แชร์

บทที่ 218

ผู้แต่ง: จูน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
นางเอ่ยถึงขั้นตอนที่จื่ออันกระทำรุนแรงอย่างละเอียด ถึงขนาดพูดถึงจื่ออันแสดงรอยยิ้มอย่างเลือดเย็น หากเป็นผู้ที่มิรู้ถึงเรื่องราวต่าง ๆ ได้ฟังแล้ว คงจักต้องรู้สึกว่าจื่ออันช่างเป็นคนโหดร้าย ถึงขนาดกล้าลงมือกับแม่เลี้ยงและน้องสาวอย่างรุนแรง

ฮูหยินหลิงหลงพูดจบ ก็ร้องไห้ออกมาพร้อมทั้งเอ่ย "ใต้เท้า ที่ข้าพูดนั้นเป็นความจริง องค์รัชทายาทและองค์หญิงก็ทรงประทับอยู่ที่นี้ หากใต้เท้าไม่เชื่อ สามารถสอบถามฝ่าบาทและองค์หญิงได้"

ใต้เท้าเหลียงหายใจเข้าช้า ๆ มองไปยังจื่ออัน "ถึงกลับกล้าลงมือทำร้ายคน เสียแรงที่เจ้าเป็นคุณหนูใหญ่จวนมหาเสนาบดี ตอนนี้เจ้ายังจะมีอะไรจะพูดหรือไม่? เร่งนำมีดสั้นที่เจ้าใช้ลงมือออกมา"

จื่ออันกลับไม่ได้นำมันออกมา กลับเดินขึ้นมาข้างหน้าอีกก้าวนึง ใบหน้าเคร่งขรึม "ใต้เท้า ท่านดูแลรักษากฎหมายมากี่ปีแล้ว หลักการไต่สวนคดีคงมิต้องให้ข้าพูด ท่านก็คงเข้าใจดี ไต่สวนสืบพยาน ก็ต้องไต่สวนทั้งสองฝ่าย หากวันนี้ท่านฟังแค่คำของนาง แล้วมิได้ถามหาพยานข้า มิได้สอบถามข้าและมิได้ถามท่านแม่ข้า แล้วตัดสินว่าข้าเป็นคนชั่วร้าย ให้ข้านำอาวุธที่ใช้ออกมา ไม่รู้ว่ามีกี่คดีกันในหลายปีมานี้ที่ใต้เท้าตัด
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 219

    จื่ออันไม่ได้พูดถึงช่องโหว่ในคำพูดของนาง และไม่ได้รอจนนางพูดจบก็ถามต่อว่า “งั้นหลังจากท่านแม่กระโดดลงจากรถม้านานเท่าใด องค์รักษ์ขององค์หญิงจึงตามมา?“ไม่ช้าก็ตามมาแล้ว น่าจะหลังจากเราเดินทางต่อมาได้สิบจั้งกระมัง องค์รักษ์ก็ตามมาทันแล้ว” ฮูหยินหลิงหลงเร่งรีบตอบกลับก่อนหน้านั้นมหาเสนาบดีเซี่ยที่ไม่ได้เอ่ยอะไรมาตลอด แต่หลังจากฟังจบประโยคนี้ เอ่ยออกมาอย่างเคร่งขรึมว่า “เจ้าอย่าได้พูดมั่วซั่ว จะต้องคิดให้ดีก่อนตอบ คำตอบที่ออกมาจะต้องเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงทั้งหมด ห้ามมีแม้แต่ครึ่งคำโกหก เข้าใจหรือไม่?”ฮูหยินหลิงหลงถูกเอ่ยเตือนออกมาเช่นนี้ ก็เริ่มมีสติขึ้นมา นางรีบร้อนตอบ “ ไม่ ไม่ใช่แค่สิบจั้ง ตอนนั้นข้ายังรู้สึกมึนศีรษะ หว่านเอ๋อค่อยดูแลข้าอยู่ น่าจะเป็นยี่สิบจั้งหรือมากกว่านั้น”จื่ออันเหลือบตามองไปที่มหาเสนาบดีครู่นึง “ได้ ยี่สิบจั้ง หลังจากองค์รักษ์ไล่ตามมาแล้ว สอบถามไปที่คนขับรถม้า คนรถตอบว่าไม่ทราบเรื่องที่ท่านแม่ตกลงไป แต่เจ้าบอกว่าคนรถอาจจะรู้เรื่องที่ท่านแม่ตกลงไป ช่างไม่สอดคล้องกันเลย ท่านจะอธิบายเรื่องนี้อย่างไร?”ฮูหยินหลิงหลงดวงตาเลิกลั่ก “เรื่องนี้ เรื่องนี้ ข้ามิใช่ค

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 220

    คำพูดนี้ทำให้ทุกคนที่อยู่ในสถานที่นี้ต่างก็เห็นว่าเหมาะสมแล้ว มีเพียงเซี่ยหว่านเอ๋อที่บอกว่าไม่เหมาะเป็นอย่างยิ่ง มู่หรงจ้วงจ้วงเผยรอยยิ้มออกมา "ต้องขออภัยจริง ๆ ข้าพูดผิดไปแล้ว" เซี่ยหว่านเอ๋อมองไปทางองค์รัชทายาทตลอด รอดูท่าทีจากองค์รัชทายาท นางหวังว่าองค์รัชทายาทจะช่วยนางพูดสักหนึ่งหรือสองประโยค อย่างน้อยพูดกับมู่หรงจ้วงจ้วงว่างานสมรสของพวกนางได้กำหนดไว้แล้วแต่นางก็ต้องผิดหวัง เพราะองค์รัชทายาทไม่แม้แต่จะมองมาที่นาง มิหนำซ้ำยังไม่ช่วยนางพูดสักประโยคกลับเป็นใต้เท้าเหลียงที่พูด "องค์หญิง ในเมื่อฮองเฮาได้ออกพระราชโองการแล้ว ก็หมายความว่าเรื่องมันสำเร็จแล้ว แต่พระชายาของผู้สำเร็จราชการกลับยังมิมีการยืนยันอันใด มีเพียงแค่การพูดคุยกันเท่านั้น" ราชครูมิได้ถูกมู่หรงจ้วงจ้วงและจื่ออันเปลี่ยนเรื่องได้สำเสร็จ เพราะราชครูมองออกว่านี้เป็นการยื้อเวลาของทั้งสองคน จึงพูดกับใต้เท้าเหลียงว่า" ใต้เท้า จากความเห็นของท่านแล้ว คดีนี้ควรจะตัดสินเยี่ยงไร? "ใต้เท้าเหลียงตอบกลับ "เรียนราชครู จากคำให้การของฮูหยินหลิงหลงและคุณหนูรอง รวมกับคำพูดของคุณหนูใหญ่และองค์หญิง สามารถสรุปเหตุการณ์ได้ว่า คุณหนูใ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 221

    ใต้เท้าเหลียงเมื่อเจออ๋องหลี่ ในใจร้องตะโกนว่าไม่ได้การแล้วมหาเสนาบดีเซี่ยเชิญอ๋องหลี่นั่ง อ๋องหลี่มองไปยังที่นั่ง แล้วมองไปยังฮูหยินผู้เฒ่า "ฮูหยินผู้เฒ่า ท่านควรแยกแยะสถานะต่ำสูง ถึงท่านจะเป็นผู้อาวุโสของจวนมหาเสนาบดี แต่องค์หญิงทรงประทับอยู่ด้วย ที่นั่งของท่านควรจะสละให้องค์หญิง" ใบหน้าของฮูหยินผู้เฒ่าดูเย็นชาขึ้น แต่มิอาจไม่หลีกเลี่ยงได้ จึงให้ชุ่ยหยูช่วยประคองลุกขึ้น มหาเสนาบดีเซี่ยลุกขึ้นเพื่อที่ให้นางได้นั่งลงแต่อ๋องหลี่กลับชี้ไปที่ที่นั่งของมหาเสนาบดีเซี่ยพร้อมกล่าว "ฮูหยินผู้เฒ่ามิอาจนั่งตรงนี้ได้ ตรงนี้เป็นที่นั่งขององค์รัชทายาท ราชครูท่านลุกขึ้นจากตรงนี้ นี่เป็นที่นั่งของข้า ท่านเชิญไปนั่งทางนั้น" การเคลื่อนย้ายครั้งนี้ใช้เวลาถึงหนึ่งก้านธูป โดยมิมีผู้ใดกล้าคัดค้าน องค์รัชทายาทมิได้นั่งในทันที แต่เมื่อเจอกับสายตาของท่านอ๋อง จำต้องนั่งลงด้วยตัวสั่น เจ็บจนน้ำตาซึมราชครูเหลียงเมื่อเจออ๋องหลี่ยังคิดที่จะหนี จึงกล่าว “ท่านอ๋อง เรื่องราวค่อนข้างสำคัญ เริ่มไต่สวนคดีก่อนเถิด พ่ะย่ะค่ะ”อ๋องหลี่กล่าวอย่างไม่พอใจ “กฎมารยาทก็สำคัญ ไต่สวนคดีมิต้องทำตามกฎมารยาทหรือ? ไม่มีมารยา

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 222

    คาดการณ์? คดีก่อนหน้าที่เจ้าทำก็ใช้การคาดการณ์หรือ? อ๋องหลี่แสดงออกมาว่ากำลังโกรธมาก "งั้นเจ้าก็คาดการณ์ คาดการณ์ว่าตอนที่หยวนซื่อตกจากรถม้าก็สามารถลุกขึ้นมาได้ และไม่ได้ตาบอด ถ้างั้นทำไมจู่ ๆ นางถึงบาดเจ็บที่ศรีษะแล้วตาบอดเหล่า?" ใต้เท้าเหลียงเช็ดเหงื่อที่ไหลออกมาบนหน้าผาก "เรื่องนี้ เรื่องนี้อ่า…" ราชครูเหลียงตอบแทนว่า "ท่านอ๋อง ตอนที่หยวนซื่อกระโดดออกจากรถม้านั้น ก็ได้กล่าวว่าจะทำให้เฉินซื่อได้ชื่อว่าทำร้ายนายหญิงของจวน เรื่องนี้คิดว่านางคงเป็นคนทำตัวนางเอง""หลักฐาน?" อ๋องหลี่เอ่ยถามราชครูเหลียง"หลักฐาน? นางทำร้ายตัวเอง ใครจะเห็น? " ราชครูเหลียงยิ้มเย็น"ไม่มีใครเห็นเจ้าก็เชื่องั้นรึ ต่อให้เป็นเช่นนั้นจริง? ราชครู ท่านเป็นขุนนางขั้นหนึ่งของราชสำนัก เข้าไปมีส่วนร่วมกับเรื่องภายในจวนมาหาเสนาบดีก็ช่างเถอะ แต่กลับทำมึนงงคาดเดาสิ่งนั้นสิ่งนี้ ไหวพริบท่านไปไหนเสียแล้ว? หากวันนี้ยังล้มเหลวอีก ท่านก็ไประบายอารมณ์กับพวกผู้หญิงอ่อนแอซะ"อ๋องหลี่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึมจริงจัง มิใช่เสียดสีราชครูเหลียง เพียงแต่กล่าวเรื่องจริงออกมา เขาคิดว่าเรื่องราวจะเป็นดั่งที่พวกเขาพูดหรือหากท่านอ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 223

    อ๋องหลี่ส่งคนไปตรวจสอบรถม้า และส่งคนไปที่โรงหมอ เพื่อตรวจสอบบาดแผลของหยวนซื่อส่วนการไต่สวนในจวนนั้น ก็มิได้หยุดลงอ๋องหลี่เริ่มไต่สวนแทนใต้เท้าเหลียง กดดันฮูหยินหลิงหลง เริ่มจากตำแหน่งระยะห่างที่องค์รักษ์ติดตามมาที่ฮูหยินหลิงหลงเอ่ย ให้องค์รักษ์ของมู่หรงจ้วงจ้วงพูดถึงระยะห่างระหว่างรถม้าของทั้งสองรวมทั้งมีกี่คนที่ตามไปที่รถม้าของฮูหยินหลิงหลง ในตอนนี้ฮูหยินหลิงหลงหมดข้อโต้แย้ง อ๋องหลี่กดดันถามถึงรายละเอียด“เจ้าบอกว่านางดูถูกด่าทอเจ้า เจ้าลองพูดให้ข้าฟังหน่อย นางด่าทอเจ้าเช่นไร?” อ๋องหลี่ถามถึงแม้ฮูหยินหลิงหลงยังคงลนลาน แต่ก็สามารถกลับมาเงียบสงบได้อย่างรวดเร็ว “ทูลท่านอ๋อง นางเริ่มจากกล่าวโทษหม่อมฉันสั่งสอนบุตรีไม่ดี กล่าวว่าตอนอยู่ในวังบุตรีหว่านเอ๋อขอร้องอ้อนวอนเพื่อองค์รัชทายาท สงสัยในคำตัดสินของผู้สำเร็จราชการแทน ทำให้จวนมหาเสนาบดีขายหน้า และยังคงกล่าวว่าหว่านเอ๋อเป็นคนงอนง้อองค์รัชทายาท โดยบอกว่าองค์รัชทายาทตกหลุมรักนาง แต่จริง ๆ แล้วนางเป็นคนแย่งเขามา ทำให้จื่ออันมิอาจเป็นพระชายาขององค์รัชทายาท หม่อมฉันอดทนมาโดยตลอด แต่หลังจากนั้น นางกลับว่าหม่อมฉันไม่รู้จักละอาย มีสัมพันธ์

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 224

    ฮูหยินหลิงหลงได้ฟังคำตอบนี้ ใบหน้าเปลี่ยนเป็นซีดเซียวมู่หรงจ้วงจ้วงอดยิ้มขึ้นมามิได้ อ๋องสามก็มีวิธีการเป็นของตัวเอง“อืม” อ๋องหลี่ผงกศรีษะ “งั้นแม่ของเจ้าเอ่ยว่าหยวนซื่อไม่อนุญาติให้เจ้าแต่งกับองค์รัชทายาท ให้เซี่ยจื่ออันแต่งกับองค์รัชทายาทแทนเจ้า จุดนี้พวกเจ้าเห็นด้วยหรือไม่? เจ้าพูดออกมาตามตรงก็พอ แม่เจ้าเคยตอบมาแล้ว ข้าเพียงอยากรู้ว่าคำให้การของพวกเจ้าจะตรงกันหรือไม่”เซี่ยหว่านเอ๋อมองไปยังฮูหยินหลิงหลงอีกครั้ง ฮูหยินหลิงหลงทนไม่ไหวเอ่ยออกมา “ท่านอ๋อง เรื่องนี้…”“ข้ายังมิได้ให้เจ้าพูด หากเป็นที่ศาลแล้ว คงจะตีปากเจ้าไปแล้ว” อ๋องหลี่มองไปยังนางด้วยสายตาดุดัน ฮูหยินหลิงหลงตกใจจนต้องหยุดเสียงสายตาเซี่ยหว่านเอ๋อค่อนข้างสับสน ไม่รู้ว่าอ๋องหลี่กำลังคิดอะไรอยู่ แล้วไม่รู้ว่าทำไมท่านแม่ถึงได้พูดเช่นนี้ หลังจากลังเลไปชั่วขณะนึง ก็ส่ายหน้า “พวกเราไม่ยินยอม”“อืม” อ๋องหลี่มองไปยังใต้เท้าเหลียง “เจ้ามีอะไรจะพูดหรือไม่?”ใต้เท้าเหลียงหน้าซีดขาว “ท่านอ๋อง กระหม่อมประมาทเลินเล่อ”ใต้เท้าเหลียงไม่หยุดที่จะเช็ดเหงื่อ ลองคิดกลับไปว่า คำให้การของทั้งสองมีปัญหา ทำให้มิอาจเชื่อได้ จะต้องมีอีก

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 225

    "นี่…" ราชครูเหลียงตกใจจนมองไปที่จื่ออัน แล้วกลับมามองที่มีดสั้น อักษรบนมีดสั้นนั้น หากมิได้มองพลาดไปแล้ว เป็นอักษรมังกร เป็นไปได้อย่างไร? มีดสั้นที่มีอักษรมังกรจะมาอยู่ในมือของเซี่ยจื่ออันได้อย่างไร? เฉินซื่อและเซี่ยหว่านเอ๋อถูกมีดสั้นเล่มนี้ทำร้าย ไม่ผิดเลย ไม่ตายก็ถือว่าโชคดีแล้วความคิดนับพันแวบผ่านเข้ามาในสมองของราชครูเหลียง ก่อนจะค่อย ๆ ปล่อยวาง นำมีดสั้นกลับมอบให้จื่ออันด้วยความเคารพ "คุณหนูใหญ่ ตามความคิดของข้านั้น เรื่องคืนนี้นั้นคงเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน คุณหนูใหญ่อย่าได้ถือโทษ ข้ายังมีเรื่องต้องจัดการ คงต้องขอตัวก่อนแล้ว" พูดจบแล้วก็ไม่ได้สนใจต่อองค์รัชทายาท ไม่แม้แต่บอกลามหาเสนาบดีเซี่ย แล้วเดินออกไปทันทีองค์รัชทายาทมองดูสถานการณ์ ก่อนจะเร่งให้องค์รักษ์ประคองตนเองจากไป คนของทางการทั้งสองที่ราชครูเหลียงนำมาก็จากไปเช่นกันเซี่ยหว่านเอ๋อเห็นองค์รัชทายาทจากไปโดยไม่แม้แต่มองมาทางนาง ทั้งเสียใจทั้งเศร้าโศก เอ่ยถามทั้งน้ำตา "ท่านพ่อ นี้มันเกิดเรื่องอะไรกัน? จะปล่อยให้นางทำร้ายพวกเราอย่างนี้หรือ? มหาเสนาบดีเซี่ยมองไปที่มีดสั้นในมือของจื่ออันมาโดยตลอด เขาจึงไม่ได้สนพร้อมทั้

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่​ 226

    “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี้เอง” จ้วงจ้วงนึกขึ้นได้ ​คาดไม่ถึงว่าในตอนที่นางกำลังดื่มน้ำหวานนั้น​ ทั้งสองคนก็นำเรื่องราวที่เกิดขึ้นในตอนค่ำนี้อธิบายกันเรียบร้อยแล้ว​ ใช่แล้ว​ “ใช่แล้ว​ ราชครูเหลียงทำไมถึงได้กลัวมีดสั้นของจื่ออันนัก?​ มีดสั้นเล่มนั้นเป็นจื่ออันที่มอบให้ แม้แต่อ๋องเจ็ดเขายังมิกลัว​ แต่กลับกลัวมีดสั้นเล่มนี้หรือ?”“บนมีดสั้นนั้นมีอักษรมังกรอยู่!” อ๋องหลี่เอ่ยยิ้ม ​“ใครกันที่ชอบทำ​สัญลักษณ์​นามสกุล​ไว้บนสิ่งของตนเพื่อแสดงอำนาจกัน?”“เสด็จย่า!” จ้วงจ้วงเอ่ยตะโกน​ “มีดสั้นเล่มนี้เป็นมีดที่เสด็จย่าทรงประทานให้กับเสด็จพี่​ เสด็จพี่ก็ประทานให้แก่อ๋องเจ็ด​ อ๋องเจ็ดมอบให้จื่ออันอีกที​ ราชครูเหลียงไม่รู้เรื่องราว​ ก็เลยนึกเอาว่ามีดสั้นเล่มนี้เป็นเสด็จย่าประทานให้แก่จื่ออัน​ ดังนั้นเขาจึงกลัว​ เขามิได้กลัวมีดสั้น ​ เพียงแต่เขาหวาดกลัวต่อเสด็จย่า”“ฉลาดมาก!” อ๋องหลี่ขึ้นรถม้าไปแล้ว จ้วงจ้วงจึงเดินตามขึ้นไปหลังจากที่ส่งอ๋องหลี่และจ้วงจ้วงแล้ว จื่ออันจึงได้ประคองหยวนซื่อที่คืนนี้มิได้พูดอันใดออกมาลุกขึ้น “ท่านแม่ พวกเราก็กลับกันเถอะ”เซี่ยหว่านเอ๋อร์เมื่อพบว่าทุกคนต่างแยกย้ายกัน และผ

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1168

    ร่างกายของแม่ทัพเฒ่าฉินสั่นสะท้านด้วยความโกรธ “เจ้าสาปแช่งปู่รึ เจ้าเคยคำนึงถึงญาติพี่น้องหรือไม่?”เมื่อหมอหลวงมาถึง กลับไม่มีคนในตระกูลฉินคอยเฝ้าเขาอยู่ในห้อง ดังนั้นจึงมีเพียงแต่บ่าวรับใช้หลังจากตรวจสอบอาการเสร็จ หมอหลวงก็กล่าวด้วยสีหน้าตกตะลึง “ท่านแม่ทัพเฒ่า เมื่อไม่กี่วันมานี้ท่านได้ไปที่ใดมา? แล้วท่านเคยเข้าไปในพื้นที่โรคระบาดหรือไม่?” “ไม่เคย ข้าไม่เคยไปที่นั่น” สีหน้าของแม่ทัพเฒ่าเปลี่ยนไปเล็กน้อย เมื่อได้ยินคำพูดของหมอหลวง “ท่านกำลังสงสัยว่าข้าติดเชื้อโรคระบาดใช่หรือไม่?”“อาการช่างคล้ายคลึงกันยิ่งนัก” หมอกลวงกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด“เป็นไปไม่ได้!” แม่ทัพเฒ่าฉินรู้สึกตื่นตระหนกอย่างมาก “ท่านวินิจฉัยผิดหรือไม่?”“ข้าจะจัดยาให้ท่านสองชนิดก่อน หากดื่มยาเหล่านี้แล้วไม่ได้ผล เช่นนั้นไม่ใช่ก็ใกล้เคียงแล้วขอรับ” หมอหลวงกล่าวแม่ทัพเฒ่าฉินกล่าวด้วยความลนลาน “ฉินโจวบังคับให้ท่านพูดเช่นนี้ใช่หรือไม่?”หมอหลวงรู้สึกประหลาดใจ “แม่ทัพเฒ่า ท่านหมายความว่าอย่างไร? เหตุใดแม่ทัพฉินถึงต้องบังคับให้ข้าพูดเช่นนี้?”หมอหลวงชะงักไปชั่วครู่หนึ่งแล้วโพล่งถาม “ท่านเคยพูดคุยกับองค์ชายเ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1167

    นางสามารถเสียสละได้ แต่จะไม่มีทางทรยศต่อประชาชนเป่ยโม่เด็ดขาดสำหรับความจงรักภักดีต่อองค์จักรพรรดิและประเทศชาติ นางจะต้องรักประชาชนก่อน จึงจะสามารถภักดีต่อองค์จักรพรรดิได้ฉินโจวกล่าวคำเบา “ข้าเข้าไปในพระราชวังเพื่อเชิญหมอหลวงแล้ว ท่านปู่พักผ่อนก่อนเถิด ข้าจะออกไปเดินเล่นรับลมสักหน่อย”ดวงตาของแม่ทัพเฒ่าฉินอัดแน่นด้วยความโกรธ แต่ก็พยายามอย่างหนักเพื่อระงับมันฉินโจวเดินออกจากห้อง และเห็นว่าฉินเป้าน้องชายของตนนั่งอยู่ที่สวน เมื่อเห็นนางเดินออกมา เขาก็ถามว่า “ท่านปู่เป็นอย่างไรบ้าง?”ฉินโจวจำคำพูดของท่านปู่ได้อย่างแม่นยำ จึงเมินเฉยต่อเขาและตอบอย่างใจเย็น “เข้าไปดูด้วยตนเองสิ”ฉินเป้าคลี่ยิ้ม แต่มันกลับดูอ้างว้างอย่างยิ่ง “ข้าได้ยินสิ่งที่ท่านปู่พูดกับท่านแล้ว ข้าไม่อยากเข้าไป”ฉินโจวตกตะลึง “เพราะเหตุใด เขาทุ่มเทความพยายามทั้งหมดไปกับหารวางแผนเพื่อเจ้า เจ้าควรขอบคุณท่านปู่สิ”ฉินเป้าหัวเราะเยาะ “จริงรึ? หากเขาทอดทิ้งท่านเพื่อตระกูลได้ ในอนาคตเขาจะไม่ทอดทิ้งข้าหรือ? ข้าไม่ต้องการชื่อเสียงหรือความดีงามใด ๆ พวกมันไม่ใช่สิ่งที่ข้าต้องการเลย”ฉินโจวดูถูกน้องชายมาโดยตลอด เพราะเขาไม่ได

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1166

    ทั้งสองคนเดินออกไปและหยุดอยู่บนทางเดิน หมอมองฉินโจวพร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด “ท่านแม่ทัพ ข้ากำลังสงสัยว่าท่านแม่ทัพเฒ่าจะป่วยด้วยโรคระบาดขอรับ”ฉินโจวตกตะลึง “โรคระบาด? เป็นไปได้อย่างไร? ปู่ของข้าไม่เคยออกไปข้างนอก และไม่เคยติดต่อกับผู้ป่วยโรคนี้เลย แล้วเขาจะติดเชื้อโรคระบาดได้อย่างไร?”“ข้าเคยรักษาผู้ป่วยโรคระบาดมาก่อน ซึ่งอาการคล้ายคลึงกันอย่างมาก ผู้ป่วยจะมีไข้สูง ไอ ตาแดง หายใจเร็วขึ้น เมื่อเกิดอาการเหล่านี้พร้อมกันจะอันตรายอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นโรคนี้ยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาดขอรับ” หมอกล่าว“เป็นไปไม่ได้ หากจะติดเชื้อโรคระบาดก็ต้องสัมผัสกับผู้ป่วยที่มีเชื้ออยู่แล้ว แต่ท่านปู่ของข้าไม่เคยใกล้ชิดคนเหล่านั้นเลย แล้วเขาจะติดเชื้อได้อย่างไร?” ฉินโจวยังคงไม่เชื่อหมอประสานหมัด “ทั้งหมดนี้คือคำวินิจฉัยของข้า หากท่านแม่ทัพไม่เชื่อ ก็สามารถขอให้หมอคนอื่นมาตรวจดูได้ หรือท่านจะพาเขาไปที่พระราชวัง และขอให้หมอหลวงช่วยตรวจอาการ ข้าไร้ความสามารถ จึงอาจวินิจฉัยผิดพลาดได้ ลาก่อนขอรับ ๆ!”สิ้นคำ หมอก็หยิบกล่องยาแล้วออกไปโดยไม่เขียนใบสั่งยาด้วยซ้ำฉินโจวสับสนไม่น้อย ท่านปู่ติดเชื้อโร

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1165

    หัวใจของฉินโจวเย็นเยียบราวกับน้ำ “ใช่ ตราบใดที่ข้าตายในสนามรบ ตระกูลฉินก็ยังจะเป็นผู้กล้า และเป็นขุนนางผู้มีเกียรติ”แม่ทัพเฒ่าฉินเงียบไปครู่ใหญ่ จากนั้นกล่าวคำเบา “ในฐานะหลานสาวตระกูลฉิน มันเป็นหน้าที่ของเจ้าที่ต้องเสียสละเพื่อชื่อเสียง และรากฐานของตระกูล”ฉินโจวกำหมัดแน่นด้วยความไม่พอใจ “หลายปีที่ผ่านมานี้ ข้ายังทำไม่พออีกหรือ? ตอนนี้มีใครในตระกูลฉินบ้างที่ไม่เกาะกินเลือดนี้ของข้า?”แม่ทัพเฒ่าฉินลุกยืนขึ้นพลางกล่าวอย่างเย็นชา “ข้าเคยเตือนเจ้าแล้ว คราวนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เจ้าจะต้องเข้าไปในพระราชวัง ข้าให้คำมั่นกับฮองเฮาเฉาแล้ว ว่าวันนี้เจ้าจะไปที่นั่นเพื่อทูลขอรับคำสั่ง หากเจ้าไม่ไป ข้าก็จะรับคำสั่งและออกรบด้วยตนเอง”“ท่าน...” ฉินโจวมองเขาด้วยสายตาโศกเศร้า “ท่านปู่ ข้าก็เป็นหลานสาวของท่านเหมือนกัน ท่านไม่สงสารข้าบ้างหรือ?”“ปู่สงสารเจ้าสิ แต่ภารกิจหน้าที่ของตระกูลฉินจะต้องถูกส่งต่อ ตอนนี้น้องชายของเจ้าโตพอแล้ว เจ้าจะต้องพาเขาไปสร้างความสำเร็จทางการทหารด้วย และเจ้าจะได้รับส่วนแบ่งของน้องเจ้า เมื่อถึงเวลานั้น ตระกูลฉินก็จะได้ผู้สืบทอดคนใหม่”ฉินโจวผงะไปชั่วครู่ ก่อนระเบิดหัวเราะ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1164

    เมื่อได้ยินคำพูดของฉินโจว แม่ทัพเฒ่าฉินก็โมโหมากจนเคราสั่นสะท้าน “อาโจว อะไรจะสำคัญไปกว่าการบรรลุเป้าหมายอันยิ่งใหญ่? องค์จักรพรรดิเพียงต้องการขยายอาณาเขตของแคว้น เจ้าควรรู้เอาไว้ว่าเมื่อเรายึดครองต้าโจวสำเร็จ เป่ยโม่จะมีพื้นที่เพิ่มมากกว่าครึ่งหนึ่ง และมันจะเป็นความดีความชอบของตระกูลฉิน ทำให้ตระกูลของเราถูกจดจำไปหลายชั่วอายุคน! นี่ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าต้องการมาตลอดรึ? เจ้าไม่ต้องการบอกคนทั้งโลก ว่าแม้ฉินโจวจะเป็นสตรี แต่นางก็สามารถประสบความสำเร็จได้อย่างผ่าเผยหรือ?”ฉินโจวมองดูใบหน้าที่ฉายแววตื่นเต้นปนโกรธเกรี้ยวของปู่ ทันใดนั้นนางก็สัมผัสได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติถูกต้อง มันคือความต้องการของนาง แต่ความสำเร็จของนางจะต้องไม่แลกกับการเหยียบย่ำกระดูกของประชาชนชาวเป่ยโม่นางรักเป่ยโม่และหวังที่จะขยายอาณาเขตของแคว้น นอกจากนี้นางยังต้องการเสาะหาดินแดนอุดมสมบูรณ์เพื่อประชาชน เพราะหวังว่าพวกเขาจะสามารถอยู่อาศัยและทำกินอย่างสงบสุข และพึงพอใจโดยไม่ต้องทนทุกข์จากการพลัดถิ่นอย่างไรก็ตาม ในตอนนี้หากต้องการบรรลุอำนาจ นางจำต้องสละชีวิตประชาชนจำนวนมาก และนำเงินภาษีของทุกคนมาใช้ในการทำสงคราม ทำให้โรคร

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1163

    มือสังหารเหล่านั้นแต่งกายคล้ายกับชาวต้าโจวและสวมหน้ากากผ้าสีดำ กลุ่มคนนิรนามราวเจ็ดถึงแปดคนกระโดดลงมาจากท้องฟ้ากลางวันแสก ๆ ทันทีที่เท้าของคนเหล่านั้นแตะพื้น พวกมันก็เริ่มโจมตีอย่างดุดันฉินโจวเห็นมือสังหารคนหนึ่งกระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกับกระบี่ยาว จากนั้นร่ายรำอยู่หลายกระบวนท่าราวกับนางฟ้าโปรยดอกไม้ ขณะแสงแดดตกกระทบกระบี่ส่องกระจายไปทั่วเหล่าทหารที่เพิ่งมาถึงกระโจนเข้าไปร่วมวงต่อสู้อย่างรวดเร็วหลังจากประดาบกันไปกว่าร้อยครั้ง มือสังหารก็ถูกบีบบังคับให้ล่าถอย ฉินโจวจ่อกระบี่ไปที่คอของหนึ่งในมือสังหาร พลางถามเสียงเข้ม “ตอบข้า ใครเป็นคนส่งเจ้ามา?”มือสังหารตอบอย่างเย็นชา “ฆ่าไอ้หมารับใช้เป่ยโม่ให้หมด!”“หมารับใช้เป่ยโม่? เห็นได้ชัดว่าพวกเจ้าไม่ได้เป็นคนเป่ยโม่ พวกเจ้ามาจากต้าโจวใช่หรือไม่?” ฉินโจวโมโหอย่างมาก ขณะชี้ดาบไปยังหน้าอกของอีกฝ่าย “ไอ้เลวมู่หรงเจี๋ยส่งพวกเจ้ามาใช่หรือไม่?”“หญิงเลวอย่าเจ้ากล้าเอ่ยชื่อของท่านอ๋อง ทำให้พระองค์มัวหมองได้อย่างไร?” มือสังหารตะโกนฉินโจวชักดาบกลับพร้อมกล่าวอย่างเย็นชา “กลับไปซะ!”มือสังหารตกตะลึง ราวกับไม่คาดคิดว่าฉินโจวจะปล่อยตัวเขาไป”เ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1162

    ฉินโจวกล่าวด้วยความโมโห “ข้าหลอกลวงเจ้าเมื่อไร?”“ไม่งั้นรึ? เจ้าและอ๋องฉีเอ่ยปากว่า หากจื่ออันตกลงเดินทางมาที่เป่ยโม่ พวกเจ้าจะส่งองค์ชายรัชทายาทไปที่ต้าโจวเป็นองค์ประกัน แล้วพวกเจ้าทำตามที่พูดแล้วหรือไม่?”“องค์ชายรัชทายาทเดินทางไปยังต้าโจวแล้ว!”“ผู้ที่เดินทางไปยังต้าโจวคือองค์ชายเจ็ด ไม่ใช่องค์ชายรัชทายาท องค์ชายเจ็ดไม่ได้เป็นที่โปรดปราน ดังนั้นจักรพรรดิเป่ยโม่จะส่งเขาไปสังเวยเมื่อใดก็ได้”“เป็นไปไม่ได้!” ฉินโจวประหลาดใจอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าผู้ที่เดินทางไปคือองค์ชายรัชทายาท เพราะองค์จักรพรรดิทรงตรัสด้วยตนเองว่าจะส่งเขาไปที่ต้าโจว“เจ้าอย่าเพิ่งสนใจเรื่องนี้เลย ก่อนหน้านี้ทั้งสองแคว้นตกลงทำสนธิสัญญาสงบศึก หลังจากการแพร่ระบาดสิ้นสุดลง แต่เจ้ากลับวางแผนโจมตีพวกเราในขณะที่ข้ายังอยู่ที่เป่ยโม่ เจ้าจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร?” มู่หรงเจี๋ยกล่าวอย่างเคร่งเครียดฉินโจวตอบ “ผิดแล้ว เป็นเพราะต้าโจวที่เคลื่อนทัพโจมตีทหารฝั่งขวาของเราก่อน และสังหารทหารของเราไปกว่าร้อยคน ข้าจึงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากเคลื่อนทัพเข้าไปใกล้ เพื่อบีบบังคับให้พวกเจ้าถอยกลับ”“ไร้สาระ กองทัพของเราหยุดเคลื่อนท

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1161

    อย่างไรก็ตาม การจัดหาเสบียงอาหารสำหรับพื้นที่ภัยพิบัติยังไม่เพียงพอ และยังขาดแคลนเสื้อผ้าอาภรณ์ นอกจากนี้หลังจากที่พระชายาผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์มาถึงเป่ยโม่ ก็ยังไม่ได้รับใบสั่งยาแม้แต่ฉบับเดียว ดังนั้นความอดทนของประชาชนจึงค่อย ๆ หมดลง แต่ความโกรธและความขุ่นเคืองกลับยิ่งมากขึ้นทันทีที่ข่าวลือแพร่สะพัด ก็เป็นเสมือนเป็นการขว้างเปลวไฟใส่ ‘ระเบิด’ หนึ่งหมื่นตุน ทำให้มันระเบิดออกอย่างรวดเร็วผู้ประสบภัยนับไม่ถ้วนหลั่งไหลเข้าสู่เมืองหลวงอย่างรวดเร็วหลังจากที่ฉินโจวลงจากภูเขา นางก็พบว่าองค์จักรพรรดิทำอะไรกับทหารม้า และทหารเจ็ดหมื่นนายที่ประจำการที่เมืองหลวง ซึ่งเขาออกคำสั่งให้ทหารเหล่านั้นขับไล่เหล่าผู้ประสบภัยออกไปนางเห็นด้วยตาตนเองว่าทหารใต้บังคับบัญชาของนางสร้างกำแพงมนุษย์อันแน่นหนา เมื่อผู้ประสภัยเดินทางเข้ามา พวกเขาก็จะโบกหอกเพื่อขับไล่คนเหล่านั้นออกไปผู้ประสบภัยมากกว่าสิบรายได้รับบาดเจ็บจากหอกทหารเหล่านั้นอยู่ใต้บังคับบัญชาของนาง แม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะไม่ได้ฆ่าผู้ใด แต่เมื่อสถานการณ์รุนแรงขึ้นจะต้องมีการฆ่าแกงกันอย่างแน่นอนฉินโจวโกรธจัดจึงขี่ม้าเข้าไปขวางเอาไว้ “หยุด หยุดเ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1160

    ฉินโจวกวาดสายตามองพลางเยาะเย้ยจื่ออันไม่สนใจนาง และพาหลินตานไปยังเขตตะวันตกภายในสองวันนี้มีผู้เสียชีวิตถึงสามคน ซึ่งทั้งหมดถูกหามออกไปหลังจากที่หลินตามเดินเข้ามาเขาหลั่งน้ำตาหลั่งน้ำตาขณะมองดูการเผาศพจื่ออันไม่คิดว่าเขาจะมีความอ่อนไหวมากเพียงนี้ “ท่านหมอหลิน ท่านเป็นอะไรหรือไม่?”หลินตานปาดน้ำตา “ข้าขอโทษ ข้าเพียง... คิดถึงครอบครัวขอรับ”“ครอบครัวของท่าน? แล้วตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ใดหรือ?” จื่ออันถาม“ตายหมดแล้วขอรับ ภรรยาและลูกสะใภ้ของข้าตายเพราะเหตุแผ่นดินไหวทั้งคู่ ส่วนลูกชายและหลานชายติดเชื้อโรคระบาดก่อนตายไปเช่นกัน ข้าจึงเป็นคนเดียวที่เหลือรอด” หลินตานสูดหายใจเข้าลึก ใบหน้าที่อยู่ภายใต้ผมสีขาวฉายแววความเศร้าโศกและหดหู่จื่ออันไม่คาดคิดว่าเขาจะมาจากพื้นที่โรคระบาดเช่นกัน เมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อย จื่ออันก็ไม่รู้จะปลอบใจเขาเช่นไร จึงได้แต่นิ่งเงียบและอยู่เคียงข้างไม่นานหลินตานก็ถามว่า “ท่านหมอเซี่ย โรคระบาดนี้สามารถรักษาหายได้จริงหรือขอรับ?”ตอนนั้นเองจื่ออันก็นึกได้ว่าเขาเป็นหมอเท้าเปล่า และหลังจากเดินทางพเนจรไปที่ต่าง ๆ เขาอาจรู้จักจินเย่าฉือก็เป็นได้ ดังนั้นจึงรีบถามว

DMCA.com Protection Status