แชร์

บทที่ 891

ผู้เขียน: กานเฟย
“เข้าสู่โถงพิธี! เงียบ! นี่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์!”

หลังจากที่นักการของราชสำนักฝ่ายในตะโกนออกมา ทั้งห้องโถงก็เงียบลง

เหล่าคนที่มาดูนั้นมองท่านอ๋องเฉิงที่นั่งอยู่ในห้องพิจารณาคดีอย่างสงสัยใคร่รู้

นักโทษมิสามารถพูดได้แล้วคดีนี้จะพิจารณาได้อย่างไร?

พระชายาเว่ยกับเฮ่อจู้ในฐานะเจ้าทุกข์ต่างมองหน้ากัน แล้วเฮ่อจู้ก็ก้าวไปคุกเข่าลงข้างหนึ่ง

“ท่านผู้บัญชาการขุนนางฝ่ายใน กระหม่อมต้องการฟ้องหลิงอวี๋ โทษฐานที่เพิกเฉยต่อกฎหมายและก่อเหตุฆาตกรรมในวัง จนทำให้ท่านหญิงจ่างหนิงถูกสังหารตั้งแต่อายุยังน้อย! เฮ่ออันบุตรชายของกระหม่อมก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกันและยังคงหมดสติอยู่ด้วย!”

“กระหม่อมขอวิงวอนท่านผู้บัญชาการขุนนางฝ่ายในให้รักษาความยุติธรรมและลงโทษมือสังหารอย่างหนัก!”

ท่านอ๋องเฉิงสีหน้ามิสู้ดี เขามองหลิงอวี๋ที่ไม่ขยับเขยื้อนเลย

นี่อาจเป็นคดีที่ไม่มีเหตุผลที่สุดที่ท่านอ๋องเฉิงเคยพิจารณา นักโทษมิสามารถแก้ต่างได้ เขาเองก็มิสามารถซักถามได้ว่าถูกใส่ความหรือไม่!

ตลอดหลายปีที่ผ่านมาท่านอ๋องหงซานทำงานอย่างดีเยี่ยม แม้ว่าเขาจะอายุหกสิบกว่าปีแล้ว แต่ดูเหมือนว่าเขาจะมีสติมากกว่าท่านอ๋องเฉิง

เขามองท่าทีลำบ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (3)
goodnovel comment avatar
Chaweewan Siriyom
เมืองนี้คนชั่วเยอะจัง คนโง่ก็เยอะด้วย ไม่น่ารอด
goodnovel comment avatar
August Nok
หย่าเเล้ว นางเอกฟื้นมาได้ ไม่ต้องง้อใครอีก ขอตอนให้ฮ่องเต้เจ็บปวดบ้าง
goodnovel comment avatar
Mook Ratree
ถ้า นอ รอด อยากให้ตัดขาดกับราชวงศ์ไปเลย
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 892

    “ท่านอ๋องเฉิง...”เมื่อตราประทับของท่านอ๋องเฉิงกำลังจะแตะลงบนหนังสือหย่า เสียงตะโกนก็ดังมาจากไกล ๆจากนั้นมีม้าหลายตัวควบเข้ามาอย่างรวดเร็วเซียวหลินเทียนเป็นผู้นำมาแล้วตะโกนมาจากไกล ๆ “ท่านอ๋องเฉิง กระหม่อมจับมือสังหารที่ฆ่าจ่างหนิงได้แล้ว... นางสามารถพิสูจน์ได้ว่าหลิงอวี๋พูดความจริง!”ท่านอ๋องเฉิงถอนหายใจโล่งอกทันที แล้วขยำหนังสือหย่าเป็นลูกกลม ๆ โยนมันทิ้งไปพร้อมกับตะโกน“เอาตัวขึ้นมา!”“หลีกทางให้หมด!”หลี่ว์จงเจ๋อยังมิได้ไปไหนไกล เมื่อเห็นภาพนี้ก็วิ่งเข้ามาเปิดทางให้เซียวหลินเทียนเซียวหลินเทียนรีบควบม้ากีบขาวเข้าไป แล้วลงจากม้าที่หน้าห้องพิจารณาคดีเขาวิ่งวุ่นทั้งวันทั้งคืนเพื่อจับกุมคน แล้วรีบเดินทางกลับโดยมิกล้าหยุดพักด้วยซ้ำ เพราะกลัวว่าจะสายแล้วหลิงอวี๋จะถูกตัดสินเมื่อได้ยินคำพูดของท่านอ๋องเฉิง เซียวหลินเทียนก็แอบถอนหายใจโล่งอก โชคดีที่เขากลับมาทันเวลาองค์ชายเว่ยและภรรยาของเขา รวมถึงเฮ่อจู้โกรธจนใบหน้าบิดเบี้ยว!เมื่อเห็นว่าเหลือเพียงแค่ประทับตรา หลิงอวี๋ก็จะถูกหย่าร้างแล้ว และพวกเขาจะก็พาตัวนางออกไปได้!ใครจะคิดว่าเซียวหลินเทียนจะรีบกลับมาทัน!แม้ว่าพระชายาเว

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 893

    เฮ่อจู้ยิ้มเยาะพลางเอ่ย “ท่านอ๋องอี้ เห็นหรือไม่ว่ากลอุบายของท่านใช้มิได้ผล! คนเราต้องการชีวิตมิได้ต้องการเงินพ่ะย่ะค่ะ!”คนที่เฝ้าดูอยู่ข้างนอกเกิดความโกลาหลขึ้นในทันทีมีคนตะโกนขึ้นมา “ท่านอ๋องอี้ ชีวิตของพระชายาอ๋องอี้คือชีวิต แต่ชีวิตของคนธรรมดาสามัญมิใช่ชีวิตหรือ? ท่านจะใส่ร้ายผู้อื่นเพื่อช่วยพระชายาของตนได้เยี่ยงไร!”“ถูกต้อง มีอำนาจแล้วยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ประหารหลิงอวี๋… ประหารหลิงอวี๋!”มีคนตะโกนขึ้นมาด้วยความโกรธ “แล้วยังจะบอกว่าองค์ชายที่ฝ่าฝืนกฎหมายก็มีความผิดเช่นเดียวกับคนทั่วไป… พวกท่านเหล่านี้ ใช้อำนาจอิทธิพล เมื่อฆ่าคนแล้วก็ไปหาคนมารับผิดแทน บนใต้หล้านี้จะยังมีความยุติธรรมอะไรอีก!”“พวกเราคนธรรมดาสามัญ ต้องทำตามที่พวกท่านบงการหรือ?”คำพูดเหล่านี้ทำเอาเซียวหลินเทียนโกรธจนหน้าซีด คนเหล่านี้มิรู้เลยว่า “คนสามัญธรรมดา” ตรงหน้าผู้นี้แสร้งทำเป็นน่าสงสาร ตัวนางเก่งกาจมาก พวกเขาต้องทำงานหนักทั้งคืนถึงจะจับตัวนางมาได้ในกระบวนการจับกุมนาง เฉาอี้กับองครักษ์หนึ่งคนได้รับบาดเจ็บจากนางไปด้วยเมื่อตงจู๋เห็นว่านางหนีมิพ้นแล้ว นางก็ยอมจำนนให้จับ ใครจะคิดว่าเมื่อนางมาถึงราชสำนักฝ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 894

    เซียวหลินเทียนจับมือหลิงอวี๋อย่างกังวลมิรู้ว่าองค์ชายเย่จัดการเรื่องในวังเป็นเยี่ยงไรบ้าง!หากมีอะไรผิดพลาด เช่นนั้นตนจะมิสามารถเป็นมีพยานเรื่องตงจู๋ และมิสามารถปกป้องหลิงอวี๋ได้!เวลาผ่านไปทีละน้อยท่านอ๋องหงซานเอ่ยอย่างมิอดทน “ท่านอ๋องเฉิง องค์จักรพรรดิทรงตัดสินไว้ว่าจะตัดหัวหลิงอวี๋ในเวลาบ่ายสาม ตอนนี้อีกมิเท่าไร่ก็จะถึงบ่ายสามแล้ว!”“คดีนี้ของเจ้าจะยังพิจารณาอยู่หรือไม่?”เฮ่อจู้ก็เอ่ยด้วยความโกรธเช่นกัน “ท่านอ๋องเฉิง เรารอให้เสียเวลาเช่นนี้มิไหวแล้ว! ท่านต้องกำหนดเวลาให้กับเรา!”ผู้ที่รอดูอยู่ข้างนอกก็รำคาญกับการรอคอยเช่นกัน จึงพากันตะโกนขึ้นมา“ท่านอ๋องเฉิง หากท่านต้องการปกป้องหลิงอวี๋ก็ทำเช่นนี้มิได้กระมัง!”“เราทุกคนมาที่นี่เพื่อมาดูท่านพิจารณาคดีนี้ หากท่านมิรู้ว่าจะพิจารณาคดีเยี่ยงไรก็ลงไปให้ท่านอ๋องหงซานมาพิจารณาแทนเถิด!”“เปลี่ยนคน… เปลี่ยนคน...”คนในตำหนักองค์ชายเว่ยกับจวนของเฮ่อจู้เป็นผู้นำในการตะโกนองค์ชายเว่ยมองเซียวหลินเทียนอย่างภาคภูมิใจพลางเอ่ยอย่างหน้าซื่อใจคด “น้องสี่ เจ้าก็ได้เห็นแล้ว มิใช่ว่าข้ากำลังทำเรื่องให้เจ้าลำบากใจ แต่เป็นหลิงอวี๋ที่ทำเรื่องเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 895

    ในที่สุดท่านอ๋องหงซานก็พบโอกาสที่จะได้ลืมตาอ้าปากแล้ว เขายืนขึ้นหยิบพระราชโองการมา พร้อมตะโกนเสียงดัง“ท่านอ๋องเฉิงรับคำสั่ง...”ท่านอ๋องเฉิงงุนงง พระชายาเว่ยขอพระราชโองการอะไรกัน? เหตุใดจึงมิได้ยินอันเจ๋อเอ่ยถึงเรื่องนี้เลย!เซียวหลินเทียน ฉินซานและคนอื่น ๆ ก็ตะลึงเช่นกัน ทุกคนก็มีลางสังหรณ์ที่มิดีอยู่ในใจ!แม้ว่าท่านอ๋องเฉิงจะสับสน แต่เมื่อเห็นพระราชโองการสีทองก็ยังคงเดินลงไป แล้วยกเสื้อคลุมขึ้นพร้อมทั้งคุกเข่าลง “น้อมรับพระราชโองการ...”“ด้วยโองการแห่งฟ้า องค์จักรพรรดิได้มีพระบัญชา… หากท่านอ๋องเฉิงมิสามารถตัดสินคดีฆาตกรรมของหลิงอวี๋ได้อย่างยุติธรรมในเวลาบ่ายสาม ท่านอ๋องหงซานจะรับช่วงพิจารณาคดีของหลิงอวี๋แทน…”หัวใจของท่านอ๋องเฉิงกับเซียวหลินเทียนจมดิ่งลงหลังจากที่ท่านอ๋องหงซานอ่านจบ เขาก็วางพระราชโองการขององค์จักรพรรดิอย่างภูมิใจ “ท่านอ๋องเฉิง นี่มันบ่ายสามแล้ว ในเมื่อเจ้ามิสามารถตัดสินคดีได้ ข้าจะรับช่วงต่อคดีนี้เอง!”ท่านอ๋องหงซานเดินไปที่บนแท่นพิจารณาคดี แล้วเอื้อมมือไปหยิบค้อนขึ้นมาฟาดมันลงบนโต๊ะอย่างรวดเร็ว“หลิงอวี๋สังหารท่านหญิงจ่างหนิง และทำให้เฮ่ออันได้รับบาดเจ็บ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 896

    หากวันนี้เซียวหลินเทียนกล้าขวางพระชายาเว่ยมิให้พาหลิงอวี๋ไป และกล้าต่อต้านกองทัพหลวง เขาจะถูกตั้งข้อหากบฏ!เซียวหลินเทียนสีหน้ามืดมนและกำมือแน่นแวบหนึ่งในความคิดเขาก็คือ แม้ว่าเขาจะต้องฆ่ากองทัพหลวงเหล่านี้ เขาก็ต้องพาหลิงอวี๋ออกไปให้ได้!แต่เมื่อเห็นสายตาตะลึงของจ้าวซวนกับคนอื่น ๆ เซียวหลินเทียนก็บังคับตนให้ละทิ้งความคิดนี้ไป...กองทัพหลวงเหล่านั้นมีทั้งดาบและธนู พวกเขาต้องได้รับคำสั่งเป็นการส่วนตัวจากองค์จักรพรรดิ ตราบใดที่ตนกล้าต่อต้าน พวกเขาจะฆ่าตนอย่างแน่นอน!ไม่มีทางที่เขาจะพาหลิงอวี๋ฝ่าลูกธนูมากมายถึงเพียงนี้ไปได้อย่างปลอดภัยเป็นแน่!ยิ่งไปกว่านั้น นี่มิใช่แค่เรื่องระหว่างตนเองกับหลิงอวี๋เท่านั้น!มีคนจำนวนมากในตำหนักอ๋องอี้ และยังมีหลิงเยวี่ยอีก แม้กระทั่งจวนเสนาบดีเจิ้นหย่วนและฉินซานเองก็จะลำบากไปกับตนด้วย!เซียวหลินเทียนรู้สึกเสียใจเป็นครั้งแรก!ไม่ว่าวรยุทธของเขาจะดีแค่ไหน!แต่พลังของเขาก็ยังน้อยเกินไป!เขามิสามารถต่อสู้กับอำนาจขององค์จักรพรรดิได้เลย!เซียวหลินเทียนมิเคยมีความคิดที่จะนั่งในตำแหน่งนั้นมาก่อนเลย...มีเพียงการควบคุมโชคชะตาไว้ในมือของตนเท่านั้น เขา

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 897

    “หลิงอวี๋ นี่คือผลกรรมที่เจ้าฆ่าลูกสาวของข้า!”พระชายาเว่ยมิสามารถซ่อนความตื่นเต้นของตนได้เลย ยิ่งหลิงอวี๋อับอาย นางก็ยิ่งมีความสุข!นางเดินตามไปข้างหลัง เห็นว่าหลิงอวี๋กำลังจะถูกลากไปที่เกวียนบรรทุกมูลสัตว์ที่ตำหนักองค์ชายเว่ยเตรียมไว้ในที่ไกล ๆ นั้น เฉาอี้ยืนอยู่ที่ทางแยกเพื่อรอพบองค์ชายเย่เขามองความสับสนวุ่นวายอย่างกังวล และมองไปทางถนนขณะที่เขากำลังจะก่นด่านั้น ก็เห็นว่าในที่สุดก็มีม้าเร็วหลายตัวควบเข้ามา และองครักษ์คนหนึ่งก็ตะโกนมาจากไกล ๆ“พี่จ้าว องค์ชายเย่ ขันทีเซี่ยและหัวหน้าฝ่ายในมาแล้ว! ไปรายงานท่านอ๋องเร็วเข้า!”เฉาอี้พ่นลมหายใจออกมาอย่างตื่นเต้น แล้ววิ่งไปที่ห้องพิจารณาคดีพร้อมกับตะโกนไปขณะที่วิ่งไปด้วย“ท่านอ๋อง ท่านอ๋องเฉิง… องค์ชายเย่ ขันทีเซี่ยและหัวหน้าฝ่ายในมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ…”“พวกเขานำหลักฐานสำคัญมา…”เสียงนี้ดังขึ้น เมื่อเซียวหลินเทียนได้ยินก็รู้สึกราวกับฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง เขารีบวิ่งขึ้นไปราวกับสายลมแล้วช่วยเหลือหลิงอวี๋ออกมาจากเงื้อมมือของคนรับใช้ในตำหนักองค์ชายเว่ย“องค์ชายเย่และขันทีเซี่ยนำหลักฐานสำคัญมาแล้ว!”“ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้พาหลิงอวี๋

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 898

    หลังจากนั้นมินาน องค์ชายเย่ ขันทีเซี่ยและหัวหน้าฝ่ายในก็ตามหลังมาท่านอ๋องหงซานได้นั่งในห้องพิจารณาคดีของราชสำนักฝ่ายในมินาน ก็ถูกท่านอ๋องเฉิงไล่ลงมาแล้วคดีของหลิงอวี๋จะถูกพิจารณาใหม่!แม้ว่าองค์ชายเว่ย พระชายาเว่ยและเฮ่อจู้จะมิยอม แต่ขันทีเซี่ยก็มีพระราชโองการล่าสุดขององค์จักรพรรดิมา ทั้งสามคนมิยอมก็ต้องยอม!“ท่านอ๋องเฉิง กระหม่อมนำชุดดำกับลูกดอกพิษของตงจู๋มา!”องค์ชายเย่เหลือบมองเซียวหลินเทียนอย่างรู้สึกผิด จากนั้นก็โบกมือ แล้วองครักษ์ของเขาก็เอาหลักฐานเข้ามาตงจู๋ที่คุกเข่าอยู่ข้าง ๆ ก็ยังต้องโต้เถียงอยู่ในเวลานี้ นางตะโกนราวกับว่าถูกใส่ความ “องค์ชายเย่ บ่าวรู้ว่าหลิงอวี๋ช่วยพระชายาเย่ไว้ แต่ท่านจะใส่ร้ายบ่าวเพียงเพราะรู้สึกขอบคุณนางมิได้เพคะ!”“บ่าวภักดีต่อพระชายาฮุ่ย ถึงมิได้มีความดีความชอบใดแต่ก็ทำงานอย่างหนักเพคะ!”“หุบปาก!”องค์ชายเย่ตะโกนด้วยความโกรธ “พี่สะใภ้สี่ช่วยพระชายาของข้าไว้จริง ๆ! ข้ารู้สึกขอบคุณนาง แต่หัวหน้าฝ่ายในพาคนไปหาหลักฐานเหล่านี้มาด้วยตัวเอง!”“ตงเหมยผู้สมรู้ร่วมคิดของเจ้าก็สารภาพแล้วว่านี่คือชุดดำของเจ้า!”ตงจู๋ยังคงโต้แย้งอยู่ “สิ่งที่ตงเหมยบอกน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 899

    ท่านอ๋องเฉิงกุมขมับ พี่น้องทั้งสองทะเลาะกันในห้องพิจารณาคดีเหมือนเด็ก ๆ ไปได้ นี่มันอะไรกันเนี่ย!ในตอนที่ไม่มีใครสังเกตเห็น จู่ ๆ หลิงอวี๋ก็ลืมตาขึ้นมานางถูกเซียวหลินเทียนอุ้มไว้ในอ้อมแขน นางลืมตาขึ้นมา พอเห็นว่าตนอยู่ในห้องพิจารณาคดีก็หลับตาไปอีกครั้งนางนึกถึงประสบการณ์ในฝันของตนสองวันที่ผ่านมา มันมืดมน กึ่งหลับกึ่งตื่น นางต้องจัดการความรู้ที่นางได้เรียนรู้ในมิติ หาทางช่วยเฮ่ออัน มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่องค์ชายเว่ยกับภรรยาของเขาจะมั่นใจได้อย่างสมบูรณ์พระชายาเว่ยกับองค์ชายเว่ยยังคงโต้เถียงกับเซียวหลินเทียนอยู่ในเวลานี้ เหยียนฮุ่ยภรรยาของเฮ่อจู้ก็อุ้มเฮ่ออันไว้แล้วเดินโซเซเข้ามาในห้องพิจารณาคดี“สามี... พระชายาเว่ย พวกท่านดูเถิด... อันเอ๋อร์มิไหวแล้ว!”หัวใจของเฮ่อจู้เต้นรัวแล้วรีบวิ่งเข้าไป แล้วก็เห็นเลือดไหลออกมาจากมุมปากของเฮ่ออันที่อยู่ในอ้อมแขนของเหยียนฮุ่ยใบหน้าเล็ก ๆ ของเขาซีดราวกับกระดาษ มีเพียงหายใจแต่หายใจมิเข้าเลย!เฮ่อจู้สิ้นหวังแล้ว เขาคว้าเฮ่ออันพลางตะคอกใส่เซียวหลินเทียนกับท่านอ๋องเฉิง“เซียวหลินเทียน ท่านอ๋องเฉิง พวกท่านดูลูกชายของกระหม่อมเถิด… เขากำลั

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1902

    ต่งเฉิงมองหลิงอวี๋พลางพยักหน้ารัว ๆ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มพร้อมกับลูบเคราของตัวเองว่า “สาวน้อยนางนี้รู้จักเครื่องยาสมุนไพรมากมายเช่นนี้นับว่าหายาก!”เครื่องยาสมุนไพรเหล่านี้มิใช่สมุนไพรธรรมดาทั้งหมด นอกจากเครื่องยาสมุนไพรที่ใช้ในการกลั่นโอสถระดับต้นแล้ว ยังมีระดับกลางและระดับสูงจำนวนเล็กน้อยอีกด้วยโดยทั่วไป ผู้เข้าสอบที่ตอบได้เจ็ดสิบถึงแปดสิบชนิดก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว ทว่าหลิงอวี๋สามารถตอบได้มากกว่าหนึ่งร้อยชนิด ถือว่าเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์สูงเลยทีเดียวเพิ่งเข้ามาก็ทำคะแนนได้ดีถึงเพียงนี้ หากนางได้เรียนอย่างเป็นระบบก็คงแซงหน้าบัณฑิตคนอื่นได้ในมิช้า“ตึง ตึง ตึง!”เมื่อเสียงกลองดังขึ้นสามครั้ง การสอบแข่งขันของกลุ่มนี้ก็สิ้นสุดลง“หนึ่งร้อยยี่สิบเจ็ดคะแนน!”กลองหยุดลงแล้ว และบนใบหน้าของศิษย์พี่หญิงก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นเป็นครั้งแรก นางหยิบป้ายส่งให้หลิงอวี๋พร้อมรอยยิ้ม“การสอบแข่งขันรอบต่อไปจะจัดขึ้นในช่วงบ่าย! ความสามารถในการจำแนกเครื่องยาสมุนไพรของเจ้าดีที่สุดในรอบนี้ ทำให้ดีล่ะ!”“ขอบคุณศิษย์พี่หญิง!”หลิงอวี๋รับป้ายมาด้วยความตื่นเต้น พลางหันไปดูผู้เข้าสอบคนอื่น ๆ ที่กำลังมองนางด้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1901

    เป็นไปตามคาด หลิงอวี๋เห็นใบหน้าที่งดงามทว่าโหดร้ายนั้น และนั่นก็คือศัตรูที่นางมิอาจลืมเลือน...จ้าวหรุ่ยหรุ่ย!ชั่วขณะนั้นดวงตาของหลิงอวี๋เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว พลางนึกอยากจะรุดเข้าไปฉีกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเป็นชิ้น ๆ เพียงหลับตา นางก็มิอาจควบคุมตนมิให้นึกถึงฉากที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเตะต่อยตนความเจ็บปวดและเลือดสด ๆ อีกทั้งความทุกข์ทรมานจากการสูญเสียลูกไปทำให้หลิงอวี๋มิอาจลืมความเกลียดชังที่ตนมีต่อจ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้เลย!คาดมิถึงว่าศัตรูจะปรากฏตัวต่อหน้าตนเช่นนี้!หลิงอวี๋ตื่นตัวมากจนร่างกายสั่นเทา แต่นางก็ยังสามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ได้นางมิใช่คู่ต่อสู้ของจ้าวหรุ่ยหรุ่ย การวู่วามลงมือมีแต่จะเป็นการรนหาที่ตายเท่านั้นหลิงอวี๋สูดหายใจเข้าลึกพลางมองเด็กสาวที่ประกาศสงครามกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเด็กสาวคนนี้ดูอายุราว ๆ สิบหกสิบเจ็ดปี มีรูปร่างสูง ใบหน้ารูปไข่ คิ้วโค้งเหมือนพระจันทร์เสี้ยว และดวงตาแวววาวสดใสผมสีดำสนิทของนางถูกแสกกลางและถักเป็นเปียยาวสองข้างพันไว้รอบมวยผม ข้าง ๆ มวยผมนั้นมีปิ่นมุกปักประดับอยู่สองอันเด็กสาวสวมชุดกระโปรงสีม่วงควันธูป และเมื่อดูจากเนื้อผ้าแล้ว นางน่าจะเป็นค

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1900

    ข่าวที่สือหรงนำมาให้เซียวหลินเทียนมิใช่ข่าวดี จ้าวหรุ่ยหรุ่ยยังคงอยู่ในตำหนักเทียนจีและมิได้มาลงทะเบียนด้วยตนเองหากอยากพบกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ย ก็ทำได้แค่ต้องรอจนถึงวันคัดเลือกรอบแรกเท่านั้นแต่เซียวหลินเทียนก็มิย่อท้อ ถึงอย่างไรขอเพียงจ้าวหรุ่ยหรุ่ยปรากฏตัว เขาก็จะไม่มีทางปล่อยนางหนีไปอีกแน่ ให้นางเป็นอิสระอีกสักสองสามวันก็คงมิเป็นไร!ในช่วงวันเวลาที่เหลือ หลายคนเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านเช่นเดียวกับหลิงอวี๋ พวกเขาอ่านตำราอย่างหนักและเพิ่มพูนความรู้ที่ขาดไป เพื่อที่จะผ่านการคัดเลือกและได้เข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงหลงทว่าหลิงอวี๋มิรู้เลยว่าศัตรูของตนมาถึงเมืองหลวงแดนเทพแล้ว หลังจากเอาแต่ปิดห้องอ่านตำราเป็นเวลาหลายวันนางก็มาที่สำนักศึกษาชิงหลงที่อยู่นอกเมืองในวันแห่งการคัดเลือก โดยมีผู้รอบรู้เรื่องร่วมเดินทางด้วยหน้าทางเข้าสำนักศึกษาชิงหลงเต็มไปด้วยผู้คนทั้งบุรุษและสตรี ทั้งเด็กและผู้ใหญ่รวมกันนับพันคนผู้รอบรู้เห็นเช่นนั้นก็ทึ่งจนพูดมิออก และอ้ำอึ้งพูดออกไปว่า “รู้เช่นนี้ข้าน่าจะมาลงทะเบียนเข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงหลงกับเจ้าด้วย เฮ้อ ตอนนี้มันสายไปเสียแล้ว!”หลิงอวี๋ยิ้ม นางรู้ว่าผู้รอบร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1899

    “เถาจื่อ หานอวี้ วันพรุ่งพวกเจ้าไปลงทะเบียนเสีย!”เซียวหลินเทียนทำการตัดสินใจและกำชับว่า “ลงทะเบียนในชื่อของน้องสาวข้า!”“เผยอวี้ ฉินซาน พวกเจ้าสองคนก็ไปลงทะเบียนสาขาที่ตนเองชื่นชอบด้วย พวกเจ้าทั้งคู่บอกแค่ว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องของข้าก็พอ!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น พวกเขาทุกคนก็หัวเราะอย่างมีความสุข พลางพยักหน้าและจัดลำดับอาวุโสกันให้เซียวหลินเทียนเป็นพี่ใหญ่ของทุกคน เถาจื่อเป็นพี่หญิงใหญ่ หานเหมยเป็นพี่น้องคนที่สาม และหานอวี้เป็นคนที่สี่เซียวหลินเทียนได้บอกจุดประสงค์ของภารกิจให้พวกเขาทราบแล้ว เถาจื่อกับหานอวี้ต้องให้ความสำคัญกับฝั่งของสตรีวันรุ่งขึ้น เถาจื่อและหานอวี้ไปลงทะเบียน และทั้งคู่ก็เลือกวิชาปรุงโอสถเนื่องจากก่อนหน้านี้พวกนางเคยตามหลิงอวี๋ไปจำแนกเครื่องยาสมุนไพรหลายชนิด ในความคิดของพวกนาง การกลั่นโอสถเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการผ่านการประเมินมีชั้นเรียนที่สอนการกลั่นโอสถเพียงสองแห่งเท่านั้น ดังนั้นเถาจื่อและหานอวี้จึงต้องลงทะเบียนเรียนคนละชั้นเรียนและเถาจื่อก็ได้ลงทะเบียนเรียนชั้นเรียนของหอโอสถซ่างกู่เซียวหลินเทียน เผยอวี้และคนอื่น ๆ ก็ไปลงทะเบียนด้วยเซียวหลินเทียนลงทะ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1898

    เผยอวี้เหลียวซ้ายแลขวาไปรอบ ๆ เมืองหลวงแดนเทพที่เจริญรุ่งเรืองราวกับคนบ้านนอก ทำเอาเขาอดมิได้ที่จะถอนหายใจ“มิแปลกใจที่ทุกคนล้วนพูดว่าเมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรือง เพราะที่นี่เจริญจริง ๆ ดังคำกล่าว นายท่านอู่ เมืองหลวงแดนเทพแห่งนี้ใหญ่กว่าเมืองหลวงในฉินตะวันตกของพวกเราหลายเท่านัก!”เซียวหลินเทียนวางแผนใช้คำในชื่อจักรพรรดิเซิ่งอู่ของตนเป็นแซ่ ดังนั้น เผยอวี้และคนอื่น ๆ จึงได้เปลี่ยนมาเรียกเซียวหลินเทียนว่านายท่านอู่หานอวี้กับเถาจื่อและคนอื่น ๆ ที่ได้รีบมารวมตัวกับกลุ่มของเซียวหลินเทียนต่างพยักหน้าเห็นด้วยอย่างเงียบ ๆทว่าเซียวหลินเทียนกลับรู้สึกเบื่อหน่ายขึ้นมา เมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรืองแล้วอย่างไร?หากไม่มีหลิงอวี๋อยู่เคียงข้าง มิว่าทิวทัศน์จะสวยงามเพียงใดมันก็ไร้ประโยชน์ยิ่งเมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรืองและมีขนาดใหญ่มากเท่าไร การตามหาหลิงอวี๋ก็จะยิ่งยากมากเท่านั้นท่ามกลางฝูงชนมหาศาลนี้เขาจะหาตัวหลิงอวี๋ของเขาพบได้อย่างไร?ฉินซาน หานเหมยและสือหรงล่วงหน้ากันไปก่อน ในช่วงที่ยังสร้างตำหนักปีกเงินแห่งใหม่มิเสร็จนี้ ทั้งสามคนได้ซื้อที่ดินใหญ่ที่มีหกส่วนเพื่อให้ทุกคนใช้เป็นที่อย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1897

    หลิงอวี๋เห็นด้วยกับผู้รอบรู้ เพื่อป้องกันมิให้คนอื่นสงสัยว่านางกับผู้รอบรู้มิใช่พี่น้องกันแท้ ๆ นางจึงเปลี่ยนแซ่ของตนเป็นแซ่เดียวผู้รอบรู้และใช้นามว่า สิงอวี๋วันรุ่งขึ้น หลิงอวี๋ไปที่ห้องโถงหลักของหอโอสถซ่างกู่เพื่อลงทะเบียน ที่ทางเข้าหอโอสถซ่างกู่นั้นมีทั้งบุรุษและสตรีต่อแถวยาวเป็นหางว่าวหลิงอวี๋รู้สึกเวียนหัวขึ้นมาเมื่อเห็นแถวยาวถึงเพียงนี้ ต้องต่อแถวไปถึงเมื่อไรกว่าตนจะได้ลงทะเบียนเล่านี่!แต่เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ เพื่ออนาคตของตนในวันข้างหน้า นางก็ทำได้เพียงต่อแถวต่อไปอย่างว่าง่ายเท่านั้นคุณหนูและนายน้อยบางส่วนมิได้มาด้วยตนเอง แต่ส่งสาวใช้และคนรับใช้ไปต่อแถวให้เด็กสาวท่าทางเหมือนคุณหนูที่อยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เห็นเช่นนั้นก็ยิ้มเยาะขึ้นมา“แม้แต่มาต่อแถวก็ยังไม่มีความจริงใจ แต่กลับอยากเป็นศิษย์ของอาจารย์เย่น่ะหรือ คนเช่นนี้สมควรถูกปัดตกไปเสีย!”สาวใช้ด้านหน้าหลิงอวี๋ที่มาต่อแถวแทนเจ้านายได้ยินเช่นนั้นก็พูดอย่างดูถูกว่า “ไม่มีใครตั้งกฎว่าห้ามสาวใช้มาต่อแถวให้นี่! ตระกูลเหลยของท่านขัดสนมากจนไม่มีเงินจ้างสาวใช้หรืออย่างไร?”เหลยเหวินโกรธจัดและตะโ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1896

    หลิงอวี๋มิได้ถือโทษผู้รอบรู้และกล่าวว่า “พี่ใหญ่มิต้องกังวลไป กินข้าวกันก่อนเถิด ท่านซื้อตำรับกลั่นโอสถมิได้ก็ช่างมัน ข้ามีที่เรียนแล้ว!”ในขณะที่กำลังกินข้าวหลิงอวี๋ก็เล่าให้ผู้รอบรู้ฟังว่าสำนักศึกษาชิงหลงกำลังรับสมัครบัณฑิตวิชาปรุงโอสถ“วันพรุ่งข้าจะไปลงทะเบียน หากข้าได้ที่หนึ่ง ข้าก็จะได้เรียนวิชาปรุงโอสถโดยมิต้องเสียเงินแม้แต่แดงเดียว!”แต่แม้จะมิได้ที่หนึ่งหลิงอวี๋ก็คิดว่าตนสามารถหาเงินห้าหมื่นอีแปะจากการขายตำรับยาเพียงมิกี่เล่ม นางจึงมิได้เก็บมาใส่ใจ“พี่ใหญ่ ตอนที่ลงทะเบียนมีปรมาจารย์ให้เลือกเรียนด้วยสองคน ข้ามิรู้ว่าควรจะเลือกปรมาจารย์คนไหน วันพรุ่งท่านช่วยไปสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับนิสัยของแต่ละคนให้ข้าหน่อยนะ!”เมื่อผู้รอบรู้ได้ยินว่า นักปรุงโอสถแห่งหอโอสถไป๋เป่าและซ่างกู่จะรับหน้าที่เป็นครู เขาก็พูดโดยมิลังเลว่า “มิจำเป็นต้องไปสอบถามหรอก เลือกครูของหอโอสถซ่างกู่สิ!”“เพราะเหตุใดหรือ?” หลิงอวี๋ถามด้วยความอยากรู้ผู้รอบรู้ยิ้มหยัน “คนของหอโอสถไป๋เป่าเหล่านั้นเป็นพวกยโสชอบดูถูกคนอื่น! เพราะคนที่อยู่เบื้องหลังหอโอสถของพวกเขาคือฮูหยินของเจ้าแห่งทะเลของตระกูลหลงอย่างไรเล่า!”“

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1895

    เมื่อเห็นบรรยากาศที่แสนจะคึกคัก หลิงอวี๋ก็เข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้นนางเห็นประกาศว่า สำนักศึกษาชิงหลงกำลังรับสมัครบัณฑิตในหลายสาย เช่น สายนักปรุงโอสถ สายนักสร้างอาวุธ สายนักทำนายดวงดาว สายนักอัญเชิญ และสายจอมยุทธ์ ขณะที่หลิงอวี๋กำลังอ่านประกาศ นางก็ได้ยินผู้คนรอบ ๆ พูดคุยกันจากบทสนทนาของพวกเขา ทำให้หลิงอวี๋ได้รู้ว่า สำนักศึกษาชิงหลงนั้นอยู่ในการดำเนินงานของราชสำนักซึ่งให้การศึกษาด้านการฝึกฝนในระดับสูงผู้ที่ดำรงตำแหน่งเป็นครูคือปรมาจารย์ที่โดดเด่นในด้านต่าง ๆ หากมีบัณฑิตที่มีความเป็นเลิศประจักษ์แก่สายตาของอาจารย์เหล่านี้ พวกเขาก็สามารถรับเป็นศิษย์และเข้าร่วมกับกองทัพของราชสำนัก หรือสำนักใหญ่ ๆ ได้แดนเทพเปิดกว้างมากเรื่องความแตกต่างระหว่างบุรุษและสตรี สตรีนั้นสามารถเข้ามาร่ำเรียนในสำนักศึกษาและได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับบัณฑิตชายหลิงอวี๋รู้สึกถูกใจในสิ่งที่ได้เห็น การที่ได้ไปร่ำเรียนในสำนักศึกษาเช่นนี้ จะทำให้ตนเข้าใจการปรุงโอสถได้ง่ายขึ้น ดีกว่าลองผิดลองถูกมิใช่หรือ?นางตั้งใจอ่านอีกครั้ง ข้อกำหนดในการลงทะเบียนมิได้เข้มงวดเกินไป และใช้เงินเพียงห้าตำลึงเงินเท่านั้นในการลงทะเบี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1894

    หลิงอวี๋และผู้รอบรู้ได้มาถึงเมืองหลวงแดนเทพ เหมือนกับที่ผู้รอบรู้บอก เมืองหลวงแดนเทพเต็มไปด้วยโอกาสเพราะที่นี่มีผู้บำเพ็ญตนมากมายและเต็มไปด้วยกลุ่มคนน้อยใหญ่อยู่ทั่วทุกหนแห่งหลิงอวี๋เองก็รู้สึกทึ่งกับความเจริญรุ่งเรืองของเมืองหลวงแดนเทพ มีร้านค้าอยู่ทั่วทุกมุมและสินค้าที่ขายก็มีความหลากหลายแปลกตาและสวยงามเช่นเดียวกัน ราคาที่อยู่อาศัยในเมืองหลวงแดนเทพก็มีราคาแพงสองวันแรกทั้งสองคนพักที่โรงเตี๊ยมเล็ก ๆ บริเวณชานเมือง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายคืนละห้าสิบตำลึงเงินหลังจากใช้ความพยายามอย่างมาก ในที่สุดผู้รอบรู้ก็ได้ซื้อเรือนเล็ก ๆ ของตรอกเล็กในเมืองที่อยู่ไกลออกไปโดยใช้เงินไปเกือบสามหมื่นนี่เทียบเท่ากับการใช้สมบัติของหลิงอวี๋ไปมากกว่าครึ่งหนึ่ง ซึ่งทำให้ผู้รอบรู้รู้สึกปวดใจอยู่นานแต่หลิงอวี๋พอใจแล้ว การซื้อเรือนเล็ก ๆ แห่งนี้ได้ในราคาต่ำเช่นนี้ ถือว่าผู้รอบรู้ก็มีความสามารถ มิเช่นนั้น หากดูตามราคาตลาด เรือนแห่งนี้อาจมีราคาสูงถึงห้าหมื่นด้วยซ้ำ“พี่ใหญ่ เงินหมดก็หาใหม่ได้ มิต้องเสียใจไปหรอก พวกเรามีบ้านแล้วก็สามารถหาอาชีพทำมาหากินได้”หลิงอวี๋พูดปลอบอีกฝ่ายด้วยความมั่นใจเรือนเล็กนี้รวมห

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status