แชร์

บทที่ 87

ผู้แต่ง: จูน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
ฮองเฮากลับเข้าไปในตำหนัก พลางกล่าว “เจ้าเข้าไปหลบที่ฉากกั้นด้านหลังเถอะ แล้วข้าจะทำให้เจ้าได้ประจักษ์แก่สายตา ว่าความสามารถที่ว่าของเฉินหลิงหลง แท้จริงแล้วจะน่าทึ่งเพียงใด”

ฮองเฮานั่งลง เพิ่งจะดื่มชาไปได้อึกเดียว แม่นมหยางก็พาเฉินหลงหลงเข้ามา

การหมอบกราบมาตลอดทาง ทำให้หน้าผากของนางบวมนูนขึ้นมา เริ่มมีเลือดซึมออกมา และยืนเซเล็กน้อย

ฮองเฮาเหลือบตามองเฉินหลิงหลงครู่หนึ่ง จากนั้นก็เรียกให้แม่นมหยางมาหา และกระซิบลงข้างหูนาง แล้วนางก็หมุนตัวเดินออกไป

มหาเสนาบดีเซี่ยดึงตัวนางสนมเหมยมา ตัวนางสนมเหมยนั้นไม่ยินยอม แต่พอมหาเสนาบดีเซี่ยพูดบางอย่างกับนาง นางก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นถึงยอมมาด้วยกัน

แต่ทว่าพอมาถึงวังจิ้งหนิง กลับเจอแม่นมหยางยืนเฝ้าอยู่หน้าประตู พลางกล่าว “สนมหมย มหาเสนาบดี เชิญท่านทั้งสองไปดื่มชาที่ห้องปีกตะวันตกก่อนเถิด ฮองเฮามีเรื่องจะคุยกับฟูเหริน”

นางสนมประหลาดใจเล็กน้อย วังจิ้งหนิงเป็นที่ที่นางมาบ่อย และรู้ด้วยว่าจากห้องปีกจะวันตกสามารถมองเห็นทุกอย่างภายในตำหนักผ่านม่านลูกปัด

แท้จริงแล้วฮองเฮากำลังเล่นตลกอะไรอยู่กันแน่?

นางสบตากับมหาเสนาบดีเซี่ยครู่หนึ่ง จากนั้น
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 88

    ดวงตาของฮองเฮาเบิกกว้าง “ขนาดทำไปตามใจแต่ได้ผลงานคุณภาพสูงขนาดนี้ หากตั้งใจอีกสักหน่อย จะงดงามมากเพียงใด? ความสามารถของฟูเหริน หยวนซื่อเทียบไม่ติดเลยแม้แต่น้อย”หลิงหลงฟูเหรินทัดปอยผมที่ร่วงหล่นลงมาตอนที่นางเดินสามเข่าและหน้าผากแตะพื้นเก้าครั้ง ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มที่ดูสงบเสงี่ยม “ฮองเฮาก็ชมเกินไปเพคะ หม่อมฉันเองก็ไม่ชอบเปรียบเทียบกับหยวนซื่อด้วย”ฮองเฮาหัวเราะขึ้นมา “เมื่อพูดมาแบบนี้แล้ว ภาพภาพนี้ คงจะมาจากฝีมือของฟูเหรินจริง ๆ สินะ?” หลิงหลงฟูเหรินตอบอย่างไม่ลังเลเลยว่า “ฮองเฮา จริงที่สุดเพคะ เพียงแต่ว่าตอนนี้หม่อมฉันได้ปฏิญาณตนต่อหน้าพระแล้วว่า หม่อมฉันจะไม่วาดภาพอีก”พอฮองเฮาได้ฟังคำนี้ ก็ยกภาพที่ม้วนอยู่ขึ้นทันที และตะโกนเสียงแข็ง “ทหาร นำตัวกบฏที่คิดจะทำลายราชวงศ์โจวผู้ยิ่งใหญ่ของข้าออกไป!”หลิงหลงฟูเหรินตกใจ มององค์รักษ์สองนายที่รีบวิ่งเข้ามาจากนอกตำหนักอย่างงุนงง โดยไม่รู้เรื่องเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น เมื่อครู่ยังพูดถึงเรื่องภาพอยู่ แล้วทำไมจู่ ๆ ถึงลากเข้ามาเรื่องกบฏหรือคนทรยศอะไรนี่ได้มหาเสนาบดีเซี่ยที่อยู่ห้องปีกตะวันตกอยากจะพุ่งออกไป แต่กลับถูกนางสนมเหมยที่ดูประต

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 89

    เมื่อฮองเฮาได้ฟังคำกล่าวนี้แล้ว ก็ปัดมือให้องค์รักษ์ออกไป และจ้องเขม็งไปยังหลิงหลงฟูเหรินพลางถาม “เจ้าว่าอะไรนะ? เป็นภาพที่หยวนซื่อวาดงั้นหรอ? หากหยวนซื่อเป็นคนวาดแล้วเหตุใดจึงมาเป็นของของเจ้าได้? แล้วไหนจะยังกลายมาเป็นของขวัญที่เจ้ามอบให้มหาเสนาบดีเซี่ยอีก?”“ฮองเฮาเพคะ เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงนะเพคะ ภาพภาพนี้เป็นภาพที่หยวนซื่อวาดจริง ๆ เดิมทีนั้นหยวนซื่อได้มอบภาพภาพนี้ให้กับองค์ชายอาน วันนั้นข้ารับใช้ที่ดูแลหยวนซื่อถูกหม่อมฉันซื้อตัวมา ภาพนี้จึงตกมาอยู่ที่หม่อมฉันเพคะ” หลิงหลงฟูเหรินได้แต่ภาวนาให้ฮองเฮาเชื่อคำพูดของนาง จะอะไรก็ไม่สนแล้วทั้งนั้นฮองเฮาโกรธจัด “เหลวไหล ภาพนี้จะมอบให้องค์ชายอานได้อย่างไร? หยวนซื่อแต่งงานกับมหาเสนาบดีไปแล้ว ที่เจ้าบอกว่านางมอบภาพนี้ให้แก่องค์ชายอาน จะหาว่านางเป็นหญิงแพศยาอย่างนั้นหรอ? เจ้านี่มันดื้อดึงไม่เปลี่ยน จนทุกวันนี้ก็ยังคิดแต่จะใส่ร้ายหยวนซื่อ”“ไม่นะเพคะ ไม่ใช่” หลิงหลงฟูเหรินเห็นว่าฮองเฮายังโมโหอยู่ ก็รีบอธิบายต่อทันที “ภาพนี้ไม่ใช่ของแทนใจเพคะ หม่อมฉันฟังที่ข้ารับใช้ข้างกายหยวนซื่อว่า ที่หยวนซื่อมอบภาพภาพนี้ให้องค์ชายอาน เพื่อสื่อความหมายกับ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 90

    เธอเคยสาบานเอาไว้ ว่าต้องล้างแค้นให้เจ้าของร่างเดิมให้ได้หลิงหลงฟูเหรินค่อย ๆ คืบคลานอยู่บนพื้น ร่ำไห้จนไม่น่ามอง “ฮองเฮาเพคะ ได้โปรดเชื่อหม่อมฉันเถอะเพคะ ภาพภาพนี้เป็นภาพที่หยวนซื่อวาดจริง ๆ”ฮองเฮายิ้มอย่างเยือกเย็น “เอาล่ะ ในเมื่อเจ้าบอกว่าหยวนซื่อเป็นคนวาด งั้นข้าก็จะให้หยวนซื่อเข้าวังมาประจันหน้ากับเจ้า”หลิงหลงฟูเหรินได้แต่ก่นด่าตนเองในใจ หยวนซื่อจะยอมรับว่าภาพนั้นนางเป็นคนวาดได้อย่างไร? และยิ่งไปกว่านั้น หลังจากที่เรื่องนี้ถูกปล่อยออกไป เซียงแหยจะต้องโกรธที่นางกุเรื่องสร้างภาพหลอกลวงแน่นอนแต่ในเมื่อเรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ยังมีวิธีทางใดอีก?ขณะที่แม่นมหยางออกจากวังไปอีกครั้งเพื่อไปรับหยวนซื่อ ฮองเฮาก็มีรับสั่ง ให้คุมตัวหลิงหลงฟูเหรินผู้ทรยศและมักใหญ่ใฝ่สูงไปคุมขังที่ห้องลงทัณฑ์ชั่วคราวใบหน้ามหาเสนาบดีเซี่ยซีดเผือด การถูกส่งตัวเข้าไปในห้องลงทัณฑ์ ต่อให้รอดชีวิตออกมาได้ ก็อับอายขายหน้าไปแล้วกว่าครึ่งค่อนชีวิต นางสนมเหมยที่เห็นมาถึงตรงนี้ ก็อยากที่จะออกไปแล้ว มหาเสนาบดีเซี่ยกัดฟันพลางกล่าว “พระสนมไม่ว่าอย่างไร วันนี้พระนางก็ยังเป็นคนของเสนาบดีอย่างข้า ได้โปรดเห็นแก่ยศขอ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 91

    นางสนมเหมยและมหาเสนาบดีเซี่ย เปิดม่านลูกปัดและเดินออกไป นางสนมเหมยกระซิบว่า “ฮองเฮา ทำไมต้องทรงขุ่นเคือง พ่ะย่ะค่ะ? เฉินหลิงหลงไม่มีความคิดทะเยอทะยานที่จะก่อกบฏ”ฮองเฮาเหลือบมองทั้งสองอย่างแผ่วเบา สุดท้ายแสงก็ตกใส่หน้าของมหาเสนาบดีเซี่ย “วันนี้ท่านทั้งสามได้เตรียมฉากดี ๆ สำหรับข้าไว้แล้ว ข้าจะไม่คืนกลับได้อย่างไร?”มหาเสนาบดีเซี่ยคุกเข่าและกล่าวว่า “มหาเสนาบดีถูกตัดสินว่ามีความผิดแล้ว ฮองเฮาได้โปรดจัดการกับมัน นั่นคือไม่จำเป็นต้องมีเรื่องไร้สาระอีกต่อไปแล้ว ถ้าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับหยวนซื่อ มันจะรบกวนคนจำนวนมากอย่างแน่นอน”“ข้าไม่กลัวคนมาวุ่นวาย แล้วเจ้ากลัวอะไรเล่านางสนมเหมย? มันน่าแปลกนัก กลัวจะไปแตะต้องหยวนซื่อ ทำไมวันนี้เจ้าผลักทุกอย่างให้หยวนซื่อ เจ้าคิดว่าข้าจะไม่เปิดเผยเรื่องนี้กระนั้นหรือ” หรือเจ้าคิดว่าจะสามารถซ่อนมันจากผู้คนในโลกนี้ได้? ที่ประตูของมหาเสนาบดีในวันนั้น เซี่ยจื่ออานได้นำหนังสือหย่าออกมา เจ้าได้ปลุกความโกรธของสาธารณชนแล้ว ไม่มีใครอยากจะเชื่อว่าเด็กสาวที่มีความสามารถที่พวกเขาชื่นชมอย่างชุ่ยหยูจะเป็นคนเช่นนี้ เพียงเพราะทุกคน ยากที่จะพูด ถ้าเซี่ยจื่ออานไม่มีความพ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 92

    การแสดงออกของเขาค่อย ๆ เคร่งขรึม “ข้าสัญญาว่าจะไม่มีวันปล่อยให้เจ้าต้องไปใช้ชีวิตแบบนั้นอีก”จื่ออานถึงกับผงะ ทันใดนั้นก็ตระหนักว่าเขาเข้าใจผิด จึงหัวเราะแห้ง ๆ “ข้าพูดเกินจริงไปหน่อย จริง ๆ แล้วไม่ใช่อย่างนั้นหรอก อาหารมื้อก่อนของข้าก็อร่อยดี มีอาหารสามจาน ซุปหนึ่งถ้วยและข้าว เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว”มู่หรงเจี๋ยส่งเสียงตอบรับ ทนไม่ได้ที่จะหลอกตัวเองบรรยากาศค่อย ๆ เคร่งขรึมขึ้นเล็กน้อย เมื่อเห็นว่านางอิ่มแล้ว มู่หรงเจี๋ยก็สั่งให้นางเทอาหารลงไป จื่ออานเกือบจะโพล่งออกมา “สิ้นเปลืองเกินไป เก็บไว้เป็นอาหารยามดึกก็ได้”มู่หรงเจี๋ยเผยความโกรธเล็กน้อยในดวงตา “ถ้าเจ้าต้องการทานอาหารยามดึก ค่อยทำใหม่แล้วกัน”จื่ออานมองลงมาดูเขาอย่างสงบ มีความอ่อนแอในใจนางอย่างช้า ๆ แต่อย่าทำดีกับนางขนาดนี้ สิ่งสุดท้ายที่นางต้องการคือ ความสงสัยนางหันศีรษะไปอย่างเร่งรีบ มองดูการสูญเสียเล็กน้อยในอดีตและชีวิตตอนนี้ ไม่มีคนรอบตัวนางดูเหมือนใส่ใจนางเลย ดังนั้นเมื่อหยวนซื่อชื่นชอบนาง นางจะปฏิบัติต่อหยวนซื่อเหมือนแม่ของนางเอง และยังเป็นเด็กรับใช้ที่ยังไม่โตเป็นผู้ใหญ่ ที่ได้รับน้ำและซาลาเปาอีกสองลูกจากคนเฝ้าประต

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 93

    หยวนซื่อเพียงแค่เหลือบมองหลิงหลงฟูเหรินอย่างเฉยเมย การแสดงออกของเขาไม่ได้รับผลกระทบ ราวกับว่าเขาไม่รู้จักเธอเลยเธอก้าวไปข้างหน้าและคุกเข่าลงคำนับ “พระชายาของมหาเสนาบดี หม่อมฉันหยวนชุ่ยหยูขอเข้าเฝ้าฮองเฮา ถวายพระพรฮองเฮาเพคะ”“หยวนชุ่ยหยู!” ฮองเฮาจ้องเธอ เมื่อตอนยังเด็ก เธอพบหยวนซื่อหลายครั้ง แม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิง แต่ก็ต้องยอมรับว่าหยวนซื่อเป็นเหมือนเทวดาจริง ๆ แต่ก็ไม่ใช่แบบที่จะทำให้คนเป็นมนุษย์ริษยาในความงดงามหลังจากการจากลาไปหลายปี ฮองเฮาก็สัมผัสที่หางตาโดยไม่รู้ตัว หลายปีผ่านไป ดูเหมือนผ่านพ้นยุคของหยวนซื่อไป เธอมีชีวิตที่ผันผวนมากกว่าเดิมเพียงเล็กน้อย แต่เธอไม่เคยแก่ลงเลย“ถวายพระพร เพคะ!” หยวนซื่อเอื้อมมือลงบนพื้น ก้มศีรษะและเงยศีรษะขึ้น ดวงตาของนางดูอ่อนโยนและไม่แยแสมหาเสนาบดีเซี่ยมองจากหลังม่าน นี่เป็นครั้งแรกที่เขามองหยวนซื่อจากสายตาของคนนอกในรอบหลายปีต้องบอกว่าเธอกับเฉินหลิงหลงกำลังคุกเข่าอยู่ข้างนอก ไม่ต้องพูดถึงว่าตอนนี้เฉินหลิงหลงกำลังถูกทุบตีแบบนี้ แค่สวมชุดที่ดูดี และโฉมหน้าก็ไม่ดีเท่าเธอสำหรับอารมณ์ ทัศนคติ และความหมายแฝงนั้นตรงไปตรงมายิ่งขึ้นเขามีความรู้

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 94

    เมื่อได้ยินหลิงหลงฟูเหรินตะโกน เซี่ยหวายจุนก็ส่ายหัวเล็กน้อย การกระทำของฮองเฮานั้นช่างโหดร้ายเสียจริง ดังนั้นเซี่ยหวายจุนจึงสามารถเห็นความแตกต่างระหว่างทั้งสองด้วยตาของเขาเอง แต่เขาชอบความโหดร้ายเช่นนี้ไม่ต้องขยับ ก็ไปสะกิดหัวใจแล้วนอกจากนี้ นางเชื่อว่าแม่ของนางสามารถอธิบายความหมายในภาพได้อย่างง่ายดาย ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการทรยศหยวนซื่อกล่าวว่า “ฮองเฮา ดอกชบาบานในตอนเย็นและตกดิน เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นมาก็จะบานอีกครั้ง มันจะเหี่ยวเฉาได้อย่างไรเพคะ? ส่วนดอกสาลี่ก็เพราะเวลาในเดือนมีนาคม ดอกสาลี่จะบานดีกว่า เพราะมีหิมะในเดือนมีนาคม หิมะจะมีเฉพาะในฤดูหนาว ในฤดูหนาวนั้น จะมีจุดสิ้นสุดในหนึ่งปี แม้ว่าจะมีการพาดพิง ก็หมายความว่าโลกของตระกูลหลี่ได้สิ้นสุดลง และไม่มีการกบฏอย่างแน่นอน เพคะ”ฮองเฮาพ่นลมหายใจเมื่อได้ยินคำนั้น “ถึงเจ้าจะพูดถูก แต่เมื่อเจ้าวาดภาพนี้ เจ้าได้แต่งงานกับเซียงแหยในฐานะฮูหยินแล้ว ทำไมเจ้าถึงยังส่งภาพวาดให้องค์ชายอัน”หยวนซื่อเงียบไปนาน แล้วจึงค่อย ๆ พูดอย่างช้า ๆ ว่า “หม่อมฉันทราบความรู้สึกที่องค์ชายอันมีต่อหม่อมฉัน ตอนนั้นเขาได้กลับมาที่ราชสำนักดเวยคุณงามความดี เพื่อ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 95   

    เวลาดูเหมือนจะหยุดลง จื่ออานถอนหายใจอย่างเงียบ ๆ มู่หรงเจี๋ยกลัวว่าพระสวามีในอนาคตของเธอจะหายไป ทั้งสองไม่มีความรัก เพียงใช้ประโยชน์ซึ่งกันและกันเท่านั้นจากนั้น หลังจากได้ยิน ความเงียบของฮองเฮาเป็นเวลานาน เธอถามหยวนซื่อว่า “ภาพวาดนี้ไม่ได้ตกไปอยู่ในมือขององค์ชายอาน นางสนมของเจ้าขายให้เฉินหลิงหลง และเฉินหลิงหลงมอบให้พระสวามีของเจ้า”หยวนซื่อพยักหน้า สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง “พระชายาของมหาเสนาบดีรู้ว่า เซี่ยหวายจุนนำภาพวาดนี้กลับไปให้พระชายาของมหาเสนาบดีในวันนั้น เขาบอกว่า ตกหลุมรักคนคนหนึ่งและต้องการพานางกลับบ้าน”คำพูดของหยวนซื่อนั้นสงบและอ่อนโยน ไม่มีแม้แต่ร่องรอยของอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ ในน้ำเสียงของนาง ราวกับว่านางกำลังพูดถึงเรื่องธรรมดาฮองเฮาตรัสว่า “เขาแสดงให้เจ้าเห็นจริง ๆ เหรอ? ทำไมเจ้าไม่บอกเขาว่าเจ้าเป็นคนวาดภาพนี้”หยวนซื่อหัวเราะคิกคัก ฟันของนางเผยออกมาเล็กน้อย แต่น่าขันอย่างยิ่ง “เขาชื่นชมชื่อของหม่อมฉันและไล่ตามหม่อมฉัน หม่อมฉันแต่งงานกับเขาในฐานะพระชายาของเขา แต่เขาไม่รู้รูปแบบการวาดภาพของหม่อมฉันเลย ตั้งแต่นั้นมาหม่อมฉันก็ได้รู้ว่าเขาไม่เคยรักหม่อมฉันเลย หม่อมฉันก็เลยเลิก

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1168

    ร่างกายของแม่ทัพเฒ่าฉินสั่นสะท้านด้วยความโกรธ “เจ้าสาปแช่งปู่รึ เจ้าเคยคำนึงถึงญาติพี่น้องหรือไม่?”เมื่อหมอหลวงมาถึง กลับไม่มีคนในตระกูลฉินคอยเฝ้าเขาอยู่ในห้อง ดังนั้นจึงมีเพียงแต่บ่าวรับใช้หลังจากตรวจสอบอาการเสร็จ หมอหลวงก็กล่าวด้วยสีหน้าตกตะลึง “ท่านแม่ทัพเฒ่า เมื่อไม่กี่วันมานี้ท่านได้ไปที่ใดมา? แล้วท่านเคยเข้าไปในพื้นที่โรคระบาดหรือไม่?” “ไม่เคย ข้าไม่เคยไปที่นั่น” สีหน้าของแม่ทัพเฒ่าเปลี่ยนไปเล็กน้อย เมื่อได้ยินคำพูดของหมอหลวง “ท่านกำลังสงสัยว่าข้าติดเชื้อโรคระบาดใช่หรือไม่?”“อาการช่างคล้ายคลึงกันยิ่งนัก” หมอกลวงกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด“เป็นไปไม่ได้!” แม่ทัพเฒ่าฉินรู้สึกตื่นตระหนกอย่างมาก “ท่านวินิจฉัยผิดหรือไม่?”“ข้าจะจัดยาให้ท่านสองชนิดก่อน หากดื่มยาเหล่านี้แล้วไม่ได้ผล เช่นนั้นไม่ใช่ก็ใกล้เคียงแล้วขอรับ” หมอหลวงกล่าวแม่ทัพเฒ่าฉินกล่าวด้วยความลนลาน “ฉินโจวบังคับให้ท่านพูดเช่นนี้ใช่หรือไม่?”หมอหลวงรู้สึกประหลาดใจ “แม่ทัพเฒ่า ท่านหมายความว่าอย่างไร? เหตุใดแม่ทัพฉินถึงต้องบังคับให้ข้าพูดเช่นนี้?”หมอหลวงชะงักไปชั่วครู่หนึ่งแล้วโพล่งถาม “ท่านเคยพูดคุยกับองค์ชายเ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1167

    นางสามารถเสียสละได้ แต่จะไม่มีทางทรยศต่อประชาชนเป่ยโม่เด็ดขาดสำหรับความจงรักภักดีต่อองค์จักรพรรดิและประเทศชาติ นางจะต้องรักประชาชนก่อน จึงจะสามารถภักดีต่อองค์จักรพรรดิได้ฉินโจวกล่าวคำเบา “ข้าเข้าไปในพระราชวังเพื่อเชิญหมอหลวงแล้ว ท่านปู่พักผ่อนก่อนเถิด ข้าจะออกไปเดินเล่นรับลมสักหน่อย”ดวงตาของแม่ทัพเฒ่าฉินอัดแน่นด้วยความโกรธ แต่ก็พยายามอย่างหนักเพื่อระงับมันฉินโจวเดินออกจากห้อง และเห็นว่าฉินเป้าน้องชายของตนนั่งอยู่ที่สวน เมื่อเห็นนางเดินออกมา เขาก็ถามว่า “ท่านปู่เป็นอย่างไรบ้าง?”ฉินโจวจำคำพูดของท่านปู่ได้อย่างแม่นยำ จึงเมินเฉยต่อเขาและตอบอย่างใจเย็น “เข้าไปดูด้วยตนเองสิ”ฉินเป้าคลี่ยิ้ม แต่มันกลับดูอ้างว้างอย่างยิ่ง “ข้าได้ยินสิ่งที่ท่านปู่พูดกับท่านแล้ว ข้าไม่อยากเข้าไป”ฉินโจวตกตะลึง “เพราะเหตุใด เขาทุ่มเทความพยายามทั้งหมดไปกับหารวางแผนเพื่อเจ้า เจ้าควรขอบคุณท่านปู่สิ”ฉินเป้าหัวเราะเยาะ “จริงรึ? หากเขาทอดทิ้งท่านเพื่อตระกูลได้ ในอนาคตเขาจะไม่ทอดทิ้งข้าหรือ? ข้าไม่ต้องการชื่อเสียงหรือความดีงามใด ๆ พวกมันไม่ใช่สิ่งที่ข้าต้องการเลย”ฉินโจวดูถูกน้องชายมาโดยตลอด เพราะเขาไม่ได

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1166

    ทั้งสองคนเดินออกไปและหยุดอยู่บนทางเดิน หมอมองฉินโจวพร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด “ท่านแม่ทัพ ข้ากำลังสงสัยว่าท่านแม่ทัพเฒ่าจะป่วยด้วยโรคระบาดขอรับ”ฉินโจวตกตะลึง “โรคระบาด? เป็นไปได้อย่างไร? ปู่ของข้าไม่เคยออกไปข้างนอก และไม่เคยติดต่อกับผู้ป่วยโรคนี้เลย แล้วเขาจะติดเชื้อโรคระบาดได้อย่างไร?”“ข้าเคยรักษาผู้ป่วยโรคระบาดมาก่อน ซึ่งอาการคล้ายคลึงกันอย่างมาก ผู้ป่วยจะมีไข้สูง ไอ ตาแดง หายใจเร็วขึ้น เมื่อเกิดอาการเหล่านี้พร้อมกันจะอันตรายอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นโรคนี้ยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาดขอรับ” หมอกล่าว“เป็นไปไม่ได้ หากจะติดเชื้อโรคระบาดก็ต้องสัมผัสกับผู้ป่วยที่มีเชื้ออยู่แล้ว แต่ท่านปู่ของข้าไม่เคยใกล้ชิดคนเหล่านั้นเลย แล้วเขาจะติดเชื้อได้อย่างไร?” ฉินโจวยังคงไม่เชื่อหมอประสานหมัด “ทั้งหมดนี้คือคำวินิจฉัยของข้า หากท่านแม่ทัพไม่เชื่อ ก็สามารถขอให้หมอคนอื่นมาตรวจดูได้ หรือท่านจะพาเขาไปที่พระราชวัง และขอให้หมอหลวงช่วยตรวจอาการ ข้าไร้ความสามารถ จึงอาจวินิจฉัยผิดพลาดได้ ลาก่อนขอรับ ๆ!”สิ้นคำ หมอก็หยิบกล่องยาแล้วออกไปโดยไม่เขียนใบสั่งยาด้วยซ้ำฉินโจวสับสนไม่น้อย ท่านปู่ติดเชื้อโร

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1165

    หัวใจของฉินโจวเย็นเยียบราวกับน้ำ “ใช่ ตราบใดที่ข้าตายในสนามรบ ตระกูลฉินก็ยังจะเป็นผู้กล้า และเป็นขุนนางผู้มีเกียรติ”แม่ทัพเฒ่าฉินเงียบไปครู่ใหญ่ จากนั้นกล่าวคำเบา “ในฐานะหลานสาวตระกูลฉิน มันเป็นหน้าที่ของเจ้าที่ต้องเสียสละเพื่อชื่อเสียง และรากฐานของตระกูล”ฉินโจวกำหมัดแน่นด้วยความไม่พอใจ “หลายปีที่ผ่านมานี้ ข้ายังทำไม่พออีกหรือ? ตอนนี้มีใครในตระกูลฉินบ้างที่ไม่เกาะกินเลือดนี้ของข้า?”แม่ทัพเฒ่าฉินลุกยืนขึ้นพลางกล่าวอย่างเย็นชา “ข้าเคยเตือนเจ้าแล้ว คราวนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เจ้าจะต้องเข้าไปในพระราชวัง ข้าให้คำมั่นกับฮองเฮาเฉาแล้ว ว่าวันนี้เจ้าจะไปที่นั่นเพื่อทูลขอรับคำสั่ง หากเจ้าไม่ไป ข้าก็จะรับคำสั่งและออกรบด้วยตนเอง”“ท่าน...” ฉินโจวมองเขาด้วยสายตาโศกเศร้า “ท่านปู่ ข้าก็เป็นหลานสาวของท่านเหมือนกัน ท่านไม่สงสารข้าบ้างหรือ?”“ปู่สงสารเจ้าสิ แต่ภารกิจหน้าที่ของตระกูลฉินจะต้องถูกส่งต่อ ตอนนี้น้องชายของเจ้าโตพอแล้ว เจ้าจะต้องพาเขาไปสร้างความสำเร็จทางการทหารด้วย และเจ้าจะได้รับส่วนแบ่งของน้องเจ้า เมื่อถึงเวลานั้น ตระกูลฉินก็จะได้ผู้สืบทอดคนใหม่”ฉินโจวผงะไปชั่วครู่ ก่อนระเบิดหัวเราะ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1164

    เมื่อได้ยินคำพูดของฉินโจว แม่ทัพเฒ่าฉินก็โมโหมากจนเคราสั่นสะท้าน “อาโจว อะไรจะสำคัญไปกว่าการบรรลุเป้าหมายอันยิ่งใหญ่? องค์จักรพรรดิเพียงต้องการขยายอาณาเขตของแคว้น เจ้าควรรู้เอาไว้ว่าเมื่อเรายึดครองต้าโจวสำเร็จ เป่ยโม่จะมีพื้นที่เพิ่มมากกว่าครึ่งหนึ่ง และมันจะเป็นความดีความชอบของตระกูลฉิน ทำให้ตระกูลของเราถูกจดจำไปหลายชั่วอายุคน! นี่ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าต้องการมาตลอดรึ? เจ้าไม่ต้องการบอกคนทั้งโลก ว่าแม้ฉินโจวจะเป็นสตรี แต่นางก็สามารถประสบความสำเร็จได้อย่างผ่าเผยหรือ?”ฉินโจวมองดูใบหน้าที่ฉายแววตื่นเต้นปนโกรธเกรี้ยวของปู่ ทันใดนั้นนางก็สัมผัสได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติถูกต้อง มันคือความต้องการของนาง แต่ความสำเร็จของนางจะต้องไม่แลกกับการเหยียบย่ำกระดูกของประชาชนชาวเป่ยโม่นางรักเป่ยโม่และหวังที่จะขยายอาณาเขตของแคว้น นอกจากนี้นางยังต้องการเสาะหาดินแดนอุดมสมบูรณ์เพื่อประชาชน เพราะหวังว่าพวกเขาจะสามารถอยู่อาศัยและทำกินอย่างสงบสุข และพึงพอใจโดยไม่ต้องทนทุกข์จากการพลัดถิ่นอย่างไรก็ตาม ในตอนนี้หากต้องการบรรลุอำนาจ นางจำต้องสละชีวิตประชาชนจำนวนมาก และนำเงินภาษีของทุกคนมาใช้ในการทำสงคราม ทำให้โรคร

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1163

    มือสังหารเหล่านั้นแต่งกายคล้ายกับชาวต้าโจวและสวมหน้ากากผ้าสีดำ กลุ่มคนนิรนามราวเจ็ดถึงแปดคนกระโดดลงมาจากท้องฟ้ากลางวันแสก ๆ ทันทีที่เท้าของคนเหล่านั้นแตะพื้น พวกมันก็เริ่มโจมตีอย่างดุดันฉินโจวเห็นมือสังหารคนหนึ่งกระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกับกระบี่ยาว จากนั้นร่ายรำอยู่หลายกระบวนท่าราวกับนางฟ้าโปรยดอกไม้ ขณะแสงแดดตกกระทบกระบี่ส่องกระจายไปทั่วเหล่าทหารที่เพิ่งมาถึงกระโจนเข้าไปร่วมวงต่อสู้อย่างรวดเร็วหลังจากประดาบกันไปกว่าร้อยครั้ง มือสังหารก็ถูกบีบบังคับให้ล่าถอย ฉินโจวจ่อกระบี่ไปที่คอของหนึ่งในมือสังหาร พลางถามเสียงเข้ม “ตอบข้า ใครเป็นคนส่งเจ้ามา?”มือสังหารตอบอย่างเย็นชา “ฆ่าไอ้หมารับใช้เป่ยโม่ให้หมด!”“หมารับใช้เป่ยโม่? เห็นได้ชัดว่าพวกเจ้าไม่ได้เป็นคนเป่ยโม่ พวกเจ้ามาจากต้าโจวใช่หรือไม่?” ฉินโจวโมโหอย่างมาก ขณะชี้ดาบไปยังหน้าอกของอีกฝ่าย “ไอ้เลวมู่หรงเจี๋ยส่งพวกเจ้ามาใช่หรือไม่?”“หญิงเลวอย่าเจ้ากล้าเอ่ยชื่อของท่านอ๋อง ทำให้พระองค์มัวหมองได้อย่างไร?” มือสังหารตะโกนฉินโจวชักดาบกลับพร้อมกล่าวอย่างเย็นชา “กลับไปซะ!”มือสังหารตกตะลึง ราวกับไม่คาดคิดว่าฉินโจวจะปล่อยตัวเขาไป”เ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1162

    ฉินโจวกล่าวด้วยความโมโห “ข้าหลอกลวงเจ้าเมื่อไร?”“ไม่งั้นรึ? เจ้าและอ๋องฉีเอ่ยปากว่า หากจื่ออันตกลงเดินทางมาที่เป่ยโม่ พวกเจ้าจะส่งองค์ชายรัชทายาทไปที่ต้าโจวเป็นองค์ประกัน แล้วพวกเจ้าทำตามที่พูดแล้วหรือไม่?”“องค์ชายรัชทายาทเดินทางไปยังต้าโจวแล้ว!”“ผู้ที่เดินทางไปยังต้าโจวคือองค์ชายเจ็ด ไม่ใช่องค์ชายรัชทายาท องค์ชายเจ็ดไม่ได้เป็นที่โปรดปราน ดังนั้นจักรพรรดิเป่ยโม่จะส่งเขาไปสังเวยเมื่อใดก็ได้”“เป็นไปไม่ได้!” ฉินโจวประหลาดใจอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าผู้ที่เดินทางไปคือองค์ชายรัชทายาท เพราะองค์จักรพรรดิทรงตรัสด้วยตนเองว่าจะส่งเขาไปที่ต้าโจว“เจ้าอย่าเพิ่งสนใจเรื่องนี้เลย ก่อนหน้านี้ทั้งสองแคว้นตกลงทำสนธิสัญญาสงบศึก หลังจากการแพร่ระบาดสิ้นสุดลง แต่เจ้ากลับวางแผนโจมตีพวกเราในขณะที่ข้ายังอยู่ที่เป่ยโม่ เจ้าจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร?” มู่หรงเจี๋ยกล่าวอย่างเคร่งเครียดฉินโจวตอบ “ผิดแล้ว เป็นเพราะต้าโจวที่เคลื่อนทัพโจมตีทหารฝั่งขวาของเราก่อน และสังหารทหารของเราไปกว่าร้อยคน ข้าจึงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากเคลื่อนทัพเข้าไปใกล้ เพื่อบีบบังคับให้พวกเจ้าถอยกลับ”“ไร้สาระ กองทัพของเราหยุดเคลื่อนท

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1161

    อย่างไรก็ตาม การจัดหาเสบียงอาหารสำหรับพื้นที่ภัยพิบัติยังไม่เพียงพอ และยังขาดแคลนเสื้อผ้าอาภรณ์ นอกจากนี้หลังจากที่พระชายาผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์มาถึงเป่ยโม่ ก็ยังไม่ได้รับใบสั่งยาแม้แต่ฉบับเดียว ดังนั้นความอดทนของประชาชนจึงค่อย ๆ หมดลง แต่ความโกรธและความขุ่นเคืองกลับยิ่งมากขึ้นทันทีที่ข่าวลือแพร่สะพัด ก็เป็นเสมือนเป็นการขว้างเปลวไฟใส่ ‘ระเบิด’ หนึ่งหมื่นตุน ทำให้มันระเบิดออกอย่างรวดเร็วผู้ประสบภัยนับไม่ถ้วนหลั่งไหลเข้าสู่เมืองหลวงอย่างรวดเร็วหลังจากที่ฉินโจวลงจากภูเขา นางก็พบว่าองค์จักรพรรดิทำอะไรกับทหารม้า และทหารเจ็ดหมื่นนายที่ประจำการที่เมืองหลวง ซึ่งเขาออกคำสั่งให้ทหารเหล่านั้นขับไล่เหล่าผู้ประสบภัยออกไปนางเห็นด้วยตาตนเองว่าทหารใต้บังคับบัญชาของนางสร้างกำแพงมนุษย์อันแน่นหนา เมื่อผู้ประสภัยเดินทางเข้ามา พวกเขาก็จะโบกหอกเพื่อขับไล่คนเหล่านั้นออกไปผู้ประสบภัยมากกว่าสิบรายได้รับบาดเจ็บจากหอกทหารเหล่านั้นอยู่ใต้บังคับบัญชาของนาง แม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะไม่ได้ฆ่าผู้ใด แต่เมื่อสถานการณ์รุนแรงขึ้นจะต้องมีการฆ่าแกงกันอย่างแน่นอนฉินโจวโกรธจัดจึงขี่ม้าเข้าไปขวางเอาไว้ “หยุด หยุดเ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1160

    ฉินโจวกวาดสายตามองพลางเยาะเย้ยจื่ออันไม่สนใจนาง และพาหลินตานไปยังเขตตะวันตกภายในสองวันนี้มีผู้เสียชีวิตถึงสามคน ซึ่งทั้งหมดถูกหามออกไปหลังจากที่หลินตามเดินเข้ามาเขาหลั่งน้ำตาหลั่งน้ำตาขณะมองดูการเผาศพจื่ออันไม่คิดว่าเขาจะมีความอ่อนไหวมากเพียงนี้ “ท่านหมอหลิน ท่านเป็นอะไรหรือไม่?”หลินตานปาดน้ำตา “ข้าขอโทษ ข้าเพียง... คิดถึงครอบครัวขอรับ”“ครอบครัวของท่าน? แล้วตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ใดหรือ?” จื่ออันถาม“ตายหมดแล้วขอรับ ภรรยาและลูกสะใภ้ของข้าตายเพราะเหตุแผ่นดินไหวทั้งคู่ ส่วนลูกชายและหลานชายติดเชื้อโรคระบาดก่อนตายไปเช่นกัน ข้าจึงเป็นคนเดียวที่เหลือรอด” หลินตานสูดหายใจเข้าลึก ใบหน้าที่อยู่ภายใต้ผมสีขาวฉายแววความเศร้าโศกและหดหู่จื่ออันไม่คาดคิดว่าเขาจะมาจากพื้นที่โรคระบาดเช่นกัน เมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อย จื่ออันก็ไม่รู้จะปลอบใจเขาเช่นไร จึงได้แต่นิ่งเงียบและอยู่เคียงข้างไม่นานหลินตานก็ถามว่า “ท่านหมอเซี่ย โรคระบาดนี้สามารถรักษาหายได้จริงหรือขอรับ?”ตอนนั้นเองจื่ออันก็นึกได้ว่าเขาเป็นหมอเท้าเปล่า และหลังจากเดินทางพเนจรไปที่ต่าง ๆ เขาอาจรู้จักจินเย่าฉือก็เป็นได้ ดังนั้นจึงรีบถามว

DMCA.com Protection Status