ในเวลาไม่นาน ก็มีคนหลั่งไหลเข้ามาพระตำหนักหย่งเหอมากมายนางกำนัลพยุงฮองเฮาเว่ยเดินเข้ามา“จ่างหนิงเล่า?”“อยู่ในห้องโถงใหญ่เพคะ!”ฮองเฮาเว่ยรีบเดินเข้าไปข้างใน หลังจากนั้นไม่นาน เสียงร้องไห้น่าสะเทือนใจของฮองเฮาเว่ยก็ดังมาจากข้างใน“จ่างหนิง เจ้าตายอย่างอนาถนัก!”“หลิงอวี๋ เหตุใดเจ้าจึงใจร้ายจึงเพียงนี้ เจ้าลงมืออย่าโหดเหี้ยมกับเด็กน้อยเช่นนี้ได้เยี่ยงไร!”ฮองเฮาเว่ยร้องไห้ แล้วจู่ ๆ เสียงก็หายไป จากนั้นนางกำนัลกับแม่นมที่อยู่ข้างในก็กรีดร้องขึ้นมา “แย่แล้ว ฮองเฮาเป็นลมไปแล้ว!”ใบหน้าของจักรพรรดิอู่อันมืดมนลงทันทีในเวลานี้ ทหารของกองทัพหลวงก็ได้เชิญถังถีเตี่ยนกับหมอจางมาพอดีเมื่อจักรพรรดิอู่อันเห็นดังนั้นก็รีบตะโกน “ถังถีเตี่ยน รีบเข้าไปดูฮองเฮาที!”ถังถีเตี่ยนรับคำแล้ววิ่งเข้าไปเฮ่อจู้รีบไปหาหมอจางแล้วตะโกน “หมอจาง รีบช่วยลูกชายของข้าที! มิรู้ว่าเขาเป็นเยี่ยงไรบ้าง เรียกเท่าไหร่ก็มิยอมตื่นเลย!”เฮ่อจู้เป็นพี่ชายของพระชายาเว่ย และเป็นคนของฮองเฮาเว่ยด้วยหมอจางเป็นคนของพระชายาเส้า เมื่อเห็นเฮ่อจู้จับตัวตนเองไว้ ก็รู้สึกมิพอใจนัก กลัวว่าพระชายาเส้าจะเข้าใจผิดว่าตนเอาใจเฮ
เมื่อหลิงอวี๋ได้ยินดังนั้น ก็คุกเข่าลงพลางเอ่ยเสียงเรียบ “เสด็จพ่อ หลิงอวี๋ถูกใส่ร้ายเพคะ!”ยังมิทันที่หลิงอวี๋จะพูดจบ ฮองเฮาเว่ยก็ตะโกนอย่างร้อนใจ “พูดจาไร้สาระ ใครจะใส่ร้ายเจ้า?”“ฝ่าบาท ดูสิเพคะ จนถึงตอนนี้หลิงอวี๋ก็ยังไม่มีท่าทีสำนึกผิดแม้แต่น้อย... เห็น ๆ กันอยู่ว่านางคือคนที่ฆ่าจ่างหนิง แต่นางกลับมิยอมรับ!”“นางถือว่าได้สร้างความดีความชอบครั้งใหญ่ในการออกไปกำจัดโรคระบาดครั้งนี้ คิดว่าฝ่าบาทยังต้องการนางอยู่ จึงได้เย่อหยิ่งเช่นนี้เพคะ!”จักรพรรดิอู่อันเกลียดที่สุดคือการที่มีคนเย่อหยิ่งเพราะได้รับความดีความชอบ เมื่อได้ยินดังนั้นจึงตะคอกออกไป“หลิงอวี๋ เจ้าฆ่าคนโดยมีหลักฐานประจักษ์ชัด! ตอนนี้มิเพียงแต่มิคิดจะกลับใจแต่ยังกล้าโต้เถียงอีก! เจ้าคิดว่าเจ้ามีความดีความชอบจึงได้กล้าหยิ่งผยองเช่นนี้จริง ๆ ใช่หรือไม่?!”“วันนี้ข้าจะต้องกำจัดการวางอำนาจของเจ้า! ใครก็ได้ ลากตัวหลิงอวี๋ไปประหาร!”“เสด็จพ่อ เรื่องนี้ควรสอบสวนให้ดีก่อนมิใช่หรือ?”“ฝ่าบาท จัดการอย่างเร่งรีบเช่นนี้มิได้พ่ะย่ะค่ะ!”เซียวหลินเทียนกับท่านอ๋องเฉิงเอ่ยเป็นเสียงเดียวกันจักรพรรดิอู่อันจ้องมองเซียวหลินเทียนด้วย
จักรพรรดิอู่อันพยักหน้าเล็กน้อย เมื่อครู่เขาเห็นสภาพการตายของจ่างหนิงจึงได้โกรธมากตอนนี้เมื่อท่านอ๋องเฉิงพูดขึ้นมา เขาก็สงบลง พอคิด ๆ ดูเรื่องนี้ก็มีบางอย่างผิดปกติจริง ๆ พฤติกรรมของหลิงอวี๋ในช่วงนี้ก็ดูมิเหมือนคนไร้เหตุผลเลย!นางจะกล้าฆ่าคนในวังได้เยี่ยงไรกัน!“หลิงอวี๋ เจ้าบอกมาตามความจริง หากกล้าโกหกแม้เพียงเล็กน้อย จะต้องถูกลงโทษอย่างรุนแรง!”หลิงอวี๋ก้มหน้าลง ในใจก็มีความคิดนับมิถ้วนอยู่ฮองเฮาเว่ยไม่มีทางที่จะฆ่าหลานสาวคนโปรดของนางเพื่อใส่ร้ายตนแน่ เห็นได้ชัดว่าเรื่องนี้พระชายาเส้าเป็นตัวหลักพระชายาเส้าเสนอโอกาสให้ตนพูด ใครจะรู้ว่ามีกับดักซ่อนอยู่ในนั้นหรือไม่?“ฝ่าบาท เมื่อครู่หลิงอวี๋อยู่กับไทเฮาที่ศาลาในสวน แล้วเถาจื่อก็มารายงานว่าหลิงซวนถูกจ่างหนิงพาตัวไป หลิงอวี๋จึงมาตามหาหลิงซวนเพคะ!”หลิงอวี๋ตอบอย่างระมัดระวังพระชายาเส้าคว้าโอกาสนี้ทันที นางเอ่ยอย่างแสร้งทำเป็นแปลกใจ “นางรับใช้คนหนึ่งถูกจ่างหนิงพาตัวไป เจ้าก็ยังต้องตามหาด้วยตัวเองเลยหรือ มิสมเหตุสมผลกระมัง?”หัวใจของหลิงอวี๋บีบแน่น เป็นดังที่คาด พระชายาเส้าขุดกับดักไว้รอตนอยู่แล้วเช่นนี้มันจะนำไปสู่ข้อสรุปว่
เซียวหลินเทียนเชื่อว่าหลิงอวี๋พูดความจริง ส่วนฮองเฮาเว่ยเอาแต่พูดขัดหลิงอวี๋อยู่หลายครั้ง เขาจึงอดมิได้ที่จะเอ่ย“ฮองเฮา แม้ว่าฮองเฮาจะเสียใจมากกับการตายของจ่างหนิง และเราก็เข้าใจถึงความรู้สึกที่อยากจะแก้แค้น! แต่ตอนนี้เสด็จพ่อให้หลิงอวี๋ได้พูดแย้งให้ตัวเองอยู่มิใช่หรือ?”“หรือฮองเฮาคิดว่าเสด็จพ่อมิปราดเปรื่องเท่าฮองเฮา มิสามารถแยกแยะได้ว่าสิ่งที่หลิงอวี๋พูดมานั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่?”ฮองเฮาเว่ยคุกเข่าลงทันที พลางเอ่ยอย่างเศร้า ๆ “ฝ่าบาทโปรดอภัยให้หม่อมฉันด้วยเพคะ! หม่อมฉันมิได้หมายความเยี่ยงนั้นเพคะ!”จักรพรรดิอู่อันก็โกรธอยู่เช่นกันกับความเลยเถิดของฮองเฮา จึงตะคอกเสียงแข็ง “ฮองเฮา หากเจ้าคิดว่าข้ามิสามารถทำการไต่สวนอย่างยุติธรรมได้ เช่นนั้นเจ้าก็มาทำเองเถอะ!”“หม่อมฉันมิกล้าเพคะ... หม่อมฉันผิดไปแล้ว... ฝ่าบาทอย่าได้ถือสาหม่อมฉันเลย... หม่อมฉันอารมณ์เสียเพราะรับมิได้กับการตายของจ่างหนิง... หม่อมฉันสัญญาว่าจะมิพูดแทรกอีกเพคะ!”ฮองเฮาเว่ยแทบจะคลานลงไปบนพื้น จักรพรรดิอู่อันเห็นผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงของนางก็ขมวดคิ้วและไม่ถือสานางอีก“หลังจากนั้นเล่า?”จักรพรรดิอู่อันเอ่ยถามต่อไป“ค
ทางด้านเฮ่อจู้กับหมอจางและถังถีเตี่ยนกำลังล้อมรอบเฮ่ออันอยู่ เฮ่ออันยังคงหมดสติ พอได้ยินขันทีน้อยเซี่ยมาถ่ายทอดคำสั่งเฮ่อจู้ก็อุ้มลูกชายของเขาเดินเข้ามา เขาคุกเข่าลงบนพื้นเสียงดัง แล้วยกมือทั้งสองของเฮ่ออันด้วยความโศกเศร้า“ฝ่าบาท มิรู้ว่าหลิงอวี๋ทำร้ายลูกชายของกระหม่อมเยี่ยงไร หมอจางกับถังถีเตี่ยนล้วนตรวจสอบมิได้เลย จนถึงตอนนี้อันเอ๋อร์ของกระหม่อมยังมิฟื้นเลยพ่ะย่ะค่ะ!”เฮ่อจู้กับภรรยาของเขาแต่งงานกันมาเกือบสิบปีแล้ว เพิ่งจะมีลูกชายเพียงคนเดียวคือเฮ่ออันปีนี้เฮ่ออันเพิ่งจะอายุเพียงหกขวบ ซึ่งอ่อนกว่าจ่างหนิงหนึ่งปีองค์ชายเว่ยไปเฝ้าสุสานจักรพรรดิ ฮองเฮาเว่ยจึงพาจ่างหนิงเข้ามาดูแลในวัง เฮ่ออันกับจ่างหนิงมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน จ่างหนิงจึงอ้อนให้ฮองเฮาเว่ยรับตัวเฮ่ออันเข้ามาเป็นเพื่อนของตนด้วยเฮ่อจู้มีหรือจะคาดคิดว่าครั้งนี้ส่งลูกชายเข้าวังมายังมิถึงสองวัน เฮ่ออันก็ประสบกับเรื่องเลวร้ายเช่นนี้แล้วจักรพรรดิอู่อันมองเฮ่ออัน ดวงตาของเขาปิดสนิท ใบหน้าเล็ก ๆ นั้นก็ซีดเซียวจักรพรรดิอู่อันเอ่ยกับหลิงอวี๋อย่างไม่พอใจ “เจ้าทำอะไรเขา?”“ฝ่าบาท หม่อมฉันถูกใส่ร้ายเพคะ ตอนนั้นหม่อมฉัน
ตอนนั้นหลิงอวี๋เอาที่วางแขนเก้าอี้แทงเข้าไปในตัวของเหล่าเอ้อร์ แต่ด้วยความรีบจึงไม่แน่ใจว่าเหล่าเอ้อร์ตายหรือไม่ จึงบอกได้เพียงว่าได้รับบาดเจ็บท่านอ๋องเฉิงพยักหน้า เซียวหลินเทียนก็พยักหน้าเช่นกันหลิงอวี๋อุ้มเฮ่ออันไปที่ห้องโถงอีกด้านอย่างสบายใจทันทีที่เข้าไป หลิงอวี๋ก็รีบเข้าไปในมิติ หยิบเข็มฉีดยาออกมาเจาะเลือด แล้วเอาเลือดของเฮ่ออันบางส่วนไปทำการทดสอบในมิติแต่กระทั่งผลการทดสอบออกมาแล้ว กลับพบว่าเฮ่ออันไม่มีร่องรอยการถูกพิษหลิงอวี๋ถอดเสื้อผ้าของเฮ่ออันออก แล้วก็พบว่าไม่มีอาการบาดเจ็บภายนอกบนร่างกายของเฮ่ออันเลยนางยังกังวลอยู่ว่าตนประมาทไปหรือไม่ จึงพลิกตัวเฮ่ออันแล้วตรวจสอบอย่างละเอียดแต่ร่างกายของเฮ่ออันก็ไม่มีอาการบาดเจ็บภายนอกเลย ยกเว้นรอยช้ำขนาดเท่าเล็บมือบนหน้าอกของเขารอยช้ำขนาดเท่าเล็บนี้ ไม่รู้เช่นกันว่าเฮ่ออันไปโดนอะไรมาเมื่อใด หรือว่าจะได้รับบาดเจ็บจากคนลึกลับนั่น!หลิงอวี๋ลูบ ๆ ดู แต่ก็ไม่มีอะไรผิดปกตินอกจากว่ามีความเย็นเล็กน้อยหลังจากที่หลิงอวี๋ตรวจเสร็จแล้ว ก็สวมเสื้อผ้าให้กับเฮ่ออันเมื่อเห็นว่าเขาหมดสติไม่ฟื้นอยู่เช่นนั้น หลิงอวี๋ก็กังวลว่าเขาจะได้รับบ
ท่านอ๋องเฉิงมองหลิงอวี๋อย่างลำบากใจ พลางเอ่ยเสียงเข้ม “ข้าได้ไปตรวจสอบแล้ว ไม่มีเก้าอี้ที่เจ้าว่า และไม่มีคนชุดดำที่ถูกยาสลบด้วย!”“ในพระตำหนักหย่งเหอ นอกจากพวกเจ้าแล้ว ข้ามิพบสิ่งใดที่น่าสงสัยเลย!”“ท่านอ๋องเฉิง มีอะไรที่ท่านมองข้ามไปหรือไม่?”หลิงอวี๋เอ่ยอย่างกังวล “วังใหญ่โตถึงเพียงนี้ หากพวกนางมิได้อยู่ในพระตำหนักหย่งเหอ บางทีอาจซ่อนตัวอยู่ที่อื่นหรือไม่?”เฮ่อจู้หัวเราะเยาะพลางเอ่ย “หลิงอวี๋ จะตายอยู่แล้วยังกล้าพูดเรื่องไร้สาระใส่ร้ายผู้อื่นอีกหรือ! ในวังมีกองทัพหลวงคอยลาดตระเวนอยู่ทุกหนทุกแห่ง คนชุดดำสามคนรวมกับคนลึกลับที่แปลกประหลาดที่เจ้าว่า รวมทั้งหมดมีสี่คน!”“กองทัพหลวงจะมิพบที่อยู่ของพวกเขาเลยได้เยี่ยงไร? พวกเขาจะซ่อนตัวอยู่ที่อื่นได้เยี่ยงไร? เจ้าจะใส่ร้ายกองทัพหลวงที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่อย่างซื่อสัตย์หรือ?”“เจ้าสังหารจ่างหนิง จึงจงใจสร้างเรื่องคนชุดดำเหล่านี้ขึ้นมาหลอกลวงองค์จักรพรรดิเพื่อจะได้หลุดพ้นจากการลงโทษ! เจ้าช่างน่ารังเกียจจริง ๆ!”“ลากตัวออกไป! ประหาร!”จักรพรรดิอู่อันมิอดทนอีกต่อไปแล้ว หลังจากออกคำสั่ง องครักษ์ของกองทัพหลวงหลายคนก็พุ่งมาข้างหน้าทันที“เส
เมื่อเห็นทั้งสองคนพูดช่วยหลิงอวี๋ จักรพรรดิอู่อันก็คิดแล้วเอ่ย “ได้ ข้าตกลงว่าจะให้เวลาพวกเจ้าสามวัน!”“หลังจากสามวัน หากหลิงอวี๋มิสามารถช่วยเฮ่ออัน และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองได้ เช่นนั้นใครก็ตามที่ร้องขอความเมตตาให้นางอีก จะต้องมีความผิดร่วมกับนางด้วย!”“เอาตัวไป! ส่งราชสำนักฝ่ายในไปเฝ้าอย่างเข้มงวดด้วย!”เดิมทีเซียวหลินเทียนอยากพาหลิงอวี๋กลับไปที่ตำหนักอ๋องอี้ ไหนเลยจะคิดว่าจักรพรรดิอู่อันจะออกคำสั่งเช่นนี้เขาพูดให้กับหลิงอวี๋แล้วครั้งหนึ่ง รู้ว่าหากพูดอีกจักรพรรดิอู่อันจะมิยอมตกลงเป็นแน่ เขาจึงนิ่งเงียบไปทหารกองทัพหลวงหลายคนก้าวไปจับตัวหลิงอวี๋ไว้ แล้วลากตัวนางกับหลิงซวนออกไปด้วยกันเดิมทีเฉาอี้พบเถาจื่อแล้ว และกำลังรออยู่ข้างนอกเมื่อเห็นหลิงอวี๋ถูกลากออกไป เถาจื่อก็ก้าวไปอย่างบุ่มบ่าม แต่ถูกเฉาอี้จับไว้ก่อนเฉาอี้ดุนางด้วยเสียงต่ำที่ข้างหู “เจ้าจะไปทำอะไร? จะให้พวกเขาจับตัวเจ้าไปด้วยกันอีกคนหรือ? หากเจ้าอยากช่วยพระชายาอ๋องอี้ เจ้าอยู่ข้างนอกนี่จะไม่มีประโยชน์มากกว่าหรือ?”จากนั้นเถาจื่อก็หยุดแล้วนวดขมับของนางนางกับหลิงอวี๋แยกกันมิเท่าไหร่ นางก็รู้สึกเจ็บที่หลังคอ