แชร์

บทที่ 1651

ผู้เขียน: กานเฟย
“ฮองเฮาระวัง!”

เถาจื่อและหานเหมยได้ยินเสียงหัวเราะของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็รีบรุดไปข้างหน้าอย่างมิสนใจสิ่งใด อยากจะใช้กายเนื้อของตนไปช่วยกำบังการโจมตีที่ร้ายแรงนี้ให้หลิงอวี๋

เผยอวี้ก็กระโดดขึ้นมาจากด้านล่าง แล้วเหวี่ยงดาบไปทางจ้าวหรุ่ยหรุ่ยทันที...

แต่ทั้งสามคนรู้สึกถึงพลังอันท่วมท้นที่มากดทับพวกเขาพร้อมกัน

ขณะเดียวกันนั้นหลิงอวี๋ก็ตะคอกด้วยความโกรธแล้วรับฝ่ามือโจมตีนั้นไว้

หากนางมิต้าน จ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็จะดูดพลังวิญญาณของตนไป ต่อให้ต้องตายนางก็มิอาจให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยสมปรารถนาได้!

มิฉะนั้นก็จะเป็นนางเองที่ทำให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยประสบความสำเร็จ แล้วต่อไปในสี่แคว้นนี้ก็จะไม่มีผู้ใดเป็นคู่ต่อสู้ของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้อีก

การต่อสู้ที่จะพินาศไปด้วยกันนี้ทำให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยตกตะลึง แต่นางมิสามารถดึงพลังวิญญาณของตนกลับคืนมาได้อีกแล้ว

เกิดเสียงปัง แล้วพลังทั้งสองก็ปะทะกันอย่างรุนแรงที่กลางอากาศ

แสงสีฟ้าและสีน้ำเงินพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าเหนือหมู่บ้านซื่อผิง มิเพียงแต่คนในหมู่บ้านซื่อผิงเท่านั้นที่มองเห็นมัน แม้แต่คนในหมู่บ้านตระกูลหลี่บนภูเขาที่อยู่ห่างออกไปหลายสิบลี้ก็เห็นด้วย

ดวงตาคู่นั้นที่เคยสอดส่องพ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1652

    โชคดีที่องค์ชายเย่ถูกเผยอวี้ประคองไปอยู่ตรงมุมจึงเลี่ยงจากการถูกพลังทั้งสองกระแสนี้พัดพาไปแต่ถึงเป็นเช่นนั้น เสาที่อยู่ข้าง ๆ เขาก็หักลงมาล้มทับเขาเช่นกันเขาเห็นว่าเรือนที่เผยอวี้พุ่งเข้าไปพังทลายลงมา และเผยอวี้ถูกฝังอยู่ข้างในด้วย!แล้วเขาก็เห็นว่าหลิงอวี๋ถูกโจมตีกระเด็นออกไปเช่นกัน!อีกทั้งเขายังเห็นลำแสงสองกระแสที่พัดอยู่กลางอากาศอีกด้วยจิตใจขององค์ชายเย่ว่างเปล่า เขารู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างนี้ล้วนมิใช่ความจริง!นี่ยังเป็นวรยุทธ์อยู่หรือ?นี่มันเป็นเวทมนตร์ชัด ๆ!ใต้หล้านี้จะมีผู้ฝึกยุทธ์ที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ได้อย่างไรกัน!เขารู้สึกว่ามันเหลือเชื่อมาก!เขารู้สึกว่าตนกำลังฝันอยู่ ดังนั้นจึงได้เห็นภาพที่แปลกประหลาดและมีมนต์ขลังนี้องค์ชายเย่ตกอยู่ในภวังค์ ลืมไปแล้วว่าตนติดอยู่ใต้เสา จนกระทั่งได้ยินเสียงร้องที่ใจสลายของจูหลานดังมาจากข้างนอก“องค์ชาย… เซียวหลินมู่ ท่านตอบหม่อมฉันสิเพคะว่าท่านยังมีชีวิตอยู่...”ในที่สุดองค์ชายเย่ก็ได้สติแล้วตะโกนออกไป “หลานหลาน ข้ายังมีชีวิตอยู่ รีบเข้ามาช่วยข้าที… ไม่สิ ช่วยเผยอวี้ก่อน เขาติดอยู่ใต้เรือนนั้น!”องค์ชายเย่พูดไปก็ดิ้นรนไ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1653

    อวี๋เฮ่าวางกำลังพลไว้ค้นหาเผยอวี้ต่อไป แล้วพวกเขาก็พาเถาจื่อกับหานเหมยที่ยังคงหมดสติรีบกลับไปที่เมืองหลวงซี่โครงขององค์ชายเย่ถูกหลิงซวนพันผ้าพันยึดไว้ให้หลิงซวนยังป้อนน้ำหญ้าวานรให้เขาอีกหนึ่งขวดด้วยองค์ชายเย่มิกล้าพักผ่อน เขาพยุงร่างที่บอบช้ำแล้วให้อวี๋เฮ่าหาคนไปส่งจดหมายให้รองแม่ทัพของตน ให้เขานำทหารมารอคุ้มกันที่หน้าประตูเมืองในเวลาเดียวกันอวี๋เฮ่าก็ส่งจดหมายถึงท่านอ๋องเฉิง ให้คนของเขาจับตาดูองค์ชายคังไว้ด้วยหากพระชายาคังกล้าไปพาตัวองค์ชายคังออกจากราชสำนักฝ่ายใน ก็ให้สังหารองค์ชายคังเสียก่อนเช่นนี้แล้วหากพระชายาคังจะเริ่มต้นการรบก็จะไม่มีชื่อเสียงมากพอ และมิสามารถยึดตำแหน่งมังกรได้ง่ายดายถึงเพียงนั้นอวี๋เฮ่ายังส่งคนไปส่งจดหมายถึงหลี่ว์เซียงให้เตรียมพร้อมรับมือทางด้านจูหลานก็มิได้ว่างเช่นกัน นางดูแลองค์ชายเย่พลางวางแผนกลยุทธ์ให้อวี๋เฮ่าไปด้วย“ครั้นเข้าเมืองไป จะต้องสร้างความตื่นตระหนกอย่างแน่นอน ส่งคนไปปะปนอยู่ในฝูงชนแล้วบอกทุกคนว่าฮองเฮาทรงได้รับบาดเจ็บ นี่คือสิ่งที่มิอาจปกปิดได้!”“แต่ต้องบอกทุกคนว่า อาการบาดเจ็บของฮองเฮามิรุนแรง พักรักษาตัวสักสองวันก็จะออกมาได้แ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1654

    แม่ทัพผู้มากประสบการณ์คนหนึ่งเอ่ยอย่างตรงไปตรงมากับผู้ส่งสารของไท่เฟยเส้า“หากตอนนี้ได้รับการยืนยันว่าฮองเฮาสิ้นพระชนม์แล้ว พวกเราก็จะไปช่วยองค์ชายคังได้อย่างถูกต้อง!”“แต่ก่อนหน้านั้น โปรดยกโทษให้พวกข้าที่มิสามารถทำอะไรได้ด้วยเถิด!”สิ่งที่แม่ทัพเหล่านี้พูดเป็นเรื่องจริง มิว่าหลิงอวี๋จะถูกผู้ใดสังหาร พวกเขาสามารถใช้ข้ออ้างว่า แคว้นมิอาจขาดจักรพรรดิไปได้แม้วันเดียวมาทำการเสนอให้องค์ชายคังได้ดูแลเรื่องบ้านเมืองได้!เมื่อเป็นเช่นนี้แม้ว่าเซียวหลินเทียนจะบุกกลับมา พวกเขาก็ทำไปเพื่อประโยชน์ของฉินตะวันตกทว่าหากฉวยโอกาสตอนหลิงอวี๋มิอยู่ช่วยไท่เฟยเส้าวางแผนยึดวังหลวงก็จะมีข้อหาวางแผนแย่งชิงบัลลังก์เป็นชนักติดหลัง!องชายคังจะมีความสามารถในการต่อสู้กับเซียวหลินเทียนหรือไม่ก็มิรู้ แล้วเหตุใดพวกเขาจึงต้องเอาชีวิตของครอบครัวตนไปผูกไว้กับเรือของเขาด้วยเล่า?นี่คือราคาที่ต้องจ่ายด้วยเลือดของครอบครัวใหญ่ แม่ทัพเหล่านี้มิอาจเดิมพันได้!เมื่อเห็นว่ามิสามารถโน้มน้าวเหล่าแม่ทัพได้ ไท่เฟยเส้าจึงทำได้เพียงพาเหยียนเฟิงหลานชายของตนบุกวังด้วยตนเองนางคิดว่าตนจะยึดวังหลวงไว้ก่อน รอให้ข่าวการตายของหลิ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1655

    ไท่เฟยเส้าเอ่ยอย่างจริงจังและจริงใจจนท่านอ๋องเฉิงมิรู้ว่าจะตอบอย่างไรจูหลานกังวลว่าท่านอ๋องเฉิงจะมิสามารถทนต่อการโจมตีของไท่เฟยเส้าได้ แล้วจะประนีประนอมตอบตกลงไป จึงดึงองค์ชายเย่อยู่ก่อนยามนี้เมื่อเห็นว่าท่านอ๋องเฉิงกำลังลำบาก จูหลานจึงผลักองค์ชายเย่แล้วขยิบตาให้เขาจูหลานรู้ดีถึงบุญคุณความแค้นของไท่เฟยเส้ากับหลิงอวี๋ยามนี้หลิงอวี๋ควบคุมวังหลังอยู่ หากไท่เฟยเส้าฉวยโอกาสที่หลิงอวี๋บาดเจ็บมายึดอำนาจการจัดการของวังหลังไป สถานการณ์ของหลิงอวี๋จะยิ่งแย่ลงไปอีกพวกเถาจื่อไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของไท่เฟยเส้าได้ ไท่เฟยเส้าจะต้องกำจัดพวกนางแน่!องค์ชายเย่นึกถึงคำสั่งที่หลิงอวี๋บอกกับตนก่อนหน้านี้ จึงเปิดม่านรถม้าแล้วเอ่ยอย่างเย็นชา“ไท่เฟยเส้า กระหม่อมขอบคุณในความห่วงใยต่อราษฎรและแคว้นแทนฮองเฮาด้วย!”“แต่การที่ให้ท่านไปอยู่ที่ศาลบูรพกษัตริย์เป็นพระราชโองการขององค์จักรพรรดิ ฮองเฮาเองก็มิสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ท่านรีบกลับไปที่ศาลบูรพกษัตริย์จะดีกว่า!”“อย่าได้กังวล อาการบาดเจ็บที่ฮองเฮาได้รับนั้นน้อยนิด พักฟื้นสองวันก็มิเป็นอะไรแล้ว! มีพระชายาของกระหม่อมอยู่ดูแลพระนางแล้ว มิรบกวนท่านแล้วพ่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1656

    หลิงซวนมองไปไกล ๆ ด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ พวกไท่เฟยเส้าเดินไปไกลแล้วจากนั้นนางก็พูดอย่างขมขื่นด้วยเสียงต่ำ “ฮองเฮายังมิทรงฟื้นเจ้าค่ะ สิ่งที่พูดเมื่อครู่นั้นหลี่ว์เซียงสอนมาเจ้าค่ะ… รับมือกับสถานการณ์ตรงหน้าก่อน!”“หากวันพรุ่งฮองเฮายังมิทรงฟื้น มิว่าเราจะแต่งเรื่องโกหกอะไรก็มิสามารถหยุดไท่เฟยเส้ามิให้นำคนเข้าวังได้แล้วเจ้าค่ะ!”เมื่อจูหลานได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกราวกับว่าหัวใจตกลงไปในถ้ำน้ำแข็ง!“เข้าไปก่อนเถิดเจ้าค่ะ! พระชายาเย่ ประเดี๋ยวหมิ่นกูจะมาพบท่าน ท่านช่วยนางจัดการวังหลังไปก่อนนะเจ้าคะ!”หลิงซวนเอ่ยอย่างเคร่งขรึม “ก่อนที่ฮองเฮาจะทรงฟื้นขึ้นมา วังหลังมิสามารถวุ่นวายได้! ขอร้องท่านนะเจ้าคะ!”“ข้า…”จูหลานตกใจ แต่เมื่อนึกถึงสถานการณ์ตอนนี้ หากตนมิช่วยหลิงอวี๋แล้วจะมีผู้ใดสามารถช่วยหลิงอวี๋ได้อีกเล่า!“ข้าจะช่วยฮองเฮาดูแลวังหลังอย่างดี!”จูหลานเอ่ยอย่างหนักแน่น “พวกเจ้ารีบหาวิธีช่วยฮองเฮา ต้องช่วยชีวิตฮองเฮาให้ได้!”หลิงซวนมิกังวลข้างหลังแล้ว จึงรีบกลับพระตำหนักคุนหนิงทันทีเถาจื่อกับหานเหมยตื่นขึ้นมาภายใต้การรักษาของถังถีเตี่ยน ทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บภายในสาหัสแต่ถังถีเตี่ยน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1657

    คืนนี้เซียวเยวี่ยพักอยู่ที่พระตำหนักคุนหนิง เขาอ่านตำราอยู่ที่โถงด้านข้างอย่างรู้ความ เมื่อพวกหลิงซวนต้องการเขาจะได้ปรากฏตัวได้ทันท่วงทีหลิงซวนเฝ้าอยู่ข้างเตียงของหลิงอวี๋มิห่าง คอยให้ความสนใจกับการเปลี่ยนแปลงของอาการบาดเจ็บหลิงอวี๋อยู่ตลอดหลิงซวนนำหญ้าวานรที่เก็บมาได้ป้อนให้หลิงอวี๋ทุก ๆ ครึ่งชั่วยามแต่หลิงอวี๋ได้รับบาดเจ็บสาหัสมากจริง ๆ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ทั้งนั้นท่านอ๋องเฉิงเองก็อยู่ในวังกับองค์ชายเย่ด้วยพวกเขาเป็นบุรุษ มิสะดวกจะเข้าไปเยี่ยมหลิงอวี๋ที่วังหลัง จึงล้วนคอยฟังข่าวจากจูหลานจูหลานใช้ความสามารถในการดูแลงานบ้านของตน ให้หมิ่นกูคอยจับตาดูความเคลื่อนไหวของนางกำนัลและขันทีในวังอย่างเคร่งครัด มิอนุญาตให้ผู้ใดส่งข่าวออกไปภายนอกเด็ดขาดเรื่องนี้เกี่ยวข้องถึงช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายของพวกเขา หากข่าวรั่วไหลออกไปอาจนำมาซึ่งผลที่ตามมาที่มิอาจทนรับได้เผยอวี้โชคดีมาก คนของอวี๋เฮ่าค้นหาจนเจอเขาพร้อมกับยังมีลมหายใจแล้วพาออกมา เขาได้รับบาดเจ็บไปทั้งตัวแต่มิได้ร้ายแรงถึงชีวิต จึงรีบทำการพันแผลแล้วประคองตนไปที่วังองค์ชายเย่ยังคิดมิตกว่า การต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัวในวัน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1658

    บรรยากาศในพระตำหนักคุนหนิงดูหม่นหมองไป เรื่องความเป็นความตายของหลิงอวี๋ราวกับก้อนหินขนาดใหญ่ที่กดอยู่ในใจของทุกคนจูหลานรู้สึกแย่จนมิกล้ามองอีกต่อไป จึงปิดปากแล้วเดินร้องไห้ออกไปหากหลิงอวี๋โชคร้ายตายจากไป พวกเขาสามีภรรยาก็จะเป็นผู้ทำผิด แล้วพวกเขาควรจะอธิบายให้เซียวหลินเทียนฟังอย่างไร?แม้ว่าจะต้องเสี่ยงชีวิต แต่นางกับองค์ชายเย่ก็จะต้องปกป้องเซียวเยวี่ย จะไม่มีทางให้องค์ชายคังสังหารเซียวเยวี่ยเด็ดขาด!จูหลานได้วางแผนไว้แล้ว หากหลิงอวี๋สิ้นใจ ก็จะพาเซียวเยวี่ยออกจากเมืองหลวงโดยมิสนใจสิ่งใดทั้งนั้น แล้วไปส่งเขาให้กับเซียวหลินเทียนอย่างปลอดภัยเวลาค่อย ๆ ผ่านไปทีละน้อย ที่มุมปากของหลิงอวี๋มีเลือดไหลออกมามิหยุด นางมิได้นอนเงียบ ๆ อีกต่อไป ความเจ็บปวดในอวัยวะภายในของนางทำให้ตัวสั่นไปทั้งตัวเมื่อการเคลื่อนไหวมากขึ้น เลือดที่ไหลออกมาก็ยิ่งมากขึ้น“ฮองเฮา...”หลิงซวนปรี่เข้าไปกดนางไว้ ดวงตาก็อดมิได้ที่จะมองที่ร่างกายของหลิงอวี๋นางมิอาจพูดคำว่าฮองเฮามิไหวแล้วได้ แต่ทุกคนที่อยู่ในที่แห่งนี้ต่างก็รู้ดีอยู่แก่ใจวาระสุดท้ายของหลิงอวี๋ใกล้เข้ามาแล้ว!“ข้าจะไปสังหารองค์ชายคัง!”เถาจื่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1659

    แต่สุดท้ายแล้วแม่นมลี่ก็เข้ามาพร้อมกับสหายของนางหานอวี้ที่ตามหลังขันทีน้อยเซี่ยไปสำรวจความจริงของแม่นมผู้นั้นก็ถูกแม่นมแปลกผู้นั้นหิ้วมาราวกับไก่ตัวน้อย ๆทันทีที่แม่นมเข้ามาก็โยนหานอวี้ลงบนพื้นหานอวี้ลุกขึ้นพลางเอ่ยอย่างละอาย “แม่นมผู้นี้เป็นผู้ฝึกยุทธ์ มีวรยุทธ์สูงมาก ข้า… ข้ายังมิทันได้ออกกระบวนท่าใดก็ถูกนางจับได้แล้ว!”วรยุทธ์ของหานอวี้ก็มิอ่อนแอเช่นกัน หากถูกแม่นมผู้นี้จับได้ภายในกระบวนท่าเดียว เช่นนั้นนางก็คือยอดฝีมือ!ทุกคนล้วนยืนอยู่หน้าเตียงของหลิงอวี๋อย่างเข้าใจกัน แล้วมองแม่นมผู้นั้นอย่างระมัดระวังแม่นมผู้นั้นสวมเสื้อผ้าของแม่นมลี่แต่ผมหงอกของนางดูเหมือนว่าจะมิได้สระมาหลายปีแล้วจึงเป็นปมพันกันยุ่งเหยิงไปหมดใบหน้าของนางเต็มไปด้วยริ้วรอย ดูแก่กว่าแม่นมลี่ แต่สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือบนใบหน้าของนางเต็มไปด้วยบาดแผลจากรอยมีดมากมายหลิงซวนเห็นแล้วตกใจมาก มิอาจจินตนาการได้เลยว่าผู้ใดจะทำร้ายแม่นมชราผู้นี้จนเป็นเช่นนี้ได้ แล้วแม่นมชราผู้นี้มีชีวิตรอดได้อย่างไร!แต่ใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยและรอยแผลเป็นนี้มีดวงตาคู่หนึ่งที่เต็มไปด้วยพลัง ซึ่งต่างกับความชราของนางโดยสิ้

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1950

    นี่เย่หรงไปยั่วยุสตรีที่บ้าคลั่งในเรื่องความรักเข้าแล้วสิ!หลิงอวี๋หันกลับไป ก็เห็นเย่หรงยังคงเดินต่อไปอย่างไร้หัวใจ นางจึงเตือนเขาอย่างเป็นห่วง “เย่หรง สิ่งที่นางพูดนั้นมิใช่คำพูดบ้า ๆ! ท่านต้องระวังตัวไว้ด้วย!”“มิใช่คำพูดบ้า ๆ แล้วคืออะไรเล่า? หรือว่านางจะถือมีดมาบังคับให้ข้าแต่งงานกับนาง?”เย่หรงยังคงมิได้ใส่ใจแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “แม้แต่ราษฎรที่ไม่มีการศึกษาก็ยังรู้ว่าแตงที่ถูกบังคับให้โตจะมิหวาน นางเรียนหนังสือมาตั้งหลายปีโดยเปล่าประโยชน์หรือไร? นางมิเข้าใจเหตุผลนี้หรือ?”“การบังคับให้ข้าแต่งงานกับนางจะมีประโยชน์อะไรต่อนาง ข้าไม่มีทางทำเรื่องเช่นนั้นกับนางหรอก!”หลิงอวี๋มิได้รู้สึกว่าหยางหงหนิงกำลังล้อเล่น นางจึงเอ่ยอย่างอดทน “เย่หรง ท่านจริงจังสักหน่อยเถิด! นี่มิใช่เรื่องล้อเล่น!”“ท่านมิรู้หรอกว่าหากสตรีบ้าคลั่งขึ้นมา มิว่าเรื่องใดนางก็ทำได้ทั้งนั้น! ตอนนี้นางกำลังโกรธ และถึงขนาดเกลียดเพราะรักแล้ว...”“การบังคับให้ท่านแต่งงานกับนาง มิแน่ว่าจะเป็นการทำให้ท่านกับนางกลายเป็นคู่สามีภรรยากันอย่างแท้จริง แต่เป็นการบังคับให้ท่านก้มหัวให้!”หลิงอวี๋มองว่าเย่หรงเป็นสหายของ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1949

    คำพูดที่หนักแน่นของหลิงอวี๋ทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างก็มีความคิดแตกต่างกันไป คนที่ดูถูกหลิงอวี๋และช่วยหยางหงหนิงใส่ร้ายหลิงอวี๋เมื่อครู่ ก็มิกล้าพูดอะไรอีกแม้ว่าคำพูดนี้ของสิงอวี๋จะเป็นการพูดกับหยางหงหนิง แต่ก็เป็นการพูดกับคนที่ใส่ร้ายนางด้วยสิงอวี๋ใช้ความแข็งแกร่งของนางบอกทุกคนว่า อย่ายั่วยุยอดฝีมือที่เชี่ยวชาญวิชาพิษ มิเช่นนั้นอาจจะตายมิรู้ตัว!การต่อสู้จนถึงที่สุด หากมิตายก็จะมิหยุดนั้นเป็นความตั้งใจของนาง!คนชั่วในใต้หล้านี้หาได้น่ากลัวไม่ ทว่าสิ่งที่น่ากลัวจริง ๆ คือคนที่มิกลัวตายและทำสิ่งใดมิคิดชีวิตการประกาศที่มิกลัวตายนี้ของหลิงอวี๋ เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาหวาดกลัวได้แล้วทุกคนล้วนมองหลิงอวี๋อย่างประหลาด แต่หลิงอวี๋กลับเดินไปตรงหน้าหลงอิงราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น“คุณหนูหลง ข้าขออภัยด้วย ที่ทำให้งานเลี้ยงชมบุปผาของเจ้าในวันนี้ต้องวุ่นวาย เช่นนั้นข้าขอตัวลาก่อน!”ยังมิทันที่หลงอิงจะพูดอะไร เย่หรงก้าวไปข้างหน้า แล้วเอ่ยออกมา “เสี่ยวชี รอข้าด้วย ข้าคุยกับนางสักเล็กน้อยแล้วจะไปพร้อมกับเจ้า!”เย่หรงมองไปทางหยางหงหนิง แล้วเอ่ยเสียงเรียบ “ต่อหน้าคนจำนวนมากถึงเพียงนี้ หยา

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1948

    “ปวดยิ่งนัก!”หยางหงหนิงเอื้อมมือไปกดที่ท้อง พยายามจะยืนขึ้นปรุงยาแก้พิษต่อไป แต่นางไม่มีแม้แต่แรงที่จะลุกยืนขึ้นเลยนางลองอยู่สองครั้ง แต่เมื่อฝืนลุกขึ้นมา ขากลับอ่อนแรงและล้มลงบนพื้นอีกครั้ง“เป็นไปมิได้!”หยางหงหนิงตะโกนขึ้นมาอย่างร้อนใจ “ยาที่ข้าเตรียมไว้ก็เป็นยาแก้พิษ เหตุใดุมิได้ผลเล่า! หรือเป็นเพราะปริมาณยาแก้พิษมิเพียงพอ?”หลิงอวี๋จ้องมองนางอย่างเย็นชา ที่มุมปากของนางมีความเยาะเย้ยเล็กน้อย "คุณหนูหยาง เจ้าเป็นคนบอกว่าการทำสงครามย่อมมิกลัวอุบาย ดังนั้น ข้าเองก็เล่นลูกไม้กับเจ้าไปอย่างหนึ่งเช่นกัน!”“หากเจ้ารู้จักลักษณะของเครื่องยาสมุนไพรอย่างลึกซึ้งจริง ๆ เจ้าก็ควรจะรู้ว่าเครื่องยาสมุนไพรบางชนิดมีประโยชน์หลายอย่าง และเครื่องยาสมุนไพรเหล่านี้มีความสัมพันธ์กันแบบกษัตริย์กับขุนนาง เมื่อนำมาทำเป็นยาพิษ ก็จะมีฤทธิ์เป็นพิษ!”“แต่หากใช้เป็นยาแก้พิษ ก็มีฤทธิ์เป็นยาแก้พิษได้!”“ตามหลักการนี้แล้ว หากยาแก้พิษที่เจ้าเตรียมไว้ไปกดยาพิษของข้า เช่นนั้นก็แสดงว่าเป็นยาแก้พิษ แต่หากกดไว้มิได้ เช่นนั้นก็แสดงว่าเป็นยาพิษที่เติมเข้าไปในยาพิษอีกที!”หยางหงหนิงรู้สึกเจ็บปวดจนขดตัวเป็นก้อนแล้ว

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1947

    หยางหงหนิงมิได้รู้สึกเลยสักนิดว่าตนได้ทำผิดพลาดครั้งใหญ่ไปเสียแล้ว เวลานี้เมื่อถูกหลิงอวี๋เปิดเผยทุกอย่างออกมา นางก็ยิ้มอย่างมิรู้สึกละอายแล้วเอ่ยออกมา“เจ้าแสดงความสามารถเกินตัวไปกระมัง! หากเจ้ามิยอมแพ้ คนที่ต้องอับอายก็คือเจ้า!”“การทำสงครามนั้นย่อมมิกลัวกลอุบาย ข้าก็มิได้ขัดขวางมิให้เจ้านำเครื่องยาสมุนไพรออกมา เป็นเจ้าเองต่างหากที่มิฉลาดพอ!”คำพูดนี้ของหยางหงหนิงมีคนที่อยู่ในเหตุการณ์เห็นด้วยอยู่กึ่งหนึ่ง และรู้สึกว่าหยางหงหนิงพูดถูกเดิมทีมันก็คือการแข่งขัน ใครกำหนดเล่าว่ามิสามารถนำเครื่องยาสมุนไพรที่แก้พิษออกมาได้ เป็นหลิงอวี๋เองเท่านั้นที่โง่เขลาส่วนคนอีกกึ่งหนึ่งรู้สึกดูถูกการกระทำของหยางหงหนิง ในมุมมองของพวกเขา การแข่งขันคือการเทียบความสามารถของกันและกัน และการแย่งชิงเครื่องยาสมุนไพรแก้พิษของอีกฝ่ายไปเช่นนี้ ช่างเป็นการกระทำที่ต่ำช้าจริง ๆเย่หรงมองเหงื่อเย็นไหลลงมาตามหน้าผากของหลิงอวี๋มากขึ้นอย่างกังวล เหงื่อนั้นไหลหยดลงมา จนเปียกเส้นผมบริเวณข้างหูของนางจนหมดแต่หยางหงหนิงกลับยังคงเอ่ยอย่างยินดี “สิงอวี๋ ฝืนทนไปก็หาได้มีประโยชน์ไม่ หากทนแล้วทนไหว เช่นนั้นก็เห็นได้ชัดแล

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1946

    บัณฑิตของหอโอสถไป๋เป่าและหอโอสถซ่างกู่ รวมถึงคนที่มาเฝ้าดูจำนวนมากนั้นต่างก็เข้าใจพื้นฐานของเครื่องยาสมุนไพร หลิงอวี๋จึงยิ้มเยาะแล้วเอ่ยออกมา“คุณหนูหยางของพวกเราน่าจะชอบยาระบายและยาที่ทำให้เกิดอาการคันเป็นพิเศษนะ นางจึงใส่ยาเหล่านี้ลงไปในยาพิษของนางด้วย!”หา!เมื่อเหลยเหวินและคนอื่น ๆ ได้ยินเรื่องนี้ต่างก็ตกตะลึงกันไปคุณหนูบางคนถอยหลังไปสองสามก้าวโดยมิรู้ตัว นี่ก็หมายความว่าหากพิษที่หลิงอวี๋ออกฤทธิ์ มันจะต้องไหลพรวดออกมาแน่ ๆเย่หรงมองหยางหงหนิงอย่างรังเกียจ และกำหมัดแน่นเสี่ยวชีพูดถูกจริง ๆ นิสัยในการปรุงยาพิษของหยางหงหนิงนั้นมิสามารถเปิดเผยต่อหน้าทุกคนได้จริง ๆฉินซานยืนอยู่ข้างเย่หรง เมื่อครู่เย่หรงเพิ่งจะเล่าเรื่องของเขากับหยางหงหนิงให้ฟังอยู่คร่าว ๆเมื่อฉินซานได้ยินหลิงอวี๋บอกว่า หยางหงหนิงใส่สิ่งเหล่านี้ลงไปในยาพิษ เขาก็มองไปทางเย่หรงด้วยสีหน้าเห็นใจ จากนั้นก็ส่ายหัวแล้วเอ่ยออกมา “ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่าเหตุใดเจ้าจึงมิชอบนาง!”“สตรีประเภทนี้ หากเปลี่ยนเป็นข้า ข้าก็มิชอบเช่นกัน!”“นี่คือการแข่งขัน มิใช่การต่อสู้เอาเป็นเอาตายกันจริง ๆ เหตุใดต้องทำเรื่องน่ารังเกียจเช่นนี้ด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1945

    หลิงอวี๋มองปราดเดียวก็อ่านความคิดของหยางหงหนิงออกแล้ว นางจึงยิ้มมุมปาก “วิธีการเล่นเช่นนี้ก็สดใหม่ดี เช่นนั้นก็ทำตามที่เจ้าบอกเถิด!”ทั้งสองจึงแลกเปลี่ยนยาพิษกันหยางหงหนิงหยิบผงยาใส่ปากอย่างมิใส่ใจ แล้วชิมส่วนผสมที่อยู่ในนั้น จากนั้นก็มองไปทางหลิงอวี๋และยิ้มอย่างดูถูก“ยาพิษง่าย ๆ เช่นนี้ เจ้าก็กล้านำมาใช้ในการแข่งขันหรือ สิงอวี๋ เจ้ารอไสหัวไปจากเมืองหลวงแดนเทพได้เลย!”หลิงอวี๋ก็ยิ้มบาง ๆ “พูดประโยคนี้ในตอนนี้มันยังเร็วเกินไป อีกสักครึ่งชั่วยามค่อยพูดเถิด!”“การเอาชนะเจ้า ข้ามิใช้เวลาถึงครึ่งชั่วยามหรอก แค่สิบห้านาทีก็พอแล้ว!”หยางหงหนิงเอ่ยขึ้นมาอย่างเย่อหยิ่งทุกคนต่างมองผงยาพิษในมือของทั้งสองคน และอยากรู้ว่าทั้งสองคนปรุงยาพิษชนิดใดเอาไว้“เข้าไปเลือกเครื่องยาสมุนไพร!”หยางหงหนิงรีบชิงเข้าไปก่อน เมื่อเห็นขวดยาก็นำมาใส่ลงในตะกร้าทันทีหลิงอวี๋มองดูก็รู้ทันทีว่าผงยาที่นางใส่นั้นคือเครื่องยาสมุนไพรของยาแก้พิษที่นางทำไว้หยางหงหนิงต้องการจะแย่งชิงเครื่องยาสมุนไพรที่หลิงอวี๋ต้องนำไปปรุงยาแก้พิษ เพื่อทำให้หลิงอวี๋มิสามารถปรุงยาแก้พิษได้หลิงอวี๋ส่ายหัวอย่างหมดคำพูด แล้วหิ้วตะก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1944

    คำถามนี้ของหลิงอวี๋ทำเอาจงเจิ้งเฟยพูดมิออกไปทันทีทั้งสองเส้นทางล้วนเป็นทางตันทั้งสิ้น!หลิงอวี๋ใช้คำเปรียบเทียบนี้เพื่อบอกจงเจิ้งเฟยว่า มิว่านางจะยั่วยุหยางหงหนิงหรือไม่ หยางหงหนิงก็มิยอมปล่อยนางไปอยู่ดีในเมื่อล้วนเป็นทางตันทั้งหมด แล้วไฉนมิหยิบไม้ขึ้นมาสู้สักครั้งเล่า?หากวิชาพิษของหลิงอวี๋สามารถเอาชนะหยางหงหนิงได้ เช่นนั้นจะทำให้หยางหงหนิงรวมถึงเหมียวหยางที่คอยรังแกหลิงอวี๋อยู่เสมอนั้นรู้สึกหวาดกลัวได้!จะเป็นอำนาจที่ยิ่งใหญ่แค่ไหน เมื่ออยู่ต่อหน้าคนที่แข็งแกร่งกว่าตนอย่างไรก็ล้วนต้องก้มหัวให้!หากทักษะด้อยกว่าผู้อื่น เช่นนั้นตายไปก็ยังดีกว่าตายเพราะถูกข่มเหงรังแก เป็นการตายอย่างกล้าหาญ!จงเจิ้งเฟยเข้าใจสิ่งที่หลิงอวี๋บอกแล้วและนางก็มองหลิงอวี๋ด้วยความชื่นชมความเด็ดเดี่ยวและความแข็งแกร่งของศิษย์พี่หญิงนั้นดูเป็นบุรุษยิ่งกว่าบุรุษเสียอีก!จงเจิ้งเฟยรู้สึกว่า นี่ต่างหากคือจุดเด่นภายใต้รูปลักษณ์ธรรมดาของศิษย์พี่หญิง นางเป็นสตรีก็ยังเคารพหลิงอวี๋ เช่นนั้นขอเพียงมิใช่บุรุษที่หยาบคายเช่นเหมียวหยาง จะมีใครบ้างที่มิชอบสตรีเช่นหลิงอวี๋?“หงหนิงออกมาแล้ว! สิงอวี๋ ถึงตาเจ้าแล้ว หาก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1943

    “ได้ ตกลงตามนี้!”หลิงอวี๋จ้องหยางหงหนิงอย่างกดดัน “ต้องยอมรับผลแพ้ชนะ ถึงเวลานั้นหากแพ้ เจ้าก็อย่าได้พูดอะไรที่มิเหมาะสมออกมา!”หยางหงหนิงเอ่ยอย่างแน่วแน่ “ต้องยอมรับผลแพ้ชนะ! หลงอิง พวกเราขอยืมห้องปรุงโอสถของเจ้าสักหน่อยนะ!"หลงอิงเป็นเจ้าภาพในวันนี้ นางมิชอบมาก ๆ ที่มีคนมาสร้างปัญหาขึ้นในงานเลี้ยงชมบุปผาของตน ทำให้รายการที่ตนเตรียมไว้มิได้นำออกมาแต่หยางหงหนิงพูดไปแล้ว ดังนั้นต่อให้นางมิชอบก็มิอาจปฏิเสธได้“เสี่ยวอวี๋ มิต้องพนันแล้วได้หรือไม่ เจ้ามิใช่คู่ต่อสู้ของหงหนิงหรอก! เจ้ายอมแพ้ แล้วขอโทษหงหนิงเสียเถิด!”หลงอิงดูท่าทางเป็นห่วงหลิงอวี๋“คุณหนูหลง ข้ามิสามารถขอโทษคนที่ใส่ร้ายข้าในเรื่องที่ข้ามิได้ทำได้หรอก!”หลิงอวี๋รู้ว่าฮูหยินทั้งสองของตระกูลเฉียวอยู่ด้วย และตามหลักแล้วตนมิควรทำตัวโดดเด่นให้เป็นจุดสนใจแต่นางอดกลั้นความโกรธไว้มากแล้ว นางต้องระบายออกมาเหมียวหยางอาศัยอำนาจมาทำลายบ้านของตน และตอนนี้หยางหงหนิงก็อาศัยอำนาจกล้ามาใส่ร้ายตนโดยไม่มีหลักฐานอีก หากวันนี้ตนทนเงียบมิพูดอะไร เช่นนั้นต่อไปก็จะมีข่าวลือที่ยิ่งกว่านี้แพร่กระจายออกไปแม้ว่าหลิงอวี๋จะอยากเก็บตัวอยู่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1942

    บรรดาศิษย์น้องของเหมียวหยางจะกล้าปล่อยเหมียวหยางไปได้อย่างไร แม้ว่าเย่หรงจะเป็นศิษย์ที่มิประสบความสำเร็จของตระกูลเย่ แต่เขาก็นับว่าเป็นผู้มีอำนาจที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวงแดนเทพ และความโหดร้ายของเขาก็ราวกับหมาป่าหากเขาประกาศชัดเจนว่าจะยั่วยุใคร เช่นนั้นแล้วขอเพียงยังมีลมหายใจอยู่ ต่อให้ต้องสู้จนถึงที่สุดก็จะมิยอมรามือถึงแม้ว่าเหมียวหยางจะเกลียดเย่หรงที่ทำให้จมูกของตนหัก แต่ท่าทีที่จะสู้กับเย่หรงอย่างสุดชีวิตนั้น ก็เป็นเพียงการแกล้งทำไปเท่านั้นเนื่องจากด้วยพลังของเขาแล้ว เขามิใช่คู่ต่อสู้ของเย่หรงอย่างแน่นอน มิฉะนั้นก็คงมิถึงกับถูกเย่หรงต่อยสองหมัด แล้วไม่มีแรงตอบโต้หรอก“พวกเจ้าปล่อยข้า ให้ข้าไปสู้กับเขา… เย่หรง เจ้ารู้สึกผิดแล้วกระมัง จึงได้ใส่ร้ายข้า!”เหมียวหยางตะโกนออกไปอย่างโอ้อวด “ข้ามิได้ทำลายบ้านของสิงอวี๋ มิใช่ว่าเจ้าจงใจไปทำลายบ้านของนาง เพื่อให้นางยอมขึ้นเตียงกับเจ้า และใช้โอกาสนี้สนับสนุนนางเองรึ?”น้ำโคลนสาดเข้ามาหาเย่หรงในทันทีคนจำนวนมากที่อยู่ตรงนั้น ต่างก็รู้สึกว่าคำพูดของเหมียวหยางอาจจะเป็นเรื่องจริงได้ เพราะเรื่องนี้ดูเป็นเรื่องที่เย่หรงสามารถทำได้!หลิงอวี

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status