Share

บทที่ 103

Author: วิ๋นเจิง
ทันใดนั้นสีหน้าของเย่เสวียนถิงก็เปลี่ยนไป หัวใจของเขาจมลึกลงสู่ก้นบึ้ง

เขาผิดหรือเปล่า เขาไม่ควรเชื่อคำพูดของซูชิงอู่ใช่หรือไม่?

นางปรารถนาให้เขาตายมาโดยตลอด แล้วเหตุใดนางจึงให้ยายืดอายุขัยแก่เขาไว้?

จู่ ๆ หัวใจของเขาก็ตึงเครียด เย่เสวียนถิงตระหนักได้ทันทีว่าเขาไม่อาจทนต่อผลลัพธ์เช่นนั้นได้

ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มเล็กน้อย เขาพยายามปิดรูขนาดใหญ่บนร่างขององครักษ์เงาลำดับที่สิบเจ็ดอย่างรวดเร็ว เขาพยายามยืดเวลาออกไปให้นานที่สุด

ในขณะนี้ หัวใจของเขารู้สึกราวกับกำลังตกลงไปในถ้ำน้ำแข็ง

สิ่งเดียวที่อยู่ในใจของเขาคือเสียง ใบหน้า และรอยยิ้มของซูชิงอู่ เขาอดยิ้มอย่างขมขื่นในใจไม่ได้ ในเวลาเพียงหนึ่งเดือน เขาก็ตกสู่หลุมพลางอันแสนอ่อนโยนของนางอย่างสมบูรณ์

องครักษ์เงาลำดับที่สิบเจ็บตัวสั่นเล็กน้อย เขาพ่นเลือดสีดำในปากออกมา ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าการมองเห็นที่พร่ามัวของเขาค่อย ๆ ชัดเจนขึ้น

ความเหนื่อยล้าทางร่างกายและความรู้สึกที่กำลังจะถูกทำลายโดยพิษก็หายไป

สีหน้าของเขาเฉื่อยชาเล็กน้อย จากนั้นเขาก็หันศีรษะไปมองเย่เสวียนถิง

ดวงตาของเย่เสวียนถิงเปลี่ยนเป็นสีแดงอย่างเห็นได้ชัด ราวกับมีเหว
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 104

    ม่านตาของเย่เสวียนถิงแคบลงเล็กน้อยจากนั้นเขาก็ลุกขึ้นอีกครั้งและรีบไปที่อื่นอย่างรวดเร็วในเวลานี้ซูชิงอู่กำลังเดินอยู่บนภูเขาลัดเลาะผ่านป่าไม้ โดยสวมอาภรณ์ของเย่ชิวหมิง นางสะพายธนูและลูกธนูขนาดใหญ่หลายอันไว้บนหลังในแต่ละครั้ง ลูกธนูที่โจมตีลงมาจากภูเขานั้นราวกับเคียวคมกริบในมือของเทพเจ้าแห่งความตาย“เป็นองค์ชายใหญ่ องค์ชายใหญ่มาที่นี่เพื่อช่วยพวกเรา!”ใครบางคนในฝูงชนตะโกนเสียงดัง ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจมีคนช่วยซูหัวจิ่นซึ่งเกือบได้รับบาดเจ็บจากการลอบสังหารเมื่อครู่นี้ โดยตบฝุ่นบนร่างกายของเขาแล้วถามด้วยความห่วงใยว่า "ใต้เท้าซู ท่านบาดเจ็บหรือไม่?"ซูหัวจิ่นส่ายหน้าเบา ๆ ใบหน้าของเขายังคงซีดเซียวเนื่องจากหวาดกลัว"ข้าไม่เป็นไร"ชาวบ้านอีกคนอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นเล็กน้อย "ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าทักษะการต่อสู้ขององค์ชายใหญ่จะทรงพลังเพียงนี้ ลูกศรสองสามลูกเมื่อครู่น่าทึ่งมาก!"ชายชุดดำที่อยู่รอบตัวพวกเขาทั้งหมดถูกสังหาร วิกฤตอันตรายของพวกเขาได้รับการแก้ไขแล้ว เสียงของพวกเขาอดไม่ได้ที่จะผ่อนคลายลงในที่สุดซูหัวจิ่นพยักหน้าเล็กน้อย แต่เขากลับรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 105

    เย่เสวียนถิงสงบอารมณ์ของเขาลงชั่วขณะหนึ่ง ก่อนจะปล่อยแขนออกเล็กน้อยเขาหรี่ตาหงส์แล้วพูดว่า "เจ้าบอกว่าเจ้ามียายืดอายุขัยอีกสองเม็ด เอายาออกมาแล้วมอบให้ข้า"ซูชิงอู่เบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อย มองดูเย่เสวียนถิงอย่างไม่แน่ใจ จากนั้นนางก็กำนิ้วขึ้นเล็กน้อย“ไม่ได้ นี้คือสิ่งที่ท่านแม่ทิ้งไว้ให้ข้า ข้าไม่อาจให้ได้อีก...”เย่เสวียนถิงพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม "เจ้าไม่ได้บอกว่าเจ้าชอบข้าและเต็มใจที่จะให้ข้าทุกอย่างงั้นหรือ?"ซูชิงอู่ไม่ตอบนางหันศีรษะไปทางอื่นและกำแขนเสื้อไว้แน่นเย่เสวียนถิงจ้องมองนางอย่างสงบเงียบ สังเกตการแสดงออกของนางและการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในดวงตาของนางหลังจากนั้นไม่นาน เขาก็พูดขึ้นเบา ๆ "ยายืดอายุขัยไม่ได้มีสามเม็ดใช่หรือไม่?"ม่านตาของซูชิงอู่ขยายออกเล็กน้อย นางมองไปยังเย่เสวียนถิง"ข้า……"เย่เสวียนถิงเงยหน้าขึ้นมองนางอย่างจริงจัง ทำให้ซูชิงอู่กลืนคำพูดที่ไม่จริงใจของนางทั้งหมดลงไปนางพบว่าบางครั้งสัญชาตญาณของบุรุษผู้นี้ก็แข็งแกร่งจนน่ากลัวเย่เสวียนถิงเข้าใจทุกอย่างในทันที ผ่านการที่นางกำแขนเสื้อของตนเองไว้แน่น ซูชิงอู่รู้สึกว่าเอวของนางกระชับขึ้น นางถูกยกขึ้นจา

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 106

    "จัดการพวกคนชุดดำหมดแล้วหรือ?" ซูชิงอู่พยายามเปลี่ยนหัวข้อสนทนาอย่างสุดความสามารถ เมื่ออยู่ต่อหน้าเย่เสวียนถิง นางอ่อนโยนราวกับสายน้ำ ไร้ซึ่งท่าทางโหดเหี้ยมเมื่อสักครู่นี้ ราวกับว่านางหาใช้ผู้ที่ขี่พยัคฆ์ขาวและยิงธนูสังหารทัพกบฏแต่อย่างใดไม่ "ใช่ อีกไม่นานก็น่าจะจัดการหมดแล้วล่ะ" เขายังมีความเชื่อมั่นในตัวเหล่าทหารที่เขาพามา ถึงแม้ว่าการลอบสังหารออกจะกะทันหันอยู่บ้างและยอมให้คนพวกนี้ใช้วิธีอื่นเพื่อแทรกซึมเข้ามาในลานล่าสัตว์ แต่การคุ้มกันได้ทันเวลาก็ช่วยป้องกันมิให้เกิดความเสียหายมากเกินไปนัก ยามนี้ฮ่องเต้และคนอื่นๆ ต่างกลับวังหลวงเพื่อหาที่หลบซ่อน ยามนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว ขอเพียงพวกเขาผ่านพ้นราตรีนี้ไปได้อย่างปลอดภัย รุ่งเช้าวันพรุ่งนี้พวกเขาก็สามารถกลับวังหลวงได้แล้ว ถึงแม้ว่าการล่าสัตว์จะจบลงก่อนกำหนด แต่ทุกคนก็ตัดสินได้แล้วว่าผู้ใดคือผู้นำของการล่าสัตว์ครั้งนี้ อย่างไรเสียภาพที่องค์ชายใหญ่ขี่พยัคฆ์เพื่อช่วยคนก็ทิ้งความประทับใจอันยากจะลบเลือนให้แก่เหล่าขุนนาง ตอนนี้เย่ชิวหมิงถูกพาตัวกลับมาแล้ว จากนั้นเขาก็ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าอาภรณ์อีกครั้ง เขาเครียดเกร็งไปทั้งร่างแ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 107

    ทันทีที่เอ่ยวาจาเช่นนี้ออกมา ทั่วทั้งท้องพระโรงก็เงียบสงัด ฮ่องเต้ชราลูบพระเคราแล้วมองเย่ชิวหมิงด้วยพระเนตรที่ฉายแววลึกล้ำอยู่บ้าง ควรทราบว่าการสอบชิวซื่อจัดขึ้นทุกสามปี ผู้ที่สอบได้อันดับหนึ่งหนีไม่พ้นต้องกลายเป็นคนสนิทของฮ่องเต้ แคว้นหนานเย่ให้ความสำคัญกับการสอบชิวซื่อมาโดยตลอด ฮ่องเต้ทรงแต่งตั้งผู้ที่สอบได้คะแนนสูงสุดหลายคนเมื่อปีก่อน ๆ ให้ดำรงตำแหน่งสำคัญ ยกตัวอย่างเช่น ผู้ตรวจการมณฑลหลินโจวที่ฮ่องเต้ส่งมา หรือหัวหน้าผู้ตรวจการแผ่นดินประจำรัชกาลปัจจุบัน ยามนี้จิงจ้าวอิ่นผู้ที่สอบได้คะแนนสูงสุดเมื่อสามปีก่อน รับผิดชอบคดีอาญาทั้งหลายในเมืองหลวง นับตั้งแต่เรื่องฆ่าคนวางเพลิงไปจนถึงเรื่องทะเลาะวิวาทเล็ก ๆ น้อย ๆ และลักขโมย... ถึงแม้ว่าผู้คุมสอบจะมิใช่ตำแหน่งที่ใหญ่โตและได้ผลประโยชน์มาก แต่ก็มีโอกาสที่จะได้พบเจอผู้มากพรสวรรค์ที่คร่ำเคร่งร่ำเรียนมาหลายปี ต่อให้บางคนจะมิได้อันดับหนึ่ง ทว่าพวกเขาก็ล้วนมีทั้งความสามารถและพรสวรรค์ ยิ่งไปกว่านั้น ก็ยังเป็นตำแหน่งที่สะดวกแก่การเอาชนะใจและทำความเข้าใจคนกลุ่มนี้อีกด้วย "ในเมื่อข้าตกปากรับคำแล้ว ข้าก็จะไม่คืนคำ องค์ชายหมิง เพียงแต

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 108

    ก่อนที่เย่ชิวหมิงจะทันได้เอ่ยวาจาใด เย่อวิ๋นถูก็ชิงเอ่ยขึ้นมามา "ข้าได้ยินว่าวันนี้เสด็จพี่ใหญ่แสดงฝีมืออันล้ำเลิศในการล่าสัตว์ช่วงสารทฤดู จนถึงขนาดได้ตำแหน่งผู้คุมสอบ ขอแสดงความยินดีด้วย!" สีหน้าของเขาหม่นคล้ำและน้ำเสียงก็ฟังดูเคลือบคลุม เย่ชิวหมิงตะลึงงันไปชั่วขณะ และกำลังจะอธิบายให้ฟัง เขาก็ได้ยินเสียงของเย่อวิ๋นถูเอ่ยขึ้นมาอีกครั้งว่า "เดิมทีข้านึกว่าเรื่องนี้เป็นฝีมือของเย่เสวียนถิง จนถึงกับติดสินบนเด็กเลี้ยงม้าให้บอกว่าเขาเป็นผู้กระทำผิดตัวจริง ข้านึกไม่ถึงเลยว่าจะเป็นฝีมือของเสด็จพี่ใหญ่ที่แสนดีของข้าเสียได้!” เย่ชิวหมิงพลันสีหน้าหม่นคล้ำ "เย่อวิ๋นถู พูดเช่นนี้เจ้าหมายความว่าอันใดกัน?" เย่อวิ๋นถูแตะขาข้างที่ได้รับบาดเจ็บ "เย่เสวียนถิงบาดเจ็บที่ขาอยู่แล้ว ข้าใส่ยาลงไปในอาหารม้าของเขาเพื่อทำให้ม้าคลั่ง จะได้ขับไล่เขาออกไปจากการล่าสัตว์ครั้งนี้ เพราะข้าคิดว่าน่าจะสามารถเอาชนะเจ้าผู้ที่หลงใหลบทกวีและตำรับตำราได้ไม่ยากนัก ทว่าข้ากลับมิคาดคิดเลยว่าเสด็จพี่ใหญ่ของข้าจะมากเล่ห์ถึงขนาดทำให้ข้าต้องขาหักในภายหลัง เพื่อมิให้ข้าเป็นคู่ต่อสู้ของท่านได้อีกต่อไป... ยิ่งไปกว่านั้น

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 109

    ซูชิงอู่สั่งให้คนในครัวไปต้มน้ำ จากนั้นก็สั่งให้คนยกถังอาบน้ำเข้ามาในห้องแล้วเติมสมุนไพรมากมายลงไป เมื่อเย่เสวียนถิงที่ถูกซูชิงอู่บังคับให้เข้ามาในห้องได้เห็นถังอาบน้ำที่ยังอุ่น ๆ เขาก็ตะลึงงันอยู่บ้าง "อาอู่ เจ้าคิดจะทำอาหารหรือ?" มีสมุนไพรผสมเข้าด้วยกันอยู่ในถังอาบน้ำมากมายเหลือเกิน บางอย่างถึงกับลอยขึ้นมาเหนือผิวน้ำ ชวนให้แลดูเหมือนน้ำแกงหม้อหนึ่งจริง ๆ ซูชิงอู่ปาดเหงื่อออกจากหน้าผากแล้วให้รู้สึกขบขันกับวาจาที่เย่เสวียนถิงเพิ่งจะกล่าวออกมา "จะเป็นไปได้อย่างไรกัน? ท่านอ๋อง ท่านมิใช่อาหารสักหน่อย" เย่เสวียนถิงเข้าใจแล้วว ซูชิงอู่คิดจะให้เขาลงไปในนั้น เขาเม้มปากแน่นและกล้ามเนื้อเครียดเกร็งไปทั่วทั้งร่าง จากนั้นเขาก็มองถังของเหลวสีดำมืดแล้วริมฝีปากของเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นซีดขาวเล็กน้อย แม้แต่อ๋องเสวียนที่เคยชินกับเหตุการณ์ครั้งใหญ่ ยามนี้ก็อดมิได้ที่จะรู้สึกกระวนกระวายใจอยู่บ้าง "อาอู่ เจ้าคิดจะทำอันใดกัน?" ซูชิงอู่ตอบเสียงเรียบนิ่งว่า "ข้าเตรียมถังสมุนไพรเพื่อให้ท่านอ๋องเสริมกำลังกายรวมทั้งชำระล้างกระดูกและไขกระดูก ข้าจะเตรียมถังสมุนไพรให้ท่านทุกวันเอง" เมื่อนางพูดจ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 110

    ซูชิงอู่เลิกคิ้วพลางขมวดเรียวคิ้วงามประดุจภาพวาดเล็กน้อย "จะทำเช่นนั้นได้อย่างไรกัน?" เย่เสวียนถิงรู้สึกตกใจอยู่บ้าง จากนั้นเขาก็ได้ยินซูชิงอู่กล่าว "เสวียนถิง ข้ายินดีทำเรื่องพวกนี้เพื่อท่านนะ สำหรับข้าแล้ว เรื่องของท่านหาใช่เรื่องเล็กน้อยไม่!" ยิ่งไปกว่านั้น บ่าวรับใช้พวกนั้นจะบังอาจแตะต้องท่านอ๋องของนางได้อย่างไรกัน? ซูชิงอู่เงยหน้ามองเย่เสวียนถิงด้วยสายตาเร่าร้อน จากนั้นก็สบตาเย่เสวียนถิง ราวกับว่าเย่เสวียนถิงถูกสายตาของนางแผดเผา เขาจึงหลุบตาลงและมิได้ปฏิเสธอีก ซูชิงอู่ลอกแผ่นยาออกจากปลีน่องของเย่เสวียนถิง จากนั้นก็ยกอ่างน้ำมาแล้วใช้มือช่วยล้างเศษตกค้างบนผิวของเขา บริเวณปลีน่องที่พอกยาขี้ผึ้งเอาไว้ ผิวจึงซีดขาวและไวต่อสัมผัสมากกว่า นิ้วมือของซูชิงอู่ค่อย ๆ ล้างผิวหนังบริเวณขาของเขา จากนั้นความรู้สึกคันคะเยอก็ทำให้หูและลำคอของเย่เสวียนถิงกลับกลายเป็นแดงก่ำ เขากำหมัดเอาไว้แน่นเพื่อมิให้เผยความอุธัจของตนเองออกมา ทว่าเรื่องยังไม่จบสิ้น หลังจากซูชิงอู่ช่วยล้างยาที่อยู่บนขาออกไปแล้ว นางก็เงยหน้าพลางหรี่ตาเล็กน้อย น้ำเสียงของนางอ่อนโยนราวกับสายน้ำ "ท่านอ๋อง ตอนนี

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 111

    ซูชิงอู่ถูกกอดรัดเอาไว้แน่นเสียจนแทบหายใจไม่ออก แต่นางก็หาได้มีโทสะ ทว่ากลับตบหลังของเย่เสวียนถิงด้วยท่าทีปลอบโยน "ท่านอ๋อง ถ้าหากพวกเราไม่รีบ น้ำในถังก็จะเย็นหมดแล้วนะ" เย่เสวียนถิงหน้าอกกระเพื่อมเล็กน้อย เขาปล่อยบั้นเอวของซูชิงอู่ จากนั้นก็ยกมือขึ้นเพื่อลากไปตามเรียวคิ้วของนาง ยามนี้หัวใจของเขาท่วมท้นไปด้วยความรู้สึกบางอย่าง ข้อกังขาทั้งมวลเมื่อก่อนหน้านี้ล้วนสลายไปจนสิ้น สายตายามที่เย่เสวียนถิงมองซูชิงอู่กลับแลดูมุ่งมั่นและตั้งใจจริง คราวนี้เขาพยักหน้าโดยแทบมิได้ลังเลใจสักนิด "ได้สิ เพียงแต่ว่า..." เขาก้มหน้ามองบางอย่างใต้ชุดคลุมที่ออกจะผิดปกติไปบ้าง จากนั้นแก้มของเขาก็พลันรู้สึกร้อนซู่แล้วเบือนหน้าหนีด้วยความประหม่า "ข้าทำเองได้ จะ...เจ้าออกไปก่อนเถอะ" ซูชิงอู่อดมิได้ที่จะยิ้มออกมา "ข้าไปมิได้หรอก อย่างไรเสียเมื่อท่านอ๋องแช่ถังสมุนไพรแล้ว ท่านยังต้องฝังเข็มเพื่อกระตุ้นให้ตัวยาดูดซึมด้วย เร็วเข้าเถอะ..." เย่เสวียนถิงรู้สึกว่ามีมือคู่หนึ่งสัมผัสแตะต้องเขา จากนั้นก็ถอดอาภรณ์ชั้นในของเขาออก เขาตัวแข็งทื่อและยังคงหันหลังให้ซูชิงอู่ ต่อให้ทั้งสองคนจะแต่งงานกัน

Latest chapter

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 930

    คนขายเนื้อทำสีหน้าหวาดกลัว “คนผู้นี้เลวทรามถึงเพียงนี้เลยรึ?”“เจ้าคอยระวังตัวเอาไว้ก็ไม่เป็นไรแล้ว ทางนั้นตรวจดูเสร็จรึยัง? ไปกันต่อเถิด!”เมื่อกองกำลังทำการค้นหาเสร็จเรียบร้อย คนขายเนื้อก็ยิ้มมุมปากเบา ๆเขาคิดไม่ถึงเลยว่าคนเหล่านี้จะพบเบาะแสทางตะวันตกของเมืองเร็วถึงเพียงนี้หากเขาไม่ได้เตรียมพร้อมมาก่อนหน้านี้และรีบปลอมตัวโดยไว เขาก็คงจะถูกจับได้ไปแล้วคนขายเนื้อรีบเข้าไปยังพื้นที่ด้านในสุดของร้านเขาเหลือบมองหนอนกู่ที่ซ่อนเอาไว้ในตู้ในหนึ่ง และเมื่อเปิดตู้ใบนั้น ดวงตาของเขาก็ฉายแววน่ากลัวออกมาผ่านมาหลายปี ดูเหมือนโลกภายนอกจะลืมความน่ากลัวของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว เริ่มแรกนั้นพวกเขาได้ครอบครองตำแหน่งระดับสูงของราชวงศ์ในแคว้นต่าง ๆ ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงตำแหน่งในนามแต่มันสามารถแทรกแซงแคว้นนั้น ๆ และพลิกสถานการณ์ได้ตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดคือการแอบเข้าไปในพระราชวังเพื่อช่วยเหลือเจียงเฟยเอ๋อร์หากต้องการเข้าไปในพระราชวังมีการคุ้มกันอย่างแน่นหนาได้ก็ต้องใช้วิธีที่ต่างออกไปบุรุษผู้นั้นออกจากร้านขายเนื้อหมูที่ถูกตรวจค้นเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับปิดประตูร้านแสร้งทำเป็นออกไปทำธุร

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 929

    หลังจากซูชิงอู่ส่งชิงอวี่ออกไปก็ยังคงตื่นเต้นอยู่เล็กน้อยซูชิงอู่หาคนมาวาดภาพเหมือนเจ้าอาวาสในปีที่แล้วและส่งต่อให้คนอื่น ๆ เพื่อช่วยกันค้นหา ซึ่งมันก็ผ่านมานานมากแล้ว และมีเพียงชิงอวี่เท่านั้นที่นำข่าวที่ได้รับการยืนยันกลับมาแจ้งนางแม้จะยังไม่ได้เจอคนผู้นั้น แต่ก็หมายความว่านางจะได้รู้ความจริงของการตายของท่านแม่เสียทีหลังจากสงบสติอารมณ์ได้ ซูชิงอู่ก็ตัดสินใจเดินทางไปทันทีนางอยากไปเจอจิ้งซินผู้นั้นด้วยตนเองและถามเขาว่าเหตุใดตอนนั้นเขาถึงฆ่าท่านแม่ของนาง!คืนเดียวกันนั้นซูชิงอู่ได้พูดคุยเรื่องนี้กับเย่เสวียนถิงเมื่อเย่เสวียนถิงได้รับรู้เรื่องราวก็พยักหน้าเบา ๆ และตัดสินใจอย่างทันทีว่า “ข้าจะส่งคนไปจับเขามาให้เจ้า”ซูชิงอู่ได้ยินอีกฝ่ายตอบง่าย ๆ และห้วนก็อดไม่ได้ที่จะตะลึงและหัวเราะ“ได้”ตอนนี้มีศิษย์พี่ของเจียงเฟยเอ๋อร์คอยจับตาดูอยู่ในเมืองหลวง ซูชิงอู่จึงไม่สามารถไปหาคนผู้นั้นพร้อมกับชิงอวี่ได้บรรยากาศในเมืองหลวงเริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆแม้แต่ฮ่องเต้เช่นเย่ชิวหมิงก็สังเกตเห็นสัญญาณของเหตุการณ์ร้ายแรงบางอย่างที่กำลังจะตามมาเขาเคยได้ยินซูชิงอู่พูดว่าศัตรูที่ซ่อนตัวอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 928

    ไป๋เฟิงก้มหัวลงอย่างเชื่อฟัง ราวกับมันได้กลายเป็นแมวตัวใหญ่ไปแล้วซูชิงอู่อดหัวเราะไม่ได้ “เจ้าคงเหนื่อยแย่ วันนี้ทำได้ดีมาก”ในที่สุดก็ได้ใช้ประโยชน์จากไป๋เฟิง สมกับที่เลี้ยงมันมานานไป๋เฟิงยืนขึ้นและอ้าปากหาว ส่วนสิงโตขนทองคำที่อยู่ข้าง ๆ ย่องเข้ามาทางด้านหลังซูชิงอู่ และใช้หัวถูเอวของนางดูเหมือนว่ามันต้องการให้ซูชิงอู่ลูบมันด้วยคนอื่น ๆ มองไปยังซูชิงอู่ที่มีร่างกายบอบบางยืนอยู่ตรงหน้าสัตว์ดุร้ายทั้งสอง พวกเขาทั้งหมดก็พูดไม่ออกอยู่นานนี่มัน...ร้ายกาจเกินไปแล้ว!แม้แต่กลุ่มบุรุษร่างใหญ่เช่นพวกเขาก็ยังไม่กล้าเข้าใกล้สัตว์ดุร้ายทั้งสองแม้แต่ครึ่งก้าว ทว่าซูชิงอู่กลับสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับพวกมันได้อย่างกลมกลืนเหมือนพวกมันเป็นสัตว์เลี้ยงของนางเมื่อไม่ถูกยุงกัดและกินยาสมุนไพรที่ผสมไว้แล้ว ม้าทุกตัวในสนามฝึกก็สงบลงและกลับสู่ภาวะปกติทันทีที่ซูชิงอู่กลับมาถึงตำหนัก ก็เห็นหรงหย่าวิ่งเข้ามา“พระชายา เมื่อครู่มีคนมาพบท่านและบอกว่ามีเรื่องด่วนต้องรายงาน”“มีเรื่องด่วนอะไรรึ?”หรงหย่าส่ายหัว “ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน ท่านไปดูก่อนเถิด”ซูชิงอู่สั่งให้คนพาผู้ส่งข่าวเข้ามาทันทีนางจ้อง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 927

    เลือดของแมลงวันติดอยู่ที่มือของซูชิงอู่ส่งกลิ่นแปลก ๆ ออกมาเมื่อซูชิงอู่มองชัด ๆ นางก็ได้รู้ว่ามันไม่ใช่แมลงวันแต่เป็น…แมลงมีปีกชนิดหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายแมลงวันปากของแมลงมีความคมมาก สามารถเจาะทะลุขนของสัตว์บางชนิดได้ง่าย ทว่าแมลงมีปีกชนิดนี้ไม่สนใจมนุษย์และจะกัดเฉพาะสัตว์เท่านั้นที่แท้นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้สัตว์ในเมืองหลวงบ้าคลั่งในช่วงหลายวันนี้!ซูชิงอู่ยังสังเกตเห็นว่ายุงเหล่านี้ถูกพิษและเมื่อพวกมันแพร่พันธุ์ ในไข่ก็มีสารพิษดังกล่าวติดไปด้วยขอเพียงแมลงเหล่านี้ยังกัดสัตว์ต่อไป สารพิษก็จะค่อย ๆ สะสมทีละน้อยสุดท้ายก็ถึงขั้นทำให้เสียสติ!คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้มีเจตนาชั่วร้ายหากนางไม่ค้นพบสิ่งนี้ก่อน เกรงว่าม้าศึกทั้งหมดจะต้องตายไปด้วยความบ้าคลั่งอีกทั้งยังไม่อาจทราบสาเหตุได้แน่นอนว่าม้าศึกเป็นส่วนสำคัญในกองทัพ หากทหารม้าเสียม้าไป ก็คงไม่ต่างไปจากคนอ่อนแอไร้ค่า...ซูชิงอู่ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว“นำม้าทุกตัวไปไว้ในที่ปิดและหาทางฆ่าแมลงมีปีกเหล่านี้ให้สิ้นเสีย”รองแม่ทัพที่ติดตามนางมารีบจำคำสั่งนี้เอาไว้ทันที“รับทราบพ่ะย่ะค่ะพระชายา!”เขาก็รีบกระจายคำสั่งออก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 926

    เมื่อเย่เสวียนถิงได้ยินสิ่งที่ซูชิงอู่พูด สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเยือกเย็น “ข้าจะส่งคนไปตรวจสอบ”ซูชิงอู่ส่ายหัวทันที “ยาพิษนี้คงไม่ได้อยู่ในอาหารสัตว์ อีกทั้งเมื่อมาลองคิดดู สัตว์ป่าจำนวนมากที่อยู่ใกล้เมืองหลวง รวมไปถึงม้าศึกล้วนติดพิษกันหมด มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่ไม่เป็นอะไร นี่เป็นเรื่องที่แปลกมาก และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือไม่มีใครสามารถวางยาพิษม้าศึกในเมืองหลวงได้อย่างเงียบ ๆ ”การวิเคราะห์ของซูชิงอู่นั้นสมเหตุสมผลมาก แม้แต่เย่เสวียนถิงเองก็ขมวดคิ้วขึ้นมาหากหาสาเหตุไม่พบก็แก้ปัญหาไม่ได้แม้จะรักษาม้าหนึ่งในนั้นจนหายขาด แต่ก็จะกลับมามีอาการเดิมในอีกไม่ช้าไม่ไกลกันนักก็มีนายทหารระดับสูงนายหนึ่งวิ่งเข้ามาเขาหอบหายใจและกล่าวว่า “ท่านอ๋อง ทำการตรวจสอบเสบียงอาหารแล้วไม่พบสิ่งผิดปกติพ่ะย่ะค่ะ”“น้ำล่ะ?”“ตรวจสอบน้ำแล้วเช่นกัน ไม่มีร่องรอยของการวางยาพิษเลยพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อได้ยินรายงาน เย่เสวียนถิงก็ขมวดคิ้วหนักกว่าเก่าคราวนี้แย่แล้วสิซูชิงอู่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ช่วยทำให้ม้าทุกตัวสงบลงก่อนได้หรือไม่ เดี๋ยวข้าจะเข้าไปดูรางอาหารม้าเอง”“ได้พ่ะย่ะค่ะพระชายา กรุณารอสักครู่ ก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 925

    เริ่มแรก เขาสงสัยในเรื่องที่ซูชิงอู่เคยพูดจนเกิดความคิดจินตนาการบางส่วนขึ้นมา เรียกได้ว่าตอนกลางวันก็เอาแต่นึกถึง ตกกลางคืนก็เก็บมาฝันอีกแต่เขาไม่เคยได้ยินซูชิงอู่พูดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลยจริง ๆเนื่องจากความฝันนั้นมันดูเพ้อเจ้อเกินไป เย่เสวียนถิงจึงไม่พูดออกมา เพราะกลัวว่ามันจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับซูชิงอู่อย่างไม่มีเหตุผลหลายวันมานี้ซูชิงอู่อาศัยอยู่กับลูกน้อยทั้งสามของนางเพื่อชดเชยช่วงเวลาที่นางห่างพวกเขาไปนานเด็ก ๆ ที่เพิ่งจะอายุได้ไม่กี่เดือนแต่กลับต้องห่างจากอ้อมอกของพ่อแม่ นั่นทำให้ซูชิงอู่รู้สึกผิดขึ้นมาดังนั้นนางจึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องภายนอกมากนักทันใดนั้นนางก็นึกอะไรออกและถามว่า “เสวียนถิง ช่วงนี้หมาป่าเหล่านั้นที่อยู่ข้างนอกเป็นอย่างไรบ้าง?”เย่เสวียนถิงเงยหน้าขึ้นและพูดว่า “ไม่ได้มีเพียงสัตว์ร้าย แต่ยังกระทบไปถึงม้าศึกด้วย ไม่รู้ว่าเหตุใดถึงเริ่มไม่เชื่อฟังคำสั่งกัน”“เดี๋ยวข้าจะไปตรวจสอบเรื่องนี้เสียหน่อย”ซูชิงอู่รู้สึกได้โดยไม่รู้ตัวว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้แม้เรื่องจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยและไม่มีผลกระทบกับมนุษย์มากนัก แต่นางก็รู้สึกอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 924

    ทันใดนั้นหมอหลวงซุนก็เหมือนจะคิดอะไรออก “เหมือนกับตอนที่พระชายาใช้ดอกไม้ชนิดหนึ่งเพื่อทำให้ม้าพยศคลั่งใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”“อืม ทำนองนั้นแหละ”สิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่นางพบในเภสัชตำรับ และหากใช้มัน ผลลัพธ์ที่ได้จะน่าทึ่งมากแม้ลงมือไปอย่างกะทันหัน แต่ก็ไม่มีใครจับได้ปรมาจารย์มือวางพิษที่แท้จริงคือผู้ที่วางยาพิษโดยไม่ทิ้งหลักฐานใด ๆ เอาไว้“ขอบพระทัยพระชายาสำหรับคำชี้แนะ หลังจากที่ได้พูดคุยกับท่าน กระหม่อมก็เข้าใจอย่างกระจ่างแจ้งแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ซูชิงอู่ปิดเภสัชตำรับ “ข้าท่องเภสัชตำรับนี้จนจำขึ้นใจ และเข้าใจเนื้อหาด้านในได้คร่าว ๆ เพียงแต่ยังไม่พบวิธีที่จะไขความลับที่อยู่ในนั้น หวังว่าท่านจะช่วยเรื่องนี้ได้”คราวนี้ ทุกคนเชื่อมั่นในคำพูดของซูชิงอู่สิ่งที่พวกเขาไม่ได้สนใจ แต่พระชายากลับนำมาใช้งานได้ถึงขั้นนี้ ยังมีอะไรที่ต้องพูดกันอีกหรือ?ตาแก่เช่นพวกเขาที่อาศัยว่าตนอายุมากทำตัวอาวุโสดูถูกผู้อื่นนั้นเทียบเทียมพระชายาไม่ได้เลย!หลังจากที่ซูชิงอู่อธิบายเรื่องนี้จบ นางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและแอบหลบออกมาทางประตูใหญ่นางกลัวว่าคนเหล่านั้นจะถามนางว่านางศึกษาเรียนรู้ทักษะทางการ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 923

    หมอหลวงซุนขมวดคิ้วเล็กน้อย“อย่าพูดไร้สาระ นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร? พระชายาไม่จำเป็นต้องโกหกพวกเราเลย โกหกพวกเราไปแล้วนางจะได้ประโยชน์อะไร?”คำพูดนี้ก็ถือว่ามีเหตุผลทุกคนต่างพูดไม่ออกทำได้แค่นั่งเงียบ ๆ แล้วพลิกหน้าอ่านต่อไปพลิกหน้ากระดาษตั้งแต่เช้าจรดค่ำ และอ่านจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้นตำราทั้งเล่มถูกอ่านจนจบอย่างรวดเร็ว ทุกคนในสำนักหมอหลวงไม่ได้นอนมาสองวันสองคืน และตอนนี้ทุกคนดูเหนื่อยและมีสีหน้าทรุดโทรมเมื่ออ่านหน้าจนถึงสุดท้าย แม้แต่หมอหลวงซุนก็ตกอยู่ในความเงียบเพราะเภสัชตำรับเล่มนี้บันทึกเฉพาะโรคและวัตถุดิบยาที่ธรรดาทั่วไปมาก ๆ บางส่วนเท่านั้นข้อแตกต่างเพียงหนึ่งเดียวคือผู้อาวุโสเช่นพวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบยาหลายประเภทและพัฒนาแนวคิดใหม่ ๆแม้จะไม่ไร้ประโยชน์ แต่ความคาดหวังกับผลลัพธ์ก็แตกต่างกันมากเลยทีเดียวถึงขั้นทำให้พวกเขาขาดความมั่นใจและอดไม่ได้ที่จะคิดว่านี่น่ะหรือคือเภสัชตำรับที่ตระกูลฟางเฝ้าหวงแหนมานานหลายปี?ดวงตาของหมอหลวงซุนเต็มไปด้วยสีแดงก่ำที่เกิดจากการอดนอน“ในเมื่อเภสัชตำรับของตระกูลฟางไร้ประโยชน์ เช่นนั้นพระชายาไปเรียนรู้ทักษะด้านการแพทย์มา

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 922

    “นี่คือวัตถุดิบยาและปริมาณที่คนผู้นั้นทำการวางยา ที่สำนักหมอหลวงของพวกท่านมีสิ่งนี้อยู่แล้ว หากจะทำยาถอนพิษก็คงไม่ใช่เรื่องยากกระมัง”“ไม่ยากพ่ะย่ะค่ะ ไม่ยาก!”หมอหลวงซุนยิ้มร่าราวกับได้รับสมบัติเขามองซูชิงอู่ที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว แต่กลับเก่งกาจกว่าเหล่าคนชราเช่นพวกเขาเมื่อรวมกับเภสัชตำรับของตระกูลฟางที่ซูชิงอู่พูดถึง หมอหลวงเฒ่าก็ดีใจจนเนื้อเต้นหากได้เรียนรู้และกลายเป็นคนที่เก่งกาจเหมือนพระชายา ระดับความรู้ของเขาก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วยหรือไม่?แต่หมอหลวงซุนไม่เคยรู้เลยว่าทุกสิ่งที่ซูชิงอู่เรียนรู้ไม่ได้มาจากเภสัชตำรับของตระกูลฟางในเภสัชตำรับเล่มนั้นมีความแตกต่างตรงจุดไหน ตัวซูชิงอู่ในตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำแม้ตอนตายไปในชาติก่อน เภสัชตำรับก็ถูกทำลายและไม่มีใครเห็นความลับที่ซ่อนอยู่ในนั้นจุดเด่นเพียงหนึ่งเดียวของเภสัชตำรับเล่มนั้นคือบันทึกข้อมูลวัตถุดิบยาจำนวนมากที่คนทั่วไปไม่ทราบและสรรพคุณลับบางส่วนบรรดาผู้อาวุโสของสำนักหมอหลวงพากันมาช่วยคิดค้นยาถอนพิษเพื่อที่จะได้อ่านเภสัชตำรับนั้นเร็ว ๆในที่สุดเช้าวันรุ่งขึ้นยาที่สามารถฟื้นฟูสติของสัตว์ร้ายได้ก็ถูกส่งมาให้ฮ่องเต้

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status