แชร์

บทที่ 108

ผู้เขียน: วิ๋นเจิง
ก่อนที่เย่ชิวหมิงจะทันได้เอ่ยวาจาใด เย่อวิ๋นถูก็ชิงเอ่ยขึ้นมามา

"ข้าได้ยินว่าวันนี้เสด็จพี่ใหญ่แสดงฝีมืออันล้ำเลิศในการล่าสัตว์ช่วงสารทฤดู จนถึงขนาดได้ตำแหน่งผู้คุมสอบ ขอแสดงความยินดีด้วย!"

สีหน้าของเขาหม่นคล้ำและน้ำเสียงก็ฟังดูเคลือบคลุม

เย่ชิวหมิงตะลึงงันไปชั่วขณะ และกำลังจะอธิบายให้ฟัง เขาก็ได้ยินเสียงของเย่อวิ๋นถูเอ่ยขึ้นมาอีกครั้งว่า "เดิมทีข้านึกว่าเรื่องนี้เป็นฝีมือของเย่เสวียนถิง จนถึงกับติดสินบนเด็กเลี้ยงม้าให้บอกว่าเขาเป็นผู้กระทำผิดตัวจริง ข้านึกไม่ถึงเลยว่าจะเป็นฝีมือของเสด็จพี่ใหญ่ที่แสนดีของข้าเสียได้!”

เย่ชิวหมิงพลันสีหน้าหม่นคล้ำ "เย่อวิ๋นถู พูดเช่นนี้เจ้าหมายความว่าอันใดกัน?"

เย่อวิ๋นถูแตะขาข้างที่ได้รับบาดเจ็บ

"เย่เสวียนถิงบาดเจ็บที่ขาอยู่แล้ว ข้าใส่ยาลงไปในอาหารม้าของเขาเพื่อทำให้ม้าคลั่ง จะได้ขับไล่เขาออกไปจากการล่าสัตว์ครั้งนี้ เพราะข้าคิดว่าน่าจะสามารถเอาชนะเจ้าผู้ที่หลงใหลบทกวีและตำรับตำราได้ไม่ยากนัก ทว่าข้ากลับมิคาดคิดเลยว่าเสด็จพี่ใหญ่ของข้าจะมากเล่ห์ถึงขนาดทำให้ข้าต้องขาหักในภายหลัง เพื่อมิให้ข้าเป็นคู่ต่อสู้ของท่านได้อีกต่อไป...

ยิ่งไปกว่านั้น
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 109

    ซูชิงอู่สั่งให้คนในครัวไปต้มน้ำ จากนั้นก็สั่งให้คนยกถังอาบน้ำเข้ามาในห้องแล้วเติมสมุนไพรมากมายลงไป เมื่อเย่เสวียนถิงที่ถูกซูชิงอู่บังคับให้เข้ามาในห้องได้เห็นถังอาบน้ำที่ยังอุ่น ๆ เขาก็ตะลึงงันอยู่บ้าง "อาอู่ เจ้าคิดจะทำอาหารหรือ?" มีสมุนไพรผสมเข้าด้วยกันอยู่ในถังอาบน้ำมากมายเหลือเกิน บางอย่างถึงกับลอยขึ้นมาเหนือผิวน้ำ ชวนให้แลดูเหมือนน้ำแกงหม้อหนึ่งจริง ๆ ซูชิงอู่ปาดเหงื่อออกจากหน้าผากแล้วให้รู้สึกขบขันกับวาจาที่เย่เสวียนถิงเพิ่งจะกล่าวออกมา "จะเป็นไปได้อย่างไรกัน? ท่านอ๋อง ท่านมิใช่อาหารสักหน่อย" เย่เสวียนถิงเข้าใจแล้วว ซูชิงอู่คิดจะให้เขาลงไปในนั้น เขาเม้มปากแน่นและกล้ามเนื้อเครียดเกร็งไปทั่วทั้งร่าง จากนั้นเขาก็มองถังของเหลวสีดำมืดแล้วริมฝีปากของเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นซีดขาวเล็กน้อย แม้แต่อ๋องเสวียนที่เคยชินกับเหตุการณ์ครั้งใหญ่ ยามนี้ก็อดมิได้ที่จะรู้สึกกระวนกระวายใจอยู่บ้าง "อาอู่ เจ้าคิดจะทำอันใดกัน?" ซูชิงอู่ตอบเสียงเรียบนิ่งว่า "ข้าเตรียมถังสมุนไพรเพื่อให้ท่านอ๋องเสริมกำลังกายรวมทั้งชำระล้างกระดูกและไขกระดูก ข้าจะเตรียมถังสมุนไพรให้ท่านทุกวันเอง" เมื่อนางพูดจ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 110

    ซูชิงอู่เลิกคิ้วพลางขมวดเรียวคิ้วงามประดุจภาพวาดเล็กน้อย "จะทำเช่นนั้นได้อย่างไรกัน?" เย่เสวียนถิงรู้สึกตกใจอยู่บ้าง จากนั้นเขาก็ได้ยินซูชิงอู่กล่าว "เสวียนถิง ข้ายินดีทำเรื่องพวกนี้เพื่อท่านนะ สำหรับข้าแล้ว เรื่องของท่านหาใช่เรื่องเล็กน้อยไม่!" ยิ่งไปกว่านั้น บ่าวรับใช้พวกนั้นจะบังอาจแตะต้องท่านอ๋องของนางได้อย่างไรกัน? ซูชิงอู่เงยหน้ามองเย่เสวียนถิงด้วยสายตาเร่าร้อน จากนั้นก็สบตาเย่เสวียนถิง ราวกับว่าเย่เสวียนถิงถูกสายตาของนางแผดเผา เขาจึงหลุบตาลงและมิได้ปฏิเสธอีก ซูชิงอู่ลอกแผ่นยาออกจากปลีน่องของเย่เสวียนถิง จากนั้นก็ยกอ่างน้ำมาแล้วใช้มือช่วยล้างเศษตกค้างบนผิวของเขา บริเวณปลีน่องที่พอกยาขี้ผึ้งเอาไว้ ผิวจึงซีดขาวและไวต่อสัมผัสมากกว่า นิ้วมือของซูชิงอู่ค่อย ๆ ล้างผิวหนังบริเวณขาของเขา จากนั้นความรู้สึกคันคะเยอก็ทำให้หูและลำคอของเย่เสวียนถิงกลับกลายเป็นแดงก่ำ เขากำหมัดเอาไว้แน่นเพื่อมิให้เผยความอุธัจของตนเองออกมา ทว่าเรื่องยังไม่จบสิ้น หลังจากซูชิงอู่ช่วยล้างยาที่อยู่บนขาออกไปแล้ว นางก็เงยหน้าพลางหรี่ตาเล็กน้อย น้ำเสียงของนางอ่อนโยนราวกับสายน้ำ "ท่านอ๋อง ตอนนี

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 111

    ซูชิงอู่ถูกกอดรัดเอาไว้แน่นเสียจนแทบหายใจไม่ออก แต่นางก็หาได้มีโทสะ ทว่ากลับตบหลังของเย่เสวียนถิงด้วยท่าทีปลอบโยน "ท่านอ๋อง ถ้าหากพวกเราไม่รีบ น้ำในถังก็จะเย็นหมดแล้วนะ" เย่เสวียนถิงหน้าอกกระเพื่อมเล็กน้อย เขาปล่อยบั้นเอวของซูชิงอู่ จากนั้นก็ยกมือขึ้นเพื่อลากไปตามเรียวคิ้วของนาง ยามนี้หัวใจของเขาท่วมท้นไปด้วยความรู้สึกบางอย่าง ข้อกังขาทั้งมวลเมื่อก่อนหน้านี้ล้วนสลายไปจนสิ้น สายตายามที่เย่เสวียนถิงมองซูชิงอู่กลับแลดูมุ่งมั่นและตั้งใจจริง คราวนี้เขาพยักหน้าโดยแทบมิได้ลังเลใจสักนิด "ได้สิ เพียงแต่ว่า..." เขาก้มหน้ามองบางอย่างใต้ชุดคลุมที่ออกจะผิดปกติไปบ้าง จากนั้นแก้มของเขาก็พลันรู้สึกร้อนซู่แล้วเบือนหน้าหนีด้วยความประหม่า "ข้าทำเองได้ จะ...เจ้าออกไปก่อนเถอะ" ซูชิงอู่อดมิได้ที่จะยิ้มออกมา "ข้าไปมิได้หรอก อย่างไรเสียเมื่อท่านอ๋องแช่ถังสมุนไพรแล้ว ท่านยังต้องฝังเข็มเพื่อกระตุ้นให้ตัวยาดูดซึมด้วย เร็วเข้าเถอะ..." เย่เสวียนถิงรู้สึกว่ามีมือคู่หนึ่งสัมผัสแตะต้องเขา จากนั้นก็ถอดอาภรณ์ชั้นในของเขาออก เขาตัวแข็งทื่อและยังคงหันหลังให้ซูชิงอู่ ต่อให้ทั้งสองคนจะแต่งงานกัน

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 112

    … "พระชายา ได้เวลาแต่งตัวแล้วเจ้าค่ะ" ยามเที่ยงวันถัดมา นางรับใช้ตัวน้อยทั้งสองคนก็มาเคาะประตู "เข้ามาได้……" น้ำเสียงแหบแห้งที่ฉายแววเกียจคร้านอยู่บ้างของซูชิงอู่ดังขึ้นมาจากในห้อง เห็นได้ชัดว่าใช้เสียงมากเกินไป นางรับใช้ตัวน้อยทั้งสองคนสบตากันแล้วแก้มแดงก่ำ แม้แต่ยามที่เดินเข้าประตูมา พวกนางก็มิกล้าเงยหน้ามองมาที่ซูชิงอู่ ซูชิงอู่ฝืนลุกขึ้นนั่ง ถึงแม้ว่าร่างกายจะรู้สึกสดชื่นขึ้นแล้ว ทว่าความเจ็บปวดและอ่อนเพลียก็ทำให้นางต้องขมวดคิ้ว นางกุมหน้าผากแล้วนวดคิ้ว มีบางอย่างไม่ถูกต้อง เมื่อครั้งอดีตชาติ เย่เสวียนถิงไม่เคยทำตัวเช่นนี้! อย่างไรเสียทั้งสองคนก็เป็นสามีภรรยากัน ต่อให้ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเหินห่างกัน ทว่าพวกเขาก็แนบชิดกันอยู่หลายครั้งหลายครา แต่เย่เสวียนถิงก็เอาแต่สงวนท่าทีจนนางคิดว่าบุรุษผู้นี้ไร้ความรู้สึกในเรื่องนั้น... เมื่อเดือนก่อน เย่เสวียนถิงเองก็ฝึกการอดกลั้นและควบคุมตนเอง ส่วนนางก็รู้สึกว่าตนเองสามารถรับมือได้อย่างดีเยี่ยม แต่เมื่อคืนเขาแทบมิต่างอันใดจากพยัคฆ์และสุนัขป่า ถ้านางหาได้มีร่างกายแข็งแรงก็คงจะตายคาเตียงไปแล้ว นางคร้านจะใส่ใจแล้ว! ยาม

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 113

    เย่ชิวหมิงจึงยกมือขึ้นแล้วกดลงไป ชั่วครู่ถัดมา เขาก็ล้มลงพื้นพร้อมบิดตัวด้วยความเจ็บปวด "อึก……" ความเจ็บปวดรุนแรงทำให้เขาถึงกับร้องไม่ออกไปชั่วขณะ มีเพียงแค่เสียงคำรามต่ำ ๆ ดังออกมาจากลำคอ ทั้งหน้าผากและแผ่นหลังของเขาพลันชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อกาฬ ราวกับว่าเย่ชิวหมิงกำลังหายใจไม่ออกจนต้องกุมหน้าอกแล้วหอบหายใจแรง ๆ ความรู้สึกหวาดกลัวที่กำลังคืบคลานเข้ามาหาท่วมท้นจิตใจของเขา จากนั้นเย่ชิวหมิงก็อดมิได้ที่จะเงยหน้ามองซูชิงอู่ ซูชิงอู่จึงยิ้มเยาะพลางถามวว่า "เป็นอย่างไรบ้างเพคะ น่าตื่นเต้นใช่หรือไม่?" เมื่อเย่ชิวหมิงรู้สึกว่าความเจ็บปวดทุเลาลงแล้ว เขาก็ลุกขึ้นจากพื้นด้วยท่าทีมืออ่อนเท้าอ่อน อาภรณ์ที่อยู่บนร่างเกิดรับย่นขึ้นมาเสียแล้ว ทว่ายามนี้สีหน้าของเขากลับเต็มไปด้วยหวาดกลัวและหาได้สนใจเรื่องรูปลักษณ์อีกต่อไปแล้ว เย่ชิวหมิงรีบเอ่ยถามขึ้นมาทันทีว่า "ซูชิงอู่ ในเมื่อเจ้ามีวิธีเช่นนั้นอยู่ เจ้าก็น่าจะสามารถควบคุมชีวิตของทุกคนได้ไม่ยากเย็น ไยเจ้าต้องเลือกข้าด้วยเล่า?" เขารู้สึกสับสนและแค้นใจอยู่บ้าง ความรู้สึกของการที่ความเป็นความตายตกอยู่ในเงื้อมมือของผู้ใดสักคนหาใช่เรื่

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 114

    "พระชายา ท่านอ๋องกลับมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ!" ยามที่ซูชิงอู่รำลึกถึงอดีตอยู่นั้น จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงเรียกขานของบ่าวรับใช้ที่อยู่นอกประตู รอยยิ้มบนใบหน้าพลันแข็งทื่อไปทันที ซูชิงอู่รีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ แต่นางกลับขาอ่อนจนเกือบล้มลงกับพื้น "พระชายา!" อวิ๋นจื่อกับอวิ๋นชิงรู้สึกตกใจแล้วรีบเข้าไปหมายจะช่วยนาง แต่กลับโดนซูชิงอู่ผลักออกไป นางเอ่ยด้วยท่าทีร้อนรนกังวลใจว่า "พวกเจ้าสองคนบอกท่านอ๋องว่าข้ายังนอนหลับอยู่ ห้ามมิให้มารบกวนข้า!" นางรู้สึกหวาดกลัวจริง ๆ! เรื่องเมื่อคืนเกือบจะทิ้งเงามืดเอาไว้ให้ซูชิงอู่แล้ว! นางยกกระโปรงแล้ววิ่งผ่านประตูข้าง ทิ้งไว้เพียงประตูโถงรับรองแขกเอาไว้เบื้องหลัง เมื่อเย่เสวียนถิงเปิดประตูโถงรับรองแขกที่อยู่เบื้องหลังของนาง เงาร่างสูงเพรียวของบุรุษผู้หนึ่งก็ปรากฏขึ้น อวิ๋นจื่อกับอวิ๋นชิงจึงรีบเข้ามาโค้งคำนับและแสดงความคารวะ "ท่านอ๋อง!" เย่เสวียนถิงเอ่ยถามว่า "พระชายาอยู่ที่ไหนกัน?" หลังจากเขากลับมาก็รีบไปหาซูชิงอู่ที่ห้องนอนใหญ่พร้อมกับซื้อขนมซิ่งเหรินของโปรดของนางมาให้ด้วย แต่เขากลับไม่พบนาง ทันทีที่เขาได้ยินจากบ่าวรับใช้ของตนบอกว่าซูชิงอู่

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 115

    เย่เสวียนถิงยิ้มจาง ๆ พลางกล่าวว่า "เขาถูกโบยห้าสิบไม้และถูกกักบริเวณสามเดือน" ซูชิงอู่พยักหน้า นางคาดเดาเกือบถูกต้องแล้ว "เขาเป็นโอรสของฮองเฮา ทั้งยังมีตระกูลมู่หรงคอยหนุนหลังอยู่ ถ้ามิใช่เพราะเจียวกุ้ยเฟยสอดเข้ามายุ่ง เขาก็น่าจะมิถูกโบยห้าสิบไม้" เย่เสวียนถิงหลุบตาลง "ไม่หรอก" ซูชิงอู่เลิกคิ้ว "ท่านหมายความว่าอย่างไรกัน?" เมื่อเย่เสวียนถิงเงยหน้าขึ้น ดวงเนตรสีดำสนิทราวกับสระน้ำเย็นของเขาก็มิอาจมองเห็นประกายแสงใด ๆ "ข้าจะหักขาของเขาอีกข้าง" ระหว่างที่กำลังกินขนมอยู่นั้น ซูชิงอู่ก็ตะลึงงันไปชั่วขณะ เมื่อเห็นสีหน้าของเย่เสวียนถิงกลับคืนสู่สภาพปกติแล้ว นางก็รู้สึกว่าเมื่อสักครู่ตนคงจะเข้าใจผิด ในใจของนางแล้ว ท่านอ๋องมีอุปนิสัยเด็ดเดี่ยวและเที่ยงธรรม มิหนำซ้ำยังมีจิตใจเมตตาธรรม เขาจะทำเรื่องต่ำช้าอย่างการลักพาตัวคนกลางดึกได้อย่างไรกันเล่า? ซูชิงอู่ส่ายหน้าพลางหรี่ตาด้วยท่าทีพึงพอใจพร้อมเพลิดเพลินไปกับขนม เย่เสวียนถิงรินน้ำชาให้นาง "ค่อย ๆ กิน ระวังสำลักเข้าล่ะ" ซูชิงอู่เชิดคางเล็กน้อยพลางมองเสี้ยวหน้าหล่อเหลาของเขาแล้วยิ้มอ่อนโยน นางคิดว่าหากตอนนี้หยุดเวลาลงได้ก็คง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 116

    แคว้นหนานเย่ให้ความสำคัญกับความกตัญญู ไม่ว่าความสัมพันธ์ระหว่าง ซูชิงอู่กับอัครเสนาบดีจะร้าวฉานสักเพียงใด แต่นางก็ยังต้องรักษาหน้าตาเอาไว้ เย่เสวียนถิงย่อมเข้าใจความจริงข้อนี้ ฉะนั้นเขาจึงให้หน้าแก่ซูชิงอู่ ซูชิงอู่เดินเคียงเย่เสวียนถิงพลางกุมมือเขาไว้เบา ๆ ทันทีที่อัครเสนาบดีซูเห็นนาง เขาก็อดมิได้ที่จะเส้นโลหิตบนหน้าผากเต้นดังตุบ ๆ ผ่านไปเพียงแค่เดือนกว่านับตั้งแต่เกิดเรื่อง ยามนี้โทสะในใจที่แต่เดิมสลายไปแล้วกลับปะทุขึ้นมาอีกครั้ง "การที่พระชายามาเยี่ยมเยือนโดยมิได้คำนึงถึงความแค้นเมื่อครั้งเก่าก่อน ชวนให้กระหม่อมซาบซึ้งใจยิ่งนัก" อัครเสนาบดีซูช่างเจ้าคารมคมคายยิ่งนัก เขามักจะเตือนให้ซูชิงอู่สำเหนียกตนเองอยู่เสมอ เย่เสวียนถิงจึงเอ่ยด้วยสีหน้าเย็นชาว่า "เข้าไปคุยกันข้างในเถอะ" เขาพาซูชิงอู่กลับเข้าไปในจวนอัครเสนาบดีอีกครั้ง บ่าวรับใช้ทั้งสองข้างทางต่างแสดงคำนับ แม้แต่หลิงซื่อเองก็ยังก้มหน้าด้วยท่าทีนอบน้อมและมิกล้าผลีผลามเอ่ยวาจาใดออกไป ตลอดทางที่เดินมาถึงเรือนที่ฮูหยินผู้เฒ่ากำลังพักฟื้น ซูชิงอู่ก็เห็นพี่ชายทั้งสามคนมาเช่นกัน พี่ใหญ่ซูหัวจิ่นสีหน้าเคร่งขรึมอย่างเห็

บทล่าสุด

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 930

    คนขายเนื้อทำสีหน้าหวาดกลัว “คนผู้นี้เลวทรามถึงเพียงนี้เลยรึ?”“เจ้าคอยระวังตัวเอาไว้ก็ไม่เป็นไรแล้ว ทางนั้นตรวจดูเสร็จรึยัง? ไปกันต่อเถิด!”เมื่อกองกำลังทำการค้นหาเสร็จเรียบร้อย คนขายเนื้อก็ยิ้มมุมปากเบา ๆเขาคิดไม่ถึงเลยว่าคนเหล่านี้จะพบเบาะแสทางตะวันตกของเมืองเร็วถึงเพียงนี้หากเขาไม่ได้เตรียมพร้อมมาก่อนหน้านี้และรีบปลอมตัวโดยไว เขาก็คงจะถูกจับได้ไปแล้วคนขายเนื้อรีบเข้าไปยังพื้นที่ด้านในสุดของร้านเขาเหลือบมองหนอนกู่ที่ซ่อนเอาไว้ในตู้ในหนึ่ง และเมื่อเปิดตู้ใบนั้น ดวงตาของเขาก็ฉายแววน่ากลัวออกมาผ่านมาหลายปี ดูเหมือนโลกภายนอกจะลืมความน่ากลัวของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว เริ่มแรกนั้นพวกเขาได้ครอบครองตำแหน่งระดับสูงของราชวงศ์ในแคว้นต่าง ๆ ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงตำแหน่งในนามแต่มันสามารถแทรกแซงแคว้นนั้น ๆ และพลิกสถานการณ์ได้ตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดคือการแอบเข้าไปในพระราชวังเพื่อช่วยเหลือเจียงเฟยเอ๋อร์หากต้องการเข้าไปในพระราชวังมีการคุ้มกันอย่างแน่นหนาได้ก็ต้องใช้วิธีที่ต่างออกไปบุรุษผู้นั้นออกจากร้านขายเนื้อหมูที่ถูกตรวจค้นเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับปิดประตูร้านแสร้งทำเป็นออกไปทำธุร

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 929

    หลังจากซูชิงอู่ส่งชิงอวี่ออกไปก็ยังคงตื่นเต้นอยู่เล็กน้อยซูชิงอู่หาคนมาวาดภาพเหมือนเจ้าอาวาสในปีที่แล้วและส่งต่อให้คนอื่น ๆ เพื่อช่วยกันค้นหา ซึ่งมันก็ผ่านมานานมากแล้ว และมีเพียงชิงอวี่เท่านั้นที่นำข่าวที่ได้รับการยืนยันกลับมาแจ้งนางแม้จะยังไม่ได้เจอคนผู้นั้น แต่ก็หมายความว่านางจะได้รู้ความจริงของการตายของท่านแม่เสียทีหลังจากสงบสติอารมณ์ได้ ซูชิงอู่ก็ตัดสินใจเดินทางไปทันทีนางอยากไปเจอจิ้งซินผู้นั้นด้วยตนเองและถามเขาว่าเหตุใดตอนนั้นเขาถึงฆ่าท่านแม่ของนาง!คืนเดียวกันนั้นซูชิงอู่ได้พูดคุยเรื่องนี้กับเย่เสวียนถิงเมื่อเย่เสวียนถิงได้รับรู้เรื่องราวก็พยักหน้าเบา ๆ และตัดสินใจอย่างทันทีว่า “ข้าจะส่งคนไปจับเขามาให้เจ้า”ซูชิงอู่ได้ยินอีกฝ่ายตอบง่าย ๆ และห้วนก็อดไม่ได้ที่จะตะลึงและหัวเราะ“ได้”ตอนนี้มีศิษย์พี่ของเจียงเฟยเอ๋อร์คอยจับตาดูอยู่ในเมืองหลวง ซูชิงอู่จึงไม่สามารถไปหาคนผู้นั้นพร้อมกับชิงอวี่ได้บรรยากาศในเมืองหลวงเริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆแม้แต่ฮ่องเต้เช่นเย่ชิวหมิงก็สังเกตเห็นสัญญาณของเหตุการณ์ร้ายแรงบางอย่างที่กำลังจะตามมาเขาเคยได้ยินซูชิงอู่พูดว่าศัตรูที่ซ่อนตัวอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 928

    ไป๋เฟิงก้มหัวลงอย่างเชื่อฟัง ราวกับมันได้กลายเป็นแมวตัวใหญ่ไปแล้วซูชิงอู่อดหัวเราะไม่ได้ “เจ้าคงเหนื่อยแย่ วันนี้ทำได้ดีมาก”ในที่สุดก็ได้ใช้ประโยชน์จากไป๋เฟิง สมกับที่เลี้ยงมันมานานไป๋เฟิงยืนขึ้นและอ้าปากหาว ส่วนสิงโตขนทองคำที่อยู่ข้าง ๆ ย่องเข้ามาทางด้านหลังซูชิงอู่ และใช้หัวถูเอวของนางดูเหมือนว่ามันต้องการให้ซูชิงอู่ลูบมันด้วยคนอื่น ๆ มองไปยังซูชิงอู่ที่มีร่างกายบอบบางยืนอยู่ตรงหน้าสัตว์ดุร้ายทั้งสอง พวกเขาทั้งหมดก็พูดไม่ออกอยู่นานนี่มัน...ร้ายกาจเกินไปแล้ว!แม้แต่กลุ่มบุรุษร่างใหญ่เช่นพวกเขาก็ยังไม่กล้าเข้าใกล้สัตว์ดุร้ายทั้งสองแม้แต่ครึ่งก้าว ทว่าซูชิงอู่กลับสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับพวกมันได้อย่างกลมกลืนเหมือนพวกมันเป็นสัตว์เลี้ยงของนางเมื่อไม่ถูกยุงกัดและกินยาสมุนไพรที่ผสมไว้แล้ว ม้าทุกตัวในสนามฝึกก็สงบลงและกลับสู่ภาวะปกติทันทีที่ซูชิงอู่กลับมาถึงตำหนัก ก็เห็นหรงหย่าวิ่งเข้ามา“พระชายา เมื่อครู่มีคนมาพบท่านและบอกว่ามีเรื่องด่วนต้องรายงาน”“มีเรื่องด่วนอะไรรึ?”หรงหย่าส่ายหัว “ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน ท่านไปดูก่อนเถิด”ซูชิงอู่สั่งให้คนพาผู้ส่งข่าวเข้ามาทันทีนางจ้อง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 927

    เลือดของแมลงวันติดอยู่ที่มือของซูชิงอู่ส่งกลิ่นแปลก ๆ ออกมาเมื่อซูชิงอู่มองชัด ๆ นางก็ได้รู้ว่ามันไม่ใช่แมลงวันแต่เป็น…แมลงมีปีกชนิดหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายแมลงวันปากของแมลงมีความคมมาก สามารถเจาะทะลุขนของสัตว์บางชนิดได้ง่าย ทว่าแมลงมีปีกชนิดนี้ไม่สนใจมนุษย์และจะกัดเฉพาะสัตว์เท่านั้นที่แท้นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้สัตว์ในเมืองหลวงบ้าคลั่งในช่วงหลายวันนี้!ซูชิงอู่ยังสังเกตเห็นว่ายุงเหล่านี้ถูกพิษและเมื่อพวกมันแพร่พันธุ์ ในไข่ก็มีสารพิษดังกล่าวติดไปด้วยขอเพียงแมลงเหล่านี้ยังกัดสัตว์ต่อไป สารพิษก็จะค่อย ๆ สะสมทีละน้อยสุดท้ายก็ถึงขั้นทำให้เสียสติ!คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้มีเจตนาชั่วร้ายหากนางไม่ค้นพบสิ่งนี้ก่อน เกรงว่าม้าศึกทั้งหมดจะต้องตายไปด้วยความบ้าคลั่งอีกทั้งยังไม่อาจทราบสาเหตุได้แน่นอนว่าม้าศึกเป็นส่วนสำคัญในกองทัพ หากทหารม้าเสียม้าไป ก็คงไม่ต่างไปจากคนอ่อนแอไร้ค่า...ซูชิงอู่ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว“นำม้าทุกตัวไปไว้ในที่ปิดและหาทางฆ่าแมลงมีปีกเหล่านี้ให้สิ้นเสีย”รองแม่ทัพที่ติดตามนางมารีบจำคำสั่งนี้เอาไว้ทันที“รับทราบพ่ะย่ะค่ะพระชายา!”เขาก็รีบกระจายคำสั่งออก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 926

    เมื่อเย่เสวียนถิงได้ยินสิ่งที่ซูชิงอู่พูด สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเยือกเย็น “ข้าจะส่งคนไปตรวจสอบ”ซูชิงอู่ส่ายหัวทันที “ยาพิษนี้คงไม่ได้อยู่ในอาหารสัตว์ อีกทั้งเมื่อมาลองคิดดู สัตว์ป่าจำนวนมากที่อยู่ใกล้เมืองหลวง รวมไปถึงม้าศึกล้วนติดพิษกันหมด มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่ไม่เป็นอะไร นี่เป็นเรื่องที่แปลกมาก และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือไม่มีใครสามารถวางยาพิษม้าศึกในเมืองหลวงได้อย่างเงียบ ๆ ”การวิเคราะห์ของซูชิงอู่นั้นสมเหตุสมผลมาก แม้แต่เย่เสวียนถิงเองก็ขมวดคิ้วขึ้นมาหากหาสาเหตุไม่พบก็แก้ปัญหาไม่ได้แม้จะรักษาม้าหนึ่งในนั้นจนหายขาด แต่ก็จะกลับมามีอาการเดิมในอีกไม่ช้าไม่ไกลกันนักก็มีนายทหารระดับสูงนายหนึ่งวิ่งเข้ามาเขาหอบหายใจและกล่าวว่า “ท่านอ๋อง ทำการตรวจสอบเสบียงอาหารแล้วไม่พบสิ่งผิดปกติพ่ะย่ะค่ะ”“น้ำล่ะ?”“ตรวจสอบน้ำแล้วเช่นกัน ไม่มีร่องรอยของการวางยาพิษเลยพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อได้ยินรายงาน เย่เสวียนถิงก็ขมวดคิ้วหนักกว่าเก่าคราวนี้แย่แล้วสิซูชิงอู่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ช่วยทำให้ม้าทุกตัวสงบลงก่อนได้หรือไม่ เดี๋ยวข้าจะเข้าไปดูรางอาหารม้าเอง”“ได้พ่ะย่ะค่ะพระชายา กรุณารอสักครู่ ก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 925

    เริ่มแรก เขาสงสัยในเรื่องที่ซูชิงอู่เคยพูดจนเกิดความคิดจินตนาการบางส่วนขึ้นมา เรียกได้ว่าตอนกลางวันก็เอาแต่นึกถึง ตกกลางคืนก็เก็บมาฝันอีกแต่เขาไม่เคยได้ยินซูชิงอู่พูดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลยจริง ๆเนื่องจากความฝันนั้นมันดูเพ้อเจ้อเกินไป เย่เสวียนถิงจึงไม่พูดออกมา เพราะกลัวว่ามันจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับซูชิงอู่อย่างไม่มีเหตุผลหลายวันมานี้ซูชิงอู่อาศัยอยู่กับลูกน้อยทั้งสามของนางเพื่อชดเชยช่วงเวลาที่นางห่างพวกเขาไปนานเด็ก ๆ ที่เพิ่งจะอายุได้ไม่กี่เดือนแต่กลับต้องห่างจากอ้อมอกของพ่อแม่ นั่นทำให้ซูชิงอู่รู้สึกผิดขึ้นมาดังนั้นนางจึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องภายนอกมากนักทันใดนั้นนางก็นึกอะไรออกและถามว่า “เสวียนถิง ช่วงนี้หมาป่าเหล่านั้นที่อยู่ข้างนอกเป็นอย่างไรบ้าง?”เย่เสวียนถิงเงยหน้าขึ้นและพูดว่า “ไม่ได้มีเพียงสัตว์ร้าย แต่ยังกระทบไปถึงม้าศึกด้วย ไม่รู้ว่าเหตุใดถึงเริ่มไม่เชื่อฟังคำสั่งกัน”“เดี๋ยวข้าจะไปตรวจสอบเรื่องนี้เสียหน่อย”ซูชิงอู่รู้สึกได้โดยไม่รู้ตัวว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้แม้เรื่องจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยและไม่มีผลกระทบกับมนุษย์มากนัก แต่นางก็รู้สึกอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 924

    ทันใดนั้นหมอหลวงซุนก็เหมือนจะคิดอะไรออก “เหมือนกับตอนที่พระชายาใช้ดอกไม้ชนิดหนึ่งเพื่อทำให้ม้าพยศคลั่งใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”“อืม ทำนองนั้นแหละ”สิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่นางพบในเภสัชตำรับ และหากใช้มัน ผลลัพธ์ที่ได้จะน่าทึ่งมากแม้ลงมือไปอย่างกะทันหัน แต่ก็ไม่มีใครจับได้ปรมาจารย์มือวางพิษที่แท้จริงคือผู้ที่วางยาพิษโดยไม่ทิ้งหลักฐานใด ๆ เอาไว้“ขอบพระทัยพระชายาสำหรับคำชี้แนะ หลังจากที่ได้พูดคุยกับท่าน กระหม่อมก็เข้าใจอย่างกระจ่างแจ้งแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ซูชิงอู่ปิดเภสัชตำรับ “ข้าท่องเภสัชตำรับนี้จนจำขึ้นใจ และเข้าใจเนื้อหาด้านในได้คร่าว ๆ เพียงแต่ยังไม่พบวิธีที่จะไขความลับที่อยู่ในนั้น หวังว่าท่านจะช่วยเรื่องนี้ได้”คราวนี้ ทุกคนเชื่อมั่นในคำพูดของซูชิงอู่สิ่งที่พวกเขาไม่ได้สนใจ แต่พระชายากลับนำมาใช้งานได้ถึงขั้นนี้ ยังมีอะไรที่ต้องพูดกันอีกหรือ?ตาแก่เช่นพวกเขาที่อาศัยว่าตนอายุมากทำตัวอาวุโสดูถูกผู้อื่นนั้นเทียบเทียมพระชายาไม่ได้เลย!หลังจากที่ซูชิงอู่อธิบายเรื่องนี้จบ นางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและแอบหลบออกมาทางประตูใหญ่นางกลัวว่าคนเหล่านั้นจะถามนางว่านางศึกษาเรียนรู้ทักษะทางการ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 923

    หมอหลวงซุนขมวดคิ้วเล็กน้อย“อย่าพูดไร้สาระ นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร? พระชายาไม่จำเป็นต้องโกหกพวกเราเลย โกหกพวกเราไปแล้วนางจะได้ประโยชน์อะไร?”คำพูดนี้ก็ถือว่ามีเหตุผลทุกคนต่างพูดไม่ออกทำได้แค่นั่งเงียบ ๆ แล้วพลิกหน้าอ่านต่อไปพลิกหน้ากระดาษตั้งแต่เช้าจรดค่ำ และอ่านจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้นตำราทั้งเล่มถูกอ่านจนจบอย่างรวดเร็ว ทุกคนในสำนักหมอหลวงไม่ได้นอนมาสองวันสองคืน และตอนนี้ทุกคนดูเหนื่อยและมีสีหน้าทรุดโทรมเมื่ออ่านหน้าจนถึงสุดท้าย แม้แต่หมอหลวงซุนก็ตกอยู่ในความเงียบเพราะเภสัชตำรับเล่มนี้บันทึกเฉพาะโรคและวัตถุดิบยาที่ธรรดาทั่วไปมาก ๆ บางส่วนเท่านั้นข้อแตกต่างเพียงหนึ่งเดียวคือผู้อาวุโสเช่นพวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบยาหลายประเภทและพัฒนาแนวคิดใหม่ ๆแม้จะไม่ไร้ประโยชน์ แต่ความคาดหวังกับผลลัพธ์ก็แตกต่างกันมากเลยทีเดียวถึงขั้นทำให้พวกเขาขาดความมั่นใจและอดไม่ได้ที่จะคิดว่านี่น่ะหรือคือเภสัชตำรับที่ตระกูลฟางเฝ้าหวงแหนมานานหลายปี?ดวงตาของหมอหลวงซุนเต็มไปด้วยสีแดงก่ำที่เกิดจากการอดนอน“ในเมื่อเภสัชตำรับของตระกูลฟางไร้ประโยชน์ เช่นนั้นพระชายาไปเรียนรู้ทักษะด้านการแพทย์มา

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 922

    “นี่คือวัตถุดิบยาและปริมาณที่คนผู้นั้นทำการวางยา ที่สำนักหมอหลวงของพวกท่านมีสิ่งนี้อยู่แล้ว หากจะทำยาถอนพิษก็คงไม่ใช่เรื่องยากกระมัง”“ไม่ยากพ่ะย่ะค่ะ ไม่ยาก!”หมอหลวงซุนยิ้มร่าราวกับได้รับสมบัติเขามองซูชิงอู่ที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว แต่กลับเก่งกาจกว่าเหล่าคนชราเช่นพวกเขาเมื่อรวมกับเภสัชตำรับของตระกูลฟางที่ซูชิงอู่พูดถึง หมอหลวงเฒ่าก็ดีใจจนเนื้อเต้นหากได้เรียนรู้และกลายเป็นคนที่เก่งกาจเหมือนพระชายา ระดับความรู้ของเขาก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วยหรือไม่?แต่หมอหลวงซุนไม่เคยรู้เลยว่าทุกสิ่งที่ซูชิงอู่เรียนรู้ไม่ได้มาจากเภสัชตำรับของตระกูลฟางในเภสัชตำรับเล่มนั้นมีความแตกต่างตรงจุดไหน ตัวซูชิงอู่ในตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำแม้ตอนตายไปในชาติก่อน เภสัชตำรับก็ถูกทำลายและไม่มีใครเห็นความลับที่ซ่อนอยู่ในนั้นจุดเด่นเพียงหนึ่งเดียวของเภสัชตำรับเล่มนั้นคือบันทึกข้อมูลวัตถุดิบยาจำนวนมากที่คนทั่วไปไม่ทราบและสรรพคุณลับบางส่วนบรรดาผู้อาวุโสของสำนักหมอหลวงพากันมาช่วยคิดค้นยาถอนพิษเพื่อที่จะได้อ่านเภสัชตำรับนั้นเร็ว ๆในที่สุดเช้าวันรุ่งขึ้นยาที่สามารถฟื้นฟูสติของสัตว์ร้ายได้ก็ถูกส่งมาให้ฮ่องเต้

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status