“อาจารย์!”หลี่ชุงเข้ามา เห็นหลิงอวี๋นอนหมดสติอยู่บนเตียง น้ำตาก็ไหลออกมา“ใจเย็น ๆ ขอข้าดูก่อน!”หมอเลี่ยวรีบเข้ามา ทำใจให้สงบลงแล้วตรวจชีพจรของหลิงอวี๋ท่านอ๋องเฉิงกับฉินซานมองหมอเลี่ยวอย่างเคร่งเครียด คิ้วของหมอเลี่ยวก็ขมวดเข้าหากันอย่างหนัก!“อาอวี๋ป่วยเป็นอะไรกันแน่?”เมื่อท่านอ๋องเฉิงเห็นว่าหมอเลี่ยวมิได้พูดอะไรเลยเป็นเวลานาน ก็ตะโกนไปอย่างกังวล “ข้ามิสนใจว่าเจ้าจะใช้วิธีใด แม้ว่าเจ้าจะให้ยาเข้มข้นแก่นาง เจ้าก็ต้องปลุกนางให้ฟื้นขึ้นมาก่อนที่การพิจารณาคดีจะเริ่มขึ้น!”“แม้ว่านางได้รับบาดเจ็บ นางก็จะรักษาตัวเองให้กลับมาแข็งแรงในภายหลังได้! แต่หากนางมิสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนางได้ ทุกอย่างก็จะจบลง!”หมอเลี่ยวยิ้มขมขื่นพลางเอ่ย “ท่านอ๋องเฉิง ข้าน้อยมิเข้าใจเลย... ชีพจรของพระชายายุ่งเหยิงมาก! ข้าน้อยมิรู้ด้วยซ้ำว่านางป่วยด้วยโรคอะไร แล้วจะกล้าให้ยามั่ว ๆ กับนางได้เยี่ยงไร!”“ถูกวางยาพิษหรือไม่?”ฉินซานนึกถึงที่หลิงอวี๋ถูกหมอเฝิงวางยาพิษตอนที่อยู่ที่เว่ยโจว จึงเตือนขึ้นมา“ดูคล้ายจะใช่ แต่ก็ดูคล้ายจะมิใช่...”หมอเลี่ยวส่ายหัว “หากนางถูกวางยา หัวใจของนางก็จะอ่อนแอ! แต่
“มากเกินไปแล้ว… มันจะกลั่นแกล้งกันมากเกินไปแล้ว…”ท่านอดีตเสนาบดีโกรธจนปากสั่น ในขณะเดียวกันก็รู้สึกหนาวเหน็บไปด้วยเขาทำการสงครามให้กับฉินตะวันตกมานับมิถ้วนในตลอดชีวิตของเขา ถึงไม่มีความดีความชอบแต่ก็ทำงานหนัก จักรพรรดิอู่อันจะทำให้หลานสาวของตนอับอายเช่นนี้ได้เยี่ยงไร?!แม้จะมิได้นึกถึงความดีความชอบของตน แต่หลิงอวี๋ก็เพิ่งจะเสี่ยงชีวิตเพื่อไปที่เว่ยโจวเพื่อช่วยฉินตะวันตกต่อสู้กับโรคระบาด โรงงานยาของนางก็มีส่วนช่วยฉินตะวันตกไว้อย่างมากด้วย!องค์จักรพรรดิจะลืมคุณงามความดีเช่นนี้ได้เยี่ยงไร!หลิงเยี่ยนเห็นว่าท่านอดีตเสนาบดีโกรธเช่นนี้หลังจากได้ยินข่าว ก็รู้สึกอิจฉาในใจก่อนหน้านี้ตนหวังจะหาโอกาสกำจัดหลิงอวี๋เพื่อเอาใจฮองเฮาเว่ยกับองค์ชายเว่ยแต่หลิงอวี๋ฆ่าจ่างหนิง นี่มันก็เท่ากับเป็นการตัดความเป็นไปได้ที่ตนจะแต่งงานเข้าตำหนักองค์ชายเว่ยไปเลยมิใช่หรือ?หลิงเยี่ยนเอ่ยด้วยความโกรธ “ท่านปู่ ดูเถิดว่าท่านยังคงเข้าข้างหลิงอวี๋อยู่อีก นางทำเรื่องเลวร้ายเช่นนี้ สิ่งที่ท่านควรกังวลคือนางจะทำครอบครัวของเราเดือดร้อนหรือไม่สิเจ้าคะ!”“ท่านปู่ ท่านควรประกาศตัดความสัมพันธ์กับนางต่อธารกำนัล เร
นอกประตูราชสำนักฝ่ายใน ผู้คนที่มาเฝ้าดูยิ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วแม้ว่าจะยังมิถึงเวลาพิจารณาคดี แต่ถนนด้านนอกประตูก็แน่นขนัดไปหมด!“หลิงอวี๋จะสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนได้หรือ?”ผู้คนที่มารวมตัวกันเป็นกลุ่ม ๆ ต่างพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้“จะเป็นไปได้เยี่ยงไร? ได้ยินมาว่าพยานกับหลักฐานครบมาก คราวนี้หลิงอวี๋ดิ้นมิหลุดแน่!”“เหตุใดหญิงผู้นี้จึงใจร้ายถึงเพียงนี้ เด็กเล็กถึงเพียงนั้นนางลงมือได้เยี่ยงไร!”หานอวี้ปะปนอยู่ท่ามกลางฝูงชน รอคอยการพิจารณาคดีอย่างใจจดใจจ่อท่านอ๋องอี้ได้บอกไว้แล้วว่า ในช่วงหลายวันนี้ต้องใส่ใจเรื่องความปลอดภัยของหลิงเยวี่ย เพื่อป้องกันการแก้แค้นจากตำหนักองค์ชายเว่ยดังนั้น หานอวี้กับแม่นมลี่จึงมิกล้าบอกความจริงกับหลิงเยวี่ย และมิอนุญาตให้หลิงเยวี่ยออกจากตำหนักอ๋องอี้เลยแม้แต่ก้าวเดียววันนี้แม่นมลี่ส่งหานอวี้ออกมาสืบข่าว นางฟังคนเหล่านั้นเอ่ยถึงคุณหนูต่าง ๆ นานา ก็ทนมิได้จนอยากจะด่ากลับไปอยู่หลายครั้ง แต่เมื่อนึกถึงภารกิจของตนแล้วก็ทำได้เพียงอดทนฟังอย่างหงุดหงิด“เหตุใดยังมิเริ่มอีก!”รอกันมาเป็นเวลานานแล้ว ก็มีคนเอ่ยขึ้นมาอย่างมิอดทน“คงไม่มีการเปลี
ท่านอ๋องเฉิงมองหลิงอวี๋ที่ยังคงหลับตาแน่น แล้วถอนหายใจ “หรือนี่คือประสงค์ของสวรรค์กระนั้นหรือ?”เขาส่ายหัว มองเวลา จากนั้นก็จัดชุดให้เรียบร้อยแล้วเดินออกไปหลังจากนั้นมินาน ก็ได้ยินเสียงตะโกนของนักการดังขึ้นมาในราชสำนักฝ่ายใน “เข้าสู่… โถงพิธี!”ทุกคนต่างก็มีความกังวลนักการหญิงสองคนเดินเข้ามา ภายใต้คำสั่งของแม่นางเหยียน พวกนางแบกหลิงอวี๋มาบนแผ่นไม้แล้วมาส่งที่ห้องพิจารณาคดีฉินซานดูเป็นกังวลมาก หลิงอวี๋ที่หมดสติอยู่เช่นนี้ นางจะปกป้องตัวเองได้เยี่ยงไรเล่า!หลี่ว์จงเจ๋อก็มาด้วย เมื่อเข้าไปในประตูแล้วเห็นภาพนี้ ใจของเขาก็จมดิ่งลงเมื่อครู่เขาเพิ่งรบกวนพ่อของเขาให้ช่วยขอร้องเรื่องของหลิงอวี๋หลี่ว์เซียงส่ายหัวพลางเอ่ย “มิใช่ว่าข้ามิอยากช่วย แต่เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับฮองเฮาเว่ย หากหลิงอวี๋ไม่มีหลักฐานที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง แม้แต่ไทเฮาก็มิสามารถขอร้องให้หลิงอวี๋ได้!”“พวกเจ้าเชื่อหลิงอวี๋เถิด! สตรีผู้นั้นเป็นคนฉลาด นางจะต้องพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนางได้อย่างแน่นอน!”“อีกอย่าง ท่านอ๋องอี้ก็ทรงปราดเปรื่องเช่นกัน พระองค์จะต้องช่วยหลิงอวี๋ได้แน่!”หลี่ว์จงเจ๋อรีบเข้ามาด้วยคว
“เข้าสู่โถงพิธี! เงียบ! นี่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์!”หลังจากที่นักการของราชสำนักฝ่ายในตะโกนออกมา ทั้งห้องโถงก็เงียบลงเหล่าคนที่มาดูนั้นมองท่านอ๋องเฉิงที่นั่งอยู่ในห้องพิจารณาคดีอย่างสงสัยใคร่รู้นักโทษมิสามารถพูดได้แล้วคดีนี้จะพิจารณาได้อย่างไร?พระชายาเว่ยกับเฮ่อจู้ในฐานะเจ้าทุกข์ต่างมองหน้ากัน แล้วเฮ่อจู้ก็ก้าวไปคุกเข่าลงข้างหนึ่ง“ท่านผู้บัญชาการขุนนางฝ่ายใน กระหม่อมต้องการฟ้องหลิงอวี๋ โทษฐานที่เพิกเฉยต่อกฎหมายและก่อเหตุฆาตกรรมในวัง จนทำให้ท่านหญิงจ่างหนิงถูกสังหารตั้งแต่อายุยังน้อย! เฮ่ออันบุตรชายของกระหม่อมก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกันและยังคงหมดสติอยู่ด้วย!”“กระหม่อมขอวิงวอนท่านผู้บัญชาการขุนนางฝ่ายในให้รักษาความยุติธรรมและลงโทษมือสังหารอย่างหนัก!”ท่านอ๋องเฉิงสีหน้ามิสู้ดี เขามองหลิงอวี๋ที่ไม่ขยับเขยื้อนเลยนี่อาจเป็นคดีที่ไม่มีเหตุผลที่สุดที่ท่านอ๋องเฉิงเคยพิจารณา นักโทษมิสามารถแก้ต่างได้ เขาเองก็มิสามารถซักถามได้ว่าถูกใส่ความหรือไม่!ตลอดหลายปีที่ผ่านมาท่านอ๋องหงซานทำงานอย่างดีเยี่ยม แม้ว่าเขาจะอายุหกสิบกว่าปีแล้ว แต่ดูเหมือนว่าเขาจะมีสติมากกว่าท่านอ๋องเฉิงเขามองท่าทีลำบ
“ท่านอ๋องเฉิง...”เมื่อตราประทับของท่านอ๋องเฉิงกำลังจะแตะลงบนหนังสือหย่า เสียงตะโกนก็ดังมาจากไกล ๆจากนั้นมีม้าหลายตัวควบเข้ามาอย่างรวดเร็วเซียวหลินเทียนเป็นผู้นำมาแล้วตะโกนมาจากไกล ๆ “ท่านอ๋องเฉิง กระหม่อมจับมือสังหารที่ฆ่าจ่างหนิงได้แล้ว... นางสามารถพิสูจน์ได้ว่าหลิงอวี๋พูดความจริง!”ท่านอ๋องเฉิงถอนหายใจโล่งอกทันที แล้วขยำหนังสือหย่าเป็นลูกกลม ๆ โยนมันทิ้งไปพร้อมกับตะโกน“เอาตัวขึ้นมา!”“หลีกทางให้หมด!”หลี่ว์จงเจ๋อยังมิได้ไปไหนไกล เมื่อเห็นภาพนี้ก็วิ่งเข้ามาเปิดทางให้เซียวหลินเทียนเซียวหลินเทียนรีบควบม้ากีบขาวเข้าไป แล้วลงจากม้าที่หน้าห้องพิจารณาคดีเขาวิ่งวุ่นทั้งวันทั้งคืนเพื่อจับกุมคน แล้วรีบเดินทางกลับโดยมิกล้าหยุดพักด้วยซ้ำ เพราะกลัวว่าจะสายแล้วหลิงอวี๋จะถูกตัดสินเมื่อได้ยินคำพูดของท่านอ๋องเฉิง เซียวหลินเทียนก็แอบถอนหายใจโล่งอก โชคดีที่เขากลับมาทันเวลาองค์ชายเว่ยและภรรยาของเขา รวมถึงเฮ่อจู้โกรธจนใบหน้าบิดเบี้ยว!เมื่อเห็นว่าเหลือเพียงแค่ประทับตรา หลิงอวี๋ก็จะถูกหย่าร้างแล้ว และพวกเขาจะก็พาตัวนางออกไปได้!ใครจะคิดว่าเซียวหลินเทียนจะรีบกลับมาทัน!แม้ว่าพระชายาเว
เฮ่อจู้ยิ้มเยาะพลางเอ่ย “ท่านอ๋องอี้ เห็นหรือไม่ว่ากลอุบายของท่านใช้มิได้ผล! คนเราต้องการชีวิตมิได้ต้องการเงินพ่ะย่ะค่ะ!”คนที่เฝ้าดูอยู่ข้างนอกเกิดความโกลาหลขึ้นในทันทีมีคนตะโกนขึ้นมา “ท่านอ๋องอี้ ชีวิตของพระชายาอ๋องอี้คือชีวิต แต่ชีวิตของคนธรรมดาสามัญมิใช่ชีวิตหรือ? ท่านจะใส่ร้ายผู้อื่นเพื่อช่วยพระชายาของตนได้เยี่ยงไร!”“ถูกต้อง มีอำนาจแล้วยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ประหารหลิงอวี๋… ประหารหลิงอวี๋!”มีคนตะโกนขึ้นมาด้วยความโกรธ “แล้วยังจะบอกว่าองค์ชายที่ฝ่าฝืนกฎหมายก็มีความผิดเช่นเดียวกับคนทั่วไป… พวกท่านเหล่านี้ ใช้อำนาจอิทธิพล เมื่อฆ่าคนแล้วก็ไปหาคนมารับผิดแทน บนใต้หล้านี้จะยังมีความยุติธรรมอะไรอีก!”“พวกเราคนธรรมดาสามัญ ต้องทำตามที่พวกท่านบงการหรือ?”คำพูดเหล่านี้ทำเอาเซียวหลินเทียนโกรธจนหน้าซีด คนเหล่านี้มิรู้เลยว่า “คนสามัญธรรมดา” ตรงหน้าผู้นี้แสร้งทำเป็นน่าสงสาร ตัวนางเก่งกาจมาก พวกเขาต้องทำงานหนักทั้งคืนถึงจะจับตัวนางมาได้ในกระบวนการจับกุมนาง เฉาอี้กับองครักษ์หนึ่งคนได้รับบาดเจ็บจากนางไปด้วยเมื่อตงจู๋เห็นว่านางหนีมิพ้นแล้ว นางก็ยอมจำนนให้จับ ใครจะคิดว่าเมื่อนางมาถึงราชสำนักฝ
เซียวหลินเทียนจับมือหลิงอวี๋อย่างกังวลมิรู้ว่าองค์ชายเย่จัดการเรื่องในวังเป็นเยี่ยงไรบ้าง!หากมีอะไรผิดพลาด เช่นนั้นตนจะมิสามารถเป็นมีพยานเรื่องตงจู๋ และมิสามารถปกป้องหลิงอวี๋ได้!เวลาผ่านไปทีละน้อยท่านอ๋องหงซานเอ่ยอย่างมิอดทน “ท่านอ๋องเฉิง องค์จักรพรรดิทรงตัดสินไว้ว่าจะตัดหัวหลิงอวี๋ในเวลาบ่ายสาม ตอนนี้อีกมิเท่าไร่ก็จะถึงบ่ายสามแล้ว!”“คดีนี้ของเจ้าจะยังพิจารณาอยู่หรือไม่?”เฮ่อจู้ก็เอ่ยด้วยความโกรธเช่นกัน “ท่านอ๋องเฉิง เรารอให้เสียเวลาเช่นนี้มิไหวแล้ว! ท่านต้องกำหนดเวลาให้กับเรา!”ผู้ที่รอดูอยู่ข้างนอกก็รำคาญกับการรอคอยเช่นกัน จึงพากันตะโกนขึ้นมา“ท่านอ๋องเฉิง หากท่านต้องการปกป้องหลิงอวี๋ก็ทำเช่นนี้มิได้กระมัง!”“เราทุกคนมาที่นี่เพื่อมาดูท่านพิจารณาคดีนี้ หากท่านมิรู้ว่าจะพิจารณาคดีเยี่ยงไรก็ลงไปให้ท่านอ๋องหงซานมาพิจารณาแทนเถิด!”“เปลี่ยนคน… เปลี่ยนคน...”คนในตำหนักองค์ชายเว่ยกับจวนของเฮ่อจู้เป็นผู้นำในการตะโกนองค์ชายเว่ยมองเซียวหลินเทียนอย่างภาคภูมิใจพลางเอ่ยอย่างหน้าซื่อใจคด “น้องสี่ เจ้าก็ได้เห็นแล้ว มิใช่ว่าข้ากำลังทำเรื่องให้เจ้าลำบากใจ แต่เป็นหลิงอวี๋ที่ทำเรื่องเ