แชร์

บทที่ 218

ผู้เขียน: กระต่ายน้อยใต้ดวงจันทร์
ฮูหยินผู้เฒ่าซูก็รู้ว่าสถานการณ์ร้ายแรงเช่นกัน จึงรีบคุกเข่าลงเบื้องหน้าฮ่องเต้ “ขอฝ่าบาททรงลงพระอาญา ทว่าที่ชิงชิงเป็นเช่นนี้ก็เพราะถูกคนให้ร้าย ที่แท้คนร้ายที่อยู่เบื้องหลังการทำลายนางเป็นใคร ขอฝ่าบาทโปรดทรงตรวจสอบอย่างเข้มงวดด้วยเถิดเพคะ” แน่นอนว่าผู้ที่นางหมายถึงย่อมเป็นเฉิงฮองเฮา

ฮูหยินผู้เฒ่าซูยังคิดว่าฮ่องเต้จะเห็นแก่หน้าสกุลซู แล้วมอบความยุติธรรมให้กับซูชิงชิง

“ฮ่าๆๆ…” จู่ๆ ซูชิงชิงก็กระชากมวยผมของนางจนยุ่งเหยิง ดึงปิ่นระย้าเต็มศีรษะทิ้งแล้วหัวเราะเสียงดังออกมา “กรรมสนอง กรรมสนอง!”

ผ่านไปเพียงครู่เดียว ซูชิงชิงก็วิ่งชนไปมาอย่างบ้าคลั่ง ทั่วทั้งราชอุทยานถูกนางทำจนยุ่งเหยิงไปหมด

เฉิงฮองเฮาขึ้นเสียงว่า “ทหาร รีบหยุดซูเจี๋ยอวี๋ไว้เร็วเข้า” ซูชิงชิงคิดจะแสร้งเสียสติให้ผู้ใดดูกัน

นางเผด็จการเอาแต่ใจอยู่ในวังหลวงมาสิบกว่าปี เหล่าสนมนางในในวังได้รับความอัปยศจากนางทุกรูปแบบ ดังนั้นในเวลานี้ จึงไม่มีแม้แต่ผู้เดียวที่เห็นใจนาง ทุกคนล้วนชมละครอยู่ข้างๆ ด้วยสายตาเย็นชา

องค์หญิงเก้าเซี่ยหลิงเอ๋อร์ร้องไห้พลางพุ่งไปอยู่ข้างกายนาย “เสด็จแม่ ทรงเป็นอันใดไปเพคะ?”

ซูชิงชิงราวกับเปลือกอันกลว
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 219

    ในเวลานั้นเอง ซูถิงหว่านราวกับได้รับการกระทบกระเทือนทางจิตใจ นางชี้หน้าเจียงเฟิ่งหัวได้ก็ด่าออกมาทันทีว่า “เจียงเฟิ่งหัว เป็นเจ้า เป็นเจ้าที่ต้องการทำร้ายข้า ที่ใบหน้าของข้างกลายเป็นเช่นนี้จะต้องเป็นฝีมือของเจ้าแน่ ทุกวันนี้ข้าอุตส่าห์ไปเรียนเขียนอ่าน เรียนกฎเกณฑ์มารยาทกับเจ้าทุกวัน ข้าเคารพเจ้าเป็นพระชายาแล้วแต่ทำไมเจ้ายังไม่อาจยอมรับข้าอีก และถึงกับจะทำร้ายข้าด้วย”เจียงเฟิ่งหัวก็ไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นเช่นกัน บนใบหน้าเต็มไปด้วยความคาดไม่ถึง “ชายารองหมายความว่าอย่างไร ข้าจะไปทำร้ายเจ้าได้อย่างไร”“จะต้องเป็นเจ้าแน่ เจ้าชอบเสแสร้งแกล้งทำ ยามอยู่ต่อหน้าท่านอ๋องเจ้ามักแสร้งทำเป็นอ่อนโยน อ่อนแอ แต่แท้ที่จริงแล้วเจ้าไม่ได้เป็นแบบนั้น เจียงเฟิ่งหัว ข้าอุตส่าห์ยอมถอยทำตัวอ่อนน้อมถ่อมตนกับเจ้าแล้ว เหตุใดเจ้าถึงยังไม่ยอมละเว้นข้าอีก เหตุใดเจ้าต้องทำร้ายข้า ทำลายโฉมของข้า”เพื่อวันนี้ นางตั้งใจเตรียมตัวมาเป็นเวลานานมาก นางฝึกซ้อมการร่ายรำ ไม่ว่าจะเหน็ดเหนื่อยเพียงใดนางก็อดทนจนผ่านมาได้แล้ว นางทำสำเร็จแล้วชัดๆ เซี่ยซางถูกนางดึงดูดมาได้สำเร็จแล้ว คิดไม่ถึงว่าวิธีการของเจียงเฟิ่งหัวจะอำมหิตเช่

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 220

    พระชายาอวี้อ๋องได้ยินเซี่ยอวี้พูดถึงเรื่องนี้มานานแล้ว นางจึงชัดแจ้งเป็นอย่างดี ตอนนั้นนางก็เพียงฟังเป็นเรื่องขำขันเท่านั้น ทว่าต่อมา เมื่อก็นางถูกเซี่ยอวี้ทรมานจนแทบทนมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ไหวนานแล้ว เซี่ยอวี้ให้ท้ายอนุทำร้ายภรรยา เซี่ยซางก็เป็นเช่นเดียวกันพวกเชื้อพระวงศ์ชายพวกนี้ คิดว่าสตรีรังแกได้ง่ายจริงๆ อย่างนั้นหรือในเมื่อคิดจะโวยวาย เช่นนั้นก็เปิดโปงออกมาให้เป็นเรื่องใหญ่ไปเสียเลย นางมีลูกไม่ได้ดังนั้นจึงไม่กลัวสิ่งใดอีก ถึงอย่างไรแม่สามีก็ไม่ชอบนาง และสามีก็ไม่รักนางอีก ช้าเร็วก็ต้องแก่ตายอย่างโดดเดี่ยว กระทั่งถูกเซี่ยอวี้ทุบตีจนตายก็เป็นไปได้หลังจากที่ทุกคนได้ฟังก็รู้สึกประหลาดใจ คิดไม่ถึงว่าจะยังมีเรื่องเช่นนี้ฮ่องเต้เป็นผู้ที่รู้เรื่องนี้ แม้เขาจะตำหนิเซี่ยซางไปหลายประโยค แต่เมื่อมิได้ก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ใดขึ้นมา เขาจึงได้ปล่อยไปสายตาที่เซี่ยซางมองเจียงเฟิ่งหัวยิ่งรู้สึกผิดขึ้นไปอีก เรื่องในวันนั้น ยังเป็นเจียงเฟิ่งหัวที่ช่วยพวกเขาคลี่คลายจนสงบด้วยเขาจึงหันไปกล่าวกับซูถิงหว่านอย่างเย็นชาว่า “เจ้าอย่าได้กล่าวหาพระชายาอย่างไร้มูล ข้าอยู่กับพระชายาตลอดเวลา ดังนั้นเป็นไ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 221  

    ในตอนนี้เอง หมอหลวงหวังรีบร้อนวิ่งเข้ามาพร้อมกล่าวว่า “เจอแล้ว กระหม่อมเจอแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ทุกคนต่างหันมองมาทางเขา ทันใดนั้นหมอหลวงหวังพลันสืบเท้าไปถึงเบื้องพระพักตร์ฝ่าบาท “ทูลฝ่าบาท สิ่งนี้ก็คือต้นเหตุที่ทำให้พระชายารองซูมีตุ่มพุพองขึ้นเต็มตัวพ่ะย่ะค่ะ” เห็นเพียงในมือของเขาถือชามใบหนึ่งไว้ ภายในถ้วยมีบางสิ่งเป็นก้อนสีดำมืดขยับได้ มองแล้วน่าสะอิดสะเอียนยิ่งนัก ขนลุกขนชันไปทั้งตัว ฝ่าบาทเห็นเช่นนั้นหัวคิ้วก็ขมวดขึ้นทันที “สิ่งนี้คืออะไรหรือ?” “สิ่งนี้คือหนอนชนิดหนึ่งซึ่งใช้สำหรับรักษากามโรคพ่ะย่ะค่ะ พระสนมทรงใช้เทียบยาพื้นบ้านของสามัญชนรักษาโรคดังกล่าว เป็นเหตุให้ตัวอ่อนในพระครรภ์ของนางจากไปทั้งที่ยังอยู่ในพระครรภ์พ่ะย่ะค่ะ วันนี้พระชายารองซูได้สัมผัสพระสนมเจี๋ยอวี๋ กระหม่อมจึงคาดว่าที่ใบหน้าพระชายารองซูมีตุ่มพุพองก็เป็นเพราะมันพ่ะย่ะค่ะ” สิ้นเสียงของหมอหลวงหวัง คนที่รุมล้อมอยู่รอบข้างทั้งหมดล้วนตกใจกลัวจนต้องถอยตัวออกห่าง ถอยออกไปไกล ราวกับว่าพระชายารองซูก็เป็นกามโรคเหมือนกับท่านป้าของนางและจะติดต่อมาสู่พวกเขาได้อย่างไรอย่างนั้น เฉิงฮองเฮายิ่งดึงตัวเซี่ยซางให้ห่างออกมา “หากต

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 222  

    เซี่ยซางสืบเท้าไปด้านหน้า อุ้มนางขึ้นมาพร้อมเอ่ยว่า “หมอหลวงหวัง รีบมาดูอาการพระชายาเร็วเข้าเถิด” หมอหลวงหวังยุ่งจนปลีกตัวไม่ได้ วันนี้เป็นเทศกาลไหว้พระจันทร์ด้วยพอดี และมีเพียงเขาคนเดียวที่เข้าเวรในสำนักหมอหลวง เขามองพระชายารอง ก่อนจะหันมามองพระชายาอีกครั้ง ร้อนรนจนเหงื่อท่วมศีรษะแล้ว เหลียนเย่อยู่อีกด้านหนึ่ง ในแววตาก็ฉายประกายร้อนใจเช่นกัน ขอบตาแดงก่ำแล้ว นางคุกเข่าลงเบื้องหน้าเจียงเฟิ่งหัว พลางบ่นพึมพำต่อหน้าเซี่ยซาง “เหตุใดต้องให้พระชายาของพวกบ่าวมารับชะตากรรมทั้งหมดนี้โดยไม่จำเป็นด้วย” เซี่ยซางได้ยินเสียงสาวใช้บ่น เผลอกำมือแน่นโดยไม่รู้ตัว เหตุใดหวานหว่านถึงได้สอนไม่เชื่อฟัง ทั้งที่เจียงเฟิ่งหัวปฏิบัติต่อนางด้วยความตั้งใจ ทว่านางกลับไม่รู้ผิดชอบชั่วดีถึงเพียงนี้ ขณะที่หมอหลวงหวังกำลังจะจับชีพจรให้เจียงเฟิ่งหัว เหลียนเย่ก็ล้วงผ้าเช็ดหน้าสีขาวบริสุทธิ์ออกมาจากตัวและคลุมบนข้อมือของนาง กั้นด้วยผ้าเช็ดหน้า หมอหลวงหวังสงบจิตใจจับชีพจรให้เจียงเฟิ่งหัวอย่างระมัดระวัง ภายหลังจากนั้น แววตาของหมอหลวงหวังก็สว่างวาบขึ้น “ชีพจรมงคลพ่ะย่ะค่ะ”  “ยินดีด้วยพ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง พระชายาทรงม

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 223  

    “ท่านอ๋อง” เจียงเฟิ่งหัวเอ่ยด้วยเสียงอ่อนแอ “พระชายารองซูเป็นอย่างไรบ้างเพคะ หม่อมฉันมิได้ทำร้ายนางจริง ๆ นะเพคะ ยิ่งไปกว่านั้นหม่อมฉันมิได้มีความสัมพันธ์ใดกับชายอื่นทั้งสิ้น ภาพชาตินี้ของหรวนหร่วนพึงใจเพียงท่านอ๋องผู้เดียว ท่านเชื่อหม่อมฉันหรือไม่เพคะ?” ประโยคสุดท้ายแสดงออกชัดเจนว่านางกำลังหวาดหวั่น และระมัดระวังอย่างยิ่ง เซี่ยซางเห็นท่าทีเช่นนี้ของนางก็เอ่ยว่า “ข้าเชื่อเจ้า” ยามนั้นเรื่องราวยังมิได้ตรวจสอบให้กระจ่าง เขาเองก็ลังเลอยู่บ้าง เขามิได้เชื่อนางสนิทใจ บางคนก็พึงใจพระชายาของเขา นั่นเป็นสิ่งยืนยันว่านางมีคุณค่ามากพอ ทั้งที่นางไม่ได้ทำอะไรทั้งสิ้น แต่เขาเกือบหลงเชื่อลมปากของซูถิงหว่านแล้ว และไปเคลือบแคลงกล่าวโทษนาง เขาสมควรตายจริง ๆ “ท่านอ๋อง มีเพียงเรื่องเดียวที่หม่อมฉันปิดบังท่าน” แววตาของเจียงเฟิ่งหัวฉายประกายหวาดหวั่นออกมา “ความจริงพี่ชายใหญ่ของหม่อมฉันเคยพาหม่อมฉันไปที่หออี๋ชุน และหม่อมฉันก็ยังได้พบท่านอ๋องที่หออี๋ชุน…เมื่อคืนนั้นท่านอ๋องกลับจวนไปในสภาพดื่มหนักจนเมามาย หม่อมฉันเคยบอกท่านอ๋องไปในตอนที่หม่อมฉันดูแลท่านอ๋อง แต่เหมือนว่าท่านจะลืมไปแล้ว” เจียงเฟิ่งหัว

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 224  

    เจียงเฟิ่งหัวนิ่งไปไม่ขยับตัวอีก ก่อนจะเอ่ยอย่างตะกุกตะกักว่า “ท่านอ๋องว่าอย่างไรนะเพคะ? พูด…พูดอีกครั้งได้หรือไม่เพคะ” ตอนที่เซี่ยซางเพิ่งจะทราบข่าวดีก็ตกใจและยินดีมากจนพูดไม่ออกเช่นเดียวกัน เขาอุ้มนางขึ้นมานั่งบนตัก ก่อนจะเลื่อนมือไปลูบเบา ๆ บนหน้าท้องของนาง “ภายในนี้ของเจ้ามีเจ้าตัวเล็กแล้ว โอรสของข้า” เจียงเฟิ่งหัวดีใจมากจนน้ำตาไหลออกมา “จริงหรือเพคะ?” “จริงสิ หมอหลวงหวังตรวจชีพจรให้เจ้าหลายครั้งแล้วล้วนเป็นชีพจรมงคลทั้งสิ้น ยิ่งไปกว่านั้นระดูของเจ้าก็ขาดไปแล้ว เจ้าไม่รู้ตัวเลยหรือ?” เซี่ยซางกระชับนางไว้ในอ้อมแขน พลางจินตนาการว่านางให้กำเนิดพระธิดาออกมารูปโฉมโนมพรรณงดงามเหมือนนาง  เจียงเฟิ่งหัวขอบตาแดงรื้น บุตรของนางในภพชาตินี้ในที่สุดก็มาท่ามกลางความคาดหวังของเซี่ยซางเสียที เซี่ยซางเห็นเช่นนี้ก็ถามขึ้น “ไยเจ้าจึงร้องไห้?” “หม่อมฉันดีใจเพคะ” เจียงเฟิ่งหัวเอนกายพิงบนแผงอกของเขา ความคิดนับหมื่นพันประเดประดังเข้ามา พวกเขาจะมาพร้อมกันหรือเปล่านะ? ยามออกจากวัง ซูถิงหว่านมิได้ขึ้นรถม้าคันเดียวกับพวกนาง ได้ยินว่าถูกฮองเฮาส่งตัวออกจากวังไปในคืนนั้นแล้ว เจียงเฟิ่งหัวเองก็มิไ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 225  

    บัดนี้พ้นเที่ยงคืนมาแล้ว เซี่ยซางย่องกลับมาอย่างเงียบเชียบ ภายในห้องมีเพียงแสงเปลวเทียนริบหรี่ ขณะที่เขากำลังจะเดินเข้าไปในห้องอาบน้ำ เจียงเฟิ่งหัวก็โผล่ศีรษะออกมาจากด้านในมุ้งอุ่น พร้อมเอ่ยยิ้ม ๆ “ท่านอ๋อง ท่านกลับมาแล้ว” “ดึกเพียงนี้แล้ว ยังไม่นอนอีกหรือ” “หลับแล้วเพคะ แต่ก็ตื่นขึ้นมาอีก บัดนี้นอนไม่หลับแล้วเพคะ” เห็นนางในอาภรณ์เกาะอกตัวยาวสีขาวหิมะ ด้านนอกคลุมด้วยเสื้อเนื้อบางโปร่งเพียงตัวเดียว เรือนผมหนาสีดำขลับทั้งศีรษะปล่อยสยายพาดลงมาบนบ่าและหน้าอก ราวกับเทพธิดาองค์หนึ่งซึ่งหลงเข้ามาในโลกมนุษย์ นางขยับมาข้างกายเขาอย่างนุ่มนวล พลางเอ่ยด้วยเสียงอ่อนโยน “หม่อมฉันช่วยท่านอ๋องนะเพคะ!” นัยน์ตาของนางเปล่งประกายดุจดวงดารา ริมฝีปากนิ่มนวลราวกับจะหยาดหยดลงมา ท่าทางน่ารักอ่อนหวานชวนให้คนเคลิบเคลิ้มหลงใหล เขาย่อมรู้ดีว่านางอยากจะทราบบทสรุปของเรื่องนี้ “ข้าจัดการเอง ยามนี้คนที่ห้ามเหนื่อยที่สุดก็คือเจ้าและเจ้าตัวน้อยนะ” เซี่ยซางโอบเอวบางของนางไว้ ยังบางแบบนี้ได้อย่างไร คราวต่อไปต้องให้นางกินเยอะกว่านี้สักหน่อยแล้ว มิเช่นนั้นบุตรในครรภ์จะได้อาหารบำรุงจากที่ไหน เจียงเฟิ่งหัวเป็นฝ่าย

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 226

    ตอนนี้เจียงจิ่นเหยียนดำรงตำแหน่งขุนนางอยู่แล้ว หากเรื่องนี้เกิดขึ้นในหออี๋ชุน เกรงว่าเขาจะถูกตราหน้าว่าเป็นขุนนางที่เที่ยวโสเภณีโดยมิอาจปฏิเสธได้“ตระกูลจางรู้แล้วหรือไม่?” เซี่ยซางกำชับมิให้นางยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของจางอวี่มั่ว เรื่องนี้ให้พี่ใหญ่เป็นคนจัดการเอง นางจึงมิอาจรู้ได้ว่าตระกูลจางรู้ถึงธาตุแท้ของหลี่เฉิงแล้วหรือไม่ แม้กระทั่งไม่รู้เหตุการณ์ในค่ำคืนนี้ หากเป็นเช่นนั้นพี่ใหญ่ก็มิใช่ว่าถูกทำร้ายโดยเปล่าประโยชน์หรอกหรือ“รู้หรือไม่ล้วนไม่สำคัญ ในเมื่อหมั้นหมายกันแล้ว แลกดวงชะตากันแล้ว จางอวี่มั่วก็คือคู่หมั้นของหลี่เฉิง นางย่อมต้องแต่งให้เขาเป็นแน่ ถึงแม้ว่าจวนจางกั๋วกงจะเคยทรงอำนาจเพียงใด แต่ความรุ่งโรจน์ในอดีตก็มลายสิ้นแล้ว ทว่าตระกูลหลี่กลับดำรงตำแหน่งขุนนางชั้นสูง มีอำนาจอยู่ในมือ เรื่องนี้เกรงว่ายากที่จะแก้ไขได้” กษัตริย์เปลี่ยนองค์ ขุนนางย่อมเปลี่ยนตาม นี่คือความจริงแห่งโลกหล้า“ต่อให้ตอนนี้พี่ใหญ่ของเจ้าตกลงรับจางอวี่มั่วเป็นภรรยา เขาก็จะถูกตราหน้าว่าแย่งคู่หมั้นของผู้อื่น ย่อมเสื่อมเสียไม่น้อยเช่นกัน”เจียงเฟิ่งหัวถามด้วยความฉงน “ต่อให้ยกความประพฤติของหลี่เฉิงมาเป็นเ

บทล่าสุด

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 372  

    เจียงเฟิ่งหัวออกจากตำหนักคุนหนิงก็ตรงไปยังตำหนักเฉินซีทันที ในตอนนั้น เห็นนางกำนัลคนหนึ่งท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆ ก็โพล่งเสียงตำหนิออกไป “ใคร” อ้าวเสวี่ยตั้งรับทันที ไม่รอให้นางเดินเข้าไปใกล้ อวิ๋นฟางก็เดินงก ๆ เงิ่น ๆ มาหยุดเบื้องหน้าเจียงเฟิ่งหัว “บ่าวคารวะเพคะพระชายา” เจียงเฟิ่งหัวเห็นนางชัดถนัดตาแล้วก็แอบคิดเงียบ ๆ ในใจ นางมีฝีมือไม่เบาเลยทีเดียว แอบลอบกลับวังมาได้ ทว่าด้วยสถานการณ์ของนางตอนนี้ ซูถิงหว่านไม่มีทางปล่อยนางไปแน่ นางจนตรอกไม่มีทางถอยแล้ว จำต้องวิ่งเข้ามาหลบในวังถึงจะไม่ถูกคนไล่ล่า อ้าวเสวี่ยและเหลียนเย่เองก็ชะงักงันไปแล้วเช่นกัน อวิ๋นฟางช่างกล้าหาญยิ่งนัก กล้ากลับเข้ามาในวังหลวงอีก พวกนางคิดว่าหลังจากอวิ๋นฟางหนีไปทางประตูหลังของเขตเมืองหลวงแล้ว นางจะหนีออกไปจากเมืองเซิ่งจิง อย่างน้อยก็ต้องหนีให้ห่างไกลจากเรื่องวุ่นวาย ปกป้องชีวิตไว้เป็นสำคัญ “เข้ามาเถิด!” เจียงเฟิ่งหัวกล่าว อวิ๋นฟางตามเข้าไปในตำหนักเฉินซี นางกำนัลได้ต้มน้ำร้อนเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว ภายในห้องอบอุ่นเป็นอย่างยิ่ง ภายใต้แสงตะเกียงสว่างรุบรู่ อวิ๋นฟางก็เริ่มขะมักเขม้นทำงานสารพัดทั้งยกน้ำเทน้ำ นางยังกระตือ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 371  

    เฉิงฮองเฮาเปิดเปลือกตา ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบว่า “มาแล้ว จัดการเรื่องข้างนอกวังเรียบร้อยดีแล้วหรือยัง? ออกจากวังไปครึ่งเดือนแล้วมิใช่หรือ!” เจียงเฟิ่งหัวท่าทางมิได้หยิ่งยโสเกินควรแต่ก็มิได้ถ่อมตัวจนเกินเหตุ “ทูลเสด็จแม่ จัดการเหมาะสมเรียบร้อยดีแล้วเพคะ” “ข้าได้ยินว่าเมื่อสิบวันก่อนสินค้าและวัตถุดิบถูกส่งไปหมดแล้ว” แม่สามีของนางก็ดูจะวางมาดขึ้นเช่นกัน ราวกับต้องการให้นางยอมเชื่อฟังคำสั่งสอน เหมือนกับเมื่อชาติก่อนไม่มีผิด “เพคะ เพียงแต่ของที่ส่งออกไปเมื่อสิบวันก่อนเป็นแค่ชุดแรกเพคะ เพราะมีจำนวนมากเกินไป ชุดต่อไปจะต้องทยอยลำเลียงออกไปเพคะ” เจียงเฟิ่งหัวกล่าวอย่างละเอียด มองแล้วอ่อนโยนนอบน้อม สงบเสงี่ยมเรียบร้อยมารยาทเพียบพร้อมไร้ที่ติ แม้แต่เฉิงฮองเฮายังมิอาจหาจุดใส่ไฟได้เลย “ลุกขึ้นมานั่งเถิด” น้ำเสียงของเฉิงฮองเฮาฟังดูดีขึ้นเล็กน้อย “ซางเอ๋อร์มีสกุลซูคอยจุนเจือ บัดนี้เด็กในครรภ์ของเจ้าสำคัญเหนือสิ่งใด อย่ามัวเพ่นพ่านด้านนอกมากนัก อย่าไปข้องเกี่ยวกับสตรีในหมู่ขุนนางราชสำนักมากเกินไป ที่สำคัญจงอย่าได้มัวละโมบใฝ่หาความดีความชอบจนลำดับความสำคัญผิดไป” เจียงเฟิ่งหัวคิดในใจ ตอนอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 370

    “เพคะ สะใภ้รับบัญชา”จากนั้น เจียงเฟิ่งหัวก็วางหมากลงไปตัวหนึ่ง “เสด็จพ่อ ทรงแพ้แล้วเพคะ”ฮ่องเต้เหลือบมองกระดานหมากคราหนึ่ง เริ่มจากความตกตะลึง ตามด้วยสีหน้ามืดครึ้มที่มองไม่ออก จากนั้นก็ทรงหัวเราะออกมาว่า “ดูเหมือนเราไม่อาจไม่ตกรางวัลนี้แล้ว มาเล่นอีกตา หากเจ้าชนะเราอีก เราก็จะมอบรางวัลให้อีกครั้ง”เจียงเฟิ่งหัวเก็บหมากบนกระดานขึ้นมาอย่างเยือกเย็น ไร้ความลนลาน “ลูกก็ชนะมาได้อย่างหวุดหวิดเพคะ ต้องเป็นเพราะเมื่อครู่เสด็จพ่อทรงฟังลูกพูดเพลิน จึงได้ออมมือให้ลูกแน่เลยเพคะ”“เจ้าคงไม่รู้สินะ หลายวันมานี้เรามีราชโองการเรียกตัวบิดาของเจ้าเข้าวังมาเดินหมากเป็นเพื่อนเราทุกวัน เขากลับไม่เคยชนะเราเลยสักตา ช่างน่าเบื่อนัก แต่เขาบอกว่าบุตรสาวของเขาเป็นยอดฝีมือในการเดินหมาก เรายังคิดว่าเขาพูดเกินจริงเสียอีก แต่วันนี้ หลังได้เดินหมากไปกระดานหนึ่งเราก็เชื่อแล้ว”“ท่านพ่อก็เหมือนยายหวังขายแตง ที่ชอบขายเองชมเองเพคะ ต่อให้บุตรสาวของท่านจะทำสิ่งใดไม่เป็นเลย ท่านก็รู้สึกว่าดีอยู่ดีเพคะ”“ยังถ่อมตัวเข้าเสียแล้ว เมื่อมาเป็นลูกสะใภ้ของราชวงศ์เรา แค่การถ่อมตนอย่างเดียวไม่พอหรอกนะ ในอนาคตยังต้องช่วยซางเอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 369

    เมื่อเจียงเฟิ่งหัวกลับวังก็ถูกฮ่องเต้เรียนตัวไปที่ห้องทรงอักษร หลังนางรายงานเรื่องภารกิจที่ฮ่องเต้มอบหมายให้นาง ก็วางแผนจะกลับตำหนักคุนหนิงไปคารวะฮองเฮาแต่จู่ๆ ฮ่องเต้ก็ตรัสขึ้นมาว่า “ได้ยินว่าพระชายาของเหิงอ๋องชำนาญการวางหมาก เราอยากหาคนมาเล่นด้วยสักตาพอดี ว่าอย่างไร จะอยู่เล่นเป็นเพื่อนเราสักตาหรือไม่”เจียงเฟิ่งหัวคารวะลงรอบหนึ่งด้วยมารยาที่พอเหมาะ ไม่ถ่อมตัวไม่เย่อหยิ่ง แล้วกล่าวอย่างเคารพว่า “เคารพมิสู้เชื่อฟัง สะใภ้ย่อมทำตามพระบัญชาของเสด็จพ่อเพคะ แต่หากเสด็จพ่อทรงเป็นฝ่ายปราชัย ลูกจะขอรางวัลจากเสด็จพ่อสักอย่างได้ไหมเพคะ”ฮ่องเต้ตรัสว่า “อยากได้อะไรก็พูดมาได้เลย หากเจ้าเอาชนะข้าได้ ก็ถือเป็นรางวัลที่เจ้ามีผลงานใดการทำคดี แต่หากพ่ายแพ้ รางวัลก็จะไม่มีแล้วนะ”เจียงเฟิ่งหัวแอบคิดว่า “ฮ่องเต้ยังคงเป็นพวกที่ไม่ยอมเสียเปรียบ ถึงกับเอารางวัลของนางมาใช้เดิมพันหมาก หากนางชนะหมากควรนับเป็นรางวัลพิเศษไม่ใช่หรือ!”“เพคะ” นางตอบอย่างว่าง่ายเพราะในท้องของเจียงเฟิ่งหัวมีเด็กอยู่ เพื่อดูแลเด็กในท้องของนาง จึงให้หัวหน้าขันทีเฉายกโต๊ะที่สูงขึ้นเล็กน้อยเข้ามาตัวหนึ่งมาใช้แก้ขัด และยังเตรียม

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 368

    คนทั้งสองเท้าสะเอวหัวเราะขึ้นมา “คนที่คิดจะช่วยคุณหนูหลินของเราไถ่ตัวมีเต็มไปหมด ท่านต่อแถวไม่ทันหรอก อีกอย่าง ท่านก็ไม่มีคุณสมบัตินั้นด้วย อย่าได้เพ้อฝันอีกเลย” คุณหนูหลินไม่ขาดแคลนเงินทอง ทั่วทั้งหออี๋ชุนล้วนอยู่ใต้การตัดสินใจของนาง ไม่จำเป็นต้องไถ่ตัวเพราะนางไม่มีสัญญาขายตัว“ข้าจะต้องแต่งนางเป็นภรรยาให้ได้ พวกเจ้ารอก่อนเถอะ” กัวเซี่ยวตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าจะแต่งกับหลินอวี่ให้ได้ในบรรดาเหล่าคุณชายตระกูลใหญ่ กัวเซี่ยวก็พอมีชื่อเสียงอยู่บ้าง เขาหน้าตาไม่เลว ชาติตระกูลก็ไม่เลว เขาจึงคิดว่าหลินอวี่ไม่มีทางปฏิเสธแน่ได้ยินเขาพูดเช่นนั้น จื่อฮุ่ยจึงเอ่ยบ้างว่า “หากคิดจะแต่งกับคุณหนูของข้า นอกเสียจากว่าท่านจะเป็นจอหงวน นั่นอาจพอมีโอกาสบ้าง ไม่เช่นนั้นก็อย่าได้เสียเวลาอีกเลย”กัวเซี่ยวตะลึงงันไปแล้ว ที่เขาไม่ชอบที่สุดก็คือการอ่านตำรานี่แหละเห็นเขายังคงไม่ยอมจากไปอีก พวกนางก็ไม่อยากเปลืองน้ำลายกับเขาแล้ว จึงตีกัวเซี่ยวจนสลบแล้วโยนเขาออกไปนอกหออี๋ชุนเสียเลย “ช่างน่ารำคาญเหลือเกิน คนที่อยากแต่งงานกับคุณหนูของข้าตอนนี้ต่อแถวไปถึงนอกประตูเมืองนู่นแล้ว ค่อยๆ ไปต่อแถวเถอะ” พวกนางย่อมไม่เห็น

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 367

    “แม่นางหลิน เจ้าดื่มช้าๆ หน่อย” กัวเซี่ยวไม่เหลือท่าทางเสเพลไร้ความสำรวมในอดีตอีก เขาเอ่ยห้ามปรามว่า “แม่นางหลิน เจ้าอารมณ์ไม่ดีหรือ!”“ผู้ใดบอกว่าข้าอารมณ์ไม่ดีกัน” หลินอวี่กล่าวต่อว่า “สุรานี้เจ้าเป็นคนออกเงินซื้อ ท่านจะดื่มไม่ดื่ม?” กัวเซี่ยวรีบเทเหล้าออกมาอีกจอกแล้วดื่มลงไปจนหมดในอึกเดียว “ข้าดื่ม” ไม่ง่ายเลยกว่าเขาจะได้ดื่มสุรากับนาง แน่นอนว่าต้องคว้าโอกาสนี้ไว้ให้มั่นสุราผ่านไปสามรอบ กัวเซี่ยวก็ดื่มจนหน้าแดงก่ำแล้ว แม้แต่นั่งก็นั่งไม่มั่น “ดื่มอีก ข้ายังดื่มได้…ดื่ม…แม่นาง…แม่นางหลิน เจ้าช่างงามนัก”สีหน้าของหลินอวี่ยิ่งเปล่งปลั่งแดงระเรื่อ จู่ๆ นิ้วเรียวงามทั้งสิบของนางก็สัมผัสลงบนแก้มของเขา คนที่อยู่เบื้องหน้าราวกับได้กลายเป็นผู้ที่อยู่ในใจนางไปแล้ว นางพึมพำว่า “คุณชายน้อย ดื่มสุราสิ”กัวเซี่ยวถูกอารมณ์รักทำให้เลอะเลือนไปแล้ว เขาคว้ามือนางไว้แล้วดึงนางเข้าสู่อ้อมกอด “แม่นางหลิน ข้าชอบเจ้า”หลินอวี่หัวเราะอย่างหยาดเยิ้ม ตั้งแต่เด็กนางก็เรียนรู้ทักษะการล่อลวงบุรุษพวกนั้นกับเจียงเฟิ่งหัว ยามนี้นำมาใช้กับกัวเซี่ยวก็เกินจะพอ อาศัยเพียงยิ้มเดียวของนางก็ทำให้กัวเซี่ยวมัวเมาลุ่มห

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 366

    ไม่รอให้ชายฉกรรจ์ตอบสนอง หลินอวี่ก็เอ่ยเสียงหนักว่า “นำสุรามา คืนนี้พี่ชายจะออกเงินครั้งละร้อยตำลึงได้มากเท่าใด ข้าก็จะดื่มเป็นเพื่อนท่านมากเท่านั้น ว่าอย่างไร?”ม่านตาของชายฉกรรจ์หดแคบลง สุราเช่นนี้พวกเขาดื่มไม่ไหวดอก ทันใดนั้น คนทั้งสองก็ห่อเหี่ยวลงทันทีหลินอวี่ลุกขึ้นมา กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ข้าว่าสองท่านคงไม่ได้คิดมาดื่มสุราหาความสำราญ แต่เหมือนจะมาก่อเรื่องในหออี๋ชุนของข้ามากกว่า”“ผู้ใดบอกว่าไม่ได้มาดื่มสุรากัน” บุรุษหนึ่งในนั้นลุกขึ้นมา ชี้จมูกหลินอวี่ได้ก็ด่าออกมาทันทีว่า “หอสุราเน่าๆ อะไรของพวกเจ้ากัน เหล้าจอกละร้อยตำลึง ทำไมพวกเจ้าไม่ไปปล้นเสียเลยล่ะ”พูดจบเขาก็คิดจะเริ่มทำลายข้าวของ สุราอาหารกับจอกสุราถูกเขาพลิกโต๊ะจนล้มคว่ำหลินอวี่ทนไม่ไหวอีกต่อไป แต่ไม่ทันที่นางจะลงมือ ในเวลานั้นเอง ที่หน้าประตูก็มีบุรุษผู้หนึ่งบุกเข้ามาปกป้องอยู่เบื้องหน้าของนางอย่างสง่างามน่าเกรงขาม “ข้ามาแล้ว เป็นไอ้ลูกเต่าลูกตะพาบตัวไหนกล้ามาก่อเรื่องที่หออี๋ชุนกัน”“แม่นางหลินวางใจเถอะ มีข้าอยู่ไม่มีใครกล้ามาสร้างความวุ่นวายที่นี่แน่” ใบหน้ากัวเซี่ยวเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นหลินอวี่ถอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 365

    หิมะตกแล้ว หิมะที่ตกหนักและปลิวไสวดุจขนห่าน ทำให้เมืองหลวงอันเรืองรองประดุจปกคลุมไปด้วยอาภรณ์สีเงิน ทัศนียภาพที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะนี้ก็ดูงดงามมีเอกลักษณ์ไปอีกแบบไม่ว่าสงครามที่ชายแดนจะรบกันหนักหน่วงเพียงใด ล้วนไม่อาจส่งผลกระทบต่อเมืองหลวง ที่ยังคงคึกคักและรุ่งเรืองเช่นเดิมเจียงเฟิ่งหัวสวมเสื้อคลุมอันหรูหราที่มีหมวกคลุมศีรษะยืนอยู่ข้างหน้าต่างพลางทอดสายตาออกไปไกล ความคิดของนางล่องลอยออกไปไกลแสนไกล แววตาที่ลึกล้ำดุจบึงน้ำอันหนาวเหน็บสาดประกายเย็นเยียบออกมาคิดไม่ถึงว่าจะจัดการกับจีเฉินได้รวดเร็วเช่นนี้ ในชาติก่อน จีเฉินเป็นแรงหนุนคนสำคัญของซูถิงหว่าน พวกเขาคนหนึ่งอยู่ในวังคนหนึ่งอยู่นอกวัง ในนอกเสริมประสาน การกำจัดเขาทิ้งในเวลานี้จึงถือเป็นการกำจัดศัตรูคู่แค้นที่สำคัญไปได้คนหนึ่ง“เจ้าต้องกลับวังอีกแล้วสินะ! ข้าจะไม่ได้เห็นเจ้าอีกหลายเดือนอีกแล้วใช่หรือไม่ หวังจริงว่า ข้าจะอยู่เคียงข้างเจ้าตอนเจ้าคลอดลูกได้ คนอื่นล้วนบอกว่า การคลอดลูกเป็นด่านความเป็นตายของผู้หญิงที่เท้าข้างหนึ่งก้าวไปอยู่ในตำหนักมัจจุราช” หลินอวี่ยืนอยู่ข้างนาย มองตามสายตาของนางไปยังควันที่ลอยอ้อยอิ่งอยู่ไกลออกไป

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 364

    เนื่องจากสายสัมพันธ์กับซูฮองเฮา บัดนี้ อำนาจของซูไทเฮาจึงเหนือล้ำเฉิงฮองเฮาไปแล้วดังนั้น ฝูลู่จึงไม่กล้าล่วงเกินฮองเฮาเช่นกัน เพราะไม่ว่าอย่างไรยามอยู่ต่อหน้าฮ่องเต้ ตำแหน่งแห่งที่ของเขาก็ยังไม่มั่นคงนัก ขันทีผู้หนึ่งแบบเขาจะไปช่วยใครได้ เขาช่วยผู้ใดไม่ได้ทั้งนั้นยังคงยุ่งเรื่องผู้อื่นให้น้อยลงจะดีกว่า!“คืนนี้ ฝ่าบาทจะทรงพลิกป้ายของพระสนมท่านใดพ่ะย่ะค่ะ?”ฮ่องเต้กล่าวว่า “ไม่พลิกป้ายแล้ว ช่วงนี้ข้างานราชกิจรัดตัว ไม่ต้องจัดนางสนมมาปรนนิบัติแล้ว ตรงไปที่ห้องทรงอักษรเลยเถอะ!”“พ่ะย่ะค่ะ” ฝูลู่กล่าว นับตั้งแต่ฮ่องเต้กลายเป็นองค์รัชทายาท มีวันใดที่ทรงไม่ยุ่งบ้าง เหล่าพระสนมในวังล้วนได้ไทเฮาดูแลทั้งนั้น ก็น่าจะทรงไปทำความรู้จักบ้างเฮ้อ! สถานที่ที่ฮ่องเต้ไปมากที่สุดยังคงเป็นตำหนักคุนหนิงของฮองเฮา ดูท่าเสียนเฟยคงไม่มีโอกาสแล้ว ยังดีที่นางมีลูกสองคนจึงยังรักษาตำแหน่งเสียนเฟยไว้ได้เมื่อจีเฉินที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าเห็นฉากนี้ ในใจก็ยิ่งตื่นเต้น อย่างนั้นก็แปลว่าในอนาคตเจียงเฟิ่งหัวจะไม่ได้เป็นฮองเฮา และเซี่ยซางก็ไม่ได้ชอบนางด้วยแต่ไม่ถูกสิ!ลูกก็คลอดออกมาแล้ว เหตุใดพวกเขาสองคนจึงยังดู

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status