แชร์

บทที่ 7

ผู้เขียน: จูน
ผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิกลับค่อย ๆ เบะริมฝีปากหัวเราะเยาะเซี่ยจื่ออัน แม้ว่าเจ้าจะฉลาด แต่ก็กลับอวดฉลาดด้วยเช่นกัน เจ้าคิดว่าที่เจ้าบอกว่าเจ้าเป็นหมันนั้น แล้วฮองเฮาจะยอมแพ้และลงโทษมหาเสนาบดีหรอกหรือ ไม่เลยนั่นเป็นข้อห้ามของอ๋องเหลียง ดังนั้นหยุดเสียเถอะ ไม่เช่นนั้นเขาจะคิดว่าที่เจ้าบอกว่าตนเองเป็นหมันคือ การกำลังตีวัวกระทบคราด

อ๋องเหลียงจ้องมายังจื่ออันอย่างดุร้าย “หากหมอหลวงตรวจพบว่าเจ้าโกหก ข้าจะแทงเจ้าด้วยมีดพันเล่มทีเดียว”

ผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิส่ายหัวเล็กน้อย มองไปยังใบหน้าที่ตกใจอย่างเฉียบพลัน ดูท่าชีวิตของหญิงสาวผู้นี้คงจบสิ้นแล้วกระมัง

อ๋องเหลียงเริ่มมีท่าทีแปลก ๆ เขาตัวสั่นเทา เริ่มจากปากไปถึงร่ายกายที่ค่อย ๆ สั่นขึ้น ๆ สีหน้าเริ่มเปลี่ยนจากซีดเป็นเขียว ริมฝีปากเริ่มม่วง

ทันใดนั้น เขาก็ล้มลงกับพื้น ร่างกายแข็งทื่อ เท้าพยายามถีบไปข้างหน้า ใบหน้าชักกระตุก ร่างกายกระตุกและเกร็ง

มู่หรงเจี๋ยพร้อมกับฮองเฮาล้วนตกใจกับเหตการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า ฮองเฮารีบวิ่งพรวดเข้าไป ตะโกนด้วยความตกใจสุดขีด “หมอหลวง เร็วเข้า!”

จื่ออันเห็นเหตุการณ์ดังกล่าว ก็รู้ทันทีว่าอาการลมชักของเขากำเริบ เห็นปากของเขาเบี้ยว หากกัดลิ้นขึ้นมา เกรงว่าโทษฐานนี้คงจะอยู่บนหัวนางอย่างแน่นอน

หมอหลวงยังไม่ทันได้คิดสิ่งใด เธอก็รีบปรี่วิ่งเขาไปบีบขากรรไกร และนำมือไว้ในปากของเขา จากนั้นใช้มือแยกฟันและลิ้นออกจากกัน แล้วนั่งลงที่พื้นทันที หลังจากนั้นจึงใช้มืออีกข้างยกศีรษะเขาวางบนตังเบา ๆ อาการปวดเกิดขึ้นที่มือของเขาอย่างฉับพลัน เจ็บปวดจนรูขุมขนทั้งร่างกายเปิดออกทันที

เธอรู้ว่าการใช้มือยับยั้งลิ้นของเขาช่างไร้เหตุผลเสียจริง แต่เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่น

เลือดไหลออกจากปากอ๋องเหลียง จื่ออันจับศีรษะของเขาเอียงไปข้าง ๆ เล็กน้อย เพื่อให้เลือดและน้ำลายไหลออกมาให้หมด

มู่หรงเจี๋ยก็แสดงท่าทีเข้าไปดูเช่นกัน เขาไปช่วยด้านหน้าและเห็นนิ้วมือของนางถูกกัดจนเลือดไหลออกมา ช่วยไม่ได้ที่จะตกใจเล็กน้อยและมองนางด้วยความประหลาดใจ

ฮองเฮารีบคิดพยายามคลายตะคริวที่ขาทั้งสองข้างของท่านอ๋องเหลียงจื่ออันรีบพูดว่า “ฮองเฮา อย่าทำแบบนั้นเลยเพคะ หากใช้กำลัง ฝ่าบาทอาจได้รับบาดเจ็บ”

ฮองเฮาเงยหน้าขึ้นและมองไปยังจื่ออัน สายตาแสดงความรู้สึกซับซ้อน มือทั้งสองค่อย ๆ ปล่อย เพียงโอบกอดร่างท่านอ๋องเหลียงอย่างอ่อนโยน นัยต์ตามีน้ำตาไหลออกมาทันที

ตอนที่หมอหลวงมาถึง อาการลมชักของอ๋องเหลียงก็หยุดแล้ว มีเพียงอาการชักกระตุกเล็กน้อย

จื่ออันดึงมือออก นิ้วทั้งสามเลือดไหลออกมาเป็นหยด

อ๋องเหลียงหมดสติไป จากนั้นจึงถูกย้ายไปนอนที่เตียงในตำหนัก หมอหลวงช่วยรักษาและให้ข้าราชบริพารไปต้มสมุนไพรจีน

ฮองเฮานั่งอยู่ข้างกายของท่านอ๋องเหลียงไม่สามารถกล่าวโทษอันใดได้อีกแล้ว ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวลและความหวาดกลัว

จื่ออันก้มศีรษะลง ภายในใจคิดใคร่ครวญต่อ

เธอเขาวังในวันนี้ ตอนแรกตัดสินใจเข้ามาเพื่อทำร้ายอ๋องเหลียง แต่เธอดันยื่นมือไปช่วยชีวิตเขาเสียได้ ด้วยคุณความดีนี้ที่เธอได้ช่วยชีวิตเขา แม้ว่าฮองเฮาต้องการจะประหารเธอ ความคิดนั้นก็อาจจะหยุดลงชั่วขณะ

กลับนึกไม่ถึงว่า อาการลมชักที่กำเริบของท่านอ๋องเหลียงและความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้ายกันแน่ กับการที่อ๋องเหลียงเป็นแบบนี้ สาเหตุก็เพราะได้ยินว่าเธอเป็นหมัน

ภายใต้การดูแลรักษาของหมอหลวง อาการของอ๋องเหลียงเริ่มฟื้นคืนเป็นปกติ

เขาจับศีรษะที่ปวดเมื่อย ใบหน้าทั้งใบอันซีดเซียว และร่างกายที่อ่อนแรง เขามองไปที่ฮองเฮา “เสด็จแม่ เกิดอะไรขึ้นกับลูกหรือ”

ฮองเฮาใช้มือจับเขา ปลอบโยนเขาเบา ๆ “ไม่เป็นไรแล้ว ไม่เป็นไรแล้วนะ”

จื่ออันเลิกคิ้วขึ้น เห็นมือของฮองเฮาสั่นเทา นางรักโอรสองค์นี้มาก และหวังไว้มากที่จะให้เขาสืบสกุล

หมอหลวงยืนขึ้นและกราบทูลฮองเฮา “ฮองเฮาจัดการได้ดีมากพ่ะย่ะค่ะ หากไม่ได้อุดปากของท่านอ๋องเหลียงเอาไว้ ฝ่าบาทจะต้องกัดลิ้นตัวเองจนขาดเป็นแน่ โชคดีจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ”

หากกัดลิ้นจนขาด เขาก็จะกลายเป็นใบ้ อ๋องเหลียงร่างกายไม่สมบูรณ์ แถมยังเป็นใบ้ เขาจะใช้ชีวิตต่อไปได้อย่างไร

ฮองเฮาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย มองหน้าจื่ออัน แล้วทำท่าบอกให้จื่ออันออกไปก่อน จากนั้นจึงหันไปถามหมอหลวง “เหตุใดอ๋องเหลียงถึงเป็นเช่นนี้”

จื่ออันได้ยินคำถามดังกล่าว ก็รู้แจ้งว่าอ๋องเหลียงไม่เคยมีอาการลมชักมาก่อน ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ดังนั้นมู่หรงเจี๋ยและฮองเฮาจึงวุ่นวายจนทำอะไรไม่ถูก

เธอเดินออกไป ยืนอยู่ที่ห้องโถงภายในตำหนัก มู่หรงเจี๋ยไม่ได้เดินไปด้วย เขานั่งลงบนตั่งไม้ และมองนางอย่างเฉยเมย

จื่ออันไม่กล้าเงยหน้า ผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิคนนี้ แม้ว่าจะดูสบาย ๆ ทว่าพลังที่ออกมาจากตัวเขาดูรุนแรงและดุดัน บังคับให้เธอไม่กล้าแม้แต่จะสบตา

“เจ้ารู้วิชาการแพทย์หรือไม่” มู่หรงเจี๋ยถามออกมาทันที

จื่ออันตอบอย่างรอบคอบ “หากเกี่ยวกับท่านอ๋องเหลียง ข้าพอรู้เพียงเล็กน้อย”

มู่หรงเจี๋ยไม่ได้พูดอะไรต่อ เพียงแต่นั่งพินิจพิเคราะห์นางอย่างละเอียด สายตาอันเชียบคมที่จ้องมา ทำให้จื่ออันรู้สึกอึดอัดมากทีเดียว

ครู่หนึ่งฮองเฮาและหมอหลวงก็ออกมา ฮองเฮาบุ้ยปากกับหมอหลวง หมอหลวงก็คำนับและเดินตรงมายังจื่ออัน

จื่ออันรู้ดีว่าเขามาเพื่อพิสูจน์อาการหมันของเธอ เธอจึงค่อย ๆ ยื่นมือออกมา หมอหลวงยังคงสงสัย จึงแตะไปที่ชีพจรโดยตรง

จากความคิดของหมอหลวง เห็นว่าฮองเฮายังคงคิดไม่เปลี่ยน

หลังจากตรวจชีพจร หมอหลวงก็ซักถามอาการต่าง ๆ นา ๆ อย่างละเอียด

จื่ออันทำตัวไม่ถูก ได้แต่ตอบคำถามไปทีละข้อ

หลังหมอหลวงตรวจเสร็จสิ้น ก็เดินไปหาฮองเฮา พร้อมคำนับเล็กน้อย

ฮองเฮาทำเสียงสงสัย และพูดว่า “เจ้าเข้าไปดูอาการอ๋องเหลียงก่อน ทางราชสำนักจะดูแลเจ้าเอง หากเกิดสิ่งใดขึ้น”

หมอหลวงตอบรับ “พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมขอตัว”

หมอหลวงก้มลงเปิดมูลี่ และเข้าไปในห้องโถงข้าง ๆ จู่ ๆ จื่ออันก็บอกให้เขาหยุด “หมอหลวง ฝ่าบาททรงประชวรหนัก พระองค์จะง่วงซึม อาการอาจกำเริบอีกได้ ฉะนั้นหมอหลวงสามารถฝังเข็มที่หูของพระองค์ให้เลือดไหล ภายในครึ่งเดือนก็จะไม่มีอาการอีก”

หมอหลวงตกใจเล็กน้อย “ฝังเข็มให้เลือดออกรึ”

“ถูกต้อง ถ้าจะให้ได้ผลดีที่สุด ควรทำทุกสามวัน มิเช่นนั้น จากอาการของท่านอ๋องเหลียง ณ เวลานี้ เป็นไปได้ที่จะกลับมาประชวรอีกภายในสิบวัน แต่ไม่ทราบว่า นี่คืออาการครั้งแรกของฝ่าบาทใช่หรือไม่?” จื่ออันยื่นมืออกมาปัดผมที่ยุ่งเหยิงของเธอ เผยให้เห็นแววตาที่เก่งกาจของเธอ

ฮองเฮาถาม “เจ้ารู้วิธีฝังเข็มรึ?”

จื่ออันตอบอย่างเคารพและรอบคอบ “กราบทูลฮองเฮา หม่อมฉันพอรู้เล็กน้อยเพคะ”

จื่ออันรู้ดีว่าการฝังเข็มมีมาตั้งแต่สมัยจ้านกวั๋อ ในสมัยนั้นจักรพรรดิหวังตี้ได้บันทึกวิธีการฝังเข็มเอาไว้

ทว่าจื่ออันใช้ความรู้และศิลปวิทยาการจากเจ้าของเดิมที่ทิ้งไว้ให้ ทำให้เธอรู้ดีว่าวิทยาการฝังเข็มสมัยนี้ล้าหลังมาก คนที่รู้วิธีฝังเข็ม ส่วนมากครึ่งหนึ่งเป็นหมอหลวงและพวกหมอพื้นบ้านที่มีชื่อเสียง แต่มีน้อยคนนักที่จะเชี่ยวชาญ

จื่ออันเรียนรู้วิธีการฝังเข็มกับศาสตราจารย์หยางในสมัยปัจจุบัน ใช้เวลาเล่าเรียนห้าปีเศษ แม้ว่ายังไม่มีเวลาคนคว้าให้ลึกกว่านี้ แต่ด้วยทักษะการฝังเข็มตอนนี้ของเธอก็พอสามารถรักษาท่านอ๋องเหลียงได้

หมอหลวงพูดว่า “เจ้ารู้วิธีการฝังเข็มไม่มาก เหตุใดจึงกล้าดีบอกว่าการฝังเข็มที่หูให้เลือดไหลสามารถรักษาฝ่าบาทได้ หรือว่าเจ้ารู้มากกว่าหมอหลวงอย่างนั้นรึ”

จื่ออันตื่นตระหนกเล็กน้อย “มิได้ มิได้ ข้ามิได้หมายความเช่นนั้น ข้าแค่เสนอความเห็น โดยปกติแล้วหมอหลวงควรจะมีวิธีอื่น ๆ ในการรักษาฝ่าบาท ข้า...ข้าแค่ไม่ต้องการเห็นฝ่าบาทอาการกำเริบหรือร่างกายบาดเจ็บอีกต่างหาก ข้ามิได้หมายความเป็นอื่นเลย...”

เธออธิบายอย่างติดขัด ทั้งยังเหลือบมองฮองเฮาด้วยความตื่นตระหนก น้ำตาเกือบไหลจากตาทั้งสองข้าง

มู่หรงเจี๋ยเงยหน้าขึ้น ทำมุมปากโค้ง หน้ามองจื่ออันอย่างครุ่นคิด

ฮองเฮาขมวดคิ้ว “หมอหลวง ที่นางว่ามาพอจะฟังขึ้นหรือไม่”

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 8

    คำพูดของเซี่ยจื่ออันที่ว่า “ไม่ต้องการเห็นฝ่าบาทอาการกำเริบ หรือร่างกายบาดเจ็บอีก” ชวนให้รู้สึกสนใจว่า จริง ๆ วันนี้เซี่ยจื่ออันเป็นบุคคลที่น่ายกย่องทีเดียว ตอนที่อาการฝ่าบาทกำเริบ ก็ได้นางที่รีบเข้ามาช่วย ส่วนถ้อยคำที่นางแก้ตัว ก็ล้วนเป็นความจริง มีคนรายงานเหตุการณ์วันนี้ในจวนมหาเสนาบดีได้รับทราบแล้ว เซี่ยจื่ออันมิได้พูดโกหก เห็นได้ว่านางทั้งซื่อสัตย์และมีสัจจะ คำพูดเกี่ยวกับการฝังเข็มก็ไม่น่าเป็นเรื่องที่ถูกปั้นขึ้นมาเช่นกันในความเป็นจริง นางจะไม่พูดก็ได้ เหตุใดจึงหาเรื่องใส่ตัว นางเองก็พลอยมีเรื่องร้าย ๆ กับตัวมากพออยู่แล้วหมอหลวงลังเลสองจิตสองใจขึ้นมา “ฮองเฮา วิธีการฝังเข็มที่หูได้ผลพ่ะย่ะค่ะ ทว่าประสิทธิผลจะเป็นอย่างไร ยังไม่สามารถตรวจดูได้อย่างละเอียด อีกทั้งต้องระวังให้มากเป็นพิเศษ เมื่อฝังเข็มที่หูหรือศีรษะ เพราะหากเลือกบริเวณฝังเข็มผิด หรือกลศาสตร์ของเข็มเอียงไม่ถูกต้อง อาจก่อให้เกิดผลที่ร้ายแรงตามมา”จื่ออันได้ยินคำกล่าวนั้น ริมฝีปากก็ขยับ เธอก้าวถอยหลังไปเล็กน้อย ยังไม่กล้าเอ่ยคำพูดใด ๆฮองเฮาจ้องมาที่นางอีกครั้ง พร้อมกับไตร่ตรองประเดี๋ยวเดียว แล้วจึงเอ่ยว่า “เจ้าเข้าไ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 9

    ภายในใจของจื่ออันไม่สงบสุขและไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ นางทำได้เพียงคำนับและพูดว่า “เพคะ หม่อมฉันรับทราบ”ฮองเฮาเงยหน้าขึ้น ดวงตาไม่อ่อนโยนเหมือนเมื่อครู่นี้ กลับกลายเป็นสีหน้าแสนดุดัน “ครั้งนี้เจ้าใช้ืท่านอ๋องเหลียงเป็นเครื่องมือ มิหนำซ้ำยังทำลายชื่อเสียงของพระองค์ ทางราชสำนักควรลงโทษเจ้าอย่างสาสม แต่พอมาคิดดูว่าที่เจ้าวางแผนทำลงไปก็เพื่อแม่ของเจ้า ข้าคิดว่าการลงโทษสถานเบานั้นก็เพียงพอ เข้ามา เตรียมสมุนไพรดอกคำฝอยหนึ่งชามให้นางดื่มเสีย”อารมณ์โกรธของจื่ออันทะยานสูงขึ้นทันที ร่างกายของเธออ่อนแรงมากแล้ว อีกทั้งชีพจรยังเต้นผิดจังหวะ การตั้งครรภ์จึงถือว่าเป็นเรื่องยากมาก เมื่อกินสมุนไพรดอกคำฝอยลงไป เธอก็ต้องล้มเลิกความหวังไปพระสนมของผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิมู่หรงเจี๋ย คือคนที่ไม่อาจตั้งครรภ์ได้เป็นหญิงอำมหิตอะไรเช่นนี้แม้จื่ออันจะไม่ใส่ใจว่าเธอจะตั้งครรภ์ได้หรือไม่ เธอเพียงต้องการมีชีวิตรอด ทว่าก็ยังโกรธฮองเฮาแมนจูผู้นี้อยู่ดีทว่า ณ ตอนนี้เธอไม่สามารถทำอะไรได้ แต่ด้วยนิสัยของเธอ เธอจะฆ่าฮองเฮาโดยมิลังเลใจเป็นแน่ ทว่าตอนนี้เธอยังไม่สามารถดูแลตัวเองได้ มิหนำซ้ำยังต้องมา

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 10

    จื่ออันถึงจวนในช่วงดึก ประตูใหญ่ถูกปิดอยู่ จึงไม่มีคนเข้าเวรยาม เธอจึงนั่งลงที่บันไดหินอ่อน ร่างของเธอค่อย ๆ ทรุดลงร่างกายของเธอไม่มีแรงสักนิด ทั้งหิว ทั้งเหนื่อย ทั้งเจ็บปวดแทบจะแตกสลายเป็นเสี่ยง ๆเธอไม่มีแม้แต่แรงจะเคาะประตู แถมยังรู้อยู่แก่ใจว่าถึงเคาะก็ไม่มีใครมาเปิดประตูให้เธอนอนลงที่บันไดหิน แผ่นหลังสัมผัสจากความหนาวเหน็บ เธอเงยหน้ามองดวงดาวบนท้องฟ้า ดวงดาวแพรวพราวระยิบระยับ ช่างสวยงามเสียนี่กระไรจักรวาลอันแสนกว้างใหญ่ สามารถบรรจุสิ่งต่าง ๆ ได้มหาศาล ทว่าไม่มีทางจะบรรจุชีวิตที่ต้องดิ้นรนลงไปได้เป็นแน่“คุณหนู คุณหนูใหญ่กลับมาแล้วขอรับ อยู่ที่หน้าประตู ให้ข้าไปเปิดประตูไหมขอรับ?” ผู้เฝ้าประตูถามเบา ๆเซี่ยหว่านเอ๋อหัวเราะอย่างมีเลศนัย “เปิดทำไมรึ นอนตรงนั้นไปเสีย ดึกแล้ว หาได้จำเป็นไม่”ข้ารับใช้รู้ดีว่าคุณหนูใหญ่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่แทบจะหมดหวัง ยิ่งกว่านั้นก็ไม่เคยได้รับยศถาบรรดาศักดิ์ใด ๆ มาก่อน แทบจะถือเป็นคนรับใช้ก็ว่าได้ เขาเพียงทำได้แค่ต้องมองที่ใบหน้าผู้ที่มีอำนาจกว่าเท่านั้น“ขอรับ คุณหนูรอง” ผู้เฝ้าประตูตอบรับเซี่ยหว่านเอ๋อขำอย่างร้ายกาจ พูดกับสาวใช้ที่อยู่ข

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 11

    จื่ออานทำท่าทางให้เสี่ยวซุนออกไปเสี่ยวซุนนำน้ำออกไป และจึงยื่นมือปิดประตู“ท่านแม่ ท่านไม่ต้องห่วง ข้าเคยศึกษาวิชาแพทย์ และการฝังเข็มมาก่อน ข้ามั่นใจ” จื่ออานพูดเบา ๆเซี่ยฟูเหรินพยักหน้าเล็กน้อย เธอยื่นมือออกไปลูบผมหล่อน “ลูกเอ๋ย แม่ทำให้เจ้าลำบากเสียแล้ว เจ้าอยู่แทนจื่ออาน มิหนำซ้ำยังต้องมาทนทุกข์กับสิ่งที่นางควรจะต้องทนเอง ไม่ยุติธรรมเสียเลย”“ข้ามีความสุขดี!” จื่ออานยิ้มออกมาเล็กน้อยอย่างน้อย ในท้ายที่สุดเธอก็ไม่ใช่เด็กตัวคนเดียวอีกต่อไปเมื่อวาน เซี่ยฟูเหรินรู้ว่านางไม่ใช่ลูกสาวของตัวเอง จำได้ว่าเซี่ยฟูเหรินจับมือนางด้วยท่าทางเย็นชาราวกับประติมากรรมน้ำแข็งอย่างไรอย่างนั้นจากนั้นเธอก็พูดว่า “ข้าต้องการล้างแค้นให้ลูกสาวของข้า”เสียงที่แสนแผ่วเบา แต่กลับกัดฟันด้วยความเกลียดชังวันนี้สิ่งที่พวกเขาต้องป้องกันอย่างเข้มงวดในตอนนี้คือ พวกเขาไม่สามารถถูกเสนาบดีสังหารได้ภายในสองสามวันนี้ณ เซี่ยจื่อหย่วน หญิงรับใช้สองคนและเสี่ยวซุน กำลังปรนนิบัติรับใช้นาง ส่วนชู่อวี่กำลังรับใช้แม่ของนาง ทว่าชู่อวี่มีจิตใจมักใหญ่ใฝ่สูง และเย่อหยิ่งมาก จื่ออานอ่านคนมามากมาย เพียงแค่เธอมองก็รู้ว่า

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 12

    จื่ออานได้ยินเสียงฝีเท้าของนางค่อย ๆ จางหายไป เธอเปิดประตูส้วมทันที โชคดีที่มีดอกไม้และต้นไม้กระจัดกระจายอยู่ทั่วลานบ้าน แถมชายร่างใหญ่สองสามคนที่หน้าประตูก็ไม่เห็นเธอด้วยเธอเขย่งเท้าไปยังขอบกำแพง และกระโดดข้ามกำแพงออกไป เธอกระโดดลงอย่างคล่องแคล้ว แม้ว่าพลังของเธอจะยังไม่ฟื้นตัวเท่าใดนัก แต่เธอก็ไม่สูญเสียทักษะของเธอไปเธอรีบวิ่งไปที่เซี่ยจื่อหยวนอย่างรวดเร็ว เพราะวันนี้มหาเสนาบดีเซี่ยทและหลิงหลงฟูเหรินล้วนอยู่ในบ้านของเหล่าฟูเหริน ดังนั้นคนใช้จึงไปที่นั่นเพื่อรวมตัวกันเป็นธรรมดา เธอวิ่งไปตลอดทาง แต่กลับไม่มีผู้ใดเห็นเมื่อวิ่งไปถึงทะเลสาบด้านนอก ก็เห็นชุยยวี่นำทางทั้งสามคนไปทางเซียจื่อหยวน ตามด้วยเซี่ยฉวนจื่ออานแอบตะโกนอย่างหยาบคาย สามคนนี้ในมือถือผ้าไหมอยู่ น่าจะเป็นเจ้าของร้านและช่างตัดผ้าไหมของหมู่บ้านสามคนนี้เป็นบุคคลภายนอก หากเห็นบางอย่างในเซี่ยจื่อหยวน หลาย ๆ เรื่องอาจแพร่สะพัดออกไปเลวร้ายจริง ๆ!จื่ออานใช้เส้นทางลัด และกลับไปถึงเซี่ยจื่อหยวนก่อนที่ทางเข้าด้านหน้าของเซี่ยจื่อหยวน มีคนรับใช้ยืนอยู่หลายคน ส่วนชู่อวี่ก็ยืนและพูดคุยกับพวกเขา ช่างดูส่อเสียดมากจื่ออานเด

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 13

    เซี่ยฟูเหรินพูดอย่างเฉยเมย “ฝากขอบคุณเหล่าฟูเหรินแทนข้าที”จากนั้น ก็พบกับเจ้าของร้านโจว “ขอรับ!”เจ้าของร้านโจวยิ้มและพูดว่า “ฟูเหรินขออภัยนะขอรับ”เขาแสดงท่าทางให้ช่างตัดเสื้อมาข้างหน้า เพื่อวัดตัวของเซี่ยฟูเหริน แล้วพูดว่า “คราวนี้เอาผ้าไหมและเอามาสองสามผืน หลังวัดเสร็จ ฟูเหรินก็เลือกลายทิ้งชอบเอาไว้ ส่วนอันที่ไม่ชอบข้าน้อยจะนำกลับไป”“เรียบง่ายหน่อยก็จะดี” เซี่ยฟูเหรินกล่าวจื่ออานออกจากประตูไปอย่างเงียบ ๆ ส่วนเซี่ยฉวนตามนางไปเมื่อเห็นการเคลื่อนไหวเขามองไปรอบ ๆ สักครู่แล้วพูดกับจื่ออานว่า “คุณหนูจะต้องกลับไปรับใช้ที่บ้านของเหล่าฟูเหรินไม่ใช่หรือ ขอรับ? ทำไมยังไม่ไปอีก”จื่ออานพิงราวจับด้วยท่าทางเซไปมา “ข้าจะกลับไปทีหลัง ข้าอยากให้เจ้าของร้านโจวตัดเสื้อผ้าให้ข้าด้วยเช่นกัน”เซี่ยฉวนมองหน้าเธอ รู้สึกว่าคุณหนูแตกต่างจากเมื่อก่อนมาก สมัยก่อนคุณหนูมักจะหลบตา ไม่กล้าพูดเสียงดังเมื่อเจอผู้คน แต่ตอนนี้มีตาของนางดุดัน ร่างกายเหมือนมีหนามปกคลุม นางจึงไม่อนุญาตให้เข้าถึงได้ง่าย ๆเซี่ยฉวนเดินผ่านเธอไป และสั่งคนที่เฝ้าประตูหน้าสองสามคน “พวกเจ้าไปค้นดูรอบ ๆ ให้ทั่วทุกที เพื่อดูว่ามีแม

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 14

    ประตูห้องน้ำเปิดเอง เสียงดัง “ปั้ง” และซอกประตูก็ขยายออกอย่างช้า ๆ มองเห็นเงาร่างหนึ่งเคลื่อนไหวอยู่ด้านในเซี่ยฉวนดีใจมากเมื่อเห็นว่ามีคนอยู่ และกำลังจะคว้าคน ๆ นั้นออกมาด้วยมือเดียว แต่กลับเห็นหัวสีดำโผล่ออกมาอย่างช้า ๆ“นายน้อยหรอกรึ?” มือของเซี่ยฉวนหดกลับไป ตามองไปที่นายน้อยนายน้อยเซี่ยหลินด้วยความประหลาดใจเซี่ยหลินเป็นน้องชายชายฝาแฝดของเซี่ยหว่านเอ๋อร์ตอนที่เขายังเด็กเซี่ยหลินเคยมีไข้สูงเมื่อ หลังจากที่เขาหายดีแล้ว ทักษะทางความคิดวิเคราะห์ของเขาค่อนข้างต่ำ แม้ว่าจะพบหมอหลายคนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แม้แต่หมอหลวงก็บอกว่า ทักษะทางความคิดวิเคราะห์ของเขายังคงอยู่ที่อายุประมาณแปดขวบ“เจ้าหมาเซี่ยฉวน เจ้าแอบดู แม้แต่นายน้อยที่นั่งยอง ๆ อยู่ในห้องส้วมเลยรึ? ข้าจะบอกท่านพ่อ ออกไป!” เซี่ยหลินโกรธ และโยนกระดาษฟางกองหนึ่งออกมาลงที่ใบหน้าของเซี่ยฉวน“นายน้อย ข้าขออภัย เป็นความผิดของข้ารับใช้ คิดว่ามีแมวป่าอยู่ข้างใน!” เซี่ยฉวนรู้ว่าอารมณ์ของนายน้อยนั้นไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ดังนั้นเขาจึงยอมรับผิดทันทีและปิดประตูห้องน้ำอย่างไรก็ตาม ในใจก็มีความสงสัยว่า ทำไมนายน้อยจึงมาเข้าส้วมที่นี่?จื่อ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 15 

    จื่ออานกลับมาที่บ้าน เมื่อเห็นว่าชู่อวี่กำลังชงชาอยู่ และหยวนซื่อก็หลับไปบนโต๊ะแล้วผลของยานอนหลับยังไม่จางหายดี แต่ก็ยังรอดมาได้“คุณหนู ฟูเหรินยังคงหลับอยู่เจ้าค่ะ” เมื่อเห็นจื่ออานเข้ามา ชู่อวี่ก็รู้สึกผิดเล็กน้อย และก้าวออกไป“นี่!” จื่ออานออกไปวางฝาครอบโคมไฟลงบนโต๊ะแล้วพูดว่า “ออกไปกับข้าครู่หนึ่ง ตรงมุมกำแพงมีดอกกุหลาบกำลังเบ่งบานอยู่ ไปเด็ดมันมาที”“เจ้าค่ะ!” ชู่อวี่ดูเชื่อฟังมาก นางจึงออกไปกับจื่ออานมีดอกกุหลาบอยู่ตรงมุมกำแพงจริง และตอนนี้ก็เบ่งบานพอดี จื่ออานพูดเสียงดัง “ชู่อวี่ พอเจ้าดึงดอกกุหลาบดอกนี้เสร็จแล้ว ก็ไปเอาฝาครอบที่เสียหายให้ข้าที จะได้นำมาซ่อมแซม”ชู่อวี่ตอบว่า “เจ้าค่ะ คุณหนู”พอเข้ามาที่ประตู จื่ออานก็เงยหน้าขึ้น คนคนนั้นก็หายตัวไปในอีกด้านหนึ่งของกำแพงจื่ออานหัวเราะยิ้มเยาะ นางยังคงรออยู่หลังจากที่ชู่อวี่ดึงดอกกุหลาบออกมา จื่ออานก็ให้นางกลับไปรับใช้ฟูเหรินทันทีทันทีที่ชู่อวี่เข้าไปในห้องก็มีอาการปวดหลัง นางหันศีรษะและมองจื่ออานด้วยความประหลาดใจ จื่ออานหมุนแหวนอย่างไร้ความรู้สึก และความรู้สึกราวกับถูกไฟฟ้าช็อตก็แผ่กระจายออกมา จากนั้นชู่อวี่ก็ล้มลง

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1168

    ร่างกายของแม่ทัพเฒ่าฉินสั่นสะท้านด้วยความโกรธ “เจ้าสาปแช่งปู่รึ เจ้าเคยคำนึงถึงญาติพี่น้องหรือไม่?”เมื่อหมอหลวงมาถึง กลับไม่มีคนในตระกูลฉินคอยเฝ้าเขาอยู่ในห้อง ดังนั้นจึงมีเพียงแต่บ่าวรับใช้หลังจากตรวจสอบอาการเสร็จ หมอหลวงก็กล่าวด้วยสีหน้าตกตะลึง “ท่านแม่ทัพเฒ่า เมื่อไม่กี่วันมานี้ท่านได้ไปที่ใดมา? แล้วท่านเคยเข้าไปในพื้นที่โรคระบาดหรือไม่?” “ไม่เคย ข้าไม่เคยไปที่นั่น” สีหน้าของแม่ทัพเฒ่าเปลี่ยนไปเล็กน้อย เมื่อได้ยินคำพูดของหมอหลวง “ท่านกำลังสงสัยว่าข้าติดเชื้อโรคระบาดใช่หรือไม่?”“อาการช่างคล้ายคลึงกันยิ่งนัก” หมอกลวงกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด“เป็นไปไม่ได้!” แม่ทัพเฒ่าฉินรู้สึกตื่นตระหนกอย่างมาก “ท่านวินิจฉัยผิดหรือไม่?”“ข้าจะจัดยาให้ท่านสองชนิดก่อน หากดื่มยาเหล่านี้แล้วไม่ได้ผล เช่นนั้นไม่ใช่ก็ใกล้เคียงแล้วขอรับ” หมอหลวงกล่าวแม่ทัพเฒ่าฉินกล่าวด้วยความลนลาน “ฉินโจวบังคับให้ท่านพูดเช่นนี้ใช่หรือไม่?”หมอหลวงรู้สึกประหลาดใจ “แม่ทัพเฒ่า ท่านหมายความว่าอย่างไร? เหตุใดแม่ทัพฉินถึงต้องบังคับให้ข้าพูดเช่นนี้?”หมอหลวงชะงักไปชั่วครู่หนึ่งแล้วโพล่งถาม “ท่านเคยพูดคุยกับองค์ชายเ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1167

    นางสามารถเสียสละได้ แต่จะไม่มีทางทรยศต่อประชาชนเป่ยโม่เด็ดขาดสำหรับความจงรักภักดีต่อองค์จักรพรรดิและประเทศชาติ นางจะต้องรักประชาชนก่อน จึงจะสามารถภักดีต่อองค์จักรพรรดิได้ฉินโจวกล่าวคำเบา “ข้าเข้าไปในพระราชวังเพื่อเชิญหมอหลวงแล้ว ท่านปู่พักผ่อนก่อนเถิด ข้าจะออกไปเดินเล่นรับลมสักหน่อย”ดวงตาของแม่ทัพเฒ่าฉินอัดแน่นด้วยความโกรธ แต่ก็พยายามอย่างหนักเพื่อระงับมันฉินโจวเดินออกจากห้อง และเห็นว่าฉินเป้าน้องชายของตนนั่งอยู่ที่สวน เมื่อเห็นนางเดินออกมา เขาก็ถามว่า “ท่านปู่เป็นอย่างไรบ้าง?”ฉินโจวจำคำพูดของท่านปู่ได้อย่างแม่นยำ จึงเมินเฉยต่อเขาและตอบอย่างใจเย็น “เข้าไปดูด้วยตนเองสิ”ฉินเป้าคลี่ยิ้ม แต่มันกลับดูอ้างว้างอย่างยิ่ง “ข้าได้ยินสิ่งที่ท่านปู่พูดกับท่านแล้ว ข้าไม่อยากเข้าไป”ฉินโจวตกตะลึง “เพราะเหตุใด เขาทุ่มเทความพยายามทั้งหมดไปกับหารวางแผนเพื่อเจ้า เจ้าควรขอบคุณท่านปู่สิ”ฉินเป้าหัวเราะเยาะ “จริงรึ? หากเขาทอดทิ้งท่านเพื่อตระกูลได้ ในอนาคตเขาจะไม่ทอดทิ้งข้าหรือ? ข้าไม่ต้องการชื่อเสียงหรือความดีงามใด ๆ พวกมันไม่ใช่สิ่งที่ข้าต้องการเลย”ฉินโจวดูถูกน้องชายมาโดยตลอด เพราะเขาไม่ได

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1166

    ทั้งสองคนเดินออกไปและหยุดอยู่บนทางเดิน หมอมองฉินโจวพร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด “ท่านแม่ทัพ ข้ากำลังสงสัยว่าท่านแม่ทัพเฒ่าจะป่วยด้วยโรคระบาดขอรับ”ฉินโจวตกตะลึง “โรคระบาด? เป็นไปได้อย่างไร? ปู่ของข้าไม่เคยออกไปข้างนอก และไม่เคยติดต่อกับผู้ป่วยโรคนี้เลย แล้วเขาจะติดเชื้อโรคระบาดได้อย่างไร?”“ข้าเคยรักษาผู้ป่วยโรคระบาดมาก่อน ซึ่งอาการคล้ายคลึงกันอย่างมาก ผู้ป่วยจะมีไข้สูง ไอ ตาแดง หายใจเร็วขึ้น เมื่อเกิดอาการเหล่านี้พร้อมกันจะอันตรายอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นโรคนี้ยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาดขอรับ” หมอกล่าว“เป็นไปไม่ได้ หากจะติดเชื้อโรคระบาดก็ต้องสัมผัสกับผู้ป่วยที่มีเชื้ออยู่แล้ว แต่ท่านปู่ของข้าไม่เคยใกล้ชิดคนเหล่านั้นเลย แล้วเขาจะติดเชื้อได้อย่างไร?” ฉินโจวยังคงไม่เชื่อหมอประสานหมัด “ทั้งหมดนี้คือคำวินิจฉัยของข้า หากท่านแม่ทัพไม่เชื่อ ก็สามารถขอให้หมอคนอื่นมาตรวจดูได้ หรือท่านจะพาเขาไปที่พระราชวัง และขอให้หมอหลวงช่วยตรวจอาการ ข้าไร้ความสามารถ จึงอาจวินิจฉัยผิดพลาดได้ ลาก่อนขอรับ ๆ!”สิ้นคำ หมอก็หยิบกล่องยาแล้วออกไปโดยไม่เขียนใบสั่งยาด้วยซ้ำฉินโจวสับสนไม่น้อย ท่านปู่ติดเชื้อโร

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1165

    หัวใจของฉินโจวเย็นเยียบราวกับน้ำ “ใช่ ตราบใดที่ข้าตายในสนามรบ ตระกูลฉินก็ยังจะเป็นผู้กล้า และเป็นขุนนางผู้มีเกียรติ”แม่ทัพเฒ่าฉินเงียบไปครู่ใหญ่ จากนั้นกล่าวคำเบา “ในฐานะหลานสาวตระกูลฉิน มันเป็นหน้าที่ของเจ้าที่ต้องเสียสละเพื่อชื่อเสียง และรากฐานของตระกูล”ฉินโจวกำหมัดแน่นด้วยความไม่พอใจ “หลายปีที่ผ่านมานี้ ข้ายังทำไม่พออีกหรือ? ตอนนี้มีใครในตระกูลฉินบ้างที่ไม่เกาะกินเลือดนี้ของข้า?”แม่ทัพเฒ่าฉินลุกยืนขึ้นพลางกล่าวอย่างเย็นชา “ข้าเคยเตือนเจ้าแล้ว คราวนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เจ้าจะต้องเข้าไปในพระราชวัง ข้าให้คำมั่นกับฮองเฮาเฉาแล้ว ว่าวันนี้เจ้าจะไปที่นั่นเพื่อทูลขอรับคำสั่ง หากเจ้าไม่ไป ข้าก็จะรับคำสั่งและออกรบด้วยตนเอง”“ท่าน...” ฉินโจวมองเขาด้วยสายตาโศกเศร้า “ท่านปู่ ข้าก็เป็นหลานสาวของท่านเหมือนกัน ท่านไม่สงสารข้าบ้างหรือ?”“ปู่สงสารเจ้าสิ แต่ภารกิจหน้าที่ของตระกูลฉินจะต้องถูกส่งต่อ ตอนนี้น้องชายของเจ้าโตพอแล้ว เจ้าจะต้องพาเขาไปสร้างความสำเร็จทางการทหารด้วย และเจ้าจะได้รับส่วนแบ่งของน้องเจ้า เมื่อถึงเวลานั้น ตระกูลฉินก็จะได้ผู้สืบทอดคนใหม่”ฉินโจวผงะไปชั่วครู่ ก่อนระเบิดหัวเราะ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1164

    เมื่อได้ยินคำพูดของฉินโจว แม่ทัพเฒ่าฉินก็โมโหมากจนเคราสั่นสะท้าน “อาโจว อะไรจะสำคัญไปกว่าการบรรลุเป้าหมายอันยิ่งใหญ่? องค์จักรพรรดิเพียงต้องการขยายอาณาเขตของแคว้น เจ้าควรรู้เอาไว้ว่าเมื่อเรายึดครองต้าโจวสำเร็จ เป่ยโม่จะมีพื้นที่เพิ่มมากกว่าครึ่งหนึ่ง และมันจะเป็นความดีความชอบของตระกูลฉิน ทำให้ตระกูลของเราถูกจดจำไปหลายชั่วอายุคน! นี่ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าต้องการมาตลอดรึ? เจ้าไม่ต้องการบอกคนทั้งโลก ว่าแม้ฉินโจวจะเป็นสตรี แต่นางก็สามารถประสบความสำเร็จได้อย่างผ่าเผยหรือ?”ฉินโจวมองดูใบหน้าที่ฉายแววตื่นเต้นปนโกรธเกรี้ยวของปู่ ทันใดนั้นนางก็สัมผัสได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติถูกต้อง มันคือความต้องการของนาง แต่ความสำเร็จของนางจะต้องไม่แลกกับการเหยียบย่ำกระดูกของประชาชนชาวเป่ยโม่นางรักเป่ยโม่และหวังที่จะขยายอาณาเขตของแคว้น นอกจากนี้นางยังต้องการเสาะหาดินแดนอุดมสมบูรณ์เพื่อประชาชน เพราะหวังว่าพวกเขาจะสามารถอยู่อาศัยและทำกินอย่างสงบสุข และพึงพอใจโดยไม่ต้องทนทุกข์จากการพลัดถิ่นอย่างไรก็ตาม ในตอนนี้หากต้องการบรรลุอำนาจ นางจำต้องสละชีวิตประชาชนจำนวนมาก และนำเงินภาษีของทุกคนมาใช้ในการทำสงคราม ทำให้โรคร

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1163

    มือสังหารเหล่านั้นแต่งกายคล้ายกับชาวต้าโจวและสวมหน้ากากผ้าสีดำ กลุ่มคนนิรนามราวเจ็ดถึงแปดคนกระโดดลงมาจากท้องฟ้ากลางวันแสก ๆ ทันทีที่เท้าของคนเหล่านั้นแตะพื้น พวกมันก็เริ่มโจมตีอย่างดุดันฉินโจวเห็นมือสังหารคนหนึ่งกระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกับกระบี่ยาว จากนั้นร่ายรำอยู่หลายกระบวนท่าราวกับนางฟ้าโปรยดอกไม้ ขณะแสงแดดตกกระทบกระบี่ส่องกระจายไปทั่วเหล่าทหารที่เพิ่งมาถึงกระโจนเข้าไปร่วมวงต่อสู้อย่างรวดเร็วหลังจากประดาบกันไปกว่าร้อยครั้ง มือสังหารก็ถูกบีบบังคับให้ล่าถอย ฉินโจวจ่อกระบี่ไปที่คอของหนึ่งในมือสังหาร พลางถามเสียงเข้ม “ตอบข้า ใครเป็นคนส่งเจ้ามา?”มือสังหารตอบอย่างเย็นชา “ฆ่าไอ้หมารับใช้เป่ยโม่ให้หมด!”“หมารับใช้เป่ยโม่? เห็นได้ชัดว่าพวกเจ้าไม่ได้เป็นคนเป่ยโม่ พวกเจ้ามาจากต้าโจวใช่หรือไม่?” ฉินโจวโมโหอย่างมาก ขณะชี้ดาบไปยังหน้าอกของอีกฝ่าย “ไอ้เลวมู่หรงเจี๋ยส่งพวกเจ้ามาใช่หรือไม่?”“หญิงเลวอย่าเจ้ากล้าเอ่ยชื่อของท่านอ๋อง ทำให้พระองค์มัวหมองได้อย่างไร?” มือสังหารตะโกนฉินโจวชักดาบกลับพร้อมกล่าวอย่างเย็นชา “กลับไปซะ!”มือสังหารตกตะลึง ราวกับไม่คาดคิดว่าฉินโจวจะปล่อยตัวเขาไป”เ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1162

    ฉินโจวกล่าวด้วยความโมโห “ข้าหลอกลวงเจ้าเมื่อไร?”“ไม่งั้นรึ? เจ้าและอ๋องฉีเอ่ยปากว่า หากจื่ออันตกลงเดินทางมาที่เป่ยโม่ พวกเจ้าจะส่งองค์ชายรัชทายาทไปที่ต้าโจวเป็นองค์ประกัน แล้วพวกเจ้าทำตามที่พูดแล้วหรือไม่?”“องค์ชายรัชทายาทเดินทางไปยังต้าโจวแล้ว!”“ผู้ที่เดินทางไปยังต้าโจวคือองค์ชายเจ็ด ไม่ใช่องค์ชายรัชทายาท องค์ชายเจ็ดไม่ได้เป็นที่โปรดปราน ดังนั้นจักรพรรดิเป่ยโม่จะส่งเขาไปสังเวยเมื่อใดก็ได้”“เป็นไปไม่ได้!” ฉินโจวประหลาดใจอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าผู้ที่เดินทางไปคือองค์ชายรัชทายาท เพราะองค์จักรพรรดิทรงตรัสด้วยตนเองว่าจะส่งเขาไปที่ต้าโจว“เจ้าอย่าเพิ่งสนใจเรื่องนี้เลย ก่อนหน้านี้ทั้งสองแคว้นตกลงทำสนธิสัญญาสงบศึก หลังจากการแพร่ระบาดสิ้นสุดลง แต่เจ้ากลับวางแผนโจมตีพวกเราในขณะที่ข้ายังอยู่ที่เป่ยโม่ เจ้าจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร?” มู่หรงเจี๋ยกล่าวอย่างเคร่งเครียดฉินโจวตอบ “ผิดแล้ว เป็นเพราะต้าโจวที่เคลื่อนทัพโจมตีทหารฝั่งขวาของเราก่อน และสังหารทหารของเราไปกว่าร้อยคน ข้าจึงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากเคลื่อนทัพเข้าไปใกล้ เพื่อบีบบังคับให้พวกเจ้าถอยกลับ”“ไร้สาระ กองทัพของเราหยุดเคลื่อนท

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1161

    อย่างไรก็ตาม การจัดหาเสบียงอาหารสำหรับพื้นที่ภัยพิบัติยังไม่เพียงพอ และยังขาดแคลนเสื้อผ้าอาภรณ์ นอกจากนี้หลังจากที่พระชายาผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์มาถึงเป่ยโม่ ก็ยังไม่ได้รับใบสั่งยาแม้แต่ฉบับเดียว ดังนั้นความอดทนของประชาชนจึงค่อย ๆ หมดลง แต่ความโกรธและความขุ่นเคืองกลับยิ่งมากขึ้นทันทีที่ข่าวลือแพร่สะพัด ก็เป็นเสมือนเป็นการขว้างเปลวไฟใส่ ‘ระเบิด’ หนึ่งหมื่นตุน ทำให้มันระเบิดออกอย่างรวดเร็วผู้ประสบภัยนับไม่ถ้วนหลั่งไหลเข้าสู่เมืองหลวงอย่างรวดเร็วหลังจากที่ฉินโจวลงจากภูเขา นางก็พบว่าองค์จักรพรรดิทำอะไรกับทหารม้า และทหารเจ็ดหมื่นนายที่ประจำการที่เมืองหลวง ซึ่งเขาออกคำสั่งให้ทหารเหล่านั้นขับไล่เหล่าผู้ประสบภัยออกไปนางเห็นด้วยตาตนเองว่าทหารใต้บังคับบัญชาของนางสร้างกำแพงมนุษย์อันแน่นหนา เมื่อผู้ประสภัยเดินทางเข้ามา พวกเขาก็จะโบกหอกเพื่อขับไล่คนเหล่านั้นออกไปผู้ประสบภัยมากกว่าสิบรายได้รับบาดเจ็บจากหอกทหารเหล่านั้นอยู่ใต้บังคับบัญชาของนาง แม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะไม่ได้ฆ่าผู้ใด แต่เมื่อสถานการณ์รุนแรงขึ้นจะต้องมีการฆ่าแกงกันอย่างแน่นอนฉินโจวโกรธจัดจึงขี่ม้าเข้าไปขวางเอาไว้ “หยุด หยุดเ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1160

    ฉินโจวกวาดสายตามองพลางเยาะเย้ยจื่ออันไม่สนใจนาง และพาหลินตานไปยังเขตตะวันตกภายในสองวันนี้มีผู้เสียชีวิตถึงสามคน ซึ่งทั้งหมดถูกหามออกไปหลังจากที่หลินตามเดินเข้ามาเขาหลั่งน้ำตาหลั่งน้ำตาขณะมองดูการเผาศพจื่ออันไม่คิดว่าเขาจะมีความอ่อนไหวมากเพียงนี้ “ท่านหมอหลิน ท่านเป็นอะไรหรือไม่?”หลินตานปาดน้ำตา “ข้าขอโทษ ข้าเพียง... คิดถึงครอบครัวขอรับ”“ครอบครัวของท่าน? แล้วตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ใดหรือ?” จื่ออันถาม“ตายหมดแล้วขอรับ ภรรยาและลูกสะใภ้ของข้าตายเพราะเหตุแผ่นดินไหวทั้งคู่ ส่วนลูกชายและหลานชายติดเชื้อโรคระบาดก่อนตายไปเช่นกัน ข้าจึงเป็นคนเดียวที่เหลือรอด” หลินตานสูดหายใจเข้าลึก ใบหน้าที่อยู่ภายใต้ผมสีขาวฉายแววความเศร้าโศกและหดหู่จื่ออันไม่คาดคิดว่าเขาจะมาจากพื้นที่โรคระบาดเช่นกัน เมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อย จื่ออันก็ไม่รู้จะปลอบใจเขาเช่นไร จึงได้แต่นิ่งเงียบและอยู่เคียงข้างไม่นานหลินตานก็ถามว่า “ท่านหมอเซี่ย โรคระบาดนี้สามารถรักษาหายได้จริงหรือขอรับ?”ตอนนั้นเองจื่ออันก็นึกได้ว่าเขาเป็นหมอเท้าเปล่า และหลังจากเดินทางพเนจรไปที่ต่าง ๆ เขาอาจรู้จักจินเย่าฉือก็เป็นได้ ดังนั้นจึงรีบถามว

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status