ฉินซานแบกขอทานขึ้นลงหลังคา เขากังวลมาก เขามิสามารถอยู่บนหลังคาตลอดเวลาได้!แต่เจ้าหน้าที่ทหารมากมายถึงเพียงนั้น เขาจะพาขอทานผู้นี้ออกไปได้เยี่ยงไร!“พี่ชาย มิต้องสนใจข้าหรอก เจ้าแบกข้าไปเช่นนี้ เราจะหนีมิได้ทั้งคู่!”ขอทานเอ่ย “วางข้าลงแล้วหนีไปเถิด!”“เจ้นามว่าอะไร?” ฉินซานเอ่ยถามขอทานลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ย “หลิงเสี่ยง…”“หลิงเสี่ยง… เป็นเจ้าจริง ๆ ด้วย!”ฉินซานตะโกนอย่างตื่นเต้น “ข้าคือฉินซาน! ท่านอ๋องอี้กับหลิงอวี๋อยู่ที่นี่ พวกเขาอยู่ในเจ่าจวง…”“หลิงอวี๋ได้ยินว่าท่านปู่บอกว่าเจ้าขาดการติดต่อไป จึงขอให้ข้าตามหาเจ้า…”ก่อนที่ฉินซานจะเอ่ยจบ ลูกธนูหลายลูกก็ยิงมาจากด้านล่างหลิงเสี่ยงชะงัก เขามิได้เห็นฉินซานมาหลายปีแล้ว อีกทั้งฉินซานก็ปลอมตัวด้วย เมื่อครู่จำเขามิได้เลย“ฉินซาน วางข้าลง… แล้วหนีไปเถิด!”หลิงเสี่ยงพยายามดิ้นรนและกระซิบข้างหูของฉินซาน “ข้าซ่อนของไว้ที่ศาลหลักเมืองนอกเมืองเว่ยโจว เจ้ารีบเอาไปมอบให้ท่านอ๋องอี้…”“ข้ามิไหวแล้ว หากเจ้ามิทิ้งข้าไว้ เราจะตายกันทั้งคู่! เจ้ารีบไป ข้าจะช่วยเจ้าสกัดพวกที่ตามมาเอง!”หลิงเสี่ยงพูดแล้วกำลังจะกระโดดลงไป แต่ฉินซานคว้
พี่เหลียนบอกลานางรับใช้แล้วเดินไปอีกทางฉินซานแอบดีใจที่ตนเองโชคดี รออยู่ก็มีนางรับใช้ขององค์หญิงหกมาพอดีเขาเดินตามนางรับใช้ไปที่เรือนหนึ่งอย่างเงียบ ๆที่ทางเข้าเรือนมีองครักษ์สองคนเฝ้าอยู่ ฉินซานมิกล้าผลีผลามเข้าไป จึงย่องตามไปด้านหลังเขาเห็นห้องหนึ่งมีแสงไฟสว่างอยู่ จึงย่อตัวไปใต้หน้าต่างแล้วก็ได้ยินเสียงคนคุยกันอยู่ในห้องแว่ว ๆ“มิไหวแล้ว… น่าเบื่อจะตาย สถานที่ห่างไกลแห่งนี้ไม่มีอะไรน่าสนใจเลย ได้แต่เล่นหมากรุกฆ่าเวลาในทุก ๆ วัน มิรู้ว่าต้องอยู่อีกนานแค่ไหนจึงจะได้กลับ!"เซียวทงเอ่ยเสียงเบื่อหน่าย “อู่เวย วันพรุ่งเจ้าไปหาเซียวหลินเทียน ให้เสด็จพี่สั่งฉินซานมาพาข้ากลับเมืองหลวง! ข้าทนอยู่ในสถานที่แย่ ๆ เยี่ยงนี้มิไหวแล้ว!”อู่เวยยิ้มพลางเอ่ย “องค์หญิงหก เส้นทางกลับไกลถึงเพียงนั้น ท่านอ๋องอี้ไม่มีทางให้แม่ทัพฉินไปส่งองค์หญิงกลับหรอกพ่ะย่ะค่ะ! อดทนอีกหน่อยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”“ทนอะไร? ข้ามิทน… หากรู้ว่าออกมาแล้วมิสนุกเลยสักนิด ข้าก็คงมิมาหรอก!”เซียวทงก่นด่า “ฉินรั่วซือนางสารเลวนั่น กล้าทรยศข้า กลับไปข้ามิปล่อยนางไปแน่!”“นางคิดว่าการที่ฉินซานกับหลิงอวี๋ปกป้องนางแล้วข้าจะทำอะไร
ฉินซานรอให้อู่เวยออกไปอย่างอดทน แต่มิรู้ว่าสองคนนี้ไปเอาเรื่องคุยมาจากไหนเยอะแยะ คุยเรื่อยเปื่อยมิจบเสียทีฉินซานยิ่งฟังก็ยิ่งรำคาญ แล้วก็ยิ่งดูถูกองค์หญิงหกชายหญิงอยู่กันตามลำพัง ทั้งยังเป็นเวลาดึกแล้วด้วย องค์หญิงหกมิรู้จักหลีกเลี่ยงเลยหรือ?นางยังมิได้แต่งงาน แต่กล้าให้บุรุษที่เป็นคนนอกอยู่คุยกับตนที่ห้องจนดึกดื่น ผู้ใดจะกล้าแต่งงานกับสตรีเช่นนี้กัน?หลังจากรอให้อู่เวยออกไปอย่างยาวนาน ฉินซานก็เห็นนางกำนัลสองคนยุ่งอยู่ข้างนอก จึงรีบมุดเข้าไปทางหน้าต่างเซียวทงกำลังจะเปลี่ยนอาภรณ์ จู่ ๆ เห็นคนบุกเข้ามาก็ตกใจแต่ก่อนที่นางจะกรีดร้อง ฉินซานก็เข้าไปปิดปากนางไว้ก่อน“องค์หญิงหก กระหม่อมคือฉินซาน มาที่นี่เพื่อพาองค์หญิงออกไปตามคำสั่งของท่านอ๋องอี้! องค์หญิงอย่าร้อง รีบเก็บของสำคัญแล้วไปกับกระหม่อม!”ฉินซานปล่อยองค์หญิงหกแล้วเร่งให้เซียวทงเก็บข้าวของเซียวทงมองฉินซานอย่างสงสัย ฉินซานมีหนวดเคราบนใบหน้าเช่นนี้ นางจึงเอ่ยถามอย่างมิแน่ใจ “ท่านคือฉินซานจริง ๆ หรือ?"“องค์หญิงฟังเสียงของกระหม่อมมิออกหรือ?”ฉินซานเอ่ยอย่างฉุนเฉียว “อย่ามัวโอ้เอ้เลย รีบเก็บของเร็วเข้า… องค์หญิงหก กระหม่
ยังมิทันที่ฉินซานจะคิดมาตรการตอบโต้ได้ ก็เกิดเสียงฝีเท้าวุ่นวายดังขึ้นด้านนอก แล้วข้าหลวงหยางก็เดินเข้ามาพร้อมกับองครักษ์หลายคนฉินซานเห็นเช่นนี้ ก็มิสามารถพาเซียวทงออกไปได้อย่างปลอดภัยแล้ว จึงต้องหลบไปซ่อนตัวอยู่หลังม่านเตียง รอดูว่าข้าหลวงหยางมาเพื่อสิ่งใดหากข้าหลวงหยางจะจับตัวเซียวทงจริง ๆ เขาก็ทำได้เพียงออกไปฆ่าข้าหลวงหยางแล้วพาเซียวทงออกไป“องค์หญิงหก กระหม่อมมารบกวนตอนดึก เพราะมีเรื่องด่วนจะคุยกับองค์หญิงหกจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ!”หยางจื้อฟางเข้ามาพร้อมเอ่ยอย่างกังวล“โอ้ ข้าหลวงหยางมีเรื่องด่วนอะไรหรือ?”เซียวทงเหลือบมองม่านเตียงแล้วยิ้มเย็นชาฉินซาน ข้ามิใช่คนที่เจ้าคิดจะทำให้อับอายก็ทำได้ตามต้องการหรอกนะ รอข้าก่อนเถอะ วันนี้ข้าจะแก้แค้นกลับแน่นอน“เป็นเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ… วันนี้กระหม่อมไปที่เจ่าจวง เห็นว่าท่านอ๋องอี้ติดเชื้อโรคระบาด… องค์หญิงหก เรื่องนี้จะมองเป็นเรื่องเล็ก ๆ มิได้พ่ะย่ะค่ะ!”หยางจื้อฟางเอ่ยอย่างกังวล “กระหม่อมเห็นผู้ป่วยติดโรคระบาดมามากแล้ว เพียงมิกี่วันก็ตายไป! หากเกิดเหตุมิคาดคิดกับท่านอ๋องจะทำเยี่ยงไรดีพ่ะย่ะค่ะ?"“ว่ากระไรนะ? พี่สี่ของข้าติดโรคระบาดหร
เสียงตะโกนของเซียวทงทำให้ฉินซานตกตะลึงไม่คิดเลยว่าตนเองเสี่ยงชีวิตมาช่วยเซียวทง แต่เซียวทงกลับเชื่อคำพูดของข้าหลวงหยางแล้วหักหลังตนเช่นนี้!“ใครก็ได้! จับฆาตกรที!”พอหยางจื้อฟางเห็นเซียวทงชี้ไปทางม่านเตียง เขาก็ตะโกน แล้วคว้าตัวองค์หญิงหกพุ่งไปที่ประตูฉินซานกัดฟันวิ่งไปหาองค์หญิงหกแม้ว่าองค์หญิงหกจะหักหลังตนแต่เขาก็ยังต้องทำภารกิจที่ท่านอ๋องอี้มอบหมายให้ตนเองทำให้สำเร็จ!ฉินซานเพิ่งจะคว้าคอเสื้อด้านหลังของเซียวทง เซียวทงก็ผละตัวออกด้วยความตกใจ พลางตะโกน “ใครก็ได้ ฉินซานจะลอบสังหารข้า จับเขาไว้เร็วเข้า!”พวกผู้คุ้มกันที่ข้าหลวงหยางพามาพุ่งเข้าไป ฉินซานรีบชักดาบออกมาต่อสู้กับพวกเขาข้าหลวงหยางใช้โอกาสนี้ลากเซียวทงออกไปข้างนอก แล้วเขาก็ตะโกน “ฉินซานจะลอบสังหารองค์หญิงหก รีบมาเร็วเข้า…”เดิมทีศาลาว่าการก็ได้รับการคุ้มกันอย่างแน่นหนาอยู่แล้ว เมื่อได้ยินเสียงร้องเรียกของข้าหลวงหยาง หลิวฮุยก็พาคนพุ่งเข้าไปเจ้าหน้าที่ทหารล้อมรอบเรือนอย่างรวดเร็ว แล้วกลุ่มนักธนูก็เล็งหน้าไม้เหล็กไปที่ฉินซานเมื่อมีคนเข้ามามากถึงเพียงนี้ เซียวทงก็ตะโกนอย่างภาคภูมิใจ "ฉินซาน หากท่านยังมิยอมโดนจับ
ในเวลานี้ ฉินซานได้แต่หลับตาลงด้วยความสิ้นหวังคิดมิถึงเลยว่า บุรุษที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานอย่างตนจะมิได้ตายในสนามรบ แต่กลับมาตายด้วยน้ำมือของสตรีโง่เขลาเยี่ยงเซียวทง!เขามิยอมแพ้หรอก!ฉึก...เสียงดาบแทงทะลุเนื้อหนังดังขึ้นมา แล้วฉินซานก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่ไหล่เมื่อลืมตาขึ้น ก็เห็นดาบแทงเข้าที่สะบักของตนเองเซียวทงจ้องมองฉินซานพร้อมกับตาแดงด้วยความโกรธ นางจะแทงเข้าที่ท้องฉินซานก็ได้แต่ในวินาทีสุดท้าย นางก็ยังทำใจมิได้ จึงยกดาบขึ้นไปแทงที่ไหล่ของฉินซานเพราะฉินซานเป็นชายคนแรกที่ตนตกหลุมรัก!นางนึกถึงครั้งแรกที่พบฉินซาน เขาดูหล่อเหลามาก นางกลัวว่าตนจะแทงฉินซานตาย แล้วต่อไปจะไม่มีวันได้เห็นฉินซานยิ้มให้ตนอีกแล้วเมื่อข้าหลวงหยางเห็นฉากนี้ เขาก็แอบอุทานน่าเสียดายจริงเชียว!เชื่อสตรีมิได้เลยจริง ๆ!ขอเพียงนางเคลื่อนลงไปอีกหน่อย ฉินซานก็จบสิ้นแล้ว!“ฉินซาน ข้าจะให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง ขอเพียงเจ้าอธิบายมาว่าหลิงอวี๋กับหลิงเสี่ยงไปร่วมมือกับแคว้นศัตรูได้เยี่ยงไร ข้าจะขอความเมตตาให้เสด็จพ่อของข้าไว้ชีวิตท่าน!”เซียวทงเอ่ยอย่างเข้มแข็งฉินซานหันไปอีกทาง มิอยากพูดสิ่งใ
หมอเฝิงยังคิดวิธีมิออกอีกด้านหนึ่ง องครักษ์ของฉินซานเร่งรีบพาผู้ป่วยพิเศษเข้ามาในตอนก่อนมืดเมื่อหลิงอวี๋รู้ข่าวก็รีบไปที่ห้องรักษา เมื่อเข้าไปองครักษ์ก็เข้ามาพูดกับนาง“พระชายา นี่คือแม่ทัพหลิง แม่ทัพฉินให้พวกเราส่งเขามาที่นี่ขอรับ! เขาดูอาการมิดีนัก รีบช่วยเขาเถิดขอรับ!”“แม่ทัพหลิง?”ทันทีที่หลิงอวี๋ได้ยินก็รีบพุ่งไปที่ข้างเตียง แล้วก็เห็นผู้บาดเจ็บอยู่บนเตียงนั้นผมเป็นปม บนหัวก็สกปรก และมีบาดแผลนับไม่ถ้วนบนใบหน้า รวมทั้งมีรอยไหม้กับรอยแส้ด้วย ไม่มีผิวหนังส่วนไหนที่ดีเลยนางเห็นมิชัดด้วยซ้ำว่าหน้าตาเดิมของเขาเป็นอย่างไร!"เขาชื่ออะไร?"หลิงอวี๋ถามขณะที่ตรวจผู้บาดเจ็บไปด้วยองครักษ์เอ่ย "ตอนนั้นสถานการณ์เร่งด่วน แม่ทัพฉินมิทันบอกขอรับ… ว่ากันว่าเขาเป็นนักโทษประหาร ตอนเราไปรับมีเจ้าหน้าที่ทหารจำนวนมากกำลังจับกุมเขาอยู่!”“แม่ทัพฉินจึงให้เราพาเขากลับมาเพื่อความปลอดภัยของเขา ส่วนเขาก็ล่อทหารที่ไล่ตามออกไป!”หลิงอวี๋ขมวดคิ้ว เช่นนั้นสถานการณ์ของฉินซานก็อันตรายมากมิใช่หรือ?หลิงอวี๋เห็นว่าผู้ป่วยกำลังจะตายแล้วจึงมิได้สนใจถามองครักษ์ พลางรีบเอ่ย“เจ้าไปหาท่านจินต้าแล้วบอกสถาน
ดังนั้น แม้ว่าหลิงเสี่ยงจะมิได้อยู่ในเมืองหลวง แต่เขาก็รู้เรื่องที่หลิงอวี๋ให้กำเนิดลูกนอกสมรสแล้วถูกท่านอดีตเสนาบดีตัดขาดหลิงเสี่ยงโกรธหลิงอวี๋มาก ถึงกับมีความคิดว่าชีวิตนี้เขามิอยากกลับเมืองหลวงไปเจอน้องสาวผู้นี้อีกแล้ว!แต่ทุกเทศกาลในตอนที่อยู่เงียบ ๆ คนเดียวกลางคืนหลิงเสี่ยงนอนอยู่บนเตียงก็จะคิดถึงน้องสาวฝาแฝดผู้นี้แล้วก็ใจอ่อน!ตอนนั้นตนถูกหวางซือเลี้ยงผิด ๆ แล้วทำเรื่องโง่เขลาเหล่านั้นน้องสาวยังเด็ก ถูกหวางซือเลี้ยงดูผิด ๆ ก็ไปโทษน้องสาวมิได้หรอก!หลิงเสียงเซิงพ่อของเขามิสนใจพวกเขาพี่น้อง ท่านอดีตเสนาบดีก็อายุมากแล้ว หลิงเสี่ยงจะวางใจปล่อยน้องสาวไว้ในเมืองหลวงได้เยี่ยงไร!กระทั่งเรื่องที่ท่านอ๋องอี้เฆี่ยนตีหลิงอวี๋ห้าสิบไม้เพราะนางทำผิดไปถึงถึงหูของหลิงเสี่ยงหลิงเสี่ยงโกรธที่น้องสาวโง่เขลา แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของน้องสาวด้วยเสี่ยวหลิงหลิงเป็นสตรีบอบบาง นางจะทนการถูกเฆี่ยนตีห้าสิบไม้ได้หรือ?หลิงเสี่ยงอยากกลับบ้านมาก อยากจะรีบกลับเมืองหลวงแล้วพาน้องสาวของเขาออกไปด้วยเขายอมมิแต่งงานไปตลอดชีวิตแล้วเลี้ยงดูน้องสาวของเขา!เมื่อถูกข้าหลวงหยางขังไ