แชร์

บทที่ 857

ผู้เขียน: กานเฟย
ในเวลาไม่นาน ก็มีคนหลั่งไหลเข้ามาพระตำหนักหย่งเหอมากมาย

นางกำนัลพยุงฮองเฮาเว่ยเดินเข้ามา

“จ่างหนิงเล่า?”

“อยู่ในห้องโถงใหญ่เพคะ!”

ฮองเฮาเว่ยรีบเดินเข้าไปข้างใน หลังจากนั้นไม่นาน เสียงร้องไห้น่าสะเทือนใจของฮองเฮาเว่ยก็ดังมาจากข้างใน

“จ่างหนิง เจ้าตายอย่างอนาถนัก!”

“หลิงอวี๋ เหตุใดเจ้าจึงใจร้ายจึงเพียงนี้ เจ้าลงมืออย่าโหดเหี้ยมกับเด็กน้อยเช่นนี้ได้เยี่ยงไร!”

ฮองเฮาเว่ยร้องไห้ แล้วจู่ ๆ เสียงก็หายไป จากนั้นนางกำนัลกับแม่นมที่อยู่ข้างในก็กรีดร้องขึ้นมา “แย่แล้ว ฮองเฮาเป็นลมไปแล้ว!”

ใบหน้าของจักรพรรดิอู่อันมืดมนลงทันที

ในเวลานี้ ทหารของกองทัพหลวงก็ได้เชิญถังถีเตี่ยนกับหมอจางมาพอดี

เมื่อจักรพรรดิอู่อันเห็นดังนั้นก็รีบตะโกน “ถังถีเตี่ยน รีบเข้าไปดูฮองเฮาที!”

ถังถีเตี่ยนรับคำแล้ววิ่งเข้าไป

เฮ่อจู้รีบไปหาหมอจางแล้วตะโกน “หมอจาง รีบช่วยลูกชายของข้าที! มิรู้ว่าเขาเป็นเยี่ยงไรบ้าง เรียกเท่าไหร่ก็มิยอมตื่นเลย!”

เฮ่อจู้เป็นพี่ชายของพระชายาเว่ย และเป็นคนของฮองเฮาเว่ยด้วย

หมอจางเป็นคนของพระชายาเส้า เมื่อเห็นเฮ่อจู้จับตัวตนเองไว้ ก็รู้สึกมิพอใจนัก กลัวว่าพระชายาเส้าจะเข้าใจผิดว่าตนเอาใจเฮ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Chaweewan Siriyom
คนมีอำนาจแต่สมองไม่ค่อยมี ใช้แต่อารมณ์ไม่ใช้สมอง
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 858

    เมื่อหลิงอวี๋ได้ยินดังนั้น ก็คุกเข่าลงพลางเอ่ยเสียงเรียบ “เสด็จพ่อ หลิงอวี๋ถูกใส่ร้ายเพคะ!”ยังมิทันที่หลิงอวี๋จะพูดจบ ฮองเฮาเว่ยก็ตะโกนอย่างร้อนใจ “พูดจาไร้สาระ ใครจะใส่ร้ายเจ้า?”“ฝ่าบาท ดูสิเพคะ จนถึงตอนนี้หลิงอวี๋ก็ยังไม่มีท่าทีสำนึกผิดแม้แต่น้อย... เห็น ๆ กันอยู่ว่านางคือคนที่ฆ่าจ่างหนิง แต่นางกลับมิยอมรับ!”“นางถือว่าได้สร้างความดีความชอบครั้งใหญ่ในการออกไปกำจัดโรคระบาดครั้งนี้ คิดว่าฝ่าบาทยังต้องการนางอยู่ จึงได้เย่อหยิ่งเช่นนี้เพคะ!”จักรพรรดิอู่อันเกลียดที่สุดคือการที่มีคนเย่อหยิ่งเพราะได้รับความดีความชอบ เมื่อได้ยินดังนั้นจึงตะคอกออกไป“หลิงอวี๋ เจ้าฆ่าคนโดยมีหลักฐานประจักษ์ชัด! ตอนนี้มิเพียงแต่มิคิดจะกลับใจแต่ยังกล้าโต้เถียงอีก! เจ้าคิดว่าเจ้ามีความดีความชอบจึงได้กล้าหยิ่งผยองเช่นนี้จริง ๆ ใช่หรือไม่?!”“วันนี้ข้าจะต้องกำจัดการวางอำนาจของเจ้า! ใครก็ได้ ลากตัวหลิงอวี๋ไปประหาร!”“เสด็จพ่อ เรื่องนี้ควรสอบสวนให้ดีก่อนมิใช่หรือ?”“ฝ่าบาท จัดการอย่างเร่งรีบเช่นนี้มิได้พ่ะย่ะค่ะ!”เซียวหลินเทียนกับท่านอ๋องเฉิงเอ่ยเป็นเสียงเดียวกันจักรพรรดิอู่อันจ้องมองเซียวหลินเทียนด้วย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 859

    จักรพรรดิอู่อันพยักหน้าเล็กน้อย เมื่อครู่เขาเห็นสภาพการตายของจ่างหนิงจึงได้โกรธมากตอนนี้เมื่อท่านอ๋องเฉิงพูดขึ้นมา เขาก็สงบลง พอคิด ๆ ดูเรื่องนี้ก็มีบางอย่างผิดปกติจริง ๆ พฤติกรรมของหลิงอวี๋ในช่วงนี้ก็ดูมิเหมือนคนไร้เหตุผลเลย!นางจะกล้าฆ่าคนในวังได้เยี่ยงไรกัน!“หลิงอวี๋ เจ้าบอกมาตามความจริง หากกล้าโกหกแม้เพียงเล็กน้อย จะต้องถูกลงโทษอย่างรุนแรง!”หลิงอวี๋ก้มหน้าลง ในใจก็มีความคิดนับมิถ้วนอยู่ฮองเฮาเว่ยไม่มีทางที่จะฆ่าหลานสาวคนโปรดของนางเพื่อใส่ร้ายตนแน่ เห็นได้ชัดว่าเรื่องนี้พระชายาเส้าเป็นตัวหลักพระชายาเส้าเสนอโอกาสให้ตนพูด ใครจะรู้ว่ามีกับดักซ่อนอยู่ในนั้นหรือไม่?“ฝ่าบาท เมื่อครู่หลิงอวี๋อยู่กับไทเฮาที่ศาลาในสวน แล้วเถาจื่อก็มารายงานว่าหลิงซวนถูกจ่างหนิงพาตัวไป หลิงอวี๋จึงมาตามหาหลิงซวนเพคะ!”หลิงอวี๋ตอบอย่างระมัดระวังพระชายาเส้าคว้าโอกาสนี้ทันที นางเอ่ยอย่างแสร้งทำเป็นแปลกใจ “นางรับใช้คนหนึ่งถูกจ่างหนิงพาตัวไป เจ้าก็ยังต้องตามหาด้วยตัวเองเลยหรือ มิสมเหตุสมผลกระมัง?”หัวใจของหลิงอวี๋บีบแน่น เป็นดังที่คาด พระชายาเส้าขุดกับดักไว้รอตนอยู่แล้วเช่นนี้มันจะนำไปสู่ข้อสรุปว่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 860

    เซียวหลินเทียนเชื่อว่าหลิงอวี๋พูดความจริง ส่วนฮองเฮาเว่ยเอาแต่พูดขัดหลิงอวี๋อยู่หลายครั้ง เขาจึงอดมิได้ที่จะเอ่ย“ฮองเฮา แม้ว่าฮองเฮาจะเสียใจมากกับการตายของจ่างหนิง และเราก็เข้าใจถึงความรู้สึกที่อยากจะแก้แค้น! แต่ตอนนี้เสด็จพ่อให้หลิงอวี๋ได้พูดแย้งให้ตัวเองอยู่มิใช่หรือ?”“หรือฮองเฮาคิดว่าเสด็จพ่อมิปราดเปรื่องเท่าฮองเฮา มิสามารถแยกแยะได้ว่าสิ่งที่หลิงอวี๋พูดมานั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่?”ฮองเฮาเว่ยคุกเข่าลงทันที พลางเอ่ยอย่างเศร้า ๆ “ฝ่าบาทโปรดอภัยให้หม่อมฉันด้วยเพคะ! หม่อมฉันมิได้หมายความเยี่ยงนั้นเพคะ!”จักรพรรดิอู่อันก็โกรธอยู่เช่นกันกับความเลยเถิดของฮองเฮา จึงตะคอกเสียงแข็ง “ฮองเฮา หากเจ้าคิดว่าข้ามิสามารถทำการไต่สวนอย่างยุติธรรมได้ เช่นนั้นเจ้าก็มาทำเองเถอะ!”“หม่อมฉันมิกล้าเพคะ... หม่อมฉันผิดไปแล้ว... ฝ่าบาทอย่าได้ถือสาหม่อมฉันเลย... หม่อมฉันอารมณ์เสียเพราะรับมิได้กับการตายของจ่างหนิง... หม่อมฉันสัญญาว่าจะมิพูดแทรกอีกเพคะ!”ฮองเฮาเว่ยแทบจะคลานลงไปบนพื้น จักรพรรดิอู่อันเห็นผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงของนางก็ขมวดคิ้วและไม่ถือสานางอีก“หลังจากนั้นเล่า?”จักรพรรดิอู่อันเอ่ยถามต่อไป“ค

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 861

    ทางด้านเฮ่อจู้กับหมอจางและถังถีเตี่ยนกำลังล้อมรอบเฮ่ออันอยู่ เฮ่ออันยังคงหมดสติ พอได้ยินขันทีน้อยเซี่ยมาถ่ายทอดคำสั่งเฮ่อจู้ก็อุ้มลูกชายของเขาเดินเข้ามา เขาคุกเข่าลงบนพื้นเสียงดัง แล้วยกมือทั้งสองของเฮ่ออันด้วยความโศกเศร้า“ฝ่าบาท มิรู้ว่าหลิงอวี๋ทำร้ายลูกชายของกระหม่อมเยี่ยงไร หมอจางกับถังถีเตี่ยนล้วนตรวจสอบมิได้เลย จนถึงตอนนี้อันเอ๋อร์ของกระหม่อมยังมิฟื้นเลยพ่ะย่ะค่ะ!”เฮ่อจู้กับภรรยาของเขาแต่งงานกันมาเกือบสิบปีแล้ว เพิ่งจะมีลูกชายเพียงคนเดียวคือเฮ่ออันปีนี้เฮ่ออันเพิ่งจะอายุเพียงหกขวบ ซึ่งอ่อนกว่าจ่างหนิงหนึ่งปีองค์ชายเว่ยไปเฝ้าสุสานจักรพรรดิ ฮองเฮาเว่ยจึงพาจ่างหนิงเข้ามาดูแลในวัง เฮ่ออันกับจ่างหนิงมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน จ่างหนิงจึงอ้อนให้ฮองเฮาเว่ยรับตัวเฮ่ออันเข้ามาเป็นเพื่อนของตนด้วยเฮ่อจู้มีหรือจะคาดคิดว่าครั้งนี้ส่งลูกชายเข้าวังมายังมิถึงสองวัน เฮ่ออันก็ประสบกับเรื่องเลวร้ายเช่นนี้แล้วจักรพรรดิอู่อันมองเฮ่ออัน ดวงตาของเขาปิดสนิท ใบหน้าเล็ก ๆ นั้นก็ซีดเซียวจักรพรรดิอู่อันเอ่ยกับหลิงอวี๋อย่างไม่พอใจ “เจ้าทำอะไรเขา?”“ฝ่าบาท หม่อมฉันถูกใส่ร้ายเพคะ ตอนนั้นหม่อมฉัน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 862

    ตอนนั้นหลิงอวี๋เอาที่วางแขนเก้าอี้แทงเข้าไปในตัวของเหล่าเอ้อร์ แต่ด้วยความรีบจึงไม่แน่ใจว่าเหล่าเอ้อร์ตายหรือไม่ จึงบอกได้เพียงว่าได้รับบาดเจ็บท่านอ๋องเฉิงพยักหน้า เซียวหลินเทียนก็พยักหน้าเช่นกันหลิงอวี๋อุ้มเฮ่ออันไปที่ห้องโถงอีกด้านอย่างสบายใจทันทีที่เข้าไป หลิงอวี๋ก็รีบเข้าไปในมิติ หยิบเข็มฉีดยาออกมาเจาะเลือด แล้วเอาเลือดของเฮ่ออันบางส่วนไปทำการทดสอบในมิติแต่กระทั่งผลการทดสอบออกมาแล้ว กลับพบว่าเฮ่ออันไม่มีร่องรอยการถูกพิษหลิงอวี๋ถอดเสื้อผ้าของเฮ่ออันออก แล้วก็พบว่าไม่มีอาการบาดเจ็บภายนอกบนร่างกายของเฮ่ออันเลยนางยังกังวลอยู่ว่าตนประมาทไปหรือไม่ จึงพลิกตัวเฮ่ออันแล้วตรวจสอบอย่างละเอียดแต่ร่างกายของเฮ่ออันก็ไม่มีอาการบาดเจ็บภายนอกเลย ยกเว้นรอยช้ำขนาดเท่าเล็บมือบนหน้าอกของเขารอยช้ำขนาดเท่าเล็บนี้ ไม่รู้เช่นกันว่าเฮ่ออันไปโดนอะไรมาเมื่อใด หรือว่าจะได้รับบาดเจ็บจากคนลึกลับนั่น!หลิงอวี๋ลูบ ๆ ดู แต่ก็ไม่มีอะไรผิดปกตินอกจากว่ามีความเย็นเล็กน้อยหลังจากที่หลิงอวี๋ตรวจเสร็จแล้ว ก็สวมเสื้อผ้าให้กับเฮ่ออันเมื่อเห็นว่าเขาหมดสติไม่ฟื้นอยู่เช่นนั้น หลิงอวี๋ก็กังวลว่าเขาจะได้รับบ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 863

    ท่านอ๋องเฉิงมองหลิงอวี๋อย่างลำบากใจ พลางเอ่ยเสียงเข้ม “ข้าได้ไปตรวจสอบแล้ว ไม่มีเก้าอี้ที่เจ้าว่า และไม่มีคนชุดดำที่ถูกยาสลบด้วย!”“ในพระตำหนักหย่งเหอ นอกจากพวกเจ้าแล้ว ข้ามิพบสิ่งใดที่น่าสงสัยเลย!”“ท่านอ๋องเฉิง มีอะไรที่ท่านมองข้ามไปหรือไม่?”หลิงอวี๋เอ่ยอย่างกังวล “วังใหญ่โตถึงเพียงนี้ หากพวกนางมิได้อยู่ในพระตำหนักหย่งเหอ บางทีอาจซ่อนตัวอยู่ที่อื่นหรือไม่?”เฮ่อจู้หัวเราะเยาะพลางเอ่ย “หลิงอวี๋ จะตายอยู่แล้วยังกล้าพูดเรื่องไร้สาระใส่ร้ายผู้อื่นอีกหรือ! ในวังมีกองทัพหลวงคอยลาดตระเวนอยู่ทุกหนทุกแห่ง คนชุดดำสามคนรวมกับคนลึกลับที่แปลกประหลาดที่เจ้าว่า รวมทั้งหมดมีสี่คน!”“กองทัพหลวงจะมิพบที่อยู่ของพวกเขาเลยได้เยี่ยงไร? พวกเขาจะซ่อนตัวอยู่ที่อื่นได้เยี่ยงไร? เจ้าจะใส่ร้ายกองทัพหลวงที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่อย่างซื่อสัตย์หรือ?”“เจ้าสังหารจ่างหนิง จึงจงใจสร้างเรื่องคนชุดดำเหล่านี้ขึ้นมาหลอกลวงองค์จักรพรรดิเพื่อจะได้หลุดพ้นจากการลงโทษ! เจ้าช่างน่ารังเกียจจริง ๆ!”“ลากตัวออกไป! ประหาร!”จักรพรรดิอู่อันมิอดทนอีกต่อไปแล้ว หลังจากออกคำสั่ง องครักษ์ของกองทัพหลวงหลายคนก็พุ่งมาข้างหน้าทันที“เส

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 864

    เมื่อเห็นทั้งสองคนพูดช่วยหลิงอวี๋ จักรพรรดิอู่อันก็คิดแล้วเอ่ย “ได้ ข้าตกลงว่าจะให้เวลาพวกเจ้าสามวัน!”“หลังจากสามวัน หากหลิงอวี๋มิสามารถช่วยเฮ่ออัน และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองได้ เช่นนั้นใครก็ตามที่ร้องขอความเมตตาให้นางอีก จะต้องมีความผิดร่วมกับนางด้วย!”“เอาตัวไป! ส่งราชสำนักฝ่ายในไปเฝ้าอย่างเข้มงวดด้วย!”เดิมทีเซียวหลินเทียนอยากพาหลิงอวี๋กลับไปที่ตำหนักอ๋องอี้ ไหนเลยจะคิดว่าจักรพรรดิอู่อันจะออกคำสั่งเช่นนี้เขาพูดให้กับหลิงอวี๋แล้วครั้งหนึ่ง รู้ว่าหากพูดอีกจักรพรรดิอู่อันจะมิยอมตกลงเป็นแน่ เขาจึงนิ่งเงียบไปทหารกองทัพหลวงหลายคนก้าวไปจับตัวหลิงอวี๋ไว้ แล้วลากตัวนางกับหลิงซวนออกไปด้วยกันเดิมทีเฉาอี้พบเถาจื่อแล้ว และกำลังรออยู่ข้างนอกเมื่อเห็นหลิงอวี๋ถูกลากออกไป เถาจื่อก็ก้าวไปอย่างบุ่มบ่าม แต่ถูกเฉาอี้จับไว้ก่อนเฉาอี้ดุนางด้วยเสียงต่ำที่ข้างหู “เจ้าจะไปทำอะไร? จะให้พวกเขาจับตัวเจ้าไปด้วยกันอีกคนหรือ? หากเจ้าอยากช่วยพระชายาอ๋องอี้ เจ้าอยู่ข้างนอกนี่จะไม่มีประโยชน์มากกว่าหรือ?”จากนั้นเถาจื่อก็หยุดแล้วนวดขมับของนางนางกับหลิงอวี๋แยกกันมิเท่าไหร่ นางก็รู้สึกเจ็บที่หลังคอ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 865

    จ้าวซวนพยักหน้าเห็นด้วย “ท่านอ๋อง คนชุดดำสามคนล้วนเป็นหญิง! เพียงเปลี่ยนเสื้อผ้าก็สามารถซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางนางกำนัลได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ!”“แต่ถูกนางกำนัลที่ถูกพระชายาทำให้บาดเจ็บหรือแม้กระทั่งตายไป ไม่ว่าจะปกปิดเยี่ยงไรก็ต้องทิ้งร่องรอยไว้!”เซียวหลินเทียนครุ่นคิด แล้วกระซิบ“ไปส่งข้อความถึงขันทีเซี่ยอย่างเงียบ ๆ ให้เขาช่วยข้าดูนางกำนัลที่ออกจากวังในช่วงสองวันที่ผ่านมา ตลอดจนนางกำนัลที่ป่วยแล้วเชิญแพทย์หลวงมาด้วย และแม้กระทั่งนางสนมก็ด้วย!”ความสัมพันธ์ระหว่างหลิงซวนกับขันทีเซี่ยนั้นมิธรรมดา หากหลิงอวี๋ถูกจัดการ หลิงซวนก็จะถูกตัดหัวด้วยเช่นกัน!เซียวหลินเทียนเชื่อว่าขันทีเซี่ยจะช่วยอย่างแน่นอน!เซียวหลินเทียนกับท่านอ๋องเฉิงตรวจสอบห้องโถงใหญ่ แล้วออกไปตรวจสอบข้างนอกหลิงอวี๋บอกว่านางล่อตัวหัวหน้าวิ่งออกไปถึงป่าไผ่เซียวหลินเทียนกับท่านอ๋องเฉิงตรวจสอบอย่างละเอียด เซียวหลินเทียนก็พบเข็มเงินอีกอันหนึ่งเข็มเงินนี้เป็นของหลิงอวี๋!นั่นพิสูจน์ได้ว่าหลิงอวี๋ได้ปักยาสลบใส่ตัวหัวหน้าจริง ๆคนที่ได้รับมอบหมายให้ทำความสะอาดสถานที่เกิดเหตุมีเวลาจำกัด ด้วยความเร่งรีบจึงได้หาเข็มเงินนี้จนพบ

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1906

    จางอิ๋งได้พูดคุยเรื่องการแต่งงานกับลูกชายของเย่ซื่อฝานแล้ว และต่อไปหอโอสถซ่างกู่ก็จะเป็นครอบครัวสามีของนาง นางมิอาจทนเห็นหอโอสถซ่างกู่ถูกแทนที่ได้ ดังนั้นนางจึงแสวงหาผู้มีความสามารถให้กับหอโอสถซ่างกู่อย่างกระตือรือร้นทันทีที่เสียงกลองหยุดลง จางอิ๋งก็อดใจรอมิไหวที่จะเก็บตำรับยาของผู้เข้าสอบจางอิ๋งรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าหลิงอวี๋จำแนกส่วนผสมโอสถได้เพียงสิบห้าชนิดเท่านั้นจากผลงานของหลิงอวี๋ในรอบแรก อย่างน้อยที่สุดก็ควรจะจำแนกได้สักสิบแปดชนิด เหตุใดถึงได้แค่สิบห้าชนิดกันทางด้านหลงอิงที่ลงทะเบียนเรียนกับหอโอสถไป๋เป่าเขียนตำรับยายี่สิบชนิดได้ถูกต้องทั้งหมด และอยู่ในอันดับที่หนึ่งของกลุ่มนี้ส่วนจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเขียนตำรับยาได้สิบห้าชนิด แต่มีตำรับยาสองแผ่นที่มีข้อผิดพลาด ตำรับยาแผ่นหนึ่งระบุเครื่องยาสมุนไพรมิครบถ้วน และอีกแผ่นหนึ่งเขียนชื่อสมุนไพรผิดโดยรวมแล้ว จ้าวหรุ่ยหรุ่ยอยู่ในอันดับที่สาม และหลิงอวี๋อยู่ในอันดับที่สอง“อาจารย์ พวกเราต้องการผู้มีความสามารถที่โดดเด่นยอดเยี่ยมที่สุด ถึงจะเหนือกว่าหอโอสถไป๋เป่าได้ สิงอวี๋ผู้นี้มิเก่งกาจเท่าหลงอิง จะให้ข้าไปหาหลงอิงเป็นการส่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1905

    ขณะที่หลิงอวี๋กำลังจะก้าวขึ้นไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจ ก็ได้ยินจงเจิ้งเฟยพูดขึ้นเสียงเรียบ “เสี่ยวอวี๋ เป้าหมายของเจ้าคือการได้เข้าเรียนที่สำนักศึกษาปรุงโอสถ เท่านั้นก็พอแล้ว อย่าได้ทำตัวโดดเด่นจนเกินไปล่ะ!”“ในสำนักศึกษาชิงหลง หากทำตัวโดดเด่นเกินหน้าเกินตาแต่ไม่มีคนหนุนหลังจะทำให้สร้างศัตรูได้ง่าย!”จงเจิ้งเฟยพูดเช่นนี้ด้วยความหวังดีการที่หลิงอวี๋ได้อันดับหนึ่งในรอบแรกก่อให้เกิดการถกเถียงกันในหมู่ผู้คนมากมาย จงเจิ้งเฟยกังวลว่าสหายใหม่คนนี้จะมิเข้าใจวิถีของสังคม นางจึงให้คำชี้แนะอีกฝ่ายคำพูดเหล่านี้เปรียบเสมือนอ่างน้ำเย็นที่ทำให้หลิงอวี๋ได้สติขึ้นมาทันทีนางมองจ้าวหรุ่ยหรุ่ย หลงอิง และเหล่าคุณหนูที่แต่งกายหรูหรา แต่ละคนล้วนร่ำรวยและมีฐานะสูงส่งเหมือนที่จงเจิ้งเฟยพูด ในเมื่อไม่มีพลังอำนาจ แล้วจะเอาอะไรไปต่อกรกับพวกนางได้?ความรู้ความสามารถที่แท้จริงหรืออย่างไร?ในสายตาของเหล่าคุณหนูจากตระกูลขุนนางเหล่านี้ นั่นไม่มีความหมายอะไร เพราะยังมีคนในสำนักศึกษาชิงหลงอีกมากที่มีความสามารถมากกว่าตนการที่นางชนะจ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้มิใช่เรื่องอะไรหรอก แต่การปลุกเร้าความอิจฉาริษยาของเหล่าคุณหน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1904

    “หากมิทำให้ยากขึ้นมาหน่อยแล้วจะคัดคนมากมายออกได้อย่างไร!”จงเจิ้งเฟยกลอกตาไปที่เหลยเหวินอีกครั้งพลางยิ้มเยาะ “บางคนมาที่สำนักศึกษาชิงหลงเพียงเพื่อแสวงหาชื่อเสียง และบางคนก็มาเพื่อหาสามีที่ร่ำรวย ไม่มีใจที่จะศึกษาหาความรู้ด้วยซ้ำ!”“หากมิคัดคนเช่นนี้ออกไป ก็รังแต่จะทำให้ชื่อเสียงของเหล่าปรมาจารย์ต้องเสื่อมเสีย!”"เจ้าก็มั่นใจในตัวเองหน่อย เจ้ามิได้ด้อยไปกว่าคนอื่นเลย!"หลิงอวี๋รับคำพูดของจงเจิ้งเฟยมาเป็นกำลังใจให้ตัวเอง นางมิด้อยกว่าใครแน่นอน นางจะต้องเข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงหลงและพยายามพัฒนาตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้นให้ได้ เพื่อที่นางจะได้แก้แค้นจ้าวหรุ่ยหรุ่ยสุดท้ายทั้งสามคนก็ไปกินอาหารเย็นด้วยกัน หลังจากที่พักผ่อนกันครู่หนึ่งก็กลับมาที่สำนักย่อยเพื่อเข้าร่วมการประเมินรอบต่อไปเนื่องจากในรอบแรกมีคนถูกคัดออกไปเป็นกลุ่มใหญ่ ผู้เข้าสอบที่สำนักย่อยจึงน้อยลงไปมาก ดังนั้นผู้เข้าสอบทุกคนจึงสามารถเข้าไปสังเกตการณ์ในรอบที่สองได้การสอบแข่งขันยังคงจัดขึ้นแบบกลุ่ม และผู้ที่อยู่ห้าอันดับแรกจะได้ผ่านไปยังการประเมินรอบสุดท้ายสิ่งที่ทำให้ผู้เข้าสอบทุกคนตื่นเต้นก็คือ ครั้งนี้นอกเหนือจากรองเจ้า

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1903

    ศิษย์น้องหญิงนางนี้พูดจาอวดดีราวกับสำนักศึกษาชิงหลงเป็นของตระกูลนาง!หลิงอวี๋อดมิได้ที่จะรู้สึกสนใจศิษย์น้องหญิงนางนี้มากขึ้นกว่าเดิมมิรู้ว่าใครเป็นคนกล่าวคำนี้ไว้ ศัตรูของศัตรูคือมิตร!ตอนนี้หลิงอวี๋มิใช่คู่ต่อสู้ของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยอีกต่อไปแล้ว แต่นั่นก็มิอาจหยุดยั้งนางจากการใช้ศัตรูของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเพื่อแก้แค้นอีกฝ่ายได้ดูเหมือนว่าศิษย์น้องหญิงจะเกลียดจ้าวหรุ่ยหรุ่ยมาก บางทีนางอาจจะร่วมมือกับตนเพื่อจัดการจ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้“เหวินเหวิน ศิษย์น้องหญิงนางนั้นเป็นใครกัน? ข้าว่านางดูบ้าบิ่นมากเลย!”หลิงอวี๋ถามด้วยความสงสัย“แน่นอนว่านางทำตัวบ้าบิ่นได้อยู่แล้ว เพราะนางสกุลหลงอย่างไรเล่า!”เมื่อเห็นว่าหลิงอวี๋มิรู้ตัวตนของศิษย์น้องหญิงจริง ๆ เหลยเหวินจึงเลิกเคืองหลิงอวี๋แล้วกระซิบบอกนาง“นางชื่อหลงอิง แม้นางจะมิได้มาจากตระกูลจักรพรรดิมังกร แต่ก็ยังถือว่าเป็นคนของตระกูลหลงอยู่ดี และยังมีชื่อเสียงเลื่องลือในหมู่คนภายนอกอีกด้วย!”หลิงอวี๋ตระหนักได้ทันทีว่าใต้หล้าในแดนเทพนี้เป็นของตระกูลหลง คนเดียวที่ประสบความสำเร็จในตระกูลนี้ทำให้ทุกคนรอบข้างได้รับประโยชน์ แม้แต่พวกไร้สถานะอำนาจยังดูสู

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1902

    ต่งเฉิงมองหลิงอวี๋พลางพยักหน้ารัว ๆ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มพร้อมกับลูบเคราของตัวเองว่า “สาวน้อยนางนี้รู้จักเครื่องยาสมุนไพรมากมายเช่นนี้นับว่าหายาก!”เครื่องยาสมุนไพรเหล่านี้มิใช่สมุนไพรธรรมดาทั้งหมด นอกจากเครื่องยาสมุนไพรที่ใช้ในการกลั่นโอสถระดับต้นแล้ว ยังมีระดับกลางและระดับสูงจำนวนเล็กน้อยอีกด้วยโดยทั่วไป ผู้เข้าสอบที่ตอบได้เจ็ดสิบถึงแปดสิบชนิดก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว ทว่าหลิงอวี๋สามารถตอบได้มากกว่าหนึ่งร้อยชนิด ถือว่าเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์สูงเลยทีเดียวเพิ่งเข้ามาก็ทำคะแนนได้ดีถึงเพียงนี้ หากนางได้เรียนอย่างเป็นระบบก็คงแซงหน้าบัณฑิตคนอื่นได้ในมิช้า“ตึง ตึง ตึง!”เมื่อเสียงกลองดังขึ้นสามครั้ง การสอบแข่งขันของกลุ่มนี้ก็สิ้นสุดลง“หนึ่งร้อยยี่สิบเจ็ดคะแนน!”กลองหยุดลงแล้ว และบนใบหน้าของศิษย์พี่หญิงก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นเป็นครั้งแรก นางหยิบป้ายส่งให้หลิงอวี๋พร้อมรอยยิ้ม“การสอบแข่งขันรอบต่อไปจะจัดขึ้นในช่วงบ่าย! ความสามารถในการจำแนกเครื่องยาสมุนไพรของเจ้าดีที่สุดในรอบนี้ ทำให้ดีล่ะ!”“ขอบคุณศิษย์พี่หญิง!”หลิงอวี๋รับป้ายมาด้วยความตื่นเต้น พลางหันไปดูผู้เข้าสอบคนอื่น ๆ ที่กำลังมองนางด้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1901

    เป็นไปตามคาด หลิงอวี๋เห็นใบหน้าที่งดงามทว่าโหดร้ายนั้น และนั่นก็คือศัตรูที่นางมิอาจลืมเลือน...จ้าวหรุ่ยหรุ่ย!ชั่วขณะนั้นดวงตาของหลิงอวี๋เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว พลางนึกอยากจะรุดเข้าไปฉีกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเป็นชิ้น ๆ เพียงหลับตา นางก็มิอาจควบคุมตนมิให้นึกถึงฉากที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเตะต่อยตนความเจ็บปวดและเลือดสด ๆ อีกทั้งความทุกข์ทรมานจากการสูญเสียลูกไปทำให้หลิงอวี๋มิอาจลืมความเกลียดชังที่ตนมีต่อจ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้เลย!คาดมิถึงว่าศัตรูจะปรากฏตัวต่อหน้าตนเช่นนี้!หลิงอวี๋ตื่นตัวมากจนร่างกายสั่นเทา แต่นางก็ยังสามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ได้นางมิใช่คู่ต่อสู้ของจ้าวหรุ่ยหรุ่ย การวู่วามลงมือมีแต่จะเป็นการรนหาที่ตายเท่านั้นหลิงอวี๋สูดหายใจเข้าลึกพลางมองเด็กสาวที่ประกาศสงครามกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเด็กสาวคนนี้ดูอายุราว ๆ สิบหกสิบเจ็ดปี มีรูปร่างสูง ใบหน้ารูปไข่ คิ้วโค้งเหมือนพระจันทร์เสี้ยว และดวงตาแวววาวสดใสผมสีดำสนิทของนางถูกแสกกลางและถักเป็นเปียยาวสองข้างพันไว้รอบมวยผม ข้าง ๆ มวยผมนั้นมีปิ่นมุกปักประดับอยู่สองอันเด็กสาวสวมชุดกระโปรงสีม่วงควันธูป และเมื่อดูจากเนื้อผ้าแล้ว นางน่าจะเป็นค

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1900

    ข่าวที่สือหรงนำมาให้เซียวหลินเทียนมิใช่ข่าวดี จ้าวหรุ่ยหรุ่ยยังคงอยู่ในตำหนักเทียนจีและมิได้มาลงทะเบียนด้วยตนเองหากอยากพบกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ย ก็ทำได้แค่ต้องรอจนถึงวันคัดเลือกรอบแรกเท่านั้นแต่เซียวหลินเทียนก็มิย่อท้อ ถึงอย่างไรขอเพียงจ้าวหรุ่ยหรุ่ยปรากฏตัว เขาก็จะไม่มีทางปล่อยนางหนีไปอีกแน่ ให้นางเป็นอิสระอีกสักสองสามวันก็คงมิเป็นไร!ในช่วงวันเวลาที่เหลือ หลายคนเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านเช่นเดียวกับหลิงอวี๋ พวกเขาอ่านตำราอย่างหนักและเพิ่มพูนความรู้ที่ขาดไป เพื่อที่จะผ่านการคัดเลือกและได้เข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงหลงทว่าหลิงอวี๋มิรู้เลยว่าศัตรูของตนมาถึงเมืองหลวงแดนเทพแล้ว หลังจากเอาแต่ปิดห้องอ่านตำราเป็นเวลาหลายวันนางก็มาที่สำนักศึกษาชิงหลงที่อยู่นอกเมืองในวันแห่งการคัดเลือก โดยมีผู้รอบรู้เรื่องร่วมเดินทางด้วยหน้าทางเข้าสำนักศึกษาชิงหลงเต็มไปด้วยผู้คนทั้งบุรุษและสตรี ทั้งเด็กและผู้ใหญ่รวมกันนับพันคนผู้รอบรู้เห็นเช่นนั้นก็ทึ่งจนพูดมิออก และอ้ำอึ้งพูดออกไปว่า “รู้เช่นนี้ข้าน่าจะมาลงทะเบียนเข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงหลงกับเจ้าด้วย เฮ้อ ตอนนี้มันสายไปเสียแล้ว!”หลิงอวี๋ยิ้ม นางรู้ว่าผู้รอบร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1899

    “เถาจื่อ หานอวี้ วันพรุ่งพวกเจ้าไปลงทะเบียนเสีย!”เซียวหลินเทียนทำการตัดสินใจและกำชับว่า “ลงทะเบียนในชื่อของน้องสาวข้า!”“เผยอวี้ ฉินซาน พวกเจ้าสองคนก็ไปลงทะเบียนสาขาที่ตนเองชื่นชอบด้วย พวกเจ้าทั้งคู่บอกแค่ว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องของข้าก็พอ!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น พวกเขาทุกคนก็หัวเราะอย่างมีความสุข พลางพยักหน้าและจัดลำดับอาวุโสกันให้เซียวหลินเทียนเป็นพี่ใหญ่ของทุกคน เถาจื่อเป็นพี่หญิงใหญ่ หานเหมยเป็นพี่น้องคนที่สาม และหานอวี้เป็นคนที่สี่เซียวหลินเทียนได้บอกจุดประสงค์ของภารกิจให้พวกเขาทราบแล้ว เถาจื่อกับหานอวี้ต้องให้ความสำคัญกับฝั่งของสตรีวันรุ่งขึ้น เถาจื่อและหานอวี้ไปลงทะเบียน และทั้งคู่ก็เลือกวิชาปรุงโอสถเนื่องจากก่อนหน้านี้พวกนางเคยตามหลิงอวี๋ไปจำแนกเครื่องยาสมุนไพรหลายชนิด ในความคิดของพวกนาง การกลั่นโอสถเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการผ่านการประเมินมีชั้นเรียนที่สอนการกลั่นโอสถเพียงสองแห่งเท่านั้น ดังนั้นเถาจื่อและหานอวี้จึงต้องลงทะเบียนเรียนคนละชั้นเรียนและเถาจื่อก็ได้ลงทะเบียนเรียนชั้นเรียนของหอโอสถซ่างกู่เซียวหลินเทียน เผยอวี้และคนอื่น ๆ ก็ไปลงทะเบียนด้วยเซียวหลินเทียนลงทะ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1898

    เผยอวี้เหลียวซ้ายแลขวาไปรอบ ๆ เมืองหลวงแดนเทพที่เจริญรุ่งเรืองราวกับคนบ้านนอก ทำเอาเขาอดมิได้ที่จะถอนหายใจ“มิแปลกใจที่ทุกคนล้วนพูดว่าเมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรือง เพราะที่นี่เจริญจริง ๆ ดังคำกล่าว นายท่านอู่ เมืองหลวงแดนเทพแห่งนี้ใหญ่กว่าเมืองหลวงในฉินตะวันตกของพวกเราหลายเท่านัก!”เซียวหลินเทียนวางแผนใช้คำในชื่อจักรพรรดิเซิ่งอู่ของตนเป็นแซ่ ดังนั้น เผยอวี้และคนอื่น ๆ จึงได้เปลี่ยนมาเรียกเซียวหลินเทียนว่านายท่านอู่หานอวี้กับเถาจื่อและคนอื่น ๆ ที่ได้รีบมารวมตัวกับกลุ่มของเซียวหลินเทียนต่างพยักหน้าเห็นด้วยอย่างเงียบ ๆทว่าเซียวหลินเทียนกลับรู้สึกเบื่อหน่ายขึ้นมา เมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรืองแล้วอย่างไร?หากไม่มีหลิงอวี๋อยู่เคียงข้าง มิว่าทิวทัศน์จะสวยงามเพียงใดมันก็ไร้ประโยชน์ยิ่งเมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรืองและมีขนาดใหญ่มากเท่าไร การตามหาหลิงอวี๋ก็จะยิ่งยากมากเท่านั้นท่ามกลางฝูงชนมหาศาลนี้เขาจะหาตัวหลิงอวี๋ของเขาพบได้อย่างไร?ฉินซาน หานเหมยและสือหรงล่วงหน้ากันไปก่อน ในช่วงที่ยังสร้างตำหนักปีกเงินแห่งใหม่มิเสร็จนี้ ทั้งสามคนได้ซื้อที่ดินใหญ่ที่มีหกส่วนเพื่อให้ทุกคนใช้เป็นที่อย

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status