กฎการประลองที่ต่งเฉิงประกาศมานั้นที่จริงแล้วยังมีช่องโหว่อยู่ แต่โดยทั่วไปก็มีความยุติธรรม ท่านผู้เฒ่าเย่และเย่ซื่อฝานจึงมิได้เสนอแนะใด ๆห้องปรุงโอสถทั้งสองห้องเป็นห้องที่จัดเตรียมขึ้นมาชั่วคราวอยู่ทางฝั่งตะวันตกของหอปรุงโอสถ หลังจากที่ระฆังการประลองดังขึ้น หลิงอวี๋และไป่หลี่ไห่ต่างก็เดินเข้าไปในห้องปรุงโอสถคนละห้องในห้องเป็นเช่นเดียวกับห้องปรุงโอสถอื่น ๆ ตรงผนังก็เต็มไปด้วยตู้ยา และหน้าต่างก็ถูกปิดไว้เพื่อป้องกันมิให้มีคนแอบดูหลิงอวี๋ดูเครื่องยาสมุนไพรทั้งหมดก่อนหนึ่งรอบ จากนั้นก็ออกแบบยาพิษของตนในใจก่อนที่จะเริ่มปรุงเนื่องจากเวลาในการปรุงคือสองชั่วยาม บรรดาคนที่มาดูบางส่วนจึงรอมิไหวแล้วเดินไปเดินมารอบ ๆ บางส่วนก็มาหาเจ้าสำนักศึกษาจินเพราะอยากได้คำชี้แนะแต่เจ้าสำนักศึกษาจินกลับลากท่านซ่งสหายของเขาไปหาห้องจิบชาเดิมทีท่านผู้เฒ่าเย่อยากจะพูดกับเจ้าสำนักศึกษาจินสักสองสามประโยค แต่เมื่อเห็นท่าทีเช่นนี้เขาจึงมิเข้าไปรบกวนเย่ซื่อฝานและเย่ซื่อเจียงออกไปเดินกับท่านผู้เฒ่าเย่ เมื่อเดินออกจากกลุ่มคนมาเย่ซื่อเจียงก็เอ่ยถามไปตามตรง “ท่านพ่อ ท่านซ่งผู้นั้นคือใครหรือขอรับ?”นี่ก็คือสิ
ท่านผู้เฒ่าเย่เข้าใจทันทีแล้วมองไปทางห้องปรุงโอสถอย่างครุ่นคิดนี่คือหลักการเข้าใจลึกซึ้งถึงธรรมชาติของมนุษย์ที่เย่ซื่อฝานบอกไว้กระมัง!ไป่หลี่ไห่เชื่อมั่นว่าตนเป็นปรมาจารย์และรู้มากกว่าสิงอวี๋ แต่จากตัวอย่างของหยางหงหนิงแล้ว เขาก็ยังป้องกันมิให้หลิงอวี๋เปลี่ยนยาแก้พิษของเขาให้กลายเป็นยาพิษได้ด้วยการที่มีสิ่งที่ต้องป้องกันมากเกินไป นั่นก็คือข้อจำกัด...ขอเพียงหลิงอวี๋เข้าใจลักษณะนิสัยของไป่หลี่ไห่ นางก็จะสามารถใช้จุดแข็งของตนวางกับดักไป่หลี่ไห่ซ้ำ ๆ ได้แล้ว...เหอะ ๆ!ท่านผู้เฒ่าเย่ยิ้มออกมา และมีความคิดอยากจะผูกมิตรกับพ่อแม่และปู่ของหลิงอวี๋เสียหน่อยครอบครัวแบบใดกัน จึงสามารถเลี้ยงเด็กสาวมาได้ฉลาดหลักแหลมถึงเพียงนี้?“ซื่อเจียง หากครานี้เสี่ยวชีสามารถเอาชนะได้ ข้าจะตัดสินใจพูดกับนางให้นางมาเป็นภรรยาของเย่หรง!”ท่านผู้เฒ่าเย่มองไปทางเย่ซื่อเจียงเขาเป็นพ่อของเย่หรง และเรื่องการแต่งงานก็จำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบจากเย่ซื่อเจียงด้วยเย่ซื่อเจียงตะลึงไปครู่หนึ่ง เขามิให้ความสำคัญกับลูกนอกสมรสที่มิเอาไหนผู้นี้มาโดยตลอด และมิสนิทกับเย่หรงด้วย เขาจึงเอ่ยออกไปโดยสัญชาตญาณ“หากเ
ในเวลานี้ เย่หรงผู้มิเอาไหนที่เย่ซื่อเจียงเกลียดชังก็กำลังเตรียมตัวอยู่กับเผยอวี้และฉินซานเพื่อเตรียมที่จะเข้าไปในบ้านตระกูลเหมียวแล้วหลอกเอาเงินที่พวกเขาจะให้ไป่หลี่ไห่ไปถึงแม้ว่าเผยอวี้และฉินซานจะมีประสบการณ์ในการรบมามากมาย แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่พวกเขาทำเรื่องเช่นนี้ จึงค่อนข้างกังวลเย่หรงแต่งตัวเป็นพ่อบ้านของไป่หลี่ไห่ และดูคล้ายกับตัวจริงมากเขาจึงเอ่ยปลอบใจทั้งสองคน “อย่าได้กังวลไปเลย รอหลังจากหลอกเอาเงินออกมาและเปลี่ยนรถม้าไปแล้ว จากนั้นพวกเราจะรีบไปที่สำนักศึกษาชิงหลง เช่นนี้ก็จะไม่มีผู้ใดสงสัยในตัวพวกเราแล้ว!”“พวกเจ้าทั้งสองมิต้องพูดอะไร แค่ฟังข้าก็พอ!”เมื่อทุกอย่างเตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้ว เย่หรงก็นำทุกคนมุ่งไปที่บ้านตระกูลเหมียวเผยอวี้ให้ลู่หนานไปสืบข้อมูลมาแล้วว่า สามีภรรยาตระกูลเหมียวพาเหมียวหยางไปที่สำนักศึกษาชิงหลงแล้ว จึงรู้สึกสบายใจมากขึ้นพวกเขาจึงเดินทางมาที่บ้านตระกูลเหมียวอย่างสบาย ๆ เย่หรงก็อาศัยใบหน้าของพ่อบ้านไป่หลี่ไห่พาทุกคนเข้าไปได้อย่างราบรื่นเมื่อพ่อบ้านเหมียวได้ยินข่าวก็ออกมาต้อนรับ แล้วเอ่ยถามด้วยใบหน้าสงสัย “ท่านพ่อบ้านใหญ่ ตกลงกันไว้ว่าต
อีกทั้งเมื่อมองฮูหยินเหมียวที่ยังคงเช็ดน้ำตาเป็นระยะ ๆ พร้อมแสร้งทำเป็นน่าสงสาร เซียวหลินเทียนก็รู้สึกขึ้นมาในทันทีว่าการตัดสินใจปล้นตระกูลเหมียวของตนนั้นช่างฉลาดยิ่งนัก!เมื่อสูญเสียเงินเหล่านี้ไปแล้ว ไป่หลี่ไห่จะยังคงสนับสนุนตระกูลเหมียวต่อดังเช่นที่สัญญาไว้หรือ?เมื่อถึงเวลานั้นสุนัขก็จะกัดกันเอง จากนั้นก็จะมีเรื่องสนุกให้ได้ชมกันเมื่อเห็นว่าใกล้จะถึงเวลาสองชั่วยามแล้ว บรรดาคนที่ออกไปเดินเล่นก็ทยอยกันกลับมา และมองห้องปรุงโอสถทั้งสองห้องอย่างคาดหวังเจ้าสำนักศึกษาจินและท่านซ่งก็กลับมาแล้วเช่นกัน เย่ซื่อฝานและท่านผู้เฒ่าเย่ต่างก็มองหน้ากัน หวังว่าการคาดเดาของตนจะถูกต้อง“แกร๊ง… แกร๊ง...”หลังจากที่เสียงระฆังดังขึ้น หลิงอวี๋และไป่หลี่ไห่ต่างก็เดินออกมาจากห้องปรุงโอสถพร้อมด้วยท่าทีมั่นใจเต็มเปี่ยม“ไป่หลี่ไห่ สิงอวี๋ มาแลกเปลี่ยนยาพิษกัน!”ต่งเฉิงและตาเฒ่าประหลาดเทียนซูพร้อมทั้งคนอื่น ๆ ล้วนอยากรู้ว่าสิงอวี๋จะสามารถปรุงยาพิษที่มีพิษหลายสิบชนิดอยู่ในนั้นได้หรือไม่ ดังนั้นจึงได้เสนอเรื่องนี้กับต่งเฉิงเป็นการส่วนตัวก่อนที่จะกินยาพิษเข้าไป ให้ตรวจสอบดูสักหน่อย เพื่อความปลอดภัยของ
แต่ตอนนี้สิงอวี๋เช็ดแล้ว ตนก็เช็ดแล้วเช่นกัน แต่ใบหน้าของสิงอวี๋ก็ไม่มีร่องรอยของการแปลงโฉม น้ำยาสาดเข้าใบหน้านางจนเปียกเช่นนั้น แต่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่น้อยจ้าวหรุ่ยหรุ่ยสบสายตากับฮูหยินเฉียวอย่างผิดหวังฮูหยินเฉียวพยักหน้าอย่างยากจะสังเกตเห็น แล้วใช้มือเป็นสัญญาณให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยระงับอารมณ์ไว้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็พยักหน้าตอบรับ พวกนางยังเตรียมแผนสำรองไว้ด้วย วันนี้จะใช้โอกาสนี้เปิดเผยตัวหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนให้ได้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเชื่อว่า หากหลิงอวี๋อยู่ที่นี่ เซียวหลินเทียนก็จะอยู่ที่นี่เช่นกันหากหลิงอวี๋มีปัญหา เซียวหลินเทียนจะต้องรีบกระโดดออกมาโดยมิลังเลอย่างแน่นอนเซียวหลินเทียนมองจ้าวหรุ่ยหรุ่ยด้วยสายตาเย็นชาเมื่อครู่ตอนที่คนรับใช้สาดน้ำใส่หลิงอวี๋ เซียวหลินเทียนก็รู้สึกกังวลขึ้นมาแล้ว ขอเพียงหลิงอวี๋ถูกเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงออกมา เขาจะไม่มีทางยอมให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยและฮูหยินเฉียวมีโอกาสจับตัวหลิงอวี๋ไปแน่การประลองในวันนี้ เขาได้คาดการณ์ไว้แล้วว่า จ้าวหรุ่ยหรุ่ยและฮูหยินเฉียวจะมิปล่อยหลิงอวี๋ไปแน่ ดังนั้นเซียวหลินเทียนจึงได้เตรียมการรับมือไว้หลายอย่างแล้วเผยอวี้
เดิมทีตงเปิ่นมิอยากยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกแล้ว แต่เขากังวลว่า หากตนถอนตัวออกไปจะทำให้พวกของตาเฒ่าประหลาดเทียนซูรังแกศิษย์น้อยของเย่ซื่อฝานผู้นี้ได้สะดวกขึ้น เขาจึงจ้องไป่หลี่ไห่ด้วยความโกรธ แล้วเอ่ยด้วยเสียงขรึม “แลกเปลี่ยนยาพิษ!”ไป่หลี่ไห่หยิบกล่องหนึ่งออกมาแล้วเอ่ยกับหลิงอวี๋ด้วยรอยยิ้ม“สิงอวี๋ ข้ายังยืนยันคำเดิม ขอเพียงเจ้ายอมแพ้เสียตอนนี้ การประลองนี้ก็จะมิดำเนินต่อ!”“มิเช่นนั้น หากมีผลข้างเคียงใดหลงเหลือไว้ เจ้าจะมาเสียใจภายหลังก็สายไปเสียแล้ว!”หลิงอวี๋ก็หยิบกล่องของตนออกมาเช่นกัน แล้วมองไปทางไป่หลี่ไห่อย่างเย็นชา “ปรมาจารย์ไป่หลี่ ข้าก็จะขอพูดคำเดียวกันกับท่าน ขอเพียงท่านยอมแพ้ การประลองก็จะมิต้องดำเนินต่อ! มิเช่นนั้นคนที่ต้องเสียหน้าก็คือท่าน!”ไป่หลี่ไห่จะยอมแพ้ได้อย่างไร เพราะนี่เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของตนเรื่องที่เหมียวหยางถูกวางยาพิษนั้นทำให้ชื่อเสียงของเขาเสียหาย หากเขามิสามารถเอาชนะสิงอวี๋ได้ ต่อไปยาแก้พิษของหอโอสถไป๋เป่าก็จะขายมิออกเช่นกันสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ จะทำให้ตนสูญเสียความโปรดปรานต่อหน้าเจ้าแห่งทะเลและมหาเทพไปด้วยดังนั้น เขาจะแพ้มิไ
ตาเฒ่าประหลาดเทียนซูยืนอยู่หน้าประตู เมื่อเห็นสิงอวี๋เหม่ออยู่ที่ตู้ยาก็ยิ้มเยาะออกมา แล้วก็อดมิได้ที่จะพูดเยาะเย้ยออกไป“สาวน้อย มิได้มีเพียงเจ้าผู้เดียวที่รู้หลักการผสมเครื่องยาสมุนไพรหรอกนะ ดูเอาเถิด การใช้วิธีของเจ้ามาตอบกลับเจ้ามันมิได้รู้สึกดีเลยใช่หรือไม่!”หลิงอวี๋มีอาการปวดหัวขึ้นมาเล็กน้อย แต่นางก็ยิ้มเหยียดกับการเยาะเย้ยของตาเฒ่าประหลาดเทียนซู“เจ้าวังฉู่ หยางหงหนิงบอกวิธีนี้กับท่านกระมัง! ท่านบอกว่าข้าสามารถใช้วิธีนี้จัดการกับนางได้ แล้วข้าจะคาดมิถึงหรือว่าพวกท่านจะใช้มาจัดการกับข้าได้?”“เจ้าวังฉู่ วันนี้ข้าจะทำให้พวกท่านรู้ว่าอะไรคือเหนือคนยังมีคน เหนือฟ้ายังมีฟ้า!”หลิงอวี๋พูดไปก็รีบหยิบผงยาหลายชนิดออกมาผสมเข้าด้วยกัน จากนั้นก็ใส่ลงในเครื่องกลั่นง่าย ๆ ที่นางเพิ่งทำขึ้นเมื่อครู่ตาเฒ่าประหลาดเทียนซูมองขวดยาที่ถูกสิงอวี๋เผาอยู่บนไฟด้วยความประหลาดใจ ยาหยดแล้วหยดเล่าหยดลงมาจากปากขวด และรวมเข้าด้วยกันในถ้วยยาด้านล่าง“นี่มันหมายความว่าอะไร?”ตาเฒ่าประหลาดเทียนซูมิเคยเห็นวิธีการปรุงยาเช่นนี้มาก่อน จึงอดมิได้ที่จะเอ่ยถามด้วยความอยากรู้เจ้าสำนักศึกษาจินมองเขาอย่างหมดค
นี่มิได้เป็นเพียงสายรุ้งที่ส่องสว่างเส้นหนึ่งเท่านั้น แต่ยังเป็นสายรุ้งที่มีรูปร่างคล้ายหงส์อีกด้วยสายรุ้งยาวที่รวมตัวกันเหล่านั้นคือปีกและหางของหงส์ และมันก็กำลังเต้นรำอยู่บนท้องฟ้าราวกับหงส์ตัวหนึ่งที่กำลังร่ายรำอยู่ตอนนั้นทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็ตกตะลึง มหาเทพหลงเองก็ตะลึงไปเช่นกัน จากนั้นเขาก็เกิดความรู้สึกมิสบายใจขึ้นมาในใจทันทียามเกิดปรากฏการณ์ประหลาดบนท้องฟ้า เจ้าสำนักศึกษาจินก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย เขาจึงได้รับมอบหมายจากมหาเทพหลงให้ทำนายดวงชะตาหลังจากที่เจ้าสำนักศึกษาจินทำนายดวงชะตาแล้ว เขาก็มองรูปแบบการทำนายนั้นอยู่เงียบ ๆ สักพักมิพูดมิจาใด ๆมหาเทพหลงมองสีหน้าเคร่งขรึมของเขา แล้วในใจก็รู้สึกมิดี จึงไล่คนที่อยู่ทางซ้ายและขวาออกไป จากนั้นก็เอ่ยด้วยเสียงเคร่งเครียด “เจ้าสำนักศึกษาจิน ผลการทำนายว่าอย่างไร เจ้าจงบอกข้ามาตามความจริงเถิด!”เจ้าสำนักศึกษาจินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยออกมา “กลางวันแสก ๆ จู่ ๆ ก็มีฝนตกหนักในตอนที่ท้องฟ้าแจ่มใสอย่างน่าประหลาด ดาวจื่อเวยเคลื่อนออกจากตำแหน่ง และดาวจักรพรรดิเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันออก สิ่งนี้เป็นลางร้ายอย่างยิ่ง จ
รองแม่ทัพจางยังคงกล่าวพลางยิ้มแย้ม “ท่านหญิงฉางเล่อมามิถูกจังหวะ วันนี้ฮองเฮาพร้อมด้วยท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นพาคุณชายน้อยทั้งหลายเสด็จไปชมดอกไม้ที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์พ่ะย่ะค่ะ!”ว่ากระไรนะ?หลงเพ่ยเพ่ยนิ่งอึ้งไป ท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นล้วนเป็นธิดาของเจ้าแห่งทะเล และเป็นลูกพี่ลูกน้องของหลงเพ่ยเพ่ยด้วยเหตุใดพวกนางถึงมิไปชมดอกไม้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้เล่า แต่กลับเลือกไปชมดอกไม้ในตอนที่ตนต้องการความช่วยเหลือจากเสด็จย่าพอดีนี่น่ะหรือ?“ไปนานเท่าใดแล้ว?”หลงเพ่ยเพ่ยสงสัยว่านี่เป็นการจัดฉากโดยเจตนาของชายาเจ้าแห่งทะเล“สองชั่วยามแล้วพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้น่าจะอยู่ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์แล้วขอรับ!”รองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้มหลงเพ่ยเพ่ยอยากจะชกหน้ายิ้ม ๆ ของรองแม่ทัพจางเสียสักหมัด เหตุใดนางมองรอยยิ้มของรองแม่ทัพจางแล้วเหมือนกำลังสมน้ำหน้าตนอยู่เลยเล่า“เจ้ามิได้หลอกข้าใช่หรือไม่?”หลงเพ่ยเพ่ยถามเสียงเย็นรองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้ม “ท่านหญิงฉางเล่อพูดเล่นแล้ว ไหนเลยข้าน้อยจะกล้าหลอกท่านหญิง! หากมิเชื่อท่านลองถามใครดูก็ได้ว่าที่ข้าน้อยพูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่!”“หากท่านหญิงมีธุระด่วนจร
หลิงอวี๋ฟังแล้วก็อดอมยิ้มมิได้ เซียวหลินเทียนใช้คนตระกูลเก๋อมาจัดการชายาเจ้าแห่งทะเล กลอุบายนี้ช่างเด็ดขาดนักรถม้ามาถึงจวนเจ้าแห่งทะเล เมื่อหลิงอวี๋ลงจากรถก็มองไปยังคฤหาสน์หลังใหม่ที่กำลังก่อสร้างอีกครั้ง กำแพงล้อมรอบสร้างเสร็จแล้ว ดูจากขนาดแล้วใหญ่โตมากจริง ๆนางอดสงสัยมิได้ ข้างในมีเรือนบุหงาแบบเดียวกับตำหนักอ๋องอี้ของตนอย่างที่เถาจื่อบอกจริงหรือ?นางอยากเข้าไปดู อยากเห็นเหลือเกินว่าบ้านในอดีตของตนเป็นอย่างไร!“คุณหนูสิง เชิญ!”พ่อบ้านเว่ยเห็นหลิงอวี๋มองคฤหาสน์ฝั่งตรงข้ามก็ร้องเรียกอย่างมิอดทนหลิงอวี๋หันกลับมา เห็นประตูใหญ่หนาทึบของจวนเจ้าแห่งทะเลเปิดอ้าอยู่ ข้างในลานเรือนซับซ้อนลึกล้ำ มองสุดตามิเห็นปลายทางนี่คือที่ที่เต็มไปด้วยอันตรายโดยแท้!หลิงอวี๋ลอบสูดหายใจลึก ๆ แล้วเดินเข้าไป“ปัง!”ประตูใหญ่หนาทึบปิดลงด้านหลังนางหลิงอวี๋มิได้หันกลับไปมอง เพราะนั่นจะดูมิสง่างามนางรอให้พ่อบ้านเว่ยนำทางอยู่ข้างหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินผิดทางแล้วถูกพ่อบ้านเว่ยหาเรื่องผิดพลาดมาตำหนิขณะเดียวกัน หลงเพ่ยเพ่ยก็ได้พาเย่หรงมุ่งหน้าไปยังวังหลวงแล้ว“อุบายนี้ของชายาเจ้าแห่งทะเลช่างร้า
จวนเจ้าแห่งทะเลตั้งอยู่ในย่านคหบดีและสูงศักดิ์ของเมืองหลวงแดนเทพ อันที่จริงอยู่ห่างจากคฤหาสน์อู่เพียงมิกี่ช่วงถนนเท่านั้นรถม้าวิ่งไปตามทางเรื่อย ๆ เถาจื่อพลันนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงกระซิบข้างหูหลิงอวี๋เบา ๆ“คุณหนู อีกประเดี๋ยวท่านจะเห็นคฤหาสน์หลังใหญ่ที่กำลังสร้างอยู่ตรงข้ามจวนเจ้าแห่งทะเล ที่นั่นฝ่าบาททรงสร้างให้ท่านเจ้าค่ะ!”“คราแรกที่พวกเรามาตามหาท่านในเมืองหลวงแดนเทพนั้นมิรู้ว่าจะต้องเสียเวลานานเท่าใด ฝ่าบาทจึงทรงให้สือหรงซื้อคฤหาสน์แถวนี้ไว้ล่วงหน้าแล้วรื้อสร้างใหม่ทั้งหมด!”“ฝ่าบาทตรัสว่า เจ้าแห่งทะเลคือบิดาของท่าน ในเมื่อเขามิยอมรับท่าน ฝ่าบาทก็จะทำให้เขาเห็นว่า ใช่ว่าท่านไม่มีบ้านเสียหน่อย แม้จวนเจ้าแห่งทะเลไม่มีที่ให้ท่าน ฝ่าบาทก็จะสร้างจวนหลังที่ใหญ่กว่าจวนเจ้าแห่งทะเลให้!”“คุณหนู ข้างในมีเรือนหลังหนึ่ง สร้างตามแบบเรือนบุหงาที่ตำหนักอ๋องอี้ในฉินตะวันตกของท่านไม่มีผิดเพี้ยน หากท่านได้เห็นจะต้องชอบอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ!”ก่อนหน้านี้หลิงอวี๋เคยได้ยินเผยอวี้พูดถึงคฤหาสน์หลังใหม่ที่พวกเขาสร้างแล้ว ตอนนั้นยังรู้สึกแปลกใจว่าเซียวหลินเทียนคิดจะอยู่เมืองหลวงแดนเทพเป็นการถาวรหรืออย่
วิธีนี้ของหลิงอวี๋เป็นวิธีเดียวที่จะช่วยนางได้ในยามนี้ ด้วยเซียวหลินเทียนและคนอื่น ๆ ก็ยังคิดหาวิธีที่ดีกว่านี้มิออกเย่หรงกล่าวขึ้นทันที “ข้าจะไปหาหลงเพ่ยเพ่ย บอกนางมิต้องมาแล้ว ให้เข้าวังไปทูลขอเข้าเฝ้าฮองเฮาได้เลย!”“พี่หญิงหลิงหลิง ท่านต้องยื้อจนกว่าพวกเราจะมาช่วยท่านให้ได้นะ!”พูดจบ เย่หรงก็รีบร้อนออกไปเก๋อเฟิ่งฉิงมองหลิงอวี๋ด้วยสายตาซับซ้อน นางหวังให้หลิงอวี๋เข้าจวนเจ้าแห่งทะเลไปแล้วออกมามิได้แต่เรื่องนี้ก็พัวพันถึงความเป็นความตายของเซียวหลินเทียน นางมิอยากให้เซียวหลินเทียนต้องเกิดเรื่อง!ช่างขัดแย้งในใจเสียจริง!“อาอวี๋ เจ้าไปก่อนเถอะ... วางใจได้ ต่อให้ต้องก่อความวุ่นวายครั้งใหญ่ในเมืองหลวงแดนเทพ ข้าก็จะพาเจ้ากลับบ้านให้ได้!”เซียวหลินเทียนกล่าวอย่างหนักแน่นเขายังมีแผ่นป้ายไม้ที่ขันทีโม่ให้มา สามารถใช้ขอความช่วยเหลือจากแม่ทัพฝ่ายซ้ายได้ เซียวหลินเทียนตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะใช้แผ่นป้ายไม้นี้ช่วยหลิงอวี๋ขันทีโม่เคยบอกว่า เพียงอาศัยแผ่นป้ายไม้นี้ ก็สามารถทำให้แม่ทัพฝ่ายซ้ายช่วยตนทำเรื่องหนึ่งเรื่องได้หากแม่ทัพฝ่ายซ้ายสามารถช่วยคนได้เพียงคนเดียว เช่นนั้นเขาก็ยอมตายเ
เผยอวี้และคนอื่น ๆ ต่างมองหน้ากันอย่างจนปัญญา นึกว่ามหาปราชญ์และเจ้าแห่งทะเลกลับไปแล้วพวกตนจะรอดพ้นจากครั้งนี้ไปได้ คาดมิถึงว่าชายาเจ้าแห่งทะเลจะใช้ไม้นี้อีกภายนอกดูเหมือนเป็นการเชิญ แต่จริง ๆ แล้วจะปฏิเสธมิไปได้หรือ?เซียวหลินเทียนสามารถแสร้งป่วยได้ แต่หลิงอวี๋เพิ่งจะปรากฏตัวต่อหน้าเจ้าแห่งทะเลไปเมื่อครู่ ตอนนี้ย่อมมิอาจใช้การแสร้งป่วยมาหลีกเลี่ยงได้อีกแล้ว“บอกไปว่าคุณหนูสิงกำลังรักษาอาการป่วยให้ข้าอยู่ เดี๋ยวค่อยไป!”ในสถานการณ์กะทันหันเช่นนี้เซียวหลินเทียนทำได้เพียงถ่วงเวลาไปก่อนแล้วค่อยคิดหาวิธี“เผยอวี้ เจ้าส่งคนไปแจ้งหลงเพ่ยเพ่ยกับเจ้าแห่งทิศใต้ ให้หลงเพ่ยเพ่ยไปเป็นเพื่อนอาอวี๋!”เป็นเรื่องความเป็นความตายของหลิงอวี๋ เผยอวี้รีบให้คนไปแจ้งหลงเพ่ยเพ่ยทันทีหลิงอวี๋นิ่งเงียบ นั่งคิดอยู่ข้าง ๆเพื่อชิงหยกหล้าสุขาวดีกลับคืนมา ในเวลานั้นชายาเจ้าแห่งทะเลสามารถลงมืออำมหิตกับหลานฮุ่ยจวนที่กำลังตั้งครรภ์ได้ครั้งนี้นางส่งพ่อบ้านมาเชิญตนไปจวนเจ้าแห่งทะเล พูดไปพูดมาก็เพื่อหยกหล้าสุขาวดีบนตัวนางนั่นเองส่วนการที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาได้นั้นต้องใช้วิธีสลายโลหิตละลายกระดูก หรือว่าช
หลิงอวี๋เดินกลับเข้ามา และบังเอิญได้ยินคำพูดของเย่ซงเฉิงเข้าพอดี“พวกเราต้องเตรียมรับมือสำหรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด หากหวงฝู่หลินกลับไปแล้ว มิสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ถึงกาลนั้นใครจะมารับมือการแก้แค้นของฝูไห่ต่อตระกูลหลงและตระกูลอื่น ๆ อีกหลายตระกูลเล่า?”เจ้าแห่งทิศใต้มองไปยังเย่หรง และกล่าวเสียงเข้ม “เลี่ยวหงเสีย มารดาของเย่หรงอาจจะรู้วิธี!”“ปรมาจารย์เย่ ก่อนหน้านี้ข้าอยากจะพบเลี่ยวหงเสียเพื่อสอบถามสถานการณ์จึงไปที่คุกน้ำมา แต่ข้ากลับมิสามารถพบนางได้!”“คำกล่าวของท่านมีน้ำหนักเมื่ออยู่ต่อหน้าพระพักตร์เสด็จพ่อ บางทีท่านอาจจะสามารถทูลขอเสด็จพ่อให้ทรงอนุญาตท่านเข้าพบเลี่ยวหงเสียได้!”เย่ซงเฉิงขมวดคิ้ว “เจ้าแห่งทิศใต้ก็มิสามารถพบเลี่ยวหงเสียได้เช่นกันหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เจ้าแห่งทิศใต้พยักหน้า “แม่ทัพหลี่ผู้เฝ้าประตูบอกว่า นอกเสียจากจะมีพระราชโองการของมหาเทพ มิฉะนั้นก็มิอนุญาตให้ข้าพบเลี่ยวหงเสีย!”เย่ซงเฉิงยิ้มอย่างขมขื่น “เรื่องนี้ข้าน้อยเคยทูลต่อเสด็จพ่อของท่านแล้ว เสด็จพ่อของท่านมิทรงยินยอม ความนับหน้าถือตาของตาเฒ่าผู้นี้ใช้มิได้ผลต่อหน้าพระพักตร์เสด็จพ่อของท่านแล้ว!”ทุกคนต่
หวงฝู่หลินมิรู้จักคนทั้งสองนี้เลย คิดอยู่ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “ตอนนั้นนอกจากพวกท่านกับตระกูลเฉียวแล้ว ก็มีคนของตระกูลจงเจิ้งที่เข้าไปในภูเขาหิมะ ข้ามิเห็นคนทั้งสองที่ท่านพูดถึงในภูเขาหิมะ!”“บางทีปี้ซงอาจจะเคยเห็น เดี๋ยวลองเรียกเขามาถามดู!”เผยอวี้จึงไปเรียกปี้ซงมาอีกครั้งปี้ซงอุ้มหวงฝู่หมิงจูเข้ามา หลิงอวี๋ก็รับนางมาอุ้มไว้เซียวหลินเทียนมองหวงฝู่หมิงจูกอดคอหลิงอวี๋ด้วยท่าทางสนิทสนม ในใจรู้สึกซับซ้อนอย่างบอกมิถูกหวงฝู่หลินเล่าคำถามให้ปี้ซงฟังอีกครั้งปี้ซงคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “ชายชราผู้นั้นข้าพอจำได้ราง ๆ ตอนนั้นเขาเดินวนเวียนอยู่ในภูเขาหิมะอยู่หลายวัน ต่อมาก็จากไป ข้าคิดว่าเขาไม่มีอันตรายอะไรจึงมิได้ใส่ใจ!”“ส่วนแม่นมอู ข้าไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับนางเลย มิเคยเห็นนางในภูเขาหิมะ!”เก๋อเฟิ่งฉิงยืนฟังอยู่ข้าง ๆ ตลอด ได้ยินดังนั้นก็กล่าวว่า “อันที่จริงตอนนั้นที่ภูเขาหิมะ นอกจากพวกเราแล้ว น่าจะยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่ง”“ข้าก็มาพบพวกนางหลังจากลงจากเขาแล้ว ตอนนั้นยังคิดว่าพวกนางแค่ผ่านทางมา แต่พอลองคิดดูตอนนี้ พวกนางต้องเคยไปภูเขาหิมะแน่นอน แม่นมอูน่าจะถูกพวกนางพาตัวไป!”“พวกเข
เมื่อฟังคำพูดของเย่ซงเฉิงจบ หลิงอวี๋ หลงเพ่ยเพ่ยและเผยอวี้ก็ร้องอุทานออกมาพร้อมกัน“เจ้าสำนักซิงหลัวเป็นสตรี! หรือว่านางคือตงกู่อวี้ที่กลับชาติมาเกิด?”หวงฝู่หลินก็นึกขึ้นได้ ตอนที่ทุกคนรุมล้อมโจมตีเจ้าสำนักซิงหลัว เผยอวี้ใช้กระบี่เดียวตัดเชือกรัดผมที่มัดผมของเจ้าสำนักซิงหลัวขาดตอนนั้นผมสลวยของนางสยายลงมาบดบังดวงตาของนางทุกคนมัวแต่ยุ่งอยู่กับการรับมือ จึงมิทันได้คิดให้ลึกซึ้งเมื่อเย่ซงเฉิงพูดเช่นนี้ ทุกคนจึงได้นึกถึงสภาพการณ์ในยามนั้นขึ้นมา“ตงกู่อวี้กลับชาติมาเกิดจริง ๆ หรือ?”ในฐานะลูกหลานตระกูลหลง เจ้าแห่งทิศใต้จะมิรู้ได้อย่างไรว่าในใต้หล้านี้มีวิชาลับเช่นนี้อยู่จริง ทันใดนั้นก็ตกใจจนเหงื่อเย็นไหลซึมหลงจิ้งและหลงเพ่ยเพ่ยก็ตกใจเช่นกัน วรยุทธ์ของสตรีนางนั้นสูงส่งกว่ามหาปราชญ์เสียอีก แต่ก่อนหน้านี้พวกเขามิเคยรู้มาก่อนเลยว่าสำนักซิงหลัวยังมียอดฝีมือเช่นนี้อยู่“ท่านพ่อ ยามนั้นเจ้าวังหวงฝู่พร้อมด้วยท่านเซียวและพวกเราช่วยกันรุมล้อมโจมตีนางก็ยังมิสามารถสังหารนางได้ ลูกดูจากวรยุทธ์ของนางแล้ว เกรงว่าจะมีเพียงท่านอาเจ้าแห่งทะเลเท่านั้นที่พอจะต่อกรกับนางได้!”หลงเพ่ยเพ่ยกล่าวด้วย
หลงจิ้งยังคงยากที่จะเชื่อ “คำพูดของตระกูลเหล่านั้นก็มิได้ผลหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เจ้าแห่งทิศใต้ส่ายหน้าอย่างหดหู่ “เสด็จปู่ของเจ้าตรัสว่าจะตรวจสอบให้ จึงส่งเจ้าแห่งทะเลไปตรวจสอบ แต่ผลที่ได้จากเจ้าแห่งทะเลก็มิสามารถสรุปอะไรได้เลย หรือกระทั่ง...”กระทั่งเจ้าแห่งทะเลอาจจะใช้ขี้ผึ้งหอม ควบคุมบุตรหลานของตระกูลใหญ่เหล่านั้นไว้ในมือตนเอง!เซียวหลินเทียน หลงจิ้งและหลิงอวี๋ต่างก็เข้าใจความหมายที่เจ้าแห่งทิศใต้ยังพูดมิจบใจของหลงจิ้งพลันหล่นวูบ เช่นนั้นเรื่องที่ตนไปเผาขี้ผึ้งหอมก็เท่ากับมิได้ช่วยใครเลย กลับยิ่งทำให้อำนาจของเจ้าแห่งทะเลเพิ่มทวีคูณขึ้นงั้นหรือ?หลงเพ่ยเพ่ยกล่าวอย่างมิยอม “หรือว่าหัวหน้าตระกูลใหญ่เหล่านั้นล้วนเลอะเลือนไปแล้ว? ไยจึงปล่อยให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลควบคุมชะตากรรมของพวกเขาเช่นนี้?”เซียวหลินเทียนขมวดคิ้ว มิน่าแปลกใจที่เมื่อครู่เจ้าแห่งทะเลยอมถอยกลับไปง่าย ๆ ที่แท้ก็มีแผนการเช่นนี้เองก่อนที่จะควบคุมตระกูลใหญ่เหล่านั้นไว้ในมือ เจ้าแห่งทะเลย่อมมิอาจแตกหักกับเจ้าแห่งทิศใต้ได้ในยามนี้แต่เมื่อใดที่เขาควบคุมตระกูลใหญ่เหล่านั้นไว้ในมือได้แล้ว เจ้าแห่งทะเลย่อมมิปล่อยเจ้าแห่งทิศใต