น้ำตาแห่งความคับข้องใจและความกลัวของเซียวทงไหลออกมาทันที พลางเอ่ยด้วยเสียงแหบพร่า“หม่อม… หม่อมฉันไม่มียาแก้พิษจริง ๆ! สิ่งที่หม่อมฉันพูดไปเมื่อครู่เป็นความโกรธ… ยาพิษ… หม่อมฉันมิได้เป็นคนวางยาจริง ๆ!”เซียวหลินเทียนสีหน้ามืดมนลง เซียวทงก็กรีดร้องด้วยความกลัว “เสด็จพี่… หม่อมฉันสาบานได้เลยว่าหม่อมฉันมิได้วางยาพิษนางจริง ๆ!”“หม่อมฉันสาบานในฐานะขององค์หญิง หากหม่อมฉันเป็นคนที่วางยาพิษ ก็ขอให้หม่อมฉันถูกวางยาพิษและถูกฟันถูกแทงจนตายเหมือนหลิงอวี๋…”“ท่านพี่ เชื่อหม่อมฉันเถิด… หม่อมฉันมิรู้จริง ๆ ว่ายาพิษมาจากที่ใด... ฉินซานยึดยาพิษทั้งหมดที่หม่อมฉันนำมาไปแล้ว! หม่อมฉันพูดความจริงนะ!”ท่านจินต้ามองอยู่ข้าง ๆ ความตื่นตระหนกบนใบหน้าของเซียวทงดูเยี่ยงไรก็มิได้เป็นการเสแสร้งนางกลัวถึงเพียงนี้ เช่นนั้นก็น่าจะพูดความจริง!หรือว่ามีคนใส่ร้ายเซียวทง?ท่านจินต้าคิดพลางเอ่ยกับเซียวหลินเทียน “ท่านอ๋อง ปล่อยพระหัตถ์ก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ! กระหม่อมคิดว่าสิ่งที่องค์หญิงหกตรัสน่าจะเป็นเรื่องจริงพ่ะย่ะค่ะ!”เซียวหลินเทียนมิเชื่อเซียวทง แต่เมื่อท่านจินต้าพูดเช่นนี้ เขาก็ปล่อยมือออกเซียวทงอยู่ในมือขอ
และที่หมอเฝิงซ่อนยาพิษที่เหลืออยู่ไว้ในห่อสัมภาระของเซียวทง ก็เพราะคิดว่าหากเรื่องแดงขึ้นมาก็จะได้มีแพะรับบาป!เซียวทงมีประวัติทำผิดมาก่อน หากหลิงอวี๋ถูกวางยาพิษ ทุกคนรวมถึงตนก็จะสงสัยเซียวทง...เซียวหลินเทียนยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ ฮองเฮาเว่ยกับองค์ชายเว่ยคิดว่าตนจะยอมรังแกได้ง่าย ๆ จริง ๆ หรือ?กล้ามาโจมตีตนซ้ำแล้วซ้ำเล่า!หากครั้งนี้เขามิให้องค์ชายเว่ยชดใช้ เขาเซียวหลินเทียนก็อย่าได้เป็นท่านอ๋องอีกต่อไปเลย!“เสด็จพี่ ไปค้นที่พักของหมอเฝิงดู จะต้องพบหลักฐานแน่นอน!”เซียวทงจับตรงคอที่ยังรู้สึกมิดีอยู่ แม้ว่าตนจะเกลียดเซียวหลินเทียน แต่ก็เกลียดหมอเฝิงกับฮองเฮาเว่ยด้วยเช่นกันพวกเขาคิดว่าตนเป็นอะไร?ลูกที่ถูกทอดทิ้งจะทำอะไรก็ได้ตามใจชอบหรือ?นาง เซียวทง จะต้องแก้แค้นในความผิดที่นางได้รับ“ไปค้นที่พักของหมอเฝิง!” เซียวหลินเทียนโบกมือหลู่ชิ่งจึงพาคนไปที่นั่นก่อนเซียวหลินเทียนมองเซียวทง พลางเอ่ยอย่างเย็นชา “เจ้าอยู่ในเรือนดี ๆ ไปก่อน! เจ้ามิได้รับอนุญาตให้ออกไปไหนจนกว่าข้อกล่าวหาจะแน่ชัด!”พูดจบ เซียวหลินเทียนก็เดินออกไปเหลือองครักษ์ไว้สองคนคอยเฝ้าประตูเซียวทงรู้ว่าเซียวหลินเท
เซียวหลินเทียนลืมไปแล้วว่าครั้งล่าสุดที่รู้สึกกลัวคือเมื่อใด!เขามิเคยกลัวที่จะเผชิญหน้ากับกองทัพนับหมื่นนับพันของศัตรู!แม้ว่าขาของตนจะพิการเขาก็มิเคยกลัว!แต่ในเวลานี้ เขารู้สึกกลัวจริง ๆ!เหมือนว่าเขาย้อนกลับไปในสมัยที่มารดาของเขาเสียชีวิต เขาคุกเข่าอยู่เพียงลำพังต่อหน้าดวงวิญญาณของมารดาเพื่อเฝ้าดูแลตอนนั้นเป็นฤดูหนาว มันหนาวมาก ข้างนอกมีลมหนาวพัดมาเรื่อย ๆ ธงกับใบไม้ปลิวไสวไปหมด เขารู้สึกว่าเขาเป็นคนเดียวที่เหลืออยู่ในใต้หล้านี้โดดเดี่ยวและไร้ซึ่งความช่วยเหลือ!เวลานี้ เขามองหลิงอวี๋แม้ว่าข้างนอกจะมีสหายน้องพี่มากมาย แต่เซียวหลินเทียนก็รู้สึกว่าเหลือเพียงตนอยู่คนเดียวในใต้หล้า!เขาโตขึ้น และมีความสามารถแล้ว!ไม่มีทางรู้สึกโดดเดี่ยวและไม่มีความช่วยเหลืออีก!แต่ความรู้สึกจิตใจว่างเปล่านี้มาจากที่ใดกัน?หลิงอวี๋กลายเป็นคนสำคัญสำหรับตนถึงเพียงนี้ตั้งแต่เมื่อใด?เซียวหลินเทียนมิกล้าคิดลึกซึ้ง แล้วทำเพียงจ้องมองหลิงอวี๋อย่างว่างเปล่าค่ำคืนได้กลืนกินเขาเข้าไปทีละน้อย ตะเกียงน้ำมันริบหรี่และดับลง ทำให้ทั้งห้องมืดมิดไปหมดเช่นเดียวกับเวลานี้ที่สภาพจิตใจของเซียวหลินเทียนมอ
เมื่อถึงเวลาเที่ยง อาการของหลิงอวี๋ก็แย่ลง ใบหน้าของนางก็เต็มไปด้วยน้ำค้างแข็งแล้วมีรอยน้ำค้างแข็งบนคิ้วของนางเซียวหลินเทียนกับหลิงเสี่ยงต่างก็ตกใจเมื่อเห็นสิ่งนี้ พวกเขาไม่มีเวลาสนใจเรื่องความขัดแย้งของกันและกัน แล้วเฝ้าอยู่ข้างเตียงของหลิงอวี๋ด้วยกัน“เหตุใดพวกของเสี่ยวหาวจึงยังมิพบยาแก้พิษอีก!”หลิงเสี่ยงรู้สึกถึงความเจ็บปวดของหลิงอวี๋ พลางเดินไปรอบห้องอย่างกังวลใจ“ข้าได้ส่งคนออกไปตามหาอีกกลุ่มแล้ว น่าจะยังทัน!”เซียวหลินเทียนกังวลมากจนแทบบ้า เขามองดูท่าทางไร้ชีวิตของหลิงอวี๋ไม่ได้จึงเดินออกไปข้างนอก“ท่านอ๋อง จู่ ๆ บ่าวก็นึกถึงอะไรบางอย่างได้...”หลิงซวนวิ่งไปพร้อมกับขวดยาเล็ก ๆ “เมื่อครู่บ่าวกำลังค้นล่วมยาของคุณหนูอยู่ เพื่อจะหายาที่สามารถแก้พิษได้ แล้วบ่าวก็เห็นสิ่งนี้เข้า...”“นี่คือยาที่คุณหนูเตรียมไว้เพื่อแก้พิษท่านผู้เฒ่ากวนครั้งที่แล้ว บ่าวสงสัยว่าจะให้ยานี้กับคุณหนูก่อนได้หรือไม่ บางทีมันอาจจะบรรเทาอาการของพิษได้!”“มันจะได้ผลหรือ?”เซียวหลินเทียนมิกล้าลองอะไรง่าย ๆ ใครจะรู้ว่ากินมันไปแล้วจะเร่งการพัฒนาพิษของหลิงอวี๋หรือไม่!“น่าจะได้ผลเพคะ! ตอนนั้นคุณหนูบอกว
หลังจากป้อนยาเหล่านี้ไประยะหนึ่งแล้ว เซียวหลินเทียน หลิงเสี่ยง หลิงหว่านและคนอื่น ๆ ที่อยู่รอบเตียงต่างก็เห็นการเปลี่ยนแปลงของหลิงอวี๋น้ำค้างแข็งที่อยู่บนใบหน้าของนางกลายเป็นหยดน้ำแล้วหยดลงมายังมิทันที่หลิงซวนจะไปหาผ้ามาเช็ดหน้าให้หลิงอวี๋ เซียวหลินเทียนก็ก้าวไปเช็ดน้ำออกจากใบหน้าของนางด้วยแขนเสื้อของเขาอย่างระมัดระวัง จากนั้นจึงเอ่ยเสียงทุ้ม“อย่าเพิ่งประกาศออกไปว่าช่วยหลิงอวี๋ได้แล้ว! ข้าจะดูว่าหมอเฝิงจะนำยาแก้พิษกลับมาได้หรือไม่!”เมื่อเห็นว่าอาการของหลิงอวี๋ดีขึ้นแล้ว หลิงเสี่ยงก็รู้สึกโล่งใจไปบ้าง เขายิ้มเยาะพลางเอ่ย “กล้าทำร้ายน้องสาวของข้า ข้าจะไม่มีวันปล่อยหมอเฝิงผู้นี้เด็ดขาด!”หลิงเสี่ยงกลอกตาพลางเอ่ยอย่างเจ้าเล่ห์ “เซียวหลินเทียน ท่านหายาพิษที่เหลืออีกครึ่งห่อเจอแล้วมิใช่หรือ? ขอกระหม่อมเถิด!”“คนเลวทรามเช่นนี้ก็ควรปฏิบัติจะต่อเขาแบบเดียวกับที่เขาทำ ให้เขาได้ลิ้มรสยาพิษของตนดูเสียบ้าง!”เซียวหลินเทียนพยักหน้าโดยไม่ลังเล “ยาอยู่กับท่านจินต้า ประเดี๋ยวข้าจะให้เขาเอามาให้เจ้า!”“ท่านอ๋อง ท่านพี่เสี่ยวเสี่ยง พวกท่านออกไปก่อนเถิด! พวกเราจะผลัดผ้าให้ท่านพี่หลิงหลิง!”เม
“ท่านอ๋อง กระหม่อมพยายามขุดรากของจินซาหลานนี้ก็เลยบาดเจ็บที่ขาพ่ะย่ะค่ะ!”หมอเฝิงชี้ไปที่ขาของตนราวกับจะแย่งเอาความดีความชอบเซียวหลินเทียนเห็นรอยเลือดบนขากางเกงของเขาก็ยิ้มบาง ๆ “หมอเฝิงทำงานหนักแล้ว ไปพักผ่อนเถอะ ข้าจะเอามันไปช่วยพระชายา!”เซียวหลินเทียนเอาเหง้าส่งให้หลู่ชิ่งและขยิบตาให้ด้วยหลู่ชิ่งเข้าใจทันที เขามิกล้าใช้เหง้าจากหมอเฝิงเจอ ใช้เฉพาะเหง้าที่จ้าวซวนนำมาเท่านั้นหลิงเสี่ยงมองหมอเฝิงพลางยิ้มอย่างเย็นชาแล้วเดินจากไปหลังจากนั้นไม่นาน องครักษ์สองคนก็นำน้ำกับอาหารมาให้พวกจ้าวซวนกับหมอเฝิงแยกกันก่อนหน้านี้หมอเฝิงจงใจทำให้ขาของตนบาดเจ็บ เพราะอยากจะถ่วงเวลาให้กลับมาช้าหน่อย เพื่อที่หลิงอวี๋จะได้รอยาแก้พิษมิไหวไหนเลยจะคิดว่าเกิ่งเสี่ยวหาวจะเร่งให้กลับมา แล้วก็แบกเขาวิ่งเข้ามาด้วยตนเองโดยมิคำนึงถึงอาการบาดเจ็บของเขาเลยเขาเหนื่อยล้าจากการค้นหายามาทั้งวัน ทั้งกระหายน้ำทั้งหิว เมื่อเห็นเหยือกน้ำก็ดื่มเกือบทั้งหมดในอึกเดียวเซียวทงกำลังกังวลว่าหลิงอวี๋ตายแล้วหรือไม่ องครักษ์สองคนก็เข้ามาบอกนางว่าท่านอ๋องอี้เชิญให้ไปหาเซียวทงเดินตามองครักษ์ไปที่เรือนของหลิงอวี๋ด้วยควา
“หมอเฝิง!”เซียวหลินเทียนเอ่ยด้วยใบหน้าเรียบเฉย “ก่อนหน้านี้เจ้าหมดปัญญาจะช่วยพระชายาที่ถูกวางยาพิษมิใช่หรือ? ไฉนตอนนี้เจ้าถึงรู้ว่าการต้มเหง้าในน้ำสามารถล้างพิษได้เช่นกันเล่า?”จากนั้นหมอเฝิงก็ตระหนักได้ว่าตนพลาดแล้ว จึงเอ่ยอย่างตะกุกตะกัก “กระหม่อม… กระหม่อมคิดว่าหากน้ำของมันสามารถล้างพิษได้ การต้มเหง้าในน้ำก็น่าจะล้างพิษได้เช่นกันพ่ะย่ะค่ะ...”“หมอเฝิง เจ้ามิเห็นโลงศพมิหลั่งน้ำตากระมัง!” เซียวหลินเทียนตะคอกด้วยความโกรธ “บอกข้ามา ผู้ใดสั่งให้เจ้าวางยาพิษพระชายา?”“ท่านอ๋อง กระหม่อมถูกใส่ความ! กระหม่อมมิได้วางยาพิษพระชายาจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ!”หมอเฝิงเอ่ยอย่างกังวล “องค์หญิงหกเป็นคนทำพ่ะย่ะค่ะ พบยาพิษอยู่ในห่อสัมภาระขององค์หญิงหก หลักฐานเป็นที่แน่ชัดแล้ว! ท่านอ๋อง ท่านจะใส่ร้ายกระหม่อมเพียงเพื่อต้องการปกป้ององค์หญิงหกมิได้หนาพ่ะย่ะค่ะ!”เซียวทงโกรธมากจนวิ่งเข้าไปตบหน้าหมอเฝิงแล้วก่นด่าอย่างดุเดือด“สารเลว! เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนที่เจ้าสามารถใส่ร้ายได้จริง ๆ เยี่ยงนั้นรึ?”“บอกข้ามา ฮองเฮาเว่ยให้เจ้าวางยาพิษใช่หรือไม่? ฮองเฮาเว่ยให้เจ้าใส่ร้ายข้าใช่หรือไม่!”นางตบหมอเฝิงไปหลายครั้ง แ
แม้ว่าหลิงอวี๋จะล้างพิษไปแล้ว แต่พิษของจินซาหลานก็ทำลายอวัยวะภายในของนางไป เมื่อนางลุกขึ้นจึงรู้สึกว่าต้องใช้แรงมากนางฉวยโอกาสเข้าไปในมิติตอนที่ไม่มีใครอยู่ ทำการล้างไตล้างเลือดให้ตนเอง และทำการทดสอบบางอย่างด้วยพิษของจินซาหลานยังคงอยู่ในร่างกายของนาง ดังนั้นนางจึงเตรียมจะล้างพิษให้ตนเองอีกครั้งความสึกหรอของร่างกายทำได้เพียงค่อย ๆ ฟื้นตัวเท่านั้นทางด้านของเซียวหลินเทียน มีแม่ทัพกู่ร่วมมือกับแม่ทัพอีกหลายคน จึงสามารถส่งต่อตำรับยารักษาโรคระบาดออกไปได้อย่างรวดเร็ว ไม่กี่วันก็สามารถควบคุมโรคระบาดได้แล้วเซียวหลินเทียนให้คนไปส่งสาส์นกราบทูลองค์จักรพรรดิ จักรพรรดิอู่อันจึงอนุมัติให้เซียวหลินเทียนส่งตัวหยางต้าหู่กับแม่ทัพเซี่ยกลับไปยังเมืองหลวงพร้อมกับทรัพย์สินที่ถูกยึดโดยเร็วที่สุดและให้หลิงเสี่ยงเข้ารับตำแหน่งแม่ทัพแห่งกองทหารรักษาการณ์เว่ยโจวหลิงเสี่ยงรู้สึกกังวลใจเมื่อได้ยินเรื่องนี้ เขาจากมาเป็นเวลาเจ็ดปีแล้ว เขายังหวังที่จะกลับไปยังเมืองหลวงเพื่อพบท่านปู่ ไหนเลยจะอยากให้ตนอยู่ในเว่ยโจวอีกแม้ว่าจะได้เลื่อนตำแหน่ง แต่เมื่อเข้ารับตำแหน่งนี้แล้ว การกลับเมืองหลวงก็จะอยู่ห่างไ