แชร์

บทที่ 864

ผู้เขียน: กานเฟย
เมื่อเห็นทั้งสองคนพูดช่วยหลิงอวี๋ จักรพรรดิอู่อันก็คิดแล้วเอ่ย “ได้ ข้าตกลงว่าจะให้เวลาพวกเจ้าสามวัน!”

“หลังจากสามวัน หากหลิงอวี๋มิสามารถช่วยเฮ่ออัน และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองได้ เช่นนั้นใครก็ตามที่ร้องขอความเมตตาให้นางอีก จะต้องมีความผิดร่วมกับนางด้วย!”

“เอาตัวไป! ส่งราชสำนักฝ่ายในไปเฝ้าอย่างเข้มงวดด้วย!”

เดิมทีเซียวหลินเทียนอยากพาหลิงอวี๋กลับไปที่ตำหนักอ๋องอี้ ไหนเลยจะคิดว่าจักรพรรดิอู่อันจะออกคำสั่งเช่นนี้

เขาพูดให้กับหลิงอวี๋แล้วครั้งหนึ่ง รู้ว่าหากพูดอีกจักรพรรดิอู่อันจะมิยอมตกลงเป็นแน่ เขาจึงนิ่งเงียบไป

ทหารกองทัพหลวงหลายคนก้าวไปจับตัวหลิงอวี๋ไว้ แล้วลากตัวนางกับหลิงซวนออกไปด้วยกัน

เดิมทีเฉาอี้พบเถาจื่อแล้ว และกำลังรออยู่ข้างนอก

เมื่อเห็นหลิงอวี๋ถูกลากออกไป เถาจื่อก็ก้าวไปอย่างบุ่มบ่าม แต่ถูกเฉาอี้จับไว้ก่อน

เฉาอี้ดุนางด้วยเสียงต่ำที่ข้างหู “เจ้าจะไปทำอะไร? จะให้พวกเขาจับตัวเจ้าไปด้วยกันอีกคนหรือ? หากเจ้าอยากช่วยพระชายาอ๋องอี้ เจ้าอยู่ข้างนอกนี่จะไม่มีประโยชน์มากกว่าหรือ?”

จากนั้นเถาจื่อก็หยุดแล้วนวดขมับของนาง

นางกับหลิงอวี๋แยกกันมิเท่าไหร่ นางก็รู้สึกเจ็บที่หลังคอ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Sukanya Srithannang
น่าติดตามได้ลุ้นตลอดการอ่าน
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 865

    จ้าวซวนพยักหน้าเห็นด้วย “ท่านอ๋อง คนชุดดำสามคนล้วนเป็นหญิง! เพียงเปลี่ยนเสื้อผ้าก็สามารถซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางนางกำนัลได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ!”“แต่ถูกนางกำนัลที่ถูกพระชายาทำให้บาดเจ็บหรือแม้กระทั่งตายไป ไม่ว่าจะปกปิดเยี่ยงไรก็ต้องทิ้งร่องรอยไว้!”เซียวหลินเทียนครุ่นคิด แล้วกระซิบ“ไปส่งข้อความถึงขันทีเซี่ยอย่างเงียบ ๆ ให้เขาช่วยข้าดูนางกำนัลที่ออกจากวังในช่วงสองวันที่ผ่านมา ตลอดจนนางกำนัลที่ป่วยแล้วเชิญแพทย์หลวงมาด้วย และแม้กระทั่งนางสนมก็ด้วย!”ความสัมพันธ์ระหว่างหลิงซวนกับขันทีเซี่ยนั้นมิธรรมดา หากหลิงอวี๋ถูกจัดการ หลิงซวนก็จะถูกตัดหัวด้วยเช่นกัน!เซียวหลินเทียนเชื่อว่าขันทีเซี่ยจะช่วยอย่างแน่นอน!เซียวหลินเทียนกับท่านอ๋องเฉิงตรวจสอบห้องโถงใหญ่ แล้วออกไปตรวจสอบข้างนอกหลิงอวี๋บอกว่านางล่อตัวหัวหน้าวิ่งออกไปถึงป่าไผ่เซียวหลินเทียนกับท่านอ๋องเฉิงตรวจสอบอย่างละเอียด เซียวหลินเทียนก็พบเข็มเงินอีกอันหนึ่งเข็มเงินนี้เป็นของหลิงอวี๋!นั่นพิสูจน์ได้ว่าหลิงอวี๋ได้ปักยาสลบใส่ตัวหัวหน้าจริง ๆคนที่ได้รับมอบหมายให้ทำความสะอาดสถานที่เกิดเหตุมีเวลาจำกัด ด้วยความเร่งรีบจึงได้หาเข็มเงินนี้จนพบ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 866

    หลิงอวี๋มองไปรอบ ๆ เห็นว่าไม่มีใครดูอยู่ จึงรีบเข้าไปในมิติแล้วเอายากับผ้าพันแผลออกมารักษาบาดแผลของหลิงซวนขณะที่นางกำลังจัดการอยู่นั้น ในห้องขังอาจจะเงียบเกินไป หลิงอวี๋จึงค่อนข้างมีสมาธิ นางรู้สึกได้ว่าในร่างกายของหลิงซวนอ่อนแอมาก ส่งผลต่อการเต้นของหัวใจหลิงซวนหลิงซวนมีกำลังอยู่สั้นมาก การเต้นหัวใจก็เหมือนกับการเต้นหัวใจของเฮ่ออัน มันมา ๆ หาย ๆ ไม่สม่ำเสมอหลิงอวี๋ตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง นึกขึ้นได้ว่าหลิงซวนอุ้มเฮ่ออันไว้ ตอนที่คนลึกลับโจมตีเฮ่ออัน หลิงซวนก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกันนั่นหมายความว่า พลังของคนลึกลับผู้นั้นส่งผลต่อทั้งหลิงซวนกับเฮ่ออันเลยหรือ?เพียงแต่เฮ่ออันอายุยังน้อย จึงได้รับบาดเจ็บสาหัสมากกว่าอย่างนั้นหรือ?หลิงอวี๋ให้ยาหลิงซวนแล้วพันผ้าพันแผล เมื่อเห็นว่าหลิงซวนยังคงหมดสติ นางจึงนอนลงข้าง ๆ แล้วคิดถึงเรื่องในวันนี้คนลึกลับผู้นั้นเป็นใครกันแน่?หลิงอวี๋พบความรู้สึกคุ้นเคยเล็กน้อยในตัวเขา!แต่นางสาบานได้ว่า นางไม่เคยเห็นคนผู้นี้มาก่อน!หากวันนี้ทั้งสี่คนนี้เป็นคนที่พระชายาเส้าส่งมาจริงๆ เช่นนั้นพวกเขาก็ฆ่าจ่างหนิงเพื่อจะใส่ร้ายตนเอง!ตอนฮองเฮาเว่ยเสนอให้ฆ่าตน เห็

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 867

    “มีใครอยู่หรือไม่?”หลิงอวี๋เรียกอยู่สองสามครั้ง ถึงจะได้ยินเสียงฝีเท้าที่แตกต่างกันของคนสองคนเดินมาไกล ๆเมื่อเข้ามาใกล้ หลิงอวี๋ก็เห็นสองคนที่มาได้ชัดเจนขึ้น คนหนึ่งเป็นผู้คุมหญิงรูปร่างอ้วน ส่วนอีกคนจะผอมกว่าทั้งคู่อยู่ในวัยสี่สิบกว่าปี“ตะโกนอะไร?”หญิงอ้วนหรี่ตาที่เหมือนปลาทอง แล้วตะคอกด้วยความโกรธ“เข้าไปในห้องขังแล้วก็อยู่อย่างสงบ! ข้ามิสนใจว่าสถานะก่อนหน้านี้ของท่านจะเป็นเช่นไร อยู่ที่นี่ ท่านต้องฟังบ่าว!”คนที่เข้าไปในราชสำนักฝ่ายใน ปกติแล้วจะเป็นญาติของจักรพรรดิที่สูญเสียอำนาจ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะสามารถยืนขึ้นได้อีกครั้งดังนั้นผู้คุมเหล่านี้จะไม่สนใจพวกเขามากนักหลิงอวี๋มิสนใจท่าทีของหญิงอ้วน พลางเอ่ยอย่างใจเย็น“เราเข้ามาในนี้นานแล้ว เจ้าช่วยเติมน้ำให้เราหน่อยได้หรือไม่? อีกอย่าง ข้าอยากพบท่านอ๋องเฉิง รบกวนเจ้าไปบอกให้ข้าที!”หญิงอ้วนหัวเราะเยาะพลางตะคอก “ท่านอ๋องเฉิงทรงงานยุ่งมากอยู่แล้ว ท่านอยากจะพบพระองค์เมื่อใดก็พบได้เยี่ยงนั้นหรือ! อยู่ที่นี่อย่างสงบไปเถิด หากกล้าส่งเสียงดังอีก บ่าวจะไม่เกรงใจท่านแล้ว!”พูดจบ หญิงอ้วนก็หันหลังเดินจากไปป้าผอมมีท่า

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 868

    ป้าหลี่เหลือบมองหลิงอวี๋แล้วรีบวิ่งไปพร้อมกับตะโกน“แม่นางเหยียน ข้าเห็นว่ามีนักโทษคนหนึ่งที่ยังไม่ฟื้น เกรงว่าหากนางตายไปแล้วเราจะอธิบายให้ท่านอ๋องเฉิงฟังมิได้ ก็เลยมาดู...”เสียงของป้าหลี่จางหายไปแล้ว แต่หลิงอวี๋ยังคงได้ยินแม่นางเหยียนดุด่าป้าหลี่อยู่เลยนางเองก็มิสนใจพวกนาง แล้วคุกเข่าลงข้างหลิงซวน พยุงหลิงซวนขึ้นมาป้อนน้ำให้นางหลิงซวนมีไข้อยู่จริง ๆ หลิงอวี๋ฉีดยาลดไข้กับยาปฏิชีวนะให้แล้ว แต่ร่างกายของนางยังคงร้อนมากหลิงอวี๋ป้อนน้ำให้นางไปครึ่งโหล จากนั้นหลิงซวนก็ลืมตาด้วยความงุนงงหลิงอวี๋เช็ดเหงื่อออกจากใบหน้าของนางอย่างรู้สึกผิด แล้วช่วยจัดผมของนางด้วย“อาจารย์...”หลิงซวนโน้มตัวพิงไปในอ้อมแขนของหลิงอวี๋ ครั้นมองเห็นทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอย่างชัดเจน นางก็ยิ้มแล้วเอ่ย “นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเข้ามาในห้องขัง มิคิดเลยว่าห้องขังจะเป็นเช่นนี้!”“ข้าเป็นคนทำให้เจ้าเดือดร้อน ข้าขอโทษ!” หลิงอวี๋เอ่ยด้วยรอยยิ้มขมขื่นหลิงซวนเอ่ยอย่างโง่เขลา “หากมิใช่เพราะอาจารย์ ข้าก็คงตายไปนานแล้ว! ตอนนี้ข้ายังมีชีวิตอยู่ แค่ทนทุกข์เล็กน้อยชั่วคราว มิได้มีอะไรเลย!”“ข้าเชื่ออาจารย์ ท่านจะต้องมี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 869

    พระชายาเว่ยริมฝีปากสั่น จากนั้นนางก็กอดแม่นมเจี่ยแล้วร้องไห้ออกมาอย่างหนัก“แม่นม… เหตุใดชีวิตข้าจึงได้เศร้าถึงเพียงนี้!”“หากข้าให้กำเนิดใหม่ได้ ก็คงมีไปนานแล้ว… หากจ่างหนิงไม่อยู่แล้ว ข้าก็มิเหลืออะไรแล้ว…”“แม่นม… เหตุใดจึงได้โหดร้ายกับข้าเช่นนี้… เหตุใดจึงมิใช่คนอื่นที่ตาย… เหตุใดถึงเป็นจ่างหนิงของข้า!”พระชายาเว่ยร้องไห้จนเป็นลมไปหลายครั้ง แล้วในที่สุดก็สงบลงด้วยการปลอบโยนของแม่นมเจี่ยนางนั่งเหม่ออยู่เป็นเวลานาน ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่กระทั่งฟ้ามืด นางจึงได้ล้างหน้าอย่างสงบ แล้วออกมาสั่งทุกคนให้เตรียมงานศพธงขาวถูกแขวนไว้ในตำหนักองค์ชายเว่ยนานแล้ว สามีของแม่นมเจี่ย พ่อบ้านผู้ดูแลตำหนักองค์ชายเว่ยเห็นพระชายาเว่ยสั่งเสร็จ ก็ตามเข้ามารายงาน“พระชายา ฮองเฮาได้ร้องขอให้องค์จักรพรรดิอนุญาตให้องค์ชายเว่ยกลับมาส่งท่านหญิง บ่าวได้ส่งคนไปแจ้งองค์ชายเว่ยแล้วขอรับ!”“แต่… แต่...”พ่อบ้านเจี่ยรู้สึกลำบากใจจนพูดต่อไม่ไหว“พระองค์เป็นอย่างไรบ้าง? เจ้าพูดมาตามตรง มิจำเป็นต้องปิดบังให้พระองค์!” พระชายาเว่ยเอ่ยถามอย่างเย็นชาพ่อบ้านเจี่ยยิ้มขมขื่นพลางเอ่ย “องค์ชายเว่ยตรัสว่าเขาจะมาง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 870

    คืนนั้นเซียวหลินเทียนก็มิได้นอนหลับสักเท่าไหร่ เขาศึกษาสถานการณ์ในวังและหาศัตรูของเขากับหลิงอวี๋อย่างอดทนมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่กล้าลักพาตัวหลิงอวี๋และสังหารท่านหญิงจ่างหนิงในวัง!จ่างหนิงเป็นหลานสาวคนโปรดของฮองเฮาเว่ย เขาเชื่อว่าฮองเฮาเว่ยไม่มีทางส่งใครมาฆ่าหลานสาวของตนเพียงเพื่อใส่ร้ายหลิงอวี๋แน่!เช่นนั้นก็มีเพียงพระชายาเส้าเท่านั้น!เหตุใดพระชายาเส้าจึงอยากได้ตำราการแพทย์?เซียวหลินเทียนสับสนพอ ๆ กับหลิงอวี๋!แม้ว่าจะเพื่อโรงหุยชุนที่เปิดโดยหมอจางกับท่านลุง แต่พระชายาเส้าจำเป็นจะต้องเสี่ยงเช่นนี้เลยหรือ?เซียวหลินเทียนเรียกท่านจินต้ามาถามข้อสงสัยของตนท่านจินต้าใช้สมองครุ่นคิดอย่างหนัก แล้วทันใดนั้นก็เอ่ย “ท่านอ๋อง ท่านยังจำโอสถหิรัณย์ทั้งแปดได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”“ว่ากันว่าตำราการแพทย์ของซือคงชวิ่นบันทึกวิธีการปรุงโอสถหิรัณย์ทั้งแปดไว้ โอสถหิรัณย์ทั้งแปดนี้สามารถเพิ่มพลังร่างกายได้! ทำความสะอาดเส้นเอ็นกับไขกระดูกได้ด้วย... หรือว่าพระชายาเส้าจะส่งคนมาลักพาตัวพระชายาเพื่อสิ่งนี้?”เซียวหลินเทียนส่ายหัว “ข้ามิคิดว่าพระชายาเส้าจะเสี่ยงถึงเพียงนี้เพื่อของที่ยังมิเห็นจริงพว

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 871

    เซียวหลินเทียนเอ่ยแล้วก็เริ่มกังวล เหตุไฉนจึงมิคิดเรื่องนี้ตอนที่ตรวจค้นตำหนักหย่งเหอ!เหล่าเอ้อร์ได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นนั้น ทนได้มินานก็ตายแล้วตงฮุ่ยกับตงจู๋สามารถปลอมตัวเป็นนางกำนัลได้ แต่เหล่าเอ้อร์ได้รับบาดเจ็บสาหัส กองทัพหลวงก็มิเห็นนาง นางจะออกจากตำหนักหย่งเหอได้เยี่ยงไร!นี่แสดงให้เห็นว่า ตอนนั้นเหล่าเอ้อร์อาจถูกซ่อนอยู่ใกล้ ๆ ตำหนักหย่งเหอฉินซานคิดตามเซียวหลินเทียนพลันขมวดคิ้วมุ่นยิ่งกว่าเดิม“ท่านอ๋อง ตามที่ท่านบอก ในเวลานี้เหล่าเอ้อร์ตายไปแล้ว! แต่หากเข้าไปค้นในตำหนักตอนนี้ เราอาจมิพบใครเลยพ่ะย่ะค่ะ!”เซียวหลินเทียนพยักหน้าอย่างกลุ้มใจ “วังใหญ่มากถึงเพียงนั้น มีตั้งหลากหลายวิธีที่จะซ่อนศพได้! ถึงเวลานั้นพวกนางก็บอกได้ว่ามิรู้ว่าเหตุใดนางกำนัลถึงหายตัวไป!”“ทั้งยังโยนความผิดไปที่หลิงอวี๋ได้ด้วยว่า นางไปเห็นการฆาตกรรมของหลิงอวี๋ จึงถูกหลิงอวี๋ฆ่าอำพรางไป!”ท่านจินต้าขมวดคิ้วพลางเอ่ย “แม้ว่าเราจะหามิพบ แต่นางกำนัลก็หายไปคนหนึ่ง การสืบทราบว่าเป็นนางกำนัลจากตำหนักไหนก็นับเป็นหลักฐานชิ้นหนึ่งเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ!”เซียวหลินเทียนเดินไปเดินมาอยู่ในห้อง เมื่อเห็นว่าคนในห้องล้วน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 872

    เรื่องที่ว่าหลิงอวี๋สังหารท่านหญิงจ่างหนิงในวังได้แพร่กระจายไปทั่วทุกแห่งหนในเวลาชั่วข้ามคืนป้าสะใภ้ใหญ่ออกไปจ่ายตลาด ครั้นได้ยินข่าวนี้เข้าก็ตกใจจนตัวแข็งทื่อ เมื่อตั้งสติได้ก็รีบกลับบ้านทันทีหลิงหว่านกำลังทำความสะอาดในเรือนอยู่กับเสี่ยวเยี่ยนจื่อ ป้าสะใภ้ใหญ่ก็พุ่งเข้ามาในบ้าน แล้วเอ่ยอย่างรีบร้อน“หว่านเอ๋อร์ เกิดเรื่องแล้ว! ได้ยินมาว่าเมื่อวานนี้พี่สาวของเจ้าเข้าวัง แล้วสังหารท่านหญิงจ่างหนิงในวัง ทั้งยังทำร้ายลูกชายของเฮ่อจู้รองผู้บัญชาการกองทัพหลวงจนบาดเจ็บอีกด้วย เจ้ารีบไปถามทีว่าเกิดอะไรขึ้น”“ข้าได้ยินคนพวกนั้นบอกว่าพี่สาวของเจ้าจะถูกพาตัวไปตัดหัวต่อหน้าทุกคนในวันมะรืนนี้!”“หา!”หลิงหว่านสะดุ้ง รีบโยนไม้กวาดออกไปแล้วเอ่ย “ข้าจะไปถามว่าเกิดอะไรขึ้น! ข้ามิเชื่อว่าท่านพี่หลิงหลิงจะกล้าฆ่าใครได้! นี่ต้องเข้าใจอะไรผิดพลาดเป็นแน่!”หลิงหว่านไม่มีเวลาทำความสะอาดตัวเองแล้ว นางวิ่งไปที่ตำหนักอ๋องอี้อย่างบ้าคลั่งในระยะไกล เผยอวี้กำลังคุ้มกันฮูหยินเผยกับน้องสาวกลับบ้าน เมื่อเขาเห็นหลิงหว่านวิ่งอยู่บนถนนโดยมิสนใจภาพลักษณ์เช่นนั้น เผยอวี้ก็ขมวดคิ้วสตรีผู้นี้ถึงอย่างไรก็เป็นสต

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1906

    จางอิ๋งได้พูดคุยเรื่องการแต่งงานกับลูกชายของเย่ซื่อฝานแล้ว และต่อไปหอโอสถซ่างกู่ก็จะเป็นครอบครัวสามีของนาง นางมิอาจทนเห็นหอโอสถซ่างกู่ถูกแทนที่ได้ ดังนั้นนางจึงแสวงหาผู้มีความสามารถให้กับหอโอสถซ่างกู่อย่างกระตือรือร้นทันทีที่เสียงกลองหยุดลง จางอิ๋งก็อดใจรอมิไหวที่จะเก็บตำรับยาของผู้เข้าสอบจางอิ๋งรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าหลิงอวี๋จำแนกส่วนผสมโอสถได้เพียงสิบห้าชนิดเท่านั้นจากผลงานของหลิงอวี๋ในรอบแรก อย่างน้อยที่สุดก็ควรจะจำแนกได้สักสิบแปดชนิด เหตุใดถึงได้แค่สิบห้าชนิดกันทางด้านหลงอิงที่ลงทะเบียนเรียนกับหอโอสถไป๋เป่าเขียนตำรับยายี่สิบชนิดได้ถูกต้องทั้งหมด และอยู่ในอันดับที่หนึ่งของกลุ่มนี้ส่วนจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเขียนตำรับยาได้สิบห้าชนิด แต่มีตำรับยาสองแผ่นที่มีข้อผิดพลาด ตำรับยาแผ่นหนึ่งระบุเครื่องยาสมุนไพรมิครบถ้วน และอีกแผ่นหนึ่งเขียนชื่อสมุนไพรผิดโดยรวมแล้ว จ้าวหรุ่ยหรุ่ยอยู่ในอันดับที่สาม และหลิงอวี๋อยู่ในอันดับที่สอง“อาจารย์ พวกเราต้องการผู้มีความสามารถที่โดดเด่นยอดเยี่ยมที่สุด ถึงจะเหนือกว่าหอโอสถไป๋เป่าได้ สิงอวี๋ผู้นี้มิเก่งกาจเท่าหลงอิง จะให้ข้าไปหาหลงอิงเป็นการส่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1905

    ขณะที่หลิงอวี๋กำลังจะก้าวขึ้นไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจ ก็ได้ยินจงเจิ้งเฟยพูดขึ้นเสียงเรียบ “เสี่ยวอวี๋ เป้าหมายของเจ้าคือการได้เข้าเรียนที่สำนักศึกษาปรุงโอสถ เท่านั้นก็พอแล้ว อย่าได้ทำตัวโดดเด่นจนเกินไปล่ะ!”“ในสำนักศึกษาชิงหลง หากทำตัวโดดเด่นเกินหน้าเกินตาแต่ไม่มีคนหนุนหลังจะทำให้สร้างศัตรูได้ง่าย!”จงเจิ้งเฟยพูดเช่นนี้ด้วยความหวังดีการที่หลิงอวี๋ได้อันดับหนึ่งในรอบแรกก่อให้เกิดการถกเถียงกันในหมู่ผู้คนมากมาย จงเจิ้งเฟยกังวลว่าสหายใหม่คนนี้จะมิเข้าใจวิถีของสังคม นางจึงให้คำชี้แนะอีกฝ่ายคำพูดเหล่านี้เปรียบเสมือนอ่างน้ำเย็นที่ทำให้หลิงอวี๋ได้สติขึ้นมาทันทีนางมองจ้าวหรุ่ยหรุ่ย หลงอิง และเหล่าคุณหนูที่แต่งกายหรูหรา แต่ละคนล้วนร่ำรวยและมีฐานะสูงส่งเหมือนที่จงเจิ้งเฟยพูด ในเมื่อไม่มีพลังอำนาจ แล้วจะเอาอะไรไปต่อกรกับพวกนางได้?ความรู้ความสามารถที่แท้จริงหรืออย่างไร?ในสายตาของเหล่าคุณหนูจากตระกูลขุนนางเหล่านี้ นั่นไม่มีความหมายอะไร เพราะยังมีคนในสำนักศึกษาชิงหลงอีกมากที่มีความสามารถมากกว่าตนการที่นางชนะจ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้มิใช่เรื่องอะไรหรอก แต่การปลุกเร้าความอิจฉาริษยาของเหล่าคุณหน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1904

    “หากมิทำให้ยากขึ้นมาหน่อยแล้วจะคัดคนมากมายออกได้อย่างไร!”จงเจิ้งเฟยกลอกตาไปที่เหลยเหวินอีกครั้งพลางยิ้มเยาะ “บางคนมาที่สำนักศึกษาชิงหลงเพียงเพื่อแสวงหาชื่อเสียง และบางคนก็มาเพื่อหาสามีที่ร่ำรวย ไม่มีใจที่จะศึกษาหาความรู้ด้วยซ้ำ!”“หากมิคัดคนเช่นนี้ออกไป ก็รังแต่จะทำให้ชื่อเสียงของเหล่าปรมาจารย์ต้องเสื่อมเสีย!”"เจ้าก็มั่นใจในตัวเองหน่อย เจ้ามิได้ด้อยไปกว่าคนอื่นเลย!"หลิงอวี๋รับคำพูดของจงเจิ้งเฟยมาเป็นกำลังใจให้ตัวเอง นางมิด้อยกว่าใครแน่นอน นางจะต้องเข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงหลงและพยายามพัฒนาตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้นให้ได้ เพื่อที่นางจะได้แก้แค้นจ้าวหรุ่ยหรุ่ยสุดท้ายทั้งสามคนก็ไปกินอาหารเย็นด้วยกัน หลังจากที่พักผ่อนกันครู่หนึ่งก็กลับมาที่สำนักย่อยเพื่อเข้าร่วมการประเมินรอบต่อไปเนื่องจากในรอบแรกมีคนถูกคัดออกไปเป็นกลุ่มใหญ่ ผู้เข้าสอบที่สำนักย่อยจึงน้อยลงไปมาก ดังนั้นผู้เข้าสอบทุกคนจึงสามารถเข้าไปสังเกตการณ์ในรอบที่สองได้การสอบแข่งขันยังคงจัดขึ้นแบบกลุ่ม และผู้ที่อยู่ห้าอันดับแรกจะได้ผ่านไปยังการประเมินรอบสุดท้ายสิ่งที่ทำให้ผู้เข้าสอบทุกคนตื่นเต้นก็คือ ครั้งนี้นอกเหนือจากรองเจ้า

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1903

    ศิษย์น้องหญิงนางนี้พูดจาอวดดีราวกับสำนักศึกษาชิงหลงเป็นของตระกูลนาง!หลิงอวี๋อดมิได้ที่จะรู้สึกสนใจศิษย์น้องหญิงนางนี้มากขึ้นกว่าเดิมมิรู้ว่าใครเป็นคนกล่าวคำนี้ไว้ ศัตรูของศัตรูคือมิตร!ตอนนี้หลิงอวี๋มิใช่คู่ต่อสู้ของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยอีกต่อไปแล้ว แต่นั่นก็มิอาจหยุดยั้งนางจากการใช้ศัตรูของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเพื่อแก้แค้นอีกฝ่ายได้ดูเหมือนว่าศิษย์น้องหญิงจะเกลียดจ้าวหรุ่ยหรุ่ยมาก บางทีนางอาจจะร่วมมือกับตนเพื่อจัดการจ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้“เหวินเหวิน ศิษย์น้องหญิงนางนั้นเป็นใครกัน? ข้าว่านางดูบ้าบิ่นมากเลย!”หลิงอวี๋ถามด้วยความสงสัย“แน่นอนว่านางทำตัวบ้าบิ่นได้อยู่แล้ว เพราะนางสกุลหลงอย่างไรเล่า!”เมื่อเห็นว่าหลิงอวี๋มิรู้ตัวตนของศิษย์น้องหญิงจริง ๆ เหลยเหวินจึงเลิกเคืองหลิงอวี๋แล้วกระซิบบอกนาง“นางชื่อหลงอิง แม้นางจะมิได้มาจากตระกูลจักรพรรดิมังกร แต่ก็ยังถือว่าเป็นคนของตระกูลหลงอยู่ดี และยังมีชื่อเสียงเลื่องลือในหมู่คนภายนอกอีกด้วย!”หลิงอวี๋ตระหนักได้ทันทีว่าใต้หล้าในแดนเทพนี้เป็นของตระกูลหลง คนเดียวที่ประสบความสำเร็จในตระกูลนี้ทำให้ทุกคนรอบข้างได้รับประโยชน์ แม้แต่พวกไร้สถานะอำนาจยังดูสู

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1902

    ต่งเฉิงมองหลิงอวี๋พลางพยักหน้ารัว ๆ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มพร้อมกับลูบเคราของตัวเองว่า “สาวน้อยนางนี้รู้จักเครื่องยาสมุนไพรมากมายเช่นนี้นับว่าหายาก!”เครื่องยาสมุนไพรเหล่านี้มิใช่สมุนไพรธรรมดาทั้งหมด นอกจากเครื่องยาสมุนไพรที่ใช้ในการกลั่นโอสถระดับต้นแล้ว ยังมีระดับกลางและระดับสูงจำนวนเล็กน้อยอีกด้วยโดยทั่วไป ผู้เข้าสอบที่ตอบได้เจ็ดสิบถึงแปดสิบชนิดก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว ทว่าหลิงอวี๋สามารถตอบได้มากกว่าหนึ่งร้อยชนิด ถือว่าเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์สูงเลยทีเดียวเพิ่งเข้ามาก็ทำคะแนนได้ดีถึงเพียงนี้ หากนางได้เรียนอย่างเป็นระบบก็คงแซงหน้าบัณฑิตคนอื่นได้ในมิช้า“ตึง ตึง ตึง!”เมื่อเสียงกลองดังขึ้นสามครั้ง การสอบแข่งขันของกลุ่มนี้ก็สิ้นสุดลง“หนึ่งร้อยยี่สิบเจ็ดคะแนน!”กลองหยุดลงแล้ว และบนใบหน้าของศิษย์พี่หญิงก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นเป็นครั้งแรก นางหยิบป้ายส่งให้หลิงอวี๋พร้อมรอยยิ้ม“การสอบแข่งขันรอบต่อไปจะจัดขึ้นในช่วงบ่าย! ความสามารถในการจำแนกเครื่องยาสมุนไพรของเจ้าดีที่สุดในรอบนี้ ทำให้ดีล่ะ!”“ขอบคุณศิษย์พี่หญิง!”หลิงอวี๋รับป้ายมาด้วยความตื่นเต้น พลางหันไปดูผู้เข้าสอบคนอื่น ๆ ที่กำลังมองนางด้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1901

    เป็นไปตามคาด หลิงอวี๋เห็นใบหน้าที่งดงามทว่าโหดร้ายนั้น และนั่นก็คือศัตรูที่นางมิอาจลืมเลือน...จ้าวหรุ่ยหรุ่ย!ชั่วขณะนั้นดวงตาของหลิงอวี๋เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว พลางนึกอยากจะรุดเข้าไปฉีกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเป็นชิ้น ๆ เพียงหลับตา นางก็มิอาจควบคุมตนมิให้นึกถึงฉากที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเตะต่อยตนความเจ็บปวดและเลือดสด ๆ อีกทั้งความทุกข์ทรมานจากการสูญเสียลูกไปทำให้หลิงอวี๋มิอาจลืมความเกลียดชังที่ตนมีต่อจ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้เลย!คาดมิถึงว่าศัตรูจะปรากฏตัวต่อหน้าตนเช่นนี้!หลิงอวี๋ตื่นตัวมากจนร่างกายสั่นเทา แต่นางก็ยังสามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ได้นางมิใช่คู่ต่อสู้ของจ้าวหรุ่ยหรุ่ย การวู่วามลงมือมีแต่จะเป็นการรนหาที่ตายเท่านั้นหลิงอวี๋สูดหายใจเข้าลึกพลางมองเด็กสาวที่ประกาศสงครามกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเด็กสาวคนนี้ดูอายุราว ๆ สิบหกสิบเจ็ดปี มีรูปร่างสูง ใบหน้ารูปไข่ คิ้วโค้งเหมือนพระจันทร์เสี้ยว และดวงตาแวววาวสดใสผมสีดำสนิทของนางถูกแสกกลางและถักเป็นเปียยาวสองข้างพันไว้รอบมวยผม ข้าง ๆ มวยผมนั้นมีปิ่นมุกปักประดับอยู่สองอันเด็กสาวสวมชุดกระโปรงสีม่วงควันธูป และเมื่อดูจากเนื้อผ้าแล้ว นางน่าจะเป็นค

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1900

    ข่าวที่สือหรงนำมาให้เซียวหลินเทียนมิใช่ข่าวดี จ้าวหรุ่ยหรุ่ยยังคงอยู่ในตำหนักเทียนจีและมิได้มาลงทะเบียนด้วยตนเองหากอยากพบกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ย ก็ทำได้แค่ต้องรอจนถึงวันคัดเลือกรอบแรกเท่านั้นแต่เซียวหลินเทียนก็มิย่อท้อ ถึงอย่างไรขอเพียงจ้าวหรุ่ยหรุ่ยปรากฏตัว เขาก็จะไม่มีทางปล่อยนางหนีไปอีกแน่ ให้นางเป็นอิสระอีกสักสองสามวันก็คงมิเป็นไร!ในช่วงวันเวลาที่เหลือ หลายคนเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านเช่นเดียวกับหลิงอวี๋ พวกเขาอ่านตำราอย่างหนักและเพิ่มพูนความรู้ที่ขาดไป เพื่อที่จะผ่านการคัดเลือกและได้เข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงหลงทว่าหลิงอวี๋มิรู้เลยว่าศัตรูของตนมาถึงเมืองหลวงแดนเทพแล้ว หลังจากเอาแต่ปิดห้องอ่านตำราเป็นเวลาหลายวันนางก็มาที่สำนักศึกษาชิงหลงที่อยู่นอกเมืองในวันแห่งการคัดเลือก โดยมีผู้รอบรู้เรื่องร่วมเดินทางด้วยหน้าทางเข้าสำนักศึกษาชิงหลงเต็มไปด้วยผู้คนทั้งบุรุษและสตรี ทั้งเด็กและผู้ใหญ่รวมกันนับพันคนผู้รอบรู้เห็นเช่นนั้นก็ทึ่งจนพูดมิออก และอ้ำอึ้งพูดออกไปว่า “รู้เช่นนี้ข้าน่าจะมาลงทะเบียนเข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงหลงกับเจ้าด้วย เฮ้อ ตอนนี้มันสายไปเสียแล้ว!”หลิงอวี๋ยิ้ม นางรู้ว่าผู้รอบร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1899

    “เถาจื่อ หานอวี้ วันพรุ่งพวกเจ้าไปลงทะเบียนเสีย!”เซียวหลินเทียนทำการตัดสินใจและกำชับว่า “ลงทะเบียนในชื่อของน้องสาวข้า!”“เผยอวี้ ฉินซาน พวกเจ้าสองคนก็ไปลงทะเบียนสาขาที่ตนเองชื่นชอบด้วย พวกเจ้าทั้งคู่บอกแค่ว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องของข้าก็พอ!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น พวกเขาทุกคนก็หัวเราะอย่างมีความสุข พลางพยักหน้าและจัดลำดับอาวุโสกันให้เซียวหลินเทียนเป็นพี่ใหญ่ของทุกคน เถาจื่อเป็นพี่หญิงใหญ่ หานเหมยเป็นพี่น้องคนที่สาม และหานอวี้เป็นคนที่สี่เซียวหลินเทียนได้บอกจุดประสงค์ของภารกิจให้พวกเขาทราบแล้ว เถาจื่อกับหานอวี้ต้องให้ความสำคัญกับฝั่งของสตรีวันรุ่งขึ้น เถาจื่อและหานอวี้ไปลงทะเบียน และทั้งคู่ก็เลือกวิชาปรุงโอสถเนื่องจากก่อนหน้านี้พวกนางเคยตามหลิงอวี๋ไปจำแนกเครื่องยาสมุนไพรหลายชนิด ในความคิดของพวกนาง การกลั่นโอสถเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการผ่านการประเมินมีชั้นเรียนที่สอนการกลั่นโอสถเพียงสองแห่งเท่านั้น ดังนั้นเถาจื่อและหานอวี้จึงต้องลงทะเบียนเรียนคนละชั้นเรียนและเถาจื่อก็ได้ลงทะเบียนเรียนชั้นเรียนของหอโอสถซ่างกู่เซียวหลินเทียน เผยอวี้และคนอื่น ๆ ก็ไปลงทะเบียนด้วยเซียวหลินเทียนลงทะ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1898

    เผยอวี้เหลียวซ้ายแลขวาไปรอบ ๆ เมืองหลวงแดนเทพที่เจริญรุ่งเรืองราวกับคนบ้านนอก ทำเอาเขาอดมิได้ที่จะถอนหายใจ“มิแปลกใจที่ทุกคนล้วนพูดว่าเมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรือง เพราะที่นี่เจริญจริง ๆ ดังคำกล่าว นายท่านอู่ เมืองหลวงแดนเทพแห่งนี้ใหญ่กว่าเมืองหลวงในฉินตะวันตกของพวกเราหลายเท่านัก!”เซียวหลินเทียนวางแผนใช้คำในชื่อจักรพรรดิเซิ่งอู่ของตนเป็นแซ่ ดังนั้น เผยอวี้และคนอื่น ๆ จึงได้เปลี่ยนมาเรียกเซียวหลินเทียนว่านายท่านอู่หานอวี้กับเถาจื่อและคนอื่น ๆ ที่ได้รีบมารวมตัวกับกลุ่มของเซียวหลินเทียนต่างพยักหน้าเห็นด้วยอย่างเงียบ ๆทว่าเซียวหลินเทียนกลับรู้สึกเบื่อหน่ายขึ้นมา เมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรืองแล้วอย่างไร?หากไม่มีหลิงอวี๋อยู่เคียงข้าง มิว่าทิวทัศน์จะสวยงามเพียงใดมันก็ไร้ประโยชน์ยิ่งเมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรืองและมีขนาดใหญ่มากเท่าไร การตามหาหลิงอวี๋ก็จะยิ่งยากมากเท่านั้นท่ามกลางฝูงชนมหาศาลนี้เขาจะหาตัวหลิงอวี๋ของเขาพบได้อย่างไร?ฉินซาน หานเหมยและสือหรงล่วงหน้ากันไปก่อน ในช่วงที่ยังสร้างตำหนักปีกเงินแห่งใหม่มิเสร็จนี้ ทั้งสามคนได้ซื้อที่ดินใหญ่ที่มีหกส่วนเพื่อให้ทุกคนใช้เป็นที่อย

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status