เสียงของเสี่ยวอู่เอ่ย “พี่หยาง ไม่มีใครมาเลยจริง ๆ! พี่ชายของข้ามาเข้าห้องน้ำ… บางทีเขาอาจจะตกใจพวกเจ้าจนตกลงไปก็ได้!"“เพียะ…” เสียงตบหน้าเสี่ยวอู่ดังลั่นหยางหมิงตะคอกอย่างดุร้าย “หมาป่าตามกลิ่นมาจากกับดัก เห็นได้ชัดว่ามีคนบุกเข้ามาภูเขาด้านหลัง เจ้ายังกล้าบอกว่าไม่มีอีกรึ?”“บอกความจริงมา พี่ชายของเจ้าพูดอะไรกับพวกเขา? หากเจ้าไม่บอกความจริง… ข้าจะฆ่าทั้งครอบครัวของเจ้า!”เสี่ยวอู่เอ่ยอย่างดื้อรั้น “สัตว์ร้ายจะไปเชื่อได้เยี่ยงไรกัน บางทีพวกมันอาจดมกลิ่นผิดก็ได้… ข้ามิเห็นใครมาเลยจริง ๆ!"“เจ้ามิเห็นโลงศพคงมิหลั่งน้ำตา!”หยางหมิงตะคอกอย่างดุร้าย "หากเจ้ามิบอกข้า ข้าจะฆ่าเจ้า!”พวกเซียวหลินเทียนอยู่ด้านล่างก็ไม่รู้ว่าหยางหมิงทำอะไร แต่พวกเขาได้ยินเสียงกรีดร้องโหยหวนซึ่งนั่นเป็นเสียงของเสี่ยวอู่“หยางเม่า ออกมาเสียเถิด ขอเพียงเจ้ามอบตัวสายลับออกมา ข้าจะไว้ชีวิตน้องชายของเจ้า!”หยางหมิงหักมือข้างหนึ่งของเสี่ยวอู่แล้วผลักเขาไปที่ขอบหน้าผา พลางตะโกนไปที่ด้านล่างหยางเม่าถูกเซียวหลินเทียนกดไว้ ร่างกายของเขาสั่นสะท้านไปทั้งตัว“ปล่อยข้าไปเถิด ให้ข้าไปช่วยเสี่ยวอู่เถิด!” เขาขอร้องเ
เสี่ยวอู่ยอมตายแต่ไม่ยอมบอกทิศทางที่พวกเขาอยู่ออกไป หากพวกเขาพุ่งออกไปตอนนี้ เช่นนั้นจะไม่ทำให้การเสียสละของเสี่ยวอู่ไร้ผลหรือ?ดังนั้นเซียวหลินเทียนจึงทำได้เพียงกดหยางเม่าให้แน่น พลางจ้องมองไปที่กลุ่มคนที่อยู่ด้านบนเขาอย่างดุร้าย!เขาจะจดจำบัญชีแค้นนี้เอาไว้!กลุ่มคนพวกนั้นยืนอยู่ด้านบนนั้นเป็นเวลานาน พอเห็นว่าไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ ด้านล่างหยางหมิงก็เอ่ยขึ้นมา “รีบให้คนขนของข้ามคืนไปเลย… ที่นี่ไม่ปลอดภัยแล้ว!”“ส่งคนไปสกัดกั้นท้ายน้ำด้วย แม้พวกมันจะมีชีวิตอยู่ก็ปล่อยให้ออกไปรายงานข่าวมิได้!”เซียวหลินเทียนเห็นหยางหมิงพาคนออกไปแล้ว แต่ก็ยังเหลือคนไม่กี่คนที่ถือหน้าไม้เหล็กเฝ้าอยู่เขากดเสียงต่ำพลางเอ่ย “หยางเม่า เราต้องรีบออกไปช่วยครอบครัวของเจ้า! ขอเพียงเราเคลื่อนตัวช้า ๆ ไปที่พุ่มไม้ พวกมันจะไม่พบเรา!”หยางเม่าจ้องมองไปที่ร่างที่อยู่ไม่ไกล แล้วน้ำตาก็ไหลออกมาอย่างเงียบ ๆเมื่อครู่เขาน่าจะพาเสี่ยวอู่กระโดดลงมาพร้อมกัน!หากทำเช่นนั้น เสี่ยวอู่ก็จะไม่ต้องตายโดยที่ร่างกายแยกจากกันอย่างอนาถเช่นนี้!“รอเราออกไปได้ แล้วข้าจะช่วยเสี่ยวอู่แก้แค้น! หากจับหยางหมิงได้ ข้าจะให้เจ้าจั
“เกิดอะไรขึ้น? ผู้ใดทำให้นิวนิวบาดเจ็บเช่นนี้?” หลิงอวี๋เอ่ยถามหลี่ว์จงเจ๋อหลี่ว์จงเจ๋อชี้ไปที่ผู้ป่วยสองคนที่อยู่ด้านข้าง พลางเอ่ยด้วยความโกรธ “พวกเขาขอรับ! สองคนนี้ติดเชื้อโรคระบาดแล้วไม่มารายงานตัว ทั้งยังทารุณเด็กที่บ้านอีก!”“พวกเขาให้เด็กเล็กเท่านี้ช่วยพวกเขาทำอาหาร พอเด็กหิวมากก็ขโมยหมั่นโถวครึ่งก้อนไปกิน หญิงชราโกรธมากจนเทน้ำเดือดใส่ทั่วตัวเด็ก!”“เด็กเจ็บจนร้องไห้มิหยุด พวกเขาก็ยังมิยอม กลัวว่าจะดึงดูดความสนใจของเรา จึงทุบตีเด็กอย่างรุนแรงมิให้เด็กร้องไห้!”“เพื่อนบ้านเขาทนดูมิไหวจึงมาแจ้งพวกเราขอรับ เรารีบไปก็พบว่าเด็กคนนี้เกือบจะตายอยู่แล้ว!”เฉียนฮ่าวองครักษ์ที่ติดตามเซียวหลินเทียนไปล่าสัตว์ปีกอยู่ด้วยพอดี อดมิไหวจึงเอ่ยขึ้นมา“พระชายาอ๋องอี้ ชายผู้นี้ชื่อหยางซง เป็นผู้สอบบัณฑิต ตอนเราไปบ้านเขาเพื่อล่าสัตว์ปีก พวกเขาพยายามทุกวิถีทางเพื่อขัดขวางมิให้เราฆ่าสัตว์ปีกขอรับ!”“ตอนนั้นหญิงชราผู้นี้นั่งลงที่พื้นแล้วกล่าวหาเราอย่างผิด ๆ ว่าจะจับไก่ของพวกเขาไปเพราะว่าอยากกิน!”“จากนั้นพวกเขาก็ซ่อนไก่ไว้กินหนึ่งตัว พอกินเข้าไปแล้วก็ติดโรคระบาด! สมน้ำหน้าจริง ๆ คนเช่นนี้ไม่ควร
แม่นางหยางตะโกนใส่หยางซงด้วยความโกรธ“หยางซง นิวนิวเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของเจ้านะ! แม่ของเจ้าปฏิบัติต่อนางเช่นนี้ เจ้ามิจัดการเลยหรือ?”หยางซงเอ่ยอย่างไม่พอใจ “ท่านแม่ของข้าพูดถูก นางเป็นเพียงแค่ภาระ ทำสิ่งใดมิได้สักอย่าง ต่อไปก็ต้องเก็บเงินไว้เพื่อเป็นสินสอดอีก ขายไปก็ยังมีเงินเลี้ยงดูลูกในท้องของเจ้า!”แม่นางหยางทนมิไหวอีกต่อไปแล้ว จึงพุ่งเข้าไปตบหน้าหยางซงอย่างแรงหยางซงถูกตบจนถอยหลังไปหลายก้าว ก็พลันโกรธขึ้นมาและพุ่งไปตบแม่นางหยางล้มลงกับพื้นเขากำลังจะยกขาขึ้นเตะแม่นางหยางตามความเคยชิน แต่หลี่ว์จงเจ๋อมิสามารถควบคุมความโกรธของตนได้แล้ว เขาพุ่งไปเตะที่ท้องหยางซงจนหยางซงกระเด็นออกไป“เจ้ามันสัตว์เดรัจฉาน มิเห็นหรือว่าภรรยาของเจ้ากำลังตั้งท้อง? หากยังกล้าตีนางอีก ข้าจะทุบตีสัตว์เดรัจฉานเยี่ยงเจ้าให้ตายเสีย!”หลี่ว์จงเจ๋อพุ่งเข้าไปอีกครั้งแล้วเตะหยางซงสองที แต่ก็ยังมิพอใจ ต่อยหยางซงไปอีกหลายหมัด“เจ้าหน้าที่ฆ่าคน!”แม่หยางปวดใจที่ลูกชายถูกทุบตี จึงกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งนางรีบรุดเข้าไปดึงผมของแม่นางหยางและทุบตีพลางดุด่านางด้วย “เจ้ากล้าตีลูกชายข้า ข้าก็จะทุบตีเจ้าให้ตายก่อนเสีย!”
หลิงอวี๋กับหลี่ว์จงเจ๋อต่างตกตะลึง พวกเขามิคาดคิดว่าแม่นางหยางจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้!“เร็วเข้า รีบพานางเข้าไป!”หลิงอวี๋มิสนใจหยางซงแล้ว นางกับหลิงซวนรีบแบกแม่นางหยางไปทันทีแต่เดิมทีแม่นางหยางก็กินยาของหมอเฝิงไปแล้วทำให้ทารกในครรภ์ไม่มั่นคง ตอนนี้นางก็โกรธมากจนทุบตีท้องตนเองอย่างไร้ความปรานีเช่นนี้อีกแม้ว่าหลิงอวี๋จะฉีดยารักษาการตั้งครรภ์ให้นาง แต่แม่นางหยางก็ยังพักไม่เกินครึ่งชั่วยามเลย ทารกหัวใจหยุดเต้นในท้องนางแล้วหลิงอวี๋รู้สึกกังวลมากจนพูดไม่ออก นางนิ่งอยู่นานก่อนที่จะบอกผลกับแม่นางหยางแต่แม่นางหยางกลับเอ่ยอย่างใจเย็น “โชคดีแล้วที่เด็กคนนี้มิได้เกิดมา จะได้ไปเกิดใหม่ในครอบครัวที่ดี!”“ข้ากับนิวนิวทนทุกข์ทรมานกันก็มากแล้ว! เรามิสามารถทำให้เขาทนทุกข์ได้อีก!”“พระชายาอ๋องอี้ ให้เขาส่งจดหมายขอหย่าให้ข้าเถิด ข้ามิต้องการสิ่งใดแล้วนอกจากนิวนิว!”หลิงอวี๋มองออกว่านี่คือสิ่งที่อยู่ในใจแม่นางหยางจริง ๆ แม้ว่าจะเสียดายที่เด็กในท้องของนางอายุได้หกเดือนแล้วแต่มิสามารถเกิดมาได้ แต่นางก็เคารพความคิดเห็นของแม่นางหยางหลังจากให้ยาแม่นางหยางแล้ว หลิงอวี๋ก็เดินออกมาแม่ลูกตระกูลหยาง
หลี่ว์จงเจ๋อเตรียมใจไว้แล้ว สถานการณ์ที่ท่านจินต้าวิเคราะห์นั้นเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นพวกหยางต้าหู่กล้าทำเรื่องที่ทรยศต่อแคว้นเช่นนี้ หากพบว่าเรื่องนี้ถูกเปิดเผย มีความเป็นไปได้ว่าเป็นสุนัขจนตรอก เวลานี้ทุกคนต้องร่วมมือกันจึงจะสามารถจัดการกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้“ลู่หนาน เจ้าไปเรียกพวกเฉาอี้แล้วระดมคนมาเฝ้ารอบ ๆ หออักษรอย่างเงียบ ๆ ปกป้องพระชายาอ๋องอี้กับคนอื่น ๆ ไว้”“แล้วส่งคนอีกกลุ่มออกจากเจ่าจวงไปช่วยพวกของท่านอ๋องอย่างเงียบ ๆ”“จริงสิ แม่ทัพหลี่ว์ สถานการณ์ในตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว เจ้าบอกว่าท่านลุงของเจ้าทำงานอยู่ภายใต้แม่ทัพกู่ใช่หรือไม่? เจ้าส่งคนสนิทไปแจ้งให้เขาเตรียมพร้อมที่จะมาช่วยเรา!”“ขอรับ!”หลี่ว์จงเจ๋อรู้ว่าสถานการณ์เร่งด่วน จึงรีบออกไปจัดสรรกำลังคนตามคำกำชับของท่านจินต้าดูภายนอกแล้วเจ่าจวงก็ดูเหมือนเดิม หลิงอวี๋กำลังยุ่งอยู่กับการช่วยเผยอวี้ ไม่รู้เลยว่าเวลาเจ่าจวงตกอยู่ในอันตรายรอบด้าน!เซียวหลินเทียนกับคนอื่น ๆ ใช้ทางอ้อมเดินทาง แต่คนของหยางหมิงกลับลงมาจากภูเขาด้านหลัง ซึ่งเป็นระยะทางที่สั้นกว่าพวกเซียวหลินเทียนหลี่ว์จงเจ๋อกับลู่หนานต่างอกสั่นขวัญแขวน คนจากแต่
หลิงอวี๋มิได้ตื่นตระหนก นางแค่รู้สึกว่าการกระทำของเซียวหลินเทียนนั้นมิเหมาะสมหลังจากได้ยินสิ่งท่านจินต้าบอก นางก็สงบลงพลางเอ่ย “การทดสอบเป็นเพียงการเคลื่อนไหวครั้งเดียว มีความเป็นไปได้อีกอย่าง คือพวกเขาแกล้งทำเป็นผู้ป่วยโรคระบาด เพราะอยากจับพวกเราไปข่มขู่ท่านอ๋อง!"“แต่แม้ว่าเราจะรู้แผนการร้ายของพวกเขา ก็ต้องปล่อยให้พวกเขาเข้ามา มิเช่นนั้นยิ่งอยากปกปิดก็จะกลายเป็นเปิดเผยออกไป!”ท่านจินต้าพยักหน้า ชื่นชมหลิงอวี๋ที่คิดถึงเรื่องนี้ได้ขึ้นมา“แต่หากให้พวกเขาเข้ามา เช่นนั้นความปลอดภัยของพระชายาจะทำเยี่ยงไรเล่า?”หลี่ว์จงเจ๋อเอ่ยอย่างกังวล “เรามิสามารถปล่อยให้ท่านกระโดดเข้าไปทั้งที่รู้ว่ามันเป็นกับดักได้หรอก!”หลิงอวี๋มองไปทางท่านจินต้า “ให้พวกเขาเข้ามาก่อนเถิด! ท่านอ๋องกับจ้าวซวนน่าจะกำลังกลับมาแล้ว พวกเราแค่ต้องถ่วงเวลาพวกเขาไว้สักพัก รอให้ท่านอ๋องกลับมาก็พอแล้ว!”“ตระกูลหยางคงแค่สงสัยว่ามีสายลับ ไม่มีหลักฐานอะไรพวกเขาก็มิกล้าทำอะไรบุ่มบ่ามหรอก เพราะว่าท่านอ๋องก็เป็นองค์ชาย มิใช่คนธรรมดาสามัญ!”“พวกเรามีกันตั้งหลายคน หากพวกเขาจะฆ่าพวกเรา เพียงส่งเสียงออกมาก็ดังมากแล้ว ข้าหลวงเว่ยโ
เมื่อหยางหมิงเห็นพระชายาอ๋องอี้มา ดวงตาของเขาก็เป็นประกายแล้วส่งสัญญาณให้คนของเขาหยุด“ท่านอ๋องอี้เล่า?” หยางหมิงมองไปข้างหลังพวกเขา เมื่อมิเห็นท่านอ๋องอี้ก็เอ่ยเสียงขรึม“เหตุใดท่านอ๋องอี้มิเสด็จมาเล่า? ตระกูลหยางให้ท่านใช้หออักษรโดยหาได้เรียกเงินไม่ ทั้งยังให้ข้าวปลาอาหาร ท่านอ๋องอี้ของพวกเจ้าหยิ่งผยองเช่นนั้นเลยหรือ?”เถาจื่อติดตามหลิงอวี๋มาเป็นเวลานาน รู้นิสัยของหลิงอวี๋อยู่แล้ว นางเลียนแบบน้ำเสียงของหลิงอวี๋พลางตะคอกด้วยความโกรธ“เจ้าเป็นใครกัน? กล้าดีเยี่ยงไรถึงพูดกับข้าเช่นนี้?”“ท่านอ๋องใช่คนที่เจ้าอยากจะเจอเมื่อใดก็ได้รึ? ตัวตนท่านอ๋องของเราเป็นเช่นไรกัน? แค่ผู้ป่วยไม่กี่คนก็อยากจะให้เขามารับด้วยตัวเองรึ?”“ข้าไว้หน้าพวกเจ้าเพราะข้ามีจิตใจดี มิต้องการให้คนไข้ต้องทนทุกข์ทรมานจึงมาด้วยตนเอง… เหตุใดกัน นี่ยังมิเพียงพออีกรึ? หรือว่าผู้ป่วยของพวกเจ้าสูงส่งยิ่งกว่าพระชายาเยี่ยงข้า?”หลิงอวี๋ฟังคำพูดของเถาจื่อแล้วอยากจะหัวเราะออกมา ท่าทีของเถาจื่อนั้นแข็งแกร่งมาก!“ผู้ใดบ้างที่เป็นคนไข้ ขึ้นมาให้นางรับใช้ของข้าตรวจดูเสีย หากได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อเราก็จะรับพวกเขาไว้รักษา!”