านี้จะพบเบาะแสทางตะวันตกของเมืองเร็วถึงเพียงนี้หากเขาไม่ได้เตรียมพร้อมมาก่อนหน้านี้และรีบปลอมตัวโดยไว เขาก็คงจะถูกจับได้ไปแล้วคนขายเนื้อรีบเข้าไปยังพื้นที่ด้านในสุดของร้านเขาเหลือบมองหนอนกู่ที่ซ่อนเอาไว้ในตู้ในหนึ่ง และเมื่อเปิดตู้ใบนั้น ดวงตาของเขาก็ฉายแววน่ากลัวออกมาผ่านมาหลายปี ดูเหมือนโลกภายนอกจะลืมความน่ากลัวของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว เริ่มแรกนั้นพวกเขาได้ครอบครองตำแหน่งระดับสูงของราชวงศ์ในแคว้นต่าง ๆ ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงตำแหน่งในนามแต่มันสามารถแทรกแซงแคว้นนั้น ๆ และพลิกสถานการณ์ได้ตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดคือการแอบเข้าไปในพระราชวังเพื่อช่วยเหลือเจียงเฟยเอ๋อร์หากต้องการเข้าไปในพระราชวังมีการคุ้มกันอย่างแน่นหนาได้ก็ต้องใช้วิธีที่ต่างออกไปบุรุษผู้นั้นออกจากร้านขายเนื้อหมูที่ถูกตรวจค้นเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับปิดประตูร้านแสร้งทำเป็นออกไปทำธุร

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 929

    หลังจากซูชิงอู่ส่งชิงอวี่ออกไปก็ยังคงตื่นเต้นอยู่เล็กน้อยซูชิงอู่หาคนมาวาดภาพเหมือนเจ้าอาวาสในปีที่แล้วและส่งต่อให้คนอื่น ๆ เพื่อช่วยกันค้นหา ซึ่งมันก็ผ่านมานานมากแล้ว และมีเพียงชิงอวี่เท่านั้นที่นำข่าวที่ได้รับการยืนยันกลับมาแจ้งนางแม้จะยังไม่ได้เจอคนผู้นั้น แต่ก็หมายความว่านางจะได้รู้ความจริงของการตายของท่านแม่เสียทีหลังจากสงบสติอารมณ์ได้ ซูชิงอู่ก็ตัดสินใจเดินทางไปทันทีนางอยากไปเจอจิ้งซินผู้นั้นด้วยตนเองและถามเขาว่าเหตุใดตอนนั้นเขาถึงฆ่าท่านแม่ของนาง!คืนเดียวกันนั้นซูชิงอู่ได้พูดคุยเรื่องนี้กับเย่เสวียนถิงเมื่อเย่เสวียนถิงได้รับรู้เรื่องราวก็พยักหน้าเบา ๆ และตัดสินใจอย่างทันทีว่า “ข้าจะส่งคนไปจับเขามาให้เจ้า”ซูชิงอู่ได้ยินอีกฝ่ายตอบง่าย ๆ และห้วนก็อดไม่ได้ที่จะตะลึงและหัวเราะ“ได้”ตอนนี้มีศิษย์พี่ของเจียงเฟยเอ๋อร์คอยจับตาดูอยู่ในเมืองหลวง ซูชิงอู่จึงไม่สามารถไปหาคนผู้นั้นพร้อมกับชิงอวี่ได้บรรยากาศในเมืองหลวงเริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆแม้แต่ฮ่องเต้เช่นเย่ชิวหมิงก็สังเกตเห็นสัญญาณของเหตุการณ์ร้ายแรงบางอย่างที่กำลังจะตามมาเขาเคยได้ยินซูชิงอู่พูดว่าศัตรูที่ซ่อนตัวอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 928

    ไป๋เฟิงก้มหัวลงอย่างเชื่อฟัง ราวกับมันได้กลายเป็นแมวตัวใหญ่ไปแล้วซูชิงอู่อดหัวเราะไม่ได้ “เจ้าคงเหนื่อยแย่ วันนี้ทำได้ดีมาก”ในที่สุดก็ได้ใช้ประโยชน์จากไป๋เฟิง สมกับที่เลี้ยงมันมานานไป๋เฟิงยืนขึ้นและอ้าปากหาว ส่วนสิงโตขนทองคำที่อยู่ข้าง ๆ ย่องเข้ามาทางด้านหลังซูชิงอู่ และใช้หัวถูเอวของนางดูเหมือนว่ามันต้องการให้ซูชิงอู่ลูบมันด้วยคนอื่น ๆ มองไปยังซูชิงอู่ที่มีร่างกายบอบบางยืนอยู่ตรงหน้าสัตว์ดุร้ายทั้งสอง พวกเขาทั้งหมดก็พูดไม่ออกอยู่นานนี่มัน...ร้ายกาจเกินไปแล้ว!แม้แต่กลุ่มบุรุษร่างใหญ่เช่นพวกเขาก็ยังไม่กล้าเข้าใกล้สัตว์ดุร้ายทั้งสองแม้แต่ครึ่งก้าว ทว่าซูชิงอู่กลับสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับพวกมันได้อย่างกลมกลืนเหมือนพวกมันเป็นสัตว์เลี้ยงของนางเมื่อไม่ถูกยุงกัดและกินยาสมุนไพรที่ผสมไว้แล้ว ม้าทุกตัวในสนามฝึกก็สงบลงและกลับสู่ภาวะปกติทันทีที่ซูชิงอู่กลับมาถึงตำหนัก ก็เห็นหรงหย่าวิ่งเข้ามา“พระชายา เมื่อครู่มีคนมาพบท่านและบอกว่ามีเรื่องด่วนต้องรายงาน”“มีเรื่องด่วนอะไรรึ?”หรงหย่าส่ายหัว “ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน ท่านไปดูก่อนเถิด”ซูชิงอู่สั่งให้คนพาผู้ส่งข่าวเข้ามาทันทีนางจ้อง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 927

    เลือดของแมลงวันติดอยู่ที่มือของซูชิงอู่ส่งกลิ่นแปลก ๆ ออกมาเมื่อซูชิงอู่มองชัด ๆ นางก็ได้รู้ว่ามันไม่ใช่แมลงวันแต่เป็น…แมลงมีปีกชนิดหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายแมลงวันปากของแมลงมีความคมมาก สามารถเจาะทะลุขนของสัตว์บางชนิดได้ง่าย ทว่าแมลงมีปีกชนิดนี้ไม่สนใจมนุษย์และจะกัดเฉพาะสัตว์เท่านั้นที่แท้นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้สัตว์ในเมืองหลวงบ้าคลั่งในช่วงหลายวันนี้!ซูชิงอู่ยังสังเกตเห็นว่ายุงเหล่านี้ถูกพิษและเมื่อพวกมันแพร่พันธุ์ ในไข่ก็มีสารพิษดังกล่าวติดไปด้วยขอเพียงแมลงเหล่านี้ยังกัดสัตว์ต่อไป สารพิษก็จะค่อย ๆ สะสมทีละน้อยสุดท้ายก็ถึงขั้นทำให้เสียสติ!คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้มีเจตนาชั่วร้ายหากนางไม่ค้นพบสิ่งนี้ก่อน เกรงว่าม้าศึกทั้งหมดจะต้องตายไปด้วยความบ้าคลั่งอีกทั้งยังไม่อาจทราบสาเหตุได้แน่นอนว่าม้าศึกเป็นส่วนสำคัญในกองทัพ หากทหารม้าเสียม้าไป ก็คงไม่ต่างไปจากคนอ่อนแอไร้ค่า...ซูชิงอู่ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว“นำม้าทุกตัวไปไว้ในที่ปิดและหาทางฆ่าแมลงมีปีกเหล่านี้ให้สิ้นเสีย”รองแม่ทัพที่ติดตามนางมารีบจำคำสั่งนี้เอาไว้ทันที“รับทราบพ่ะย่ะค่ะพระชายา!”เขาก็รีบกระจายคำสั่งออก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 926

    เมื่อเย่เสวียนถิงได้ยินสิ่งที่ซูชิงอู่พูด สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเยือกเย็น “ข้าจะส่งคนไปตรวจสอบ”ซูชิงอู่ส่ายหัวทันที “ยาพิษนี้คงไม่ได้อยู่ในอาหารสัตว์ อีกทั้งเมื่อมาลองคิดดู สัตว์ป่าจำนวนมากที่อยู่ใกล้เมืองหลวง รวมไปถึงม้าศึกล้วนติดพิษกันหมด มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่ไม่เป็นอะไร นี่เป็นเรื่องที่แปลกมาก และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือไม่มีใครสามารถวางยาพิษม้าศึกในเมืองหลวงได้อย่างเงียบ ๆ ”การวิเคราะห์ของซูชิงอู่นั้นสมเหตุสมผลมาก แม้แต่เย่เสวียนถิงเองก็ขมวดคิ้วขึ้นมาหากหาสาเหตุไม่พบก็แก้ปัญหาไม่ได้แม้จะรักษาม้าหนึ่งในนั้นจนหายขาด แต่ก็จะกลับมามีอาการเดิมในอีกไม่ช้าไม่ไกลกันนักก็มีนายทหารระดับสูงนายหนึ่งวิ่งเข้ามาเขาหอบหายใจและกล่าวว่า “ท่านอ๋อง ทำการตรวจสอบเสบียงอาหารแล้วไม่พบสิ่งผิดปกติพ่ะย่ะค่ะ”“น้ำล่ะ?”“ตรวจสอบน้ำแล้วเช่นกัน ไม่มีร่องรอยของการวางยาพิษเลยพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อได้ยินรายงาน เย่เสวียนถิงก็ขมวดคิ้วหนักกว่าเก่าคราวนี้แย่แล้วสิซูชิงอู่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ช่วยทำให้ม้าทุกตัวสงบลงก่อนได้หรือไม่ เดี๋ยวข้าจะเข้าไปดูรางอาหารม้าเอง”“ได้พ่ะย่ะค่ะพระชายา กรุณารอสักครู่ ก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 925

    เริ่มแรก เขาสงสัยในเรื่องที่ซูชิงอู่เคยพูดจนเกิดความคิดจินตนาการบางส่วนขึ้นมา เรียกได้ว่าตอนกลางวันก็เอาแต่นึกถึง ตกกลางคืนก็เก็บมาฝันอีกแต่เขาไม่เคยได้ยินซูชิงอู่พูดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลยจริง ๆเนื่องจากความฝันนั้นมันดูเพ้อเจ้อเกินไป เย่เสวียนถิงจึงไม่พูดออกมา เพราะกลัวว่ามันจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับซูชิงอู่อย่างไม่มีเหตุผลหลายวันมานี้ซูชิงอู่อาศัยอยู่กับลูกน้อยทั้งสามของนางเพื่อชดเชยช่วงเวลาที่นางห่างพวกเขาไปนานเด็ก ๆ ที่เพิ่งจะอายุได้ไม่กี่เดือนแต่กลับต้องห่างจากอ้อมอกของพ่อแม่ นั่นทำให้ซูชิงอู่รู้สึกผิดขึ้นมาดังนั้นนางจึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องภายนอกมากนักทันใดนั้นนางก็นึกอะไรออกและถามว่า “เสวียนถิง ช่วงนี้หมาป่าเหล่านั้นที่อยู่ข้างนอกเป็นอย่างไรบ้าง?”เย่เสวียนถิงเงยหน้าขึ้นและพูดว่า “ไม่ได้มีเพียงสัตว์ร้าย แต่ยังกระทบไปถึงม้าศึกด้วย ไม่รู้ว่าเหตุใดถึงเริ่มไม่เชื่อฟังคำสั่งกัน”“เดี๋ยวข้าจะไปตรวจสอบเรื่องนี้เสียหน่อย”ซูชิงอู่รู้สึกได้โดยไม่รู้ตัวว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้แม้เรื่องจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยและไม่มีผลกระทบกับมนุษย์มากนัก แต่นางก็รู้สึกอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 924

    ทันใดนั้นหมอหลวงซุนก็เหมือนจะคิดอะไรออก “เหมือนกับตอนที่พระชายาใช้ดอกไม้ชนิดหนึ่งเพื่อทำให้ม้าพยศคลั่งใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”“อืม ทำนองนั้นแหละ”สิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่นางพบในเภสัชตำรับ และหากใช้มัน ผลลัพธ์ที่ได้จะน่าทึ่งมากแม้ลงมือไปอย่างกะทันหัน แต่ก็ไม่มีใครจับได้ปรมาจารย์มือวางพิษที่แท้จริงคือผู้ที่วางยาพิษโดยไม่ทิ้งหลักฐานใด ๆ เอาไว้“ขอบพระทัยพระชายาสำหรับคำชี้แนะ หลังจากที่ได้พูดคุยกับท่าน กระหม่อมก็เข้าใจอย่างกระจ่างแจ้งแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ซูชิงอู่ปิดเภสัชตำรับ “ข้าท่องเภสัชตำรับนี้จนจำขึ้นใจ และเข้าใจเนื้อหาด้านในได้คร่าว ๆ เพียงแต่ยังไม่พบวิธีที่จะไขความลับที่อยู่ในนั้น หวังว่าท่านจะช่วยเรื่องนี้ได้”คราวนี้ ทุกคนเชื่อมั่นในคำพูดของซูชิงอู่สิ่งที่พวกเขาไม่ได้สนใจ แต่พระชายากลับนำมาใช้งานได้ถึงขั้นนี้ ยังมีอะไรที่ต้องพูดกันอีกหรือ?ตาแก่เช่นพวกเขาที่อาศัยว่าตนอายุมากทำตัวอาวุโสดูถูกผู้อื่นนั้นเทียบเทียมพระชายาไม่ได้เลย!หลังจากที่ซูชิงอู่อธิบายเรื่องนี้จบ นางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและแอบหลบออกมาทางประตูใหญ่นางกลัวว่าคนเหล่านั้นจะถามนางว่านางศึกษาเรียนรู้ทักษะทางการ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 923

    หมอหลวงซุนขมวดคิ้วเล็กน้อย“อย่าพูดไร้สาระ นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร? พระชายาไม่จำเป็นต้องโกหกพวกเราเลย โกหกพวกเราไปแล้วนางจะได้ประโยชน์อะไร?”คำพูดนี้ก็ถือว่ามีเหตุผลทุกคนต่างพูดไม่ออกทำได้แค่นั่งเงียบ ๆ แล้วพลิกหน้าอ่านต่อไปพลิกหน้ากระดาษตั้งแต่เช้าจรดค่ำ และอ่านจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้นตำราทั้งเล่มถูกอ่านจนจบอย่างรวดเร็ว ทุกคนในสำนักหมอหลวงไม่ได้นอนมาสองวันสองคืน และตอนนี้ทุกคนดูเหนื่อยและมีสีหน้าทรุดโทรมเมื่ออ่านหน้าจนถึงสุดท้าย แม้แต่หมอหลวงซุนก็ตกอยู่ในความเงียบเพราะเภสัชตำรับเล่มนี้บันทึกเฉพาะโรคและวัตถุดิบยาที่ธรรดาทั่วไปมาก ๆ บางส่วนเท่านั้นข้อแตกต่างเพียงหนึ่งเดียวคือผู้อาวุโสเช่นพวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบยาหลายประเภทและพัฒนาแนวคิดใหม่ ๆแม้จะไม่ไร้ประโยชน์ แต่ความคาดหวังกับผลลัพธ์ก็แตกต่างกันมากเลยทีเดียวถึงขั้นทำให้พวกเขาขาดความมั่นใจและอดไม่ได้ที่จะคิดว่านี่น่ะหรือคือเภสัชตำรับที่ตระกูลฟางเฝ้าหวงแหนมานานหลายปี?ดวงตาของหมอหลวงซุนเต็มไปด้วยสีแดงก่ำที่เกิดจากการอดนอน“ในเมื่อเภสัชตำรับของตระกูลฟางไร้ประโยชน์ เช่นนั้นพระชายาไปเรียนรู้ทักษะด้านการแพทย์มา

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 922

    “นี่คือวัตถุดิบยาและปริมาณที่คนผู้นั้นทำการวางยา ที่สำนักหมอหลวงของพวกท่านมีสิ่งนี้อยู่แล้ว หากจะทำยาถอนพิษก็คงไม่ใช่เรื่องยากกระมัง”“ไม่ยากพ่ะย่ะค่ะ ไม่ยาก!”หมอหลวงซุนยิ้มร่าราวกับได้รับสมบัติเขามองซูชิงอู่ที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว แต่กลับเก่งกาจกว่าเหล่าคนชราเช่นพวกเขาเมื่อรวมกับเภสัชตำรับของตระกูลฟางที่ซูชิงอู่พูดถึง หมอหลวงเฒ่าก็ดีใจจนเนื้อเต้นหากได้เรียนรู้และกลายเป็นคนที่เก่งกาจเหมือนพระชายา ระดับความรู้ของเขาก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วยหรือไม่?แต่หมอหลวงซุนไม่เคยรู้เลยว่าทุกสิ่งที่ซูชิงอู่เรียนรู้ไม่ได้มาจากเภสัชตำรับของตระกูลฟางในเภสัชตำรับเล่มนั้นมีความแตกต่างตรงจุดไหน ตัวซูชิงอู่ในตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำแม้ตอนตายไปในชาติก่อน เภสัชตำรับก็ถูกทำลายและไม่มีใครเห็นความลับที่ซ่อนอยู่ในนั้นจุดเด่นเพียงหนึ่งเดียวของเภสัชตำรับเล่มนั้นคือบันทึกข้อมูลวัตถุดิบยาจำนวนมากที่คนทั่วไปไม่ทราบและสรรพคุณลับบางส่วนบรรดาผู้อาวุโสของสำนักหมอหลวงพากันมาช่วยคิดค้นยาถอนพิษเพื่อที่จะได้อ่านเภสัชตำรับนั้นเร็ว ๆในที่สุดเช้าวันรุ่งขึ้นยาที่สามารถฟื้นฟูสติของสัตว์ร้ายได้ก็ถูกส่งมาให้ฮ่องเต้

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status