ท่านจินต้าเข้ามาคุยธุระกับเซียวหลินเทียนพอดี ครั้นได้ยินเรื่องนี้ก็รีบเข้ามาเอ่ยเลย “เรื่องนี้กระหม่อมลืมรายงานท่านอ๋องไปเลยพ่ะย่ะค่ะ!” “ท่านอ๋อง คนของกระหม่อมได้พบกับจางซื่อนางผดุงครรภ์ที่ทำคลอดให้พระชายาในตอนนั้นแล้ว หลังจากที่ได้บีบบังคับนาง จางซื่อก็ยอมรับว่าครั้งที่แล้วนางรับเงินจากชิวเหวินซวงจึงจงใจป้ายสีพระชายาพ่ะย่ะค่ะ!”“นางบอกว่า เด็กที่พระชายาคลอดมานั้นมีอายุครรภ์มิครบจริง ๆ แม่นมลี่เองก็มิได้ติดสินบนนาง!”เซียวหลินเทียนได้ยินดังนั้นก็มองจ้าวซวนอย่างดุร้ายครั้งที่แล้วเขาก็ให้จ้าวซวนไปตรวจสอบเรื่องนี้ ผลคือคำตอบที่จ้าวซวนให้ตนคือไม่!จ้าวซวนถูกเซียวหลินเทียนมองมาก็รู้สึกผิดเล็กน้อยพลางเอ่ยออกไป “ท่านอ๋อง ขอประทานอภัยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมสะเพร่าเอง!”ท่านจินต้าคิดแค่อยากจะรีบคลายความเข้าใจผิดให้ท่านอ๋องกับหลิงอวี๋ ต่อไปอย่าได้หมางเมินกันเพราะเรื่องนี้อีกเลย เขาจึงเอ่ยต่อ“ยังมีแม่นมจูที่รับผิดชอบเลี้ยงดูพระชายามาด้วยพ่ะย่ะค่ะ เรื่องจดหมายรักที่อธิบายมิได้นั้นล้วนเป็นชิวเหวินซวงที่เอาไปให้นาง แม่นมจูบอกว่า เมื่อก่อนมิเคยเห็นพระชายาเขียนจดหมายรักให้ผู้ใดเลย!”“ส่วนพวกเรื่
เซียวหลินเทียนรู้สึกว่า มีกองทัพหลวงที่กำจัดสายลับไปแล้วกับค่ายกองทหารเสือที่ได้สร้างขึ้นใหม่คอยเฝ้าวังหลวงไว้แล้ว น่าจะมิเกิดเรื่องใหญ่อะไรส่วนอวี๋เฮ่า ภายนอกเขาเป็นองครักษ์กองทัพหลวงในวัง แต่แท้จริงแล้วเขาก็เป็นสมาชิกของค่ายกองทหารเสือเช่นกัน เซียวหลินเทียนตรวจสอบอยู่หลายครั้งจนมั่นใจว่าเขาไม่มีจุดน่าสงสัยจึงได้วางใจใช้งานเขาอวี๋เฮ่ามาถึงที่นี่กลางดึกเช่นนี้ แม้ว่าจะมิใช่เรื่องใหญ่ ก็แต่ต้องเป็นเรื่องที่มิสามารถให้ใครรู้ได้!“ข้าจะไปเรียกหลิงอวี๋ เจ้าไปเตรียมกลุ่มไว้ แล้วเตรียมพร้อมรอคำสั่ง!”เซียวหลินเทียนจะเข้าวังโดยมิเตรียมการอะไรเลยมิได้จากประสบการณ์เรื่องเหตุที่เกิดขึ้นในวัง อันตรายใด ๆ ก็สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ดังนั้นเซียวหลินเทียนต้องเตรียมตัวให้พร้อม“อาอวี๋ เกิดเรื่องแล้ว!”เซียวหลินเทียนรวบรวมความกล้าเคาะประตูเรือนบุหงาไฟในเรือนบุหงายังคงสว่างอยู่ หลิงอวี๋ต้องยังมิได้พักผ่อนแน่นอนหลังจากนั้นมินานสุ่ยหลิงก็เปิดประตูแล้วขมวดคิ้วพลางเอ่ย “คุณหนูของเราเพิ่งจะนอนไปเพคะ หากมิใช่เรื่องเร่งด่วนค่อยว่ากันวันพรุ่งเถิดเพคะ!”“ปลุกนางตื่นเถิด มีเรื่องด่วนในวังให้เรารี
“ไทเฮา!”หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนเรียกเป็นเสียงเดียวกันหลิงอวี๋ใจเต้นรัว นางเห็นถังถีเตี่ยนทิ้งมือทั้งสองแล้วยืนตรงอยู่ข้างไทเฮาพร้อมกับสีหน้าที่ดูเศร้าหรือว่าองค์จักรพรรดิจะสวรรคตแล้ว?“อาอวี๋… เทียนเอ๋อร์ พวกเจ้ามาแล้ว!”ไทเฮาได้ยินเสียงของทั้งสองคนก็หันมามองความเลื่อนลอยบนใบหน้าของไทเฮาหายไปอย่างรวดเร็ว ตามมาด้วยความมุ่งมั่นและความเด็ดขาด“ถังถีเตี่ยน เจ้าออกไปพักก่อนเถิด!”หลังจากคำพูดของไทเฮา ถังถีเตี่ยนกับบรรดาคนสนิทก็เดินออกไปอย่างรู้หน้าที่“ไทเฮา เสด็จพ่อ… อาอวี๋ เจ้ายืนตะลึงอะไรเล่า ไปตรวจเสด็จพ่อสิ!”เซียวหลินเทียนเห็นสีหน้าของไทเฮาก็ตื่นตระหนกทันทีหลิงอวี๋ก็ตกใจเช่นกัน นางรีบก้าวไปข้างหน้า แต่ก็ถูกไทเฮาห้ามเอาไว้“เสด็จพ่อของเจ้าสิ้นลมไปเมื่อสิบห้านาทีที่แล้ว!”ไทเฮาเอ่ยอย่างสงบ “ถังถีเตี่ยนได้ตรวจเขาและยืนยันแล้ว!”“หากเจ้าอยากจะตรวจ อีกประเดี๋ยวค่อยตรวจเถิด! เรื่องด่วนที่สุดในตอนนี้คือพวกเราจะจัดการกับเรื่องหลังจากนี้อย่างไร!”อะไรนะ? จักรพรรดิอู่อันสวรรคตแล้วจริงหรือ?หลิงอวี๋ก้าวสะดุดล้มและทรุดลงไปนั่งกับพื้นนี่เป็นครั้งแรกที่นางสิ้นสติเช่นนี้!ไ
คำพูดนี้ของเซียวหลินเทียนเป็นการรับหน้าที่สำคัญที่ไทเฮาได้มอบหมายให้แล้ว และเป็นการรับในความสัมพันธ์แห่งพันธมิตรที่แน่นแฟ้นจนมิอาจทำลายได้ที่เขากับไทเฮาได้สร้างขึ้นแล้วไทเฮายิ้มอย่างปลื้มใจแล้วพยักหน้า จากนั้นก็ดึงให้เซียวหลินเทียนเดินไปด้านข้างในหัวของหลิงอวี๋เป็นความสับสนวุ่นวายไปหมด นางลุกขึ้นแล้วรีบไปตรวจดูจักรพรรดิอู่อันจู่ ๆ จักรพรรดิอู่อันก็สวรรคต นี่จะต้องมีคำอธิบายที่เหมาะสมสิมิเช่นนั้นไทเฮากับเซียวหลินเทียนจะถูกคนครหาเอาได้!นางตรวจไปก็จัดการความคิดของตนไปด้วยก่อนหน้านี้ บรรดาองค์ชายพยายามฟาดฟันกันอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อแย่งชิงตำแหน่งองค์รัชทายาท ทว่าเพียงชั่วพริบตา จักรพรรดิอู่อันก็มาสวรรคตไปเช่นนี้แล้วเซียวหลินเทียนจากที่อยู่ในฐานะอ๋องกลับได้กระโดดขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งจักรพรรดิเลย แล้วองค์ชายคังกับองค์ชายเย่จะยอมหรือ?ยังมีขุนนางน้อยใหญ่อีก!ดูจากจ้าวฮุยที่เป็นผู้นำพรรคพวกองค์ชายคังจะยอมสยบต่อเซียวหลินเทียนหรือ?หลิงอวี๋มิได้นึกถึงการเปลี่ยนตัวตนของตนเลยแม้แต่น้อย!เซียวหลินเทียนเป็นจักรพรรดิแล้ว นางเป็นพระชายาเพียงผู้เดียวของเซียวหลินเทียน เช่นนั้นก็ต้องเป็น
จะว่าคำพูดเหล่านี้ของเซียวหลินเทียนทำให้หลิงอวี๋ประทับใจก็มิแน่ชัดนัก ความจริงใจในสายตาของเขาต่างหากที่ทำให้หลิงอวี๋ประทับใจหลิงอวี๋เพียงแค่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงเอ่ยออกไป “ทรงงานก่อนเถิดเพคะ! เรื่องของเราไว้ค่อยคุยทีหลังได้!”เซียวหลินเทียนยังทำใจคลายอ้อมกอดออกจากหลิงอวี๋มิได้ เขากลัวว่าทันทีที่ตนคลายออกแล้วต่อไปจะไม่มีโอกาสได้โอบกอดหลิงอวี๋แล้ว“อาอวี๋ ข้ารู้ว่าเจ้ามิชอบฟังคำพูดยิ่งใหญ่ เจ้าดูการกระทำของข้าแล้วกัน!”“ต่อไปข้าจะเป็นสามีที่ดี จะเป็นพ่อที่มีความสามารถ”เซียวหลินเทียนยิ่งพูดก็ยิ่งแน่วแน่หลิงอวี๋เอ่ยอย่างกรุ่นโกรธ “เซียวหลินเทียน ก่อนหน้านี้เราก็มิได้คาดคิดว่าเสด็จพ่อจะเสด็จสวรรคตคืนนี้ เรื่องราวหลังจากนี้ไม่มีผู้ใดบอกได้แน่ชัดหรอกเพคะ!”“เรื่องนี้… เอาไว้ค่อยคุยทีหลังเถิด!”หลังจากพูดจบ หลิงอวี๋ก็ใจแข็งผลักเซียวหลินเทียนออก จากนั้นนางก็ตรงดิ่งไปหาไทเฮาเพื่อช่วยไทเฮาเตรียมการเรื่องงานพระราชพิธีพระบรมศพการเปลี่ยนสถานะนั้นหมายถึง การที่สภาพแวดล้อมก็มีการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย จิตใจของคนก็จะยิ่งเปลี่ยนแปลง!หลิงอวี๋เป็นคนที่เคยอ่านประวัติศาสตร์ประมาณห้าพันปีมาแ
“ไทเฮา… นี่มิใช่เรื่องจริงใช่หรือไม่เพคะ?”พระชายาเส้าน้ำตานองหน้า ร้องห่มร้องไห้เดินไปทางเตียงมังกร นางอยากจะแน่ใจว่าองค์จักรพรรดิเสด็จสวรรคตแล้วจริง ๆ“ข้าเองก็คาดมิถึง ก่อนหน้านี้เขาบอกว่าเจ็บหน้าอก ขันทีเซี่ยก็ไปรายงานข้าแล้ว ทั้งยังบอกกับถังถีเตี่ยนด้วย...”“ไหนเลยจะคาดคิดว่าอาการป่วยจะมากะทันหันเช่นนี้...”“ข้ายอมตายเองเสียดีกว่าให้เกิดอะไรขึ้นกับองค์จักรพรรดิ!”ไทเฮาเช็ดน้ำตา จากนั้นก็ร้องไห้ออกมา“ลูกสะใภ้ ตัวข้าขอแสดงความเสียใจด้วย… ไม่มีองค์จักรพรรดิแล้ว ต้องให้เจ้าดูแลจัดการพระราชพิธีพระบรมศพ เจ้าจะเจ็บป่วยมิได้เด็ดขาด!”ท่านอ๋องเฉิงลูบไหล่ของไทเฮาเบา ๆ และปลอบโยนพระชายาเส้าคุกเข่าอยู่หน้าเตียงมังกรพลางเช็ดน้ำตา แล้วก็ได้เห็นชัดเจนว่า องค์จักรพรรดิอู่อันเสด็จสวรรคตแล้วจริง ๆนางมองท่าทีสงบนิ่งของจักรพรรดิอู่อันอย่างเหม่อลอย มิอาจเชื่อได้จริง ๆ ว่าคนที่แข็งแกร่งจะด่วนจากไปโดยมิแม้แต่จะได้บอกลากันเช่นนี้!เมื่อนึกถึงช่วงเวลาที่ได้ใช้กับเขา พระชายาเส้าก็มิอาจพูดได้แน่ชัดว่าตนมีความรู้สึกต่อเขาเช่นไร เมื่อก่อนมีความชื่นชมและความเคารพ...แต่ความรักใคร่เหล่านี้เมื่อม
ไทเฮาเอ่ยเสียงแข็ง “องค์จักรพรรดิเสวยพระกระยาหารเย็นด้วยกันกับข้า! และข้าก็เป็นคนส่งน้ำแกงให้พระองค์เอง!”“หลังจากกลับมาข้าเห็นว่าช่วงนี้พระองค์ทรงเหนื่อยมากจึงให้แม่นมเว่ยส่งนำแกงโสมไปให้!”“นอกจากสิ่งที่ข้าส่งไปให้แล้วพระองค์ก็มิได้เสวยสิ่งใดเลย! เช่นนั้นแล้วจะมีผู้ใดที่สามารถวางยาพิษพระองค์ได้อีกนอกจากข้าเล่า?”จ้าวฮุยคุกเข่าลงกับพื้นเสียงดังพลางเอ่ย “ไทเฮา กระหม่อมไหนเลยจะกล้าสงสัยไทเฮาพ่ะย่ะค่ะ!”“กระหม่อมรู้สึกว่า องค์จักรพรรดิทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงมาโดยตลอด จู่ ๆ จะมาเสด็จจากไปกะทันหันเช่นนี้ได้อย่างไร นอกเสียจากว่าจะมีคนวางยาพิษพระองค์พ่ะย่ะค่ะ!”ไทเฮายืนขึ้นอย่างกรุ่นโกรธพลางจ้องมองจ้าวฮุย“องค์จักรพรรดิทรงมีพระพลานามัยรึ? ขันทีเซี่ย เจ้ามาบอกจ้าวฮุยทีว่าช่วงนี้พระวรกายขององค์จักรพรรดิเป็นเช่นไร”ขันทีเซี่ยจึงก้าวออกมา จากนั้นก็คุกเข่าลงพลางเอ่ยเสียงสะอื้น “นับตั้งแต่ที่องค์ชายเว่ยก่อกบฏ องค์จักรพรรดิก็ได้รับบาดเจ็บเสียเลือดไปมาก แม้ว่าพระชายาอ๋องอี้จะจัดตำรับพระโอสถบำรุงให้มากมาย แต่องค์จักรพรรดิก็มักจะมิอาจข่มพระเนตรบรรทมในยามค่ำคืนได้เลย!”“บางครั้ง… บางครั้งในหนึ่
หลิงอวี๋ก้มหน้าลงเงียบ ๆ มีหลี่ว์เซียงคอยจับตาดูอัครเสนาบดีจ้าวอยู่ จ้าวฮุยคงมิสามารถเอาหลักฐานที่ไร้เหตุผลมาจัดการตนได้หรอก! ไทเฮาใช้การถอยเพื่อก้าวไปข้างหน้ามาปกป้องตน“ไทเฮา ไปหารือกันที่โถงด้านข้างเถิด! อย่าได้รบกวนความสงบขององค์จักรพรรดิเลยพ่ะย่ะค่ะ!”อัครเสนาบดีจ้าวมิสามารถตรวจสอบอะไรได้ในทันที จึงทำได้เพียงก้าวไปประคองไทเฮา และไปที่โถงด้านข้างพร้อมกับท่านอ๋องเฉิงหลี่ว์เซียงเดินตามออกไปเงียบ ๆ เมื่อเห็นว่าขุนนางว่าการล้วนมาถึงกันแล้วก็เรียกทุกคนไปที่โถงด้านข้างแคว้นมิอาจขาดผู้ตัดสินใจไปได้สักวัน! ตอนนี้ข่าวการเสด็จสวรรคตของจักรพรรดิอู่อันต้องแพร่ออกไปทั่วแล้วแน่นอน จะต้องทำการยืนยันตัวเลือกจักรพรรดิองค์ใหม่ก่อนฟ้าสางองค์ชายคังกับจ้าวเจินเจินเปลี่ยนเป็นชุดขาวแล้วรีบมา องค์ชายคังเห็นพวกของหลี่ว์เซียงตรงไปทางโถงด้านข้างก็เดินตามเข้าไปโดยที่มิแม้แต่จะสนใจดูหน้าจักรพรรดิอู่อันเป็นครั้งสุดท้ายด้วยซ้ำเขาต้องควบคุมชะตากรรมของตนเป็นอย่างแรก!เขาต่อสู้มายาวนานถึงเพียงนี้ นี่คือครั้งแรกที่ได้เข้าใกล้ตำแหน่งมังกรมากที่สุด เขาไม่มีทางให้เซียวหลินเทียนแย่งไปได้ง่าย ๆ อย่างแน่นอน