แชร์

บทที่ 1690

ผู้เขียน: กานเฟย
เย่หรงหน้าแดง พลางเอ่ยอย่างเขินอาย “ผู้อาวุโสตระกูลข้ามิปล่อยให้พวกเราแตะต้องทางที่ชั่วร้ายเหล่านี้หรอก อยากรู้อยากเห็นก็มิได้… เขากังวลว่าพวกเราจะหลงไปเข้าทางที่ผิด!”

“หากเจ้าอยากรู้ก็ให้เวลาข้าสักหน่อย ข้าจะถามผู้อาวุโสตระกูลข้าให้ แล้วจะบอกเจ้าอีกที! เขารู้ทั้งเรื่องในอดีตและปัจจุบัน และมีความรู้กว้างขวางมาก จะต้องรู้อย่างแน่นอน!”

หลิงอวี๋หมดคำพูด เย่หรงมาจากแดนปีศาจ แต่กลับต้องไปถามผู้อาวุโสของเขา ทั้งไปและกลับอย่างน้อยที่สุดก็ครึ่งเดือนกระมัง

หากรอกระทั่งเขาได้คำตอบ เช่นนั้นจ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็คงบรรลุเป้าหมายไปนานแล้ว คำตอบของเขาก็มิทันการแล้ว!

เอาเถิด ถือเสียว่าตนมิได้ถาม หลิงอวี๋ก้มหน้าตรวจศพต่อ

ในเวลานี้ เผยอวี้ก็กลับมา

“พี่หญิงหลิงหลิง ข้าเจอที่อยู่ของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยแล้ว! แต่นางมีผู้ช่วยมา ข้ากลัวที่จะเป็นการเผยให้นางรู้ความเคลื่อนไหว จึงมิได้ขึ้นไปตรวจสอบขอรับ!”

เผยอวี้ได้ยินจากหานอวี้ว่ามีคนนอกอยู่ด้วย เมื่อเข้ามาจึงมิเรียกว่าฮองเฮา

เขารายงานหลิงอวี๋ พลางใช้หางตามองพิจารณาเย่หรงไปด้วย

บุรุษผู้นี้มีพลังชั่วร้ายเล็กน้อย!

ความประทับใจครั้งแรกของเผยอวี้ที่มีต่อเย่หรงคือสิ่ง
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1691

    หลิงอวี๋มีความคิดสงสัยนี้แวบขึ้นมา แล้วนางก็ตัดมันทิ้งไปค่ายกองทหารเสือในตอนนี้มีอิ้งเฉิงคนสนิทของเซียวหลินเทียนเป็นราชองครักษ์ของค่ายกองทหารเสือ และอิ้งเฉิงไม่มีวันทรยศเซียวหลินเทียน!ยังมีความเป็นไปได้อีกอย่างหนึ่งคือ มิใช่องครักษ์เงาของค่ายกองทหารเสือที่เหลืออยู่ทรยศ แต่เป็นพวกองครักษ์เงาที่คอยจับตาดูจ้าวหรุ่ยหรุ่ยที่ทรยศพวกเขาปกปิดสถานการณ์ที่แท้จริงกับอิ้งเฉิง ดังนั้นหลิงอวี๋จึงมิได้รับข่าว“กลับไปให้อวี๋เฮ่าทำความกับเข้าใจสถานการณ์ดูก่อน! อย่าได้สงสัยพวกเขาไปเรื่อยเปื่อย!”หลิงอวี๋มิอยากทำลายขวัญกำลังใจของทหาร จึงพามิกี่คนกลับเมืองหลวงแม้ว่าแม่นมอูจะติดตามหลิงอวี๋ออกจากวัง แต่ก็มิได้ดำเนินการร่วมกับหลิงอวี๋่ นางขึ้นไปบนภูเขาแล้วหายตัวไปราวกับผีหลิงอวี๋กลับมาที่วัง แม่นมอูก็มิได้กลับมาหลิงอวี๋มิได้นอนทั้งคืน นางรอให้แม่นมอูกับขันทีโม่กลับมาอย่างอดทนยามเกือบรุ่งสาง แม่นมอูกับขันทีโม่จึงกลับมาตาม ๆ กันสีหน้าแม่นมอูดูเคร่งขรึม ในขณะที่ใบหน้าขันทีโม่ดูผิดหวัง“หลิงอวี๋ ข้ามิพบคนตระกูลเย่เลย!” ขันทีโม่เอ่ยด้วยรอยยิ้มขมขื่นหลิงอวี๋รีบบอกเรื่องที่ตนพบกับเย่หรงบนภูเขาอ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1692

    มิว่าอย่างไร วันพรุ่งก็จะต้องขัดขวางมิให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยกลั่นยาอายุวัฒนะสำเร็จ หลิงอวี๋ได้หารือเรื่องแผนการรับมือกับพวกขันทีโม่และแม่นมอูแล้วหลิงอวี๋ตัดสินใจแบ่งกองทหารออกเป็นสามกลุ่ม ตนพาคนไปดึงความสนใจของจ้าวหรุ่ยหรุ่ย ส่วนขันทีโม่มีหน้าที่ไปทำลายห้องกลั่นโอสถของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยแม่นมอูพาคนไปปล้นพวกคนส่งยาเผยอวี้กับฉินซานจัดสรรกำลังคนไปร่วมมือกับขันทีโม่และแม่นมอูทางด้านค่ายกองทหารเสือ อิ้งเฉิงกับเผยอวี้ไปจัดการกับองค์หญิงใหญ่ด้วยกันคราก่อนไทฮองไทเฮาเห็นแก่ที่องค์หญิงใหญ่เป็นธิดาของตนจึงไว้ชีวิตองค์หญิงใหญ่ แต่องค์หญิงใหญ่ยังมิรู้จักกลับใจ คิดจะฉวยโอกาสในขณะที่เซียวหลินเทียนมิอยู่ในเมืองหลวงร่วมมือกับองค์ชายคังวางแผนแย่งชิงบัลลังก์ การกระทำเช่นนี้หลิงอวี๋ไม่มีทางยอมได้วังหลวงยังคงอยู่ในการควบคุมขององค์ชายเย่กับท่านอ๋องเฉิง เพื่อป้องกันมิให้องค์หญิงใหญ่หนีไป หลิงอวี๋จึงให้เผยอวี้ไปหาท่านอ๋องผิงหนาน ให้ท่านอ๋องผิงหนานนำกำลังพลกลุ่มหนึ่งมาคุ้มกันเมืองหลวงไว้ด้วยกระทั่งจัดเตรียมทุกอย่างเสร็จฟ้าก็สว่างแล้วหลิงอวี๋ขึ้นว่าราชกิจยามเช้าตามปกติ มิได้แสดงความผิดปกติใด ๆ ออกไปกระท

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1693

    “เหอะ ๆ!”เย่หรงรู้สึกขบขันกับคำพูดของหลิงอวี๋ เขามิรู้ว่าหลิงอวี๋ไปเอาความกล้าหาญถึงเพียงนี้มาจากไหน รู้ทั้งรู้ว่าตนอาจจะมุ่งร้ายต่อนาง แต่ก็ยังเผชิญหน้ากับตนอย่างสงบเช่นนี้นี่หากมิใช่โง่เขลาก็คงโอหังเกินไปแล้ว!เย่หรงเดินตามหลิงอวี๋เข้าไปในท้องพระโรงอย่างช้า ๆเย่หรงมิได้สนใจวังที่หรูหราและสง่างามนี้มากนัก เพราะวังของแดนปีศาจนั้นยิ่งใหญ่กว่าที่นี่มาก“พี่หรง เชิญนั่ง!”หลิงอวี๋นั่งอยู่บนบัลลังก์ แล้วให้เย่หรงนั่งที่เก้าอี้เย่หรงนั่งลงอย่างสบาย ๆ แล้วเขาก็เอ่ยเข้าประเด็น “ข้าสามารถช่วยเจ้าจัดการกับเฉียวเค่อและจ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้ ข้ามีเพียงเงื่อนไขเดียวเท่านั้น หลังจากที่เรื่องนี้สำเร็จแล้วเจ้าต้องตามข้ากลับไปแดนเทพ!”แดนปีศาจคือชื่อที่มนุษย์เหล่านี้เรียกเพราะความกลัว เย่หรงจึงแก้คำพูดของหลิงอวี๋ไปหลิงอวี๋ตะลึงไปเล็กน้อย คาดมิถึงว่าเย่หรงจะร้องขอเช่นนี้เขารู้หรือไม่ว่าหากตนตามเขากลับไปแดนเทพแล้วจะต้องเผชิญกับอะไร?นางจะต้องตาย และตายอย่างอนาถด้วย!ใบหน้าสงบของเย่หรงทำให้หัวใจของหลิงอวี๋สั่นไหว หรือเขาอาจจะมิรู้จุดประสงค์ที่แท้จริงที่ตระกูลเย่ให้เขาพาตนกลับไป!เมื่อคืนเย่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1694

    เดิมทีราษฎรธรรมดาไม่มีความผิด แต่เมื่อมีหยกในครอบครองก็ถือเป็นโทษ!หลิงอวี๋มิได้มีความจำเป็นต้องครอบครองหยกหล้าสุขาวดีชิ้นนี้ แต่โชคชะตากลับมอบให้นางโดยมิให้โอกาสนางได้เลือกนางได้ชีวิตนี้กลับคืนมาใหม่ นางมิอยากตาย นางไม่มีทางให้ใครมาทำเรื่องที่โหดร้ายกับตนเช่นนี้แน่เย่หรงเห็นท่าทางโกรธเกรี้ยวของหลิงอวี๋ แล้วก็นึกถึงสิ่งที่ผู้อาวุโสแอบพูดกับตนก่อนออกเดินทาง แล้วก็เชื่อไปครึ่งหนึ่งเขาพูดมิออกอยู่ครู่หนึ่ง มิรู้ว่าควรจะพูดอะไรเย่หรงเป็นดังที่ขันทีโม่บอกไว้ เขาทำการสิ่งใดมิคล้ายคนที่อยู่ในความถูกต้องของตระกูลเย่ เขาทำได้ทุกอย่างเพื่อให้บรรลุเป้าหมายแต่เขาก็มีขอบเขตของตน และจะมิสังหารผู้บริสุทธิ์!หากหลิงอวี๋เป็นคนเช่นจ้าวหรุ่ยหรุ่ย แม้ว่าเย่หรงจะได้ยินว่าจำเป็นต้องใช้วิธีการที่โหดร้ายเช่นนี้เพื่อเอาหยกหล้าสุขาวดีออกมา เขาก็ไม่มีทางขมวดคิ้วแต่เย่หรงมาถึงเมืองหลวงหลายวันแล้ว และได้รู้จักหลิงอวี๋อยู่บ้าง เขาจะให้หลิงอวี๋ไปตายเช่นนี้ได้อย่างไร!สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ หลิงอวี๋มีดวงตาที่คุ้นเคยและสนิทสนมคู่นี้อยู่!ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้เย่หรงลังเล นี่เป็นเหตุผลหลักที่เขาตกลง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1695

    “ข้า...”เย่หรงมองไปทางหลิงอวี๋ อยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็หยุดไปเขาพูดมิได้ หากพูดเรื่องมารดาผู้ให้กำเนิดตนก็ต้องเล่าภูมิหลังชีวิตของตนด้วย เขามิอยากพูดถึงอดีตที่ทนมิได้เหล่านั้นแล้ว“พี่หรง เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าคนเรามีชาติก่อนและชาตินี้?”หลิงอวี๋เพิ่งจะรู้จักเย่หรงได้มินานนัก รู้ว่าเย่หรงมิสามารถพูดเรื่องที่เขาถูกข่มขู่ออกมาโดยไม่มีเหตุผลได้ จึงเอ่ยอย่างอดทน“เมื่อคืนตอนที่เห็นเจ้าพุ่งเข้ามาตรงที่ซ่อนตัวของข้า มีชั่วครู่หนึ่งที่ข้าคิดจะลงมือ! แต่ข้าก็มิทำ เจ้ารู้หรือไม่ว่าเพราะเหตุใด?”“เพราะเหตุใด?”“เพราะข้ามักจะฝันในแบบเดียวกัน ในฝันข้ารู้จักเจ้า… เจ้าเป็นลูกพี่ลูกน้องของข้า ชื่อว่าหลิงหรง!”“ใบหน้าของเจ้าดูเหมือนกับที่ข้าเห็นในความฝันทุกประการ!”หลิงอวี๋ยังมิอาจแน่ใจได้ว่าเย่หรงคู่ควรที่จะเชื่อใจหรือไม่ จึงมิกล้าเล่าเรื่องยุคปัจจุบันของตนออกไป ดังนั้นจึงใช้ข้ออ้างว่าเคยเห็นเขาในความฝัน“เจ้าจำคำแรกที่ข้าพูดกับเจ้าในตอนนั้นได้หรือไม่? ก่อนหน้านี้ข้ามิเคยพบเจ้ามาก่อน แต่ข้าเรียกเจ้าว่าเสี่ยวหรง!”เย่หรงนึกขึ้นได้แล้ว ตอนนั้นหลิงอวี๋เห็นตนแล้วเรียกตนว่าเสี่ยวหรงจริง ๆ ทั้ง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1696

    หลังจากที่ทั้งสองบรรลุข้อตกลงกันแล้ว หลิงอวี๋ก็ให้คนไปเชิญขันทีโม่กับแม่นมอูมา แล้วแนะนำให้พวกเขารู้จักกับเย่หรงขันทีโม่มิอยากจะเชื่อเลยว่าหลิงอวี๋จะชักชวนลูกชายผู้มิสนใจสิ่งใดของตระกูลเย่ผู้นี้ได้ เขามีข้อสงสัยและกังวลว่าเย่หรงแสร้งทำเป็นยินดีแล้วจงใจหลอกลวงหลิงอวี๋นับตั้งแต่ที่แม่นมอูถูกหลงหมิงหลอก นางก็มิชอบบุรุษหน้าตาหล่อเหล่าเช่นนี้นัก จึงเอ่ยมิกี่คำพอเป็นพิธีแล้วก็ออกไปท่าทีของขันทีโม่กับแม่นมอูที่มีต่อเย่หรงทำให้หลิงอวี๋รู้สึกผิดเล็กน้อย แต่เย่หรงมิสนใจ เขาได้พบกับการจ้องมองอย่างเย็นชาจากตระกูลเย่มามากพอแล้ว เขาเคยชินกับมันแล้ว“พี่หรง เจ้าไม่มีปัญหาที่จะจัดการกับเฉียวเค่อใช่หรือไม่?” หลิงอวี๋เอ่ยถามอย่างกังวลเย่หรงส่งเสียงเย็นชา “พลังของนายน้อยตระกูลเฉียวนั้นยังมิสู้ข้าเลย เขาอาศัยว่าเกิดมาในตระกูลดีจึงได้เป็นนายน้อย หากมาเปลี่ยนสถานะกับข้า คาดว่าเขาคงมิสามารถมีชีวิตอยู่มาได้จนถึงอายุเท่านี้หรอก!”หลิงอวี๋ฟังดูจากคำพูดของเย่หรงก็รู้ว่าเขามีชีวิตอยู่ในตระกูลเย่อย่างมิดีนัก แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาถามเกี่ยวกับอดีตของเขา ทำได้เพียงค่อยถามในภายหลังเท่านั้น“เช่นนั้นเฉียวเค่อกั

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1697

    หากจ้าวฮุยถูกพาตัวกลับเมืองหลวงจะหมายความว่าอย่างไร?คนตระกูลจ้าวต่างก็รู้ดีว่าหากจ้าวฮุยถูกนำตัวกลับมา ตระกูลจ้าวก็จะต้องจบลงจ้าวฮุยเป็นผู้นำตระกูลจ้าว ภายใต้การคุ้มครองของจ้าวฮุยในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ ตระกูลจ้าวได้ทำสิ่งน่าอับอายไว้มากมายหากเซียวหลินเทียนจัดให้มีการสอบสวนอย่างละเอียด ตระกูลจ้าวก็มิสามารถต้านทานการสอบสวนได้เมื่อถึงเวลานั้นการยึดบ้านและกวาดล้างจะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงมิได้!ทันทีที่คนตระกูลจ้าวได้รับข่าว ไหนเลยจะนิ่งเฉยอยู่ได้ ต่างก็รีบไปหาไท่เฟยเส้ากับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเพื่อหารือ อยากจะอาศัยตอนที่เซียวหลินเทียนยังมิกลับมารีบจัดการหลิงอวี๋แล้วเข้าวังไปก่อนวันนี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับจ้าวหรุ่ยหรุ่ย นางกำลังเตรียมเครื่องยาสมุนไพรอยู่ในห้องกลั่นโอสถ เตรียมไว้เมื่อคนส่งยามาถึงก็จะกลั่นยาอายุวัฒนะทันที และจะเลื่อนขั้นไปดินแดนที่เจ็ดตระกูลจ้าวขอเข้าพบ นางก็ให้หนานฮุ่ยไปไล่อย่างรำคาญแต่ครานี้เป็นผู้อาวุโสของตระกูลจ้าว ลุงรองและจ้าวเฉียงฮั๋วลูกพี่ลูกน้องของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยท่าทีของทั้งสองคนแข็งกร้าวนัก มิใช่คนที่คนรับใช้คนหนึ่งเช่นหนานฮุ่ยจะไล่ไปได้“จ้าวหรุ่ยหร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1698

    “เจ้าอยากเป็นจักรพรรดิหรือ?”จ้าวหรุ่ยหรุ่ยมองปราดเดียวก็เห็นความคิดของจ้าวเฉียงฮั๋วได้อย่างทะลุปรุโปร่งแล้ว นางจึงยิ้มเยาะเย้ยจ้าวเฉียงฮั๋วคิดว่าการเป็นจักรพรรดิง่ายเหมือนกับที่เขาทำการค้าหรืออย่างไร?หากเป็นเช่นนั้น ทุกคนก็สามารถเป็นจักรพรรดิได้หมดแล้ว!“มีอะไรมิได้!”จ้าวเฉียงฮั๋วเอ่ยอย่างแข็งกร้าว “ข้าแข็งแกร่งกว่าองค์ชายคังผู้ขี้ขลาดของเจ้าเป็นร้อยเท่า เขาเป็นจักรพรรดิได้ เหตุใดข้าจะเป็นมิได้!”“จ้าวหรุ่ยหรุ่ย คนที่มีไหวพริบก็จะส่งมอบป้ายกับรายชื่อมาให้เอง เห็นแก่ที่เราคือคนตระกูลเดียวกัน ข้าเป็นจักรพรรดิแล้ว เจ้าก็ยังคงเป็นพระชายาคัง!”เขากวาดสายตามองคนที่ตนพามาด้วยเพื่อเป็นการเตือนจ้าวหรุ่ยหรุ่ยว่าอย่าบังคับให้ตนลงมือจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเหลือบมองผู้ติดตามรูปร่างกำยำเหล่านั้นอย่างดูถูกจ้าวเฉียงฮั๋วคิดว่าจะอาศัยคนเหล่านี้มาจัดการตนได้หรือ เขาประเมินตนต่ำไปหรือไม่?จ้าวหรุ่ยหรุ่ยระงับอารมณ์ของตนไว้ พลางเอ่ยอย่างอดทน “จ้าวเฉียงฮั๋ว การเป็นจักรพรรดิมิง่ายอย่างที่เจ้าคิด แม้ว่าข้าจะให้รายชื่อกับเจ้าไป แต่ก็เป็นไปมิได้ที่เจ้าจะให้พวกเขาเชื่อฟังเจ้า!”“เจ้าให้เวลาข้าอีกคืนเดียว!

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1862

    หวงฝู่หลินก็มิได้ใส่ใจ เขาค่อนข้างมิพอใจที่เซียวหลินเทียนตามติดตนมาราวกับกอเอี๊ยะที่เหนียวแน่นเช่นนี้ เขาจึงเร่งฝีเท้าขึ้นอีก แต่พลังของปี้ซงมิเท่าพลังของเขา ดังนั้นในเวลามินานเซียวหลินเทียนก็ตามมาทันแล้วใบหน้าของหวงฝู่หลินดูหม่นหมองลง และกำลังคิดว่าจะสังหารเซียวหลินเทียนดีหรือไม่ แต่แล้วเขาได้ยินเสียงแปลก ๆ… มันคือเสียงการต่อสู้ด้วยอาวุธนั่นเองดวงตาของหวงฝู่หลินดุร้ายขึ้นมาทันที และรีบขึ้นไปบนภูเขาอย่างรวดเร็ว เมื่อเขาขึ้นไปถึงครึ่งทางภูเขา เขาก็เห็นควันหนา ๆ พวยพุ่งออกมาจากตำหนักปีกเงินที่อยู่บนยอดเขานั้นเกิดเรื่องขึ้นแล้ว!หวงฝู่หลินก็ยิ่งร้อนใจ เหตุผลหลักที่เขาเลือกที่จะมาขอความช่วยเหลือจากตำหนักปีกเงินนั้น ก็เพราะว่าเหวินเหรินจิ้นเจ้าตำหนักปีกเงิน คือหนึ่งในสหายสนิทที่มีเพียงมิกี่คนของเขาและเช่นเดียวกับหวงฝู่หลิน ตำหนักปีกเงินแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ตระกูลเหวินเหรินอาศัยอยู่มาหลายชั่วอายุคนแล้ว หวงฝู่หลินมิอนุญาตให้ผู้ใดทำลายวังเทพของตน แล้วเหวินเหรินจิ้นจะยอมให้ใครมาทำลายตำหนักปีกเงินของเขาได้อย่างไรกัน!หรือว่าเหวินเหรินจิ้นจะตกอยู่ในอันตราย?หวงฝู่หลินเร่งฝีเท้า แล้วเดิ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1861

    สิ่งที่เซียวหลินเทียนคาดมิถึงก็คือ หวงฝู่หลินเองก็มาที่ภูเขาห้ายอดด้วยเช่นกันในวันนั้นหวงฝู่หลินพาปี้ซงลงมาจากภูเขา แล้วระหว่างทางก็ถูกจงเจิ้งขวางทางไว้หวงฝู่หลินที่มาสังหารผู้คนเพื่อหวงฝู่หมิงจูนั้น สุดท้ายแล้วก็เอาชนะมือสังหารที่ตระกูลจงเจิ้งทิ้งไว้ได้ และหลังจากการซักถามก็ได้รู้ว่า หวงฝู่หมิงจูถูกจงเจิ้งหลินคุณชายของตระกูลจงเจิ้งจับตัวไปเดิมทีจงเจิ้งหลินคิดว่าจะจับหวงฝู่หมิงจูเป็นตัวประกัน แล้วบีบให้หวงฝู่หลินทำลายค่ายกลที่อยู่โดยรอบภูเขาหิมะไปเสีย และให้ส่งมอบวังเทพมาไหนเลยจะคิดว่าหวงฝู่หลินจะสั่งให้เสือดาวหิมะพุ่งเข้าไปโดยมิเอ่ยอะไรสักคำ ตนก็ตามไปสังหารด้วยเช่นกันการโจมตีที่ตั้งรับมิทันนั้นทำให้จงเจิ้งหลินตกใจกลัว เมื่อเขาเห็นว่าคนของตนตามไปเป็นจำนวนมากภายในชั่วพริบตาเช่นนั้น ก็ตกใจกับวรยุทธ์ที่ไร้ผู้ใดเทียบของหวงฝู่หลิน จากนั้นจึงรีบเปิดใช้งานลูกแก้ววิญญาณอย่างรวดเร็ว แล้วพาหวงฝู่หมิงจูกับเสวี่ยเหมยหนีไปก่อนแต่หวงฝู่หลินหรือจะยอมแพ้ไปเช่นนี้ เขาก็ใช้มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของตน แล้วไล่ตามเข้าไปในแดนเทพเช่นกันเพียงแต่เมื่อเข้าสู่แดนเทพแล้ว เนื่องจากทิศทางที่มานั้นแตกต่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1860

    “นอกจากตำหนักหมาป่าสวรรค์แล้ว ไม่มีกลุ่มที่ซื่อสัตย์สักหน่อยที่สามารถสืบข่าวได้เลยหรือ?”เซียวหลินเทียนคิดแล้วเอ่ยถามออกมากลุ่มของพวกเขามีกำลังคนจำกัด และมิคุ้นเคยกับแดนเทพด้วย หากมิอาศัยกำลังจากภายนอกมาช่วยเหลือ แล้วต้องการจะตามหาหลิงอวี๋ให้พบเร็วยิ่งขึ้นก็เป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปมิได้เลยเก๋อเฟิ่งฉิงครุ่นคิด แล้วเอ่ยขึ้นมา “ยังมีตำหนักปีกเงินอีกที่สืบข่าวเก่งมาก เพียงแต่พวกเขามิรับงานมาเป็นเวลาหนึ่งปีกว่าแล้ว และลูกศิษย์ในสำนักก็กระจัดกระจายกันไปมาก!”“ว่ากันว่าเจ้าตำหนักของพวกเขาติดโรคประหลาด จากนั้นเขาก็กลายเป็นคนนิสัยประหลาด และอารมณ์แปรปรวนมากด้วย ดังนั้นจึงมิทำการค้าแล้ว!”“ในตอนที่ตำหนักปีกเงินมีอำนาจแข็งแกร่งอยู่ก่อนหน้านี้ ตำหนักของพวกเขาอยู่เหนือกว่าตำหนักหมาป่าสวรรค์มาก ในการหาคนสืบข่าวนั้น หากพวกเขาได้ชื่อว่าเป็นที่สองก็ไม่มีใครกล้าเป็นที่หนึ่งแล้ว!”“อีกอย่างคือ พวกเขาทำงานอย่างยุติธรรมมาก เมื่อรับงานมาแล้วพวกเขาจะไม่มีทางเล่นลิ้นอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้เสื่อมสลายไปแล้ว ช่างน่าเสียดายยิ่งนัก!”แต่เซียวหลินเทียนกลับมิได้มองเช่นนั้น อูฐที่ผอมโซก็ยังตัวใหญ่กว่าม้าอยู่ดี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1859

    ขณะที่หลิงอวี๋พักอยู่ที่บ้านตระกูลเก๋อเพื่อรอออกเดินทางไปยังเมืองหลวงแดนเทพ เซียวหลินเทียนกับพวกเผยอวี้ก็ได้เข้าสู่แดนเทพแล้วเพียงแต่พวกเขาเข้ามาจากป่าของเมืองซานต้ง ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองจงกวนกว่าพันลี้ทีเดียวนี่เป็นครั้งแรกของพวกเซียวหลินเทียนที่เข้ามาในแดนเทพ เดิมทีพวกเขาคิดว่าแดนเทพจะเป็นดังเช่นที่ขันทีโม่ได้บอกไว้ว่า จะมีผู้บำเพ็ญตนอยู่มากมาย แต่สิ่งที่เห็นกลับทำให้พวกเขาผิดหวังยิ่งเมืองหลายแห่งที่นี่ล้วนเหมือนกับที่ฉินตะวันตก ราษฎรล้วนเป็นคนธรรมดาทั่วไปและใช้ชีวิตในแบบเดียวกับราษฎรฉินตะวันตก เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นก็ทำงาน เมื่อพระอาทิตย์ตกก็พักผ่อน และทำงานหนักเพื่อความอยู่รอด“ท่านสี่ ข้าว่าที่บอกกันว่าแดนเทพเจริญรุ่งเรืองนั้นก็คงเป็นเพียงแค่ชื่อเท่านั้นกระมัง!”เผยอวี้เห็นว่าราษฎรเหล่านั้นเป็นคนธรรมดาก็อดมิได้ที่จะบ่นออกมาแม้ว่าเซียวหลินเทียนจะผิดหวัง แต่ก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ยออกมา “พวกตระกูลในแดนเทพก็ต้องกินดื่มเช่นกัน หากราษฎรทั่วไปล้วนบำเพ็ญตนอย่างเอาจริงเอาจังเช่นพวกเขา เช่นนั้นใครจะเป็นคนดูแลพวกเขาเล่า!”“นี่เป็นเพียงแค่เสี้ยวเดียวของภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น มิได

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1858

    สองพี่น้องเจียงคือผู้ช่วยชีวิตที่สำคัญที่สุดของเฉียวไป๋ เมื่อเฉียวไป๋รู้ว่าพวกนางเองก็จะติดตามตระกูลเก๋อไปเมืองหลวงแดนเทพด้วย ก็แสดงว่าเมื่อถึงเมืองหลวงแดนเทพ เขาก็สามารถมอบเรือนสี่ประสานให้กับทั้งสองคนได้หลิงอวี๋ได้ยินคำพูดนี้ก็มิได้รู้สึกอะไร ทั้งยังเอ่ยเยาะเย้ยออกไป “รอให้ไปถึงเมืองหลวงแดนเทพก่อนแล้วค่อยว่ากันเถิด! ตอนนี้แม้แต่เงินค่าอาหารกับอาภรณ์ของเจ้าก็ยังได้รับจากตระกูลเก๋อเปล่า ๆ เลย!”“แล้วเจ้ามาบอกว่าจะมอบเรือนสี่ประสานให้พวกเรา ข้าจะเชื่อได้อย่างไรเล่า!”จากนั้นหลิงอวี๋ก็นำกริชของเฉียวไป๋ออกมาโบกไปที่เฉียวไป๋ พร้อมกับเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้ามีเงิน ก็มาแลกกริชนี้กลับไปก่อนเถิด!”เฉียวไป๋พูดมิออกไปในทันที แล้วจ้องมองหลิงอวี๋อย่างหดหู่ จากนั้นก็เอ่ยอย่างมิพอใจ“เจ้ามันมิรู้จักแยกแยะของดี เจ้ามิรู้หรอกว่ามูลค่าของกริชเล่มนี้นั้นสามารถซื้อเรือนสี่ประสานได้ถึงสิบหลังเชียว! หากเจ้ามิเชื่อก็รอไปถึงที่เมืองหลวงแดนเทพ จากนั้นเจ้าก็ไปหาคนที่รู้จักของดีมาดูสักหน่อยก็รู้แล้ว!”ขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยยิ้มแย้มกันอยู่ เก๋อฮุ่ยหนิงก็เดินเข้ามา หลิงอวี๋จึงเก็บกริชเล่มนั้นกลับไปท

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1857

    สองวันต่อมา ฮูหยินผู้เฒ่าเก๋อก็สามารถลุกจากเตียงได้แล้ว และนอกจากสีหน้าที่ยังซีดเซียวอยู่เล็กน้อยกับร่างกายที่ยังคงอ่อนแออยู่นิดหน่อย โดยรวมแล้วนางก็สามารถเดินไปเดินมาในห้องได้แล้วข้าหลวงเก๋อจึงยิ่งให้ความสำคัญกับทักษะการแพทย์ของหลิงอวี๋มากขึ้นไปอีก และให้ฮูหยินเก๋อจัดเตรียมเรือนให้สองพี่น้องตระกูลเจียงอาศัยอยู่โดยเฉพาะเลยข้าหลวงเก๋อเคยถามหลิงอวี๋แล้วว่า ดูจากอาการของฮูหยินผู้เฒ่าเก๋อแล้วพวกเขาจะออกเดินทางไปยังเมืองหลวงแดนเทพกันได้เมื่อใดหลิงอวี๋ให้คำตอบมาว่า คงจะครึ่งเดือน เมื่อข้าหลวงเก๋อได้ยินดังนั้น เขาก็เริ่มให้คนเตรียมตัวเรื่องการเดินทางทางด้านฮูหยินเก๋อ นางก็วางแผนไว้ว่าจะจัดงานแต่งงานให้เก๋อฮุยซินกับคุณชายจ้าวก่อนแล้วค่อยออกเดินทางก่อนหน้านี้ตระกูลจ้าวก็กังวลว่า หากฮูหยินผู้เฒ่าเก๋อตาย เก๋อฮุ่ยซินก็จะต้องไว้ทุกข์ ดังนั้นพวกเขาจึงเตรียมจัดงานแต่งงานไว้ล่วงหน้าแล้วของกำนัลในงานแต่งงานทั้งหมดก็เตรียมเสร็จแล้ว และตระกูลเก๋อก็ตกลงกันได้ทันที ดังนั้นจึงกำหนดวันแต่งงานไว้ในอีกสิบวันต่อมาแต่เก๋อฮุ่ยซินกลับมิได้ยินดีแล้ว มิรู้ว่านางไปได้ยินมาจากใครว่าเก๋อฮุ่ยหนิงช่วยชีวิตค

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1856

    หลิงอวี๋กำลังอยู่ดูแลฮูหยินผู้เฒ่าเก๋อ และคิดเรื่องที่จะไปเมืองหลวงแดนเทพ แล้วนางก็เห็นนางรับใช้คนหนึ่งวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา“หมอเจียง น้องสาวของท่านกับคุณชายเฉียวเผชิญหน้ากับมือสังหาร คุณชายเฉียวได้รับบาดเจ็บสาหัส คุณหนูสามให้เชิญท่านไปดูเจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋ได้ยินดังนั้นก็ตกใจ จึงรีบให้แม่นมหลี่คอยดูแลฮูหยินผู้เฒ่าเก๋อ แล้วนางก็รีบตามนางรับใช้ไปยังเรือนที่เก๋อฮุ่ยหนิงอาศัยอยู่ที่แขนของป้าวซวนเปื้อนไปด้วยเลือด และถูกพันแผลเอาไว้ลวก ๆ เมื่อนางเห็นหลิงอวี๋ ดวงตาของนางก็แดงก่ำแล้วน้ำตาไหลออกมาทันทีก่อนหน้านี้มัวแต่ยุ่งอยู่กับการหลบหนี จนมิรู้จักกลัวอันตรายใด ๆแต่ยามนี้เมื่อนางเห็นหลิงอวี๋ผู้เป็นดั่งพี่สาวของตน ป้าวซวนก็รู้สึกกลัวขึ้นมา“น้องหญิง เจ้ามิเป็นไรใช่หรือไม่?”หลิงอวี๋ประคองป้าวซวนแล้วตรวจดูอาการของนางอย่างกระวนกระวาย ป้าวซวนส่ายหัวพลางสะอื้นเอ่ย “ข้ามิเป็นไร คุณชายเฉียวได้รับบาดเจ็บหนักกว่าข้า เจ้าไปดูอาการเขาก่อนเถิด!”เก๋อฮุ่ยหนิงก็ลุกขึ้นมาจากข้างเตียง แล้วตะโกนออกมา “หมอเจียง เจ้ารีบมาดูคุณชายเฉียวเร็วเข้า เขาได้รับบาดเจ็บหลายจุด มิรู้ว่าชีวิตของเขาตกอยู่ในอันตราย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1855

    เฉียวไป๋ยกมือขึ้นแล้วฟาดฝ่ามือออกไปด้วยแรงทั้งหมดที่มี จากนั้นโต๊ะภายในห้องที่ถูกแยกออกเป็นสองส่วนก็ลอยขึ้นไป แล้วโจมตีใส่มือสังหารตามแรงลมจากฝ่ามือของเฉียวไป๋...ทว่ามือสังหารที่ข้าหลวงเก๋อส่งมาล้วนมีวรยุทธ์แก่กล้าทั้งสิ้น มิได้ด้อยไปกว่าเฉียวไป๋เลยมือสังหารคนหนึ่งฟันโต๊ะที่ปลิวมาหาตน แล้วพุ่งไปหาเฉียวไป๋อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ใช้กระบี่ในมือแทงเข้าไปที่ไหล่ของเขา“ช่วยด้วย! ใครก็ได้ มานี่เร็วเข้า...”ป้าวซวนตะโกนขึ้นมา นางหวังให้แขกคนอื่นในโรงเตี๊ยมยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือแต่แขกที่ขี้ขลาดกลัวปัญหาเหล่านั้นหนีกันไปตั้งนานแล้วเมื่อเห็นว่ามีมือสังหารแทงที่ต้นขาของเฉียวไป๋อีกครั้ง ป้าวซวนก็นึกขึ้นได้ทันทีว่าตอนที่หลิงอวี๋เตรียมยาแก้พิษให้ตนเมื่อคืน นางได้ให้ผงยาหนึ่งห่อไว้กับตนด้วยหลิงอวี๋บอกว่าเป็นของดีที่ให้นางใช้หลบหนีเมื่อพบเจอพวกคนเลวป้าวซวนจึงมิคิดอะไรแล้ว นางหยิบมันออกมาแล้วพุ่งเข้าไป จากนั้นก็ยกมือขึ้นโปรยผงยาให้ลอยไปทางพวกมือสังหาร“มีพิษ!”มือสังหารที่พุ่งมาข้างหน้าชะงักไปทันที แล้วก้าวถอยหลังโดยมิรู้ตัว ป้าวซวนจึงรีบคว้าเฉียวไป๋แล้ววิ่งออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็วมือส

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1854

    เมื่อข้าหลวงเก๋อได้ยินดังนั้นก็เกิดความสนใจขึ้นมาทันที แล้วรีบเอ่ยถามรัว ๆ อย่างร้อนใจ “เหตุใดคุณชายตระกูลเฉียวจึงอยู่ที่เมืองจงกวน? คนที่มาคือผู้ใด? หนิงเอ๋อร์ เจ้ารู้จักเขาได้อย่างไร? เจ้าแน่ใจหรือว่าเขาคือคุณชายตระกูลเฉียวจริง ๆ?”เก๋อฮุ่ยหนิงจึงเล่าเรื่องที่จื่ออวิ๋นจำเฉียวไป๋ได้ให้เขาฟัง แล้วบอกแผนการของตนให้ข้าหลวงเก๋อรู้โดยมิปิดบังด้วยสุดท้าย เก๋อฮุ่ยหนิงก็เอ่ยออกมาอย่างมั่นใจ “ขอเพียงท่านพ่อส่งยอดมือสักสองสามคนมาแสดงร่วมกับข้า ให้ข้าได้เป็นวีรสตรีช่วยเหลือบุรุษรูปงาม เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วเฉียวไป๋จะต้องรู้สึกขอบคุณข้าอย่างแน่นอน!”“เมื่อกอปรกับความสามารถและความงามของข้าแล้ว ในท้ายที่สุดคุณชายเฉียวจะต้องแต่งงานกับข้าอย่างแน่นอน!”เมื่อข้าหลวงเก๋อได้ยินว่าเก๋อฮุ่ยหนิงได้คิดแผนทุกอย่างเอาไว้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว ในที่สุดเขาก็มองลูกสาวที่มิเป็นที่สนใจมาโดยตลอดผู้นี้ในมุมมองที่ต่างออกไป นางเป็นคนที่มีกล้าหาญ มีความฉลาด มีกลยุทธ์และมีความเด็ดขาด หากสตรีเช่นนี้มุ่งเป้ามาที่ตน ตนไม่มีทางหนีพ้นจากเงื้อมมือของนางได้แน่คุณชายตระกูลเฉียวเองก็เป็นบุรุษเช่นกัน เขาเชื่อว่าคุณชายตระกูลเฉี

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status