ทางด้านเฮ่อจู้กับหมอจางและถังถีเตี่ยนกำลังล้อมรอบเฮ่ออันอยู่ เฮ่ออันยังคงหมดสติ พอได้ยินขันทีน้อยเซี่ยมาถ่ายทอดคำสั่งเฮ่อจู้ก็อุ้มลูกชายของเขาเดินเข้ามา เขาคุกเข่าลงบนพื้นเสียงดัง แล้วยกมือทั้งสองของเฮ่ออันด้วยความโศกเศร้า“ฝ่าบาท มิรู้ว่าหลิงอวี๋ทำร้ายลูกชายของกระหม่อมเยี่ยงไร หมอจางกับถังถีเตี่ยนล้วนตรวจสอบมิได้เลย จนถึงตอนนี้อันเอ๋อร์ของกระหม่อมยังมิฟื้นเลยพ่ะย่ะค่ะ!”เฮ่อจู้กับภรรยาของเขาแต่งงานกันมาเกือบสิบปีแล้ว เพิ่งจะมีลูกชายเพียงคนเดียวคือเฮ่ออันปีนี้เฮ่ออันเพิ่งจะอายุเพียงหกขวบ ซึ่งอ่อนกว่าจ่างหนิงหนึ่งปีองค์ชายเว่ยไปเฝ้าสุสานจักรพรรดิ ฮองเฮาเว่ยจึงพาจ่างหนิงเข้ามาดูแลในวัง เฮ่ออันกับจ่างหนิงมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน จ่างหนิงจึงอ้อนให้ฮองเฮาเว่ยรับตัวเฮ่ออันเข้ามาเป็นเพื่อนของตนด้วยเฮ่อจู้มีหรือจะคาดคิดว่าครั้งนี้ส่งลูกชายเข้าวังมายังมิถึงสองวัน เฮ่ออันก็ประสบกับเรื่องเลวร้ายเช่นนี้แล้วจักรพรรดิอู่อันมองเฮ่ออัน ดวงตาของเขาปิดสนิท ใบหน้าเล็ก ๆ นั้นก็ซีดเซียวจักรพรรดิอู่อันเอ่ยกับหลิงอวี๋อย่างไม่พอใจ “เจ้าทำอะไรเขา?”“ฝ่าบาท หม่อมฉันถูกใส่ร้ายเพคะ ตอนนั้นหม่อมฉัน
ตอนนั้นหลิงอวี๋เอาที่วางแขนเก้าอี้แทงเข้าไปในตัวของเหล่าเอ้อร์ แต่ด้วยความรีบจึงไม่แน่ใจว่าเหล่าเอ้อร์ตายหรือไม่ จึงบอกได้เพียงว่าได้รับบาดเจ็บท่านอ๋องเฉิงพยักหน้า เซียวหลินเทียนก็พยักหน้าเช่นกันหลิงอวี๋อุ้มเฮ่ออันไปที่ห้องโถงอีกด้านอย่างสบายใจทันทีที่เข้าไป หลิงอวี๋ก็รีบเข้าไปในมิติ หยิบเข็มฉีดยาออกมาเจาะเลือด แล้วเอาเลือดของเฮ่ออันบางส่วนไปทำการทดสอบในมิติแต่กระทั่งผลการทดสอบออกมาแล้ว กลับพบว่าเฮ่ออันไม่มีร่องรอยการถูกพิษหลิงอวี๋ถอดเสื้อผ้าของเฮ่ออันออก แล้วก็พบว่าไม่มีอาการบาดเจ็บภายนอกบนร่างกายของเฮ่ออันเลยนางยังกังวลอยู่ว่าตนประมาทไปหรือไม่ จึงพลิกตัวเฮ่ออันแล้วตรวจสอบอย่างละเอียดแต่ร่างกายของเฮ่ออันก็ไม่มีอาการบาดเจ็บภายนอกเลย ยกเว้นรอยช้ำขนาดเท่าเล็บมือบนหน้าอกของเขารอยช้ำขนาดเท่าเล็บนี้ ไม่รู้เช่นกันว่าเฮ่ออันไปโดนอะไรมาเมื่อใด หรือว่าจะได้รับบาดเจ็บจากคนลึกลับนั่น!หลิงอวี๋ลูบ ๆ ดู แต่ก็ไม่มีอะไรผิดปกตินอกจากว่ามีความเย็นเล็กน้อยหลังจากที่หลิงอวี๋ตรวจเสร็จแล้ว ก็สวมเสื้อผ้าให้กับเฮ่ออันเมื่อเห็นว่าเขาหมดสติไม่ฟื้นอยู่เช่นนั้น หลิงอวี๋ก็กังวลว่าเขาจะได้รับบ
ท่านอ๋องเฉิงมองหลิงอวี๋อย่างลำบากใจ พลางเอ่ยเสียงเข้ม “ข้าได้ไปตรวจสอบแล้ว ไม่มีเก้าอี้ที่เจ้าว่า และไม่มีคนชุดดำที่ถูกยาสลบด้วย!”“ในพระตำหนักหย่งเหอ นอกจากพวกเจ้าแล้ว ข้ามิพบสิ่งใดที่น่าสงสัยเลย!”“ท่านอ๋องเฉิง มีอะไรที่ท่านมองข้ามไปหรือไม่?”หลิงอวี๋เอ่ยอย่างกังวล “วังใหญ่โตถึงเพียงนี้ หากพวกนางมิได้อยู่ในพระตำหนักหย่งเหอ บางทีอาจซ่อนตัวอยู่ที่อื่นหรือไม่?”เฮ่อจู้หัวเราะเยาะพลางเอ่ย “หลิงอวี๋ จะตายอยู่แล้วยังกล้าพูดเรื่องไร้สาระใส่ร้ายผู้อื่นอีกหรือ! ในวังมีกองทัพหลวงคอยลาดตระเวนอยู่ทุกหนทุกแห่ง คนชุดดำสามคนรวมกับคนลึกลับที่แปลกประหลาดที่เจ้าว่า รวมทั้งหมดมีสี่คน!”“กองทัพหลวงจะมิพบที่อยู่ของพวกเขาเลยได้เยี่ยงไร? พวกเขาจะซ่อนตัวอยู่ที่อื่นได้เยี่ยงไร? เจ้าจะใส่ร้ายกองทัพหลวงที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่อย่างซื่อสัตย์หรือ?”“เจ้าสังหารจ่างหนิง จึงจงใจสร้างเรื่องคนชุดดำเหล่านี้ขึ้นมาหลอกลวงองค์จักรพรรดิเพื่อจะได้หลุดพ้นจากการลงโทษ! เจ้าช่างน่ารังเกียจจริง ๆ!”“ลากตัวออกไป! ประหาร!”จักรพรรดิอู่อันมิอดทนอีกต่อไปแล้ว หลังจากออกคำสั่ง องครักษ์ของกองทัพหลวงหลายคนก็พุ่งมาข้างหน้าทันที“เส
เมื่อเห็นทั้งสองคนพูดช่วยหลิงอวี๋ จักรพรรดิอู่อันก็คิดแล้วเอ่ย “ได้ ข้าตกลงว่าจะให้เวลาพวกเจ้าสามวัน!”“หลังจากสามวัน หากหลิงอวี๋มิสามารถช่วยเฮ่ออัน และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองได้ เช่นนั้นใครก็ตามที่ร้องขอความเมตตาให้นางอีก จะต้องมีความผิดร่วมกับนางด้วย!”“เอาตัวไป! ส่งราชสำนักฝ่ายในไปเฝ้าอย่างเข้มงวดด้วย!”เดิมทีเซียวหลินเทียนอยากพาหลิงอวี๋กลับไปที่ตำหนักอ๋องอี้ ไหนเลยจะคิดว่าจักรพรรดิอู่อันจะออกคำสั่งเช่นนี้เขาพูดให้กับหลิงอวี๋แล้วครั้งหนึ่ง รู้ว่าหากพูดอีกจักรพรรดิอู่อันจะมิยอมตกลงเป็นแน่ เขาจึงนิ่งเงียบไปทหารกองทัพหลวงหลายคนก้าวไปจับตัวหลิงอวี๋ไว้ แล้วลากตัวนางกับหลิงซวนออกไปด้วยกันเดิมทีเฉาอี้พบเถาจื่อแล้ว และกำลังรออยู่ข้างนอกเมื่อเห็นหลิงอวี๋ถูกลากออกไป เถาจื่อก็ก้าวไปอย่างบุ่มบ่าม แต่ถูกเฉาอี้จับไว้ก่อนเฉาอี้ดุนางด้วยเสียงต่ำที่ข้างหู “เจ้าจะไปทำอะไร? จะให้พวกเขาจับตัวเจ้าไปด้วยกันอีกคนหรือ? หากเจ้าอยากช่วยพระชายาอ๋องอี้ เจ้าอยู่ข้างนอกนี่จะไม่มีประโยชน์มากกว่าหรือ?”จากนั้นเถาจื่อก็หยุดแล้วนวดขมับของนางนางกับหลิงอวี๋แยกกันมิเท่าไหร่ นางก็รู้สึกเจ็บที่หลังคอ
จ้าวซวนพยักหน้าเห็นด้วย “ท่านอ๋อง คนชุดดำสามคนล้วนเป็นหญิง! เพียงเปลี่ยนเสื้อผ้าก็สามารถซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางนางกำนัลได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ!”“แต่ถูกนางกำนัลที่ถูกพระชายาทำให้บาดเจ็บหรือแม้กระทั่งตายไป ไม่ว่าจะปกปิดเยี่ยงไรก็ต้องทิ้งร่องรอยไว้!”เซียวหลินเทียนครุ่นคิด แล้วกระซิบ“ไปส่งข้อความถึงขันทีเซี่ยอย่างเงียบ ๆ ให้เขาช่วยข้าดูนางกำนัลที่ออกจากวังในช่วงสองวันที่ผ่านมา ตลอดจนนางกำนัลที่ป่วยแล้วเชิญแพทย์หลวงมาด้วย และแม้กระทั่งนางสนมก็ด้วย!”ความสัมพันธ์ระหว่างหลิงซวนกับขันทีเซี่ยนั้นมิธรรมดา หากหลิงอวี๋ถูกจัดการ หลิงซวนก็จะถูกตัดหัวด้วยเช่นกัน!เซียวหลินเทียนเชื่อว่าขันทีเซี่ยจะช่วยอย่างแน่นอน!เซียวหลินเทียนกับท่านอ๋องเฉิงตรวจสอบห้องโถงใหญ่ แล้วออกไปตรวจสอบข้างนอกหลิงอวี๋บอกว่านางล่อตัวหัวหน้าวิ่งออกไปถึงป่าไผ่เซียวหลินเทียนกับท่านอ๋องเฉิงตรวจสอบอย่างละเอียด เซียวหลินเทียนก็พบเข็มเงินอีกอันหนึ่งเข็มเงินนี้เป็นของหลิงอวี๋!นั่นพิสูจน์ได้ว่าหลิงอวี๋ได้ปักยาสลบใส่ตัวหัวหน้าจริง ๆคนที่ได้รับมอบหมายให้ทำความสะอาดสถานที่เกิดเหตุมีเวลาจำกัด ด้วยความเร่งรีบจึงได้หาเข็มเงินนี้จนพบ
หลิงอวี๋มองไปรอบ ๆ เห็นว่าไม่มีใครดูอยู่ จึงรีบเข้าไปในมิติแล้วเอายากับผ้าพันแผลออกมารักษาบาดแผลของหลิงซวนขณะที่นางกำลังจัดการอยู่นั้น ในห้องขังอาจจะเงียบเกินไป หลิงอวี๋จึงค่อนข้างมีสมาธิ นางรู้สึกได้ว่าในร่างกายของหลิงซวนอ่อนแอมาก ส่งผลต่อการเต้นของหัวใจหลิงซวนหลิงซวนมีกำลังอยู่สั้นมาก การเต้นหัวใจก็เหมือนกับการเต้นหัวใจของเฮ่ออัน มันมา ๆ หาย ๆ ไม่สม่ำเสมอหลิงอวี๋ตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง นึกขึ้นได้ว่าหลิงซวนอุ้มเฮ่ออันไว้ ตอนที่คนลึกลับโจมตีเฮ่ออัน หลิงซวนก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกันนั่นหมายความว่า พลังของคนลึกลับผู้นั้นส่งผลต่อทั้งหลิงซวนกับเฮ่ออันเลยหรือ?เพียงแต่เฮ่ออันอายุยังน้อย จึงได้รับบาดเจ็บสาหัสมากกว่าอย่างนั้นหรือ?หลิงอวี๋ให้ยาหลิงซวนแล้วพันผ้าพันแผล เมื่อเห็นว่าหลิงซวนยังคงหมดสติ นางจึงนอนลงข้าง ๆ แล้วคิดถึงเรื่องในวันนี้คนลึกลับผู้นั้นเป็นใครกันแน่?หลิงอวี๋พบความรู้สึกคุ้นเคยเล็กน้อยในตัวเขา!แต่นางสาบานได้ว่า นางไม่เคยเห็นคนผู้นี้มาก่อน!หากวันนี้ทั้งสี่คนนี้เป็นคนที่พระชายาเส้าส่งมาจริงๆ เช่นนั้นพวกเขาก็ฆ่าจ่างหนิงเพื่อจะใส่ร้ายตนเอง!ตอนฮองเฮาเว่ยเสนอให้ฆ่าตน เห็
“มีใครอยู่หรือไม่?”หลิงอวี๋เรียกอยู่สองสามครั้ง ถึงจะได้ยินเสียงฝีเท้าที่แตกต่างกันของคนสองคนเดินมาไกล ๆเมื่อเข้ามาใกล้ หลิงอวี๋ก็เห็นสองคนที่มาได้ชัดเจนขึ้น คนหนึ่งเป็นผู้คุมหญิงรูปร่างอ้วน ส่วนอีกคนจะผอมกว่าทั้งคู่อยู่ในวัยสี่สิบกว่าปี“ตะโกนอะไร?”หญิงอ้วนหรี่ตาที่เหมือนปลาทอง แล้วตะคอกด้วยความโกรธ“เข้าไปในห้องขังแล้วก็อยู่อย่างสงบ! ข้ามิสนใจว่าสถานะก่อนหน้านี้ของท่านจะเป็นเช่นไร อยู่ที่นี่ ท่านต้องฟังบ่าว!”คนที่เข้าไปในราชสำนักฝ่ายใน ปกติแล้วจะเป็นญาติของจักรพรรดิที่สูญเสียอำนาจ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะสามารถยืนขึ้นได้อีกครั้งดังนั้นผู้คุมเหล่านี้จะไม่สนใจพวกเขามากนักหลิงอวี๋มิสนใจท่าทีของหญิงอ้วน พลางเอ่ยอย่างใจเย็น“เราเข้ามาในนี้นานแล้ว เจ้าช่วยเติมน้ำให้เราหน่อยได้หรือไม่? อีกอย่าง ข้าอยากพบท่านอ๋องเฉิง รบกวนเจ้าไปบอกให้ข้าที!”หญิงอ้วนหัวเราะเยาะพลางตะคอก “ท่านอ๋องเฉิงทรงงานยุ่งมากอยู่แล้ว ท่านอยากจะพบพระองค์เมื่อใดก็พบได้เยี่ยงนั้นหรือ! อยู่ที่นี่อย่างสงบไปเถิด หากกล้าส่งเสียงดังอีก บ่าวจะไม่เกรงใจท่านแล้ว!”พูดจบ หญิงอ้วนก็หันหลังเดินจากไปป้าผอมมีท่า
ป้าหลี่เหลือบมองหลิงอวี๋แล้วรีบวิ่งไปพร้อมกับตะโกน“แม่นางเหยียน ข้าเห็นว่ามีนักโทษคนหนึ่งที่ยังไม่ฟื้น เกรงว่าหากนางตายไปแล้วเราจะอธิบายให้ท่านอ๋องเฉิงฟังมิได้ ก็เลยมาดู...”เสียงของป้าหลี่จางหายไปแล้ว แต่หลิงอวี๋ยังคงได้ยินแม่นางเหยียนดุด่าป้าหลี่อยู่เลยนางเองก็มิสนใจพวกนาง แล้วคุกเข่าลงข้างหลิงซวน พยุงหลิงซวนขึ้นมาป้อนน้ำให้นางหลิงซวนมีไข้อยู่จริง ๆ หลิงอวี๋ฉีดยาลดไข้กับยาปฏิชีวนะให้แล้ว แต่ร่างกายของนางยังคงร้อนมากหลิงอวี๋ป้อนน้ำให้นางไปครึ่งโหล จากนั้นหลิงซวนก็ลืมตาด้วยความงุนงงหลิงอวี๋เช็ดเหงื่อออกจากใบหน้าของนางอย่างรู้สึกผิด แล้วช่วยจัดผมของนางด้วย“อาจารย์...”หลิงซวนโน้มตัวพิงไปในอ้อมแขนของหลิงอวี๋ ครั้นมองเห็นทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอย่างชัดเจน นางก็ยิ้มแล้วเอ่ย “นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเข้ามาในห้องขัง มิคิดเลยว่าห้องขังจะเป็นเช่นนี้!”“ข้าเป็นคนทำให้เจ้าเดือดร้อน ข้าขอโทษ!” หลิงอวี๋เอ่ยด้วยรอยยิ้มขมขื่นหลิงซวนเอ่ยอย่างโง่เขลา “หากมิใช่เพราะอาจารย์ ข้าก็คงตายไปนานแล้ว! ตอนนี้ข้ายังมีชีวิตอยู่ แค่ทนทุกข์เล็กน้อยชั่วคราว มิได้มีอะไรเลย!”“ข้าเชื่ออาจารย์ ท่านจะต้องมี