แชร์

บทที่ 1976

ผู้เขียน: กานเฟย
“จริงหรือ?”

ผู้รอบรู้มีหรือจะคาดคิดว่าหญ้าที่มีดอกสีขาวธรรมดานี้จะมีมูลค่าถึงเพียงนี้ เขาจึงรีบพุ่งเข้าไปเก็บทันที

“ยังมีอีกหรือไม่? หากหาเจอได้มาก ๆ ก็มิต้องกังวลว่าจะไม่มีเงินซื้อยาให้เจ้าแล้ว!”

ผู้รอบรู้มองไปรอบ ๆ อย่างตื่นเต้น

หลิงอวี๋มองผู้รอบรู้ แล้วจู่ ๆ ก็เกิดความรู้สึกซาบซึ้งขึ้นมา

พี่ชายบุญธรรมที่เพิ่งรู้จักกันมินานมานี้ ในตอนที่เสือกระโจนใส่ตนก็พุ่งเข้ามาช่วยตนไว้โดยมิหลีกเลี่ยง

ในตอนนี้เมื่อพบสมุนไพรที่มีมูลค่า สิ่งแรกที่เขานึกถึงก็คือการซื้อยาให้ตน เขามิเคยคิดว่าเมื่อมีเงินแล้วจะนำไปใช้ชีวิตดี ๆ เลย

การได้รู้จักพี่ชายผู้นี้ช่างคุ้มค่าจริง ๆ!

หลิงอวี๋แอบสาบานว่า ในภายภาคหน้านางจะต้องใช้สิ่งที่ตนได้เรียนรู้มา ทำให้ผู้รอบรู้ได้ใช้ชีวิตที่ดีอย่างแน่นอน

“พี่ใหญ่ หากเครื่องยาสมุนไพรล้ำค่าเช่นนี้มีอยู่เต็มภูเขา เช่นนั้นก็คงจะไร้ค่าไปแล้ว!”

“สิ่งนี้สามารถเก็บได้! ถึงแม้มูลค่าจะมิได้เท่าช่อสัตตะดารา แต่ก็สามารถขายได้หลายหมื่นทีเดียว!”

หลิงอวี๋ให้คำแนะนำ ทำให้ผู้รอบรู้มีความสุขขึ้นมา

ผู้รอบรู้ตามหลิงอวี๋ไปอย่างมีความสุข หลิงอวี๋ให้เก็บอะไรเขาก็เก็บสิ่งนั้น

หลิงอวี๋ให้เข
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1977

    หลิงอวี๋หลบมิทัน จึงถูกสัตว์ประหลาดกระโจนใส่จนหงายหลังไป แล้วสัตว์ประหลาดตัวนั้นก็อ้าปากจะพุ่งไปกัดคอของหลิงอวี๋หลิงอวี๋มองมิชัดในความมืด จึงเห็นเพียงดวงตาสีเขียวที่มีขนาดใหญ่เท่ากับระฆังทองแดงของสัตว์ประหลาดอยู่ใกล้แค่เอื้อม ลมหายใจร้อน ๆ ที่มันพ่นออกมาทั้งคาวทั้งเหม็น จนทำให้หลิงอวี๋รู้สึกอยากจะอาเจียนออกมาก่อนหน้านี้หลิงอวี๋คว้าหินก้อนหนึ่งไว้ในมือ เมื่อรู้สึกถึงลมหายใจร้อนใกล้เข้ามา นางก็ยัดก้อนหินเข้าไปโดยมิคิดทันทีจากนั้นมืออีกข้างที่ถือกริชมาตลอดก็แทงไปที่ดวงตาสีเขียวนั้นอย่างโหดร้าย“โฮก…”สัตว์ประหลาดมีหรือจะคาดคิดว่าหลิงอวี๋จะกล้าต่อต้านมันในเวลานี้ ในระยะที่ใกล้เช่นนี้ ดวงตาของมันจึงถูกหลิงอวี๋แทงเข้าไปเต็ม ๆในปากของมันก็มีหินที่หลิงอวี๋ยัดเข้าไปอุดไว้ และดวงตาของมันก็ถูกแทงจนบาดเจ็บ ขาหน้าที่มันกระโจนเข้ามาจึงเด้งตัวลุกขึ้นยืนในทันทีสัตว์ประหลาดตัวนั้นส่ายหัว แล้วคายก้อนหินออกมา จากนั้นก็ไปไล่กัดหลิงอวี๋อย่างบ้าคลั่งหลิงอวี๋อาศัยตอนที่มันเด้งตัวลุกขึ้นแล้วกลิ้งหนีไปด้านข้าง หลบเลี่ยงมันออกไปนางสั่นไปทั้งตัว การโจมตีเมื่อครู่มิใช่ว่านางมิกลัว เพียงแต่มันเกี่ย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1978

    “บริเวณโดยรอบมีต้นไม้สูงใหญ่อยู่มาก ท่านขึ้นไปบนต้นไม้สักต้น พวกเราต้องดูก่อนว่านี่มันคือสัตว์ประหลาดอะไรกันแน่”หลิงอวี๋ชี้แนะเซียวหลินเทียนก็มิพูดพร่ำทำเพลง เขาเชื่อมั่นหลิงอวี๋โดยไม่มีเงื่อนไข แล้วหยิบตะบันไฟออกมาส่งให้หลิงอวี๋ จากนั้นก็อุ้มหลิงอวี๋กระโดดขึ้นไปยืนอยู่บนต้นไม้สูงหลิงอวี๋จึงรีบจุดไฟแล้วมองลงไป สัตว์ประหลาดตัวนั้นไล่ตามมาที่ใต้ต้นไม้แล้ว และมันก็กำลังเงยหน้ามองขึ้นมาด้วยมันเหลือตาเพียงข้างเดียว และกำลังจ้องมองขึ้นมาด้วยสายตาเย็นเยือกแสงสว่างจากตะบันไฟมีอยู่จำกัด หลิงอวี๋มองเห็นเพียงดวงตาที่ถูกซ่อนอยู่ภายใต้ขนที่ยุ่งเหยิงของมันเท่านั้น“ฮึ่ม…”สัตว์ประหลาดส่งเสียงออกมา แล้วก็ถอยหลังไปหลิงอวี๋มองเจตนาของมันออกในทันทีที่สัตว์ประหลาดถอยหลังไปมิได้วางแผนที่จะยอมแพ้ แต่เพื่อรวบรวมพลังจะมาพุ่งชนต้นไม้ให้หักต่างหาก“ที่นี่มิปลอดภัย หนีเร็ว!”ทันทีที่หลิงอวี๋พูดจบ สัตว์ประหลาดตัวนั้นก็พุ่งกลับมา มิรู้ว่ามันเกิดมาพร้อมพลังเหนือธรรมชาติหรืออย่างไร ได้ยินเพียงเสียงไม้หัก...ต้นไม้ต้นหนาถูกสัตว์ประหลาดโจมตีจนหักไปแล้วเมื่อเซียวหลินเทียนได้ยินเสียงร้องของหลิงอวี๋

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1

    “หลิงอวี๋!” “ในปีนั้นเจ้าวางแผนการชั่วร้ายใส่ข้าอย่างไร้ยางอาย… จากนั้นยังใช้ป้ายทองอาญาสิทธิ์ที่องค์จักรพรรดิพระราชทานให้มาบีบบังคับให้ข้าแต่งงานกับเจ้า...” “มาตอนนี้ยังลอบขโมยของล้ำค่าที่เสด็จแม่ของข้าทิ้งเอาไว้ เพื่อเติมเต็มสิ่งที่เจ้าขาดหายไป! ยิ่งไปกว่านั้นคือทำร้ายเฮยจื่อเสียจนปางตาย!” “หากว่าข้ายังไว้ชีวิตเจ้าอีก ข้าก็คงจะไม่แซ่เซียวแล้ว!” ใคร? ใครกำลังพูดอยู่กัน ขณะที่เธอกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงแส้ “เพียะ!” ดังขึ้น ทั่วทั้งตัวของหลิงอวี๋เจ็บปวดจนสั่นสะท้าน จนต้องลืมตาขึ้นมาทันที... จากนั้นเมื่อมองเห็นด้านหน้าของเธอ มีชายหนุ่มหล่อเหลา สูงส่งราวกับเทพเจ้านั่งอยู่บนรถเข็น จ้องมองยังเธออย่างแข็งกร้าว “โบย! ห้าสิบแส้! อย่าให้ขาดแม้แต่หนึ่ง!” “โบยให้ตาย แล้วจงลากไปโยนทิ้งที่สุสานรวมซะ!” เพียะ! เพียะ! เพียะ! เสียงแส้ดังออกมาพร้อมกับเสียงลมครั้งแล้วครั้งเล่ากระแทกลงบนกายของหลิงอวี๋ หลิงอวี๋เจ็บปวดจนดวงตามืดมน อีกเพียงนิดเกือบจะเป็นลมไป... หลิงอวี๋ที่เกือบจะสิ้นลมไป เธอนึกไม่ออกว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น? ท่านอ๋องอะไรกัน? เฮยจื่ออะไร? เมื่อคร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2

    “อย่าตีท่านแม่ของข้า...” หลังจากที่เสี่ยวเมาล้มบนพื้น กระอักเลือดออกมาแล้วก็คลานเข้าไปหาหลิงอวี๋อย่างไม่ยินยอม ยังคิดที่จะใช้ร่างกายที่อ่อนแอของตนช่วยรับแส้ให้กับนางอีก หลิงอวี๋มองไปยังมุมปากของเสี่ยวเมาที่ยังคงมีเลือดไหลซึม ในใจก็ยิ่งสั่นสะท้านขึ้นมา… ในความทรงจำนั้น หลิงอวี๋ใส่ใจเสี่ยวเมาน้อยนัก ทำให้เสี่ยวเมาที่คลอดมาแข็งแรงมาก กลับยิ่งเลี้ยงดูก็ยิ่งผอมบาง... “ท่านอ๋อง… นี่? โบยต่อหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?” มือเฆี่ยนเอ่ยถามออกมาอย่างระมัดระวัง “ลากลูกนอกสมรสนั่นออกไป โบยต่อ!” ชายหนุ่มสูงส่งราวกับเทพเจ้านั้น ถึงแม้ว่าจะเห็นเสี่ยวเมากระอักเลือดออกมา ก็ยังคงดูเฉยชาไร้ซึ่งอารมณ์ดั่งเก่า “เสี่ยวเมา ไปเถอะ ปกตินางก็ไม่ได้ดูแลเจ้าดีนัก เจ้ายังสนใจว่านางจะเป็นตายไปเพื่อเหตุอันใด!” หญิงชราคนหนึ่งวิ่งเข้ามา เมื่ออุ้มเสี่ยวเมาได้ก็ออกไป “อย่าตีท่านแม่… ปล่อยข้า!” เสี่ยวเมายังคงร้องตะโกนออกมาอย่างเศร้าโศก ไม่สนใจว่าตรงมุมปากของตนจะมีเลือดไหลออกมา ดิ้นรนอย่างแรงอยู่ในอ้อมแขนของหญิงชรา หญิงชรากอดเขาเอาไว้แน่น มือเฆี่ยนยังคงโบยแส้ลงไปบนกายของหลิงอวี๋ เสี่ยวเมาเองก็ไม่รู้ว่าไปเอาแรง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 3

    “ตึกตึก… ตึก...” ไม่รู้ว่าสลบไปนานเท่าใด หลิงอวี๋ได้ยินเสียงนาฬิกาดังตึกตึกแว่ว ๆ จนลืมตาขึ้นมา... ทันใดนั้น ดวงตาของหลิงยวี่ก็สว่างขึ้น เธอพบว่าตัวเองอยู่ในห้องทดลองอิสระของตนที่วิทยาลัยแพทย์ หรือว่าตนจะเดินทางข้ามเวลากลับมาแล้ว? หลิงอวี๋ลุกขึ้นมาอย่างตื่นเต้นขึ้นมา ทว่าเพียงเคลื่อนไหวร่างกายก็รู้สึกได้ว่าทั่วทั้งร่างเจ็บปวด และยังมีเลือดสดไหลออกมา... เธอก้มหัวลงไปมองก็พบว่าร่องรอยบาดเจ็บของแส้ก็ถูกนำกลับมาด้วย! เธออดทนต่อความเจ็บปวดตามหากล่องยา แล้วฉีดยาบาดทะยักให้กับตนเอง ก่อนจะรีบจัดการบาดแผลอย่างรวดเร็ว มีรอยแส้มากมายอยู่ตรงหน้าอก แผ่นหลัง และบนใบหน้า ล้วนแต่ลึกลงสู่ผิวหนัง มองดูแล้วช่างน่าหวาดกลัวและโหดร้าย ขณะที่หลิงอวี๋กำลังจัดการอาการบาดเจ็บบนร่างกายอยู่ทางนี้นั้น ก็ก่นด่าสาปแช่งเซียวหลินเทียนไปพลาง สาปแช่งให้เขาไม่ได้ตายดี ขาดลูกหลานสืบสกุล... เมื่อคำด่า “ขาดลูก” สองคำนี้ออกมา ก็คิดถึงเสี่ยวเมาที่ปกป้องตนจนไม่อาจสาปแช่งต่อไปได้ เธอไม่ได้หวังให้เสี่ยวเมาตายไป! บาดแผลของหลิงอวี๋เพิ่งจะใส่ยาลงไป ขณะที่กำลังสวมเสื้อผ้าอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังลอยมา เ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 4

    หลิงอวี๋คิดที่จะหยิบเครื่องมือและยาเพื่อไปช่วยรักษาเสี่ยวเมา ทว่าประตูห้องใหญ่ก็ถูกเปิดขึ้นในทันที นางรับใช้แม่นมที่อยู่ด้านนอกอาจจะเข้ามาได้ทุกเมื่อ หลิงอวี๋จึงไม่กล้าที่จะทำอะไรผลีผลาม ทำได้เพียงแต่สงบนิ่งรอคอยเวลา พ่อบ้านฟั่นด้านนอกนั้นถูกแม่นมลี่ถามไถ่จนรู้สึกรำคาญใจ จึงใช้เท้าเตะแม่นมลี่ แล้วเอ่ยออกมาอย่างเย็นชาไร้ปรานี “ไสหัวไป สุนัขดี ๆ จะต้องไม่มาขวางทาง” เมื่อหลิงอวี๋มองออกไป ก็พบว่าแม่นมลี่ถูกผลักจนล้มลงบนพื้นอย่างแรง ดูเหมือนว่า แม่นมลี่เองก็คงจะถูกแส้หวดมาก่อน เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง บนใบหน้ายังมีคราบเลือดอยู่ไม่น้อย... “แม่นมลี่ เจ้าอย่ามามัวเสียเวลาอีกเลย รีบจัดการเก็บกวาดอยู่ในเรือนบุหงาเสียดี ๆ เถิด!” นางรับใช้ที่ดูหยิ่งยโสคนหนึ่งยืนอยู่ด้านหน้าของแม่นมลี่ เอ่ยออกมาอย่างได้ใจ “พ่อบ้านฟั่นได้เลื่อนขั้นให้ข้าเป็นนางรับใช้ใหญ่แล้ว ต่อไปทุกคนในเรือนบุหงาจะต้องอยู่ภายใต้การดูแลของข้า” “ท่านอ๋องทรงรับสั่งมาแล้วว่า หากพวกเจ้ายังจะไม่เชื่อฟัง ข้าก็มีอำนาจทีจะทุบตีพวกเจ้าจนตายได้!” “หลิงผิง เจ้าเป็นนางรับใช้ข้างกายของพระชายา สัญญาทาสยังอยู่ในมือของพระชายา เจ้าม

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 5

    หลิงอวี๋ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ก็พบว่าตนเองนอนอยู่บนหลุมธรรมดา มีตะเกียงน้ำมันแสงสลัวแขวนอยู่บนกำแพงดินเก่า ๆ ส่วนเสี่ยวเมาที่นอนข้างกายเธอนั้น อาการบาดเจ็บก็สาหัสมากยิ่งขึ้น! หลิงอวี๋รู้สึกได้ว่าเจ็บปวดตรงหน้าอก นี่เป็นความรู้สึกของเสี่ยวเมาที่เธอรับรู้ได้! หลิงอวี๋คุ้นชินกับความรับรู้ที่เหนือธรรมชาติของตนเองได้แล้ว จึงได้คลานไปอย่างต้องการจะช่วยเสี่ยวเมาตรวจอาการอีกสักครั้ง ในเวลานี้ เธอได้ยินเสียงของคนพูดคุยกันอยู่ด้านนอก น้ำเสียงดูเขินอาย “พี่หลิงหลาน พี่ช่วยไปขอร้องพี่หลิงผิง ให้นางช่วยตามหมอมาให้กับคุณชายน้อยและแม่นมลี่ทีเถิด! แม่นมลี่อายุมากแล้ว นางไม่มีทางทนได้!” หลิงหลานเอ่ยออกมาด้วยความโมโห “แม่นมลี่และข้าถูกเจ้าหมูโง่นั่นทำให้ลำบากแล้ว ต่างก็ถูกเฆี่ยนกันคนละสามสิบครั้ง ทั่วทั้งร่างกายของข้าล้วนแต่เต็มไปด้วยบาดแผล! จะมีหมอที่ไหนมาดูพวกเรากัน! ท่านหมอที่มีชื่อในเมืองหลวงล้วนแต่ถูกท่านอ๋องเรียกไปทางด้านของเฮยจื่อหมดแล้ว!” “ข้าเพิ่งจะได้ยินมาว่า หมอเหล่านั้นเองก็มิอาจทำอะไรกับอาการบาดเจ็บของเฮยจื่อได้เลย คุณชายเฮยจื่อหากว่าไม่อาจมีชีวิตอยู่ต่อได้ พวกเราทั้งหมดคงจะต้องถ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 6

    “ข้าไม่เชื่อว่าโลกกว้างใหญ่ถึงเพียงนี้ จะไม่มีสักคนที่จะสามารถช่วยเหลือเฮยจื่อได้!” “ออกไปตามหามาให้ข้า! ของเพียงแค่ช่วยชีวิตเฮยจื่อเอาไว้ได้ ข้าจะให้รางวัลอย่างงาม!” เมื่อเวลาผ่านไปหนึ่งชั่วยาม เมื่อมองเห็นลมหายใจของเฮยจื่อขาดช่วง ใบหน้าซีดขาวราวกับกระดาษ มีท่านหมอหลายคนที่พากันถอดใจไปแล้ว ต่างก็หาคำอ้างเพื่อทูลลา เมื่อเห็นว่าท่านหมอพากันจากไป เซียวหลินเทียนเองก็ไม่อาจควบคุมอารมณ์เอาไว้ได้อีก ตบลงบนที่พักแขนของรถเข็นคำรามด้วยความกรุ่นโกรธขึ้นมา “กลุ่มคนเศษสวะ!” ลู่หนาน ทหารองค์รักษ์ที่มีใบหน้าเหลี่ยมคิ้วหนาดวงตาโตที่ยืนอยู่ด้านข้างนั้น เขาติดตามเซียวหลินเทียนมาหลายปี ลักษณะนิสัยดูสงบนิ่ง จงรักภักดีต่อเซียวหลินเทียนอย่างมาก และได้รับความไว้วางใจจากเซียวหลินเทียนเป็นที่สุด เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนไม่กล้าที่จะเอ่ยอะไรออกมา จึงทำได้เพียงฝืนตนกล้าเดินก้าวออกมา เอ่ยอย่างลำบากใจ “ท่านอ๋อง หมอที่มีชื่อในเมืองหลวงพวกเราต่างก็หากันมาแล้ว เฮยจื่อคราวนี้ เกรงว่าคงไม่อาจจะมีชีวิตอยู่ต่อได้แล้ว...” “ท่านอ๋อง...ข้าจะไปจับตัวหญิงสาวคนนั้นมา ให้นางได้ชดใช้ชีวิตให้กับเฮยจื่อ!” ชิวเฮ่า

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1978

    “บริเวณโดยรอบมีต้นไม้สูงใหญ่อยู่มาก ท่านขึ้นไปบนต้นไม้สักต้น พวกเราต้องดูก่อนว่านี่มันคือสัตว์ประหลาดอะไรกันแน่”หลิงอวี๋ชี้แนะเซียวหลินเทียนก็มิพูดพร่ำทำเพลง เขาเชื่อมั่นหลิงอวี๋โดยไม่มีเงื่อนไข แล้วหยิบตะบันไฟออกมาส่งให้หลิงอวี๋ จากนั้นก็อุ้มหลิงอวี๋กระโดดขึ้นไปยืนอยู่บนต้นไม้สูงหลิงอวี๋จึงรีบจุดไฟแล้วมองลงไป สัตว์ประหลาดตัวนั้นไล่ตามมาที่ใต้ต้นไม้แล้ว และมันก็กำลังเงยหน้ามองขึ้นมาด้วยมันเหลือตาเพียงข้างเดียว และกำลังจ้องมองขึ้นมาด้วยสายตาเย็นเยือกแสงสว่างจากตะบันไฟมีอยู่จำกัด หลิงอวี๋มองเห็นเพียงดวงตาที่ถูกซ่อนอยู่ภายใต้ขนที่ยุ่งเหยิงของมันเท่านั้น“ฮึ่ม…”สัตว์ประหลาดส่งเสียงออกมา แล้วก็ถอยหลังไปหลิงอวี๋มองเจตนาของมันออกในทันทีที่สัตว์ประหลาดถอยหลังไปมิได้วางแผนที่จะยอมแพ้ แต่เพื่อรวบรวมพลังจะมาพุ่งชนต้นไม้ให้หักต่างหาก“ที่นี่มิปลอดภัย หนีเร็ว!”ทันทีที่หลิงอวี๋พูดจบ สัตว์ประหลาดตัวนั้นก็พุ่งกลับมา มิรู้ว่ามันเกิดมาพร้อมพลังเหนือธรรมชาติหรืออย่างไร ได้ยินเพียงเสียงไม้หัก...ต้นไม้ต้นหนาถูกสัตว์ประหลาดโจมตีจนหักไปแล้วเมื่อเซียวหลินเทียนได้ยินเสียงร้องของหลิงอวี๋

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1977

    หลิงอวี๋หลบมิทัน จึงถูกสัตว์ประหลาดกระโจนใส่จนหงายหลังไป แล้วสัตว์ประหลาดตัวนั้นก็อ้าปากจะพุ่งไปกัดคอของหลิงอวี๋หลิงอวี๋มองมิชัดในความมืด จึงเห็นเพียงดวงตาสีเขียวที่มีขนาดใหญ่เท่ากับระฆังทองแดงของสัตว์ประหลาดอยู่ใกล้แค่เอื้อม ลมหายใจร้อน ๆ ที่มันพ่นออกมาทั้งคาวทั้งเหม็น จนทำให้หลิงอวี๋รู้สึกอยากจะอาเจียนออกมาก่อนหน้านี้หลิงอวี๋คว้าหินก้อนหนึ่งไว้ในมือ เมื่อรู้สึกถึงลมหายใจร้อนใกล้เข้ามา นางก็ยัดก้อนหินเข้าไปโดยมิคิดทันทีจากนั้นมืออีกข้างที่ถือกริชมาตลอดก็แทงไปที่ดวงตาสีเขียวนั้นอย่างโหดร้าย“โฮก…”สัตว์ประหลาดมีหรือจะคาดคิดว่าหลิงอวี๋จะกล้าต่อต้านมันในเวลานี้ ในระยะที่ใกล้เช่นนี้ ดวงตาของมันจึงถูกหลิงอวี๋แทงเข้าไปเต็ม ๆในปากของมันก็มีหินที่หลิงอวี๋ยัดเข้าไปอุดไว้ และดวงตาของมันก็ถูกแทงจนบาดเจ็บ ขาหน้าที่มันกระโจนเข้ามาจึงเด้งตัวลุกขึ้นยืนในทันทีสัตว์ประหลาดตัวนั้นส่ายหัว แล้วคายก้อนหินออกมา จากนั้นก็ไปไล่กัดหลิงอวี๋อย่างบ้าคลั่งหลิงอวี๋อาศัยตอนที่มันเด้งตัวลุกขึ้นแล้วกลิ้งหนีไปด้านข้าง หลบเลี่ยงมันออกไปนางสั่นไปทั้งตัว การโจมตีเมื่อครู่มิใช่ว่านางมิกลัว เพียงแต่มันเกี่ย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1976

    “จริงหรือ?”ผู้รอบรู้มีหรือจะคาดคิดว่าหญ้าที่มีดอกสีขาวธรรมดานี้จะมีมูลค่าถึงเพียงนี้ เขาจึงรีบพุ่งเข้าไปเก็บทันที“ยังมีอีกหรือไม่? หากหาเจอได้มาก ๆ ก็มิต้องกังวลว่าจะไม่มีเงินซื้อยาให้เจ้าแล้ว!”ผู้รอบรู้มองไปรอบ ๆ อย่างตื่นเต้นหลิงอวี๋มองผู้รอบรู้ แล้วจู่ ๆ ก็เกิดความรู้สึกซาบซึ้งขึ้นมาพี่ชายบุญธรรมที่เพิ่งรู้จักกันมินานมานี้ ในตอนที่เสือกระโจนใส่ตนก็พุ่งเข้ามาช่วยตนไว้โดยมิหลีกเลี่ยงในตอนนี้เมื่อพบสมุนไพรที่มีมูลค่า สิ่งแรกที่เขานึกถึงก็คือการซื้อยาให้ตน เขามิเคยคิดว่าเมื่อมีเงินแล้วจะนำไปใช้ชีวิตดี ๆ เลยการได้รู้จักพี่ชายผู้นี้ช่างคุ้มค่าจริง ๆ!หลิงอวี๋แอบสาบานว่า ในภายภาคหน้านางจะต้องใช้สิ่งที่ตนได้เรียนรู้มา ทำให้ผู้รอบรู้ได้ใช้ชีวิตที่ดีอย่างแน่นอน“พี่ใหญ่ หากเครื่องยาสมุนไพรล้ำค่าเช่นนี้มีอยู่เต็มภูเขา เช่นนั้นก็คงจะไร้ค่าไปแล้ว!”“สิ่งนี้สามารถเก็บได้! ถึงแม้มูลค่าจะมิได้เท่าช่อสัตตะดารา แต่ก็สามารถขายได้หลายหมื่นทีเดียว!”หลิงอวี๋ให้คำแนะนำ ทำให้ผู้รอบรู้มีความสุขขึ้นมาผู้รอบรู้ตามหลิงอวี๋ไปอย่างมีความสุข หลิงอวี๋ให้เก็บอะไรเขาก็เก็บสิ่งนั้นหลิงอวี๋ให้เข

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1975

    “อย่างไร?”เผยอวี้และเถาจื่อต่างมองไปทางฉินซานฉินซานจึงเอ่ยออกมา “กระหม่อมสังเกตเห็นว่าพลังของฮองเฮานั้นต่ำมาก ทั้งยังลืมพวกเราไปแล้วด้วย นี่คือเหตุจากการถูกปิดผนึกพ่ะย่ะค่ะ! หากพวกเราสามารถหาคนมาช่วยพระนางปลดผนึกไปได้ ฮองเฮาก็จะจำพวกเราได้แล้วมิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ?”“ก็เหมือนกับเสวี่ยเหมยก่อนหน้านี้ ตอนนั้นนางก็จำพวกเรามิได้ แต่เพราะขันทีโม่ช่วยปลดผนึกให้นาง นางจึงจำอดีตขึ้นมาได้!”เซียวหลินเทียนยิ้มขมขื่น “หากพวกเราบอกนางไปตามตรงว่านางถูกปิดผนึก เจ้าคิดว่านางจะยอมให้เราปลดให้กับนางแต่โดยดีหรือ?”“มิแน่ว่า นางอาจจะคิดว่าพวกเราปิดผนึกนาง แล้วหนีไปเร็วยิ่งกว่าเดิมก็ได้!”เถาจื่อพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “นับตั้งแต่ที่ฮองเฮาถูกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยพาตัวไป ทุกคนที่พระนางพบล้วนเป็นคนที่ต้องการจะทำร้ายพระนาง”“เก๋อฮุ่ยหนิงตอบแทนบุญคุณด้วยความแค้น เหมียวหยางก็อาศัยอำนาจมารังแก ส่วนหยางหงหนิงก็มิได้มีเจตนาที่ดีต่อพระนางอีก เมื่อได้เผชิญหน้ากับคนเหล่านี้แล้ว พระนางไม่มีทางไว้ใจพวกเราง่าย ๆ แน่!”เซียวหลินเทียนสนใจกับคำพูดของเถาจื่อ แล้วเอ่ยด้วยเสียงทุ้ม “มีหนึ่งคนที่เป็นข้อยกเว้น!”เขามองลงไปในเหว

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1974

    พวกเซียวหลินเทียนรีบดึงเถาวัลย์ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และเมื่อพวกเขาเห็นข้อความของหลิงอวี๋ ก็รู้สึกโล่งใจแต่เซียวหลินเทียนสังเกตเห็นจากหางตาว่ามีคำสองคำเขียนด้วยอักษรแบบย่อนี่คือความเคยชินเล็ก ๆ ของหลิงอวี๋ ตอนนั้นเซียวหลินเทียนเคยล้อเลียนหลิงอวี๋ว่าขี้เกียจ มิเขียนตัวอักษรให้สมบูรณ์แต่หลิงอวี๋กลับเอ่ยออกมาอย่างมิเห็นด้วย ‘ท่านมิคิดหรือเพคะว่าการเขียนเช่นนี้สะดวกกว่า? ราษฎรจำนวนมากมิรู้หนังสือ ก็เพราะอักษรหลายตัวมีขีดเยอะและเรียนรู้ได้ยากเพคะ!’‘หากทำให้กระชับลงเช่นนี้ เด็ก ๆ ก็จะเรียนรู้ได้ง่าย และราษฎรที่มิรู้หนังสือก็จะจำได้ง่ายด้วยเพคะ!’‘เซียวหลินเทียน เมื่อสถานการณ์ราชสำนักมั่นคงแล้ว ท่านควรส่งเสริมให้บรรดาครูปฏิวัติการเขียนตัวอักษรเพคะ เขียนตัวอักษรให้กระชับ ทำให้ราษฎรอ่านออกเขียนได้มากขึ้นด้วย!’เหอะ ๆ!เซียวหลินเทียนมองอักษรที่กระชับสองตัวนั้น พลางคิดถึงคำพูดของหลิงอวี๋ แล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะออกมา“นายท่านอู่ ท่านหัวเราะอะไรหรือ?”เผยอวี้เอ่ยถามอย่างแปลกใจ“พวกเจ้าดูเถิด นี่คือหลักฐานที่ดีที่สุด! สิงอวี๋ก็คือหลิงอวี๋!”เซียวหลินเทียนยื่นข้อความให้กับเผยอวี้ พร้อมก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1973

    เมื่อทุกคนร่วมแรงร่วมใจกัน เวลาหนึ่งชั่วยามก็ผูกบันไดให้ยาวเพียงพอได้แล้ว เซียวหลินเทียนจึงช่วยหลิงอวี๋วางบันไดลงไปบันไดเหล่านั้นจมเข้าไปในหมอกหนา และมิรู้ด้วยว่าเพียงพอไปถึงด้านล่างหน้าผาหรือไม่“ข้าจะลงไปดู!”เซียวหลินเทียนจับบันไดให้มั่นคงแล้วเอ่ยออกมา“ไม่ ข้าจะลงไป!”หลิงอวี๋หยุดเขาไว้แล้วเอ่ยออกมา “ข้าน้ำหนักเบากว่าท่าน บันไดสามารถรับน้ำหนักข้าได้!”“อีกอย่าง ในหมอกหนาทึบเหล่านั้นมิรู้ว่ามีพิษอยู่หรือไม่ ข้ามีความรู้เรื่องทักษะการแพทย์ ข้าสามารถปรับตามสถานการณ์ได้!”เมื่อหลิงอวี๋เอ่ยเช่นนี้ พวกเผยอวี้ก็คิดว่าสมเหตุสมผลดี“ศิษย์พี่หญิง เช่นนั้นเจ้าระวังตัวด้วย พวกเราจะรออยู่ข้างบน หากเจ้าเจอพี่ชายของเจ้า ก็ส่งสัญญาณมา พวกเราจะดึงพวกเจ้าขึ้นมาเอง!”เถาจื่อกำชับ“อืม เช่นนั้นข้าลงไปแล้ว!”แล้วหลิงอวี๋ก็ไต่บันไดลงไปทีละขั้น ๆเซียวหลินเทียนมองอยู่ด้านข้างอย่างกังวล มิรู้ว่าบันไดนี้ปลอดภัยหรือไม่ คงจะมิพังลงกลางคันกระมัง!“พวกเจ้านำเถาวัลย์เหล่านั้นมาต่อเข้าด้วยกันเสีย หากบันไดยาวมิพอ จะได้สามารถใช้ได้!”เซียวหลินเทียนเอ่ยออกมา แล้วเผยอวี้กับเถาจื่อก็รีบต่อเถาวัลย์แรก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1972

    ในบรรดาคนเหล่านี้ นอกจากหลิงอวี๋ที่มีพลังต่ำแล้ว คนอื่น ๆ ล้วนเป็นยอดฝีมือทั้งสิ้น บางคนก็ใช้กระบี่ บางคนก็ใช้มีด ในเวลามินานที่ขอบหน้าผาก็มีกองเถาวัลย์อยู่กองหนึ่ง“พวกเจ้าตัดไป ข้าจะทำบันไดเอง!”หลิงอวี๋ถอดเสื้อคลุมออก จากนั้นก็ฉีกจนเป็นผ้าเส้น ๆ แล้วนำมามัดกับเถาวัลย์ไว้เมื่อเถาจื่อเห็นว่าเถาวัลย์กองอยู่มาก จึงมาผูกเถาวัลย์กับหลิงอวี๋ด้วย“ศิษย์พี่หญิง เจ้าต้องการเท่าใดก็บอกมาได้ พวกพี่ชายของข้ามีกำลังเหลือเฟือ! จัดการให้เจ้าได้สบาย!”เถาจื่อเริ่มต้นพูดคุยกับหลิงอวี๋“ขอบคุณ!”ในใจของหลิงอวี๋มีความระแวงคนพวกนี้อยู่แล้ว จึงมิได้พูดอะไรมากแล้วก้มหน้ามัดต่อไปแม้ว่าเซียวหลินเทียนจะกังวลมาก เพราะเขาต้องการลงจากภูเขาไปตามหาหลิงอวี๋ที่จัตุรัสเมืองหลวงแดนเทพแต่เส้นทางลงจากภูเขาล้วนถูกตระกูลเฉียวหรือแม้แต่คนของมหาปราชญ์ปิดกั้นไว้หมดแล้ว หากเขาลงจากภูเขาไปในเวลานี้ จะต้องถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวดแน่นอน เขาจึงทำได้เพียงเลื่อนออกไปก่อนก่อนหน้านี้ตอนที่ฉินซานมาที่เมืองหลวงแดนเทพ เขาได้ทำแขนเทียมครึ่งหนึ่งมาใส่แขนข้างที่ขาดไว้ เพื่อหลีกเลี่ยงการเปิดเผยตัวตน หลังจากที่สับเถาวัลย์ด้วยแขน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1971

    “ศิษย์พี่หญิง ทางลงเขาถูกปิดกั้นไปแล้ว ตอนนี้พวกเราออกไปมิได้ แกล้งทำเป็นช่วยพวกเขาจับตัวคนกันไปก่อนเถิด!”เมื่อเถาจื่อเห็นพวกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเดินไปข้างหน้า นางจึงดึงหลิงอวี๋เดินไปส่วนหลิงอวี๋ที่ล้มเลิกการแก้แค้น เพราะกังวลเรื่องความเป็นความตายของเถาจื่อและคนอื่น ๆ ก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย จึงสะบัดมือของเถาจื่อออกแล้วเอ่ยออกไปอย่างเย็นชา“เรื่องที่เจ้าให้ข้าทำข้าก็ทำให้แล้ว ข้าจะไปตามหาพี่ชายของข้า! เจ้าอย่าได้ตามข้ามา และอย่าได้คิดที่จะขู่ข้าอีก มิเช่นนั้นก็อย่ามาโทษว่าข้าไร้ความปรานี!”หลังจากพูดจบแล้ว หลิงอวี๋ก็เดินตรงไปอีกทางหนึ่ง“ศิษย์พี่หญิง!”เถาจื่อรู้สึกกระอักกระอ่วนเป็นอย่างมาก นางรู้ว่าคำพูดที่ตนขู่สิงอวี๋ไปเมื่อครู่นั้นทำให้นางโกรธเสียแล้วที่สิงอวี๋ช่วยก็เพียงเพราะนางมิอาจทนเห็นคนมากมายต้องตายไปก็เท่านั้น“ข้าจะไปตามหาด้วยกันกับเจ้า! ข้าสาบานว่าข้าจะไม่มีทางทำร้ายเจ้าเด็ดขาด!”เถาจื่อพูดแล้วก็รีบหยิบตั๋วเงินออกมายัดให้หลิงอวี๋อย่างรวดเร็ว “ศิษย์พี่หญิง ข้าขอโทษ เมื่อครู่ข้าร้อนใจจึงขู่เจ้าไป แต่ข้ามิได้คิดจะสังหารเจ้าจริง ๆ นะ!”“นายหญิงของข้าเป็นคนจิตใจดี นางสอนพว

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1970

    หลิงอวี๋ตะลึงกับคำพูดของเถาจื่อไปครู่หนึ่ง ตอนนี้นางจึงได้รู้ว่าเรื่องที่เถาจื่อขอให้ตนทำนั้นสำคัญมากเพียงใดนางสามารถวางยาพิษสังหารเซียวหลินเทียนได้ แต่ในขณะเดียวกัน ตัวตนของเซียวหลินเทียนก็มิอาจปกปิดได้เช่นกันเช่นนั้นเถาจื่อและคนที่อยู่ในคฤหาสน์อู่ทุกคนก็จะหนีมิทัน และจะต้องถูกมหาปราชญ์สังหารจนหมดสิ้นอย่างแน่นอน!เซียวหลินเทียนสังหารลูกชายของตน แต่ชีวิตของคนจำนวนมากมายเหล่านั้นล้วนเป็นผู้บริสุทธิ์ หากนางวางยาพิษสังหารเซียวหลินเทียน ก็จะเป็นการสังหารคนเหล่านั้นทางอ้อมไม่มีเวลาให้หลิงอวี๋ได้คิดแล้ว เซียวหลินเทียนพี่ใหญ่ของเถาจื่อมุดตัวออกมาจากพุ่มไม้แล้วเซียวหลินเทียนพบว่าตนตกหลุมพรางแผนการร้ายของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยและเช่นเดียวกับที่เถาจื่อพูดไปเมื่อครู่ เขาสามารถอาศัยวรยุทธ์ของตนหนีไปจากภูเขาหมางหลิ่งเพียงลำพังได้แต่เผยอวี้ ฉินซานและผู้คุ้มกันของคฤหาสน์อู่ที่พามาด้วย ก็จะถูกเปิดเผยตัวตนเพราะเหตุนี้ และจะต้องถูกมหาปราชญ์ล้อมโจมตีเป็นแน่เซียวหลินเทียนจะปล่อยให้เผยอวี้และคนอื่น ๆ ต้องลำบากเพราะตนเพียงผู้เดียวได้อย่างไร ดังนั้นในความเร่งรีบเขาจึงนึกถึงสิงอวี๋ขึ้นมาสิงอวี๋มีความ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status