เห็นได้ชัดว่าหลิงอวี๋แข็งแกร่งกว่าสตรีทั่วไปมาก!หลังจากได้รับคำแนะนำของหลิงอวี๋แล้ว เผยอวี้ก็รู้สึกว่าความคิดของเขาก่อนหน้านี้ค่อนข้างจะคับแคบไปหลังออกมาจากวัง เผยอวี้ก็แทบรอมิไหวที่จะพุ่งไปหาองค์ชายเย่ที่ตำหนักองค์ชายเย่ระหว่างสหายควรปฏิบัติต่อกันด้วยความจริงใจ ในเมื่อเขาถือว่าองค์ชายเย่เป็นสหายแล้ว ก็มิควรสงสัยองค์ชายเย่ไหนเลยจะรู้ว่าเมื่อมาถึงตำหนักองค์ชายเย่ คนเฝ้ายามจะบอกว่าองค์ชายเย่ไปเดินเล่นที่หมู่บ้านกับพระชายาเย่แล้วแล้วเผยอวี้ก็นึกขึ้นได้ว่า องค์ชายเย่ส่งคนไปแจ้งตนในตอนเช้าแล้วว่าจะหยุดงานหนึ่งวันเขาจึงมิได้ใส่ใจแล้วกลับไปจัดการงานต่อวันรุ่งขึ้นองค์ชายเย่ก็ยังมิมา เผยอวี้แอบคิดว่าองค์ชายเย่กำลังสนุกกับพระชายาเย่ที่หมู่บ้านจนลืมไปหรือไม่ แต่ก็มิได้ใส่ใจ แล้วเอาเรื่องที่องค์ชายเย่ควรทำมาทำเองทั้งหมดในช่วงบ่าย เผยอวี้เสร็จภารกิจแล้วและวางแผนจะกลับบ้าน แต่ขณะที่เขาเดินออกมากำลังจะกลับบ้าน ก็มีขอทานคนหนึ่งเข้ามาขออาหารเผยอวี้กำลังจะหยิบเงินหนึ่งตำลึงออกจากแขนแล้วโยนให้เขาขอทานก็ชนเข้ากับเผยอวี้ เผยอวี้รู้สึกว่าเขาแตะหน้าอกของตน จึงผลักเขาออกไปโดยสัญชาตญาณ“ขอ
เมื่อเหลือบมองเมื่อครู่ นางก็เข้าใจภาษามือที่องค์ชายเย่ทำกับนางแล้วนี่คือชุดภาษามือที่หลิงอวี๋สอนให้กับองครักษ์ส่วนตัวของเซียวหลินเทียนเมื่อครั้งการแข่งขันทางทหารสี่แคว้น ใช้ส่งข้อความในยามที่มิสะดวกในการพูดข้อความที่องค์ชายเย่ส่งให้ตนเมื่อครู่... กับดัก ระวัง!ภายนอกหลิงอวี๋ดูสงบ แต่ในใจเดือดพล่านราวกับหม้อไฟองค์ชายเย่กับภรรยาตกอยู่ในอันตรายหรือ?แล้วอันตรายอะไรที่ทำให้องค์ชายเย่มิสะดวกที่จะบอกตนกัน?นางคิดถึงจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเป็นคนแรกตนอยู่ในวังได้รับการคุ้มกันอย่างแน่นหนา จ้าวหรุ่ยหรุ่ยคิดจะทำร้ายตนก็มิสามารถทำได้มีเพียงการล่อตนออกไปเท่านั้นที่นางจะบรรลุเป้าหมายได้แล้วจะมีใครที่ทำให้บรรลุเป้าหมายนี้ได้ง่ายไปกว่าองค์ชายเย่!ดูจากเมื่อครู่ทันทีที่ตนได้ยินว่าเรื่องกับจูหลานก็จะออกจากวังทันที เห็นได้ชัดว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้คำนึงถึงปฏิกิริยาของตนไว้แล้วแต่ถึงแม้ว่าหลิงอวี๋จะรู้ว่าเป็นกับดัก แล้วนางจะมิไปได้หรือ?เมื่อครู่นางมิเพียงเห็นท่าทางขององค์ชายเย่ที่เตือนนางเท่านั้น แต่ยังเห็นแววตาที่เป็นกังวลและวิงวอนในดวงตาขององค์ชายเย่ด้วยจูหลานกับเสี่ยวเป่าต้องถูกจ้าวหรุ่ยหรุ่
กระทั่งองค์ชายเย่กับจูหลานไปถึงหมู่บ้านซื่อผิง ถึงได้รู้ว่าเสี่ยวเป่ามิได้อยู่ที่หมู่บ้านและคนทั้งหมดในหมู่บ้านซื่อผิงก็ถูกแทนที่ด้วยคนแปลกหน้าแล้วเสี่ยวฮุ่ยก็ถอดหน้ากากออก ที่แท้นางมิใช่เสี่ยวฮุ่ยนางรับใช้ของจูหลานดังที่เคย ใบหน้าที่อยู่ภายใต้หน้ากากนั้นเป็นใบหน้าที่จูหลานมิเคยเห็นมาก่อนจูหลานเห็นแล้วนอกจากตกใจก็ยังเสียใจมากขึ้นด้วย นางมิรู้เลยว่านางรับใช้ที่อยู่ข้าง ๆ เปลี่ยนคนไปแล้ว นี่คือความมิรอบคอบอย่างมาก!นางเสียใจอยู่ลึก ๆ วันนั้นมิควรใจอ่อน มิเช่นนั้นเสี่ยวเป่าคงมิถูกเสี่ยวฮุ่ยลักพาตัวไป“พวกเจ้าจับตัวลูกชายข้ามา คิดจะทำอะไรกันแน่?”องค์ชายเย่ตะคอกก่อนหน้านี้เขาใช้ชีวิตอย่างราบรื่น มิเคยเจอเรื่องเช่นนี้ จึงไม่มีประสบการณ์ในการจัดการ“ง่ายมาก ขอเพียงท่านเชื่อฟังและปฏิบัติตามแผนของเรา เสี่ยวเป่าของท่านก็จะกลับไปอยู่ข้างกายท่านอย่างปลอดภัย!”แม่นมหนาน ก็คือหนานฮุ่ยสาวงามที่เอาชีวิตหลิงเสียงกังกับหลิงหว่านมาข่มขู่นางซุนให้ใส่ร้ายหลิงอวี๋“พวกเจ้าจะให้องค์ชายของข้าไปทำอะไร?”จูหลานเป็นผู้ใหญ่มากกว่าองค์ชายเย่ นางกดองค์ชายเย่ลงแล้วเอ่ยถาม“ง่ายมาก แค่หาข้ออ้างหลอกล่
“องค์ชาย หากท่านมิทำตามคำสั่งของพวกเขา เสี่ยวเป่าก็จะตายเพคะ!”จูหลานร้องไห้แล้วเอ่ย “คราก่อนหมอบอกว่าหม่อมฉันมิสามารถมีลูกได้อีกแล้วมิใช่หรือ? เรามีเพียงลูกชายคนนี้เท่านั้น จะปล่อยให้เขาตายมิได้นะเพคะ!”องค์ชายเย่รู้สึกเจ็บหน้าอกอย่างรุนแรง หลังจากได้ยินคำพูดของจูหลานก็รู้สึกสับสนเล็กน้อยครั้งที่แล้วหลิงอวี๋บอกว่า จูหลานได้รับบาดเจ็บตอนที่ให้กำเนิดเสี่ยวเป่า ยังมีลูกมิได้ในตอนนี้ แต่มิได้บอกว่าจูหลานมิสามารถมีลูกได้อีกในภายภาคหน้า!ขณะที่เขากำลังคิดอยู่ ก็เห็นจูหลานขยิบตาให้เขาองค์ชายเย่กับจูหลานเป็นคู่รักกันมาตั้งแต่วัยเด็ก ใจสื่อถึงกัน จึงรู้ทันทีว่าจูหลานกำลังแสดงละครให้คนข้างนอกดู“มีลูกชายเพียงคนเดียวก็มิสามารถให้ข้าไปทำเรื่องเลวร้ายเช่นนี้ได้ พวกเขาคิดจะหลอกล่อฮองเฮามาสังหาร!”องค์ชายเย่จงใจตะโกนด้วยความโกรธคนหนึ่งพยายามเกลี้ยกล่อม แต่อีกคนหนึ่งมิยอมอย่างดื้อรั้น พวกเขายื้อกันอยู่เป็นเวลานานหนานฮุ่ยอยู่ข้างนอกฟังแล้วก็ทนมิไหว พูดไปพูดมาก็วนอยู่มิกี่คำ แล้วจะมีแนวคิดใหม่ ๆ ได้หรือ?นางมั่นใจว่าสุดท้ายแล้วองค์ชายเย่จะไปทำตามคำสั่งของนาง จึงให้เสี่ยวฮุ่ยอยู่เฝ้าแล้วนา
สำหรับจูหลานและองค์ชายเย่แล้ว นี่เป็นตัวเลือกที่ยากยิ่งนักโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับจูหลาน เสี่ยวเป่าคือเลือดเนื้อของนางที่นางแลกมาด้วยชีวิตนางกับเสี่ยวเป่าอยู่ด้วยกันตลอดเวลา นางเป็นคนแรกที่ได้เห็นทุกการเปลี่ยนแปลงของเสี่ยวเป่าการต้องให้เสี่ยวเป่าตายจะทำให้ใจนางแตกสลายอย่างมิต้องสงสัย!แต่จูหลานรู้ว่านางต้องเลือกที่จะปกป้องหลิงอวี๋มีเพียงการปกป้องหลิงอวี๋ไว้เท่านั้น ทุกคนจึงจะมีอนาคตได้องค์ชายคังสามารถโจมตีเด็กที่อายุน้อยเท่ากับเสี่ยวเปาได้อย่างโหดร้ายเช่นนี้ พวกเขาจะกล้ามอบชีวิตของตนไว้ในมือขององค์ชายคังได้อย่างไร!“องค์ชาย เราทำเช่นนี้เถิดเพคะ...”จูหลานกระซิบแผนการของนางที่หูขององค์ชายเย่ แล้วสุดท้ายก็เอ่ยอย่างหนักแน่น “พวกเขาให้ท่านไปหลอกล่อฮองเฮา ท่านก็ไป แล้วคิดหาวิธีเตือนพระนางว่ามีอันตราย!”“ฮองเฮาเป็นคนที่ปราดเปรื่องที่สุดที่หม่อมฉันเคยเห็นมา ท่านจะต้องมีวิธีช่วยเสี่ยวเป่าได้อย่างแน่นอน!”“องค์ชาย สิ่งนี้มิเพียงเกี่ยวข้องกับชีวิตคนในครอบครัวของเราเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับชีวิตของผู้คนนับหมื่นนับพันคนด้วย หม่อมฉันเชื่อว่าท่านทำได้เพคะ!”องค์ชายเย่รู้สึกถึงความก
องค์ชายเย่กังวลว่าอาศัยท่าทางเพียงอย่างเดียว หากถึงยามสถานการณ์เร่งด่วน แล้วคนของแม่นมหนานจับตาดูอย่างใกล้ชิดเกินไป เขาจะไม่มีโอกาสเตือนหลิงอวี๋ล่วงหน้า!องค์ชายเย่อยากเขียนจดหมายเตือนหลิงอวี๋ แต่ค้นทั่วทั้งบ้านก็มิพบกระดาษหรือปากกา สุดท้ายก็เห็นถ่านชิ้นเล็ก ๆ อยู่ที่มุมหนึ่ง จึงหยิบขึ้นมา ดูว่าพรุ่งนี้จะมีโอกาสหากระดาษได้หรือไม่ในที่สุดองค์ชายเย่ก็ฉวยโอกาสตอนเข้าห้องน้ำหากระดาษเจอแผ่นหนึ่ง เขากังวลว่าแม่นมหนานจะค้นตัวก่อนออกเดินทาง จึงมิได้เขียนอะไรวันรุ่งขึ้นขณะออกเดินทางจึงถือโอกาสขี่ม้ารีบเขียนข้อความลวก ๆกระทั่งตอนที่องครักษ์ทั้งสองที่เฝ้าดูเขาไปที่วังพร้อมกับเขา องค์ชายเย่เห็นขอทานอยู่ริมถนน เขาจึงหยิบกระดาษขึ้นมาแล้วใช้กำลังภายในโยนมันเข้าไปในอ้อมแขนของขอทานขอทานตกใจครู่หนึ่ง เงยหน้าขึ้นมองเขา แล้วก็เผยฟันเหลืองยิ้มและจะทักทาย องค์ชายเย่รีบส่งสายตาให้เขา อาศัยตอนที่องครักษ์มิเห็นปั้นกระดาษเป็นก้อนแล้วบอกไปว่า ‘เผยอวี้’ขอทานเหล่านี้หลายคนรู้จักองค์ชายเย่ เพราะจูหลานมักจะให้โจ๊กแก่พวกเขาและเมื่อมีงานก็จะแนะนำให้พวกเขาไปทำดังนั้นองค์ชายเย่จึงสามารถสั่งขอทานจำนวนมากในบร
แม้แต่องครักษ์สองคนนี้ชื่ออะไรองค์ชายเย่ก็มิรู้ด้วยซ้ำ แต่ก็ยังแสร้งทำเป็นยอมรับคำแนะนำของเถาจื่อ แล้วดุ “ประเดี๋ยวกลับไปพวกเจ้าไปรับโบยไม้กระดานใหญ่คนละยี่สิบไม้เสีย!”“ฮองเฮามีสถานะสูงส่ง มิใช่ว่าพวกเจ้าจะแอบมองได้…”ขณะที่องค์ชายเย่พูด ก็เห็นหลิงอวี๋กับหลิงซวนเดินออกจากป่าอย่างเงียบ ๆ แล้วเดินมาข้างหลังองครักษ์ทั้งสององค์ชายเย่ดุพวกเขาต่อไปอย่างให้ความร่วมมือ กระทั่งองครักษ์ทั้งสองรู้สึกถึงความผิดปกติและกำลังจะหันกลับไป หลิงอวี๋กับหลิงซวนก็ปิดปากและจมูกด้วยผ้าชุบยาสลบแล้วทั้งสองยังมิทันจะล้มลง เถาจื่อกับหานเหมยก็พุ่งเข้ามาลากองครักษ์ทั้งสองเข้าไปในป่าอย่างให้ความร่วมมือองค์ชายเย่ตกใจมาก องครักษ์ทั้งสองถูกหลิงอวี๋จัดการล้มลงไปอย่างง่ายดายเช่นนี้เลยหรือ?เขารีบนำม้าเข้าไปผูกในป่าแล้วตะโกนอย่างร้อนใจ “ฮองเฮา หลานหลานกับเสี่ยวเป่าถูกพวกหนานฮุ่ยขังไว้ที่หมู่บ้านซื่อผิง ในหมู่บ้านล้วนเป็นคนของพวกเขา ท่านจะพาตนเองเข้าไปในกับดักเช่นนี้มิได้นะพ่ะย่ะค่ะ!”“กระหม่อมขอประทานอภัย พวกเขาบังคับให้กระหม่อมหลอกล่อท่านมา กระหม่อมเอาชนะมิได้แม้แต่แม่นมหนาน... กระหม่อมทำได้เพียงเชื่อฟังพวกเขา
“จ้าวหรุ่ยหรุ่ย?”องค์ชายเย่มิอยากจะเชื่อเลย เขาเคยเจอพี่สะใภ้สองผู้นี้มาก่อน นางดูอ่อนแอ จะเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งกว่าแม่นมหนานได้อย่างไร?“ข้าไม่มีเวลาอธิบายให้ฟังแล้ว เจ้าฟังข้าก่อน! นี่คือพระราชโองการ!”หลิงอวี๋เอ่ยอย่างจริงจัง“ฮองเฮา!”องค์ชายเย่มองท่าทางระมัดระวังของหลิงอวี๋ แล้วจู่ ๆ ดวงตาก็เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งหลิงอวี๋เชื่อใจตนเช่นนี้หรือ?น้ำเสียงของนางคาดการณ์ไว้แล้วว่า ไปครานี้ความเป็นความตายของนางจะมิแน่นอน แต่นางก็ยังมิลังเล รีบมาที่นี่เพื่อช่วยจูหลานกับเสี่ยวเป่า!ความกล้าหาญนี้ทำให้เขารู้สึกละอายใจในฐานะบุรุษ!“ฮองเฮาโปรดวางพระทัย กระหม่อมจะเฝ้าวังหลวงให้ดี รอองค์จักรพรรดิเสด็จกลับมาแล้วส่งมอบให้พระองค์พ่ะย่ะค่ะ!”องค์ชายเย่คุกเข่าลงแล้วเอ่ยอย่างดุร้าย “หากพิสูจน์ได้ว่าเรื่องนี้เป็นเพราะองค์ชายคังกับพระชายาคังตั้งใจจะทำการกบฏ กระหม่อมจะสังหารเขาด้วยมือของกระหม่อมเอง…”แก้แค้นให้ฮองเฮา!คำพูดข้างหลังองค์ชายเย่มิได้พูดออกมา เขาสาบานว่าเขาจะไม่มีวันปล่อยให้เรื่องเช่นนั้นเกิดขึ้น เขาสาบานว่าถึงตายก็ต้องปกป้องหลิงอวี๋ให้จงได้“ไปกันเถิด!”หลิงอวี๋เห็นว่าหานเหมยเ
รองแม่ทัพจางยังคงกล่าวพลางยิ้มแย้ม “ท่านหญิงฉางเล่อมามิถูกจังหวะ วันนี้ฮองเฮาพร้อมด้วยท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นพาคุณชายน้อยทั้งหลายเสด็จไปชมดอกไม้ที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์พ่ะย่ะค่ะ!”ว่ากระไรนะ?หลงเพ่ยเพ่ยนิ่งอึ้งไป ท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นล้วนเป็นธิดาของเจ้าแห่งทะเล และเป็นลูกพี่ลูกน้องของหลงเพ่ยเพ่ยด้วยเหตุใดพวกนางถึงมิไปชมดอกไม้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้เล่า แต่กลับเลือกไปชมดอกไม้ในตอนที่ตนต้องการความช่วยเหลือจากเสด็จย่าพอดีนี่น่ะหรือ?“ไปนานเท่าใดแล้ว?”หลงเพ่ยเพ่ยสงสัยว่านี่เป็นการจัดฉากโดยเจตนาของชายาเจ้าแห่งทะเล“สองชั่วยามแล้วพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้น่าจะอยู่ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์แล้วขอรับ!”รองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้มหลงเพ่ยเพ่ยอยากจะชกหน้ายิ้ม ๆ ของรองแม่ทัพจางเสียสักหมัด เหตุใดนางมองรอยยิ้มของรองแม่ทัพจางแล้วเหมือนกำลังสมน้ำหน้าตนอยู่เลยเล่า“เจ้ามิได้หลอกข้าใช่หรือไม่?”หลงเพ่ยเพ่ยถามเสียงเย็นรองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้ม “ท่านหญิงฉางเล่อพูดเล่นแล้ว ไหนเลยข้าน้อยจะกล้าหลอกท่านหญิง! หากมิเชื่อท่านลองถามใครดูก็ได้ว่าที่ข้าน้อยพูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่!”“หากท่านหญิงมีธุระด่วนจร
หลิงอวี๋ฟังแล้วก็อดอมยิ้มมิได้ เซียวหลินเทียนใช้คนตระกูลเก๋อมาจัดการชายาเจ้าแห่งทะเล กลอุบายนี้ช่างเด็ดขาดนักรถม้ามาถึงจวนเจ้าแห่งทะเล เมื่อหลิงอวี๋ลงจากรถก็มองไปยังคฤหาสน์หลังใหม่ที่กำลังก่อสร้างอีกครั้ง กำแพงล้อมรอบสร้างเสร็จแล้ว ดูจากขนาดแล้วใหญ่โตมากจริง ๆนางอดสงสัยมิได้ ข้างในมีเรือนบุหงาแบบเดียวกับตำหนักอ๋องอี้ของตนอย่างที่เถาจื่อบอกจริงหรือ?นางอยากเข้าไปดู อยากเห็นเหลือเกินว่าบ้านในอดีตของตนเป็นอย่างไร!“คุณหนูสิง เชิญ!”พ่อบ้านเว่ยเห็นหลิงอวี๋มองคฤหาสน์ฝั่งตรงข้ามก็ร้องเรียกอย่างมิอดทนหลิงอวี๋หันกลับมา เห็นประตูใหญ่หนาทึบของจวนเจ้าแห่งทะเลเปิดอ้าอยู่ ข้างในลานเรือนซับซ้อนลึกล้ำ มองสุดตามิเห็นปลายทางนี่คือที่ที่เต็มไปด้วยอันตรายโดยแท้!หลิงอวี๋ลอบสูดหายใจลึก ๆ แล้วเดินเข้าไป“ปัง!”ประตูใหญ่หนาทึบปิดลงด้านหลังนางหลิงอวี๋มิได้หันกลับไปมอง เพราะนั่นจะดูมิสง่างามนางรอให้พ่อบ้านเว่ยนำทางอยู่ข้างหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินผิดทางแล้วถูกพ่อบ้านเว่ยหาเรื่องผิดพลาดมาตำหนิขณะเดียวกัน หลงเพ่ยเพ่ยก็ได้พาเย่หรงมุ่งหน้าไปยังวังหลวงแล้ว“อุบายนี้ของชายาเจ้าแห่งทะเลช่างร้า
จวนเจ้าแห่งทะเลตั้งอยู่ในย่านคหบดีและสูงศักดิ์ของเมืองหลวงแดนเทพ อันที่จริงอยู่ห่างจากคฤหาสน์อู่เพียงมิกี่ช่วงถนนเท่านั้นรถม้าวิ่งไปตามทางเรื่อย ๆ เถาจื่อพลันนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงกระซิบข้างหูหลิงอวี๋เบา ๆ“คุณหนู อีกประเดี๋ยวท่านจะเห็นคฤหาสน์หลังใหญ่ที่กำลังสร้างอยู่ตรงข้ามจวนเจ้าแห่งทะเล ที่นั่นฝ่าบาททรงสร้างให้ท่านเจ้าค่ะ!”“คราแรกที่พวกเรามาตามหาท่านในเมืองหลวงแดนเทพนั้นมิรู้ว่าจะต้องเสียเวลานานเท่าใด ฝ่าบาทจึงทรงให้สือหรงซื้อคฤหาสน์แถวนี้ไว้ล่วงหน้าแล้วรื้อสร้างใหม่ทั้งหมด!”“ฝ่าบาทตรัสว่า เจ้าแห่งทะเลคือบิดาของท่าน ในเมื่อเขามิยอมรับท่าน ฝ่าบาทก็จะทำให้เขาเห็นว่า ใช่ว่าท่านไม่มีบ้านเสียหน่อย แม้จวนเจ้าแห่งทะเลไม่มีที่ให้ท่าน ฝ่าบาทก็จะสร้างจวนหลังที่ใหญ่กว่าจวนเจ้าแห่งทะเลให้!”“คุณหนู ข้างในมีเรือนหลังหนึ่ง สร้างตามแบบเรือนบุหงาที่ตำหนักอ๋องอี้ในฉินตะวันตกของท่านไม่มีผิดเพี้ยน หากท่านได้เห็นจะต้องชอบอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ!”ก่อนหน้านี้หลิงอวี๋เคยได้ยินเผยอวี้พูดถึงคฤหาสน์หลังใหม่ที่พวกเขาสร้างแล้ว ตอนนั้นยังรู้สึกแปลกใจว่าเซียวหลินเทียนคิดจะอยู่เมืองหลวงแดนเทพเป็นการถาวรหรืออย่
วิธีนี้ของหลิงอวี๋เป็นวิธีเดียวที่จะช่วยนางได้ในยามนี้ ด้วยเซียวหลินเทียนและคนอื่น ๆ ก็ยังคิดหาวิธีที่ดีกว่านี้มิออกเย่หรงกล่าวขึ้นทันที “ข้าจะไปหาหลงเพ่ยเพ่ย บอกนางมิต้องมาแล้ว ให้เข้าวังไปทูลขอเข้าเฝ้าฮองเฮาได้เลย!”“พี่หญิงหลิงหลิง ท่านต้องยื้อจนกว่าพวกเราจะมาช่วยท่านให้ได้นะ!”พูดจบ เย่หรงก็รีบร้อนออกไปเก๋อเฟิ่งฉิงมองหลิงอวี๋ด้วยสายตาซับซ้อน นางหวังให้หลิงอวี๋เข้าจวนเจ้าแห่งทะเลไปแล้วออกมามิได้แต่เรื่องนี้ก็พัวพันถึงความเป็นความตายของเซียวหลินเทียน นางมิอยากให้เซียวหลินเทียนต้องเกิดเรื่อง!ช่างขัดแย้งในใจเสียจริง!“อาอวี๋ เจ้าไปก่อนเถอะ... วางใจได้ ต่อให้ต้องก่อความวุ่นวายครั้งใหญ่ในเมืองหลวงแดนเทพ ข้าก็จะพาเจ้ากลับบ้านให้ได้!”เซียวหลินเทียนกล่าวอย่างหนักแน่นเขายังมีแผ่นป้ายไม้ที่ขันทีโม่ให้มา สามารถใช้ขอความช่วยเหลือจากแม่ทัพฝ่ายซ้ายได้ เซียวหลินเทียนตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะใช้แผ่นป้ายไม้นี้ช่วยหลิงอวี๋ขันทีโม่เคยบอกว่า เพียงอาศัยแผ่นป้ายไม้นี้ ก็สามารถทำให้แม่ทัพฝ่ายซ้ายช่วยตนทำเรื่องหนึ่งเรื่องได้หากแม่ทัพฝ่ายซ้ายสามารถช่วยคนได้เพียงคนเดียว เช่นนั้นเขาก็ยอมตายเ
เผยอวี้และคนอื่น ๆ ต่างมองหน้ากันอย่างจนปัญญา นึกว่ามหาปราชญ์และเจ้าแห่งทะเลกลับไปแล้วพวกตนจะรอดพ้นจากครั้งนี้ไปได้ คาดมิถึงว่าชายาเจ้าแห่งทะเลจะใช้ไม้นี้อีกภายนอกดูเหมือนเป็นการเชิญ แต่จริง ๆ แล้วจะปฏิเสธมิไปได้หรือ?เซียวหลินเทียนสามารถแสร้งป่วยได้ แต่หลิงอวี๋เพิ่งจะปรากฏตัวต่อหน้าเจ้าแห่งทะเลไปเมื่อครู่ ตอนนี้ย่อมมิอาจใช้การแสร้งป่วยมาหลีกเลี่ยงได้อีกแล้ว“บอกไปว่าคุณหนูสิงกำลังรักษาอาการป่วยให้ข้าอยู่ เดี๋ยวค่อยไป!”ในสถานการณ์กะทันหันเช่นนี้เซียวหลินเทียนทำได้เพียงถ่วงเวลาไปก่อนแล้วค่อยคิดหาวิธี“เผยอวี้ เจ้าส่งคนไปแจ้งหลงเพ่ยเพ่ยกับเจ้าแห่งทิศใต้ ให้หลงเพ่ยเพ่ยไปเป็นเพื่อนอาอวี๋!”เป็นเรื่องความเป็นความตายของหลิงอวี๋ เผยอวี้รีบให้คนไปแจ้งหลงเพ่ยเพ่ยทันทีหลิงอวี๋นิ่งเงียบ นั่งคิดอยู่ข้าง ๆเพื่อชิงหยกหล้าสุขาวดีกลับคืนมา ในเวลานั้นชายาเจ้าแห่งทะเลสามารถลงมืออำมหิตกับหลานฮุ่ยจวนที่กำลังตั้งครรภ์ได้ครั้งนี้นางส่งพ่อบ้านมาเชิญตนไปจวนเจ้าแห่งทะเล พูดไปพูดมาก็เพื่อหยกหล้าสุขาวดีบนตัวนางนั่นเองส่วนการที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาได้นั้นต้องใช้วิธีสลายโลหิตละลายกระดูก หรือว่าช
หลิงอวี๋เดินกลับเข้ามา และบังเอิญได้ยินคำพูดของเย่ซงเฉิงเข้าพอดี“พวกเราต้องเตรียมรับมือสำหรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด หากหวงฝู่หลินกลับไปแล้ว มิสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ถึงกาลนั้นใครจะมารับมือการแก้แค้นของฝูไห่ต่อตระกูลหลงและตระกูลอื่น ๆ อีกหลายตระกูลเล่า?”เจ้าแห่งทิศใต้มองไปยังเย่หรง และกล่าวเสียงเข้ม “เลี่ยวหงเสีย มารดาของเย่หรงอาจจะรู้วิธี!”“ปรมาจารย์เย่ ก่อนหน้านี้ข้าอยากจะพบเลี่ยวหงเสียเพื่อสอบถามสถานการณ์จึงไปที่คุกน้ำมา แต่ข้ากลับมิสามารถพบนางได้!”“คำกล่าวของท่านมีน้ำหนักเมื่ออยู่ต่อหน้าพระพักตร์เสด็จพ่อ บางทีท่านอาจจะสามารถทูลขอเสด็จพ่อให้ทรงอนุญาตท่านเข้าพบเลี่ยวหงเสียได้!”เย่ซงเฉิงขมวดคิ้ว “เจ้าแห่งทิศใต้ก็มิสามารถพบเลี่ยวหงเสียได้เช่นกันหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เจ้าแห่งทิศใต้พยักหน้า “แม่ทัพหลี่ผู้เฝ้าประตูบอกว่า นอกเสียจากจะมีพระราชโองการของมหาเทพ มิฉะนั้นก็มิอนุญาตให้ข้าพบเลี่ยวหงเสีย!”เย่ซงเฉิงยิ้มอย่างขมขื่น “เรื่องนี้ข้าน้อยเคยทูลต่อเสด็จพ่อของท่านแล้ว เสด็จพ่อของท่านมิทรงยินยอม ความนับหน้าถือตาของตาเฒ่าผู้นี้ใช้มิได้ผลต่อหน้าพระพักตร์เสด็จพ่อของท่านแล้ว!”ทุกคนต่
หวงฝู่หลินมิรู้จักคนทั้งสองนี้เลย คิดอยู่ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “ตอนนั้นนอกจากพวกท่านกับตระกูลเฉียวแล้ว ก็มีคนของตระกูลจงเจิ้งที่เข้าไปในภูเขาหิมะ ข้ามิเห็นคนทั้งสองที่ท่านพูดถึงในภูเขาหิมะ!”“บางทีปี้ซงอาจจะเคยเห็น เดี๋ยวลองเรียกเขามาถามดู!”เผยอวี้จึงไปเรียกปี้ซงมาอีกครั้งปี้ซงอุ้มหวงฝู่หมิงจูเข้ามา หลิงอวี๋ก็รับนางมาอุ้มไว้เซียวหลินเทียนมองหวงฝู่หมิงจูกอดคอหลิงอวี๋ด้วยท่าทางสนิทสนม ในใจรู้สึกซับซ้อนอย่างบอกมิถูกหวงฝู่หลินเล่าคำถามให้ปี้ซงฟังอีกครั้งปี้ซงคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “ชายชราผู้นั้นข้าพอจำได้ราง ๆ ตอนนั้นเขาเดินวนเวียนอยู่ในภูเขาหิมะอยู่หลายวัน ต่อมาก็จากไป ข้าคิดว่าเขาไม่มีอันตรายอะไรจึงมิได้ใส่ใจ!”“ส่วนแม่นมอู ข้าไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับนางเลย มิเคยเห็นนางในภูเขาหิมะ!”เก๋อเฟิ่งฉิงยืนฟังอยู่ข้าง ๆ ตลอด ได้ยินดังนั้นก็กล่าวว่า “อันที่จริงตอนนั้นที่ภูเขาหิมะ นอกจากพวกเราแล้ว น่าจะยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่ง”“ข้าก็มาพบพวกนางหลังจากลงจากเขาแล้ว ตอนนั้นยังคิดว่าพวกนางแค่ผ่านทางมา แต่พอลองคิดดูตอนนี้ พวกนางต้องเคยไปภูเขาหิมะแน่นอน แม่นมอูน่าจะถูกพวกนางพาตัวไป!”“พวกเข
เมื่อฟังคำพูดของเย่ซงเฉิงจบ หลิงอวี๋ หลงเพ่ยเพ่ยและเผยอวี้ก็ร้องอุทานออกมาพร้อมกัน“เจ้าสำนักซิงหลัวเป็นสตรี! หรือว่านางคือตงกู่อวี้ที่กลับชาติมาเกิด?”หวงฝู่หลินก็นึกขึ้นได้ ตอนที่ทุกคนรุมล้อมโจมตีเจ้าสำนักซิงหลัว เผยอวี้ใช้กระบี่เดียวตัดเชือกรัดผมที่มัดผมของเจ้าสำนักซิงหลัวขาดตอนนั้นผมสลวยของนางสยายลงมาบดบังดวงตาของนางทุกคนมัวแต่ยุ่งอยู่กับการรับมือ จึงมิทันได้คิดให้ลึกซึ้งเมื่อเย่ซงเฉิงพูดเช่นนี้ ทุกคนจึงได้นึกถึงสภาพการณ์ในยามนั้นขึ้นมา“ตงกู่อวี้กลับชาติมาเกิดจริง ๆ หรือ?”ในฐานะลูกหลานตระกูลหลง เจ้าแห่งทิศใต้จะมิรู้ได้อย่างไรว่าในใต้หล้านี้มีวิชาลับเช่นนี้อยู่จริง ทันใดนั้นก็ตกใจจนเหงื่อเย็นไหลซึมหลงจิ้งและหลงเพ่ยเพ่ยก็ตกใจเช่นกัน วรยุทธ์ของสตรีนางนั้นสูงส่งกว่ามหาปราชญ์เสียอีก แต่ก่อนหน้านี้พวกเขามิเคยรู้มาก่อนเลยว่าสำนักซิงหลัวยังมียอดฝีมือเช่นนี้อยู่“ท่านพ่อ ยามนั้นเจ้าวังหวงฝู่พร้อมด้วยท่านเซียวและพวกเราช่วยกันรุมล้อมโจมตีนางก็ยังมิสามารถสังหารนางได้ ลูกดูจากวรยุทธ์ของนางแล้ว เกรงว่าจะมีเพียงท่านอาเจ้าแห่งทะเลเท่านั้นที่พอจะต่อกรกับนางได้!”หลงเพ่ยเพ่ยกล่าวด้วย
หลงจิ้งยังคงยากที่จะเชื่อ “คำพูดของตระกูลเหล่านั้นก็มิได้ผลหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เจ้าแห่งทิศใต้ส่ายหน้าอย่างหดหู่ “เสด็จปู่ของเจ้าตรัสว่าจะตรวจสอบให้ จึงส่งเจ้าแห่งทะเลไปตรวจสอบ แต่ผลที่ได้จากเจ้าแห่งทะเลก็มิสามารถสรุปอะไรได้เลย หรือกระทั่ง...”กระทั่งเจ้าแห่งทะเลอาจจะใช้ขี้ผึ้งหอม ควบคุมบุตรหลานของตระกูลใหญ่เหล่านั้นไว้ในมือตนเอง!เซียวหลินเทียน หลงจิ้งและหลิงอวี๋ต่างก็เข้าใจความหมายที่เจ้าแห่งทิศใต้ยังพูดมิจบใจของหลงจิ้งพลันหล่นวูบ เช่นนั้นเรื่องที่ตนไปเผาขี้ผึ้งหอมก็เท่ากับมิได้ช่วยใครเลย กลับยิ่งทำให้อำนาจของเจ้าแห่งทะเลเพิ่มทวีคูณขึ้นงั้นหรือ?หลงเพ่ยเพ่ยกล่าวอย่างมิยอม “หรือว่าหัวหน้าตระกูลใหญ่เหล่านั้นล้วนเลอะเลือนไปแล้ว? ไยจึงปล่อยให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลควบคุมชะตากรรมของพวกเขาเช่นนี้?”เซียวหลินเทียนขมวดคิ้ว มิน่าแปลกใจที่เมื่อครู่เจ้าแห่งทะเลยอมถอยกลับไปง่าย ๆ ที่แท้ก็มีแผนการเช่นนี้เองก่อนที่จะควบคุมตระกูลใหญ่เหล่านั้นไว้ในมือ เจ้าแห่งทะเลย่อมมิอาจแตกหักกับเจ้าแห่งทิศใต้ได้ในยามนี้แต่เมื่อใดที่เขาควบคุมตระกูลใหญ่เหล่านั้นไว้ในมือได้แล้ว เจ้าแห่งทะเลย่อมมิปล่อยเจ้าแห่งทิศใต