เดิมทีตงเปิ่นมิอยากยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกแล้ว แต่เขากังวลว่า หากตนถอนตัวออกไปจะทำให้พวกของตาเฒ่าประหลาดเทียนซูรังแกศิษย์น้อยของเย่ซื่อฝานผู้นี้ได้สะดวกขึ้น เขาจึงจ้องไป่หลี่ไห่ด้วยความโกรธ แล้วเอ่ยด้วยเสียงขรึม “แลกเปลี่ยนยาพิษ!”ไป่หลี่ไห่หยิบกล่องหนึ่งออกมาแล้วเอ่ยกับหลิงอวี๋ด้วยรอยยิ้ม“สิงอวี๋ ข้ายังยืนยันคำเดิม ขอเพียงเจ้ายอมแพ้เสียตอนนี้ การประลองนี้ก็จะมิดำเนินต่อ!”“มิเช่นนั้น หากมีผลข้างเคียงใดหลงเหลือไว้ เจ้าจะมาเสียใจภายหลังก็สายไปเสียแล้ว!”หลิงอวี๋ก็หยิบกล่องของตนออกมาเช่นกัน แล้วมองไปทางไป่หลี่ไห่อย่างเย็นชา “ปรมาจารย์ไป่หลี่ ข้าก็จะขอพูดคำเดียวกันกับท่าน ขอเพียงท่านยอมแพ้ การประลองก็จะมิต้องดำเนินต่อ! มิเช่นนั้นคนที่ต้องเสียหน้าก็คือท่าน!”ไป่หลี่ไห่จะยอมแพ้ได้อย่างไร เพราะนี่เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของตนเรื่องที่เหมียวหยางถูกวางยาพิษนั้นทำให้ชื่อเสียงของเขาเสียหาย หากเขามิสามารถเอาชนะสิงอวี๋ได้ ต่อไปยาแก้พิษของหอโอสถไป๋เป่าก็จะขายมิออกเช่นกันสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ จะทำให้ตนสูญเสียความโปรดปรานต่อหน้าเจ้าแห่งทะเลและมหาเทพไปด้วยดังนั้น เขาจะแพ้มิไ
ตาเฒ่าประหลาดเทียนซูยืนอยู่หน้าประตู เมื่อเห็นสิงอวี๋เหม่ออยู่ที่ตู้ยาก็ยิ้มเยาะออกมา แล้วก็อดมิได้ที่จะพูดเยาะเย้ยออกไป“สาวน้อย มิได้มีเพียงเจ้าผู้เดียวที่รู้หลักการผสมเครื่องยาสมุนไพรหรอกนะ ดูเอาเถิด การใช้วิธีของเจ้ามาตอบกลับเจ้ามันมิได้รู้สึกดีเลยใช่หรือไม่!”หลิงอวี๋มีอาการปวดหัวขึ้นมาเล็กน้อย แต่นางก็ยิ้มเหยียดกับการเยาะเย้ยของตาเฒ่าประหลาดเทียนซู“เจ้าวังฉู่ หยางหงหนิงบอกวิธีนี้กับท่านกระมัง! ท่านบอกว่าข้าสามารถใช้วิธีนี้จัดการกับนางได้ แล้วข้าจะคาดมิถึงหรือว่าพวกท่านจะใช้มาจัดการกับข้าได้?”“เจ้าวังฉู่ วันนี้ข้าจะทำให้พวกท่านรู้ว่าอะไรคือเหนือคนยังมีคน เหนือฟ้ายังมีฟ้า!”หลิงอวี๋พูดไปก็รีบหยิบผงยาหลายชนิดออกมาผสมเข้าด้วยกัน จากนั้นก็ใส่ลงในเครื่องกลั่นง่าย ๆ ที่นางเพิ่งทำขึ้นเมื่อครู่ตาเฒ่าประหลาดเทียนซูมองขวดยาที่ถูกสิงอวี๋เผาอยู่บนไฟด้วยความประหลาดใจ ยาหยดแล้วหยดเล่าหยดลงมาจากปากขวด และรวมเข้าด้วยกันในถ้วยยาด้านล่าง“นี่มันหมายความว่าอะไร?”ตาเฒ่าประหลาดเทียนซูมิเคยเห็นวิธีการปรุงยาเช่นนี้มาก่อน จึงอดมิได้ที่จะเอ่ยถามด้วยความอยากรู้เจ้าสำนักศึกษาจินมองเขาอย่างหมดค
นี่มิได้เป็นเพียงสายรุ้งที่ส่องสว่างเส้นหนึ่งเท่านั้น แต่ยังเป็นสายรุ้งที่มีรูปร่างคล้ายหงส์อีกด้วยสายรุ้งยาวที่รวมตัวกันเหล่านั้นคือปีกและหางของหงส์ และมันก็กำลังเต้นรำอยู่บนท้องฟ้าราวกับหงส์ตัวหนึ่งที่กำลังร่ายรำอยู่ตอนนั้นทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็ตกตะลึง มหาเทพหลงเองก็ตะลึงไปเช่นกัน จากนั้นเขาก็เกิดความรู้สึกมิสบายใจขึ้นมาในใจทันทียามเกิดปรากฏการณ์ประหลาดบนท้องฟ้า เจ้าสำนักศึกษาจินก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย เขาจึงได้รับมอบหมายจากมหาเทพหลงให้ทำนายดวงชะตาหลังจากที่เจ้าสำนักศึกษาจินทำนายดวงชะตาแล้ว เขาก็มองรูปแบบการทำนายนั้นอยู่เงียบ ๆ สักพักมิพูดมิจาใด ๆมหาเทพหลงมองสีหน้าเคร่งขรึมของเขา แล้วในใจก็รู้สึกมิดี จึงไล่คนที่อยู่ทางซ้ายและขวาออกไป จากนั้นก็เอ่ยด้วยเสียงเคร่งเครียด “เจ้าสำนักศึกษาจิน ผลการทำนายว่าอย่างไร เจ้าจงบอกข้ามาตามความจริงเถิด!”เจ้าสำนักศึกษาจินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยออกมา “กลางวันแสก ๆ จู่ ๆ ก็มีฝนตกหนักในตอนที่ท้องฟ้าแจ่มใสอย่างน่าประหลาด ดาวจื่อเวยเคลื่อนออกจากตำแหน่ง และดาวจักรพรรดิเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันออก สิ่งนี้เป็นลางร้ายอย่างยิ่ง จ
ตระกูลหลงได้กระทำสิ่งใดลงไปหรือไม่?ไยจึงได้ยับยั้งสถานการณ์การเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันออกของดาวจักรพรรดิไว้ได้!เจ้าสำนักศึกษาจินครุ่นคิดอยู่หลายรอบก็ยังมิสามารถหาคำตอบได้ในหนึ่งปีที่ผ่านมานี้ นอกจากการทำนายตามกำหนดแล้ว เขายังให้ความสนใจเรื่องการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ในราชสำนักด้วย โดยเฉพาะความเคลื่อนไหวของเหล่าองค์ชายตระกูลหลงแต่องค์ชายเหล่านี้ดูจะไม่มีความเคลื่อนไหวอะไร!ทว่ารูปแบบการทำนายที่ออกมาในช่วงนี้กลับทำให้เจ้าสำนักศึกษาจินมิเข้าใจ ในเมื่อเหล่าองค์ชายตระกูลหลงมิได้เคลื่อนไหวอะไร เช่นนั้นใครกันที่ทำให้เกิดสถานการณ์ดาวจักรพรรดิเคลื่อนตัวไปทางศูนย์กลางอีกครั้ง?หรือว่าจะเป็นจริงดังรูปแบบการทำนายครั้งแรกที่ตนทำนายไว้ว่า ผู้ที่จะช่วยเหลือใต้หล้าคือสตรีผู้หนึ่ง อีกทั้งยังเป็นสตรีจากตระกูลหลงด้วยหรือ?ในช่วงเวลานี้เจ้าสำนักศึกษาจินจึงเปลี่ยนไปศึกษาเกี่ยวกับองค์หญิงและท่านหญิงตระกูลหลงแทน และอันดับแรกสายตาของเขาก็มุ่งความสนใจไปที่หลงเพ่ยเพ่ยลูกสาวคนเล็กของเจ้าแห่งทิศใต้เหล่าองค์หญิงของมหาเทพหลงล้วนแต่งงานกันไปหมดแล้วและใช้ชีวิตกันอย่างสุขสบาย สิ่งที่พวกนางต้องยุ่งอยู่ทุกวันค
“เจ้าวังฉู่ เด็กสิงอวี๋ผู้นั้นน่าจะแย่กว่าไป่หลี่ไห่อีกกระมัง นางยังมิยอมแพ้อีกรึ?”เจ้าวังเจียวเบ้ปากอย่างดูถูก “เช่นนั้นก็มาดูกันว่านางจะทนไปได้นานแค่ไหนกันเชียว!”ตาเฒ่าประหลาดเทียนซูไม่มีความมั่นใจดังเช่นเมื่อครู่แล้ว สิงอวี๋แก้พิษหลายชนิดที่พวกเขาออกแบบไว้ได้อย่างราบรื่น เมื่อเห็นท่าทางสงบของนาง พิษอีกหลายชนิดหลังจากนี้ก็มิน่าจะเป็นปัญหาแต่ไป่หลี่ไห่อยู่ในสภาพนี้ หากเขาผ่านด่านนี้ไปได้ก็นับว่ามิเลวแล้ว ยิ่งมิต้องพูดถึงว่าหลังจากนี้ยังมีพิษร้ายแรงยิ่งกว่ารอเขาอยู่อีก!“ไป๋ลี่ไห่!”ทันทีที่ตาเฒ่าประหลาดเทียนซูเรียกชื่อเขาออกมา ต่งเฉิงก็เอ่ยปากห้าม “เจ้าวังฉู่ อย่าให้คำใบ้ใด ๆ ทั้งสิ้น มิเช่นนั้นจะถือว่าเป็นฝ่าฝืนกฎ และจะปรับแพ้!”ตาเฒ่าประหลาดเทียนซูจ้องมองต่งเฉิง แล้วก็ยังคงตะโกนออกไป “ไป่หลี่ไห่ วิธีการปรุงยาของสิงอวี๋แตกต่างจากพวกเราทุกคน วิธีการแก้พิษก็แตกต่างเช่นกัน หากเจ้าทนมิไหวจริง ๆ ก็ยอมแพ้ไปเสียเถิด!”“ชู่ว… นี่คือการโกงหรือไม่?”พวกของเย่หรงรออยู่ข้างนอกโดยตลอด พวกเขากังวลว่าสิงอวี๋จะแก้พิษมิได้จึงรอช่วยเหลือนาง แต่เมื่อได้ยินตาเฒ่าประหลาดเทียนซูเอ่ยเตือนไป่หลี่
ต่งเฉิงโกรธกับคำพูดบ้าบอของไป่หลี่ไห่อยู่นานจนสีหน้ามืดมนลงแม้ว่าไป่หลี่ไห่ดูเหมือนจะเป็นบ้า แต่ใครจะรู้เล่าว่านี่มิใช่สิ่งที่เขาคิดอยู่ในใจจริง ๆ ดังนั้นเขาจึงพูดความจริงออกมาท่ามกลางความบ้าคลั่งนั้น!เมื่อได้ยินคำพูดของโจวจาง เหล่าบัณฑิตที่รู้สึกมิพอใจไป่หลี่ไห่เหล่านั้นก็ตะโกนกันขึ้นมา“โจวจาง เจ้าสามารถเป็นตัวแทนของอาจารย์เจ้าได้จริงหรือ?”“มิใช่ว่าเมื่อสิงอวี๋แก้พิษให้เขาแล้วเขาจะมาบอกว่าเขามิได้เป็นคนขอยอมแพ้แล้วมาทำให้สิงอวี๋ต้องลำบากอีกหรอกใช่หรือไม่!”“เฮ้อ ปรมาจารย์ไป่หลี่ดูถูกพวกเราว่าเป็นพวกคนไร้ระเบียบ ก็มิรู้ว่าพวกบัณฑิตของหอโอสถไป๋เป่าทุกคนจะเป็นคนที่มีความสามารถสูงกันทั้งหมดหรือไม่!”มีคนหัวเราะแล้วเอ่ยขึ้นมา “พวกเรามิได้โกรธที่ถูกว่าเป็นพวกคนไร้ระเบียบหรอกนะ เพราะในสายตาของปรมาจารย์ไป่หลี่นั้นมิเห็นค่าแม้แต่รองเจ้าสำนักศึกษาต่งและเจ้าสำนักศึกษาจิน เจ้าฟังสิ เมื่อครู่เขาบอกว่าต้องการให้เจ้าสำนักศึกษาจินกับรองเจ้าสำนักศึกษาต่งมาเลียรองเท้าให้เขานั่น!”“ความคิดเช่นนี้ยิ่งใหญ่จนเกินไปท่านมหาเทพหลงยังทรงปฏิบัติต่อเจ้าสำนักศึกษาจินอย่างให้ความเคารพ หรือว่าปรมาจารย์ไป
เมื่อตาเฒ่าประหลาดเทียนซูได้ยินคำพูดไร้ยางอายของไป่หลี่ไห่ เขาก็หน้าแดงขึ้นมาแม้ว่าเขาจะช่วยเหลือไป่หลี่ไห่ แต่ก็ทำเพื่อสนับสนุนหยางหงหนิงศิษย์ของตนเช่นกัน แต่นี่มิได้หมายความว่าตาเฒ่าประหลาดเทียนซูจะไร้ยางอายเช่นเดียวกับไป่หลี่ไห่เขามองใบหน้าซีดเผือดของโจวจางแล้วก็นึกถึงที่ศิษย์ผู้นี้เอาชีวิตของตนเป็นประกันให้กับไป่หลี่ไห่เพื่อรักษาชื่อเสียงของไป่หลี่ไห่ และหยุดมิให้เขาทำผิดพลาดต่อไปอีก!ไหนเลยจะคาดคิดว่าไป่หลี่ไห่จะตบเขาโดยที่มิเอ่ยถามเรื่องราวใด ๆ ทั้งยังใส่ร้ายว่าเขาถูกสิงอวี๋ซื้อตัวไปอีก“พอได้แล้ว!”ตาเฒ่าประหลาดเทียนซูตะคอกออกมาด้วยความโกรธ “ไป่หลี่ไห่ เดิมทีเจ้าก็แพ้ไปแล้ว! โจวจางช่วยขอยาแก้พิษให้เจ้ามิได้ผิดเลยแม้แต่น้อย เมื่อดูจากท่าทีของเจ้าเมื่อครู่แล้ว แม้ว่าเจ้าจะมิได้หมดสติไป เจ้าก็มิสามารถเอาชนะสิงอวี๋ได้!”“ทักษะการปรุงยาพิษของสิงอวี๋เก่งกว่าเจ้าจริง ๆ แม้จะให้เวลาเจ้าสิบปี เจ้าก็มิสามารถเหนือกว่านางได้!”“เจ้ายอมแพ้ไปแต่โดยดีเถิด อย่าให้โจวจางต้องสละชีวิตเพื่อปกป้องเจ้าเลย!”ยังมิทันที่ตาเฒ่าประหลาดเทียนซูจะพูดจบ ไป่หลี่ไห่ก็มองไปทางตาเฒ่าประหลาดเทียนซูอย่าง
ต้องยอมรับว่ากลยุทธ์การถอยเพื่อก้าวไปข้างหน้าของหลงอิงนั้นได้รับการยอมรับจากบัณฑิตจำนวนมากทีเดียวทั้งยังถือเป็นการชะล้างความเสื่อมเสียที่ตนจะต้องแบกรับในภายภาคหน้าทางอ้อมอีกด้วยบัณฑิตบางคนตะโกนขึ้นมา “โจวจาง หลงอิง พวกเจ้ามิต้องตาย! คนที่ควรตายคือไป่หลี่ไห่ต่างหาก!”“พวกเจ้าออกจากสำนักเสียเถิด! ข้าเชื่อว่าจะต้องมีคนสายตาเฉียบแหลมเห็นความสามารถและรับพวกเจ้าเป็นศิษย์อีกอย่างแน่นอน!”“ใช่ ออกจากสำนักเถิด...ไป่หลี่ไห่ในฐานะที่เป็นอาจารย์ยังมิเคารพรองเจ้าสำนักศึกษาต่ง หากออกจากสำนักตอนนี้ก็มิถือว่าเป็นการทรยศสำนักหรอก!”ต่งเฉิงเหลือบมองไป่หลี่ไห่ด้วยสายตาเย็นชา ในใจของเขาค่อนข้างสงสัย ไป่หลี่ไห่ได้รับการแก้พิษไปแล้ว เหตุใดจึงยังดื้อรั้นเช่นนี้เล่า?เป็นเพราะยังมีพิษที่หลงเหลืออยู่มิได้ขจัดไป หรือว่านิสัยของเขาเป็นเช่นนี้กัน?แต่แม้ว่าจะมีพิษที่ยังมิถูกขจัดไป ต่งเฉิงก็จะมิเปิดเผยออกไปต่อหน้าธารกำนัลเช่นกัน ความแค้นที่ไป่หลี่ไห่ดูถูกตนและเจ้าสำนักศึกษาจินเมื่อครู่นี้นั้น เขายังคงจำได้ดี!การถือโอกาสนี้ทำให้ไป่หลี่ไห่ถูกทุกคนทอดทิ้งไปก็มิแน่ว่าจะมิใช่เรื่องดีเช่นกัน“แน่นอนว่ามินับ!
รองแม่ทัพจางยังคงกล่าวพลางยิ้มแย้ม “ท่านหญิงฉางเล่อมามิถูกจังหวะ วันนี้ฮองเฮาพร้อมด้วยท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นพาคุณชายน้อยทั้งหลายเสด็จไปชมดอกไม้ที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์พ่ะย่ะค่ะ!”ว่ากระไรนะ?หลงเพ่ยเพ่ยนิ่งอึ้งไป ท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นล้วนเป็นธิดาของเจ้าแห่งทะเล และเป็นลูกพี่ลูกน้องของหลงเพ่ยเพ่ยด้วยเหตุใดพวกนางถึงมิไปชมดอกไม้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้เล่า แต่กลับเลือกไปชมดอกไม้ในตอนที่ตนต้องการความช่วยเหลือจากเสด็จย่าพอดีนี่น่ะหรือ?“ไปนานเท่าใดแล้ว?”หลงเพ่ยเพ่ยสงสัยว่านี่เป็นการจัดฉากโดยเจตนาของชายาเจ้าแห่งทะเล“สองชั่วยามแล้วพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้น่าจะอยู่ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์แล้วขอรับ!”รองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้มหลงเพ่ยเพ่ยอยากจะชกหน้ายิ้ม ๆ ของรองแม่ทัพจางเสียสักหมัด เหตุใดนางมองรอยยิ้มของรองแม่ทัพจางแล้วเหมือนกำลังสมน้ำหน้าตนอยู่เลยเล่า“เจ้ามิได้หลอกข้าใช่หรือไม่?”หลงเพ่ยเพ่ยถามเสียงเย็นรองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้ม “ท่านหญิงฉางเล่อพูดเล่นแล้ว ไหนเลยข้าน้อยจะกล้าหลอกท่านหญิง! หากมิเชื่อท่านลองถามใครดูก็ได้ว่าที่ข้าน้อยพูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่!”“หากท่านหญิงมีธุระด่วนจร
หลิงอวี๋ฟังแล้วก็อดอมยิ้มมิได้ เซียวหลินเทียนใช้คนตระกูลเก๋อมาจัดการชายาเจ้าแห่งทะเล กลอุบายนี้ช่างเด็ดขาดนักรถม้ามาถึงจวนเจ้าแห่งทะเล เมื่อหลิงอวี๋ลงจากรถก็มองไปยังคฤหาสน์หลังใหม่ที่กำลังก่อสร้างอีกครั้ง กำแพงล้อมรอบสร้างเสร็จแล้ว ดูจากขนาดแล้วใหญ่โตมากจริง ๆนางอดสงสัยมิได้ ข้างในมีเรือนบุหงาแบบเดียวกับตำหนักอ๋องอี้ของตนอย่างที่เถาจื่อบอกจริงหรือ?นางอยากเข้าไปดู อยากเห็นเหลือเกินว่าบ้านในอดีตของตนเป็นอย่างไร!“คุณหนูสิง เชิญ!”พ่อบ้านเว่ยเห็นหลิงอวี๋มองคฤหาสน์ฝั่งตรงข้ามก็ร้องเรียกอย่างมิอดทนหลิงอวี๋หันกลับมา เห็นประตูใหญ่หนาทึบของจวนเจ้าแห่งทะเลเปิดอ้าอยู่ ข้างในลานเรือนซับซ้อนลึกล้ำ มองสุดตามิเห็นปลายทางนี่คือที่ที่เต็มไปด้วยอันตรายโดยแท้!หลิงอวี๋ลอบสูดหายใจลึก ๆ แล้วเดินเข้าไป“ปัง!”ประตูใหญ่หนาทึบปิดลงด้านหลังนางหลิงอวี๋มิได้หันกลับไปมอง เพราะนั่นจะดูมิสง่างามนางรอให้พ่อบ้านเว่ยนำทางอยู่ข้างหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินผิดทางแล้วถูกพ่อบ้านเว่ยหาเรื่องผิดพลาดมาตำหนิขณะเดียวกัน หลงเพ่ยเพ่ยก็ได้พาเย่หรงมุ่งหน้าไปยังวังหลวงแล้ว“อุบายนี้ของชายาเจ้าแห่งทะเลช่างร้า
จวนเจ้าแห่งทะเลตั้งอยู่ในย่านคหบดีและสูงศักดิ์ของเมืองหลวงแดนเทพ อันที่จริงอยู่ห่างจากคฤหาสน์อู่เพียงมิกี่ช่วงถนนเท่านั้นรถม้าวิ่งไปตามทางเรื่อย ๆ เถาจื่อพลันนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงกระซิบข้างหูหลิงอวี๋เบา ๆ“คุณหนู อีกประเดี๋ยวท่านจะเห็นคฤหาสน์หลังใหญ่ที่กำลังสร้างอยู่ตรงข้ามจวนเจ้าแห่งทะเล ที่นั่นฝ่าบาททรงสร้างให้ท่านเจ้าค่ะ!”“คราแรกที่พวกเรามาตามหาท่านในเมืองหลวงแดนเทพนั้นมิรู้ว่าจะต้องเสียเวลานานเท่าใด ฝ่าบาทจึงทรงให้สือหรงซื้อคฤหาสน์แถวนี้ไว้ล่วงหน้าแล้วรื้อสร้างใหม่ทั้งหมด!”“ฝ่าบาทตรัสว่า เจ้าแห่งทะเลคือบิดาของท่าน ในเมื่อเขามิยอมรับท่าน ฝ่าบาทก็จะทำให้เขาเห็นว่า ใช่ว่าท่านไม่มีบ้านเสียหน่อย แม้จวนเจ้าแห่งทะเลไม่มีที่ให้ท่าน ฝ่าบาทก็จะสร้างจวนหลังที่ใหญ่กว่าจวนเจ้าแห่งทะเลให้!”“คุณหนู ข้างในมีเรือนหลังหนึ่ง สร้างตามแบบเรือนบุหงาที่ตำหนักอ๋องอี้ในฉินตะวันตกของท่านไม่มีผิดเพี้ยน หากท่านได้เห็นจะต้องชอบอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ!”ก่อนหน้านี้หลิงอวี๋เคยได้ยินเผยอวี้พูดถึงคฤหาสน์หลังใหม่ที่พวกเขาสร้างแล้ว ตอนนั้นยังรู้สึกแปลกใจว่าเซียวหลินเทียนคิดจะอยู่เมืองหลวงแดนเทพเป็นการถาวรหรืออย่
วิธีนี้ของหลิงอวี๋เป็นวิธีเดียวที่จะช่วยนางได้ในยามนี้ ด้วยเซียวหลินเทียนและคนอื่น ๆ ก็ยังคิดหาวิธีที่ดีกว่านี้มิออกเย่หรงกล่าวขึ้นทันที “ข้าจะไปหาหลงเพ่ยเพ่ย บอกนางมิต้องมาแล้ว ให้เข้าวังไปทูลขอเข้าเฝ้าฮองเฮาได้เลย!”“พี่หญิงหลิงหลิง ท่านต้องยื้อจนกว่าพวกเราจะมาช่วยท่านให้ได้นะ!”พูดจบ เย่หรงก็รีบร้อนออกไปเก๋อเฟิ่งฉิงมองหลิงอวี๋ด้วยสายตาซับซ้อน นางหวังให้หลิงอวี๋เข้าจวนเจ้าแห่งทะเลไปแล้วออกมามิได้แต่เรื่องนี้ก็พัวพันถึงความเป็นความตายของเซียวหลินเทียน นางมิอยากให้เซียวหลินเทียนต้องเกิดเรื่อง!ช่างขัดแย้งในใจเสียจริง!“อาอวี๋ เจ้าไปก่อนเถอะ... วางใจได้ ต่อให้ต้องก่อความวุ่นวายครั้งใหญ่ในเมืองหลวงแดนเทพ ข้าก็จะพาเจ้ากลับบ้านให้ได้!”เซียวหลินเทียนกล่าวอย่างหนักแน่นเขายังมีแผ่นป้ายไม้ที่ขันทีโม่ให้มา สามารถใช้ขอความช่วยเหลือจากแม่ทัพฝ่ายซ้ายได้ เซียวหลินเทียนตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะใช้แผ่นป้ายไม้นี้ช่วยหลิงอวี๋ขันทีโม่เคยบอกว่า เพียงอาศัยแผ่นป้ายไม้นี้ ก็สามารถทำให้แม่ทัพฝ่ายซ้ายช่วยตนทำเรื่องหนึ่งเรื่องได้หากแม่ทัพฝ่ายซ้ายสามารถช่วยคนได้เพียงคนเดียว เช่นนั้นเขาก็ยอมตายเ
เผยอวี้และคนอื่น ๆ ต่างมองหน้ากันอย่างจนปัญญา นึกว่ามหาปราชญ์และเจ้าแห่งทะเลกลับไปแล้วพวกตนจะรอดพ้นจากครั้งนี้ไปได้ คาดมิถึงว่าชายาเจ้าแห่งทะเลจะใช้ไม้นี้อีกภายนอกดูเหมือนเป็นการเชิญ แต่จริง ๆ แล้วจะปฏิเสธมิไปได้หรือ?เซียวหลินเทียนสามารถแสร้งป่วยได้ แต่หลิงอวี๋เพิ่งจะปรากฏตัวต่อหน้าเจ้าแห่งทะเลไปเมื่อครู่ ตอนนี้ย่อมมิอาจใช้การแสร้งป่วยมาหลีกเลี่ยงได้อีกแล้ว“บอกไปว่าคุณหนูสิงกำลังรักษาอาการป่วยให้ข้าอยู่ เดี๋ยวค่อยไป!”ในสถานการณ์กะทันหันเช่นนี้เซียวหลินเทียนทำได้เพียงถ่วงเวลาไปก่อนแล้วค่อยคิดหาวิธี“เผยอวี้ เจ้าส่งคนไปแจ้งหลงเพ่ยเพ่ยกับเจ้าแห่งทิศใต้ ให้หลงเพ่ยเพ่ยไปเป็นเพื่อนอาอวี๋!”เป็นเรื่องความเป็นความตายของหลิงอวี๋ เผยอวี้รีบให้คนไปแจ้งหลงเพ่ยเพ่ยทันทีหลิงอวี๋นิ่งเงียบ นั่งคิดอยู่ข้าง ๆเพื่อชิงหยกหล้าสุขาวดีกลับคืนมา ในเวลานั้นชายาเจ้าแห่งทะเลสามารถลงมืออำมหิตกับหลานฮุ่ยจวนที่กำลังตั้งครรภ์ได้ครั้งนี้นางส่งพ่อบ้านมาเชิญตนไปจวนเจ้าแห่งทะเล พูดไปพูดมาก็เพื่อหยกหล้าสุขาวดีบนตัวนางนั่นเองส่วนการที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาได้นั้นต้องใช้วิธีสลายโลหิตละลายกระดูก หรือว่าช
หลิงอวี๋เดินกลับเข้ามา และบังเอิญได้ยินคำพูดของเย่ซงเฉิงเข้าพอดี“พวกเราต้องเตรียมรับมือสำหรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด หากหวงฝู่หลินกลับไปแล้ว มิสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ถึงกาลนั้นใครจะมารับมือการแก้แค้นของฝูไห่ต่อตระกูลหลงและตระกูลอื่น ๆ อีกหลายตระกูลเล่า?”เจ้าแห่งทิศใต้มองไปยังเย่หรง และกล่าวเสียงเข้ม “เลี่ยวหงเสีย มารดาของเย่หรงอาจจะรู้วิธี!”“ปรมาจารย์เย่ ก่อนหน้านี้ข้าอยากจะพบเลี่ยวหงเสียเพื่อสอบถามสถานการณ์จึงไปที่คุกน้ำมา แต่ข้ากลับมิสามารถพบนางได้!”“คำกล่าวของท่านมีน้ำหนักเมื่ออยู่ต่อหน้าพระพักตร์เสด็จพ่อ บางทีท่านอาจจะสามารถทูลขอเสด็จพ่อให้ทรงอนุญาตท่านเข้าพบเลี่ยวหงเสียได้!”เย่ซงเฉิงขมวดคิ้ว “เจ้าแห่งทิศใต้ก็มิสามารถพบเลี่ยวหงเสียได้เช่นกันหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เจ้าแห่งทิศใต้พยักหน้า “แม่ทัพหลี่ผู้เฝ้าประตูบอกว่า นอกเสียจากจะมีพระราชโองการของมหาเทพ มิฉะนั้นก็มิอนุญาตให้ข้าพบเลี่ยวหงเสีย!”เย่ซงเฉิงยิ้มอย่างขมขื่น “เรื่องนี้ข้าน้อยเคยทูลต่อเสด็จพ่อของท่านแล้ว เสด็จพ่อของท่านมิทรงยินยอม ความนับหน้าถือตาของตาเฒ่าผู้นี้ใช้มิได้ผลต่อหน้าพระพักตร์เสด็จพ่อของท่านแล้ว!”ทุกคนต่
หวงฝู่หลินมิรู้จักคนทั้งสองนี้เลย คิดอยู่ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “ตอนนั้นนอกจากพวกท่านกับตระกูลเฉียวแล้ว ก็มีคนของตระกูลจงเจิ้งที่เข้าไปในภูเขาหิมะ ข้ามิเห็นคนทั้งสองที่ท่านพูดถึงในภูเขาหิมะ!”“บางทีปี้ซงอาจจะเคยเห็น เดี๋ยวลองเรียกเขามาถามดู!”เผยอวี้จึงไปเรียกปี้ซงมาอีกครั้งปี้ซงอุ้มหวงฝู่หมิงจูเข้ามา หลิงอวี๋ก็รับนางมาอุ้มไว้เซียวหลินเทียนมองหวงฝู่หมิงจูกอดคอหลิงอวี๋ด้วยท่าทางสนิทสนม ในใจรู้สึกซับซ้อนอย่างบอกมิถูกหวงฝู่หลินเล่าคำถามให้ปี้ซงฟังอีกครั้งปี้ซงคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “ชายชราผู้นั้นข้าพอจำได้ราง ๆ ตอนนั้นเขาเดินวนเวียนอยู่ในภูเขาหิมะอยู่หลายวัน ต่อมาก็จากไป ข้าคิดว่าเขาไม่มีอันตรายอะไรจึงมิได้ใส่ใจ!”“ส่วนแม่นมอู ข้าไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับนางเลย มิเคยเห็นนางในภูเขาหิมะ!”เก๋อเฟิ่งฉิงยืนฟังอยู่ข้าง ๆ ตลอด ได้ยินดังนั้นก็กล่าวว่า “อันที่จริงตอนนั้นที่ภูเขาหิมะ นอกจากพวกเราแล้ว น่าจะยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่ง”“ข้าก็มาพบพวกนางหลังจากลงจากเขาแล้ว ตอนนั้นยังคิดว่าพวกนางแค่ผ่านทางมา แต่พอลองคิดดูตอนนี้ พวกนางต้องเคยไปภูเขาหิมะแน่นอน แม่นมอูน่าจะถูกพวกนางพาตัวไป!”“พวกเข
เมื่อฟังคำพูดของเย่ซงเฉิงจบ หลิงอวี๋ หลงเพ่ยเพ่ยและเผยอวี้ก็ร้องอุทานออกมาพร้อมกัน“เจ้าสำนักซิงหลัวเป็นสตรี! หรือว่านางคือตงกู่อวี้ที่กลับชาติมาเกิด?”หวงฝู่หลินก็นึกขึ้นได้ ตอนที่ทุกคนรุมล้อมโจมตีเจ้าสำนักซิงหลัว เผยอวี้ใช้กระบี่เดียวตัดเชือกรัดผมที่มัดผมของเจ้าสำนักซิงหลัวขาดตอนนั้นผมสลวยของนางสยายลงมาบดบังดวงตาของนางทุกคนมัวแต่ยุ่งอยู่กับการรับมือ จึงมิทันได้คิดให้ลึกซึ้งเมื่อเย่ซงเฉิงพูดเช่นนี้ ทุกคนจึงได้นึกถึงสภาพการณ์ในยามนั้นขึ้นมา“ตงกู่อวี้กลับชาติมาเกิดจริง ๆ หรือ?”ในฐานะลูกหลานตระกูลหลง เจ้าแห่งทิศใต้จะมิรู้ได้อย่างไรว่าในใต้หล้านี้มีวิชาลับเช่นนี้อยู่จริง ทันใดนั้นก็ตกใจจนเหงื่อเย็นไหลซึมหลงจิ้งและหลงเพ่ยเพ่ยก็ตกใจเช่นกัน วรยุทธ์ของสตรีนางนั้นสูงส่งกว่ามหาปราชญ์เสียอีก แต่ก่อนหน้านี้พวกเขามิเคยรู้มาก่อนเลยว่าสำนักซิงหลัวยังมียอดฝีมือเช่นนี้อยู่“ท่านพ่อ ยามนั้นเจ้าวังหวงฝู่พร้อมด้วยท่านเซียวและพวกเราช่วยกันรุมล้อมโจมตีนางก็ยังมิสามารถสังหารนางได้ ลูกดูจากวรยุทธ์ของนางแล้ว เกรงว่าจะมีเพียงท่านอาเจ้าแห่งทะเลเท่านั้นที่พอจะต่อกรกับนางได้!”หลงเพ่ยเพ่ยกล่าวด้วย
หลงจิ้งยังคงยากที่จะเชื่อ “คำพูดของตระกูลเหล่านั้นก็มิได้ผลหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เจ้าแห่งทิศใต้ส่ายหน้าอย่างหดหู่ “เสด็จปู่ของเจ้าตรัสว่าจะตรวจสอบให้ จึงส่งเจ้าแห่งทะเลไปตรวจสอบ แต่ผลที่ได้จากเจ้าแห่งทะเลก็มิสามารถสรุปอะไรได้เลย หรือกระทั่ง...”กระทั่งเจ้าแห่งทะเลอาจจะใช้ขี้ผึ้งหอม ควบคุมบุตรหลานของตระกูลใหญ่เหล่านั้นไว้ในมือตนเอง!เซียวหลินเทียน หลงจิ้งและหลิงอวี๋ต่างก็เข้าใจความหมายที่เจ้าแห่งทิศใต้ยังพูดมิจบใจของหลงจิ้งพลันหล่นวูบ เช่นนั้นเรื่องที่ตนไปเผาขี้ผึ้งหอมก็เท่ากับมิได้ช่วยใครเลย กลับยิ่งทำให้อำนาจของเจ้าแห่งทะเลเพิ่มทวีคูณขึ้นงั้นหรือ?หลงเพ่ยเพ่ยกล่าวอย่างมิยอม “หรือว่าหัวหน้าตระกูลใหญ่เหล่านั้นล้วนเลอะเลือนไปแล้ว? ไยจึงปล่อยให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลควบคุมชะตากรรมของพวกเขาเช่นนี้?”เซียวหลินเทียนขมวดคิ้ว มิน่าแปลกใจที่เมื่อครู่เจ้าแห่งทะเลยอมถอยกลับไปง่าย ๆ ที่แท้ก็มีแผนการเช่นนี้เองก่อนที่จะควบคุมตระกูลใหญ่เหล่านั้นไว้ในมือ เจ้าแห่งทะเลย่อมมิอาจแตกหักกับเจ้าแห่งทิศใต้ได้ในยามนี้แต่เมื่อใดที่เขาควบคุมตระกูลใหญ่เหล่านั้นไว้ในมือได้แล้ว เจ้าแห่งทะเลย่อมมิปล่อยเจ้าแห่งทิศใต