ยังมิทันที่ฉินซานจะคิดมาตรการตอบโต้ได้ ก็เกิดเสียงฝีเท้าวุ่นวายดังขึ้นด้านนอก แล้วข้าหลวงหยางก็เดินเข้ามาพร้อมกับองครักษ์หลายคนฉินซานเห็นเช่นนี้ ก็มิสามารถพาเซียวทงออกไปได้อย่างปลอดภัยแล้ว จึงต้องหลบไปซ่อนตัวอยู่หลังม่านเตียง รอดูว่าข้าหลวงหยางมาเพื่อสิ่งใดหากข้าหลวงหยางจะจับตัวเซียวทงจริง ๆ เขาก็ทำได้เพียงออกไปฆ่าข้าหลวงหยางแล้วพาเซียวทงออกไป“องค์หญิงหก กระหม่อมมารบกวนตอนดึก เพราะมีเรื่องด่วนจะคุยกับองค์หญิงหกจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ!”หยางจื้อฟางเข้ามาพร้อมเอ่ยอย่างกังวล“โอ้ ข้าหลวงหยางมีเรื่องด่วนอะไรหรือ?”เซียวทงเหลือบมองม่านเตียงแล้วยิ้มเย็นชาฉินซาน ข้ามิใช่คนที่เจ้าคิดจะทำให้อับอายก็ทำได้ตามต้องการหรอกนะ รอข้าก่อนเถอะ วันนี้ข้าจะแก้แค้นกลับแน่นอน“เป็นเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ… วันนี้กระหม่อมไปที่เจ่าจวง เห็นว่าท่านอ๋องอี้ติดเชื้อโรคระบาด… องค์หญิงหก เรื่องนี้จะมองเป็นเรื่องเล็ก ๆ มิได้พ่ะย่ะค่ะ!”หยางจื้อฟางเอ่ยอย่างกังวล “กระหม่อมเห็นผู้ป่วยติดโรคระบาดมามากแล้ว เพียงมิกี่วันก็ตายไป! หากเกิดเหตุมิคาดคิดกับท่านอ๋องจะทำเยี่ยงไรดีพ่ะย่ะค่ะ?"“ว่ากระไรนะ? พี่สี่ของข้าติดโรคระบาดหร
เสียงตะโกนของเซียวทงทำให้ฉินซานตกตะลึงไม่คิดเลยว่าตนเองเสี่ยงชีวิตมาช่วยเซียวทง แต่เซียวทงกลับเชื่อคำพูดของข้าหลวงหยางแล้วหักหลังตนเช่นนี้!“ใครก็ได้! จับฆาตกรที!”พอหยางจื้อฟางเห็นเซียวทงชี้ไปทางม่านเตียง เขาก็ตะโกน แล้วคว้าตัวองค์หญิงหกพุ่งไปที่ประตูฉินซานกัดฟันวิ่งไปหาองค์หญิงหกแม้ว่าองค์หญิงหกจะหักหลังตนแต่เขาก็ยังต้องทำภารกิจที่ท่านอ๋องอี้มอบหมายให้ตนเองทำให้สำเร็จ!ฉินซานเพิ่งจะคว้าคอเสื้อด้านหลังของเซียวทง เซียวทงก็ผละตัวออกด้วยความตกใจ พลางตะโกน “ใครก็ได้ ฉินซานจะลอบสังหารข้า จับเขาไว้เร็วเข้า!”พวกผู้คุ้มกันที่ข้าหลวงหยางพามาพุ่งเข้าไป ฉินซานรีบชักดาบออกมาต่อสู้กับพวกเขาข้าหลวงหยางใช้โอกาสนี้ลากเซียวทงออกไปข้างนอก แล้วเขาก็ตะโกน “ฉินซานจะลอบสังหารองค์หญิงหก รีบมาเร็วเข้า…”เดิมทีศาลาว่าการก็ได้รับการคุ้มกันอย่างแน่นหนาอยู่แล้ว เมื่อได้ยินเสียงร้องเรียกของข้าหลวงหยาง หลิวฮุยก็พาคนพุ่งเข้าไปเจ้าหน้าที่ทหารล้อมรอบเรือนอย่างรวดเร็ว แล้วกลุ่มนักธนูก็เล็งหน้าไม้เหล็กไปที่ฉินซานเมื่อมีคนเข้ามามากถึงเพียงนี้ เซียวทงก็ตะโกนอย่างภาคภูมิใจ "ฉินซาน หากท่านยังมิยอมโดนจับ
ในเวลานี้ ฉินซานได้แต่หลับตาลงด้วยความสิ้นหวังคิดมิถึงเลยว่า บุรุษที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานอย่างตนจะมิได้ตายในสนามรบ แต่กลับมาตายด้วยน้ำมือของสตรีโง่เขลาเยี่ยงเซียวทง!เขามิยอมแพ้หรอก!ฉึก...เสียงดาบแทงทะลุเนื้อหนังดังขึ้นมา แล้วฉินซานก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่ไหล่เมื่อลืมตาขึ้น ก็เห็นดาบแทงเข้าที่สะบักของตนเองเซียวทงจ้องมองฉินซานพร้อมกับตาแดงด้วยความโกรธ นางจะแทงเข้าที่ท้องฉินซานก็ได้แต่ในวินาทีสุดท้าย นางก็ยังทำใจมิได้ จึงยกดาบขึ้นไปแทงที่ไหล่ของฉินซานเพราะฉินซานเป็นชายคนแรกที่ตนตกหลุมรัก!นางนึกถึงครั้งแรกที่พบฉินซาน เขาดูหล่อเหลามาก นางกลัวว่าตนจะแทงฉินซานตาย แล้วต่อไปจะไม่มีวันได้เห็นฉินซานยิ้มให้ตนอีกแล้วเมื่อข้าหลวงหยางเห็นฉากนี้ เขาก็แอบอุทานน่าเสียดายจริงเชียว!เชื่อสตรีมิได้เลยจริง ๆ!ขอเพียงนางเคลื่อนลงไปอีกหน่อย ฉินซานก็จบสิ้นแล้ว!“ฉินซาน ข้าจะให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง ขอเพียงเจ้าอธิบายมาว่าหลิงอวี๋กับหลิงเสี่ยงไปร่วมมือกับแคว้นศัตรูได้เยี่ยงไร ข้าจะขอความเมตตาให้เสด็จพ่อของข้าไว้ชีวิตท่าน!”เซียวทงเอ่ยอย่างเข้มแข็งฉินซานหันไปอีกทาง มิอยากพูดสิ่งใ
หมอเฝิงยังคิดวิธีมิออกอีกด้านหนึ่ง องครักษ์ของฉินซานเร่งรีบพาผู้ป่วยพิเศษเข้ามาในตอนก่อนมืดเมื่อหลิงอวี๋รู้ข่าวก็รีบไปที่ห้องรักษา เมื่อเข้าไปองครักษ์ก็เข้ามาพูดกับนาง“พระชายา นี่คือแม่ทัพหลิง แม่ทัพฉินให้พวกเราส่งเขามาที่นี่ขอรับ! เขาดูอาการมิดีนัก รีบช่วยเขาเถิดขอรับ!”“แม่ทัพหลิง?”ทันทีที่หลิงอวี๋ได้ยินก็รีบพุ่งไปที่ข้างเตียง แล้วก็เห็นผู้บาดเจ็บอยู่บนเตียงนั้นผมเป็นปม บนหัวก็สกปรก และมีบาดแผลนับไม่ถ้วนบนใบหน้า รวมทั้งมีรอยไหม้กับรอยแส้ด้วย ไม่มีผิวหนังส่วนไหนที่ดีเลยนางเห็นมิชัดด้วยซ้ำว่าหน้าตาเดิมของเขาเป็นอย่างไร!"เขาชื่ออะไร?"หลิงอวี๋ถามขณะที่ตรวจผู้บาดเจ็บไปด้วยองครักษ์เอ่ย "ตอนนั้นสถานการณ์เร่งด่วน แม่ทัพฉินมิทันบอกขอรับ… ว่ากันว่าเขาเป็นนักโทษประหาร ตอนเราไปรับมีเจ้าหน้าที่ทหารจำนวนมากกำลังจับกุมเขาอยู่!”“แม่ทัพฉินจึงให้เราพาเขากลับมาเพื่อความปลอดภัยของเขา ส่วนเขาก็ล่อทหารที่ไล่ตามออกไป!”หลิงอวี๋ขมวดคิ้ว เช่นนั้นสถานการณ์ของฉินซานก็อันตรายมากมิใช่หรือ?หลิงอวี๋เห็นว่าผู้ป่วยกำลังจะตายแล้วจึงมิได้สนใจถามองครักษ์ พลางรีบเอ่ย“เจ้าไปหาท่านจินต้าแล้วบอกสถาน
ดังนั้น แม้ว่าหลิงเสี่ยงจะมิได้อยู่ในเมืองหลวง แต่เขาก็รู้เรื่องที่หลิงอวี๋ให้กำเนิดลูกนอกสมรสแล้วถูกท่านอดีตเสนาบดีตัดขาดหลิงเสี่ยงโกรธหลิงอวี๋มาก ถึงกับมีความคิดว่าชีวิตนี้เขามิอยากกลับเมืองหลวงไปเจอน้องสาวผู้นี้อีกแล้ว!แต่ทุกเทศกาลในตอนที่อยู่เงียบ ๆ คนเดียวกลางคืนหลิงเสี่ยงนอนอยู่บนเตียงก็จะคิดถึงน้องสาวฝาแฝดผู้นี้แล้วก็ใจอ่อน!ตอนนั้นตนถูกหวางซือเลี้ยงผิด ๆ แล้วทำเรื่องโง่เขลาเหล่านั้นน้องสาวยังเด็ก ถูกหวางซือเลี้ยงดูผิด ๆ ก็ไปโทษน้องสาวมิได้หรอก!หลิงเสียงเซิงพ่อของเขามิสนใจพวกเขาพี่น้อง ท่านอดีตเสนาบดีก็อายุมากแล้ว หลิงเสี่ยงจะวางใจปล่อยน้องสาวไว้ในเมืองหลวงได้เยี่ยงไร!กระทั่งเรื่องที่ท่านอ๋องอี้เฆี่ยนตีหลิงอวี๋ห้าสิบไม้เพราะนางทำผิดไปถึงถึงหูของหลิงเสี่ยงหลิงเสี่ยงโกรธที่น้องสาวโง่เขลา แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของน้องสาวด้วยเสี่ยวหลิงหลิงเป็นสตรีบอบบาง นางจะทนการถูกเฆี่ยนตีห้าสิบไม้ได้หรือ?หลิงเสี่ยงอยากกลับบ้านมาก อยากจะรีบกลับเมืองหลวงแล้วพาน้องสาวของเขาออกไปด้วยเขายอมมิแต่งงานไปตลอดชีวิตแล้วเลี้ยงดูน้องสาวของเขา!เมื่อถูกข้าหลวงหยางขังไ
“ถอนกำลังเถิด!”หลิงอวี๋ตัดสินใจแล้ว เซียวหลินเทียนได้จัดเส้นทางหลบหนีไว้ให้พวกเขาแล้ว ขอเพียงพวกเขาถอนกำลังไปที่ภูเขาด้านหลัง ก็จะสามารถยึดพื้นที่ภูเขาด้านหลังไว้รอการสมทบจากเซียวหลินเทียนได้ท่านจินต้ารู้สึกว่าจะมีอันตรายจึงมาเตือนหลิงอวี๋ เมื่อเห็นหลิงอวี๋ทำการตัดสินใจแล้ว ก็เรียกพวกลู่หนานมาเตรียมพร้อมถอนกำลังทันทีลู่หนานได้ทำการจัดตั้งกลุ่มหัวกะทิตามแผนของเซียวหลินเทียน วางแผนบุกทะลวงรั้วกั้นทางตะวันตกของหมู่บ้านไปควบคุมพวกครอบครัวของหยางต้าหู่ก่อน จากนั้นก็อพยพไปที่ภูเขาด้านหลังเผยอวี้รู้แผนของหลิงอวี๋กับท่านจินต้าแล้ว เขามิสนว่าตนได้รับบาดเจ็บอยู่ รีบสวมชุดเกราะแล้วไปต่อสู้ในแนวหน้า“แม่ทัพเผย ท่านทนไหวหรือไม่?”หลิงหว่านมองเผยอวี้ที่หน้าซีดไร้สีเลือดอย่างเป็นห่วง พลางเอ่ยถามอย่างกังวล“ทนมิไหวก็ต้องทน หรือจะให้ข้าดูพวกเจ้าถูกคนของข้าหลวงหยางจับตัวไปเล่า?”เผยอวี้เอ่ยอย่างรำคาญ “เจ้ามิต้องเป็นห่วงข้าหรอก เจ้ารีบไปเก็บของกับพระชายาเถอะ รอข้าจัดการพวกหยางต้าหู่ก่อน พวกเจ้าก็รีบอพยพออกไปให้เร็วที่สุด!”ทางด้านหลิงอวี๋ ก็รีบเรียกพวกหมอเฝิงไปเก็บข้าวของหมอเฝิงยังคงคิดจะว
หยางต้าหู่สะดุ้งตื่นขึ้นจากการหลับใหล เผยอวี้พาคนบุกเข้าไปในเรือนใหญ่ตระกูลหยางแล้วพวกผู้คุ้มกันยังคงสู้กับคนของเผยอวี้อย่างหลังชนฝา แต่แม้ว่าผู้คุ้มกันเหล่านี้จะสู้ได้ แต่ก็เทียบมิได้กับกองกำลังหัวกะทิของเผยอวี้ไม่นานผู้คุ้มกันจำนวนมากก็ถูกจัดการไปหยางต้าหู่วิ่งออกมาอย่างรีบร้อนโดยมิได้สวมเสื้อผ้า เมื่อเห็นการต่อสู้ เขาก็อาศัยบารมีความเป็นข้าราชบริพาลของลูกชายเขาตะโกนใส่เผยอวี้“หยุด… พวกท่านทำอะไรกัน? ลูกชายข้าเป็นผู้ตรวจ ตัวข้าก็เป็นเจ้าหน้าที่ของราชสำนัก!”“พวกท่านทำเช่นนี้เป็นการประทุษร้ายครอบครัวเจ้าหน้าที่ของราชสำนัก ข้าจะฟ้องร้องพวกท่าน…”“เช่นนั้นก็รอเจ้าไปถึงเมืองหลวงให้ได้ก่อนค่อยว่ากันเถอะ!”เผยอวี้กำลังจะนำคนเข้าไปจับกุมหยางต้าหู่ แต่ทันทีเห็นว่าเขาติดกับ เขาก็รีบพุ่งเอาดาบไปจ่อที่คอของหยางต้าหู่อย่างมิเกรงใจ“เรื่องที่พวกเจ้าสมคบคิดกับแคว้นศัตรูถูกเปิดเผยแล้ว หยางต้าหู่ หากมิอยากตายก็บอกคนของเจ้าให้วางดาบลง!”หยางต้าหู่โกรธจนตัวสั่น “แม่ทัพ ท่านจะมาใส่ร้ายคนบริสุทธิ์ไม่ได้นะ! มาบอกว่าเราสมคบคิดกับแคว้นศัตรู ท่านมีหลักฐานหรือไม่?"“ท่านอ๋องอี้เล่า? ตระกูลหยางข
เรื่องที่องค์หญิงหกหักหลังฉินซาน แม้แต่เหอโปเองก็มิอยากจะเชื่อเช่นกันเขาส่งหลิงเสี่ยงไปแล้วตอนที่รีบกลับไปรับฉินซาน ก็ได้รู้ว่าฉินซานถูกจับแล้วเหอโปทั้งกังวลทั้งโกรธ พวกเขามีคนน้อย มิสามารถช่วยฉินซานจากน้ำมือของข้าหลวงหยางได้ จึงต้องรีบกลับมารายงานก่อนหลิงอวี๋รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติทันที แผนการของเซียวหลินเทียนคือให้ฉินซานยึดเว่ยโจวแล้วช่วยเหลือองค์หญิงหก มิให้นางถูกข้าหลวงหยางคุมตัวไว้แต่ยามนี้ มันผิดไปจากแผนของเซียวหลินเทียนแล้วฉินซานถูกจับตัวไปในน้ำมือของข้าหลวงหยาง นอกจากองค์หญิงหกแล้วยังเพิ่มมาอีกหนึ่งอุปสรรค เช่นนี้เซียวหลินเทียนกลับกลายเป็นผู้ถูกกระทำแล้วเซียวหลินเทียนใช้ข้ออ้างในการติดเชื้อโรคระบาด พาคนไปจับกุมแม่ทัพเซี่ยนานแล้ว มิรู้ว่าสถานการณ์ทางฝั่งเขาเป็นเช่นไรบ้าง!หลิงอวี๋สงบลงอย่างรวดเร็ว ทางด้านเจ่าจวงวิกฤติอยู่มาก นางต้องรีบหาทางจัดการแม้ว่าภูเขาด้านหลังจะสามารถต้านการโจมตีได้ แต่เมื่อเวลานานไปก็สามารถถูกโจมตีเข้ามาได้เช่นกัน“เหอโป ในบรรดาคนของเจ้ามีคนที่คุ้นเคยกับเว่ยโจวบ้างหรือไม่? ส่งคนสองคนไปรายงานท่านอ๋องอี้!”หลิงอวี๋สั่งเหอโปเอ่ยทันที “มี
รองแม่ทัพจางยังคงกล่าวพลางยิ้มแย้ม “ท่านหญิงฉางเล่อมามิถูกจังหวะ วันนี้ฮองเฮาพร้อมด้วยท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นพาคุณชายน้อยทั้งหลายเสด็จไปชมดอกไม้ที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์พ่ะย่ะค่ะ!”ว่ากระไรนะ?หลงเพ่ยเพ่ยนิ่งอึ้งไป ท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นล้วนเป็นธิดาของเจ้าแห่งทะเล และเป็นลูกพี่ลูกน้องของหลงเพ่ยเพ่ยด้วยเหตุใดพวกนางถึงมิไปชมดอกไม้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้เล่า แต่กลับเลือกไปชมดอกไม้ในตอนที่ตนต้องการความช่วยเหลือจากเสด็จย่าพอดีนี่น่ะหรือ?“ไปนานเท่าใดแล้ว?”หลงเพ่ยเพ่ยสงสัยว่านี่เป็นการจัดฉากโดยเจตนาของชายาเจ้าแห่งทะเล“สองชั่วยามแล้วพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้น่าจะอยู่ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์แล้วขอรับ!”รองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้มหลงเพ่ยเพ่ยอยากจะชกหน้ายิ้ม ๆ ของรองแม่ทัพจางเสียสักหมัด เหตุใดนางมองรอยยิ้มของรองแม่ทัพจางแล้วเหมือนกำลังสมน้ำหน้าตนอยู่เลยเล่า“เจ้ามิได้หลอกข้าใช่หรือไม่?”หลงเพ่ยเพ่ยถามเสียงเย็นรองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้ม “ท่านหญิงฉางเล่อพูดเล่นแล้ว ไหนเลยข้าน้อยจะกล้าหลอกท่านหญิง! หากมิเชื่อท่านลองถามใครดูก็ได้ว่าที่ข้าน้อยพูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่!”“หากท่านหญิงมีธุระด่วนจร
หลิงอวี๋ฟังแล้วก็อดอมยิ้มมิได้ เซียวหลินเทียนใช้คนตระกูลเก๋อมาจัดการชายาเจ้าแห่งทะเล กลอุบายนี้ช่างเด็ดขาดนักรถม้ามาถึงจวนเจ้าแห่งทะเล เมื่อหลิงอวี๋ลงจากรถก็มองไปยังคฤหาสน์หลังใหม่ที่กำลังก่อสร้างอีกครั้ง กำแพงล้อมรอบสร้างเสร็จแล้ว ดูจากขนาดแล้วใหญ่โตมากจริง ๆนางอดสงสัยมิได้ ข้างในมีเรือนบุหงาแบบเดียวกับตำหนักอ๋องอี้ของตนอย่างที่เถาจื่อบอกจริงหรือ?นางอยากเข้าไปดู อยากเห็นเหลือเกินว่าบ้านในอดีตของตนเป็นอย่างไร!“คุณหนูสิง เชิญ!”พ่อบ้านเว่ยเห็นหลิงอวี๋มองคฤหาสน์ฝั่งตรงข้ามก็ร้องเรียกอย่างมิอดทนหลิงอวี๋หันกลับมา เห็นประตูใหญ่หนาทึบของจวนเจ้าแห่งทะเลเปิดอ้าอยู่ ข้างในลานเรือนซับซ้อนลึกล้ำ มองสุดตามิเห็นปลายทางนี่คือที่ที่เต็มไปด้วยอันตรายโดยแท้!หลิงอวี๋ลอบสูดหายใจลึก ๆ แล้วเดินเข้าไป“ปัง!”ประตูใหญ่หนาทึบปิดลงด้านหลังนางหลิงอวี๋มิได้หันกลับไปมอง เพราะนั่นจะดูมิสง่างามนางรอให้พ่อบ้านเว่ยนำทางอยู่ข้างหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินผิดทางแล้วถูกพ่อบ้านเว่ยหาเรื่องผิดพลาดมาตำหนิขณะเดียวกัน หลงเพ่ยเพ่ยก็ได้พาเย่หรงมุ่งหน้าไปยังวังหลวงแล้ว“อุบายนี้ของชายาเจ้าแห่งทะเลช่างร้า
จวนเจ้าแห่งทะเลตั้งอยู่ในย่านคหบดีและสูงศักดิ์ของเมืองหลวงแดนเทพ อันที่จริงอยู่ห่างจากคฤหาสน์อู่เพียงมิกี่ช่วงถนนเท่านั้นรถม้าวิ่งไปตามทางเรื่อย ๆ เถาจื่อพลันนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงกระซิบข้างหูหลิงอวี๋เบา ๆ“คุณหนู อีกประเดี๋ยวท่านจะเห็นคฤหาสน์หลังใหญ่ที่กำลังสร้างอยู่ตรงข้ามจวนเจ้าแห่งทะเล ที่นั่นฝ่าบาททรงสร้างให้ท่านเจ้าค่ะ!”“คราแรกที่พวกเรามาตามหาท่านในเมืองหลวงแดนเทพนั้นมิรู้ว่าจะต้องเสียเวลานานเท่าใด ฝ่าบาทจึงทรงให้สือหรงซื้อคฤหาสน์แถวนี้ไว้ล่วงหน้าแล้วรื้อสร้างใหม่ทั้งหมด!”“ฝ่าบาทตรัสว่า เจ้าแห่งทะเลคือบิดาของท่าน ในเมื่อเขามิยอมรับท่าน ฝ่าบาทก็จะทำให้เขาเห็นว่า ใช่ว่าท่านไม่มีบ้านเสียหน่อย แม้จวนเจ้าแห่งทะเลไม่มีที่ให้ท่าน ฝ่าบาทก็จะสร้างจวนหลังที่ใหญ่กว่าจวนเจ้าแห่งทะเลให้!”“คุณหนู ข้างในมีเรือนหลังหนึ่ง สร้างตามแบบเรือนบุหงาที่ตำหนักอ๋องอี้ในฉินตะวันตกของท่านไม่มีผิดเพี้ยน หากท่านได้เห็นจะต้องชอบอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ!”ก่อนหน้านี้หลิงอวี๋เคยได้ยินเผยอวี้พูดถึงคฤหาสน์หลังใหม่ที่พวกเขาสร้างแล้ว ตอนนั้นยังรู้สึกแปลกใจว่าเซียวหลินเทียนคิดจะอยู่เมืองหลวงแดนเทพเป็นการถาวรหรืออย่
วิธีนี้ของหลิงอวี๋เป็นวิธีเดียวที่จะช่วยนางได้ในยามนี้ ด้วยเซียวหลินเทียนและคนอื่น ๆ ก็ยังคิดหาวิธีที่ดีกว่านี้มิออกเย่หรงกล่าวขึ้นทันที “ข้าจะไปหาหลงเพ่ยเพ่ย บอกนางมิต้องมาแล้ว ให้เข้าวังไปทูลขอเข้าเฝ้าฮองเฮาได้เลย!”“พี่หญิงหลิงหลิง ท่านต้องยื้อจนกว่าพวกเราจะมาช่วยท่านให้ได้นะ!”พูดจบ เย่หรงก็รีบร้อนออกไปเก๋อเฟิ่งฉิงมองหลิงอวี๋ด้วยสายตาซับซ้อน นางหวังให้หลิงอวี๋เข้าจวนเจ้าแห่งทะเลไปแล้วออกมามิได้แต่เรื่องนี้ก็พัวพันถึงความเป็นความตายของเซียวหลินเทียน นางมิอยากให้เซียวหลินเทียนต้องเกิดเรื่อง!ช่างขัดแย้งในใจเสียจริง!“อาอวี๋ เจ้าไปก่อนเถอะ... วางใจได้ ต่อให้ต้องก่อความวุ่นวายครั้งใหญ่ในเมืองหลวงแดนเทพ ข้าก็จะพาเจ้ากลับบ้านให้ได้!”เซียวหลินเทียนกล่าวอย่างหนักแน่นเขายังมีแผ่นป้ายไม้ที่ขันทีโม่ให้มา สามารถใช้ขอความช่วยเหลือจากแม่ทัพฝ่ายซ้ายได้ เซียวหลินเทียนตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะใช้แผ่นป้ายไม้นี้ช่วยหลิงอวี๋ขันทีโม่เคยบอกว่า เพียงอาศัยแผ่นป้ายไม้นี้ ก็สามารถทำให้แม่ทัพฝ่ายซ้ายช่วยตนทำเรื่องหนึ่งเรื่องได้หากแม่ทัพฝ่ายซ้ายสามารถช่วยคนได้เพียงคนเดียว เช่นนั้นเขาก็ยอมตายเ
เผยอวี้และคนอื่น ๆ ต่างมองหน้ากันอย่างจนปัญญา นึกว่ามหาปราชญ์และเจ้าแห่งทะเลกลับไปแล้วพวกตนจะรอดพ้นจากครั้งนี้ไปได้ คาดมิถึงว่าชายาเจ้าแห่งทะเลจะใช้ไม้นี้อีกภายนอกดูเหมือนเป็นการเชิญ แต่จริง ๆ แล้วจะปฏิเสธมิไปได้หรือ?เซียวหลินเทียนสามารถแสร้งป่วยได้ แต่หลิงอวี๋เพิ่งจะปรากฏตัวต่อหน้าเจ้าแห่งทะเลไปเมื่อครู่ ตอนนี้ย่อมมิอาจใช้การแสร้งป่วยมาหลีกเลี่ยงได้อีกแล้ว“บอกไปว่าคุณหนูสิงกำลังรักษาอาการป่วยให้ข้าอยู่ เดี๋ยวค่อยไป!”ในสถานการณ์กะทันหันเช่นนี้เซียวหลินเทียนทำได้เพียงถ่วงเวลาไปก่อนแล้วค่อยคิดหาวิธี“เผยอวี้ เจ้าส่งคนไปแจ้งหลงเพ่ยเพ่ยกับเจ้าแห่งทิศใต้ ให้หลงเพ่ยเพ่ยไปเป็นเพื่อนอาอวี๋!”เป็นเรื่องความเป็นความตายของหลิงอวี๋ เผยอวี้รีบให้คนไปแจ้งหลงเพ่ยเพ่ยทันทีหลิงอวี๋นิ่งเงียบ นั่งคิดอยู่ข้าง ๆเพื่อชิงหยกหล้าสุขาวดีกลับคืนมา ในเวลานั้นชายาเจ้าแห่งทะเลสามารถลงมืออำมหิตกับหลานฮุ่ยจวนที่กำลังตั้งครรภ์ได้ครั้งนี้นางส่งพ่อบ้านมาเชิญตนไปจวนเจ้าแห่งทะเล พูดไปพูดมาก็เพื่อหยกหล้าสุขาวดีบนตัวนางนั่นเองส่วนการที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาได้นั้นต้องใช้วิธีสลายโลหิตละลายกระดูก หรือว่าช
หลิงอวี๋เดินกลับเข้ามา และบังเอิญได้ยินคำพูดของเย่ซงเฉิงเข้าพอดี“พวกเราต้องเตรียมรับมือสำหรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด หากหวงฝู่หลินกลับไปแล้ว มิสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ถึงกาลนั้นใครจะมารับมือการแก้แค้นของฝูไห่ต่อตระกูลหลงและตระกูลอื่น ๆ อีกหลายตระกูลเล่า?”เจ้าแห่งทิศใต้มองไปยังเย่หรง และกล่าวเสียงเข้ม “เลี่ยวหงเสีย มารดาของเย่หรงอาจจะรู้วิธี!”“ปรมาจารย์เย่ ก่อนหน้านี้ข้าอยากจะพบเลี่ยวหงเสียเพื่อสอบถามสถานการณ์จึงไปที่คุกน้ำมา แต่ข้ากลับมิสามารถพบนางได้!”“คำกล่าวของท่านมีน้ำหนักเมื่ออยู่ต่อหน้าพระพักตร์เสด็จพ่อ บางทีท่านอาจจะสามารถทูลขอเสด็จพ่อให้ทรงอนุญาตท่านเข้าพบเลี่ยวหงเสียได้!”เย่ซงเฉิงขมวดคิ้ว “เจ้าแห่งทิศใต้ก็มิสามารถพบเลี่ยวหงเสียได้เช่นกันหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เจ้าแห่งทิศใต้พยักหน้า “แม่ทัพหลี่ผู้เฝ้าประตูบอกว่า นอกเสียจากจะมีพระราชโองการของมหาเทพ มิฉะนั้นก็มิอนุญาตให้ข้าพบเลี่ยวหงเสีย!”เย่ซงเฉิงยิ้มอย่างขมขื่น “เรื่องนี้ข้าน้อยเคยทูลต่อเสด็จพ่อของท่านแล้ว เสด็จพ่อของท่านมิทรงยินยอม ความนับหน้าถือตาของตาเฒ่าผู้นี้ใช้มิได้ผลต่อหน้าพระพักตร์เสด็จพ่อของท่านแล้ว!”ทุกคนต่
หวงฝู่หลินมิรู้จักคนทั้งสองนี้เลย คิดอยู่ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “ตอนนั้นนอกจากพวกท่านกับตระกูลเฉียวแล้ว ก็มีคนของตระกูลจงเจิ้งที่เข้าไปในภูเขาหิมะ ข้ามิเห็นคนทั้งสองที่ท่านพูดถึงในภูเขาหิมะ!”“บางทีปี้ซงอาจจะเคยเห็น เดี๋ยวลองเรียกเขามาถามดู!”เผยอวี้จึงไปเรียกปี้ซงมาอีกครั้งปี้ซงอุ้มหวงฝู่หมิงจูเข้ามา หลิงอวี๋ก็รับนางมาอุ้มไว้เซียวหลินเทียนมองหวงฝู่หมิงจูกอดคอหลิงอวี๋ด้วยท่าทางสนิทสนม ในใจรู้สึกซับซ้อนอย่างบอกมิถูกหวงฝู่หลินเล่าคำถามให้ปี้ซงฟังอีกครั้งปี้ซงคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “ชายชราผู้นั้นข้าพอจำได้ราง ๆ ตอนนั้นเขาเดินวนเวียนอยู่ในภูเขาหิมะอยู่หลายวัน ต่อมาก็จากไป ข้าคิดว่าเขาไม่มีอันตรายอะไรจึงมิได้ใส่ใจ!”“ส่วนแม่นมอู ข้าไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับนางเลย มิเคยเห็นนางในภูเขาหิมะ!”เก๋อเฟิ่งฉิงยืนฟังอยู่ข้าง ๆ ตลอด ได้ยินดังนั้นก็กล่าวว่า “อันที่จริงตอนนั้นที่ภูเขาหิมะ นอกจากพวกเราแล้ว น่าจะยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่ง”“ข้าก็มาพบพวกนางหลังจากลงจากเขาแล้ว ตอนนั้นยังคิดว่าพวกนางแค่ผ่านทางมา แต่พอลองคิดดูตอนนี้ พวกนางต้องเคยไปภูเขาหิมะแน่นอน แม่นมอูน่าจะถูกพวกนางพาตัวไป!”“พวกเข
เมื่อฟังคำพูดของเย่ซงเฉิงจบ หลิงอวี๋ หลงเพ่ยเพ่ยและเผยอวี้ก็ร้องอุทานออกมาพร้อมกัน“เจ้าสำนักซิงหลัวเป็นสตรี! หรือว่านางคือตงกู่อวี้ที่กลับชาติมาเกิด?”หวงฝู่หลินก็นึกขึ้นได้ ตอนที่ทุกคนรุมล้อมโจมตีเจ้าสำนักซิงหลัว เผยอวี้ใช้กระบี่เดียวตัดเชือกรัดผมที่มัดผมของเจ้าสำนักซิงหลัวขาดตอนนั้นผมสลวยของนางสยายลงมาบดบังดวงตาของนางทุกคนมัวแต่ยุ่งอยู่กับการรับมือ จึงมิทันได้คิดให้ลึกซึ้งเมื่อเย่ซงเฉิงพูดเช่นนี้ ทุกคนจึงได้นึกถึงสภาพการณ์ในยามนั้นขึ้นมา“ตงกู่อวี้กลับชาติมาเกิดจริง ๆ หรือ?”ในฐานะลูกหลานตระกูลหลง เจ้าแห่งทิศใต้จะมิรู้ได้อย่างไรว่าในใต้หล้านี้มีวิชาลับเช่นนี้อยู่จริง ทันใดนั้นก็ตกใจจนเหงื่อเย็นไหลซึมหลงจิ้งและหลงเพ่ยเพ่ยก็ตกใจเช่นกัน วรยุทธ์ของสตรีนางนั้นสูงส่งกว่ามหาปราชญ์เสียอีก แต่ก่อนหน้านี้พวกเขามิเคยรู้มาก่อนเลยว่าสำนักซิงหลัวยังมียอดฝีมือเช่นนี้อยู่“ท่านพ่อ ยามนั้นเจ้าวังหวงฝู่พร้อมด้วยท่านเซียวและพวกเราช่วยกันรุมล้อมโจมตีนางก็ยังมิสามารถสังหารนางได้ ลูกดูจากวรยุทธ์ของนางแล้ว เกรงว่าจะมีเพียงท่านอาเจ้าแห่งทะเลเท่านั้นที่พอจะต่อกรกับนางได้!”หลงเพ่ยเพ่ยกล่าวด้วย
หลงจิ้งยังคงยากที่จะเชื่อ “คำพูดของตระกูลเหล่านั้นก็มิได้ผลหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เจ้าแห่งทิศใต้ส่ายหน้าอย่างหดหู่ “เสด็จปู่ของเจ้าตรัสว่าจะตรวจสอบให้ จึงส่งเจ้าแห่งทะเลไปตรวจสอบ แต่ผลที่ได้จากเจ้าแห่งทะเลก็มิสามารถสรุปอะไรได้เลย หรือกระทั่ง...”กระทั่งเจ้าแห่งทะเลอาจจะใช้ขี้ผึ้งหอม ควบคุมบุตรหลานของตระกูลใหญ่เหล่านั้นไว้ในมือตนเอง!เซียวหลินเทียน หลงจิ้งและหลิงอวี๋ต่างก็เข้าใจความหมายที่เจ้าแห่งทิศใต้ยังพูดมิจบใจของหลงจิ้งพลันหล่นวูบ เช่นนั้นเรื่องที่ตนไปเผาขี้ผึ้งหอมก็เท่ากับมิได้ช่วยใครเลย กลับยิ่งทำให้อำนาจของเจ้าแห่งทะเลเพิ่มทวีคูณขึ้นงั้นหรือ?หลงเพ่ยเพ่ยกล่าวอย่างมิยอม “หรือว่าหัวหน้าตระกูลใหญ่เหล่านั้นล้วนเลอะเลือนไปแล้ว? ไยจึงปล่อยให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลควบคุมชะตากรรมของพวกเขาเช่นนี้?”เซียวหลินเทียนขมวดคิ้ว มิน่าแปลกใจที่เมื่อครู่เจ้าแห่งทะเลยอมถอยกลับไปง่าย ๆ ที่แท้ก็มีแผนการเช่นนี้เองก่อนที่จะควบคุมตระกูลใหญ่เหล่านั้นไว้ในมือ เจ้าแห่งทะเลย่อมมิอาจแตกหักกับเจ้าแห่งทิศใต้ได้ในยามนี้แต่เมื่อใดที่เขาควบคุมตระกูลใหญ่เหล่านั้นไว้ในมือได้แล้ว เจ้าแห่งทะเลย่อมมิปล่อยเจ้าแห่งทิศใต