โรงเก็บของนี้เชื่อมต่อกับศาลาฟางหลายหลัง หากถูกไฟไหม้ขณะที่นอนหลับในตอนกลางคืน เช่นนั้นผู้ลี้ภัยที่อาศัยอยู่ในศาลาฟางข้าง ๆ ก็จะไม่สามารถหลบหนีไปได้ไม่ใช่หรือ?ทันทีที่หลิงอวี๋เห็นก็โกรธจนเส้นเลือดบนหน้าผากปูดขึ้นมา!พระชายาเว่ยอยากแก้แค้นจ้าวเจินเจิน นั่นมันเป็นความแค้นระหว่างพวกนางทั้งสองคน แต่เรื่องเลวร้ายเช่นการที่จะเผาผู้ลี้ภัยแล้วใช้ความตายของพวกเขามาใส่ร้ายเซียวหลินเทียนนั้นนางทนไม่ได้!เมื่อนึกถึงผู้ลี้ภัยเหล่านี้ที่ต้องตายไปอย่างอยุติธรรมในวันนี้ หลิงอวี๋ก็ยิ่งโกรธแค้นทั้งเรื่องเก่าเรื่องใหม่!เพียงแต่ไม่มีหลักฐาน หากจะไปกล่าวหาพระชายาเว่ยเช่นนี้ หลิงอวี๋ไม่จำเป็นต้องคิดก็รู้แล้วว่ามันเปล่าประโยชน์!ได้ ในเมื่อข้าไม่สามารถฆ่าเจ้าได้ เช่นนั้นเจ้าก็ใช้เงินมาชดเชยความผิดพลาดที่เจ้าทำเสียเถิด!หลิงอวี๋นึกถึงที่ช่วงนี้ท่านหญิงจ่างหนิงของครอบครัวพระชายาเว่ยนอนหลับไม่สบายเพราะมีอาการปวดหัวอยู่ตลอด ก็ยิ้มอย่างเย็นชาแล้วก็มีแผนในใจอยู่แล้วคราวนี้หากพระชายาเว่ยไม่ควักเงินก้อนจำนวนมากออกมาช่วยเหลือผู้ลี้ภัย ก็อย่ามาเรียกนางว่าสกุลหลิงเลย!กระทั่งตรวจสอบอย่างละเอียดจนไม่พบว่ามีอั
หลิงอวี๋รู้สึกว่าเป็นเรื่องยากที่จะบอกสิ่งที่ทำกับองค์ชายคังไว้เมื่อครั้งที่แล้ว จึงไม่ได้บอกเซียวหลินเทียนในเวลานี้เมื่อเห็นใบหน้าสับสนของเซียวหลินเทียน จึงอดไม่ได้ที่จะเล่าเรื่องทั้งหมดให้เขาฟังเซียวหลินเทียนฟังแล้วก็หน้าแดงหูแดง แล้วก็รู้แล้วว่าเหตุใดหลิงอวี๋จึงมั่นใจถึงเพียงนั้นว่าจ้าวเจินเจินมิได้ตั้งครรภ์!“หม่อมฉันเลวร้ายมากใช่หรือไม่?”หลิงอวี๋พูดเรื่องนี้ออกไปแล้วก็ยังคงกังวลอยู่ในใจเล็กน้อยความสัมพันธ์ระหว่างนางกับเซียวหลินเทียนผ่อนคลายลงแล้ว นางไม่อยากให้ทั้งสองต้องเหินห่างกันอีกเพราะเรื่องนี้!เซียวหลินเทียนพยักหน้า พลางเอ่ยด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “อืม ค่อนข้างเลวร้ายทีเดียว!”หัวใจของหลิงอวี๋จึงมืดมนลงเป็นดังที่คาด เซียวหลินเทียนก็ไม่ต่างจากบุรุษทั่วไปที่ล้วนชอบสตรีหน้าซื่อใจคดอย่างจ้าวเจินเจิน!“แต่ข้าเคยบอกแล้วมิใช่หรือ? ว่าข้าชอบสตรีเลวร้าย!”เซียวหลินเทียนเพิ่มประโยคหลังมาอย่างช้า ๆหลิงอวี๋จ้องเขาทันที บุรุษผู้นี้ไม่ได้แก่เสียหน่อย จะพูดจะจาต้องหยุดพักหายใจด้วยหรือ?พูดให้มันจบรวดเดียวจะตายหรือไร?เซียวหลินเทียนมองสีหน้าของหลิงอวี๋เปลี่ยนไปอย่างขำขัน และท
“ช่างเถิด!”หลิงอวี๋ส่ายหัว ตอนนี้นางรู้สึกรังเกียจการหลอกกันไปมาของราชวงศ์มาก“พระชายาเว่ยกล้าทำเรื่องเช่นนี้โดยไม่ถูกท่านอ๋องจับได้ เหตุใดจึงต้องเสียเวลาของท่านอ๋องเฉิงเล่าเพคะ!”“เรามาใช้วิธีของเราเองทวงความยุติธรรมให้กับผู้ลี้ภัยกันเถิด! พระชายาเว่ยกับพระชายาคังร่ำรวยมากมิใช่หรือ? เช่นนั้นก็มาคุยกันเรื่องเงินดีกว่า! หม่อมฉันอยากรู้ว่าพวกนางมีเงินเท่าใดถึงได้ผ่านความยากลำบากมาได้!”เซียวหลินเทียนเงียบไปสักพักแล้วหัวเราะเยาะพลางเอ่ย “เจ้าพูดถูก เงินคือความมั่นใจของพวกเขา! หากไม่มีเงิน พวกเขาคงมิกล้าหยิ่งผยองเช่นนี้!”“รอข้าส่งคนไปตรวจสอบเส้นทางการเงินของพวกเขาเสียก่อน ข้าจะตัดเส้นทางเงินแล้วกำจัดความเย่อหยิ่งของพวกเขาให้หมดสิ้น!”“หม่อมฉันสนับสนุนท่านอ๋องเพคะ!”หลิงอวี่ยิ้มพลางเอ่ย “หากหม่อมฉันช่วยได้ก็บอกหม่อมฉันได้เสมอ!”“เอาเถอะ เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ท่านไปพักผ่อนเถิดเพคะ หม่อมฉันก็จะกลับไปพักผ่อนแล้ว!”หลิงอวี๋หาวแล้วเดินออกไปข้างนอก“หลิงอวี๋...”เซียวหลินเทียนเรียกทันที“มีอะไรอีกหรือเพคะ?” หลิงอวี๋หันกลับมาเซียวหลินเทียนอ้าปากแล้วโบกมือ “ไม่มีอะไร เจ้าไปพักผ่อนเถอ
ดังที่หลิงอวี๋บอก คนทำโจ๊กหนึ่งวันไม่ถือว่าเป็นคนดี แต่คนที่ยืนหยัดได้เป็นเวลาเกือบเดือนต่างหากถึงจะนับว่าเป็นคนดีอย่างแท้จริงแม้ว่าพระชายาผิงหนานและเพื่อน ๆ จะไม่ได้ออกไปแจกโจ๊กด้วยตนเอง แต่พวกเขาก็จัดให้คนรับใช้ออกไปแจกโจ๊กทุกวันและยืนหยัดทำเช่นเดิมเสมอด้วยความช่วยเหลือจากคนดี ๆ อย่างเช่นเซียวหลินเทียนกับพระชายาผิงหนานที่ห่วงใยผู้ลี้ภัยอย่างแท้จริง ผู้ลี้ภัยเหล่านั้นจึงได้ตั้งถิ่นฐานใหม่อย่างดีหลิงอวี๋ไปเปลี่ยนยาให้ผู้ลี้ภัยที่ได้รับบาดเจ็บทุกวัน การกระทำเช่นนี้ก็ได้รับคำชมจากผู้ลี้ภัยจำนวนมากเช่นกันแม้ว่าจ้าวเจินเจินจะอยู่ตำหนักเพื่อ “รักษาการตั้งครรภ์” แต่ก็รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับภายนอกนางเกลียดคำชมที่หลิงอวี๋ได้รับแต่ตนเองเพิ่งก่อหายนะครั้งใหญ่ไป จึงไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามแม้ว่าองค์ชายคังจะรอดพ้นจากการถูกลงโทษ แต่ชื่อเสียงของเขาก็เสียหายไปแล้ว จึงยิ่งรังเกียจจ้าวเจินเจินมากขึ้นไปอีก ความสัมพันธ์ของสองสามีภรรยาจึงอยู่ในจุดเย็นชาต่อกันความคิดในการแกล้งทำเป็นตั้งครรภ์ในครั้งนี้มาจากคำแนะนำของพระชายาเส้า แต่เพราะเหตุนี้พระชายาเส้าจึงส่งคนมาตำหนิเช่นกันแม่นมคนสนิทที่พระชาย
ข่าวลือร้อนฉ่าดังกล่าวแพร่กระจายไปทั่วสารทิศในทันทีบรรดาญาติของหมอเหล่านั้นต่างก็รีบรุดไปหาผู้ว่าราชการมณฑล ร้องไห้อ้อนวอนขอให้แม่ทัพเฉินช่วยคืนความยุติธรรมให้หลังจากเกิดความโกลาหลขึ้น ไม่เพียงแต่คนทั่วไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ แต่ขุนนางหลายคนก็รู้เรื่องนี้ด้วยทุกคนจึงมององค์ชายคังด้วยสายตาที่แปลกไปองค์ชายคังมิได้แตะต้องพระชายาคัง แต่พระชายากลับตั้งครรภ์ แสดงว่าเด็กคนนี้เป็นลูกนอกสมรสน่ะสิ?องค์ชายคังเป็นคนสุดท้ายที่ทราบข่าวลือเหล่านี้ หัวใจของเขาเต้นไม่เป็นจังหวะ แค่เรื่องก่อนหน้าพระชายาเส้าก็ไม่พอใจมากอยู่แล้วเห็นได้ชัดว่าจ้าวเจินเจินมิได้ตั้งครรภ์ ทว่าท่านแม่สั่งให้นางแกล้งทำเป็นตั้งครรภ์เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกลงโทษแต่ตอนนี้ดันมีข่าวลือเช่นนี้แพร่ออกไปอีก แล้วจะกู้หน้ากลับมาได้อย่างไร!ฮองเฮาเว่ยแค้นใจมานานแล้วที่จ้าวเจินเจินวางแผนเรื่องอุบัติเหตุรถม้า ทำให้จ่างหนิงหลานสาวสุดที่รักของนางได้รับบาดเจ็บตอนแรกคิดว่า เหตุซาลาเปาในครั้งนี้จะทำให้จ้าวเจินเจินและองค์ชายคังได้รับบทลงโทษ แต่คาดมิถึงว่าจ้าวเจินเจินจะใช้ข้ออ้างที่ตนตั้งครรภ์จนรอดพ้นจากการถูกลงโทษไปได้!ช่วงนี้นาง
เมื่อหลิงอวี๋ได้ยินว่าเกิ่งเสี่ยวหาวกำลังมา นางก็ทิ้งเซียวหลินเทียนไปหาเกิ่งเสี่ยวหาวที่เรือนบุหงาเซียวหลินเทียนรู้สึกมิพอใจเล็กน้อยที่จนถึงทุกวันนี้เจ้าน้องชายหลิงอวี๋มักจะเมินเขาเขามาถึงตำหนักอ๋องอี้แต่กลับมิได้มาพบเจ้าของตำหนักเช่นเขา ทว่าขอพบเพียงหลิงอวี๋ทันทีที่หลิงอวี๋ได้ยินว่าอีกฝ่ายกำลังจะมา นางก็มิสนใจเขาและรีบวิ่งไปทั้งอย่างนั้นผลก็คือหลิงอวี๋กลับมาอย่างมีความสุขหลังจากหายไปนานกว่าครึ่งชั่วยาม“เซียวหลินเทียน นี่คือตั๋วเงินของท่าน! หม่อมฉันคืนให้เพคะ! หม่อมฉันให้ดอกเบี้ยพิเศษท่านเพิ่มอีกห้าหมื่นด้วยเพคะ!”หลิงอวี๋ยื่นตั๋วเงินหลายใบให้กับเซียวหลินเทียนเซียวหลินเทียนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง นี่มันหมายความว่าอย่างไร?“ก็ครั้งก่อนตอนวันเกิดของหม่อมฉันท่านให้ตั๋วเงินมาสองแสน ตอนนี้หม่อมฉันก็นำมาคืนให้กับเจ้าของเดิมแล้ว! เซียวหลินเทียน ขอบพระทัยสำหรับความช่วยเหลือของท่านเพคะ!”หลิงอวี๋ยัดตั๋วเงินใส่มือของเซียวหลินเทียนแล้วพูดด้วยรอยยิ้มที่สดใส“วันนี้หม่อมฉันอารมณ์ดี ครั้งก่อนเสี่ยวห่าวชวนพวกท่านไปทานอาหารที่ภัตตาคารจี๋เสียง หม่อมฉันขอให้เขาเตรียมงานเลี้ยงไว้แล้ว!”“อีก
เซียวหลินเทียนตั้งใจฟัง แผนดังกล่าวเป็นแผนที่ใหญ่มากจริง ๆ ทุกขั้นตอนจะต้องคำนวณตามความคิดของอีกฝ่ายและปฏิกิริยาที่คาดว่าพวกเขาจะแสดงออกมาเมื่อคิดว่าหลิงอวี๋สามารถชนะที่หนึ่งในการแข่งขันหมากรุกได้ เซียวหลินเทียนก็รู้ว่าหลิงอวี๋มิได้คิดแผนนี้แบบสุ่มสี่สุ่มห้า“จากนั้น เศรษฐีเหล่านั้นก็ซื้อหยกราวกับว่าพวกเขาไม่รู้คุณค่าของสินค้า เพียงแค่ชอบอวด ตระกูลจ้าวเห็นว่าเศรษฐีเหล่านี้โง่เขลาและมีเงินมาก พวกเขาจึงต้องการจะโกงลูกค้า!”“ด้วยวิธีนี้ ตระกูลจ้าวจึงค่อย ๆ ตกสู่หลุมพราง ลูกค้าเศรษฐีพวกนั้นพักอยู่ระยะหนึ่ง หลังจากสั่งหยกชุดหนึ่งมูลค่าเกือบสองล้าน พวกเขาต้องรีบกลับเนื่องจากมีเหตุฉุกเฉินกะทันหันที่บ้าน”“จากนั้นพวกเขาก็อ้างว่าพวกเขามีเงินไม่เพียงพอ และระหว่างทางก็จะนำสินค้าจำนวนหนึ่งไป เนื่องจากไม่มีเงินทุน พวกเขาจึงนำหยกและบ้านทั้งหมดที่พวกเขาซื้อเป็นหลักประกันเพื่อยืมตั๋วเงินจำนวนแปดแสนนำเงินมาหมุนเวียน!”“ตระกูลจ้าวคิดว่าพวกเขาจะต้องกลับมารับหยกมูลค่าสองล้านที่สั่งไว้ อีกทั้งหยกที่พวกเขาซื้อก่อนหน้านี้มีมูลค่าหลายแสน พวกเขาไม่อยากให้การค้าขายครั้งใหญ่นี้หลุดมือไป สุดท้ายจึงให้ยืมเงิ
เมื่อหลิงอวี๋และเซียวหลินเทียนรีบไปที่วังหลวง ก็มีคนหลายคนอยู่ในห้องทรงอักษรแล้วหลี่ว์เซียง จ้าวหุย ท่านอ๋องเฉิง องค์ชายคังและองค์ชายเว่ย รวมถึงฉินซานและเผยอวี้ต่างก็มาด้วยหลิงอวี๋และเซียวหลินเทียนโค้งคำนับจักรพรรดิอู่อัน“โรคระบาดขนาดใหญ่เกิดขึ้นที่ชายแดน ข้าอยากจะส่งคนไปช่วยหยุดยั้งโรคระบาด หลิงอวี๋ เจ้ามีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม เจ้าพาหมอสักสองสามคนไปช่วยด้วยก็ดี!”เซียวหลินเทียนสะดุ้ง แม้เขาจะเดาได้ระหว่างทางมาที่นี่ว่า ที่เสด็จพ่อเรียกหลิงอวี๋เข้าวังเพราะโรคระบาด แต่เขาไม่คาดคิดว่าเสด็จพ่อจะส่งหลิงอวี๋ไปที่แนวหน้าโต้ง ๆ เช่นนี้หลิงอวี๋เติบโตขึ้นมาในเมืองหลวงตั้งแต่นางยังเป็นเด็กและไม่เคยเดินทางไกลเลย นางจะสามารถทนต่อความยากลำบากระหว่างทางได้หรือ?เซียวหลินเทียนกำลังจะออกตัวว่าเขาจะไปกับหลิงอวี๋เมื่อเห็นองค์ชายคังมองมาอย่างเย็นชา เซียวหลินเทียนก็รู้ได้ทันทีว่า นี่ต้องเป็นความคิดขององค์ชายคังแน่นอนเขาจึงใจเย็นลงเพื่อจะดูว่าองค์ชายคังจะเสนอความคิดที่ไม่เข้าท่าอะไรออกมาอีกแต่มิคาดว่าจะเป็นองค์ชายเว่ยที่เอ่ยขึ้นก่อน เขารายงานบางอย่างที่แปลก ๆ ออกมา“เสด็จพ่อ หากพระช
รองแม่ทัพจางยังคงกล่าวพลางยิ้มแย้ม “ท่านหญิงฉางเล่อมามิถูกจังหวะ วันนี้ฮองเฮาพร้อมด้วยท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นพาคุณชายน้อยทั้งหลายเสด็จไปชมดอกไม้ที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์พ่ะย่ะค่ะ!”ว่ากระไรนะ?หลงเพ่ยเพ่ยนิ่งอึ้งไป ท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นล้วนเป็นธิดาของเจ้าแห่งทะเล และเป็นลูกพี่ลูกน้องของหลงเพ่ยเพ่ยด้วยเหตุใดพวกนางถึงมิไปชมดอกไม้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้เล่า แต่กลับเลือกไปชมดอกไม้ในตอนที่ตนต้องการความช่วยเหลือจากเสด็จย่าพอดีนี่น่ะหรือ?“ไปนานเท่าใดแล้ว?”หลงเพ่ยเพ่ยสงสัยว่านี่เป็นการจัดฉากโดยเจตนาของชายาเจ้าแห่งทะเล“สองชั่วยามแล้วพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้น่าจะอยู่ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์แล้วขอรับ!”รองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้มหลงเพ่ยเพ่ยอยากจะชกหน้ายิ้ม ๆ ของรองแม่ทัพจางเสียสักหมัด เหตุใดนางมองรอยยิ้มของรองแม่ทัพจางแล้วเหมือนกำลังสมน้ำหน้าตนอยู่เลยเล่า“เจ้ามิได้หลอกข้าใช่หรือไม่?”หลงเพ่ยเพ่ยถามเสียงเย็นรองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้ม “ท่านหญิงฉางเล่อพูดเล่นแล้ว ไหนเลยข้าน้อยจะกล้าหลอกท่านหญิง! หากมิเชื่อท่านลองถามใครดูก็ได้ว่าที่ข้าน้อยพูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่!”“หากท่านหญิงมีธุระด่วนจร
หลิงอวี๋ฟังแล้วก็อดอมยิ้มมิได้ เซียวหลินเทียนใช้คนตระกูลเก๋อมาจัดการชายาเจ้าแห่งทะเล กลอุบายนี้ช่างเด็ดขาดนักรถม้ามาถึงจวนเจ้าแห่งทะเล เมื่อหลิงอวี๋ลงจากรถก็มองไปยังคฤหาสน์หลังใหม่ที่กำลังก่อสร้างอีกครั้ง กำแพงล้อมรอบสร้างเสร็จแล้ว ดูจากขนาดแล้วใหญ่โตมากจริง ๆนางอดสงสัยมิได้ ข้างในมีเรือนบุหงาแบบเดียวกับตำหนักอ๋องอี้ของตนอย่างที่เถาจื่อบอกจริงหรือ?นางอยากเข้าไปดู อยากเห็นเหลือเกินว่าบ้านในอดีตของตนเป็นอย่างไร!“คุณหนูสิง เชิญ!”พ่อบ้านเว่ยเห็นหลิงอวี๋มองคฤหาสน์ฝั่งตรงข้ามก็ร้องเรียกอย่างมิอดทนหลิงอวี๋หันกลับมา เห็นประตูใหญ่หนาทึบของจวนเจ้าแห่งทะเลเปิดอ้าอยู่ ข้างในลานเรือนซับซ้อนลึกล้ำ มองสุดตามิเห็นปลายทางนี่คือที่ที่เต็มไปด้วยอันตรายโดยแท้!หลิงอวี๋ลอบสูดหายใจลึก ๆ แล้วเดินเข้าไป“ปัง!”ประตูใหญ่หนาทึบปิดลงด้านหลังนางหลิงอวี๋มิได้หันกลับไปมอง เพราะนั่นจะดูมิสง่างามนางรอให้พ่อบ้านเว่ยนำทางอยู่ข้างหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินผิดทางแล้วถูกพ่อบ้านเว่ยหาเรื่องผิดพลาดมาตำหนิขณะเดียวกัน หลงเพ่ยเพ่ยก็ได้พาเย่หรงมุ่งหน้าไปยังวังหลวงแล้ว“อุบายนี้ของชายาเจ้าแห่งทะเลช่างร้า
จวนเจ้าแห่งทะเลตั้งอยู่ในย่านคหบดีและสูงศักดิ์ของเมืองหลวงแดนเทพ อันที่จริงอยู่ห่างจากคฤหาสน์อู่เพียงมิกี่ช่วงถนนเท่านั้นรถม้าวิ่งไปตามทางเรื่อย ๆ เถาจื่อพลันนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงกระซิบข้างหูหลิงอวี๋เบา ๆ“คุณหนู อีกประเดี๋ยวท่านจะเห็นคฤหาสน์หลังใหญ่ที่กำลังสร้างอยู่ตรงข้ามจวนเจ้าแห่งทะเล ที่นั่นฝ่าบาททรงสร้างให้ท่านเจ้าค่ะ!”“คราแรกที่พวกเรามาตามหาท่านในเมืองหลวงแดนเทพนั้นมิรู้ว่าจะต้องเสียเวลานานเท่าใด ฝ่าบาทจึงทรงให้สือหรงซื้อคฤหาสน์แถวนี้ไว้ล่วงหน้าแล้วรื้อสร้างใหม่ทั้งหมด!”“ฝ่าบาทตรัสว่า เจ้าแห่งทะเลคือบิดาของท่าน ในเมื่อเขามิยอมรับท่าน ฝ่าบาทก็จะทำให้เขาเห็นว่า ใช่ว่าท่านไม่มีบ้านเสียหน่อย แม้จวนเจ้าแห่งทะเลไม่มีที่ให้ท่าน ฝ่าบาทก็จะสร้างจวนหลังที่ใหญ่กว่าจวนเจ้าแห่งทะเลให้!”“คุณหนู ข้างในมีเรือนหลังหนึ่ง สร้างตามแบบเรือนบุหงาที่ตำหนักอ๋องอี้ในฉินตะวันตกของท่านไม่มีผิดเพี้ยน หากท่านได้เห็นจะต้องชอบอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ!”ก่อนหน้านี้หลิงอวี๋เคยได้ยินเผยอวี้พูดถึงคฤหาสน์หลังใหม่ที่พวกเขาสร้างแล้ว ตอนนั้นยังรู้สึกแปลกใจว่าเซียวหลินเทียนคิดจะอยู่เมืองหลวงแดนเทพเป็นการถาวรหรืออย่
วิธีนี้ของหลิงอวี๋เป็นวิธีเดียวที่จะช่วยนางได้ในยามนี้ ด้วยเซียวหลินเทียนและคนอื่น ๆ ก็ยังคิดหาวิธีที่ดีกว่านี้มิออกเย่หรงกล่าวขึ้นทันที “ข้าจะไปหาหลงเพ่ยเพ่ย บอกนางมิต้องมาแล้ว ให้เข้าวังไปทูลขอเข้าเฝ้าฮองเฮาได้เลย!”“พี่หญิงหลิงหลิง ท่านต้องยื้อจนกว่าพวกเราจะมาช่วยท่านให้ได้นะ!”พูดจบ เย่หรงก็รีบร้อนออกไปเก๋อเฟิ่งฉิงมองหลิงอวี๋ด้วยสายตาซับซ้อน นางหวังให้หลิงอวี๋เข้าจวนเจ้าแห่งทะเลไปแล้วออกมามิได้แต่เรื่องนี้ก็พัวพันถึงความเป็นความตายของเซียวหลินเทียน นางมิอยากให้เซียวหลินเทียนต้องเกิดเรื่อง!ช่างขัดแย้งในใจเสียจริง!“อาอวี๋ เจ้าไปก่อนเถอะ... วางใจได้ ต่อให้ต้องก่อความวุ่นวายครั้งใหญ่ในเมืองหลวงแดนเทพ ข้าก็จะพาเจ้ากลับบ้านให้ได้!”เซียวหลินเทียนกล่าวอย่างหนักแน่นเขายังมีแผ่นป้ายไม้ที่ขันทีโม่ให้มา สามารถใช้ขอความช่วยเหลือจากแม่ทัพฝ่ายซ้ายได้ เซียวหลินเทียนตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะใช้แผ่นป้ายไม้นี้ช่วยหลิงอวี๋ขันทีโม่เคยบอกว่า เพียงอาศัยแผ่นป้ายไม้นี้ ก็สามารถทำให้แม่ทัพฝ่ายซ้ายช่วยตนทำเรื่องหนึ่งเรื่องได้หากแม่ทัพฝ่ายซ้ายสามารถช่วยคนได้เพียงคนเดียว เช่นนั้นเขาก็ยอมตายเ
เผยอวี้และคนอื่น ๆ ต่างมองหน้ากันอย่างจนปัญญา นึกว่ามหาปราชญ์และเจ้าแห่งทะเลกลับไปแล้วพวกตนจะรอดพ้นจากครั้งนี้ไปได้ คาดมิถึงว่าชายาเจ้าแห่งทะเลจะใช้ไม้นี้อีกภายนอกดูเหมือนเป็นการเชิญ แต่จริง ๆ แล้วจะปฏิเสธมิไปได้หรือ?เซียวหลินเทียนสามารถแสร้งป่วยได้ แต่หลิงอวี๋เพิ่งจะปรากฏตัวต่อหน้าเจ้าแห่งทะเลไปเมื่อครู่ ตอนนี้ย่อมมิอาจใช้การแสร้งป่วยมาหลีกเลี่ยงได้อีกแล้ว“บอกไปว่าคุณหนูสิงกำลังรักษาอาการป่วยให้ข้าอยู่ เดี๋ยวค่อยไป!”ในสถานการณ์กะทันหันเช่นนี้เซียวหลินเทียนทำได้เพียงถ่วงเวลาไปก่อนแล้วค่อยคิดหาวิธี“เผยอวี้ เจ้าส่งคนไปแจ้งหลงเพ่ยเพ่ยกับเจ้าแห่งทิศใต้ ให้หลงเพ่ยเพ่ยไปเป็นเพื่อนอาอวี๋!”เป็นเรื่องความเป็นความตายของหลิงอวี๋ เผยอวี้รีบให้คนไปแจ้งหลงเพ่ยเพ่ยทันทีหลิงอวี๋นิ่งเงียบ นั่งคิดอยู่ข้าง ๆเพื่อชิงหยกหล้าสุขาวดีกลับคืนมา ในเวลานั้นชายาเจ้าแห่งทะเลสามารถลงมืออำมหิตกับหลานฮุ่ยจวนที่กำลังตั้งครรภ์ได้ครั้งนี้นางส่งพ่อบ้านมาเชิญตนไปจวนเจ้าแห่งทะเล พูดไปพูดมาก็เพื่อหยกหล้าสุขาวดีบนตัวนางนั่นเองส่วนการที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาได้นั้นต้องใช้วิธีสลายโลหิตละลายกระดูก หรือว่าช
หลิงอวี๋เดินกลับเข้ามา และบังเอิญได้ยินคำพูดของเย่ซงเฉิงเข้าพอดี“พวกเราต้องเตรียมรับมือสำหรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด หากหวงฝู่หลินกลับไปแล้ว มิสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ถึงกาลนั้นใครจะมารับมือการแก้แค้นของฝูไห่ต่อตระกูลหลงและตระกูลอื่น ๆ อีกหลายตระกูลเล่า?”เจ้าแห่งทิศใต้มองไปยังเย่หรง และกล่าวเสียงเข้ม “เลี่ยวหงเสีย มารดาของเย่หรงอาจจะรู้วิธี!”“ปรมาจารย์เย่ ก่อนหน้านี้ข้าอยากจะพบเลี่ยวหงเสียเพื่อสอบถามสถานการณ์จึงไปที่คุกน้ำมา แต่ข้ากลับมิสามารถพบนางได้!”“คำกล่าวของท่านมีน้ำหนักเมื่ออยู่ต่อหน้าพระพักตร์เสด็จพ่อ บางทีท่านอาจจะสามารถทูลขอเสด็จพ่อให้ทรงอนุญาตท่านเข้าพบเลี่ยวหงเสียได้!”เย่ซงเฉิงขมวดคิ้ว “เจ้าแห่งทิศใต้ก็มิสามารถพบเลี่ยวหงเสียได้เช่นกันหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เจ้าแห่งทิศใต้พยักหน้า “แม่ทัพหลี่ผู้เฝ้าประตูบอกว่า นอกเสียจากจะมีพระราชโองการของมหาเทพ มิฉะนั้นก็มิอนุญาตให้ข้าพบเลี่ยวหงเสีย!”เย่ซงเฉิงยิ้มอย่างขมขื่น “เรื่องนี้ข้าน้อยเคยทูลต่อเสด็จพ่อของท่านแล้ว เสด็จพ่อของท่านมิทรงยินยอม ความนับหน้าถือตาของตาเฒ่าผู้นี้ใช้มิได้ผลต่อหน้าพระพักตร์เสด็จพ่อของท่านแล้ว!”ทุกคนต่
หวงฝู่หลินมิรู้จักคนทั้งสองนี้เลย คิดอยู่ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “ตอนนั้นนอกจากพวกท่านกับตระกูลเฉียวแล้ว ก็มีคนของตระกูลจงเจิ้งที่เข้าไปในภูเขาหิมะ ข้ามิเห็นคนทั้งสองที่ท่านพูดถึงในภูเขาหิมะ!”“บางทีปี้ซงอาจจะเคยเห็น เดี๋ยวลองเรียกเขามาถามดู!”เผยอวี้จึงไปเรียกปี้ซงมาอีกครั้งปี้ซงอุ้มหวงฝู่หมิงจูเข้ามา หลิงอวี๋ก็รับนางมาอุ้มไว้เซียวหลินเทียนมองหวงฝู่หมิงจูกอดคอหลิงอวี๋ด้วยท่าทางสนิทสนม ในใจรู้สึกซับซ้อนอย่างบอกมิถูกหวงฝู่หลินเล่าคำถามให้ปี้ซงฟังอีกครั้งปี้ซงคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “ชายชราผู้นั้นข้าพอจำได้ราง ๆ ตอนนั้นเขาเดินวนเวียนอยู่ในภูเขาหิมะอยู่หลายวัน ต่อมาก็จากไป ข้าคิดว่าเขาไม่มีอันตรายอะไรจึงมิได้ใส่ใจ!”“ส่วนแม่นมอู ข้าไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับนางเลย มิเคยเห็นนางในภูเขาหิมะ!”เก๋อเฟิ่งฉิงยืนฟังอยู่ข้าง ๆ ตลอด ได้ยินดังนั้นก็กล่าวว่า “อันที่จริงตอนนั้นที่ภูเขาหิมะ นอกจากพวกเราแล้ว น่าจะยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่ง”“ข้าก็มาพบพวกนางหลังจากลงจากเขาแล้ว ตอนนั้นยังคิดว่าพวกนางแค่ผ่านทางมา แต่พอลองคิดดูตอนนี้ พวกนางต้องเคยไปภูเขาหิมะแน่นอน แม่นมอูน่าจะถูกพวกนางพาตัวไป!”“พวกเข
เมื่อฟังคำพูดของเย่ซงเฉิงจบ หลิงอวี๋ หลงเพ่ยเพ่ยและเผยอวี้ก็ร้องอุทานออกมาพร้อมกัน“เจ้าสำนักซิงหลัวเป็นสตรี! หรือว่านางคือตงกู่อวี้ที่กลับชาติมาเกิด?”หวงฝู่หลินก็นึกขึ้นได้ ตอนที่ทุกคนรุมล้อมโจมตีเจ้าสำนักซิงหลัว เผยอวี้ใช้กระบี่เดียวตัดเชือกรัดผมที่มัดผมของเจ้าสำนักซิงหลัวขาดตอนนั้นผมสลวยของนางสยายลงมาบดบังดวงตาของนางทุกคนมัวแต่ยุ่งอยู่กับการรับมือ จึงมิทันได้คิดให้ลึกซึ้งเมื่อเย่ซงเฉิงพูดเช่นนี้ ทุกคนจึงได้นึกถึงสภาพการณ์ในยามนั้นขึ้นมา“ตงกู่อวี้กลับชาติมาเกิดจริง ๆ หรือ?”ในฐานะลูกหลานตระกูลหลง เจ้าแห่งทิศใต้จะมิรู้ได้อย่างไรว่าในใต้หล้านี้มีวิชาลับเช่นนี้อยู่จริง ทันใดนั้นก็ตกใจจนเหงื่อเย็นไหลซึมหลงจิ้งและหลงเพ่ยเพ่ยก็ตกใจเช่นกัน วรยุทธ์ของสตรีนางนั้นสูงส่งกว่ามหาปราชญ์เสียอีก แต่ก่อนหน้านี้พวกเขามิเคยรู้มาก่อนเลยว่าสำนักซิงหลัวยังมียอดฝีมือเช่นนี้อยู่“ท่านพ่อ ยามนั้นเจ้าวังหวงฝู่พร้อมด้วยท่านเซียวและพวกเราช่วยกันรุมล้อมโจมตีนางก็ยังมิสามารถสังหารนางได้ ลูกดูจากวรยุทธ์ของนางแล้ว เกรงว่าจะมีเพียงท่านอาเจ้าแห่งทะเลเท่านั้นที่พอจะต่อกรกับนางได้!”หลงเพ่ยเพ่ยกล่าวด้วย
หลงจิ้งยังคงยากที่จะเชื่อ “คำพูดของตระกูลเหล่านั้นก็มิได้ผลหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เจ้าแห่งทิศใต้ส่ายหน้าอย่างหดหู่ “เสด็จปู่ของเจ้าตรัสว่าจะตรวจสอบให้ จึงส่งเจ้าแห่งทะเลไปตรวจสอบ แต่ผลที่ได้จากเจ้าแห่งทะเลก็มิสามารถสรุปอะไรได้เลย หรือกระทั่ง...”กระทั่งเจ้าแห่งทะเลอาจจะใช้ขี้ผึ้งหอม ควบคุมบุตรหลานของตระกูลใหญ่เหล่านั้นไว้ในมือตนเอง!เซียวหลินเทียน หลงจิ้งและหลิงอวี๋ต่างก็เข้าใจความหมายที่เจ้าแห่งทิศใต้ยังพูดมิจบใจของหลงจิ้งพลันหล่นวูบ เช่นนั้นเรื่องที่ตนไปเผาขี้ผึ้งหอมก็เท่ากับมิได้ช่วยใครเลย กลับยิ่งทำให้อำนาจของเจ้าแห่งทะเลเพิ่มทวีคูณขึ้นงั้นหรือ?หลงเพ่ยเพ่ยกล่าวอย่างมิยอม “หรือว่าหัวหน้าตระกูลใหญ่เหล่านั้นล้วนเลอะเลือนไปแล้ว? ไยจึงปล่อยให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลควบคุมชะตากรรมของพวกเขาเช่นนี้?”เซียวหลินเทียนขมวดคิ้ว มิน่าแปลกใจที่เมื่อครู่เจ้าแห่งทะเลยอมถอยกลับไปง่าย ๆ ที่แท้ก็มีแผนการเช่นนี้เองก่อนที่จะควบคุมตระกูลใหญ่เหล่านั้นไว้ในมือ เจ้าแห่งทะเลย่อมมิอาจแตกหักกับเจ้าแห่งทิศใต้ได้ในยามนี้แต่เมื่อใดที่เขาควบคุมตระกูลใหญ่เหล่านั้นไว้ในมือได้แล้ว เจ้าแห่งทะเลย่อมมิปล่อยเจ้าแห่งทิศใต