“เกิดอะไรขึ้น? ผู้ใดทำให้นิวนิวบาดเจ็บเช่นนี้?” หลิงอวี๋เอ่ยถามหลี่ว์จงเจ๋อหลี่ว์จงเจ๋อชี้ไปที่ผู้ป่วยสองคนที่อยู่ด้านข้าง พลางเอ่ยด้วยความโกรธ “พวกเขาขอรับ! สองคนนี้ติดเชื้อโรคระบาดแล้วไม่มารายงานตัว ทั้งยังทารุณเด็กที่บ้านอีก!”“พวกเขาให้เด็กเล็กเท่านี้ช่วยพวกเขาทำอาหาร พอเด็กหิวมากก็ขโมยหมั่นโถวครึ่งก้อนไปกิน หญิงชราโกรธมากจนเทน้ำเดือดใส่ทั่วตัวเด็ก!”“เด็กเจ็บจนร้องไห้มิหยุด พวกเขาก็ยังมิยอม กลัวว่าจะดึงดูดความสนใจของเรา จึงทุบตีเด็กอย่างรุนแรงมิให้เด็กร้องไห้!”“เพื่อนบ้านเขาทนดูมิไหวจึงมาแจ้งพวกเราขอรับ เรารีบไปก็พบว่าเด็กคนนี้เกือบจะตายอยู่แล้ว!”เฉียนฮ่าวองครักษ์ที่ติดตามเซียวหลินเทียนไปล่าสัตว์ปีกอยู่ด้วยพอดี อดมิไหวจึงเอ่ยขึ้นมา“พระชายาอ๋องอี้ ชายผู้นี้ชื่อหยางซง เป็นผู้สอบบัณฑิต ตอนเราไปบ้านเขาเพื่อล่าสัตว์ปีก พวกเขาพยายามทุกวิถีทางเพื่อขัดขวางมิให้เราฆ่าสัตว์ปีกขอรับ!”“ตอนนั้นหญิงชราผู้นี้นั่งลงที่พื้นแล้วกล่าวหาเราอย่างผิด ๆ ว่าจะจับไก่ของพวกเขาไปเพราะว่าอยากกิน!”“จากนั้นพวกเขาก็ซ่อนไก่ไว้กินหนึ่งตัว พอกินเข้าไปแล้วก็ติดโรคระบาด! สมน้ำหน้าจริง ๆ คนเช่นนี้ไม่ควร
แม่นางหยางตะโกนใส่หยางซงด้วยความโกรธ“หยางซง นิวนิวเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของเจ้านะ! แม่ของเจ้าปฏิบัติต่อนางเช่นนี้ เจ้ามิจัดการเลยหรือ?”หยางซงเอ่ยอย่างไม่พอใจ “ท่านแม่ของข้าพูดถูก นางเป็นเพียงแค่ภาระ ทำสิ่งใดมิได้สักอย่าง ต่อไปก็ต้องเก็บเงินไว้เพื่อเป็นสินสอดอีก ขายไปก็ยังมีเงินเลี้ยงดูลูกในท้องของเจ้า!”แม่นางหยางทนมิไหวอีกต่อไปแล้ว จึงพุ่งเข้าไปตบหน้าหยางซงอย่างแรงหยางซงถูกตบจนถอยหลังไปหลายก้าว ก็พลันโกรธขึ้นมาและพุ่งไปตบแม่นางหยางล้มลงกับพื้นเขากำลังจะยกขาขึ้นเตะแม่นางหยางตามความเคยชิน แต่หลี่ว์จงเจ๋อมิสามารถควบคุมความโกรธของตนได้แล้ว เขาพุ่งไปเตะที่ท้องหยางซงจนหยางซงกระเด็นออกไป“เจ้ามันสัตว์เดรัจฉาน มิเห็นหรือว่าภรรยาของเจ้ากำลังตั้งท้อง? หากยังกล้าตีนางอีก ข้าจะทุบตีสัตว์เดรัจฉานเยี่ยงเจ้าให้ตายเสีย!”หลี่ว์จงเจ๋อพุ่งเข้าไปอีกครั้งแล้วเตะหยางซงสองที แต่ก็ยังมิพอใจ ต่อยหยางซงไปอีกหลายหมัด“เจ้าหน้าที่ฆ่าคน!”แม่หยางปวดใจที่ลูกชายถูกทุบตี จึงกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งนางรีบรุดเข้าไปดึงผมของแม่นางหยางและทุบตีพลางดุด่านางด้วย “เจ้ากล้าตีลูกชายข้า ข้าก็จะทุบตีเจ้าให้ตายก่อนเสีย!”
หลิงอวี๋กับหลี่ว์จงเจ๋อต่างตกตะลึง พวกเขามิคาดคิดว่าแม่นางหยางจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้!“เร็วเข้า รีบพานางเข้าไป!”หลิงอวี๋มิสนใจหยางซงแล้ว นางกับหลิงซวนรีบแบกแม่นางหยางไปทันทีแต่เดิมทีแม่นางหยางก็กินยาของหมอเฝิงไปแล้วทำให้ทารกในครรภ์ไม่มั่นคง ตอนนี้นางก็โกรธมากจนทุบตีท้องตนเองอย่างไร้ความปรานีเช่นนี้อีกแม้ว่าหลิงอวี๋จะฉีดยารักษาการตั้งครรภ์ให้นาง แต่แม่นางหยางก็ยังพักไม่เกินครึ่งชั่วยามเลย ทารกหัวใจหยุดเต้นในท้องนางแล้วหลิงอวี๋รู้สึกกังวลมากจนพูดไม่ออก นางนิ่งอยู่นานก่อนที่จะบอกผลกับแม่นางหยางแต่แม่นางหยางกลับเอ่ยอย่างใจเย็น “โชคดีแล้วที่เด็กคนนี้มิได้เกิดมา จะได้ไปเกิดใหม่ในครอบครัวที่ดี!”“ข้ากับนิวนิวทนทุกข์ทรมานกันก็มากแล้ว! เรามิสามารถทำให้เขาทนทุกข์ได้อีก!”“พระชายาอ๋องอี้ ให้เขาส่งจดหมายขอหย่าให้ข้าเถิด ข้ามิต้องการสิ่งใดแล้วนอกจากนิวนิว!”หลิงอวี๋มองออกว่านี่คือสิ่งที่อยู่ในใจแม่นางหยางจริง ๆ แม้ว่าจะเสียดายที่เด็กในท้องของนางอายุได้หกเดือนแล้วแต่มิสามารถเกิดมาได้ แต่นางก็เคารพความคิดเห็นของแม่นางหยางหลังจากให้ยาแม่นางหยางแล้ว หลิงอวี๋ก็เดินออกมาแม่ลูกตระกูลหยาง
หลี่ว์จงเจ๋อเตรียมใจไว้แล้ว สถานการณ์ที่ท่านจินต้าวิเคราะห์นั้นเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นพวกหยางต้าหู่กล้าทำเรื่องที่ทรยศต่อแคว้นเช่นนี้ หากพบว่าเรื่องนี้ถูกเปิดเผย มีความเป็นไปได้ว่าเป็นสุนัขจนตรอก เวลานี้ทุกคนต้องร่วมมือกันจึงจะสามารถจัดการกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้“ลู่หนาน เจ้าไปเรียกพวกเฉาอี้แล้วระดมคนมาเฝ้ารอบ ๆ หออักษรอย่างเงียบ ๆ ปกป้องพระชายาอ๋องอี้กับคนอื่น ๆ ไว้”“แล้วส่งคนอีกกลุ่มออกจากเจ่าจวงไปช่วยพวกของท่านอ๋องอย่างเงียบ ๆ”“จริงสิ แม่ทัพหลี่ว์ สถานการณ์ในตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว เจ้าบอกว่าท่านลุงของเจ้าทำงานอยู่ภายใต้แม่ทัพกู่ใช่หรือไม่? เจ้าส่งคนสนิทไปแจ้งให้เขาเตรียมพร้อมที่จะมาช่วยเรา!”“ขอรับ!”หลี่ว์จงเจ๋อรู้ว่าสถานการณ์เร่งด่วน จึงรีบออกไปจัดสรรกำลังคนตามคำกำชับของท่านจินต้าดูภายนอกแล้วเจ่าจวงก็ดูเหมือนเดิม หลิงอวี๋กำลังยุ่งอยู่กับการช่วยเผยอวี้ ไม่รู้เลยว่าเวลาเจ่าจวงตกอยู่ในอันตรายรอบด้าน!เซียวหลินเทียนกับคนอื่น ๆ ใช้ทางอ้อมเดินทาง แต่คนของหยางหมิงกลับลงมาจากภูเขาด้านหลัง ซึ่งเป็นระยะทางที่สั้นกว่าพวกเซียวหลินเทียนหลี่ว์จงเจ๋อกับลู่หนานต่างอกสั่นขวัญแขวน คนจากแต่
หลิงอวี๋มิได้ตื่นตระหนก นางแค่รู้สึกว่าการกระทำของเซียวหลินเทียนนั้นมิเหมาะสมหลังจากได้ยินสิ่งท่านจินต้าบอก นางก็สงบลงพลางเอ่ย “การทดสอบเป็นเพียงการเคลื่อนไหวครั้งเดียว มีความเป็นไปได้อีกอย่าง คือพวกเขาแกล้งทำเป็นผู้ป่วยโรคระบาด เพราะอยากจับพวกเราไปข่มขู่ท่านอ๋อง!"“แต่แม้ว่าเราจะรู้แผนการร้ายของพวกเขา ก็ต้องปล่อยให้พวกเขาเข้ามา มิเช่นนั้นยิ่งอยากปกปิดก็จะกลายเป็นเปิดเผยออกไป!”ท่านจินต้าพยักหน้า ชื่นชมหลิงอวี๋ที่คิดถึงเรื่องนี้ได้ขึ้นมา“แต่หากให้พวกเขาเข้ามา เช่นนั้นความปลอดภัยของพระชายาจะทำเยี่ยงไรเล่า?”หลี่ว์จงเจ๋อเอ่ยอย่างกังวล “เรามิสามารถปล่อยให้ท่านกระโดดเข้าไปทั้งที่รู้ว่ามันเป็นกับดักได้หรอก!”หลิงอวี๋มองไปทางท่านจินต้า “ให้พวกเขาเข้ามาก่อนเถิด! ท่านอ๋องกับจ้าวซวนน่าจะกำลังกลับมาแล้ว พวกเราแค่ต้องถ่วงเวลาพวกเขาไว้สักพัก รอให้ท่านอ๋องกลับมาก็พอแล้ว!”“ตระกูลหยางคงแค่สงสัยว่ามีสายลับ ไม่มีหลักฐานอะไรพวกเขาก็มิกล้าทำอะไรบุ่มบ่ามหรอก เพราะว่าท่านอ๋องก็เป็นองค์ชาย มิใช่คนธรรมดาสามัญ!”“พวกเรามีกันตั้งหลายคน หากพวกเขาจะฆ่าพวกเรา เพียงส่งเสียงออกมาก็ดังมากแล้ว ข้าหลวงเว่ยโ
เมื่อหยางหมิงเห็นพระชายาอ๋องอี้มา ดวงตาของเขาก็เป็นประกายแล้วส่งสัญญาณให้คนของเขาหยุด“ท่านอ๋องอี้เล่า?” หยางหมิงมองไปข้างหลังพวกเขา เมื่อมิเห็นท่านอ๋องอี้ก็เอ่ยเสียงขรึม“เหตุใดท่านอ๋องอี้มิเสด็จมาเล่า? ตระกูลหยางให้ท่านใช้หออักษรโดยหาได้เรียกเงินไม่ ทั้งยังให้ข้าวปลาอาหาร ท่านอ๋องอี้ของพวกเจ้าหยิ่งผยองเช่นนั้นเลยหรือ?”เถาจื่อติดตามหลิงอวี๋มาเป็นเวลานาน รู้นิสัยของหลิงอวี๋อยู่แล้ว นางเลียนแบบน้ำเสียงของหลิงอวี๋พลางตะคอกด้วยความโกรธ“เจ้าเป็นใครกัน? กล้าดีเยี่ยงไรถึงพูดกับข้าเช่นนี้?”“ท่านอ๋องใช่คนที่เจ้าอยากจะเจอเมื่อใดก็ได้รึ? ตัวตนท่านอ๋องของเราเป็นเช่นไรกัน? แค่ผู้ป่วยไม่กี่คนก็อยากจะให้เขามารับด้วยตัวเองรึ?”“ข้าไว้หน้าพวกเจ้าเพราะข้ามีจิตใจดี มิต้องการให้คนไข้ต้องทนทุกข์ทรมานจึงมาด้วยตนเอง… เหตุใดกัน นี่ยังมิเพียงพออีกรึ? หรือว่าผู้ป่วยของพวกเจ้าสูงส่งยิ่งกว่าพระชายาเยี่ยงข้า?”หลิงอวี๋ฟังคำพูดของเถาจื่อแล้วอยากจะหัวเราะออกมา ท่าทีของเถาจื่อนั้นแข็งแกร่งมาก!“ผู้ใดบ้างที่เป็นคนไข้ ขึ้นมาให้นางรับใช้ของข้าตรวจดูเสีย หากได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อเราก็จะรับพวกเขาไว้รักษา!”
เมื่อเห็นมีดบนคอของเถาจื่อ หลี่ว์จงเจ๋อก็ตะคอกออกมาด้วยความโกรธ“หยางหมิง เจ้ามีความผิดแล้ว! พระชายาของเรามาตรวจพวกเจ้าด้วยเจตนาดี มิคิดเลยว่าพวกเจ้าจะคิดจับพระชายาเป็นตัวประกันไม่ว่าตั้งใจหรือจงใจจริง ๆ!”“พวกเจ้ามีเจตนาชั่วร้าย นี่คิดจะไปลอบสังหารท่านอ๋องรึ?”หยวนเจี้ยนตะโกนร่วมด้วย “พี่น้องทุกคน เราต้องมิปล่อยให้พวกเขาทำสำเร็จ! ทุกคนลุย!”องครักษ์ที่เขาพามาก็รีบพุ่งเข้ามา และหยางหมิงก็ตะโกนขึ้น “พวกเจ้ามิต้องการชีวิตของพระชายาอ๋องอี้แล้วใช่หรือไม่? หากกล้าก้าวเข้ามาอีกก้าวหนึ่ง พวกเราจะฆ่านางเสีย!”เถาจื่อจงใจปล่อยให้คนของหยางหมิงจับนางไว้ นางเองก็ร่วมมือด้วยเพราะหลิงอวี๋อยากให้หยางหมิงมีความผิดลอบสังหารพระชายาเมื่อเห็นว่าหยางหมิงจับตัวไป เถาจื่อก็แสร้งทำเป็นหวาดกลัวยืนไม่นิ่ง เซไปข้าง ๆ แล้วกรีดร้อง“ช่วยด้วย พวกเขาจะลอบสังหารข้า ช่วยด้วย ฆ่าพวกเขาที!”เถาจื่อจงใจให้โดนปลายมีดของผู้คุ้มกันตอนที่ล้มลง ที่คอจึงมีรอยเลือดปรากฏขึ้นขณะที่นางยังโซเซอยู่นั้นก็สะดุดเท้าของผู้คุ้มกันจนเขายืนไม่มั่นคงแล้วล้มลงเถาจื่อใช้โอกาสนี้เคลื่อนออกจากระยะการโจมตีของผู้คุ้มกันนั้นเมื่อหยว
“บังอาจ!”เสียงตะโกนดังขึ้นพร้อมกับเสียงกีบม้า ยังมิทันที่ทุกคนจะได้ตอบสนองอะไร ลูกธนูอันแหลมคมก็ยิงไปพร้อมเสียงที่ผ่านอากาศมาท่านจินต้ากำลังคิดว่าเขากำลังจะตาย แล้วก็รู้สึกได้ว่าเลือดสด ๆ สาดไปทั่วใบหน้าของตนเขาเงยหน้ามองก็เห็นว่าผู้คุ้มกันที่กำลังจะฆ่าตนมีลูกธนูปักอยู่ในดวงตาของเขา มันทะลุจากเบ้าตาไปทางด้านหลังหัว“หยางจื้อฟาง เจ้าจะก่อกบฏรึ? กล้าดีเยี่ยงไรมาฆ่าคนของข้า! ผู้ใดมันให้ความกล้าหาญนี้แก่เจ้า!”เซียวหลินเทียนควบม้ากีบขาวเข้ามาพลางยกดาบ เจ้าหน้าที่ทหารกับผู้คุ้มกันของตระกูลหยางที่วิ่งเข้ามาอยู่ด้านหน้าสุดก็ล้มลงไปทีละคน“ทุกคนหยุด ใครกล้าลงมืออีกจะถือว่าเป็นการกบฏ และจะถูกสังหารทั้งหมด!”เสียงตะโกนของเซียวหลินเทียนดังก้องไปทั่วฟ้า พร้อมด้วยหัวมนุษย์ที่เปื้อนเลือดบนปลายดาบของเขา ทำให้คนที่อยู่ในที่นั้นนิ่งค้างไปทันทีทันทีที่หยางจื้อฟางเห็นเซียวหลินเทียนปรากฏตัว ก็รู้เลยว่าแผนของพวกเขาล้มเหลวหยางจื้อฟางตะโกนทันที “หยุด!”ทั้งสองฝ่ายที่กำลังต่อสู้กันต่างหยุด และมองเซียวหลินเทียนอย่างต่างคนต่างคิดคนที่อยู่ฝั่งของหลี่ว์จงเจ๋อถอนหายใจโล่งอก ท่านอ๋องอี้มาถึงทันเวลา