Share

บทที่ 190

Author: กระต่ายน้อยใต้ดวงจันทร์
“ลุกขึ้นมาเถิด ไม่ต้องคุกเข่าแล้ว” เซี่ยซางกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ

“เพคะ” นางตอบกลับอย่างอ่อนโยน

กล่าวจบเขาก็เข้าไปในห้องนอนหลักของเจียงเฟิ่งหัว เจียงเฟิ่งหัวเหลือบมองนางทีหนึ่ง บังเอิญสบเข้ากับสายตาของนางพอดี นางกำลังยั่วยุ ทำให้ซูถิงหว่านโมโหจนต้องหยิกต้นขาตนเองสุดแรง

เจียงเฟิ่งหัวมิได้กล่าวสิ่งใดอีก นางตรงจากไปแล้ว กลับเข้าไปในห้องหลัก

เหลียนเย่และหงซิ่วที่เฝ้าอยู่หน้าประตู ใช้มือกุมท้องกลั้นหัวเราะเบิกบานไม่หยุด สีหน้าในตอนที่พระชายารองซูเห็นหนังสือกองนั้นเมื่อครู่ จนถึงบัดนี้พวกนางก็ยังรู้สึกสาแก่ใจนัก

ยังคงเป็นพระชายาที่ร้ายกาจ หากฮูหยินผู้เฒ่าซูที่ให้นางมาตามติดข้างกายพระชายา รู้ว่าพระชายาจะสอนชายารองอ่านหนังสือ เกรงว่าคงเสียใจจนหน้าเขียวแล้ว

นับจากวันนี้ไป ชายารองซูต้องตั้งใจอ่านหนังสือ แล้วนางยังจะเหลือความคิดไปยั่วยวนท่านอ๋องได้อีกหรือ

พวกคำพูดไม่รู้เรื่อง กำกวมคลุมเครือไม่ชัดเจนพวกนั้น แค่คิดก็ปวดหัวแล้ว ไม่รู้ว่าพระชายาทรงศึกษาเข้าใจได้อย่างไร

เจียงเฟิ่งหัวเพิ่งกลับมาถึงห้องชั้นใน ก็เห็นเซี่ยซางกำลังผลัดชุดขุนนางออกเตรียมหาชุดอื่นมาเปลี่ยน นางจึงรีบก้าวเข้าไปช่วย “
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 191  

    เซี่ยซางสีหน้าฉายประกายรู้สึกผิด “หรวนหร่วน ซูกุ้ยเฟยอาจจะต้องการทำร้ายเจ้าจริง แต่ข้าเชื่อว่าหวานหว่านเพียงแค่ถูกนางยุยงมาก็เท่านั้น ความจริงหวานหว่านไม่ได้ผิด ข้ารู้จักนางมาสามปีกว่าแล้ว และค่อนข้างรู้จักนางดี นางก็แค่อารมณ์อ่อนไหวง่ายและง่ายต่อการถูกผู้อื่นชักจูง พูดจาโผงผางตรงไปตรงมา” “นับแต่ซูกุ้ยเฟยส่งนางกำนัลคนหนึ่งมาปรนนิบัตินาง หวานหว่านก็เปลี่ยนไปจนข้าแทบไม่รู้จักแล้ว เหมือนอย่างการแสดงออกในวันนี้ของนาง ข้ารู้สึกราวกับว่าไม่เคยรู้จักนางมาก่อน บางทีอาจเป็นเพราะข้าทำร้ายนางไปแล้ว นางถึงได้ระมัดระวังตัวมากขึ้นถึงเพียงนี้” “นางเหมือนกับเจ้าในตอนแรก ไม่กล้าเปิดเผยด้านที่เป็นธรรมชาติต่อหน้าข้า ข้าหวังจริง ๆ ว่าพวกเจ้าจะสามารถอยู่ด้วยกันอย่างปรองดอง” เซี่ยซางยังคิดจะให้โอกาสซูถิงหว่านอีกครั้ง เจียงเฟิ่งหัวในใจคิดอยากจะพ่นลมออกจมูก ดูเหมือนว่าการแสดงของซูถิงหว่านวันนี้จะกระตุ้นสัญชาตญาณการปกป้องเอาใจของเซี่ยซางได้สำเร็จแล้ว! เห็นใบหน้าของนางปรากฏสีหน้างุนงงไม่เข้าใจ “นางกำนัลที่ท่านพูดถึงคืออวิ๋นฟางกูกูหรือเพคะ? เป็นนางที่ยุยงพระชายารองซู” เซี่ยซางผงกศีรษะ “ใช่แล้ว” “เช่น

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 192  

    เจียงห้วนเด็กเฝ้าประตูมีความสุขจนหุบยิ้มไม่ได้ “คุณหนูสาม ท่านไม่ได้กลับมาเสียนาน ระยะนี้จวนสกุลเจียงของพวกเราเกิดการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินเลยขอรับ” “เกิดอะไรขึ้นหรือ?” นางเอ่ย “จวนของพวกเรามีคุณหนูอวี๋เพิ่มมาอีกหนึ่งท่านแล้ว เหมือนว่าจะเป็นสะใภ้ใหญ่ของพวกเราขอรับ ทว่านายท่านกับฮูหยินดูจะเคารพนางมาก” แน่นอนว่า เจียงห้วนย่อมไม่รู้ฐานะที่แท้จริงของซางอวี๋เพียนเพียน และคนทั้งจวนก็ไม่ทราบเหมือนกัน ยกเว้นเจียงหวยสามีภรรยาและเจียงจิ่นเหยียน “แม่นางคนนั้นอยู่ที่ใดหรือ? อยู่ที่จวนหรือไม่” เจียงห้วนก็เอ่ยอีก “ไม่ขอรับ ตามคุณชายใหญ่ออกไปแล้ว” เป็นไปตามที่เจียงเฟิ่งหัวคาดเดาไว้ทุกประการ ป่าวประกาศออกไปขนาดนี้แล้ว สกุลจางย่อมจำเป็นต้องหาคู่หมั้นใหม่ให้จางอวี่มั่ว เฝิงจิ้งย่วนเมื่อเห็นบุตรีก็ตื่นเต้นดีใจและท่าทางดูมีลับลมคมใน นางลากเจียงเฟิ่งหัวเข้าไปด้านใน จากนั้นก็ไล่บรรดาสาวใช้ออกไปด้านนอกทันที ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงกระซิบแผ่วเบา “หรวนหร่วน เจ้ารู้หรือไม่ว่าใครมาพำนักที่เรือนของพวกเรา?” เจียงเฟิ่งหัวสีหน้าเรียบเฉย “ทราบเจ้าค่ะ ซางอวี๋เพียนเพียนองค์หญิงรัชทายาทแคว้นเจาซี ลูกเ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 193  

    เจียงเฟิ่งหัวและมารดาของนางพูดคุยเปิดเผยความในใจกันอยู่ครู่หนึ่ง ไม่นานนักเทียบเชิญจากจวนจางกั๋วกงก็ถูกส่งถึงมือเจียงเฟิ่งหัว เจียงเฟิ่งหัวรับมา “ฮูหยินผู้เฒ่าจางต้องการพบลูกหรือ? นางอยู่ที่ใด?” พ่อบ้านกล่าวตอบ “มาถึงโถงด้านหน้าแล้วขอรับ” เจียงเฟิ่งหัวและเจียงฮูหยินต่างรีบจัดแจงตนเองและเดินไปโถงหน้าทันที พวกนางพอจะไว้ว่าการมาเยือนครั้งนี้เพื่อเรื่องของจางอวี่มั่วแน่นอน ฮูหยินผู้เฒ่าจางครั้นเห็นเจียงเฟิ่งหัวแล้ว ทันใดนั้นก็คุกเข่าคารวะอย่างยิ่งใหญ่ “หม่อมฉันคารวะพระชายาเหิงอ๋องเพคะ” “ฮูหยินผู้เฒ่ามิต้องมากพิธี” เจียงเฟิ่งหัวเดินเข้าไปพยุงมือนางไว้ด้วยตนเอง ก่อนจะเชิญนางไปนั่งตรงที่นั่งหลัก “ฮูหยินผู้เฒ่ากับท่านย่าของข้าอายุไล่เลี่ยกัน การคารวะใหญ่เช่นนี้ลำบากใจเฟิ่งหัวแล้ว ฮูหยินผู้เฒ่าต้องการพบเฟิ่งหัวกะทันหันเพียงนี้คงจะมีเรื่องสำคัญกระมัง!”“กระหม่อมเองก็หมดหนทางถึงได้บากหน้ามาพบท่าน” เพื่อเรื่องของหลานสาวฮูหยินผู้เฒ่าจางวิตกกังวลและทอดถอนใจ นางเหลือบสายตามองเจียงฮูหยินปราดหนึ่ง “ทั้งหมดก็เพื่อหลานสาวที่ไม่เอาไหนของหม่อมฉัน” เจียงฮูหยินดวงหน้าแววตาเต็มไปด้วยความละอายใจ “

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 194  

    เจียงเฟิ่งหัวมองความคิดนางได้อย่างทะลุปรุโปร่ง “ท่านทำร้ายตัวเอง ทว่าคนที่เจ็บปวดกลับเป็นคนใกล้ชิดที่ดีที่สุดของท่าน หากท่านโศกเศร้าจนสิ้นลมหายใจไป คนนอกไม่มีทางเจ็บปวดเสียใจได้สักครึ่งหนึ่งหรอก รวมถึงพี่ใหญ่ของข้าด้วย เขาเองก็จะไม่เจ็บปวดทุกข์ใจ ยิ่งเป็นสกุลหลี่ยิ่งไม่มีวัน พวกเขามีแต่จะรู้สึกว่าท่านเป็นเคราะห์ร้าย ผิดกับท่านปู่ท่านย่าที่เลี้ยงดูสั่งสอนท่านจนเติบใหญ่กลับต้องกลายเป็นคนผมขาวส่งศพคนผมดำ พวกเขาจะต้องทุกข์ทรมานจนแทบขาดใจ” จางอวี่มั่วจ้องมองเจียงเฟิ่งหัวนิ่ง ๆ “ท่าน…ท่านปู่ท่านย่าของข้า…” เจียงเฟิ่งหัวแววตาเยือกเย็น “ท่านคิดว่าข้าเดาออกเองหรือว่าท่านไม่ได้กินข้าวมาแล้วสองวัน ท่านคิดว่าข้าจะเป็นห่วงท่านทุกเวลา วางความคิดและจิตใจไว้บนตัวท่านตลอดเวลา จางอวี่มั่ว หากวันนี้ข้าไม่มา ท่านอดข้าวต่อไปอีกครึ่งเดือนแบบนี้ ท่านอาจจะได้ตายไปจริง ๆ เลยก็ได้ เมื่อถึงยามนั้น ข้าก็ทำได้แค่ไปที่หลุมศพของท่านจุดธูปสามดอกส่งวิญญาณของท่าน และทอดถอนใจว่าเด็กสาวเอย ตายไปเสียแล้ว หลังจากนั้นสองวัน ข้าก็คงลืมท่านไปแล้ว และไปใช้ชีวิตของข้าอย่างสุขสบายใจ ท่านตายไปก็ไม่รับรู้อะไรแล้ว ทว่าสกุลจางขอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 195  

    เซียงหย่าหยวน เซี่ยซางและเหล่าสหายร่ำสุราได้ครึ่งรอบ เจียงเฟิ่งหัวก็พาจางอวี่มั่วมาสมทบด้วย สิ่งที่ทำให้นางคิดไม่ถึงคือซูถิงหว่านเองก็ร่วมโต๊ะสุราด้วย นางยังแต่งกายแบบเมื่อเช้า และนั่งอยู่ข้างกายเซี่ยซางด้วยท่าทางเรียบร้อยงดงาม เซี่ยซางเงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นเงาร่างของเจียงเฟิ่งหัวและจางอวี่มั่วปรากฏที่หน้าประตู นางยังพาจางอวี่มั่วเข้ามาด้วยกัน ซางอวี๋เพียนเพียนยกจอกสุราขึ้นพลางตะโกนเรียกนางอย่างมีความสุข “เฟิ่งหัว ท่านมาได้อย่างไร ข้าเพิ่งจะถามเหิงอ๋องไป เหตุใดไม่พาท่านมาด้วยกัน เขาบอกว่าท่านกลับจวนสกุลเจียงแล้ว หากรู้เร็วกว่านี้ข้ากับพี่ใหญ่เจ้าจะได้รอเจ้าก่อน” เจียงเฟิ่งหัวเยื้องกรายเข้ามาที่โต๊ะสุราอย่างงดงาม วันนี้นางเข้ามาในเวลาที่ไม่เหมาะสมเลยจริง ๆ เจียงเฟิ่งหัวพยักหน้าให้ซางอวี๋เพียนเพียน “ข้ากลับไปที่เรือนสกุลเจียงแล้ว ทว่าจากนั้นเกิดเรื่องบางอย่างขึ้น ข้าจึงไปที่จวนจางกั๋วกง และลองสอบถามดูถึงได้ทราบว่าพวกท่านมาที่เซียงหย่าหยวน” นางหันไปเอ่ยกับเซี่ยซางอีกครั้ง “หม่อมฉันคิดไม่ถึงว่าพระชายารองซูก็อยู่ที่นี่ด้วยเพคะ” เซี่ยซางชี้นิ้วไปยังบุรุษผู้หนึ่งซึ่งแต่งกายด้วย

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 196  

    ยามนี้ บรรยากาศพลันตึงเครียด เสี่ยวเอ้อร์ยกน้ำชาเข้ามาทันทีโดยไม่ต้องสั่ง และยังตั้งใจวางกาน้ำชาไว้ตรงหน้าเจียงเฟิ่งหัว “สิ่งนี้เถ้าแก่ของร้านเราอยากให้ลองชิมขอรับ” เขาตั้งใจไม่ระบุว่าให้ทุกคนลองดื่ม แต่กระนั้นเสี่ยวเอ้อร์ก็รู้หน้าที่ตนเองดียิ่ง จัดการรินให้เจียงเฟิ่งหัวก่อนหนึ่งถ้วย ทันใดนั้นกลิ่นชาหอมอ่อน ๆ กระจายไปทั่วทั้งสี่ทิศ เจียงเฟิ่งหัวย่อมรู้ดีว่าสิ่งนี้หลินอวี่ได้เตรียมไว้เพื่อนาง นางรับกาน้ำชามาจากนั้นก็รินให้จางอวี่มั่ว นางเหลือบสายตามองไปทางซางอวี๋เพียนเพียน “คุณหนูเพียนเพียนอยากลองดื่มน้ำชาด้วยหรือไม่?” นางตอบ “ช่างหอมยิ่งนัก ชาอะไรหรือ ได้กลิ่นก็อยากดื่มแล้ว” “ชาผู่เอ๋อร์” เจียงเฟิ่งหัวอธิบาย “สิ่งนี้คือเครื่องบรรณาการของราชนิกุล ทว่าคนมีเงินก็สามารถหาดื่มได้เช่นกัน ดังนั้นจึงว่ากันว่ามันเป็นล้ำค่าที่สุด” หลังจากรินน้ำชาครบสามถ้วย ในกาน้ำชาก็เหลือน้ำชาอยู่เพียงน้อยนิดแล้ว นางจึงหันไปเอ่ยกับเสี่ยวเอ้อร์ “เถ้าแก่ของพวกเจ้าช่างตระหนี่นัก กาน้ำชาอันเล็กเท่านี้ รินน้ำชาได้นิดเดียวแบบนี้จะเพียงพอให้ทุกคนดื่มได้อย่างไร” เสี่ยวเอ้อร์เอ่ยอย่างกระอักกระอ่วน “เถ้าแก่อย

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 197  

    ทันใดนั้น หลินอวี่ก็หยิกเข้าที่เอวบางไปแรง ๆ เหลียนเย่เห็นนางแต่งหน้าฉูดฉาดทาปากสีแดงสดอีกแล้ว โดยเฉพาะดวงตาที่ดูจะโดดเด่นน่าดึงดูดเป็นพิเศษ บนมวยผมเต็มไปด้วยปิ่นเงินปิ่นทอง นางเหมือนแม่เล้าที่ผ่านเรื่องความรักมาอย่างโชกโชน ทั้งที่วัยก็เพิ่งจะสิบเจ็ดเหมือนกัน “ผู้ใดยั่วโทสะเจ้า?” หลินอวี่ใช้ไหล่กระทุ้งเหลียนเย่เบา ๆ เหลียนเย่ตอบ “ไม่มีใคร” หลินอวี่มองหลินเฟิงที่หน้ามึนอยู่ไกล ๆ ก็กระตุกมุมปากสีแดงสดขึ้นพลางหัวเราะเบา ๆ “โอ๊ะ เจ้าหนุ่มคนนั้นหน้าตาหล่อเหลาทีเดียว อะไรกัน เจ้าชอบเขาหรือ” เหลียนเย่รู้สึกราวกับถูกฝูงยุงนับหมื่นตัวบินตอมอยู่รอบปาก “ถุย ๆ อย่ามาทำให้ตาของข้าแปดเปื้อนเชียว ใครจะชอบเขากัน!” หลินอวี่กระตุกมุมปากยิ้มบาง ๆ “หากเจ้าไม่ชอบ เช่นนั้นก็เป็นของข้าแล้วกัน!” เสี้ยวพริบตาเดียวต่อมา ก็เห็นหลินอวี่บิดเอวอ้อนแอ้นดุจต้นหลิวเดินตัวปลิวเข้าไปถึงข้างกายหลินเฟิงแล้ว นางเอื้อมมือไปคล้องคอเขาไว้พลางใช้ปลายนิ้วเรียวแตะปลายคางของหลินเฟิงเบา ๆ ก่อนจะเดาะลิ้นและกล่าวว่า “หล่อเหลาปานนี้ วันนี้มาอยู่กับข้าเถิด” หลินเฟิงขนลุกซู่ไปทั่วทั้งตัว รีบผลักอีกฝ่ายออกทันที “แม่นางกรุณ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 198  

    กัวเซี่ยวพลันรู้สึกว่าสตรีตรงหน้าเปลี่ยนไปดูน่าเกรงขามและทรงพลัง เขายกมือขึ้นกุมใบหน้าพลางเอ่ยอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ “เจ้าก็ด่าข้าเหมือนกัน” หลินอวี่ตบหน้าเขาไปอีกฉาดก่อนจะเดินจากไป โชคไม่ดีเลยจริง ๆ กัวเซี่ยวเห็นนางเอวบางอรชรอ้อนแอ้น แผ่นหลังตั้งตรง สะโพกบิดไหว ช่างงามเย้ายวนสะดุดตายิ่งนัก แม้แต่เขายังเผลอมองตาค้างไป เขาพึมพำ “ข้าจะไถ่ตัวแม่นางคนนี้” พูดจบเขาก็ลุกขึ้นจากพื้นและเดินตามไปทันที “แม่นางหลิน รอข้าก่อน” เขาไล่ตามนางกระทั่งมาถึงห้องของหลินอวี่ที่ชั้นสาม กลับถูกหลินอวี่ทุบตีไปอีกยก ตอนที่กัวเซี่ยวกลับมา เห็นเพียงเขาจมูกเขียวหน้าบวม เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง ผมเผ้าก็ยุ่งเหยิง ชัดเจนว่าเพิ่งถูกทำร้ายซ้ำอีกยกหนึ่ง ทว่ามุมปากของเขากลับประดับรอยยิ้ม แววตาเต็มไปด้วยความสุข “แสบน่าดู ข้าชอบยิ่งนัก” พวกเหลียนเย่มองภาพฉากนั้นอย่างตะลึงงัน ในใจคิดเพียงว่ากัวเซี่ยวคนนี้เพี้ยนไปแล้วหรือ ถูกทุบตีแต่กลับอารมณ์ดีได้ถึงเพียงนี้ บ่าวรับใช้ของเขาเข้าไปดึงตัวเขาไว้ เขาก็หาได้สนใจ จ้องมองไปที่ชั้นสามราวกับว่ากลายเป็นคนบ้าไปแล้วอย่างไรอย่างนั้น เพราะเมื่อครู่ตอนที่เขาผลักประตูเข้าไป ได้เห็นห

Latest chapter

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 372  

    เจียงเฟิ่งหัวออกจากตำหนักคุนหนิงก็ตรงไปยังตำหนักเฉินซีทันที ในตอนนั้น เห็นนางกำนัลคนหนึ่งท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆ ก็โพล่งเสียงตำหนิออกไป “ใคร” อ้าวเสวี่ยตั้งรับทันที ไม่รอให้นางเดินเข้าไปใกล้ อวิ๋นฟางก็เดินงก ๆ เงิ่น ๆ มาหยุดเบื้องหน้าเจียงเฟิ่งหัว “บ่าวคารวะเพคะพระชายา” เจียงเฟิ่งหัวเห็นนางชัดถนัดตาแล้วก็แอบคิดเงียบ ๆ ในใจ นางมีฝีมือไม่เบาเลยทีเดียว แอบลอบกลับวังมาได้ ทว่าด้วยสถานการณ์ของนางตอนนี้ ซูถิงหว่านไม่มีทางปล่อยนางไปแน่ นางจนตรอกไม่มีทางถอยแล้ว จำต้องวิ่งเข้ามาหลบในวังถึงจะไม่ถูกคนไล่ล่า อ้าวเสวี่ยและเหลียนเย่เองก็ชะงักงันไปแล้วเช่นกัน อวิ๋นฟางช่างกล้าหาญยิ่งนัก กล้ากลับเข้ามาในวังหลวงอีก พวกนางคิดว่าหลังจากอวิ๋นฟางหนีไปทางประตูหลังของเขตเมืองหลวงแล้ว นางจะหนีออกไปจากเมืองเซิ่งจิง อย่างน้อยก็ต้องหนีให้ห่างไกลจากเรื่องวุ่นวาย ปกป้องชีวิตไว้เป็นสำคัญ “เข้ามาเถิด!” เจียงเฟิ่งหัวกล่าว อวิ๋นฟางตามเข้าไปในตำหนักเฉินซี นางกำนัลได้ต้มน้ำร้อนเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว ภายในห้องอบอุ่นเป็นอย่างยิ่ง ภายใต้แสงตะเกียงสว่างรุบรู่ อวิ๋นฟางก็เริ่มขะมักเขม้นทำงานสารพัดทั้งยกน้ำเทน้ำ นางยังกระตือ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 371  

    เฉิงฮองเฮาเปิดเปลือกตา ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบว่า “มาแล้ว จัดการเรื่องข้างนอกวังเรียบร้อยดีแล้วหรือยัง? ออกจากวังไปครึ่งเดือนแล้วมิใช่หรือ!” เจียงเฟิ่งหัวท่าทางมิได้หยิ่งยโสเกินควรแต่ก็มิได้ถ่อมตัวจนเกินเหตุ “ทูลเสด็จแม่ จัดการเหมาะสมเรียบร้อยดีแล้วเพคะ” “ข้าได้ยินว่าเมื่อสิบวันก่อนสินค้าและวัตถุดิบถูกส่งไปหมดแล้ว” แม่สามีของนางก็ดูจะวางมาดขึ้นเช่นกัน ราวกับต้องการให้นางยอมเชื่อฟังคำสั่งสอน เหมือนกับเมื่อชาติก่อนไม่มีผิด “เพคะ เพียงแต่ของที่ส่งออกไปเมื่อสิบวันก่อนเป็นแค่ชุดแรกเพคะ เพราะมีจำนวนมากเกินไป ชุดต่อไปจะต้องทยอยลำเลียงออกไปเพคะ” เจียงเฟิ่งหัวกล่าวอย่างละเอียด มองแล้วอ่อนโยนนอบน้อม สงบเสงี่ยมเรียบร้อยมารยาทเพียบพร้อมไร้ที่ติ แม้แต่เฉิงฮองเฮายังมิอาจหาจุดใส่ไฟได้เลย “ลุกขึ้นมานั่งเถิด” น้ำเสียงของเฉิงฮองเฮาฟังดูดีขึ้นเล็กน้อย “ซางเอ๋อร์มีสกุลซูคอยจุนเจือ บัดนี้เด็กในครรภ์ของเจ้าสำคัญเหนือสิ่งใด อย่ามัวเพ่นพ่านด้านนอกมากนัก อย่าไปข้องเกี่ยวกับสตรีในหมู่ขุนนางราชสำนักมากเกินไป ที่สำคัญจงอย่าได้มัวละโมบใฝ่หาความดีความชอบจนลำดับความสำคัญผิดไป” เจียงเฟิ่งหัวคิดในใจ ตอนอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 370

    “เพคะ สะใภ้รับบัญชา”จากนั้น เจียงเฟิ่งหัวก็วางหมากลงไปตัวหนึ่ง “เสด็จพ่อ ทรงแพ้แล้วเพคะ”ฮ่องเต้เหลือบมองกระดานหมากคราหนึ่ง เริ่มจากความตกตะลึง ตามด้วยสีหน้ามืดครึ้มที่มองไม่ออก จากนั้นก็ทรงหัวเราะออกมาว่า “ดูเหมือนเราไม่อาจไม่ตกรางวัลนี้แล้ว มาเล่นอีกตา หากเจ้าชนะเราอีก เราก็จะมอบรางวัลให้อีกครั้ง”เจียงเฟิ่งหัวเก็บหมากบนกระดานขึ้นมาอย่างเยือกเย็น ไร้ความลนลาน “ลูกก็ชนะมาได้อย่างหวุดหวิดเพคะ ต้องเป็นเพราะเมื่อครู่เสด็จพ่อทรงฟังลูกพูดเพลิน จึงได้ออมมือให้ลูกแน่เลยเพคะ”“เจ้าคงไม่รู้สินะ หลายวันมานี้เรามีราชโองการเรียกตัวบิดาของเจ้าเข้าวังมาเดินหมากเป็นเพื่อนเราทุกวัน เขากลับไม่เคยชนะเราเลยสักตา ช่างน่าเบื่อนัก แต่เขาบอกว่าบุตรสาวของเขาเป็นยอดฝีมือในการเดินหมาก เรายังคิดว่าเขาพูดเกินจริงเสียอีก แต่วันนี้ หลังได้เดินหมากไปกระดานหนึ่งเราก็เชื่อแล้ว”“ท่านพ่อก็เหมือนยายหวังขายแตง ที่ชอบขายเองชมเองเพคะ ต่อให้บุตรสาวของท่านจะทำสิ่งใดไม่เป็นเลย ท่านก็รู้สึกว่าดีอยู่ดีเพคะ”“ยังถ่อมตัวเข้าเสียแล้ว เมื่อมาเป็นลูกสะใภ้ของราชวงศ์เรา แค่การถ่อมตนอย่างเดียวไม่พอหรอกนะ ในอนาคตยังต้องช่วยซางเอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 369

    เมื่อเจียงเฟิ่งหัวกลับวังก็ถูกฮ่องเต้เรียนตัวไปที่ห้องทรงอักษร หลังนางรายงานเรื่องภารกิจที่ฮ่องเต้มอบหมายให้นาง ก็วางแผนจะกลับตำหนักคุนหนิงไปคารวะฮองเฮาแต่จู่ๆ ฮ่องเต้ก็ตรัสขึ้นมาว่า “ได้ยินว่าพระชายาของเหิงอ๋องชำนาญการวางหมาก เราอยากหาคนมาเล่นด้วยสักตาพอดี ว่าอย่างไร จะอยู่เล่นเป็นเพื่อนเราสักตาหรือไม่”เจียงเฟิ่งหัวคารวะลงรอบหนึ่งด้วยมารยาที่พอเหมาะ ไม่ถ่อมตัวไม่เย่อหยิ่ง แล้วกล่าวอย่างเคารพว่า “เคารพมิสู้เชื่อฟัง สะใภ้ย่อมทำตามพระบัญชาของเสด็จพ่อเพคะ แต่หากเสด็จพ่อทรงเป็นฝ่ายปราชัย ลูกจะขอรางวัลจากเสด็จพ่อสักอย่างได้ไหมเพคะ”ฮ่องเต้ตรัสว่า “อยากได้อะไรก็พูดมาได้เลย หากเจ้าเอาชนะข้าได้ ก็ถือเป็นรางวัลที่เจ้ามีผลงานใดการทำคดี แต่หากพ่ายแพ้ รางวัลก็จะไม่มีแล้วนะ”เจียงเฟิ่งหัวแอบคิดว่า “ฮ่องเต้ยังคงเป็นพวกที่ไม่ยอมเสียเปรียบ ถึงกับเอารางวัลของนางมาใช้เดิมพันหมาก หากนางชนะหมากควรนับเป็นรางวัลพิเศษไม่ใช่หรือ!”“เพคะ” นางตอบอย่างว่าง่ายเพราะในท้องของเจียงเฟิ่งหัวมีเด็กอยู่ เพื่อดูแลเด็กในท้องของนาง จึงให้หัวหน้าขันทีเฉายกโต๊ะที่สูงขึ้นเล็กน้อยเข้ามาตัวหนึ่งมาใช้แก้ขัด และยังเตรียม

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 368

    คนทั้งสองเท้าสะเอวหัวเราะขึ้นมา “คนที่คิดจะช่วยคุณหนูหลินของเราไถ่ตัวมีเต็มไปหมด ท่านต่อแถวไม่ทันหรอก อีกอย่าง ท่านก็ไม่มีคุณสมบัตินั้นด้วย อย่าได้เพ้อฝันอีกเลย” คุณหนูหลินไม่ขาดแคลนเงินทอง ทั่วทั้งหออี๋ชุนล้วนอยู่ใต้การตัดสินใจของนาง ไม่จำเป็นต้องไถ่ตัวเพราะนางไม่มีสัญญาขายตัว“ข้าจะต้องแต่งนางเป็นภรรยาให้ได้ พวกเจ้ารอก่อนเถอะ” กัวเซี่ยวตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าจะแต่งกับหลินอวี่ให้ได้ในบรรดาเหล่าคุณชายตระกูลใหญ่ กัวเซี่ยวก็พอมีชื่อเสียงอยู่บ้าง เขาหน้าตาไม่เลว ชาติตระกูลก็ไม่เลว เขาจึงคิดว่าหลินอวี่ไม่มีทางปฏิเสธแน่ได้ยินเขาพูดเช่นนั้น จื่อฮุ่ยจึงเอ่ยบ้างว่า “หากคิดจะแต่งกับคุณหนูของข้า นอกเสียจากว่าท่านจะเป็นจอหงวน นั่นอาจพอมีโอกาสบ้าง ไม่เช่นนั้นก็อย่าได้เสียเวลาอีกเลย”กัวเซี่ยวตะลึงงันไปแล้ว ที่เขาไม่ชอบที่สุดก็คือการอ่านตำรานี่แหละเห็นเขายังคงไม่ยอมจากไปอีก พวกนางก็ไม่อยากเปลืองน้ำลายกับเขาแล้ว จึงตีกัวเซี่ยวจนสลบแล้วโยนเขาออกไปนอกหออี๋ชุนเสียเลย “ช่างน่ารำคาญเหลือเกิน คนที่อยากแต่งงานกับคุณหนูของข้าตอนนี้ต่อแถวไปถึงนอกประตูเมืองนู่นแล้ว ค่อยๆ ไปต่อแถวเถอะ” พวกนางย่อมไม่เห็น

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 367

    “แม่นางหลิน เจ้าดื่มช้าๆ หน่อย” กัวเซี่ยวไม่เหลือท่าทางเสเพลไร้ความสำรวมในอดีตอีก เขาเอ่ยห้ามปรามว่า “แม่นางหลิน เจ้าอารมณ์ไม่ดีหรือ!”“ผู้ใดบอกว่าข้าอารมณ์ไม่ดีกัน” หลินอวี่กล่าวต่อว่า “สุรานี้เจ้าเป็นคนออกเงินซื้อ ท่านจะดื่มไม่ดื่ม?” กัวเซี่ยวรีบเทเหล้าออกมาอีกจอกแล้วดื่มลงไปจนหมดในอึกเดียว “ข้าดื่ม” ไม่ง่ายเลยกว่าเขาจะได้ดื่มสุรากับนาง แน่นอนว่าต้องคว้าโอกาสนี้ไว้ให้มั่นสุราผ่านไปสามรอบ กัวเซี่ยวก็ดื่มจนหน้าแดงก่ำแล้ว แม้แต่นั่งก็นั่งไม่มั่น “ดื่มอีก ข้ายังดื่มได้…ดื่ม…แม่นาง…แม่นางหลิน เจ้าช่างงามนัก”สีหน้าของหลินอวี่ยิ่งเปล่งปลั่งแดงระเรื่อ จู่ๆ นิ้วเรียวงามทั้งสิบของนางก็สัมผัสลงบนแก้มของเขา คนที่อยู่เบื้องหน้าราวกับได้กลายเป็นผู้ที่อยู่ในใจนางไปแล้ว นางพึมพำว่า “คุณชายน้อย ดื่มสุราสิ”กัวเซี่ยวถูกอารมณ์รักทำให้เลอะเลือนไปแล้ว เขาคว้ามือนางไว้แล้วดึงนางเข้าสู่อ้อมกอด “แม่นางหลิน ข้าชอบเจ้า”หลินอวี่หัวเราะอย่างหยาดเยิ้ม ตั้งแต่เด็กนางก็เรียนรู้ทักษะการล่อลวงบุรุษพวกนั้นกับเจียงเฟิ่งหัว ยามนี้นำมาใช้กับกัวเซี่ยวก็เกินจะพอ อาศัยเพียงยิ้มเดียวของนางก็ทำให้กัวเซี่ยวมัวเมาลุ่มห

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 366

    ไม่รอให้ชายฉกรรจ์ตอบสนอง หลินอวี่ก็เอ่ยเสียงหนักว่า “นำสุรามา คืนนี้พี่ชายจะออกเงินครั้งละร้อยตำลึงได้มากเท่าใด ข้าก็จะดื่มเป็นเพื่อนท่านมากเท่านั้น ว่าอย่างไร?”ม่านตาของชายฉกรรจ์หดแคบลง สุราเช่นนี้พวกเขาดื่มไม่ไหวดอก ทันใดนั้น คนทั้งสองก็ห่อเหี่ยวลงทันทีหลินอวี่ลุกขึ้นมา กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ข้าว่าสองท่านคงไม่ได้คิดมาดื่มสุราหาความสำราญ แต่เหมือนจะมาก่อเรื่องในหออี๋ชุนของข้ามากกว่า”“ผู้ใดบอกว่าไม่ได้มาดื่มสุรากัน” บุรุษหนึ่งในนั้นลุกขึ้นมา ชี้จมูกหลินอวี่ได้ก็ด่าออกมาทันทีว่า “หอสุราเน่าๆ อะไรของพวกเจ้ากัน เหล้าจอกละร้อยตำลึง ทำไมพวกเจ้าไม่ไปปล้นเสียเลยล่ะ”พูดจบเขาก็คิดจะเริ่มทำลายข้าวของ สุราอาหารกับจอกสุราถูกเขาพลิกโต๊ะจนล้มคว่ำหลินอวี่ทนไม่ไหวอีกต่อไป แต่ไม่ทันที่นางจะลงมือ ในเวลานั้นเอง ที่หน้าประตูก็มีบุรุษผู้หนึ่งบุกเข้ามาปกป้องอยู่เบื้องหน้าของนางอย่างสง่างามน่าเกรงขาม “ข้ามาแล้ว เป็นไอ้ลูกเต่าลูกตะพาบตัวไหนกล้ามาก่อเรื่องที่หออี๋ชุนกัน”“แม่นางหลินวางใจเถอะ มีข้าอยู่ไม่มีใครกล้ามาสร้างความวุ่นวายที่นี่แน่” ใบหน้ากัวเซี่ยวเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นหลินอวี่ถอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 365

    หิมะตกแล้ว หิมะที่ตกหนักและปลิวไสวดุจขนห่าน ทำให้เมืองหลวงอันเรืองรองประดุจปกคลุมไปด้วยอาภรณ์สีเงิน ทัศนียภาพที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะนี้ก็ดูงดงามมีเอกลักษณ์ไปอีกแบบไม่ว่าสงครามที่ชายแดนจะรบกันหนักหน่วงเพียงใด ล้วนไม่อาจส่งผลกระทบต่อเมืองหลวง ที่ยังคงคึกคักและรุ่งเรืองเช่นเดิมเจียงเฟิ่งหัวสวมเสื้อคลุมอันหรูหราที่มีหมวกคลุมศีรษะยืนอยู่ข้างหน้าต่างพลางทอดสายตาออกไปไกล ความคิดของนางล่องลอยออกไปไกลแสนไกล แววตาที่ลึกล้ำดุจบึงน้ำอันหนาวเหน็บสาดประกายเย็นเยียบออกมาคิดไม่ถึงว่าจะจัดการกับจีเฉินได้รวดเร็วเช่นนี้ ในชาติก่อน จีเฉินเป็นแรงหนุนคนสำคัญของซูถิงหว่าน พวกเขาคนหนึ่งอยู่ในวังคนหนึ่งอยู่นอกวัง ในนอกเสริมประสาน การกำจัดเขาทิ้งในเวลานี้จึงถือเป็นการกำจัดศัตรูคู่แค้นที่สำคัญไปได้คนหนึ่ง“เจ้าต้องกลับวังอีกแล้วสินะ! ข้าจะไม่ได้เห็นเจ้าอีกหลายเดือนอีกแล้วใช่หรือไม่ หวังจริงว่า ข้าจะอยู่เคียงข้างเจ้าตอนเจ้าคลอดลูกได้ คนอื่นล้วนบอกว่า การคลอดลูกเป็นด่านความเป็นตายของผู้หญิงที่เท้าข้างหนึ่งก้าวไปอยู่ในตำหนักมัจจุราช” หลินอวี่ยืนอยู่ข้างนาย มองตามสายตาของนางไปยังควันที่ลอยอ้อยอิ่งอยู่ไกลออกไป

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 364

    เนื่องจากสายสัมพันธ์กับซูฮองเฮา บัดนี้ อำนาจของซูไทเฮาจึงเหนือล้ำเฉิงฮองเฮาไปแล้วดังนั้น ฝูลู่จึงไม่กล้าล่วงเกินฮองเฮาเช่นกัน เพราะไม่ว่าอย่างไรยามอยู่ต่อหน้าฮ่องเต้ ตำแหน่งแห่งที่ของเขาก็ยังไม่มั่นคงนัก ขันทีผู้หนึ่งแบบเขาจะไปช่วยใครได้ เขาช่วยผู้ใดไม่ได้ทั้งนั้นยังคงยุ่งเรื่องผู้อื่นให้น้อยลงจะดีกว่า!“คืนนี้ ฝ่าบาทจะทรงพลิกป้ายของพระสนมท่านใดพ่ะย่ะค่ะ?”ฮ่องเต้กล่าวว่า “ไม่พลิกป้ายแล้ว ช่วงนี้ข้างานราชกิจรัดตัว ไม่ต้องจัดนางสนมมาปรนนิบัติแล้ว ตรงไปที่ห้องทรงอักษรเลยเถอะ!”“พ่ะย่ะค่ะ” ฝูลู่กล่าว นับตั้งแต่ฮ่องเต้กลายเป็นองค์รัชทายาท มีวันใดที่ทรงไม่ยุ่งบ้าง เหล่าพระสนมในวังล้วนได้ไทเฮาดูแลทั้งนั้น ก็น่าจะทรงไปทำความรู้จักบ้างเฮ้อ! สถานที่ที่ฮ่องเต้ไปมากที่สุดยังคงเป็นตำหนักคุนหนิงของฮองเฮา ดูท่าเสียนเฟยคงไม่มีโอกาสแล้ว ยังดีที่นางมีลูกสองคนจึงยังรักษาตำแหน่งเสียนเฟยไว้ได้เมื่อจีเฉินที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าเห็นฉากนี้ ในใจก็ยิ่งตื่นเต้น อย่างนั้นก็แปลว่าในอนาคตเจียงเฟิ่งหัวจะไม่ได้เป็นฮองเฮา และเซี่ยซางก็ไม่ได้ชอบนางด้วยแต่ไม่ถูกสิ!ลูกก็คลอดออกมาแล้ว เหตุใดพวกเขาสองคนจึงยังดู

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status