แชร์

บทที่ 17

ผู้เขียน: กานเฟย
"ท่านแม่!"

“ปล่อยเขาซะ!”

เสียงของหลินอวี๋และเสี่ยวเมาที่ดังขึ้นพร้อมกัน

แตกต่างกันก็คือเสียงเล็ก ๆ ของเสี่ยวเมาที่ยังมึนงงอยู่บ้าง เขาไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้

แต่น้ำเสียงของหลิงอวี๋นั้นเยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง

บรรยากาศเย็นยะเยือกที่แผ่ออกมาทำให้แม่นมที่อยู่ใกล้นางตัวสั่นไปหมดโดยไม่รู้ตัว

“เสี่ยวเมาไม่ต้องกลัว!”

เมื่อเห็นเสี่ยวเมาจ้องมองมาที่นาง หลิงอวี๋ก็ลดรังสีอมหิตลงไปได้บ้าง

นางยิ้มให้เสี่ยวเมาอย่างอ่อนโยน "พวกเรามาเล่นเกมกันนะ ปิดหู หลับตาไว้ จบเกมแล้วค่อยลืมตานะ!"

“ขอรับ ข้าจะเชื่อฟังท่านแม่!”

หลิงอวี๋ไม่เคยยิ้มให้เสี่ยวเมาอย่างอ่อนโยนเช่นนี้มาก่อน เสี่ยวเมาหลับตา และเอามือเล็ก ๆ ปิดหูของเขาไว้อย่างเชื่อฟัง

เชื่อฟังจริง ๆ !

หลิงอวี๋พยักหน้าอย่างชื่นชม

เมื่อนางหันหน้ากลับไป รอยแผลที่บนใบหน้าน่าเกลียดดูน่ากลัวเป็นพิเศษ และแผ่บรรยากาศเย็นเยียบกดดันออกมา

“ข้าบอกให้ปล่อย ไม่ได้ยินรึ?”

หลิงอวี๋ยื่นมือชี้ไปที่แม่นมที่กำลังอุ้มเสี่ยวเมา น้ำเสียงของนางเย็นชาราวกับยมทูตจากนรก!

"ได้สิ ถ้าเจ้าอยากให้พวกเราปล่อยเสี่ยวเมาไป ก็แค่คุกเข่าลงคำนับให้พวกเราสามครั้ง ไม่สิ... สาม
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Eang Ubon
น่าติดตาม.........
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 18

    หลิงอวี๋มองพวกเขาทั้งสามด้วยสายตาเย็นชา จากนั้นก็เก็บมีดผ่าตัดเหน็บซ่อนไว้ที่เข็มขัดคาดเอวนางฉวยโอกาสหยิบมีดขึ้นมาตอนที่เข้าไปแย่งตัวเสี่ยวเมาไม่ทัน!สำหรับเรื่องเจ้าปากเบี้ยวนั่นถือว่าบทเรียนที่แสนเข็ดหลาบ!ต่อไปต้องพกของสิ่งนี้ติดตัวไว้ตลอด!เพิ่งตัดเอ็นข้อมือข้อเท้าของพวกนางรับใช้และแม่นมสายตาสั้นพวกนั้นไป"ในห้องถูกพวกนางทำสกปรกไปหมด พวกเราออกไปสูดอากาศข้างนอกกันเถอะ..."กลิ่นเลือดและปัสสาวะคละคลุ้งไปทั่วห้อง ซึ่งทำให้หลิงอวี๋อึดอัดมากนางเดินออกไปพร้อมกับอุ้มเสี่ยวเมาไว้ในอ้อมแขนดวงอาทิตย์ที่สาดแสงเจิดจ้าในลานบ้าน หลิงอวี๋หรี่ตา แสงแดดช่างอบอุ่นมาก!นางรู้ว่าการทำร้ายหลินผิงและพวกแม่นม จะดึงดูดให้เซียวหลินเทียน หรือพี่น้องตระกูลชิวมาที่นี่ในไม่ช้าแต่หลิงอวี๋ไม่เสียใจเลยสักนิด!ในยุคที่แปลกประหลาดนี้ นางอยากมีชีวิตรอด มีชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไป!นางไม่อยากถูกลากไปอีกรอบ!หากนางต้องการปกป้องเสี่ยวเมาและคนรอบข้าง นางต้องยืนหยัดอย่างเข้มแข็ง...“หลิงอวี๋!”เซียวหลินเทียนที่องครักษ์พาเข้ามา เขาเห็นหลิงอวี๋นั่งอยู่ใต้ชายคาและอุ้มเสี่ยวเมาเอาไว้เสี่ยวเมาที่อยู่ในอ้อมแข

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 19

    แม่นมลี่โขกหัวคำนับขอร้องจนเลือดกระเด็นออกมา เลือดไหลหยดลงมาที่หน้าผากของนาง!นี่ทำให้เสี่ยวเมาทั้งเศร้าและหวาดกลัว!ขอบตาของหลิงอวี๋แดงรื้นไปด้วยน้ำตา และนางตะโกนอย่างทรมานใจว่า "แม่นมลี่ ลุกขึ้น อย่าขอร้องเขา!""มาถึงวันนี้แล้ว ข้าอยากดูสิว่า เซียวหลินเทียนจะตัดเส้นเอ็นข้ายังไง!"แม่นมลี่ยิ่งกระวนกระวายใจ กลัวว่าเซียวหลินเทียนจะโกรธ ดังนั้นนางจึงยังคงก้มหน้าและขอร้องต่อไป“เสี่ยวเมา ไม่ต้องกลัว ไปช่วยพยุงแม่นมลุกขึ้นมา!”หลิงอวี๋ดันตัวเสี่ยวเมาเบา ๆเมื่อเห็นว่า ชิวเฮ่ากำลังเข้ามาใกล้ เสี่ยวเมาก็วิ่งไปด้านหน้า และยืนขวางอยู่ข้างหน้าหลิงอวี๋เขาพยายามปกป้องหลิงอวี๋ด้วยร่างกายเล็ก ๆ ของเขา!เขาตะโกนว่า "ในเมื่อท่านแม่ต้องตาย เสี่ยวเมาและแม่นมก็จะไปตายพร้อมกับท่านแม่!"หัวใจที่หนาวเหน็บของหลิงอวี๋รู้สึกอบอุ่นทันทีจากสิ่งเสี่ยวเมาได้กระทำ!อดีตหลิงอวี๋เมินเฉยต่อเด็กที่น่ารักขนาดนี้ได้อย่างไร!แทนที่จะปฏิบัติต่อเซียวหลินเทียนด้วยความจริงใจ ควรใช้ความรักนี้กับเสี่ยวเมาแทนมากกว่าบุตรที่มีน้ำใจและกตัญญูเช่นนี้ หลิงอวี๋ควรจะเป็นแม่ที่มีความสุขที่สุดในโลก!ไม่ใช่เอาความรักไปทุ่ม

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 20

    ไป่สือออกมาหลังจากที่เขาเข้าไปได้สักพักด้วยสีหน้าที่ย่ำแย่มากโดยไม่ทันให้เซียวหลินเทียนถาม เขารีบบอกด้วยตัวเอง "ถวายบังคมทูลท่านอ๋อง ในยามีสารหนูอยู่พ่ะย่ะค่ะ!"“ท่านอ๋อง กระหม่อมสาบานต่อสวรรค์ ยาที่กระหม่อมสั่งไม่มีสารหนูพ่ะย่ะค่ะ!”เซียวหลินเทียนโบกมือ "เอาเถอะ ข้าเชื่อในตัวท่าน!"ชิวเฮ่ากลอกตาไปทางหลินผิง รีบวิ่งไปคว้ามือนางแล้วตะคอกถาม "บ่าวชั่ว บอกมา ทำไมถึงมีสารหนูในยาได้"“เจ้าคิดใส่ร้ายท่านไป๋รึ?”หลิงผิงถูกเขาบีบไหล่อย่างแรง เจ็บมากยิ่งนักนางรู้ว่าชิวเฮ่ากำลังเตือนนางว่าอย่าพูดเรื่องไร้สาระ!“ท่านอ๋อง! บ่าวผิดไปแล้ว!” หลิงผิงคุกเข่าอ้อนวอน"บ่าวไม่รู้ว่าสารหนูมาจากที่ใด บ่าวสาบานต่อสวรรค์ บ่าวไม่มีเจตนาจะทำร้ายพระชายาเพคะ!""แล้วสารหนูมาจากที่ใด?"ชิวเฮ่าพูดด้วยความโกรธ "มันมีขาวิ่งเข้าไปเองงั้นรึ?"หลิงผิงก้มหน้าลงและสะอื้นไห้ "บ่าวไปที่คลังเพื่อรับยาตามเทียบยาที่ท่านไป๋สั่ง บ่าวจัดการต้มยาเองทั้งหมด!"“ตอนที่บ่าวต้มยา พ่อครัวทุกคนในครัวล้วนเห็นอยู่ด้วยกันทั้งหมด บ่าวจะเอาโอกาสที่ไหนลงมือได้เพคะ!”“หลังจากต้มยาเสร็จแล้ว บ่าวและแม่นมหลี่นำมาส่งยาด้วยกัน พวกนางเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 21

    หลิงอวี๋ค่อย ๆ เดินไปข้าง ๆ เซียวหลินเทียนนางเห็นใบหน้าด้านข้างเซียวหลินเทียนสันกรามคมชัดคิ้วที่เฉียงตรงของเขา ดวงตาสีดำที่เฉียบคม ริมฝีปากบางและเม้มเล็กน้อย ล้วนแสดงถึงความสง่างามและสูงศักดิ์!เหมือนอินทรีในยามราตรี เย็นชาและหยิ่งยโส!ชายผู้นี้รูปหล่อยิ่ง!และเย็นชามากด้วย!เซียวหลินเทียนมองหลิงอวี๋ พร้อมกับขมวดคิ้วแสดงท่าทีรังเกียจ เขาไม่ชอบให้นางอยู่ใกล้เขามากนักหลิงอวี๋พูดอย่างไม่รีบร้อนอะไร "ท่านอ๋อง คิดว่าหลิงผิงพูดความจริงหรือไม่?"เซียวหลินเทียนยิ้มอย่างเย็นชาและไม่พูดหลิงอวี๋ยิ้ม "หม่อมฉันเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้! และท่านอ๋องเองก็เป็นผู้ตัดสิน!"“ในเมื่อท่านอ๋องไม่เชื่อหม่อมฉัน ดังนั้นหม่อมฉันพูดไปท่านก็คงไม่ฟัง!”“งั้นท่านอ๋องก็ตัดสินซะสิ!”คิ้วของเซียวหลินเทียนกระตุกหลิงอวี๋หาว่าเขาจะตัดเอ็นของนางโดยไม่ถามอะไรเลยงั้นหรือ?“ท่านอ๋อง สิ่งที่บ่าวพูดนั้นเป็นความจริง! ท่านอ๋องจะเข้าข้างพระชายาเพียงเพราะบ่าวมีฐานะต่ำต้อยหรือเพคะ!”หลิงผิงร้องไห้ "พระชายาตัดเส้นเอ็นบ่าวขาดแล้ว ท่านยังไม่ยอมรับผิดอีกหรือ?"“ท่านยังอยากจะเอาชีวิตบ่าวอีก ทำไมท่านถึงเลวทรามเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 22

    หลิงอวี๋คิดว่ามันมีค่าสองร้อยตำลึง แต่นางกลับไม่รู้อะไรเลย!เซียวหลินเทียนจำได้ว่าในสมัยก่อน ตอนที่พระสนมผู้เป็นมารดาได้ความโปรดปรานจากจักรพรรดิ จักรพรรดิหวู่อันประทานต่างหูคู่หนึ่งที่ทำโดยเหลียนหมิงครั้งแรกที่เซียวหลินเทียนรู้เกี่ยวกับเหลียนหมิงคือ ตอนที่พระสนมอธิบายที่มาของต่างหูให้เขาฟัง“หลิงอวี๋ พูดต่อไป!”ชิวเฮ่ามองไปที่ปิ่นปักผมด้วยความประหลาดใจ และถามอย่างไม่แน่ใจว่า "ท่านอ๋อง ปิ่นนี้มีมูลค่าสองร้อยตำลึงจริงหรือพ่ะย่ะค่ะ?"เซียวหลินเทียนพยักหน้าเล็กน้อยชิวเฮ่าจ้องไปที่หลินผิงอย่างดุดัน แม้ว่าหลินผิงจะคุกเข่า แต่นางก็กลัวมากจนร่างกายของนางซวนเซไปหมด!แย่แล้ว! บอกไม่ได้จริง ๆ !แต่นางกลอกตาแอบพูดในใจ ถ้าบอกไม่ได้ นางตายแน่!อย่างไรก็ตาม ชิวเฮ่าและชิวเหวินซวงอยู่ข้างนาง พวกเขาย่อมจะปกป้องตน!หลินผิงยังยืนกราน "บ่าวมิรู้ว่ามันมีค่าเท่าไหร่! บ่าวกล้าสาบานต่อสวรรค์ นี่เป็นสิ่งที่พระชายาประทานให้จริง ๆ!"เมื่อเห็นว่านางยังคงดื้อดึงอยู่ในตอนนี้ หลิงอวี๋ก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา“สวรรค์คงยุ่งเกินกว่าจะดูแลเจ้าแล้ว!”“เจ้าต้องเลิกนิสัยสาบานพร่ำเพรื่อซะนะ ถ้าพูดมากไปมันจะไม

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 23

    "ไม่งั้นรึ?"เซียวหลินเทียนขมวดคิ้วทันที และมองไปที่หลิงอวี๋อย่างประหลาดใจผู้หญิงคนนี้? ผู้ใดมอบความกล้าให้นางบอกว่าไม่?เมื่อก่อนเมื่อเขาขมวดคิ้ว นางก็จะตัวสั่นด้วยความตกใจพูดตะกุกตะกักไปหมด!ตอนนี้กลับกล้าพูดเองว่าไม่งั้นหรือ?“สมเหตุสมผลแล้ว! ในเมื่อท่านกำลังตัดสินอย่างเป็นธรรมอยู่ ท่านอ๋องในฐานะที่เป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ มันเกินไปหรือไม่ที่หม่อมจะขอความเป็นธรรม?”หลิงอวี๋ไม่ได้กลัวแต่อย่างใด และยังเผชิญหน้ากับเขาอย่างตรงไปตรงมา"ใครก็ตามที่มีตา ก็เห็นอยู่มิใช่รึสิ่งที่ชิวเฮ่าทำกับข้า!"“ท่านอ๋อง ท่านเชื่อเขา แต่ท่านทรงบังคับให้หม่อมฉันเชื่อเขาด้วยมิได้หรอกเพคะ!”เซียวหลินเทียนกัดฟันแน่น แต่เขาไม่สามารถเถียงสิ่งที่หลิงอวี๋พูดได้!หลิงอวี๋ถูกชิวเฮ่าลากไปทุบตี และเกือบถูกเจ้าปากเบี้ยวทำการหยามเกียรตินาง!นางจะเกลียดแค้นชิวเฮ่าก็ถือเป็นเรื่องปกติ!“ท่านอ๋อง! หรือว่าให้บ่าวไปดีไหมขอรับ!”พ่อบ้านฟั่นเพิ่งมาที่นี่ได้สักพักหนึ่ง เห็นเซียวหลินเทียนเงียบไป เขาก็เลยออกมาพูดขึ้นหลิงอวี๋ไม่รู้ว่าพ่อบ้านฟั่นมาที่นี่เพื่อล้างแค้นแทนเจ้าปากเบี้ยวของเขา!เจ้าปากเบี้ยวเป็นล

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 24

    เสี่ยวเมาเข้าไปได้ไม่นาน พ่อบ้านฟั่นก็นำแม่นมคนหนึ่งถือถุงใส่ของเอาไว้ “กราบบังคมทูลท่านอ๋อง นี่คือของที่หาพบในห้องของหลิงผิงเพคะ!” พ่อบ้านฟั่นส่งสัญญาณให้แม่นมนำห่อของนั้นมาด้านหน้าของเซียวหลินเทียน แม่นมเปิดออกมา ด้านในนั้นมีเครื่องประดับเรียบง่าย และยังมีชุดอีกสองสามชุด เซียวหลินเทียนเพียงแต่กวาดตามอง แล้วเอ่ยออกมา “หลิงอวี๋ เข้ามาดูเองว่าชิ้นใดเป็นของเจ้า?” หลิวอวี๋ยังไม่คุ้นเคยกับของตนเองมากนัก จึงเอ่ยออกมา “แม่นมลี่จัดการของของข้ามาโดยตลอด แม่นมลี่ ท่านไปดู!” แม่นมลี่เดินเข้ามา มองอย่างละเอียดแล้ว ก็ชี้ไปยังเครื่องประดับเอ่ยออกมา “ทั้งหลายชิ้นนี้ล้วนแต่ไม่ใช่ของพระชายา มีเพียงแค่กระโปรงสองตัวนี้ที่เป็นของพระชายาเพคะ!” หลิงผิงมองไปยังชิวเหวินซวงด้วยความประหลาดใจ นางยังคิดว่าพ่อบ้านฟั่นไปค้นหานั้น จะต้องยืนอยู่ข้างตนเอง ช่วยนางเก็บของแอบซ่อนเอาไว้ ไหนเลยจะคิดว่าพ่อบ้านฟั่นกลับนำชุดของหลิงอวี๋ที่นางนำติดมือไปด้วยกลับมา! ชิวเหวินซวงลอบทำท่าทางให้นางสงบลง หลิงผิงจึงวางใจลงได้ครึ่งหนึ่ง แล้วมองไปยังเครื่องประดับอย่างตั้งใจ เมื่อเห็นว่าในนั้นมีหยกแขวนแปลกตาอยู่ชิ้นหน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 25

    “ท่านอ๋องชี้แนะด้วย! เงินเดือนของบ่าว พระชายาค้างมาหลายเดือนแล้ว! บ่าวจะมีเงินที่ไหนไปซื้อหยกแขวนเพคะ!” หลิงผิงฉวยโอกาสนี้ ร้องไห้คร่ำครวญออกมา “ท่านอ๋อง นี่เป็นของพระชายาจริง ๆ เพคะ! แม่นมลี่ปกป้องพระชายา แน่นอนว่าต้องช่วยพระชายาพูด!” “บ่าวรู้ว่าหยกแขวนนี้เป็นของพระชายา นั่นก็เป็นเพราะว่าพระชายาหยิบมันออกมาเล่นอยู่บ่อยครั้ง บ่าวเห็น!” “หากท่านอ๋องมิทรงเชื่อแล้ว ก็สามารถถามหลิงหลานได้ นางเองก็เคยเห็น!” หลิงหลานได้ยินคำนี้เข้า ก็รู้ว่าถึงเวลาที่ตนต้องออกมาแล้ว นางแสร้งทำเป็นขลาดกลัว ก้าวเดินมาเบื้องหน้า มองไปยังหลิงอวี๋อย่างหวาดกลัว ก่อนจะทำท่าทีเอ่ยออกมาอย่างไม่เต็มใจ “กราบบังคมทูลท่านอ๋อง นี่เป็นของพระชายาจริง ๆ เพคะ บ่าวเองก็เคยพบนางเล่นมันมาก่อน! บ่าวมิกล้าปด!” “ดี! แต่ละคนต่างจงรักภักดีกันจริง ๆ !” หลิงอวี๋ตบมือ นางเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม “เจ้านายถูกทุบตี พวกเจ้าสองคนก็แทบจะทนรอมิได้ที่จะพุ่งไปหาผู้อื่น!” “เจ้านายถูกใส่ร้าย พวกเจ้าแทบจะทนรอมิไหวที่จะใส่ร้าย!” “เฮ่อ แม่เลี้ยงของข้าช่างเลือกคนที่ภักดีให้กับข้า ช่างซื่อสัตย์จริง ๆ !” หลิงอวี๋ที่เพิ่งจะลุกขึ้นมาอีกด้

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1866

    “ท่านเจ้าวัง!”ปี้ซงเห็นว่าหวงฝู่หลินไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงที่จะสู้กลับแล้ว เขาจึงร้องเรียกออกมาอย่างเจ็บปวดจากนั้นเขาก็เหาะเข้าไปหาโดยมิสนใจภัยคุกคามของมือสังหาร แต่เซียวหลินเทียนที่อยู่ข้างกายเขาเร็วกว่า เหาะพุ่งเข้าไปแล้วในช่วงเวลานี้ เซียวหลินเทียนก็มิกลัวที่จะเปิดเผยสมบัติของตนอีกต่อไปแล้ว เขานำกระบี่คุนอู๋ออกมาจากแหวนพระสุเมรุแล้วฟาดไปในอากาศเป็นวงโค้ง...แสงสีขาวลงมาจากท้องฟ้า มหาปราชญ์หันหลังให้เซียวหลินเทียนอยู่จึงมิเห็นแสงนั้น ทว่าหวงฝู่หลินกลับมองเห็นเห็นแสงสีขาวนั้นพุ่งลงมาใส่แขนของมหาปราชญ์ราวกับสายฟ้า ด้วยพลังที่มิอาจต้านทานได้ในตอนที่มหาปราชญ์รู้สึกได้ถึงความหนาวเย็นนั้น เขาก็ได้เห็นแขนครึ่งหนึ่งของตนลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างน่าตกใจ หลังจากนั้นเลือดจากบาดแผลที่แขนขาดไปก็ไหลออกมา“กระบี่คุนอู๋… เจ้าเป็นใคร?”มหาปราชญ์เซถอยหลังไป และในแววตาของเขาก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจและยากที่จะเชื่อ“คนที่จะเอาชีวิตเจ้า!”นี่เป็นครั้งแรกที่เซียวหลินเทียนใช้กระบี่คุนอู๋ เขามิคาดคิดเลยว่า กระบี่คุนอู๋จะทรงพลังเช่นนี้ ปราณแห่งกระบี่ที่ฟาดออกมาสามารถตัดแขนของมหาปราชญ์ได้ความมั่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1865

    ครั้งนี้แม้หวงฝู่หลินอยากจะฝืนก็ฝืนมิอยู่ เลือดสด ๆ พุ่งออกมาจากปากของเขา“หวงฝู่หลิน สวรรค์มีเส้นทางให้เจ้าไปแต่เจ้ามิไป นรกไม่มีประตูแต่เจ้าก็ยังจะบุกเข้ามา!”“ข้ากำลังคิดจะไปยึดวังเทพของเจ้าด้วยตัวข้าเองอยู่แล้วเชียว แต่เจ้าก็มาหาถึงที่ พอดีเสียจริง ข้าก็มิต้องลำบากไปที่นั่น เอาชีวิตเข้ามาเสีย!”มหาปราชญ์เหาะลงมา และยกมือขึ้นโจมตีไปที่หน้าอกของหวงฝู่หลินทางด้านเซียวหลินเทียนก็กำลังต่อสู้กับพวกมือสังหารอยู่ เมื่อเห็นภาพนี้ก็มิอาจแยกตัวออกไปได้ จึงมิสามารถช่วยเหลือได้ทันเวลาส่วนปี้ซงที่ได้รับบาดเจ็บไปแล้วก็ถูกพวกมือสังหารขวางทางอยู่เช่นกันเสือดาวหิมะและหวงฝู่หลินสื่อสารกันด้วยพลังจิต เมื่อมันรู้สึกได้ว่าเจ้านายกำลังเดือดร้อน มันก็คำรามออกมา จากนั้นก็บินเข้าไป และพุ่งเข้าใส่มหาปราชญ์ทันทีเสือดำที่ตามมาติด ๆ ก็ใช้โอกาสนี้กระโจนเข้าใส่หลังของเสือดาวหิมะ แล้วกัดเนื้อของเสือดาวหิมะเข้าไปคำใหญ่เสือดาวหิมะมิสนใจความเจ็บปวดแล้วกระโจมเข้าไป มหาปราชญ์จึงมิทันได้จัดการกับหวงฝู่หลิน แล้วต้องหันไปจัดการกับเสือดาวหิมะแทนแต่ก็สายเกินไปเสียแล้ว เสือดาวหิมะกระชากเสื้อคลุมของมหาปราชญ์ออก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1864

    เซียวหลินเทียน ปี้ซงและเผยอวี้กำลังต่อสู้อยู่กับพวกบุรุษชุดดำ ก็พลันรู้สึกว่ารอบ ๆ ตัวมีลมพัดอย่างแรง และใบไม้เหล่านั้นก็พัดมาทางหัวพวกเขาสนามแม่เหล็กที่มีพลังมหาศาลนั้นสั่นสะเทือนไปจนทั่วบริเวณเซียวหลินเทียนรีบมองไปทันที แล้วก็เห็นว่าพลังลมแห่งการปะทะกันของหวงฝู่หลินกับฝูหยางกลางอากาศนั้น เป็นแสงสีเขียวและสีน้ำเงินเกี่ยวพันกันไปมา แยกมิออกว่าใครเป็นใครเมื่อครู่ฝูหยางเรียกชื่อของหวงฝู่หลินออกมา เมื่อเซียวหลินเทียนได้ยินดังนั้น เขาก็เข้าใจขึ้นมาในทันที ที่แท้บุรุษชุดขาวที่ดูราวกับเซียนผู้นี้ก็คือ เจ้าวังหวงฝู่แห่งวังเทพบนภูเขาหิมะนี่เองก่อนหน้านี้หลิงอวี๋เคยถูกเขาขังอยู่ที่วังเทพเซียวหลินเทียนไม่มีเวลาที่จะตำหนิหวงฝู่หลินแล้ว การโจมตีรุนแรงของพวกบุรุษชุดดำทำให้เขามิสามารถรับมือได้เซียวหลินเทียนยังต้องดูแลเผยอวี้ที่มีพลังมิสูงด้วย เขาจึงเหลือบมองไปแล้วพยายามจัดการกับพวกมือสังหารอย่างเต็มที่นับตั้งแต่ที่เซียวหลินเทียนได้กระบี่คุนอู๋มา และได้เรียนรู้วิชากระบี่จากลวดลายบนกระบี่มาระยะหนึ่งแล้ว วรยุทธ์ของเขาก็พัฒนาขึ้นอย่างมากเขายกกระบี่ขึ้นมาพร้อมใช้วิชากระบี่คุนอู๋ เขาได้เปร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1863

    เมื่อเซียวหลินเทียนเห็นว่า เด็กอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเซียวเยวี่ยผู้นั้นร้องไห้ออกมาปานจะขาดใจในชั่วขณะนี้เซียวหลินเทียนก็คิดถึงเซียวเยวี่ยมาก เขาออกมานานมากจนแทบจะจำมิได้แล้วว่าเซียวเยวี่ยหน้าตาเป็นอย่างไรเมื่อเขาเห็นเด็กผู้นั้น เซียวหลินเทียนก็เกิดความรู้สึกสงสารขึ้นมาทันที“ท่าน พวกเราเข้าไปช่วยเขาเถิด!”เซียวหลินเทียนพูดยังมิทันขาดคำ ก็ได้ยินเสียงตะโกนขึ้นมา “ใคร?”จากนั้นก็มีบุรุษชุดดำหลายคนวิ่งกรูกันออกมา พร้อมกับเล็งดาบมาที่เซียวหลินเทียนกับหวงฝู่หลิน“พวกเจ้าเป็นใคร?”บุรุษชุดดำที่เป็นผู้นำตะโกนออกมาด้วยความโกรธหวงฝู่หลินจึงยิ้มเยาะ “พวกเจ้าหรือที่ทำลายตำหนักปีกเงินของสหายข้า? ใครเป็นคนวางเพลิง?”“ฮ่าฮ่าฮ่า!”บุรุษชุดดำที่เป็นผู้นำคนนั้นตะลึงไปทันที จากนั้นเขาก็หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง ราวกับรู้สึกว่า คำถามของหวงฝู่หลินนั้นแปลกมากความตายจะมาเยือนอยู่แล้ว ยังจะเป็นห่วงอีกว่าใครเป็นคนวางเพลิง คนผู้นี้สมองมีปัญหาหรือไร!“อย่าไปคุยกับเขาให้มากความ สังหารไปเสีย!”ฝูหยางที่อยู่ข้างในตะคอกออกมาอย่างรำคาญ “ตาเฒ่าน่ารังเกียจ เจ้าจะนำออกมาให้หรือไม่ หนึ่ง… สอง…”พวกบุร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1862

    หวงฝู่หลินก็มิได้ใส่ใจ เขาค่อนข้างมิพอใจที่เซียวหลินเทียนตามติดตนมาราวกับกอเอี๊ยะที่เหนียวแน่นเช่นนี้ เขาจึงเร่งฝีเท้าขึ้นอีก แต่พลังของปี้ซงมิเท่าพลังของเขา ดังนั้นในเวลามินานเซียวหลินเทียนก็ตามมาทันแล้วใบหน้าของหวงฝู่หลินดูหม่นหมองลง และกำลังคิดว่าจะสังหารเซียวหลินเทียนดีหรือไม่ แต่แล้วเขาได้ยินเสียงแปลก ๆ… มันคือเสียงการต่อสู้ด้วยอาวุธนั่นเองดวงตาของหวงฝู่หลินดุร้ายขึ้นมาทันที และรีบขึ้นไปบนภูเขาอย่างรวดเร็ว เมื่อเขาขึ้นไปถึงครึ่งทางภูเขา เขาก็เห็นควันหนา ๆ พวยพุ่งออกมาจากตำหนักปีกเงินที่อยู่บนยอดเขานั้นเกิดเรื่องขึ้นแล้ว!หวงฝู่หลินก็ยิ่งร้อนใจ เหตุผลหลักที่เขาเลือกที่จะมาขอความช่วยเหลือจากตำหนักปีกเงินนั้น ก็เพราะว่าเหวินเหรินจิ้นเจ้าตำหนักปีกเงิน คือหนึ่งในสหายสนิทที่มีเพียงมิกี่คนของเขาและเช่นเดียวกับหวงฝู่หลิน ตำหนักปีกเงินแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ตระกูลเหวินเหรินอาศัยอยู่มาหลายชั่วอายุคนแล้ว หวงฝู่หลินมิอนุญาตให้ผู้ใดทำลายวังเทพของตน แล้วเหวินเหรินจิ้นจะยอมให้ใครมาทำลายตำหนักปีกเงินของเขาได้อย่างไรกัน!หรือว่าเหวินเหรินจิ้นจะตกอยู่ในอันตราย?หวงฝู่หลินเร่งฝีเท้า แล้วเดิ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1861

    สิ่งที่เซียวหลินเทียนคาดมิถึงก็คือ หวงฝู่หลินเองก็มาที่ภูเขาห้ายอดด้วยเช่นกันในวันนั้นหวงฝู่หลินพาปี้ซงลงมาจากภูเขา แล้วระหว่างทางก็ถูกจงเจิ้งขวางทางไว้หวงฝู่หลินที่มาสังหารผู้คนเพื่อหวงฝู่หมิงจูนั้น สุดท้ายแล้วก็เอาชนะมือสังหารที่ตระกูลจงเจิ้งทิ้งไว้ได้ และหลังจากการซักถามก็ได้รู้ว่า หวงฝู่หมิงจูถูกจงเจิ้งหลินคุณชายของตระกูลจงเจิ้งจับตัวไปเดิมทีจงเจิ้งหลินคิดว่าจะจับหวงฝู่หมิงจูเป็นตัวประกัน แล้วบีบให้หวงฝู่หลินทำลายค่ายกลที่อยู่โดยรอบภูเขาหิมะไปเสีย และให้ส่งมอบวังเทพมาไหนเลยจะคิดว่าหวงฝู่หลินจะสั่งให้เสือดาวหิมะพุ่งเข้าไปโดยมิเอ่ยอะไรสักคำ ตนก็ตามไปสังหารด้วยเช่นกันการโจมตีที่ตั้งรับมิทันนั้นทำให้จงเจิ้งหลินตกใจกลัว เมื่อเขาเห็นว่าคนของตนตามไปเป็นจำนวนมากภายในชั่วพริบตาเช่นนั้น ก็ตกใจกับวรยุทธ์ที่ไร้ผู้ใดเทียบของหวงฝู่หลิน จากนั้นจึงรีบเปิดใช้งานลูกแก้ววิญญาณอย่างรวดเร็ว แล้วพาหวงฝู่หมิงจูกับเสวี่ยเหมยหนีไปก่อนแต่หวงฝู่หลินหรือจะยอมแพ้ไปเช่นนี้ เขาก็ใช้มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของตน แล้วไล่ตามเข้าไปในแดนเทพเช่นกันเพียงแต่เมื่อเข้าสู่แดนเทพแล้ว เนื่องจากทิศทางที่มานั้นแตกต่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1860

    “นอกจากตำหนักหมาป่าสวรรค์แล้ว ไม่มีกลุ่มที่ซื่อสัตย์สักหน่อยที่สามารถสืบข่าวได้เลยหรือ?”เซียวหลินเทียนคิดแล้วเอ่ยถามออกมากลุ่มของพวกเขามีกำลังคนจำกัด และมิคุ้นเคยกับแดนเทพด้วย หากมิอาศัยกำลังจากภายนอกมาช่วยเหลือ แล้วต้องการจะตามหาหลิงอวี๋ให้พบเร็วยิ่งขึ้นก็เป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปมิได้เลยเก๋อเฟิ่งฉิงครุ่นคิด แล้วเอ่ยขึ้นมา “ยังมีตำหนักปีกเงินอีกที่สืบข่าวเก่งมาก เพียงแต่พวกเขามิรับงานมาเป็นเวลาหนึ่งปีกว่าแล้ว และลูกศิษย์ในสำนักก็กระจัดกระจายกันไปมาก!”“ว่ากันว่าเจ้าตำหนักของพวกเขาติดโรคประหลาด จากนั้นเขาก็กลายเป็นคนนิสัยประหลาด และอารมณ์แปรปรวนมากด้วย ดังนั้นจึงมิทำการค้าแล้ว!”“ในตอนที่ตำหนักปีกเงินมีอำนาจแข็งแกร่งอยู่ก่อนหน้านี้ ตำหนักของพวกเขาอยู่เหนือกว่าตำหนักหมาป่าสวรรค์มาก ในการหาคนสืบข่าวนั้น หากพวกเขาได้ชื่อว่าเป็นที่สองก็ไม่มีใครกล้าเป็นที่หนึ่งแล้ว!”“อีกอย่างคือ พวกเขาทำงานอย่างยุติธรรมมาก เมื่อรับงานมาแล้วพวกเขาจะไม่มีทางเล่นลิ้นอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้เสื่อมสลายไปแล้ว ช่างน่าเสียดายยิ่งนัก!”แต่เซียวหลินเทียนกลับมิได้มองเช่นนั้น อูฐที่ผอมโซก็ยังตัวใหญ่กว่าม้าอยู่ดี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1859

    ขณะที่หลิงอวี๋พักอยู่ที่บ้านตระกูลเก๋อเพื่อรอออกเดินทางไปยังเมืองหลวงแดนเทพ เซียวหลินเทียนกับพวกเผยอวี้ก็ได้เข้าสู่แดนเทพแล้วเพียงแต่พวกเขาเข้ามาจากป่าของเมืองซานต้ง ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองจงกวนกว่าพันลี้ทีเดียวนี่เป็นครั้งแรกของพวกเซียวหลินเทียนที่เข้ามาในแดนเทพ เดิมทีพวกเขาคิดว่าแดนเทพจะเป็นดังเช่นที่ขันทีโม่ได้บอกไว้ว่า จะมีผู้บำเพ็ญตนอยู่มากมาย แต่สิ่งที่เห็นกลับทำให้พวกเขาผิดหวังยิ่งเมืองหลายแห่งที่นี่ล้วนเหมือนกับที่ฉินตะวันตก ราษฎรล้วนเป็นคนธรรมดาทั่วไปและใช้ชีวิตในแบบเดียวกับราษฎรฉินตะวันตก เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นก็ทำงาน เมื่อพระอาทิตย์ตกก็พักผ่อน และทำงานหนักเพื่อความอยู่รอด“ท่านสี่ ข้าว่าที่บอกกันว่าแดนเทพเจริญรุ่งเรืองนั้นก็คงเป็นเพียงแค่ชื่อเท่านั้นกระมัง!”เผยอวี้เห็นว่าราษฎรเหล่านั้นเป็นคนธรรมดาก็อดมิได้ที่จะบ่นออกมาแม้ว่าเซียวหลินเทียนจะผิดหวัง แต่ก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ยออกมา “พวกตระกูลในแดนเทพก็ต้องกินดื่มเช่นกัน หากราษฎรทั่วไปล้วนบำเพ็ญตนอย่างเอาจริงเอาจังเช่นพวกเขา เช่นนั้นใครจะเป็นคนดูแลพวกเขาเล่า!”“นี่เป็นเพียงแค่เสี้ยวเดียวของภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น มิได

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1858

    สองพี่น้องเจียงคือผู้ช่วยชีวิตที่สำคัญที่สุดของเฉียวไป๋ เมื่อเฉียวไป๋รู้ว่าพวกนางเองก็จะติดตามตระกูลเก๋อไปเมืองหลวงแดนเทพด้วย ก็แสดงว่าเมื่อถึงเมืองหลวงแดนเทพ เขาก็สามารถมอบเรือนสี่ประสานให้กับทั้งสองคนได้หลิงอวี๋ได้ยินคำพูดนี้ก็มิได้รู้สึกอะไร ทั้งยังเอ่ยเยาะเย้ยออกไป “รอให้ไปถึงเมืองหลวงแดนเทพก่อนแล้วค่อยว่ากันเถิด! ตอนนี้แม้แต่เงินค่าอาหารกับอาภรณ์ของเจ้าก็ยังได้รับจากตระกูลเก๋อเปล่า ๆ เลย!”“แล้วเจ้ามาบอกว่าจะมอบเรือนสี่ประสานให้พวกเรา ข้าจะเชื่อได้อย่างไรเล่า!”จากนั้นหลิงอวี๋ก็นำกริชของเฉียวไป๋ออกมาโบกไปที่เฉียวไป๋ พร้อมกับเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้ามีเงิน ก็มาแลกกริชนี้กลับไปก่อนเถิด!”เฉียวไป๋พูดมิออกไปในทันที แล้วจ้องมองหลิงอวี๋อย่างหดหู่ จากนั้นก็เอ่ยอย่างมิพอใจ“เจ้ามันมิรู้จักแยกแยะของดี เจ้ามิรู้หรอกว่ามูลค่าของกริชเล่มนี้นั้นสามารถซื้อเรือนสี่ประสานได้ถึงสิบหลังเชียว! หากเจ้ามิเชื่อก็รอไปถึงที่เมืองหลวงแดนเทพ จากนั้นเจ้าก็ไปหาคนที่รู้จักของดีมาดูสักหน่อยก็รู้แล้ว!”ขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยยิ้มแย้มกันอยู่ เก๋อฮุ่ยหนิงก็เดินเข้ามา หลิงอวี๋จึงเก็บกริชเล่มนั้นกลับไปท

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status