แชร์

บทที่ 206

ผู้แต่ง: จูน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
จื่ออันถามมู่หรงจ้วงจ้วงอย่างหยั่งเชิง "จริงสิ กุ้ยไท่เฟยก็วิตกยังวลมากใช่หรือไม่?”

มู่หรงจ้วงจ้วงกล่าว “นางร้องไห้อย่างโศกเศร้าเสียใจ ยิ่งเป็นบุตรชายแท้ ๆ ของนางด้วยแล้ว นางจะไม่กังวลได้อย่างไร? คนตายแล้ว แม้แต่ศพก็ยังหายไปอีก เป็นใครก็รับไม่ไหวกันทั้งนั้น นางเพียงร้องไห้อย่างหนักก็ถือว่าเข้มแข็งแล้ว ถ้าเป็นคนอื่นคงจะพยายามฆ่าตัวตายไปแล้ว”

จื่ออันพยักหน้า "ใช่สิ ยิ่งเป็นบุตรชายแท้ ๆ ด้วยแล้ว"

มีรถม้าวิ่งผ่านรถม้าของพวกนางไปอย่างรวดเร็ว มู่หรงจ้วงจ้วงเปิดม่านออกดูและเลื่อนม่านลง นางพูดอย่างเย็นชาว่า “เป็นรถม้าของจวนมหาเสนาบดี”

จื่ออันไม่ได้พูดอะไร หลังจากกลับจวนไปแล้ว นางยังจะต้องเผชิญกับพายุการนองเลือดอีก

หลังจากรถม้าเคลื่อนที่ไปได้ครู่หนึ่ง คนขับรถม้าก็ส่งเสียง "โอ๊ะ" และรีบดึงบังเหียน ม้าก็ทะยานขาหน้าขึ้น รถม้าก็เอนไปด้านหลัง ทั้งสองคนชนกันอย่างจังจนเกือบจะกลิ้งออกไป

“เกิดอะไรขึ้น?” มู่หรงจ้วงจ้วงกล่าวอย่างโกรธจัด และเปิดม่านออก แต่กลับเห็นทหารองครักษ์กันรีบลงจากม้า แล้ววิ่งไปอย่างรวดเร็ว

มีผู้หญิงคนหนึ่งนอนอยู่บนถนนที่เป็นพื้นหิน คบไฟของทหารองครักษ์กันส่องสว่างไปที่ใบหน้าของ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
อาทิตยา ศรีกะยอม
ขอบคุณที่เพิ่มบทให้ค่ะ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 207

    เจ้าของร้านของเป่าเหอถังที่เห็นมู่หรงจ้วงจ้วงเข้ามาเหมือนนางปีศาจร้าย เขาก็อดไม่ได้ที่จะสะดุ้งและพูดอย่างโมโห "สตรีผู้นี้ กล้าดียังไง..."เมื่อเขาเห็นทหารองครักษ์สองคนที่อยู่ด้านหลังมู่หรงจ้วงจ้วงถือดาบไว้อยู่ ใบหน้าของเขาดูซีดเซียวอย่างหวาดกลัว และเขาก็พูดตะกุกตะกัก “องค์หญิงเสด็จข้าน้อยมีความผิด ผิดใหญ่หลวงนัก!”ทหารองครักษ์อุ้มหยวนซื่อเข้ามา มู่หรงจ้วงจ้วงเอ่ยเสียงเข้มว่า "เจ้าเข้ามาคอยช่วยเหลือ ถ้าต้องการยาอะไร จะได้สั่งให้เจ้าไปเอามา"“แย่แล้ว ทำไมเลือดถึงได้ไหลออกมามากมายขนาดนี้? เร็วเข้า รีบทาผงยาขาวลงไป” เจ้าของร้านอุทานเสียงดัง แล้วรีบหันหลังเดินไปหยิบยาที่ตู้ยาอีกด้านนึง ทหารองครักษ์สองคนไล่ตามรถม้าของจวนมหาเสนาบดีไป และสกัดกั้นรถม้าที่ถนนหนานจงได้คนขับรถม้ากล่าวอย่างโกรธเคือง "พวกเจ้าเป็นใคร? กล้าดียังไงมาขวางรถม้าของจวนมหาเสนาบดี?"ทหารองครักษ์กล่าวอย่างเย็นชา "ข้ารับคำสั่งจากองค์หญิงใหญ่ให้มาตรวจสอบคดีจงใจทำร้ายร่างกาย โปรดให้ความร่วมมือ"เมื่อคนขับรถม้าได้ยินว่าเป็นคนขององค์หญิง สืบสวนคดีทําร้ายคน จึงรีบลงมา "คดีทำร้ายคนอะไร?"คนขับรถม้าขับรถไปข้างหน้าโดยไม่รู้ว

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 208

    ฮูหยินหลิงหลงนึกถึงตอนที่นางกลายเป็นองค์หญิงใหญ่ที่ล่วงเกินองค์หญิงใหญ่ในจวน นางรู้สึกหวาดกลัวอย่างไม่อาจคาดเดาได้ นางรู้ดีถึงอํานาจขององค์หญิงใหญ่ในราชสํานัก อย่าว่าแต่นางไม่สามารถต่อกรกับนางได้ แม้แต่ท่านมหาเสนาบดีก็ไม่กล้าที่จะล่วงเกินนางเซี่ยหว่านเอ๋อไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวแม้แต่น้อย นางเป็นเพียงองค์หญิงที่ไม่อาจแต่งงานออกไปได้เท่านั้น ต่อให้เป็นญาติผู้ใหญ่ขององค์รัชทายาท ทว่ากลับไม่มีอํานาจอันใด อย่างไรก็จะต้องไว้หน้านางที่เป็นว่าที่พระชายารัชทายาทในอนาคตไม่มากก็น้อย ไม่ถึงกับต้องมางัดข้อกับนางเพราะเรื่องของหยวนซื่อดังนั้นเมื่อนางเห็นว่าฮูหยินหลิงหลงกังวลเป็นอย่างมาก นางจึงพูดปลอบ “ท่านแม่จะต้องกังวลไปใย? ไม่มีใครเห็นว่าพวกเราผลักนางลงไปเสียหน่อย พวกเราไม่ยอมรับเสียอย่าง แม้ว่านางอสรพิษนั่นจะระบุว่าเป็นเราก็ตาม มันก็เป็นเพียงแค่คำพูดปากเปล่า อีกอย่างพวกเราสามารถโต้แย้งกับนางได้ บอกว่านางพูดไม่ดีต่อข้าบนรถม้า ดูถูกข้าที่เป็นถึงว่าที่พระชายาขององค์รัชทายาท แถมยังคิดจะลงมือตบข้า เพื่อที่จะปกป้องข้าแล้ว ท่านก็เลยทะเลาะกับนาง นางจึงจงใจกระโดดลงจากรถม้า เพื่อใส่ร้ายพวกเรา”คำพูดของเซี

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 209

    ไม่ช้าหยวนซื่อก็ตระหนักได้ถึงความจริง สีหน้าของนางเปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นนางก็กลับมาสงบนิ่งอีกครั้ง“ข้ามองไม่เห็นแล้วใช่หรือไหม” น้ำเสียงของนางนิ่งสงบไร้ความสั่นไหวจื่ออันเงียบไปครู่หนึ่งและกล่าวว่า "แค่ชั่วคราว อาจเป็นเพราะเส้นประสาทตาถูกกดทับอันเนื่องมาจากการที่สมองได้รับการกระทบกระเทือนจนบาดเจ็บ""อืม ไม่เป็นไร" นางกล่าว และคลำหามือของจื่ออันและจับมันไว้ “ตาของข้าบอดมานานแล้ว บอดมาหลายปีแล้ว”สิ้นคำสุดท้ายนางก็ถอนหายใจเบา ๆ แทบจะไม่ได้ยินเสียงเลย น้ำเสียงของนางนิ่งสงบมาก ไม่มีร่องรอยของความขุ่นเคืองแม้แต่น้อย แต่คำพูดนี้ที่ดังเข้าไปในหูของจื่ออันกับมู่หรงจ้วงจ้วง กลับรู้สึกเศร้าสลดอย่างบอกไม่ถูกหากนางพูดอย่างตื่นเต้นหรือโมโห อารมณ์ความโศกเศร้าจะไม่รุนแรงนัก"บอกข้ามา มันเกิดเรื่องขึ้นได้อย่างไร?" จื่ออันอดกลั้นต่อความโกรธที่มีในหัวใจ และถามออกไป“เราอยู่ที่ไหน?” หยวนซื่อถามกลับมู่หรงจ้วงจ้วงตอบ "ฮูหยิน พวกเราอยู่ที่โรงหมอ ท่านมีอะไรก็พูดมาเถิด ข้าอยู่ที่นี่แล้ว"ท่าทางของหยวนซื่อผ่อนคลายลง “องค์หญิงก็อยู่ที่นี่ด้วยหรือ? ดีเลย”นางจับมือของจื่ออันไว้และลุกขึ้นนั่ง จื

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 210

    มู่หรงจ้วงจ้วงมองไปที่มีดสั้นและรู้สึกคุ้นเคยมาก จากนั้นนางก็นึกขึ้นได้ "นี่เป็นสิ่งที่เสด็จพี่มอบให้เจ้าเจ็ดในตอนนั้นนี่ เจ้าเจ็ดมอบให้เจ้าเหรอ? มีดสั้นนี้ถือเป็นสมบัติอันล้ำค่าของเขาเลยนะ"จื่ออันไม่รู้ว่ามีดสั้นนี้มีความสำคัญกับมู่หรงเจี๋ยมากถึงเพียงนี้ โดยเฉพาะเป็นมีดสั้นที่องค์จักรพรรดิพระองค์ก่อนมอบให้เขาด้วยแล้วหยวนซื่อหันไปทางจื่ออัน มีท่าทีตกตะลึงเล็กน้อยจื่ออันเก็บมีดสั้นเข้าที่ ไม่อยากให้มีดสั้นเล่มนี้เปื้อนเลือดของฮูหยินหลิงหลงเลยสักนิดนางยืนขึ้นและพูดกับมู่หรงจ้วงจ้วง “องค์หญิง เรื่องนี้ข้าจะจัดการด้วยตัวเอง ท่านไม่จำเป็นต้องเข้ามายุ่งเกี่ยว!”“เจ้าจะจัดการด้วยตัวเอง?” มู่หรงจ้วงจ้วงมองนางอย่างสงสัยแล้วพูดอีกครั้ง “ได้ ข้าจะมอบทหารองครักษ์ของข้าให้เจ้าเอาไปใช้งาน”"ไม่จำเป็น!" จื่ออันส่ายหัว มีรังสีความชั่วร้ายเลือดเย็นปรากฏขึ้นในดวงตาของนาง "ฆ่าไก่ทำไมต้องใช้มีดฆ่าวัว?" ขณะที่พูดคุยกันอยู่ก็มีทหารองครักษ์เข้ามารายงาน "องค์หญิง รถม้าถูกสกัดกั้นไว้ได้ ขณะที่กำลังเดินทางกลับ แต่แล้วดูเหมือนว่าคนขับรถม้าคนนั้นที่กำลังกลับมารายงาน ก็..."ทหารองครักษ์ลังเลเล็กน้อย

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 211

    ระหว่างที่รถม้าขับเคลื่อนกลับมาก็เห็นรถม้าของมู่หรงจ้วงจ้วงจอดอยู่ที่โรงหมอ ก็เลยถามทหารองค์รักษ์ที่อยู่ข้าง ๆ รถม้า ทหารองครักษ์บอกว่าองค์หญิงอยู่ด้านใน เขาก็เลยเปิดม่านบอกกล่าวด้วยความเคารพ "กราบทูลองค์ชาย องค์หญิงใหญ่อยู่ด้านในพ่ะย่ะค่ะ”องครักษ์ทั้งสองได้ช่วยพยุง เขาจึงลงจากรถม้าอย่างกะโผลกกะเผลกที่ถูกโบยไปสามสิบครั้งถือว่าคนโบยเบามือมาก ถ้าอยู่ในค่ายทหาร การลงโทษโดยการโบยสามสิบครั้งในค่ายทหารนั้นจะต้องทำให้เขาพิการการลงมือขององครักษ์ในวังยังมีความเมตตา เพียงแต่องค์รัชทายาทผู้สูงส่งนี้ ตั้งแต่เยาว์วัยแล้วเขาไม่เคยต้องทนทุกข์ทรมาน และการฝึกศิลปะการต่อสู้ของเขาก็เป็นแค่เพลงมวยที่สวยแต่กระบวนท่า ทว่ากลับใช้งานไม่ได้จริง ดังนั้นตอนที่ถูกโบยเขาจึงรู้สึกเจ็บปวดมากเสียจนสลบลงไป เดิมทีเขาควรจะต้องพักผ่อนอยู่ในวัง แต่ฮองเฮาขอให้เขาออกจากวังไปยังจวนไท่ฟู่โดยทันที องค์รัชทายาทอดทนต่ออาการบาดเจ็บอย่างหนัก ในฐานะที่เป็นองค์รัชทายาท หากไม่ออกหน้าปลอบใจเหล่าขุนนาง ก็จะทำให้พวกเขายกใจออกห่าง ดังนั้นแม้ฮองเฮาจะรู้สึกสงสารเขา แต่ก็ได้เตรียมการให้เขาออกจากวังไปทั้ง ๆ ที่ยังบาดเจ็บ เพื่อรักษาคว

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 212

    จื่ออันเพียงแต่โค้งคำนับและขมวดคิ้ว โดยไม่แสดงสีหน้าท่าทางใด ๆ ในสายตาขององค์รัชทายาท เขาคิดว่าจื่ออันกำลังกลัว“นี่เป็นคำสั่งของข้า” มู่หรงจ้วงจ้วงมองดูฮูหยินหลิงหลงอย่างเย็นชา “พวกเจ้าเพิ่งผลักหยวนซื่อให้ร่วงลงมาจากรถม้า จนนางได้รับบาดเจ็บสาหัส ข้าต้องการฟังคำอธิบายของพวกเจ้า เหตุใดถึงขาดสติยั้งคิดทำร้ายหยวนซื่อเช่นนั้น"ฮูหยินหลิงหลงเตรียมข้ออ้างไว้ตั้งนานแล้ว และกำลังจากเปิดปากพูด แต่จื่ออันกลับก้าวมาข้างหน้าในทันที แล้วกระชากผมของนางลากไปที่ประตูจื่ออันลงมือทันที แม้แต่มู่หรงจ้วงจ้วงก็คาดไม่ถึง ฮูหยินหลิงหลงอกสั่นขวัญแขวน ออกแรงทั้งหมดดันขาตนเองขึ้นมา มือทั้งสองก็คว้าตัวจื่ออันไว้ นางรู้สึกเจ็บปวดที่หนังศีรษะอย่างรุนแรง ปวดเสียจนร้องโหยหวนออกมาเมื่อสติของเซี่ยหว่านเอ๋อกลับคืนมา นางก็กระโดดขึ้นจากพื้นและรีบเดินไปอย่างโกรธแค้น "เซี่ยจื่ออัน เจ้ากล้าดีอย่างไร รีบปล่อยท่านแม่ของข้าเดี๋ยวนี้นะ"องค์รัชทายาทก็ตะโกนสั่งซ้ำแล้วซ้ำเล่า ให้องครักษ์หยุดนางจื่ออันถูกทหารองครักษ์หยุดไว้ แต่ก็ยังคงไม่ปล่อยมือ กระชากผมของฮูหยินหลิงหลงอย่างเต็มแรง ใบหน้าแลดูโหดร้ายเสียจนทำให้องครักษ์รู้ส

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 213

    ผู้คนในโรงหมอต่างกลัวจนตัวสั่น ต่างพากันรีบมาห้ามเลือดให้ฮูหยินหลิงหลงและเซี่ยหว่านเอ๋อ ใบหน้าของพวกเขาซีดเผือดด้วยความตกใจ คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงที่อ่อนแอบอบบางคนหนึ่งจะลงมือได้เหี้ยมโหดเช่นนี้เมื่อองค์รัชทายาทเห็นว่าเซี่ยจื่ออันทำร้ายคนสองคนต่อหน้าเขา จึงโกรธมากและสั่งออกไป "เร็วเข้า จับกุมผู้หญิงมีพิษสงคนนี้ซะ"มู่หรงจ้วงจ้วงก้าวไปข้างหน้าและกล่าวเย้ยหยัน "ข้าก็อยากรู้เสียจริง ว่าใครจะกล้าเข้ามา!"จื่ออันกับมู่หรงจ้วงจ้วงมองตากัน และเดินเข้าไปด้านในองค์รัชทายาทอดทนต่อความเจ็บปวดบังคับตนเองให้ก้าวไปข้างหน้า จ้องมองไปที่มู่หรงจ้วงจ้วง "เสด็จย่า ดูเหมือนว่าท่านชอบยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของผู้อื่นเสียจริง ท่านควรคิดให้ดี ๆ การต่อต้านข้าไม่ได้ส่งผลดีต่อท่านเช่นกัน" มู่หรงจ้วงจ้วงกล่าวอย่างเย็นชา “องค์รัชทายาท เจ้าช่างประเมินค่าตนเองสูงเสียจริง พาคนของเจ้ากลับไปซะ หากเจ้าต้องการล้างแค้นให้คู่หมั้นของเจ้า ให้ไปฟ้องร้องเอาที่ศาลาว่าการ ให้พวกเขาดูแลคดีนี้”พูดจบ นางก็สั่งรถม้า “ข้ารับใช้ด้านนอก ไปที่จวนมหาเสนาบดี”องค์รัชทายาทกัดฟันแน่นและกล่าว "ดี พวกเราไปที่จวนมหาเสนาบดีบอกกล่าวให้พว

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 214

    แต่ว่าก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ เซี่ยหว่านเอ๋อกับองค์รัชทายามมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกันแล้ว ถึงแม้ว่าหว่านเอ๋อจะเสียโฉม แต่องค์รัชทายาทก็ยังมีใจให้นางอยู่ เพียงแค่ความรู้สึกนี้ยังคงอยู่จนถึงวันที่หว่านเอ๋อได้อภิเษกสมรสก็พอแล้วมู่หรงจ้วงจ้วงช่วยพยุงหยวนซื่อขึ้นไปบนรถม้า หลังจากนั่งลงแล้ว จื่ออันก็ยังคงกุมมือหยวนซื่อไว้อยู่มู่หรงจ้วงจ้วงสังเกตเห็นว่าข้อมือของจื่ออันยังคงมีคราบเลือดติดอยู่ นางจึงหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาแล้วยื่นให้จื่ออัน "มีเลือดติดอยู่ที่ข้อมือ เช็ดออกซะสิ"จื่ออันรับมันมาอย่างเงียบ ๆ "ขอบคุณ!"มู่หรงจ้วงจ้วงมองนางด้วยสายตาชื่นชมเล็กน้อย แต่นางก็ไม่คาดคิดว่าจื่ออันจะกล้าลงมือกับฮูหยินหลิงหลง และลูกสาวของนางต่อหน้าต่อตาองค์รัชทายาทก่อนหน้านี้ที่นางบอกว่าจะล้างแค้นด้วยตัวเอง ยังคิดว่านางแค่พูดไปอย่างนั้น อย่างไรเสียนางก็ไม่อาจต่อสู้กับองค์รัชทายาทได้คิดไม่ถึงเลยว่า นางจะกล้าทำจริง ๆ นางใช้มีดในทันทีความโหดเหี้ยมนั้น ถ้าเสด็จย่าเห็น ไม่รู้ว่านางจะชอบมันแค่ไหนนางอดไม่ได้ที่จะถามด้วยความสงสัย "เมื่อครู่นี้เจ้าไม่กลัวเหรอ?"จื่ออันหยิบมีดสั้นออกมา เช็ดมันอย่างช้า ๆ แล้วเงยหน้าข

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1168

    ร่างกายของแม่ทัพเฒ่าฉินสั่นสะท้านด้วยความโกรธ “เจ้าสาปแช่งปู่รึ เจ้าเคยคำนึงถึงญาติพี่น้องหรือไม่?”เมื่อหมอหลวงมาถึง กลับไม่มีคนในตระกูลฉินคอยเฝ้าเขาอยู่ในห้อง ดังนั้นจึงมีเพียงแต่บ่าวรับใช้หลังจากตรวจสอบอาการเสร็จ หมอหลวงก็กล่าวด้วยสีหน้าตกตะลึง “ท่านแม่ทัพเฒ่า เมื่อไม่กี่วันมานี้ท่านได้ไปที่ใดมา? แล้วท่านเคยเข้าไปในพื้นที่โรคระบาดหรือไม่?” “ไม่เคย ข้าไม่เคยไปที่นั่น” สีหน้าของแม่ทัพเฒ่าเปลี่ยนไปเล็กน้อย เมื่อได้ยินคำพูดของหมอหลวง “ท่านกำลังสงสัยว่าข้าติดเชื้อโรคระบาดใช่หรือไม่?”“อาการช่างคล้ายคลึงกันยิ่งนัก” หมอกลวงกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด“เป็นไปไม่ได้!” แม่ทัพเฒ่าฉินรู้สึกตื่นตระหนกอย่างมาก “ท่านวินิจฉัยผิดหรือไม่?”“ข้าจะจัดยาให้ท่านสองชนิดก่อน หากดื่มยาเหล่านี้แล้วไม่ได้ผล เช่นนั้นไม่ใช่ก็ใกล้เคียงแล้วขอรับ” หมอหลวงกล่าวแม่ทัพเฒ่าฉินกล่าวด้วยความลนลาน “ฉินโจวบังคับให้ท่านพูดเช่นนี้ใช่หรือไม่?”หมอหลวงรู้สึกประหลาดใจ “แม่ทัพเฒ่า ท่านหมายความว่าอย่างไร? เหตุใดแม่ทัพฉินถึงต้องบังคับให้ข้าพูดเช่นนี้?”หมอหลวงชะงักไปชั่วครู่หนึ่งแล้วโพล่งถาม “ท่านเคยพูดคุยกับองค์ชายเ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1167

    นางสามารถเสียสละได้ แต่จะไม่มีทางทรยศต่อประชาชนเป่ยโม่เด็ดขาดสำหรับความจงรักภักดีต่อองค์จักรพรรดิและประเทศชาติ นางจะต้องรักประชาชนก่อน จึงจะสามารถภักดีต่อองค์จักรพรรดิได้ฉินโจวกล่าวคำเบา “ข้าเข้าไปในพระราชวังเพื่อเชิญหมอหลวงแล้ว ท่านปู่พักผ่อนก่อนเถิด ข้าจะออกไปเดินเล่นรับลมสักหน่อย”ดวงตาของแม่ทัพเฒ่าฉินอัดแน่นด้วยความโกรธ แต่ก็พยายามอย่างหนักเพื่อระงับมันฉินโจวเดินออกจากห้อง และเห็นว่าฉินเป้าน้องชายของตนนั่งอยู่ที่สวน เมื่อเห็นนางเดินออกมา เขาก็ถามว่า “ท่านปู่เป็นอย่างไรบ้าง?”ฉินโจวจำคำพูดของท่านปู่ได้อย่างแม่นยำ จึงเมินเฉยต่อเขาและตอบอย่างใจเย็น “เข้าไปดูด้วยตนเองสิ”ฉินเป้าคลี่ยิ้ม แต่มันกลับดูอ้างว้างอย่างยิ่ง “ข้าได้ยินสิ่งที่ท่านปู่พูดกับท่านแล้ว ข้าไม่อยากเข้าไป”ฉินโจวตกตะลึง “เพราะเหตุใด เขาทุ่มเทความพยายามทั้งหมดไปกับหารวางแผนเพื่อเจ้า เจ้าควรขอบคุณท่านปู่สิ”ฉินเป้าหัวเราะเยาะ “จริงรึ? หากเขาทอดทิ้งท่านเพื่อตระกูลได้ ในอนาคตเขาจะไม่ทอดทิ้งข้าหรือ? ข้าไม่ต้องการชื่อเสียงหรือความดีงามใด ๆ พวกมันไม่ใช่สิ่งที่ข้าต้องการเลย”ฉินโจวดูถูกน้องชายมาโดยตลอด เพราะเขาไม่ได

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1166

    ทั้งสองคนเดินออกไปและหยุดอยู่บนทางเดิน หมอมองฉินโจวพร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด “ท่านแม่ทัพ ข้ากำลังสงสัยว่าท่านแม่ทัพเฒ่าจะป่วยด้วยโรคระบาดขอรับ”ฉินโจวตกตะลึง “โรคระบาด? เป็นไปได้อย่างไร? ปู่ของข้าไม่เคยออกไปข้างนอก และไม่เคยติดต่อกับผู้ป่วยโรคนี้เลย แล้วเขาจะติดเชื้อโรคระบาดได้อย่างไร?”“ข้าเคยรักษาผู้ป่วยโรคระบาดมาก่อน ซึ่งอาการคล้ายคลึงกันอย่างมาก ผู้ป่วยจะมีไข้สูง ไอ ตาแดง หายใจเร็วขึ้น เมื่อเกิดอาการเหล่านี้พร้อมกันจะอันตรายอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นโรคนี้ยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาดขอรับ” หมอกล่าว“เป็นไปไม่ได้ หากจะติดเชื้อโรคระบาดก็ต้องสัมผัสกับผู้ป่วยที่มีเชื้ออยู่แล้ว แต่ท่านปู่ของข้าไม่เคยใกล้ชิดคนเหล่านั้นเลย แล้วเขาจะติดเชื้อได้อย่างไร?” ฉินโจวยังคงไม่เชื่อหมอประสานหมัด “ทั้งหมดนี้คือคำวินิจฉัยของข้า หากท่านแม่ทัพไม่เชื่อ ก็สามารถขอให้หมอคนอื่นมาตรวจดูได้ หรือท่านจะพาเขาไปที่พระราชวัง และขอให้หมอหลวงช่วยตรวจอาการ ข้าไร้ความสามารถ จึงอาจวินิจฉัยผิดพลาดได้ ลาก่อนขอรับ ๆ!”สิ้นคำ หมอก็หยิบกล่องยาแล้วออกไปโดยไม่เขียนใบสั่งยาด้วยซ้ำฉินโจวสับสนไม่น้อย ท่านปู่ติดเชื้อโร

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1165

    หัวใจของฉินโจวเย็นเยียบราวกับน้ำ “ใช่ ตราบใดที่ข้าตายในสนามรบ ตระกูลฉินก็ยังจะเป็นผู้กล้า และเป็นขุนนางผู้มีเกียรติ”แม่ทัพเฒ่าฉินเงียบไปครู่ใหญ่ จากนั้นกล่าวคำเบา “ในฐานะหลานสาวตระกูลฉิน มันเป็นหน้าที่ของเจ้าที่ต้องเสียสละเพื่อชื่อเสียง และรากฐานของตระกูล”ฉินโจวกำหมัดแน่นด้วยความไม่พอใจ “หลายปีที่ผ่านมานี้ ข้ายังทำไม่พออีกหรือ? ตอนนี้มีใครในตระกูลฉินบ้างที่ไม่เกาะกินเลือดนี้ของข้า?”แม่ทัพเฒ่าฉินลุกยืนขึ้นพลางกล่าวอย่างเย็นชา “ข้าเคยเตือนเจ้าแล้ว คราวนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เจ้าจะต้องเข้าไปในพระราชวัง ข้าให้คำมั่นกับฮองเฮาเฉาแล้ว ว่าวันนี้เจ้าจะไปที่นั่นเพื่อทูลขอรับคำสั่ง หากเจ้าไม่ไป ข้าก็จะรับคำสั่งและออกรบด้วยตนเอง”“ท่าน...” ฉินโจวมองเขาด้วยสายตาโศกเศร้า “ท่านปู่ ข้าก็เป็นหลานสาวของท่านเหมือนกัน ท่านไม่สงสารข้าบ้างหรือ?”“ปู่สงสารเจ้าสิ แต่ภารกิจหน้าที่ของตระกูลฉินจะต้องถูกส่งต่อ ตอนนี้น้องชายของเจ้าโตพอแล้ว เจ้าจะต้องพาเขาไปสร้างความสำเร็จทางการทหารด้วย และเจ้าจะได้รับส่วนแบ่งของน้องเจ้า เมื่อถึงเวลานั้น ตระกูลฉินก็จะได้ผู้สืบทอดคนใหม่”ฉินโจวผงะไปชั่วครู่ ก่อนระเบิดหัวเราะ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1164

    เมื่อได้ยินคำพูดของฉินโจว แม่ทัพเฒ่าฉินก็โมโหมากจนเคราสั่นสะท้าน “อาโจว อะไรจะสำคัญไปกว่าการบรรลุเป้าหมายอันยิ่งใหญ่? องค์จักรพรรดิเพียงต้องการขยายอาณาเขตของแคว้น เจ้าควรรู้เอาไว้ว่าเมื่อเรายึดครองต้าโจวสำเร็จ เป่ยโม่จะมีพื้นที่เพิ่มมากกว่าครึ่งหนึ่ง และมันจะเป็นความดีความชอบของตระกูลฉิน ทำให้ตระกูลของเราถูกจดจำไปหลายชั่วอายุคน! นี่ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าต้องการมาตลอดรึ? เจ้าไม่ต้องการบอกคนทั้งโลก ว่าแม้ฉินโจวจะเป็นสตรี แต่นางก็สามารถประสบความสำเร็จได้อย่างผ่าเผยหรือ?”ฉินโจวมองดูใบหน้าที่ฉายแววตื่นเต้นปนโกรธเกรี้ยวของปู่ ทันใดนั้นนางก็สัมผัสได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติถูกต้อง มันคือความต้องการของนาง แต่ความสำเร็จของนางจะต้องไม่แลกกับการเหยียบย่ำกระดูกของประชาชนชาวเป่ยโม่นางรักเป่ยโม่และหวังที่จะขยายอาณาเขตของแคว้น นอกจากนี้นางยังต้องการเสาะหาดินแดนอุดมสมบูรณ์เพื่อประชาชน เพราะหวังว่าพวกเขาจะสามารถอยู่อาศัยและทำกินอย่างสงบสุข และพึงพอใจโดยไม่ต้องทนทุกข์จากการพลัดถิ่นอย่างไรก็ตาม ในตอนนี้หากต้องการบรรลุอำนาจ นางจำต้องสละชีวิตประชาชนจำนวนมาก และนำเงินภาษีของทุกคนมาใช้ในการทำสงคราม ทำให้โรคร

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1163

    มือสังหารเหล่านั้นแต่งกายคล้ายกับชาวต้าโจวและสวมหน้ากากผ้าสีดำ กลุ่มคนนิรนามราวเจ็ดถึงแปดคนกระโดดลงมาจากท้องฟ้ากลางวันแสก ๆ ทันทีที่เท้าของคนเหล่านั้นแตะพื้น พวกมันก็เริ่มโจมตีอย่างดุดันฉินโจวเห็นมือสังหารคนหนึ่งกระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกับกระบี่ยาว จากนั้นร่ายรำอยู่หลายกระบวนท่าราวกับนางฟ้าโปรยดอกไม้ ขณะแสงแดดตกกระทบกระบี่ส่องกระจายไปทั่วเหล่าทหารที่เพิ่งมาถึงกระโจนเข้าไปร่วมวงต่อสู้อย่างรวดเร็วหลังจากประดาบกันไปกว่าร้อยครั้ง มือสังหารก็ถูกบีบบังคับให้ล่าถอย ฉินโจวจ่อกระบี่ไปที่คอของหนึ่งในมือสังหาร พลางถามเสียงเข้ม “ตอบข้า ใครเป็นคนส่งเจ้ามา?”มือสังหารตอบอย่างเย็นชา “ฆ่าไอ้หมารับใช้เป่ยโม่ให้หมด!”“หมารับใช้เป่ยโม่? เห็นได้ชัดว่าพวกเจ้าไม่ได้เป็นคนเป่ยโม่ พวกเจ้ามาจากต้าโจวใช่หรือไม่?” ฉินโจวโมโหอย่างมาก ขณะชี้ดาบไปยังหน้าอกของอีกฝ่าย “ไอ้เลวมู่หรงเจี๋ยส่งพวกเจ้ามาใช่หรือไม่?”“หญิงเลวอย่าเจ้ากล้าเอ่ยชื่อของท่านอ๋อง ทำให้พระองค์มัวหมองได้อย่างไร?” มือสังหารตะโกนฉินโจวชักดาบกลับพร้อมกล่าวอย่างเย็นชา “กลับไปซะ!”มือสังหารตกตะลึง ราวกับไม่คาดคิดว่าฉินโจวจะปล่อยตัวเขาไป”เ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1162

    ฉินโจวกล่าวด้วยความโมโห “ข้าหลอกลวงเจ้าเมื่อไร?”“ไม่งั้นรึ? เจ้าและอ๋องฉีเอ่ยปากว่า หากจื่ออันตกลงเดินทางมาที่เป่ยโม่ พวกเจ้าจะส่งองค์ชายรัชทายาทไปที่ต้าโจวเป็นองค์ประกัน แล้วพวกเจ้าทำตามที่พูดแล้วหรือไม่?”“องค์ชายรัชทายาทเดินทางไปยังต้าโจวแล้ว!”“ผู้ที่เดินทางไปยังต้าโจวคือองค์ชายเจ็ด ไม่ใช่องค์ชายรัชทายาท องค์ชายเจ็ดไม่ได้เป็นที่โปรดปราน ดังนั้นจักรพรรดิเป่ยโม่จะส่งเขาไปสังเวยเมื่อใดก็ได้”“เป็นไปไม่ได้!” ฉินโจวประหลาดใจอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าผู้ที่เดินทางไปคือองค์ชายรัชทายาท เพราะองค์จักรพรรดิทรงตรัสด้วยตนเองว่าจะส่งเขาไปที่ต้าโจว“เจ้าอย่าเพิ่งสนใจเรื่องนี้เลย ก่อนหน้านี้ทั้งสองแคว้นตกลงทำสนธิสัญญาสงบศึก หลังจากการแพร่ระบาดสิ้นสุดลง แต่เจ้ากลับวางแผนโจมตีพวกเราในขณะที่ข้ายังอยู่ที่เป่ยโม่ เจ้าจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร?” มู่หรงเจี๋ยกล่าวอย่างเคร่งเครียดฉินโจวตอบ “ผิดแล้ว เป็นเพราะต้าโจวที่เคลื่อนทัพโจมตีทหารฝั่งขวาของเราก่อน และสังหารทหารของเราไปกว่าร้อยคน ข้าจึงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากเคลื่อนทัพเข้าไปใกล้ เพื่อบีบบังคับให้พวกเจ้าถอยกลับ”“ไร้สาระ กองทัพของเราหยุดเคลื่อนท

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1161

    อย่างไรก็ตาม การจัดหาเสบียงอาหารสำหรับพื้นที่ภัยพิบัติยังไม่เพียงพอ และยังขาดแคลนเสื้อผ้าอาภรณ์ นอกจากนี้หลังจากที่พระชายาผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์มาถึงเป่ยโม่ ก็ยังไม่ได้รับใบสั่งยาแม้แต่ฉบับเดียว ดังนั้นความอดทนของประชาชนจึงค่อย ๆ หมดลง แต่ความโกรธและความขุ่นเคืองกลับยิ่งมากขึ้นทันทีที่ข่าวลือแพร่สะพัด ก็เป็นเสมือนเป็นการขว้างเปลวไฟใส่ ‘ระเบิด’ หนึ่งหมื่นตุน ทำให้มันระเบิดออกอย่างรวดเร็วผู้ประสบภัยนับไม่ถ้วนหลั่งไหลเข้าสู่เมืองหลวงอย่างรวดเร็วหลังจากที่ฉินโจวลงจากภูเขา นางก็พบว่าองค์จักรพรรดิทำอะไรกับทหารม้า และทหารเจ็ดหมื่นนายที่ประจำการที่เมืองหลวง ซึ่งเขาออกคำสั่งให้ทหารเหล่านั้นขับไล่เหล่าผู้ประสบภัยออกไปนางเห็นด้วยตาตนเองว่าทหารใต้บังคับบัญชาของนางสร้างกำแพงมนุษย์อันแน่นหนา เมื่อผู้ประสภัยเดินทางเข้ามา พวกเขาก็จะโบกหอกเพื่อขับไล่คนเหล่านั้นออกไปผู้ประสบภัยมากกว่าสิบรายได้รับบาดเจ็บจากหอกทหารเหล่านั้นอยู่ใต้บังคับบัญชาของนาง แม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะไม่ได้ฆ่าผู้ใด แต่เมื่อสถานการณ์รุนแรงขึ้นจะต้องมีการฆ่าแกงกันอย่างแน่นอนฉินโจวโกรธจัดจึงขี่ม้าเข้าไปขวางเอาไว้ “หยุด หยุดเ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1160

    ฉินโจวกวาดสายตามองพลางเยาะเย้ยจื่ออันไม่สนใจนาง และพาหลินตานไปยังเขตตะวันตกภายในสองวันนี้มีผู้เสียชีวิตถึงสามคน ซึ่งทั้งหมดถูกหามออกไปหลังจากที่หลินตามเดินเข้ามาเขาหลั่งน้ำตาหลั่งน้ำตาขณะมองดูการเผาศพจื่ออันไม่คิดว่าเขาจะมีความอ่อนไหวมากเพียงนี้ “ท่านหมอหลิน ท่านเป็นอะไรหรือไม่?”หลินตานปาดน้ำตา “ข้าขอโทษ ข้าเพียง... คิดถึงครอบครัวขอรับ”“ครอบครัวของท่าน? แล้วตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ใดหรือ?” จื่ออันถาม“ตายหมดแล้วขอรับ ภรรยาและลูกสะใภ้ของข้าตายเพราะเหตุแผ่นดินไหวทั้งคู่ ส่วนลูกชายและหลานชายติดเชื้อโรคระบาดก่อนตายไปเช่นกัน ข้าจึงเป็นคนเดียวที่เหลือรอด” หลินตานสูดหายใจเข้าลึก ใบหน้าที่อยู่ภายใต้ผมสีขาวฉายแววความเศร้าโศกและหดหู่จื่ออันไม่คาดคิดว่าเขาจะมาจากพื้นที่โรคระบาดเช่นกัน เมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อย จื่ออันก็ไม่รู้จะปลอบใจเขาเช่นไร จึงได้แต่นิ่งเงียบและอยู่เคียงข้างไม่นานหลินตานก็ถามว่า “ท่านหมอเซี่ย โรคระบาดนี้สามารถรักษาหายได้จริงหรือขอรับ?”ตอนนั้นเองจื่ออันก็นึกได้ว่าเขาเป็นหมอเท้าเปล่า และหลังจากเดินทางพเนจรไปที่ต่าง ๆ เขาอาจรู้จักจินเย่าฉือก็เป็นได้ ดังนั้นจึงรีบถามว

DMCA.com Protection Status