หลิงอวี๋พาหลิงเยวี่ย เถาจื่อและคนอื่น ๆ ไปที่ถนนวันนี้วันที่สิบห้า บนถนนจึงมีคนมากหลายและบรรยากาศก็ครึกครื้นไปทั่วทุกที่หลิงเยวี่ยตื่นตาตื่นใจกับสิ่งต่าง ๆ มากมาย แต่เด็กน้อยกลับรู้ความมาก มิได้รบกวนหลิงอวี๋ให้ซื้ออะไรเหมือนเด็กคนอื่น ๆหลิงอวี๋คิดว่านานแล้วที่พาหลิงเยวี่ยออกมาเช่นนี้ เมื่อมาถึงหน้าแผงขายของ จึงให้หลิงเยวี่ยเลือกของขวัญหลิงเยวี่ยเลือกหุ่นไม้ตัวเล็ก ๆ แล้วเลือกให้พี่น้องฉีเต๋อแต่ละคนด้วยหลิงอวี๋ยิ้มอย่างชื่นชม มีสิ่งดี ๆ ก็มิเคยลืมที่จะแบ่งปันให้กับสหายของตน มิน่าพี่น้องฉีเต๋อถึงเข้ากับเขาเหมือนพี่น้องกันแท้ ๆเถาจื่อไปถามดูว่าคณะการแสดงทำการแสดงที่ใด พวกของหลิงอวี๋จึงยืนรออยู่หน้าแผงขายของบนท้องถนนมีคนต่างแคว้นจำนวนมาก มีการแต่งกายแบบต่างแคว้นกันไปนี่เป็นครั้งแรกที่หลิงเยวี่ยได้เห็นการแต่งตัวของคนต่างแคว้น เขาจึงมองอย่างอยากรู้อยากเห็น“ท่านแม่ การแต่งตัวของพวกเขาแปลกมากเลย!” หลิงเยวี่ยรอให้คนเหล่านั้นออกไปก่อนจะกระซิบฉีป้าวตอบทันที “นั่นคือคนฉีตะวันออก! ได้ยินมาว่าพวกเขากินเนื้อดิบด้วย! ดินแดนป่าเถื่อนมิเรียนรู้อารยธรรม”หลิงอวี๋ยิ้มพลางเอ่ย “แต่ละแห
เมื่อมู่หรงชิ่งได้ยินพี่ชายพูดเช่นนั้นก็เก็บดาบแล้วยิ้ม จากนั้นก็เดินตามมู่หรงเหยียนซงไปทั้งสองคนเป็นองค์ชายกับองค์หญิงที่ตระกูลมู่หรงของเยวี่ยใต้ส่งมาให้แต่งงานเชื่อมสัมพันธ์มู่หรงชิ่งเป็นองค์หญิงสามของตระกูลมู่หรง มู่หรงเหยียนซงเป็นองค์ชายใหญ่ของตระกูลมู่หรง องค์หญิงสามกับองค์ชายใหญ่มีมารดาคนเดียวกัน ทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาโดยตลอดมู่หรงชิ่งรู้เหตุรู้ผลและประพฤติตัวดี แม้ว่านางจะเป็นองค์หญิง แต่นางก็มิได้โอหังวางอำนาจเหมือนกับองค์หญิงหกเซียวทงและเซี่ยโฮ่วตานรั่ว“ท่านพี่ เป็นความสามารถในการรับรู้ที่น่าอัศจรรย์ของท่านพี่หรือไม่ที่ทำให้ท่านพี่รู้ว่านางแตกต่าง?”มู่หรงชิ่งเชื่อในสัญชาตญาณของมู่หรงเหยียนซงมาก มันเป็นสัญชาตญาณที่ช่วยพวกเขาจากอันตรายมาหลายครั้งแล้ว ดังนั้นตอนนี้นางจึงเชื่อใจพี่ชายโดยไม่มีเงื่อนไข“อืม!” มู่หรงเหยียนซงมิสามารถอธิบายได้ว่าเหตุใดเขาจึงมีความรู้สึกพิเศษกับหลิงอวี๋เห็นนางแล้วเหมือนกับเจอญาติ รู้สึกสนิทใจมาก!เขามองหลิงอวี๋อยู่ห่าง ๆ ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกว่าหญิงงามผู้นี้มีความพิเศษมาก!ความรู้สึกคุ้นเคยนั้นเริ่มแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อย ๆนี่เ
สุ่ยหลิงกับหานอวี้ต่างก็เป็นคนที่มีวรยุทธ ทั้งสองสบตากันแล้วแยกทางกันตามกระทั่งหลิงอวี๋ตามหานอวี้วิ่งเข้าไปในตรอก ก็เห็นว่าชายร่างเตี้ยไล่ตามไปถึงตัวเด็กชายแล้ว เขาโบกแส้ในมือพันรอบน่องของเด็กชายเด็กชายกรีดร้องแล้วล้มลงกับพื้น“เจ้าหัวขโมยตัวน้อย ตกไปอยู่ในมือของข้าแล้วยังคิดจะหนีอีก ข้าจะฟาดให้เจ้าฟันหลุดเสียนี่…”มู่หรงชิ่งดึงแส้ลากเด็กชายมาอยู่ตรงหน้าตน เด็กชายพยายามดิ้นรนอย่างสุดแรง แต่ก็สู้มิได้ จึงถูกมู่หรงชิ่งลากตัวไป“ส่งกระเป๋าเงินออกมา! มิฉะนั้นข้าจะตัดมือเจ้า!”มู่หรงชิ่งดึงกริชออกมาจากรองเท้าของนาง แล้วโบกมันตรงหน้าของเด็กชายเด็กชายกัดฟันแล้วจ้องมองมู่หรงชิ่งด้วยสายตาโกรธเคืองหลิงอวี๋กับหานอวี้ตามมาถึงแล้ว นางเห็นว่าเด็กชายสวมชุดขาดรุ่งริ่ง น่องกับแขนของเขาได้รับบาดเจ็บ มีทั้งรอยเก่ารอยใหม่หลิงอวี๋ขมวดคิ้ว พลางเอ่ยอย่างอดทน “เด็กน้อย เจ้าเอากระเป๋าเงินของข้าไปสินะ! เอากระเป๋าเงินมาให้ข้าแล้วข้าจะมิเอาความเจ้า!”มู่หรงชิ่งเอ่ยอย่างมิพอใจ “จะมิเอาความได้เยี่ยงไร! อายุยังน้อยถึงเพียงนี้ก็ขโมยของเสียแล้ว เติบโตขึ้นไปจะมิฆ่าคนหรอกหรือ! คนเช่นนี้หากถูกจับได้ในที่ขอ
“ได้สิ! แต่อาหารมื้อแรกข้าจะเป็นคนเลี้ยงเอง ข้าเป็นเจ้าบ้าน ถือเสียว่าข้าทำหน้าที่เจ้าบ้านแล้วกันนะ!”หลิงอวี๋มองมู่หรงชิ่งอย่างใจเย็น แม้ว่าอาภรณ์ของนางจะดูมิเอิกเกริก แต่ก็ทำจากผ้าดิ้นเงินดิ้นทองล้ำค่าอีกทั้งนางก็มีท่าทีวางตัวอยู่ในทุกอิริยาบถด้วยหูที่บอบบางของหลิงอวี๋ได้ยินว่ามีคนจำนวนมากเข้ามาใกล้ น่าจะติดตามหรงชิ่งมาฉีตะวันออกมีองค์หญิงชื่อเซี่ยโฮ่วตานรั่วแล้ว ด้วยกลิ่นอายของหรงชิ่ง กอปรกับที่มีผู้คอยปกป้องนางอย่างลับ ๆ ตัวตนของนางก็น่าจะเป็นองค์หญิงแห่งเยวี่ยใต้ชื่อของหรงชิ่งก็น่าจะเป็นมู่หรงชิ่ง!หลิงอวี๋นึกถึงจี้หยกของหลานฮุ่ยจวนที่มีมู่หรงสลักอยู่บนนั้น เมื่อเห็นว่ามู่หรงชิ่งดีกับตนก่อน จึงอยากหาข้อมูลบางอย่างจากมู่หรงชิ่ง จึงตอบตกลงทันที“พี่หญิงหลิงอวี๋ เมื่อครู่ข้าเห็นว่าเจ้าพาเด็กมาด้วย เป็นลูกของเจ้าหรือ? กลับไปเรียกเขาแล้วเราไปกินข้าวกันเถิด!”มู่หรงชิ่งลากหลิงอวี๋เดินออกไปด้วยท่าทางคุ้นเคยกันกระทั่งกลับมาที่การแสดง หลิงอวี๋เห็นว่าหลิงเยวี่ยยังคงกุมมือของเถาจื่อยืนดูนิ่ง ๆ อยู่ที่เดิมหลิงเยวี่ยยิ้มเล็กน้อย แล้วให้หานอวี้ไปบอกเถาจื่อว่า หลังจากที่หลิงเยวี่
ยังมิทันที่หลิงอวี๋จะพูดอะไร จู่ ๆ เปียวจื่อก็นึกขึ้นถึงเรื่องที่สำคัญที่สุดที่เขายังมิได้บอกกับหลิงอวี๋จึงเอ่ยออกไป“พระชายา ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญกว่านั้น เราเพิ่งรู้มาเมื่อคืนนี้… ได้ยินมาว่าตระกูลจ้าวได้เลือกที่ตั้งโรงงานในหมู่บ้านตระกูลหลี่ และกำลังเตรียมจะทำโรงงานยาด้วยขอรับ!”“นายน้อยเสี่ยวห่าวได้ยินข่าวเมื่อคืนนี้ ก็ไปสืบข่าวจนข้ามคืนเลย!”“ท่านว่าตระกูลจ้าวเล็งเป้าหมายมาที่ท่านอยู่หรือไม่?”หัวใจของหลิงอวี๋เต้นรัว นี่คงเป็นฝีมือของจ้าวเจินเจินกับพระชายาเส้าสินะ!เมื่อเห็นโรงงานยาของตนขายยาให้กับกองทัพ และได้รับคำชมและเงินทองจากองค์จักรพรรดิ ก็เลยรู้สึกอิจฉาตาร้อนพวกเขาไม่มีความสามารถในการเริ่มต้นกิจการด้วยตนเอง ดังนั้นจึงคิดจะคัดลอกประสบการณ์ความสำเร็จของตนใช่หรือไม่?ชาวบ้านในหมู่บ้านตระกูลหลี่มีประสบการณ์ในการแสวงหาผลกำไรแล้ว หากตระกูลจ้าวให้เงินเพิ่มอีกเล็กน้อย พวกเขาจะขายกลยุทธ์ทางการค้าของโรงงานยาให้กับตระกูลจ้าวแน่นอน“รังแกกันมากเกินไปแล้ว!”หลิงอวี๋กัดฟัน แล้วจู่ ๆ ก็รู้สึกแย่พระชายาเส้าให้ตงจู๋ลักพาตัวตนเองในวัง นางยังมิได้คิดบัญชีด้วยเลย ตอนนี้ยังพยายา
หลิงอวี๋มิเคยคิดที่จะให้หลิงหว่านแต่งงานไปไกลถึงเพียงนั้นอยู่แล้ว ก็ทำเหมือนมู่หรงชิงพูดเล่น นางเอ่ยอย่างสบาย ๆ“น้องสาวของข้ามิเหมาะกับพี่ชายของเจ้าหรอก องค์จักรพรรดิน่าจะมีคนที่เหมาะสมอยู่แล้ว เราจะมิไปยุ่ง!”“องค์หญิงชิ่ง มาสิ เจ้าดูสิว่าชอบกินสิ่งใด ขนมอบกับอาหารในภัตตาคารจี๋เสียงแห่งนี้อร่อยมาก!”มู่หรงชิ่งเอ่ยอย่างสบาย ๆ ว่าพี่ชายของนางดูดีมาก นางจะมิจับคู่ให้เขาไปเรื่อยเด็ดขาด!ทั้งสองกินไปคุยไป หลิงอวี๋ให้หานอวี้เพิ่มโต๊ะให้ฉีเต๋อกับคนอื่น ๆ กินข้าวด้วยหลิงอวี๋กับมู่หรงชิ่งพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ภายใต้การนำของหลิงอวี๋ มู่หรงชิ่งเล่าให้หลิงอวี๋ฟังเกี่ยวกับเยวี่ยใต้มิน้อยหลิงอวี๋รู้ว่ามู่หรงเหยียนซงพี่ชายของมู่หรงชิ่งเป็นองค์รัชทายาทแห่งเยวี่ยใต้แม่ของมู่หรงชิ่งกับมู่หรงเหยียนซ่ง คือฮองเฮาแห่งเยวี่ยใต้คนปัจจุบันจักรพรรดิแห่งเยวี่ยใต้มีความยุติธรรมกับเข้มงวดในเรื่องการบ้านการเมือง แต่ชีวิตส่วนตัวของเขากลับยุ่งเหยิง เขามีองค์ชายกับองค์หญิงยี่สิบกว่าคนหลิงอวี๋ฟังแล้วก็รู้สึกเหนื่อยแทนจักรพรรดิเยวี่ยใต้ มีลูก ๆ มากถึงเพียงนี้ เขาจะจำได้จริง ๆ กี่คนกัน!หลังจากกินอาหารเ
“พระชายา ในตรอกนั้นมีนางผดุงครรภ์สกุลป้าวอยู่เจ้าค่ะ ได้ยินมาว่านางเชี่ยวชาญเรื่องทำแท้งให้พวกลูกสาวคนรวยที่มิอยากมีลูกเจ้าค่ะ!”สุ่ยหลิงกระซิบเอ่ย “หวางซือพาหลิงเยี่ยนไปที่นั่น แต่หลิงเยี่ยนมิยอมเข้าไป เอาแต่ร้องไห้ขอร้องหวางซือ! หวางซือจึงได้ยอมแพ้ไปเจ้าค่ะ!”“พระชายา แล้วเด็กผู้นั้นอยากให้บ่าวดูหรือไม่เจ้าคะว่าเป็นลูกของใคร?”หลิงอวี๋ส่ายหัว “มิต้องหรอก! ข้าเดาได้ว่าเป็นลูกของใคร!”เรื่องที่หลิงเยี่ยนตั้งครรภ์นอกสมรส นางทำใจมิได้ อีกทั้งยังคงคาดหวังที่จะแต่งงานกับองค์ชายเว่ยอยู่ เด็กจะเป็นลูกของใครไปได้เล่านอกเสียจากองค์ชายเว่ย? พระชายาเว่ยเพิ่งสูญเสียจ่างหนิงไป ย่อมมิยอมให้หลิงเยี่ยนแต่งงานเข้ามาอยู่แล้วเพียงแต่หวางซือคิดเยี่ยงไรเล่า?ลูกเพียงคนเดียวขององค์ชายเว่ยจากไปแล้ว เช่นนั้นเด็กในท้องของหลิงเยี่ยนจึงยิ่งมีค่ามิใช่หรือ?ในเวลานี้ มันควรจะเป็นหมากต่อรองของหวางซือที่จะบังคับให้องค์ชายเว่ยแต่งงานกับหลิงเยี่ยน แต่เหตุใดหวางซือยังพาหลิงเยี่ยนไปหานางผดุงครรภ์เพื่อเอาเด็กออกอีก? หลิงอวี๋คิดอยู่สักพักก็มิเข้าใจเรื่องนี้ นางครุ่นคิดแล้วเอ่ย “สุ่ยหลิง เจ้าแอบไปหากู่ซุ
“อาอวี๋!”เซียวหลินเทียนดึงหลิงอวี๋ให้นั่งลงแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้มขมขื่น “ข้า... ข้าต้องแต่งชายารอง!”หา!หลิงอวี๋สะบัดมือของเซียวหลินเทียนโดยสัญชาตญาณ หัวใจบีบแน่นอย่างประหลาด“เซี่ยโฮ่วตานรั่วหรือเพคะ? เช่นนั้นก็ยินดีด้วย!”“มิใช่... เจ้าอย่าโกรธเลย! ข้า... ข้าปฏิเสธไปแล้ว!” เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างเคร่งขรึม “เจ้าคงมิคาดคิดเช่นกันว่าฮองเฮาเว่ยมอบใครให้ข้า!”“ใครหรือเพคะ?”หลิงอวี๋เอ่ยเยาะเย้ยอย่างเย็นชา “คนที่ฮองเฮาเว่ยเลือกนั้นย่อมงดงาม มีน้ำใจ และเป็นสตรีจากตระกูลที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว ท่านยังมีสิ่งใดมิพอใจอีกหรือ?”“ฉินรั่วซือ!” เซียวหลินเทียนเอ่ยชื่อออกมาทีละคำอย่างช้า ๆ“ฮองเฮาเว่ยบอกว่า ฉินซานสูญเสียแขนไปเพราะเซียวทง แม้ว่านี่จะเป็นความรับผิดชอบของเขา แต่ตระกูลฉินก็เต็มไปด้วยความภักดีและทำอะไรเพื่อฉินตะวันตกมามิน้อย!”“ดังนั้น เพื่อเป็นการชดเชยให้ตระกูลฉินในนามของราชวงศ์ ฉินซานทำงานอยู่ภายใต้ข้า การแต่งงานกับน้องสาวของเขาในฐานะชายารอง จะยิ่งทำให้ฉินซานทำงานเพื่อข้าหนักขึ้นอีก!”“เสด็จพ่อเองก็เห็นด้วยเช่นกัน ทั้งยังบอกด้วยว่า ในตำหนักอ๋องอี้นั้นมีคนอยู่น้อย ฉินรั่