공유

บทที่ 36

작가: กระต่ายน้อยใต้ดวงจันทร์
ทันใดนั้น ก็มีกลิ่นหอมโชยมา จู่ ๆ ท้องเซี่ยซางก็ร้องดังจ๊อก ๆ สีหน้าเขาก็ดูเคอะเขินขึ้นมา

เจียงเฟิ่งหัวขมวดคิ้ว แววตาใส ๆ อันงดงามเหลือบมองที่ท้องของเขา “ท่านอ๋องยังไม่ได้เสวยหรือเพคะ?”

เซี่ยซางหิวมาก และนึกถึงที่หลินเฟิงบอกว่าเจียงเฟิ่งหัวทำอาหารอร่อยอีกด้วย เขานึกถึงว่าคราวก่อนเขาได้กินอาหารที่เรือนของนางครั้งหนึ่งและยังกินไม่อิ่ม คิดถึงอยู่ไม่น้อย

นางรุกก่อน รอยยิ้มอันแสนหวานปรากฏที่แก้ม “ท่านอ๋องเชิญหม่อมฉันดื่มชาแล้ว หม่อมฉันก็เชิญท่านอ๋องเสวยพระกระยาหารดีไหมเพคะ? ท่านอ๋องไม่ต้องเขินหรอกเพคะ ถึงอย่างไร…”

นางหยุดพูดในทันใด

เซี่ยซางก็ไม่ได้พูดเปิดเผยเจตนาของนาง รู้อยู่แล้วว่านางเตรียมอาหารไว้ตั้งนานแล้ว “ข้าคงต้องรับคำเชิญอย่างไม่เกรงใจแล้ว”

ข้าเองก็อยากดูซิว่าเจ้ายังจะใช้อุบายอะไรอีก

ในช่วงหลายวันนั้นที่เขาพักอยู่ที่ที่ทำการ นางก็เห็นใจว่าเขาไม่ได้กินอาหารดี ๆ ที่นั่น จึงให้พ่อบ้านเฉิงส่งอาหารเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปให้เขาบ่อย ๆ

ที่ทำการก็ไม่มีอะไรอร่อย ๆ ให้กินจริง ๆ เขาจึงกินดูเล่น ๆ นิดหน่อย ได้ชิมแล้วจึงเพิ่งรู้สึกว่าอร่อยมาก เขาเหมือนจะดื่มด่ำกับความรู้สึกอย่างนี้มาก

เขากล่าว
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터

관련 챕터

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 37

    นางชี้ไปที่โต๊ะ ตาจ้องที่เจียงเฟิ่งหัว “นี่ก็คือไม่ได้ทำอะไรอย่างนั้นหรือ? ใครอธิบายให้ข้าฟังหน่อยซิ”“ข้า…” เจียงเฟิ่งหัวอยากจะพูดแต่ก็หยุดไว้ สวามีของตัวเองกินข้าวมื้อหนึ่งที่เรือนของนางกลับถูกต่อว่าเช่นนี้ ความเสียใจที่มีอยู่เต็มอกไม่มีทางจะบอกเล่าได้ นางกล่าวเบา ๆ ว่า “ก็ถือเสียว่าเป็นความผิดของข้าเถอะ”“ดูสิ ในที่สุดท่านก็ยอมรับแล้ว ข้ารู้อยู่แล้วว่าไม่มีทางหรอกที่ท่านจะไม่ชอบอาซาง ยังเสแสร้งทำเป็นเสียอกเสียใจต่อหน้าเขา ทำเหมือนว่ามีคนรังแกท่าน…”จู่ ๆ เซี่ยซางก็นึกถึงภาพตอนที่องค์ชายรองดูถูกเหยียดหยามเขา เย้ยหยันว่าเขาชอบสาวน้อยขาดการอบรมที่พูดจาไร้มารยาทหวานหว่านเรียนมารยาทมาครึ่งเดือน กลับไม่มีการพัฒนาเลยสักนิด เขาขึ้นเสียงดุทีหนึ่ง “เจ้าโวยวายพอแล้วหรือยัง?”“ท่านตะโกนใส่ข้า…” นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพูดเสียงดังใส่ซูถิงหว่าน นางได้แต่รู้สึกน้อยใจอยู่เต็มอก เมื่อนึกถึงว่าพวกเขาอยู่ด้วยกันตามลำพัง เจียงเฟิ่งหัวงดงามถึงเพียงนี้ และยังจงใจยั่วยวนอีกด้วย นางโมโหจนควบคุมไม่อยู่ “ท่านไม่เห็นหรือว่านางเสแสร้งมาตลอด? นางยั่วยวนท่าน…”“ออกไป” เซี่ยซางกำหมัดแน่น แววตาเย็นยะเยือกเข้า

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 38

    เขาก้าวขึ้นมาข้างหน้าหนึ่งก้าว เข้ามากอดนางไว้จากด้านข้าง เจียงเฟิ่งหัวขัดขืน เบือนหน้าหนี ไม่อยากเข้าใกล้เขา ยิ่งนางขัดขืนเขายิ่งกอดแน่น ชุดขาวทั้งตัวของเขาเปื้อนคราบสกปรกบนตัวนาง ทำให้ทั้งสองเลอะเทอะเปรอะเปื้อนเกินทนหงซิ่วกับเหลียนเย่และคนอื่น ๆ เฝ้าอยู่นอกประตู ตัวสั่นงันงก เห็นว่าพระชายาได้รับความไม่เป็นธรรมขนาดนี้ พวกนางไม่กล้าพูดปกป้องสักแอะ แววตาเต็มไปด้วยความสงสารเซี่ยซางกอดเจียงเฟิ่งหัวไว้ หันไปทางบรรดาสาวใช้ พูดเสียงเข้มว่า “นิ่งทำอะไรกันอยู่ ยังไม่รีบมาเก็บกวาดให้เรียบร้อยอีก ไปหาเสื้อผ้าสะอาด ๆ มาให้พระชายาของพวกเจ้าสิ”ทุกคนแยกย้ายกันเหมือนฝูงนกฝูงสัตว์แตกรัง ไม่กล้าชักช้าแม้แต่วินาทีเดียวพูดจบเขาก็อุ้มเจียงเฟิ่งหัวเข้าห้องนอนที่อยู่ในห้องด้านข้าง เดิมทีหอหล่านเยว่ก็คือที่อยู่ของเซี่ยซาง เขาย่อมรู้ตำแหน่งการจัดวางต่าง ๆ ในนี้เป็นอย่างดี ในห้องด้านข้างมีน้ำร้อนอยู่ตลอด มีแม้กระทั่งห้องน้ำเขาวางนางไว้บนม้านั่งด้านข้าง นำน้ำมาวางด้วยตัวเอง และลองดูความร้อนเย็นของน้ำ ท่าทางอ่อนโยนเป็นอย่างยิ่งก็ได้เห็นว่าเจียงเฟิ่งหัวร้องไห้จนตาบวมแล้ว ใบหน้าก็แดงก่ำ นางจับกระโปรงตั

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 39

    ขาเรียวยาวอันงดงามกระจ่างใสเปล่งประกาย ขาวเนียนละเอียด นางขัดถูร่างกายตัวเองอย่างแช่มช้อย ผิวของนางขาวยิ่งกว่าหิมะ ดูราวกับเครื่องเคลือบ ไม่ว่าเซี่ยซางได้เห็นวันใดก็ต้องถูกนางดึงดูดอันที่จริงเมื่อครู่อีกแค่ก้าวเดียวนางก็จะได้ตัวเขาไว้ แต่ได้ตัวแล้วสามารถทำอะไรได้เล่า เขาก็เพียงแค่ลุ่มหลงในรูปโฉมโนมพรรณ ไม่ได้ร่วมอภิรมย์กับนางเพราะรักนาง เช่นนี้แล้วจะยั่งยืนได้อย่างไรกันหากนางมีอะไรกับเขา ก็เพียงแต่ทำให้เซี่ยซางรู้สึกว่าเขาได้ทำหน้าที่ของสามีเต็มที่แล้ว มิหนำซ้ำยังเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดต่อซูถิงหว่านซูถิงหว่านก็ไม่ได้โง่ รู้ว่านางกำลังให้ท่าเขา หากคืนนี้ยั่วยวนสำเร็จจริง ๆ ไม่ใช่ยิ่งทำให้เซี่ยซางสงสัยในตัวนางหรอกหรือผู้ชายก็เหมือนกันทั้งเพ ยิ่งอยากได้แต่ไม่ได้มาเขาก็ยิ่งอยากได้ หากอยากได้ แล้วให้เขาได้ไปอย่างง่ายดาย เขากลับไม่เห็นคุณค่าเซี่ยซางกลับไปแล้วชะรอยจะนอนไม่หลับ เขาชอบนางหรือไม่ เกรงว่าตัวเขาเองก็สับสน ยิ่งสับสนยิ่งดี ผู้ครองบัลลังก์จะมีผู้หญิงเพียงคนเดียวในชีวิตได้อย่างไร เพียงแต่ว่านางอยากเป็นผู้หญิงที่สำคัญที่สุดของเขาตอนนี้ยังมีเรื่องสำคัญอีกเรื่องต้องจัดการ คดี

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 40

    ในฝัน เขากลับไปตอนอายุสิบห้าปีอีกครั้ง เสด็จพ่อตำหนิเขาว่า “ไม่รู้จักลำดับความสำคัญก่อนหลัง”เขาหลบอยู่หลังภูเขาจำลองในสวนบุปผชาติของวังหลวง ร้องไห้ด้วยความเสียใจเป็นอย่างมาก ทันใดนั้นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่คลุมผ้าบังหน้าก็เดินมาที่หน้าเขา “กิ๊ว ๆ ๆ โตขนาดนี้แล้วยังร้องไห้แง ๆ เจ้าไม่อายหรือไง”เซี่ยซางเงยหน้าขึ้น เด็กผู้หญิงมีดวงตาอันงดงาม ดำสนิทเปล่งประกาย เขามองเห็นสภาพน่าเวทนาของตัวเองในลูกตาของนางเขาพูดกับนางด้วยความโกรธขึ้ง “เจ้าเป็นใคร วิ่งเข้ามาวังได้อย่างไรกัน”“ข้ามาพร้อมท่านพ่อท่านแม่ของข้าไง แคว้นต้าโจวของเราได้รับชัยชนะในสงคราม ฝ่าบาทจึงทรงจัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลองชัยชนะ” น้ำเสียงของเด็กผู้หญิงไพเราะเสนาะหูเหมือนเสียงกระดิ่งเมื่อได้ยินว่าชนะสงครามเขาก็ยิ่งโมโห เห็นชัด ๆ อยู่ว่าเป็นความดีความชอบของเขา เสด็จพ่อกลับด่าว่าเขาไม่รู้จักลำดับความสำคัญก่อนหลัง เขากระชากผ้าคลุมหน้าของนางออก ก็เห็นเพียงว่านางฟันหลอ ไม่มีฟันหน้าด้านบน น่าเกลียดถึงขีดสุด ทันใดนั้นเขาก็หัวเราะ “ยัยอัปลักษณ์” เด็กผู้หญิงถลึงตา ‘เพียะ’ ตบหน้าเขาหนึ่งฉาด “เจ้าคือไอ้ขี้แย”นิ้วมือนางเปื้อนน้ำตาของเข

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 41

    ขายาวๆ ของเซี่ยซางก้าวออกไปข้างนอก คิดถึงว่าวันนี้ไม่ได้สนใจนางตลอดช่วงบ่าย นางจะต้องรู้สึกแย่มากเป็นแน่ครั้นมาถึงเรือนถานเซียง เซี่ยซางผลักประตูเข้าไปก็เห็นว่าซูถิงหว่านเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน เขี้ยวเล็บของนางราวกับถูกคนลับจนสูญคม นั่งตั้งใจคัดอักษรอยู่ที่โต๊ะหนังสืออย่างเรียบๆ ร้อยๆ บนโต๊ะเต็มไปด้วยกระดาษที่คัดอักษรเสร็จแล้ว ตัวอักษรไม่นับว่าบรรจง กระทั่งยังหวัดอยู่บ้าง ขนาดตัวอักษรก็ใหญ่เล็กไม่เสมอกันลายมือเจียงเฟิ่งหัวพลันปรากฏขึ้นในความคิดของเขา มุมปากเขาโค้งขึ้นน้อยๆซูถิงหว่านคัดอักษรต่อไปโดยแสร้งเป็นมองไม่เห็นเขา เซี่ยซางอ่านความคิดของนางออกจึงทำทีจะเดินจากไป ซูถิงหว่านรีบร้อนลุกขึ้นแล้วเอ่ยเสียงอ่อนหวาน “ท่านอ๋อง ช้าก่อนเพคะ”เซี่ยซางหยุดชะงักซูถิงหว่านวางพู่กันลงแล้วลุกขึ้นเดินมาแสดงคารวะตรงหน้าเขาอย่างนอบน้อม “หม่อมฉันคารวะท่านอ๋อง ท่านอ๋องอย่ากริ้วหม่อมฉันนะเพคะ หม่อมฉันสำนึกผิดแล้ว ไม่ควรไปก่อความวุ่นวายที่เรือนของพระชายา”เซี่ยซางเหมือนจะฟังผิดไป เห็นนางแต่งกายอย่างพิถีพิถัน ทั้งยังลดท่าทีลงยอมรับว่าตนเองผิดไปแล้ว เขากล่าว “ได้ยินสาวใช้บอกว่าเจ้าไม่ได้กินข้าวมา

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 42

    ภายในหอหล่านเยว่เจียงเฟิ่งหัวจัดการงานในมือเสร็จก็ส่งสมุดบัญชีให้หงซิ่วพร้อมทั้งกำชับว่า “บอกผู้ดูแลหลินว่านางทำได้ดีมาก เดือนหน้าก็พยายามต่อไป เงินรางวัลที่ควรให้ก็ต้องให้ตามที่สมควรได้รับ บอกนางว่าอย่าตระหนี่เกินไป ทุกคนล้วนทำงานหนัก” หลินอวี่เป็นคนขี้เหนียว“ผู้ดูแลหลินใจกว้างมากแล้วเพคะ พระชายาต่างหากที่จ่ายหนักเกินไป” หงซิ่วพูดจบก็กอดสมุดบัญชีวิ่งออกไปทันทีเจียงเฟิ่งหัวบิดเอวอย่างเกียจคร้าน จากนั้นก็เริ่มยืดเหยียดร่างกาย นางรู้ว่าเป็นสตรีนั้นลำบากนัก ขณะเดียวกันก็ตระหนักถึงความสำคัญของการหาเงิน ดังนั้นสิบปีนี้นางจึงหาเงินเข้ากระเป๋าตนเองไม่น้อย ทั้งยังมีคลังสมบัติน้อยๆ ของตนเองเหลียนเย่รู้มาว่าเซี่ยซางกับพระชายารองซูกำลังเดินเล่นอยู่ในสวนก็เดินเข้ามาอย่างโมโหฟึดฟัด “ชกต่อยเป็นเก่งกาจนักหรือไร ก็แค่ทักษะพื้นๆ ที่หาประโยชน์ไม่ได้เหมือนงานปักลายผ้านั่นแหละ”เจียงเฟิ่งหัวรู้ว่าเหลียนเย่มีนิสัยเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา จะต้องเป็นเพราะซูถิงหว่านกับเซี่ยซางทำอะไรอีกแล้วเป็นแน่“พระชายา พวกเราไปฝึกในสวนกันเถอะเพคะ”“ดึกดื่นป่านนี้ เอาตัวไปป้อนยุงในสวนอย่างนั้นรึ?” เจียงเฟิ่งหัวกลัวยุง

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 43

    “เจ้าทำอะไรน่ะ?” ซูถิงหว่านตวาดอย่างโมโหสุดระงับ“พระชายารองซูโปรดรอก่อนเพคะ บ่าวปรนนิบัติพระชายาสวมอาภรณ์เสร็จแล้วค่อยเชิญท่านเข้าไปคารวะทักทาย” เหลียนเย่กล่าวเสียงเบา“ในเมื่อพระชายายังแต่งกายไม่เรียบร้อย เจ้าผลักท่านอ๋องเข้าไปทำไม”“พวกเขาเป็นสามีภรรยา พบกันทั้งที่ยังแต่งกายไม่เรียบร้อยก็หาเป็นไรไม่”“หน้าไม่อาย” ซูถิงหว่านโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง ร้องเข้าไปข้างในว่า “อาซาง” หากไร้เสียงตอบรับของเซี่ยซางขณะเดียวกัน เจียงเฟิ่งหัวกำลังฝึกฝนร่างกายด้วยท่ามาตรฐานอย่างเงียบๆ เห็นเซี่ยซางบุกเข้ามากะทันหัน ความตกใจวาบผ่านแววตานาง ทว่าขาสองข้างของนางฉีกออกเป็นเส้นตรง ปลายเท้าตั้งฉากกับพื้น ขาทั้งสองเหยียดออกเป็นเส้นตรง กำลังก้มเงยบริหารแผ่นหลังอย่างมั่นคงอยู่ เพิ่งฝึกได้ไม่นาน นางจะเก็บท่าก็ไม่ทันเสียแล้วทันใดนั้น เห็นคิ้วนางขมวดเข้าหากันเหมือนทรมานมากเซี่ยซางรีบเดินเข้าไปหา “เจ้าเป็นอะไรไป?”เจียงเฟิ่งหัวสูดหายใจเข้าแรงๆ หนึ่งทีจึงสามารถตอบกลับได้ “ท่านอ๋อง ขาหม่อมฉันเป็นตะคริวเพคะ”เซี่ยซางรู้ว่าเป็นตะคริวทรมานมาก การเป็นตะคริวระหว่างฝึกฝนวรยุทธ์เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้บ่อยๆ ถึงจะเ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 44

    ในที่สุดซูถิงหว่านก็ดึงเหลียนเย่ให้พ้นทางแล้วผลักประตูเข้ามาข้างใน จากนั้นก็เห็นท่าทางใกล้ชิดสนิทสนมของคนทั้งสอง เจียงเฟิ่งหัวอาภรณ์หลุดลุ่ย เซี่ยซางจุมพิตริมฝีปากนางจากข้างบน ซูถิงหว่านพลันกรีดร้องเสียงแหลม “กรี๊ด! พวกท่าน...”ทั้งคู่ได้สติคืนมาพร้อมกัน ริมฝีปากของเซี่ยซางผละจากนางในเวลานั้นเอง เซี่ยซางก้มหน้าพิศก็เห็นใบหน้างามปานจะหยดย้อยของนาง ท่าทางกอดนางยิ่งชวนวาบหวามอย่างบอกไม่ถูกเนื่องจากแผ่นหลังนางทับแขนเขาอยู่ เขากับนางจึงผละจากกันไม่ได้น้ำตาเม็ดโตของซูถิงหว่านร่วงเผาะเม็ดแล้วเม็ดเล่า เห็นภาพบาดตาเช่นนี้ก็ยิ่งเดือดดาลสุดขีด ท่าทางเช่นนี้หรือว่าอาซางจะเป็นฝ่ายรุก?เดิมนั้นนางอยากบุกเข้าไปตบหน้าพวกเขาแรงๆ สักหลายที แต่ครั้นคิดถึงคำชี้แนะของอวิ๋นฟางกูกู นางจึงพยายามข่มความโกรธเกรี้ยวหันหลังวิ่งออกไปเหลียนเย่เห็นอย่างนั้นก็ปิดปาก ดวงตาเต็มไปด้วยความได้ใจ ช่างสะใจนัก! ทำให้พระชายารองซูโมโหจนตายไปเลยถึงจะดี!นางกล้าเหลือบมองเพียงแวบเดียวเท่านั้น จากนั้นก็รีบดึงประตูปิดแล้วลงกลอนเสียเลย คืนนี้ก็คล้อยตามสถานการณ์ทำให้ข้าวสารกลายเป็นข้าวสุกไปเสียเถอะ!คุณหนูฝึกฝนท่ามาตรฐานทุก

최신 챕터

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 372  

    เจียงเฟิ่งหัวออกจากตำหนักคุนหนิงก็ตรงไปยังตำหนักเฉินซีทันที ในตอนนั้น เห็นนางกำนัลคนหนึ่งท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆ ก็โพล่งเสียงตำหนิออกไป “ใคร” อ้าวเสวี่ยตั้งรับทันที ไม่รอให้นางเดินเข้าไปใกล้ อวิ๋นฟางก็เดินงก ๆ เงิ่น ๆ มาหยุดเบื้องหน้าเจียงเฟิ่งหัว “บ่าวคารวะเพคะพระชายา” เจียงเฟิ่งหัวเห็นนางชัดถนัดตาแล้วก็แอบคิดเงียบ ๆ ในใจ นางมีฝีมือไม่เบาเลยทีเดียว แอบลอบกลับวังมาได้ ทว่าด้วยสถานการณ์ของนางตอนนี้ ซูถิงหว่านไม่มีทางปล่อยนางไปแน่ นางจนตรอกไม่มีทางถอยแล้ว จำต้องวิ่งเข้ามาหลบในวังถึงจะไม่ถูกคนไล่ล่า อ้าวเสวี่ยและเหลียนเย่เองก็ชะงักงันไปแล้วเช่นกัน อวิ๋นฟางช่างกล้าหาญยิ่งนัก กล้ากลับเข้ามาในวังหลวงอีก พวกนางคิดว่าหลังจากอวิ๋นฟางหนีไปทางประตูหลังของเขตเมืองหลวงแล้ว นางจะหนีออกไปจากเมืองเซิ่งจิง อย่างน้อยก็ต้องหนีให้ห่างไกลจากเรื่องวุ่นวาย ปกป้องชีวิตไว้เป็นสำคัญ “เข้ามาเถิด!” เจียงเฟิ่งหัวกล่าว อวิ๋นฟางตามเข้าไปในตำหนักเฉินซี นางกำนัลได้ต้มน้ำร้อนเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว ภายในห้องอบอุ่นเป็นอย่างยิ่ง ภายใต้แสงตะเกียงสว่างรุบรู่ อวิ๋นฟางก็เริ่มขะมักเขม้นทำงานสารพัดทั้งยกน้ำเทน้ำ นางยังกระตือ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 371  

    เฉิงฮองเฮาเปิดเปลือกตา ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบว่า “มาแล้ว จัดการเรื่องข้างนอกวังเรียบร้อยดีแล้วหรือยัง? ออกจากวังไปครึ่งเดือนแล้วมิใช่หรือ!” เจียงเฟิ่งหัวท่าทางมิได้หยิ่งยโสเกินควรแต่ก็มิได้ถ่อมตัวจนเกินเหตุ “ทูลเสด็จแม่ จัดการเหมาะสมเรียบร้อยดีแล้วเพคะ” “ข้าได้ยินว่าเมื่อสิบวันก่อนสินค้าและวัตถุดิบถูกส่งไปหมดแล้ว” แม่สามีของนางก็ดูจะวางมาดขึ้นเช่นกัน ราวกับต้องการให้นางยอมเชื่อฟังคำสั่งสอน เหมือนกับเมื่อชาติก่อนไม่มีผิด “เพคะ เพียงแต่ของที่ส่งออกไปเมื่อสิบวันก่อนเป็นแค่ชุดแรกเพคะ เพราะมีจำนวนมากเกินไป ชุดต่อไปจะต้องทยอยลำเลียงออกไปเพคะ” เจียงเฟิ่งหัวกล่าวอย่างละเอียด มองแล้วอ่อนโยนนอบน้อม สงบเสงี่ยมเรียบร้อยมารยาทเพียบพร้อมไร้ที่ติ แม้แต่เฉิงฮองเฮายังมิอาจหาจุดใส่ไฟได้เลย “ลุกขึ้นมานั่งเถิด” น้ำเสียงของเฉิงฮองเฮาฟังดูดีขึ้นเล็กน้อย “ซางเอ๋อร์มีสกุลซูคอยจุนเจือ บัดนี้เด็กในครรภ์ของเจ้าสำคัญเหนือสิ่งใด อย่ามัวเพ่นพ่านด้านนอกมากนัก อย่าไปข้องเกี่ยวกับสตรีในหมู่ขุนนางราชสำนักมากเกินไป ที่สำคัญจงอย่าได้มัวละโมบใฝ่หาความดีความชอบจนลำดับความสำคัญผิดไป” เจียงเฟิ่งหัวคิดในใจ ตอนอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 370

    “เพคะ สะใภ้รับบัญชา”จากนั้น เจียงเฟิ่งหัวก็วางหมากลงไปตัวหนึ่ง “เสด็จพ่อ ทรงแพ้แล้วเพคะ”ฮ่องเต้เหลือบมองกระดานหมากคราหนึ่ง เริ่มจากความตกตะลึง ตามด้วยสีหน้ามืดครึ้มที่มองไม่ออก จากนั้นก็ทรงหัวเราะออกมาว่า “ดูเหมือนเราไม่อาจไม่ตกรางวัลนี้แล้ว มาเล่นอีกตา หากเจ้าชนะเราอีก เราก็จะมอบรางวัลให้อีกครั้ง”เจียงเฟิ่งหัวเก็บหมากบนกระดานขึ้นมาอย่างเยือกเย็น ไร้ความลนลาน “ลูกก็ชนะมาได้อย่างหวุดหวิดเพคะ ต้องเป็นเพราะเมื่อครู่เสด็จพ่อทรงฟังลูกพูดเพลิน จึงได้ออมมือให้ลูกแน่เลยเพคะ”“เจ้าคงไม่รู้สินะ หลายวันมานี้เรามีราชโองการเรียกตัวบิดาของเจ้าเข้าวังมาเดินหมากเป็นเพื่อนเราทุกวัน เขากลับไม่เคยชนะเราเลยสักตา ช่างน่าเบื่อนัก แต่เขาบอกว่าบุตรสาวของเขาเป็นยอดฝีมือในการเดินหมาก เรายังคิดว่าเขาพูดเกินจริงเสียอีก แต่วันนี้ หลังได้เดินหมากไปกระดานหนึ่งเราก็เชื่อแล้ว”“ท่านพ่อก็เหมือนยายหวังขายแตง ที่ชอบขายเองชมเองเพคะ ต่อให้บุตรสาวของท่านจะทำสิ่งใดไม่เป็นเลย ท่านก็รู้สึกว่าดีอยู่ดีเพคะ”“ยังถ่อมตัวเข้าเสียแล้ว เมื่อมาเป็นลูกสะใภ้ของราชวงศ์เรา แค่การถ่อมตนอย่างเดียวไม่พอหรอกนะ ในอนาคตยังต้องช่วยซางเอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 369

    เมื่อเจียงเฟิ่งหัวกลับวังก็ถูกฮ่องเต้เรียนตัวไปที่ห้องทรงอักษร หลังนางรายงานเรื่องภารกิจที่ฮ่องเต้มอบหมายให้นาง ก็วางแผนจะกลับตำหนักคุนหนิงไปคารวะฮองเฮาแต่จู่ๆ ฮ่องเต้ก็ตรัสขึ้นมาว่า “ได้ยินว่าพระชายาของเหิงอ๋องชำนาญการวางหมาก เราอยากหาคนมาเล่นด้วยสักตาพอดี ว่าอย่างไร จะอยู่เล่นเป็นเพื่อนเราสักตาหรือไม่”เจียงเฟิ่งหัวคารวะลงรอบหนึ่งด้วยมารยาที่พอเหมาะ ไม่ถ่อมตัวไม่เย่อหยิ่ง แล้วกล่าวอย่างเคารพว่า “เคารพมิสู้เชื่อฟัง สะใภ้ย่อมทำตามพระบัญชาของเสด็จพ่อเพคะ แต่หากเสด็จพ่อทรงเป็นฝ่ายปราชัย ลูกจะขอรางวัลจากเสด็จพ่อสักอย่างได้ไหมเพคะ”ฮ่องเต้ตรัสว่า “อยากได้อะไรก็พูดมาได้เลย หากเจ้าเอาชนะข้าได้ ก็ถือเป็นรางวัลที่เจ้ามีผลงานใดการทำคดี แต่หากพ่ายแพ้ รางวัลก็จะไม่มีแล้วนะ”เจียงเฟิ่งหัวแอบคิดว่า “ฮ่องเต้ยังคงเป็นพวกที่ไม่ยอมเสียเปรียบ ถึงกับเอารางวัลของนางมาใช้เดิมพันหมาก หากนางชนะหมากควรนับเป็นรางวัลพิเศษไม่ใช่หรือ!”“เพคะ” นางตอบอย่างว่าง่ายเพราะในท้องของเจียงเฟิ่งหัวมีเด็กอยู่ เพื่อดูแลเด็กในท้องของนาง จึงให้หัวหน้าขันทีเฉายกโต๊ะที่สูงขึ้นเล็กน้อยเข้ามาตัวหนึ่งมาใช้แก้ขัด และยังเตรียม

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 368

    คนทั้งสองเท้าสะเอวหัวเราะขึ้นมา “คนที่คิดจะช่วยคุณหนูหลินของเราไถ่ตัวมีเต็มไปหมด ท่านต่อแถวไม่ทันหรอก อีกอย่าง ท่านก็ไม่มีคุณสมบัตินั้นด้วย อย่าได้เพ้อฝันอีกเลย” คุณหนูหลินไม่ขาดแคลนเงินทอง ทั่วทั้งหออี๋ชุนล้วนอยู่ใต้การตัดสินใจของนาง ไม่จำเป็นต้องไถ่ตัวเพราะนางไม่มีสัญญาขายตัว“ข้าจะต้องแต่งนางเป็นภรรยาให้ได้ พวกเจ้ารอก่อนเถอะ” กัวเซี่ยวตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าจะแต่งกับหลินอวี่ให้ได้ในบรรดาเหล่าคุณชายตระกูลใหญ่ กัวเซี่ยวก็พอมีชื่อเสียงอยู่บ้าง เขาหน้าตาไม่เลว ชาติตระกูลก็ไม่เลว เขาจึงคิดว่าหลินอวี่ไม่มีทางปฏิเสธแน่ได้ยินเขาพูดเช่นนั้น จื่อฮุ่ยจึงเอ่ยบ้างว่า “หากคิดจะแต่งกับคุณหนูของข้า นอกเสียจากว่าท่านจะเป็นจอหงวน นั่นอาจพอมีโอกาสบ้าง ไม่เช่นนั้นก็อย่าได้เสียเวลาอีกเลย”กัวเซี่ยวตะลึงงันไปแล้ว ที่เขาไม่ชอบที่สุดก็คือการอ่านตำรานี่แหละเห็นเขายังคงไม่ยอมจากไปอีก พวกนางก็ไม่อยากเปลืองน้ำลายกับเขาแล้ว จึงตีกัวเซี่ยวจนสลบแล้วโยนเขาออกไปนอกหออี๋ชุนเสียเลย “ช่างน่ารำคาญเหลือเกิน คนที่อยากแต่งงานกับคุณหนูของข้าตอนนี้ต่อแถวไปถึงนอกประตูเมืองนู่นแล้ว ค่อยๆ ไปต่อแถวเถอะ” พวกนางย่อมไม่เห็น

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 367

    “แม่นางหลิน เจ้าดื่มช้าๆ หน่อย” กัวเซี่ยวไม่เหลือท่าทางเสเพลไร้ความสำรวมในอดีตอีก เขาเอ่ยห้ามปรามว่า “แม่นางหลิน เจ้าอารมณ์ไม่ดีหรือ!”“ผู้ใดบอกว่าข้าอารมณ์ไม่ดีกัน” หลินอวี่กล่าวต่อว่า “สุรานี้เจ้าเป็นคนออกเงินซื้อ ท่านจะดื่มไม่ดื่ม?” กัวเซี่ยวรีบเทเหล้าออกมาอีกจอกแล้วดื่มลงไปจนหมดในอึกเดียว “ข้าดื่ม” ไม่ง่ายเลยกว่าเขาจะได้ดื่มสุรากับนาง แน่นอนว่าต้องคว้าโอกาสนี้ไว้ให้มั่นสุราผ่านไปสามรอบ กัวเซี่ยวก็ดื่มจนหน้าแดงก่ำแล้ว แม้แต่นั่งก็นั่งไม่มั่น “ดื่มอีก ข้ายังดื่มได้…ดื่ม…แม่นาง…แม่นางหลิน เจ้าช่างงามนัก”สีหน้าของหลินอวี่ยิ่งเปล่งปลั่งแดงระเรื่อ จู่ๆ นิ้วเรียวงามทั้งสิบของนางก็สัมผัสลงบนแก้มของเขา คนที่อยู่เบื้องหน้าราวกับได้กลายเป็นผู้ที่อยู่ในใจนางไปแล้ว นางพึมพำว่า “คุณชายน้อย ดื่มสุราสิ”กัวเซี่ยวถูกอารมณ์รักทำให้เลอะเลือนไปแล้ว เขาคว้ามือนางไว้แล้วดึงนางเข้าสู่อ้อมกอด “แม่นางหลิน ข้าชอบเจ้า”หลินอวี่หัวเราะอย่างหยาดเยิ้ม ตั้งแต่เด็กนางก็เรียนรู้ทักษะการล่อลวงบุรุษพวกนั้นกับเจียงเฟิ่งหัว ยามนี้นำมาใช้กับกัวเซี่ยวก็เกินจะพอ อาศัยเพียงยิ้มเดียวของนางก็ทำให้กัวเซี่ยวมัวเมาลุ่มห

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 366

    ไม่รอให้ชายฉกรรจ์ตอบสนอง หลินอวี่ก็เอ่ยเสียงหนักว่า “นำสุรามา คืนนี้พี่ชายจะออกเงินครั้งละร้อยตำลึงได้มากเท่าใด ข้าก็จะดื่มเป็นเพื่อนท่านมากเท่านั้น ว่าอย่างไร?”ม่านตาของชายฉกรรจ์หดแคบลง สุราเช่นนี้พวกเขาดื่มไม่ไหวดอก ทันใดนั้น คนทั้งสองก็ห่อเหี่ยวลงทันทีหลินอวี่ลุกขึ้นมา กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ข้าว่าสองท่านคงไม่ได้คิดมาดื่มสุราหาความสำราญ แต่เหมือนจะมาก่อเรื่องในหออี๋ชุนของข้ามากกว่า”“ผู้ใดบอกว่าไม่ได้มาดื่มสุรากัน” บุรุษหนึ่งในนั้นลุกขึ้นมา ชี้จมูกหลินอวี่ได้ก็ด่าออกมาทันทีว่า “หอสุราเน่าๆ อะไรของพวกเจ้ากัน เหล้าจอกละร้อยตำลึง ทำไมพวกเจ้าไม่ไปปล้นเสียเลยล่ะ”พูดจบเขาก็คิดจะเริ่มทำลายข้าวของ สุราอาหารกับจอกสุราถูกเขาพลิกโต๊ะจนล้มคว่ำหลินอวี่ทนไม่ไหวอีกต่อไป แต่ไม่ทันที่นางจะลงมือ ในเวลานั้นเอง ที่หน้าประตูก็มีบุรุษผู้หนึ่งบุกเข้ามาปกป้องอยู่เบื้องหน้าของนางอย่างสง่างามน่าเกรงขาม “ข้ามาแล้ว เป็นไอ้ลูกเต่าลูกตะพาบตัวไหนกล้ามาก่อเรื่องที่หออี๋ชุนกัน”“แม่นางหลินวางใจเถอะ มีข้าอยู่ไม่มีใครกล้ามาสร้างความวุ่นวายที่นี่แน่” ใบหน้ากัวเซี่ยวเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นหลินอวี่ถอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 365

    หิมะตกแล้ว หิมะที่ตกหนักและปลิวไสวดุจขนห่าน ทำให้เมืองหลวงอันเรืองรองประดุจปกคลุมไปด้วยอาภรณ์สีเงิน ทัศนียภาพที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะนี้ก็ดูงดงามมีเอกลักษณ์ไปอีกแบบไม่ว่าสงครามที่ชายแดนจะรบกันหนักหน่วงเพียงใด ล้วนไม่อาจส่งผลกระทบต่อเมืองหลวง ที่ยังคงคึกคักและรุ่งเรืองเช่นเดิมเจียงเฟิ่งหัวสวมเสื้อคลุมอันหรูหราที่มีหมวกคลุมศีรษะยืนอยู่ข้างหน้าต่างพลางทอดสายตาออกไปไกล ความคิดของนางล่องลอยออกไปไกลแสนไกล แววตาที่ลึกล้ำดุจบึงน้ำอันหนาวเหน็บสาดประกายเย็นเยียบออกมาคิดไม่ถึงว่าจะจัดการกับจีเฉินได้รวดเร็วเช่นนี้ ในชาติก่อน จีเฉินเป็นแรงหนุนคนสำคัญของซูถิงหว่าน พวกเขาคนหนึ่งอยู่ในวังคนหนึ่งอยู่นอกวัง ในนอกเสริมประสาน การกำจัดเขาทิ้งในเวลานี้จึงถือเป็นการกำจัดศัตรูคู่แค้นที่สำคัญไปได้คนหนึ่ง“เจ้าต้องกลับวังอีกแล้วสินะ! ข้าจะไม่ได้เห็นเจ้าอีกหลายเดือนอีกแล้วใช่หรือไม่ หวังจริงว่า ข้าจะอยู่เคียงข้างเจ้าตอนเจ้าคลอดลูกได้ คนอื่นล้วนบอกว่า การคลอดลูกเป็นด่านความเป็นตายของผู้หญิงที่เท้าข้างหนึ่งก้าวไปอยู่ในตำหนักมัจจุราช” หลินอวี่ยืนอยู่ข้างนาย มองตามสายตาของนางไปยังควันที่ลอยอ้อยอิ่งอยู่ไกลออกไป

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 364

    เนื่องจากสายสัมพันธ์กับซูฮองเฮา บัดนี้ อำนาจของซูไทเฮาจึงเหนือล้ำเฉิงฮองเฮาไปแล้วดังนั้น ฝูลู่จึงไม่กล้าล่วงเกินฮองเฮาเช่นกัน เพราะไม่ว่าอย่างไรยามอยู่ต่อหน้าฮ่องเต้ ตำแหน่งแห่งที่ของเขาก็ยังไม่มั่นคงนัก ขันทีผู้หนึ่งแบบเขาจะไปช่วยใครได้ เขาช่วยผู้ใดไม่ได้ทั้งนั้นยังคงยุ่งเรื่องผู้อื่นให้น้อยลงจะดีกว่า!“คืนนี้ ฝ่าบาทจะทรงพลิกป้ายของพระสนมท่านใดพ่ะย่ะค่ะ?”ฮ่องเต้กล่าวว่า “ไม่พลิกป้ายแล้ว ช่วงนี้ข้างานราชกิจรัดตัว ไม่ต้องจัดนางสนมมาปรนนิบัติแล้ว ตรงไปที่ห้องทรงอักษรเลยเถอะ!”“พ่ะย่ะค่ะ” ฝูลู่กล่าว นับตั้งแต่ฮ่องเต้กลายเป็นองค์รัชทายาท มีวันใดที่ทรงไม่ยุ่งบ้าง เหล่าพระสนมในวังล้วนได้ไทเฮาดูแลทั้งนั้น ก็น่าจะทรงไปทำความรู้จักบ้างเฮ้อ! สถานที่ที่ฮ่องเต้ไปมากที่สุดยังคงเป็นตำหนักคุนหนิงของฮองเฮา ดูท่าเสียนเฟยคงไม่มีโอกาสแล้ว ยังดีที่นางมีลูกสองคนจึงยังรักษาตำแหน่งเสียนเฟยไว้ได้เมื่อจีเฉินที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าเห็นฉากนี้ ในใจก็ยิ่งตื่นเต้น อย่างนั้นก็แปลว่าในอนาคตเจียงเฟิ่งหัวจะไม่ได้เป็นฮองเฮา และเซี่ยซางก็ไม่ได้ชอบนางด้วยแต่ไม่ถูกสิ!ลูกก็คลอดออกมาแล้ว เหตุใดพวกเขาสองคนจึงยังดู

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status